Share

สุดชีวาชะตาลิขิต
สุดชีวาชะตาลิขิต
Author: เอเวอร์กรีน ฉิน

บทที่ 1

Author: เอเวอร์กรีน ฉิน
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
ในช่วงยามราตรีของเมือง แคลิฟอร์เนีย ณ คฤหาสน์ แอสเส็กซ์ นั้นเต็มไปด้วยแสงสีเจิดจ้าและเสียงรื่นเริง

ในวันนี้นั้นเป็นวันเกิดของคุณนายแคลร์แห่งตระกูลแอสเส็กซ์ แม้ว่าเธอนั้นจะมีอายุมากแล้วก็ตาม แต่เธอก็ยังคงเป็นแบบอย่างของความสง่างามและดูดีมีตระกูล ที่น่าทึ่งไปกว่านั้นก็คือ ความสง่างามและดูดีมีตระกูลของเธอนั้นได้ถูกถ่ายทอดไปถึงลูกสาวทั้งสองคนของเธอ หนึ่งในนั้นถือว่าสวยสง่างามที่สุดในแคลิฟอร์เนีย และอีกคนก็ถือว่าสวยที่สุดในวิทยาลัยของเธอเลยก็ว่าได้ ผู้ชายจำนวนนับไม่ถ้วนที่ตกเป็นทาสแห่งความงามของพวกเธอ พวกเขาจึงได้ฉวยโอกาสนี้ไว้และมาร่วมอวยพรวันเกิดให้กับคุณนายแคลร์ในวันนี้

“คุณนายแคลร์ครับ ของขวัญสำหรับคุณครับ นี่คือไข่มุกแห่งทะเลตะวันออก การสวมใส่สิ่งนี้มันจะช่วยขับผิวพรรณของคุณให้ดูผุดผ่องมากยิ่งขึ้น สุขสันต์วันเกิดนะครับ!"

“คุณนายครับ ส่วนของผมเป็นคฑาหยกคู่ ผมขออวยพรให้คุณดูอ่อนเยาว์เช่นนี้ไปชั่วนิรันดร์และขอให้ความปรารถนาของคุณเป็นจริงทุกประการนะครับ”

เมื่อของขวัญต่าง ๆ มากมายถูกนำเสนอให้กับเธอทีละชิ้น ๆ ใบหน้าของคุณนายแคลร์ก็ไม่สามารถซ่อนเร้นความปิติยินดีของเธอได้ เธอรู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก

แต่แล้วสิ่งผิดปกติก็เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด ชายหนุ่มสวมกางเกงยีนส์ขาด ๆ เดินเข้ามาในงานด้วยท่าทางเป็นทุกข์ เขาพูดกับคุณนายแคลร์ว่า “คุณแม่ครับ แม่ของผมป่วยหนัก และต้องการการดูแลรักษาเร่งด่วน ผมขอยืมเงินสักครึ่งล้านดอลลาร์ก่อนได้ไหมครับ?”

ทุกคนในงานต่างก็ตกตะลึงและจ้องมองไปที่ชายหนุ่มคนนั้น ความรังเกียจบนใบหน้าของพวกเขาปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน เขามีความกล้ามาก ๆ ที่ไม่เพียงแต่จะมางานด้วยมือเปล่าเท่านั้น แต่เขายังมีหน้ามาขอเงินครึ่งล้านดอลลาร์จากเจ้าของวันเกิดอีกด้วย เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ?

มีเสียงจอแจเบา ๆ ในฝูงชนที่ต่างเอ่ยถามว่า “คน ๆ นี้เป็นใครเหรอ?”

ชายในชุดสูทสุดเนี๊ยบพูดขึ้นด้วยท่าทางสุดเย่อหยิ่งว่า “จะเป็นใครไปได้อีก? เขาคือ อเล็กซ์ ร็อคกี้เฟลเลอร์ ลูกเขยของตระกูลแอสเส็กซ์ เป็นสามีที่ไร้ประโยชน์ของคุณหนูโดโรธียังไงล่ะ! เขาเป็นเพียงสามีแค่ในนามเท่านั้นแหละ คุณหนูโดโรธียังคงเป็นสาวพรหมจารี ไม่อย่างนั้นก็คงจะไม่มีพวกเราคนไหนได้อยู่ที่นี่ในวันนี้หรอก!”

ในงานเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเมื่อเขาพูดจบประโยค

หญิงสาวสุดสวยที่นั่งอยู่บนโซฟามองอเล็กซ์อย่างผิดหวัง คุณหนูโดโรธี แอสเส็กซ์ เธอเป็นภรรยาของอเล็กซ์ พวกเขาแต่งงานกันมาเกือบปีแล้ว แต่สถานะของอเล็กซ์ในครอบครัวนั้นแย่ยิ่งกว่าการเป็นพี่เลี้ยงในบ้านเสียอีก เขาไม่แม้แต่จะได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้องของภรรยาของเขาเองเสียด้วยซ้ำ

หนึ่งปีที่แล้วในวันแต่งงาน พ่อและแม่ของอเล็กซ์ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ วิลเลียม ร็อคกี้เฟลเลอร์ พ่อของเขาเสียชีวิตทันที ส่วนแม่ของเขาอยู่ในอาการโคม่ามาตั้งแต่วันนั้นจนถึงตอนนี้ และที่เลวร้ายยิ่งไปกว่านั้น พ่อของเขาถูกใส่ร้ายว่าทำได้การทุจริตบริษัท จึงทำให้บริษัทของเขารวมทั้งทรัพย์สินทั้งหมดของเขาถูกยึด อเล็กซ์ถูกไล่ออกจากบ้านร็อคกี้เฟลเลอร์ ชายคนหนึ่งซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกปฏิบัติราวกับเป็นเจ้าชาย กลับกลายเป็นไม่มีไม่เหลือใครในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน แม่ยายที่รักเพียงแค่เงินของเขาก็ย่อมดูถูกดูแคลนเขาจนสุดหัวใจเป็นธรรมดา

เพื่อที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับแม่ของเขา เขาจึงต้องขายบ้านหลังเดียวที่เขามีอยู่ภายใต้ความเป็นเจ้าของที่ถูกต้องตามกฎหมายไป แต่ก็ยังไม่เข้าใกล้ความเป็นจริงพอที่จะจ่ายสำหรับค่าธรรมเนียมที่สูงลิบลิ่ว ที่เกิดขึ้นจากการรักษาแม่ของเขา เขาเพิ่งได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลว่าเขาต้องใช้เงินครึ่งล้านดอลลาร์เพื่อที่จะให้แม่ของเขาเข้ารับการผ่าตัดจากสถานการณ์อาการวิกฤตอย่างเร่งด่วน ไม่เช่นนั้นแม่ของเขาจะเหลือเวลาอีกเพียงแค่สามวันเท่านั้น อเล็กซ์หมดสิ้นหนทาง เขาไม่มีทางเลือกอื่นเลยนอกจากมาขอความช่วยเหลือจากครอบครัวแอสเส็กซ์

เมื่อมองดูการกระทำราวกับขอทานพร้อมกับท่าทางสุดสิ้นหวังของอเล็กซ์ มันทำให้คุณนายแคลร์รู้สึกอับอายต่อหน้าแขกในงานวันเกิดของเธอ ใบหน้าของคุณนายแคลร์พลันเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ เธอหยิบเค้กวันเกิดของเธอมาชิ้นหนึ่งก่อนที่จะปามันใส่อเล็กซ์แล้วพูดว่า “แกนี่มันน่าขยะแขยงเสียจริง ๆ สิ่งเดียวที่แกคิดได้คือต้องขอเงินจากเราทุก ๆ วัน แกคิดว่าเงินของพวกเรามันเติบโตบนต้นไม้หรืออย่างไร? มันไม่เพียงพออีกหรือที่เราให้ค่าจ้างเดือนละหมื่นดอลลาร์กับแกในทุก ๆ เดือนน่ะฮะ? แกกล้ามาที่นี่เพื่อที่จะขอเงินครึ่งล้านเชียวหรือ ค่ารักษาพยาบาลแม่ของแกก็ไม่ต่างจากหลุมดำหรอก มันไม่มีที่สิ้นสุดเสียที ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดแล้ว แค่เตรียมงานศพของเธอให้พร้อมก็พอ!”

อเล็กซ์คลายมือที่กำไว้แน่นทันที

ในที่สุด คุณหนูโดโรธีก็ลุกขึ้นยื่นทิชชู่ให้อเล็กซ์ จากนั้นเธอก็พูดว่า “คุณแม่ คุณควรที่จะสุภาพมากกว่านี้ ไม่จำเป็นต้องเกรี้ยวกราดนะคะ”

ในเวลาเดียวกัน เบียทริซ น้องสาวของโดโรธีก็พูดขึ้นอย่างเยาะเย้ยว่า “พี่สาว ทำไมพี่ยังคงปกป้องขยะชิ้นนี้อยู่อีกล่ะ? ดูเขาสิ เขาเคยหยิบยื่นเงินแม้แต่สตางค์เดียวให้เราบ้างไหม ตั้งแต่เขาเข้ามาในครอบครัวของเรา? เขาเคยให้ของขวัญฉันและคุณแม่บ้างไหม? ไม่เลย! เขาจะทำอะไรได้อีก นอกจากเอาแต่ขอเงินจากครอบครัวของพวกเรา? ฉันคิดว่าพี่ควรทิ้งเขาให้เร็วที่สุด มีชายหนุ่มที่มีความสามารถและมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับพี่มากมายที่นี่ในงานนี้ หนึ่งในพวกเขาดีกว่าไอ้คนนี้พันเท่าแน่นอน”

เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของคุณหนูเบียทริซ แอสเส็กซ์ ชายหนุ่มในงานทุกคนก็แทบอดรนทนรอไม่ได้

"ผมเห็นด้วย! การแต่งงานกับคนขี้แพ้คนนี้ มันช่างเป็นเรื่องที่โชคร้ายซะจริง ๆ สำหรับคุณหนูโดโรธี มันจะเป็นการดีกว่ามาก ที่คุณจะหย่าอย่างเร็วที่สุด!” ชายหนุ่มคนหนึ่งกล่าว “ผมยินดีที่จะแต่งงานกับคุณหนูโดโรธีทันที ผมจะให้สินสอดทองหมั้นเป็นคฤหาสน์สุดหรูหราในย่านธุรกิจอย่าง เบเวอร์ลี ฮิลส์ ที่มีมูลค่ามากกว่าสามสิบล้านดอลลาร์ และผมจะให้อีกยี่สิบล้านดอลลาร์เป็นเงินสดอีกด้วย”

คนอื่น ๆ ต่างแย่งกันตะโกน และมีหนึ่งในนั้นตะโกนออกมาทันทีว่า “คฤหาสน์สามสิบล้านดอลลาร์ใน เบเวอร์ลี่ ฮิลส์ หรือ? นั่นจะต้องเป็นบ้านที่ถูกที่สุดในละแวกนี้! ผมยินดีที่จะให้คฤหาสน์มูลค่าแปดสิบล้านใน เบเวอร์ลี ฮิลส์ ถ้าคุณแต่งงานกับผม คุณหนูโดโรธี!”

มีอีกคนตะโกนขึ้นมาว่า “ผมด้วย ผม ผม! ตราบใดที่คุณหนูโดโรธีแต่งงานกับผม ทรัพย์สินหลายพันล้านของครอบครัวโจนส์จะตกเป็นของคุณทันที”

ใบหน้าของอเล็กซ์ซีดลงด้วยความอัปยศอดสู ใบหน้าของโดโรธีก็ซีดด้วยเช่นเดียวกัน เธอรู้สึกหดหู่ใจเพราะคำพูดที่แม่ของเธอกำลังจะพูดต่อไป

คุณนายแคลร์รู้สึกยินดีที่ได้เห็นทุกคนเสนอสินสอดทองหมั้นที่สูงส่งสำหรับลูกสาวของเธอในการแต่งงาน และกล่าวว่า “สุภาพบุรุษทั้งหลาย โปรดนั่งลงก่อนเถอะ และฟังสิ่งที่ฉันจะพูด ความจริงก็คือ ลูกสาวของฉัน โดโรธีเพิ่งประสบปัญหาและบังเอิญไปเจอคุณแกสตัน เกตส์ แห่งบริษัท เธาซันด์ คอร์ปอเรชั่น คุณแกสตันขู่ว่าจะกำจัดบริษัท แอสเส็กซ์ ก่อสร้าง หนึ่งในบริษัทในเครือของเรา ใครก็ตามที่เต็มใจและสามารถช่วยโดโรธีออกจากความยุ่งเหยิงนี้ได้ คุณจะมีสิทธิพิเศษจากฉัน สำหรับการแต่งงานกับลูกสาวสุดสวยคนนี้ของฉัน”

เธอไม่ได้พูดถึงว่าแกสตันได้มาขอสัมพันธไมตรีกับคุณหนูโดโรธี ถ้าปฎิเสธเขาจะจัดการกำจัดครอบครัวแอสเส็กซ์คออกจากเมืองนี้

อเล็กซ์เต็มไปด้วยความโกรธเคือง และพูดออกมาเสียงดัง “ผมไม่เห็นด้วย โดโรธีเป็นภรรยาของผม…”

คุณนายแคลร์ตบหน้าอเล็กซ์และพูดว่า “ใครเป็นภรรยาของแก? นี่ไม่เจียมตัวบ้างเลยหรือไงกัน แกไม่มีอะไรเลย ไม่ใช่เหรอ? เพราะฉะนั้นแกไม่มีสิทธิ์ที่จะพูด”

เธอเอ่ยถามอีกว่า “ท่านสุภาพบุรุษทั้งหลาย พวกท่านว่าอย่างไรบ้างคะ?” หลังจากได้ยินคำขู่ของแกสตัน เกตส์ ทุกคนที่แย่งชิงจะแต่งงานกับคุณหนูโดโรธีก็เปลี่ยนทัศนคติของพวกเขาไปในทันที และไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำกลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ เป็นบริษัทชั้นนำในแคลิฟอร์เนีย ทรัพย์สินของพวกเขามีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ คำพูดเดียวจากตระกูลเกตส์สามารถทำให้โลกสั่นสะเทือนได้ สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือข้อเท็จจริงที่ว่า เล็กซ์ กันเธอร์ เจ้าของกลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ หรือที่รู้จักกันดีในในนามของเขาท่านเล็กซ์ เขามีอิทธิพลมาก ๆ ที่เมือง ดอน แห่งแคลิฟอร์เนีย ไม่มีใครบ้าพอที่จะกล้าเป็นศัตรูกับพวกเขาเพียงเพื่อการแต่งงานกับคุณหนูโดโรธีแน่ ๆ

เมื่อเห็นว่าความเงียบเกิดขึ้น หัวใจของคุณนายแคลร์ก็หล่นวูบและเต็มไปด้วยความกระสับกระส่าย

ทันใดนั้น ก็มีชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า “เอาล่ะ ฉันจะจัดการเรื่องนี้กับกลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ เอง และเมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันจะแต่งงานกับคุณหนูโดโรธีทันที”

ทุกคนหันไปตามเสียงนั้น และทุกสายตาก็จับจ้องไปที่ชายหนุ่มที่สวมชุดสุดหรูจากแบรนด์ Giorgio Armani ที่อยู่ในท่าทางสบาย ๆ และกำลังเดินเข้าไปหาคุณนายแคลร์
Comments (1)
goodnovel comment avatar
ลมหนาววายุ เทพดาวเหนือปะทะดาวใต้
ลงเรื่องใหม่บ้าง
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 2

    “นายน้อยสปาร์ค!” คุณนายแคลร์รีบทักทายคนที่กำลังเดินเข้ามาทันทีทุกคนในงานต่างแสดงออกถึงความเคารพให้กับเขา เขาคือนายน้อยสปาร์ค ร็อคกี้เฟลเลอร์ ผู้อำนวยการหนุ่มของร็อคกี้เฟลเลอร์ กรุ๊ป แม้ว่าจะไม่ทราบมูลค่าจำนวนทรัพย์สินในครอบครองที่แท้จริง แต่คาดว่าความมั่งคั่งของร็อคกี้เฟลเลอร์ กรุ๊ป นั้นมีมูลค่ารวม ๆ แล้วมากถึงสามแสนล้านดอลลาร์แต่เมื่ออเล็กซ์เห็นชายคนนี้ เขาก็พุ่งเข้าไปหาชายคนดังกล่าวด้วยสายตาที่โกรธแค้นและคว้าคอเสื้อของเขาพร้อมกับตะโกนออกมาว่า “ไอ้สารเลว โดโรธีเป็นพี่สะใภ้ของนาย นายยังจะเรียกตัวเองว่ามนุษย์คนหนึ่งได้ยังไง? ในเมื่อนายต้องการที่จะแต่งงานกับพี่สะใภ้ของตัวเองน่ะฮะ”โชคชะตากำหนดให้สปาร์คเกิดมาเป็นลูกพี่ลูกน้องของอเล็กซ์ เขาเป็นลูกชายของลุงจอห์น ร็อกกี้เฟลเลอร์ อเล็กซ์นั้นเกลียดชังพวกเขาทั้งสองเป็นอย่างมาก เขานึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว หลังจากที่พ่อแม่ของเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ จอห์นคือคนที่ออกมาใส่ร้ายพ่อของเขาในข้อหาทุจริตฉ้อโกงร็อคกี้เฟลเลอร์ กรุ๊ป ที่พ่อแม่ของเขาก่อสร้างขึ้นมา และไล่อเล็กซ์ออกจาก คฤหาสน์ ร็อคกี้เฟลเลอร์ ซึ่งเป็นที่พักอา

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 3

    อเล็กซ์รู้สึกตกใจมาก หมื่นล้านดอลลาร์อย่างนั้นเชียวหรือ? ใครจะกล้าเล่นตลกแบบนี้กัน?ร็อคกี้เฟลเลอร์ กรุ๊ป แข็งแกร่งมากในช่วงรุ่งเรือง โดยมีมูลค่าตลาดกว่าสามแสนล้าน แต่ส่วนใหญ่เป็นสินทรัพย์ถาวร จากสิ่งที่เขารู้ แม้แต่พ่อของเขายังไม่มีเงินสดหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์ในธนาคารเลย แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น ชายชราอ้างว่าเขาทำงานให้กับวิลเลียม ร็อกกี้เฟลเลอร์ “คุณบอกว่าคุณทำงานให้พ่อของผมเหรอ? นั่นก็หมายความว่ากลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์…”ท่านเล็กซ์พยักหน้าและกล่าวว่า “ใช่ กลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ คือของคุณครับ นายท่านอเล็กซ์”เพี๊ยะ ๆ ! อเล็กซ์ถึงขั้นตบหน้าตัวเองท่านเล็กซ์พูดด้วยความประหลาดใจ “นายท่านอเล็กซ์ คุณกำลังทำอะไร?”อเล็กซ์ตอบกลับว่า “ผมคิดว่า ผมอาจจะฝันไปน่ะ”ท่านเล็กว์กล่าวต่ออีกว่า “ทั้งหมดนี้เป็นความจริง พ่อของคุณ คุณวิลเลียม ร็อคกี้เฟลเลอร์ ช่วยชีวิตผมไว้ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา ผมคงตายไปแล้ว ย้อนกลับไปตอนนั้น คุณร็อคกี้เฟลเลอร์คือผู้ก่อสร้างกลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ จากนั้นเขาก็ให้ฉันรับผิดชอบธุรกิจนี้”"ฮะ?" อเล็กซ์ตกตะลึง เขายังคงคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ความฝันเท่า

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 4

    อเล็กซ์ตกตะลึงเป็นอย่างมากเพราะเขาไม่คาดคิดว่าเธอจะปรากฏตัวที่นี่ "ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่?"คุณหนูโดโรธีมองไปที่โคลอี้จากนั้นเธอก็มองไปที่อเล็กซ์ เธอมองด้วยสายตาที่แสดงออกถึงความเศร้าโศกและพูดว่า “ฉันได้ฝากเงินจำนวณครึ่งล้านดอลลาร์ในบัญชีของคุณแล้ว นั่นคือทั้งหมดที่ฉันพอจะทำได้”อเล็กซ์รู้สึกประหลาดใจ “คุณไปเอาเงินนั้นมาจากไหน? คุณได้รับมันมาจากสปาร์คเหรอ? โดโรธี คุณไม่สามารถรับเงินนั้นได้นะ จะเกิดอะไรขึ้นกับเราหลังจากรับเงินของเขา? ยิ่งไปกว่านั้น ผมมีเงินมากกว่าที่คุณจะจินตนาการได้ ผมสามารถดูแลปัญหาของคุณได้ด้วยนะ”เพี๊ยะ!โดโรธีตบหน้าอเล็กซ์และพูดว่า “สิบเดือนของการได้แต่ฝันกลางวัน มันยังคงไม่เพียงพอสำหรับคุณหรือ? คุณช่วยหยุดเรื่องไร้สาระนี้ได้ไหม? ลืมมันไปเถอะและทำตามที่คุณต้องการ พรุ่งนี้เราจะแยกย้ายกันไป!”หลังจากที่เธอพูดจบ โดโรธีก็หันหลังกลับและออกจากโรงพยาบาลไปในทันทีอเล็กซ์พยายามไล่ตามเธอไป แต่ถูกโคลอี้ขวางไว้ เธอมีรอยยิ้มที่ชั่วร้ายบนใบหน้าของเธอ “โอ๊ย นี่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ? ทำไมลูกพี่ลูกน้องของคุณ นายน้อยสปาร์คถึงได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้? เป็นไปได้ไหมที่โดโรธี

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 5

    อเล็กซ์กลับไปที่วิลล่าของครอบครัวแอสเส็กซ์ด้วยสภาพที่ราวกับไร้วิญญาน ถึงแม้ว่าที่นี่จะถูกเรียกว่า วิลล่า แต่ที่นี่ก็เคยเป็นเพียงบ้านหลังเล็ก ๆ ธรรมดาทั่วไปเพียงเท่านั้น ก่อนที่จะรื้อถอนบ้านของครอบครัวเก่าออก แล้วอาคารสามชั้นนี่ก็ถูกสร้างขึ้นมาทดแทนบนที่ดินผืนนี้ แต่อย่างไรก็ตามมันก็ยังแตกต่างจากการที่จะเรียกว่าวิลล่าจริง ๆ ได้อเล็กซ์เงยหน้าขึ้นและเห็นว่าไฟในห้องของโดโรธียังคงเปิดอยู่ 'โดโรธีอยู่บ้านหรือเปล่านะ?' อเล็กซ์นึกสงสัยกับตัวเอง 'เธอไม่ได้อยู่กับสปาร์คหรอกหรอ?' ในช่วงเวลาที่เขาตระหนักได้ถึงความเป็นจริง ราวกับว่าหินก้อนโตได้ถูกยกออกจากอกของเขา เขาเห็นความหวังและตระหนักว่าคำพูดของคุณนายแคลร์นั้นมันไม่สามารถเชื่อถือได้ เธอเป็นคนหลอกลวง เธอชอบทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อเติมเต็มจินตนาการในหัวของเธอเองอเล็กซ์รีบวิ่งผ่านประตูเข้าไปในวิลล่า เขาเห็นคุณนายแคลร์อยุ่ในห้องนั่งเล่นเธอกำลังวีดิโอคอลหาใครบางคนอยุ่ขณะที่ทาเล็บนิ้วเท้าของตัวเองโดยการยกเท้าขึ้นไปในอากาศ เธอฮัมเพลงไปด้วยอย่างมีความสุขอเล็กซ์รู้สึกหนักใจเมื่อรู้ว่าคุณหญิงแคลร์นั้นดูตื่นเต้นมาก ๆ ที่ลูกสาวของตัวเองจะได้แต่งงานใหม่ เธอ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 6

    อเล็กซ์ส่ายหัวและเยาะเย้ย "โคลอี้ เธอไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะมาเลียเท้าของฉันหรอก โน่นเธอควรกลับบ้านไปเลียนิ้วเท้าของเจ้าอ้วนนี่ ไปซะ ถ้าเธอทำให้เขามีความสุขได้ เขาอาจจะซื้อขยะชิ้นเล็กชิ้นน้อยมูลค่าสองพันดอลลาร์มาให้เธอก็ได้นะ""แก..."ความโกรธของโคลอี้รุนแรงมาก เธอเหมือนระเบิดเวลาที่กำลังจะระเบิดออกมาในที่สุดคนอ้วนก็กล่าวเสริมโคลอี้ เพราะเขากำลังหว่านล้อมเธอให้ไปนอนกับเขา และอเล็กซ์ก็ทำให้เขารู้สึกอับอาย ชายอ้วนพูดขึ้นว่า "ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ช่วยดูสารรูปของตัวเองหน่อย แกคิดว่าแกจะมีปัญญาซื้อสร้อยคอที่ป้ายราคาสามสิบล้านเหรียญนี้ได้จริง ๆ เหรอ? อะไรนะ?! แกคิดว่าราคาแค่สามพันดอลลาร์เหรอ?"“แล้วถ้าผมมีเงินพอที่จะซื้อได้ล่ะ? คุณจะซื้อมันได้ไหม? คุณจะซื้อมันสักอันด้วยไหมล่ะ?” อเล็กซ์เอ่ยถามอเล็กซ์ตัดสินใจซื้อเครื่องประดับเส้นนั้นเขาเป็นหนี้คุณหนูโดโรธี แอสเส็กซ์ มามากมายในช่วงสิบเดือนที่ผ่านมานี้การซื้อสร้อยคอมูลค่าสามสิบล้านดอลลาร์นี้มันอาจจะทำให้เธอมีความสุข และมันคงจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับเธอสำหรับความสามารถในการปกป้องเธอของเขาชายอ้วนพูดอย่างโกรธเคือง “ไอ้งี่เง่าค

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 7

    แคสแซนดราตกใจมากขออภัย ไม่สามารถแสดงยอดคงเหลือของบัตรบนเครื่องนี้ได้“ไม่น่าเชื่อเลยว่าทำไมคุณเจฟเฟอร์สันถึงเคารพเขามาก ถึงขั้นที่บอกว่าเขาเป็น VIP สูงสุด ฉันไม่คิดว่าจะมีการ์ดสูงสุดในแอลจี บัลโฟร์?” ในใจของเธอนั้นเต็มไปด้วยคำถามดูเหมือนเธอจะไม่เข้าใจเหตุผล อเล็กซ์อาศัยอยู่กับครอบครัวแอสเส็กซ์และรับใช้ครอบครัวแอสเส็กซ์ราวกับเป็นคนใช้ ทำไมเขาถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้?ในอดีต อเล็กซ์เคยเทน้ำให้เธอล้างเท้าด้วยซ้ำ!โคลอี้ตะโกนว่า “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เครื่องต้องพังแน่ ๆ ขยะชิ้นนี้จะมีเงินสามสิบล้านดอลลาร์ได้อย่างไร? เขาไม่น่าจะสามารถถอนเงินได้ถึงสามพันดอลลาร์เสียด้วยซ้ำ! พวกคุณ ตรวจสอบธุรกรรมอีกครั้งสิ เร็วเข้า!"เจฟเฟอร์สันจ้องไปที่โคลอี้ “นี่คุณ คุณกำลังกลับคำพูดและผิดคำสัญญาของคุณอยู่หรือเปล่า? ที่นี่เป็นบริษัทย่อยของกลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ กล้าดียังไงถึงมาดุนายท่านอเล็กซ์? คุณกำลังขุดหลุมศพของคุณเอง! รปภ ตบเธอซะ!”กลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ มีอิทธิพลมากที่สุดต่อธุรกิจใต้ดินในแคลิฟอร์เนียแน่นอนว่า รปภ ของพวกเขานั้นต้องไม่ธรรมดาหลัง

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 8

    ขณะที่เขานอนอยู่บนเตียงของห้องเพรสซิเด้นเชียล สวีท ที่หรูหราที่สุดในโรงแรม เดอะ โกลเด้นเอท ออฟ ยูธ อเล็กซ์กลับนอนไม่หลับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้นั้นมันเกินคาดเขาไม่ได้คาดหวังว่าพ่อของเขาจะเก็บความลับที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ไว้ กลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ นั้นมีอำนาจมากที่สุดในใต้ดินแห่งแคลิฟอร์เนีย นั่นหมายความว่าพ่อของเขาเป็นหัวหน้าแก๊งใต้ดินที่แข็งแกร่งที่สุดด้วยเช่นกันหรือไม่?การตายของเขาเกิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์จริง ๆ หรือ?หรือว่ามันจะมีอะไรที่มากไปกว่าสิ่งที่เห็น?ในดึกดื่นเที่ยงคืน เมื่อเขากำลังหลับสนิทในที่สุด เขากลับถูกปลุกขึ้นด้วยเสียงโทรศัพท์ เขาลุกขึ้นและเร่งรีบไปที่โรงพยาบาลในที่สุด เมื่อเขาไปถึงโรงพยาบาล เขาก็เห็นแพทย์หลาย ๆ คนมารวมตัวกันที่เตียงของแม่เขา ในหมู่ของพวกเขามีคุณหมอเชอริล โคนีย์ แพทย์สาวสวยที่มีทรวดทรงสุดเซ็กซี่เป็นพิเศษอยู่ที่นั่นด้วยเขารู้สึกตกใจเป็นอย่างมากเขาคิดว่ามีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับแม่ของเขาเขารีบถาม “ดร. เชอริล แม่ของผมเป็นอย่างไรบ้าง? อาการของเธอแย่ลงหรือเปล่า?”คุรหมอเชอริลในชุดคลุมสีขาวและหน้ากากอนามัยหันกลับมาพูดว่า "อย่ากังวลไป

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 9

    เกิดความเงียบสงบขึ้น!ทุกคนในห้องอาหารส่วนตัวนั้นกำลังตกตะลึงแต่ไม่กี่วินาทีต่อมา เสียงหัวเราะก็ดังลั่นทำลายความเงียบสงบนั้นทุกคนหัวเราะมีเพียงโดโรธีเท่านั้นที่รู้สึกผิดหวังอย่างมากหลังจากการตกใจนั้นคุณนายแคลร์จึงพูดขึ้นว่า “แกสามารถซื้อสร้อยคอ รักแห่งเมืองปฏิหาริย์ มูลค่าสามสิบล้านดอลลาร์ได้จริง ๆ หรือ? เมื่อคืนนี้แกนอนข้างถนนหรือเปล่า? แกคงยังหลับอยู่ และยังคงฝันถึงมันอยู่ใช่ไหมล่ะฮะ? ถ้าแกสามารถซื้อสร้อยคอนี้ได้จริง ๆ ฉันจะแทะโต๊ะนี้เลย"อเล็กซ์ตอบกลับอย่างนิ่ง ๆ ว่า “คุณแม่ คุณไม่ต้องแทะโต๊ะนี้หรอก ฟันของคุณไม่แข็งแรงพอที่จะกัดมันได้”คุณนายแคลร์เลิกคิ้วและจ้องเขม็ง "คุณแม่หรอ? ใครคือแม่ของแก? แม่ของแกยังนอนพะงาบ ๆ ในโรงพยาบาลโน่น! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายน้อยสปาร์ค ร็อคกี้เฟลเลอร์ จะเป็นลูกเขยเพียงคนเดียวของฉัน และเขาเป็นคนเดียวที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ที่จะเรียกฉันว่าเป็นแม่ยาย แกต้องหย่ากับโดโรธีในตอนบ่ายนี้เลย”อเล็กซ์จ้องมองและกำหมัดแน่น“ทำไม? แกโกรธมากเลยเหรอ? ขยะอย่างแกกล้าดียังไงถึงมาเกรี้ยวกราดใส่ฉัน?” คุณนายแคลร์ชี้ไปที่หัวของเธอเอง “มานี่สิ ทุบหัวฉัน ถ้าแกกล

Latest chapter

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 200

    “คุณคิดว่าผมอยากรอจริง ๆ เหรอ? ค่าผ่าตัดอย่างน้อยก็ต้องหมดเกือบครึ่งล้าน อีกทั้ง ความเสี่ยงต่อการผ่าตัดก็สูงไม่น้อยเลยด้วย โอกาสรอดคือห้าสิบห้าต่อห้าสิบ ผมอาจจะตายระหว่างผ่าตัดก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะ? อีกอย่าง คุณเองก็รู้ว่าสภาพครอบครัวของผมเป็นยังไง ถ้ามีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นกับผม ทั้งแม่แล้วก็น้องสาวผมจะอยู่กันยังไง? แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความแล้ว ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ ผมมีพัสดุอีกเยอะต้องส่งตอนเที่ยงด้วย” เจ้าของร้านพลันถอนหายใจ พร้อมกับดวงตาเต็มซึ่งไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นโศกนาฏกรรมอีกเรื่องหนึ่ง “เดี๋ยวก่อน!” อเล็กซ์พูดขึ้น "นายเชื่อใจฉันไหมล่ะ?" ชายหนุ่มพลันนิ่งไปเกือบสามวินาที ทันใดนั้น เขาก็พลันเผยยิ้มและพยักหน้า "ฉันเชื่อ ในฐานะเพื่อนของคุณโยเวล คุณคงไม่มีเวลาว่างมาหลอกลวงคนต่ำต้อยอย่างผมหรอก” อเล็กซ์ยืนขึ้น “งั้นก็เชื่อใจฉัน แล้วฉันจะช่วยนายเอง” อเล็กซ์เดินเข้าไปและกางนิ้ว พร้อมกับวางนิ้วหนึ่งไว้เหนือขมับของชายหนุ่ม ตรงนั้นคือตำแหน่งของเนื้องอกซึ่งอยู่ใต้กะโหลกศีรษะของลุค ทันใดนั้น นิ้วของอเล็กซ์ก็ส่องประกายราวกับสีของหยก รา

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 199

    ในระหว่างนั้น ชายหนุ่มที่สำลักบะหมี่ก่อนหน้าก็หันกลับลงไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง "คุณหนูโยเวล... นักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย? จริงเหรอ?” ทันใดนั้นเอง ใครสักคนก็แอบหยิบโทรศัพท์ออกมาและค้นหาชื่อของนักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย ทว่า ทั้งรูปภาพและผลลัพธ์มากมายต่างก็ปรากฏขึ้นมา อันที่จริง มิเชลล์มักจะทำตัวเป็นเป้าสายตาของสาธารณะชน และไม่ได้พวกใจพวกปาปารัสซี่เท่าไหร่นัก อีกทั้ง คนในตระกูลโนเวลเองก็ไม่ได้สนใจในตัวมิเชลล์ด้วยเช่นกัน เธออยากจะเป็นอะไรก็เป็นไป ด้วยเหตุนั้น มันจึงเป็นเรื่องง่ายไม่น้อยเลยที่จะมองหาคนอย่างเธอ ไม่นานนัก ใครสักคนก็ตะโกนขึ้นมา... "มันเป็นความจริง! ทั้งหมดคือเรื่องจริง! เธอคนนี้คือคุณหนูโยเวลตัวจริงเสียงจริง คุณมิเชลล์ โยเวลยังไงล่ะ!” “ใช่แล้ว! ยังไงก็เถอะ คุณหนูโยเวลอุตส่าห์มากินสตูว์ถึงที่ร้านทั้งที ฉัน... ฉันชักอยากจะขอเธอถ่ายรูปหน่อยแล้วสิ” “นายตาบอดหรือยังไงกัน? ดูเธอสิ เธอกำลังโกรธอยู่นะ ทำไมถึงอยากเข้าไปขอเธอถ่ายรูปตอนนี้กันล่ะ?” หลังจากที่ชายคนนั้นตบตัวเองไปมากกว่าสิบครั้ง แจ็คก็พูดขึ้น "รู้จักผมด้วยงั้นเหรอ?" ชายคนนั้นพยักหน้า แจ็คถามขึ้นอีก

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 198

    อันที่จริง อเล็กซ์ต้องการที่จะรักษาแจ็คก็เพราะเขาช่วยตนในเรื่องเอกสาร ทันใดนั้น อเล็กซ์เผยยิ้มและกล่าวคำพูดออกมา “คุณเทรนต์ครับ การช่วยชีวิตใครสักคนอาจต้องใช้โชคชะตา แต่ถ้ามีกำลังสงสัยอะไรอยู่ ก็ไม่เป็นไรครับ คุณสามารถไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลได้ตลอดเวลาเลย แต่ยังไงเสีย คุณคงต้องรีบหน่อยแล้วแหละ เพราะนิ่วในไตของคุณตอนนี้อยู่ในตำแหน่งที่แย่มาก คุณอาจะติดเชื้อได้เลยล่ะ" ทว่า ทุกคนก็พลันหัวเราะออกมาอีกครั้ง 'นายไม่ได้ใช้เครื่องอัลตราซาวนด์หรือเครื่องเอ็กซ์เรย์เลยด้วยซ้ำ อีกทั้ง ชีพจรก็ไม่ได้ตรวจ นายจะรู้ได้ยังไงกันว่านิ่วในไตนั้นอยู่ในตำแหน่งดีหรือร้าย? นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์หรือยังไงกัน?' สำหรับคราวนี้ มิเชลล์เองก็พลันเบิกตากว้างเช่นกัน เธอเอาแขนพาดหน้าอกด้วยความสงสัย “อเล็กซ์ นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์ด้วยงั้นเหรอ?” อเล็กซ์ไม่สนใจเธอเลย ทว่า ไม่นานนัก แจ็คก็พูดขึ้น "คุณร็อคกี้เฟลเลอร์ครับ ผมเชื่อใจคุณ” ยังไงเสีย อเล็กซ์เองก็ไม่ได้จะใช้มีดผ่าตัดอยู่แล้ว ดังนั้น แจ็คจึงรู้สึกว่ามันก็คุ้มที่จะลอง อเล็กซ์ไม่พูดอะไรต่อ ไม่นานนัก เขาก็วางมือเอาไว้บนแผล พร้อมกับสอดพลังฉีเข้าไปในร่างกายของ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 197

    ผู้หญิงที่พูดขึ้นนั้นนั่งอยู่ข้างหลังอเล็กซ์ ดูเหมือนว่าเธอจะอายุราวสามสิบปีแล้ว ผู้หญิงคนนั้นได้ยินการสนทนาของพวกเขาตั้งแต่เข้ามานั่งใกล้ ๆ แล้ว ผู้หญิงคนนั้นนั่งฟังพวกเขาตั้งแต่ตอนที่มิเชลล์บอกว่าเธอจะจับพริสซิลล่ามาอยู่บนเตียงของอเล็กซ์ ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกดูถูกเหยียดหยามทั้งสองอย่างถึงที่สุด อันที่จริง เธออยากจะเรียกตำรวจมาจับพวกเขาด้วยซ้ำ แต่ทว่า เธอก็รู้สึกโล่งใจที่อเล็กซ์ปฏิเสธข้อเสนอไป ต่อมา เธอก็ได้ยินทั้งสองพูดถึงบริษัทเธาซันด์ลีฟ เธอได้ยินมิเชลล์พูดว่าตัวเองนั้นสามารถขอใบอนุญาตได้เลยเพียงแค่เอ่ยวาจา และทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็แทบจะพ่นสตูว์เนื้อรสเผ็ดออกมาทางปาก อันที่จริง เธอเองก็เพิ่งรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทเธาซันด์ลีฟ สามีของเธอขายวัสดุก่อสร้างอยู่ที่นั่น แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายรายย่อยที่ทำงานภายใต้แฟรนไชส์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่เธอก็รู้ดีว่าเจ้าของบริษัทเธาซันด์ลีฟก็คือตระกูลโยเวล ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย อีกทั้ง บริษัทยังได้รับการโฆษณาเป็นอย่างดีอีกด้วย ทว่า สามีของเธอก็ได้แจกจ่ายวัสดุก่อสร้างอยู่ตั้งหลายร

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 196

    อันที่จริง เบียทริซเองก็กลัวว่าตัวเองจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดในมหาวิทยาลัยได้หากจะต้องเปิดโปงพวกเขาทั้งสอง ทันทีที่ทั้งคู่มาถึงลานจอดรถ อเล็กซ์ก็ตระหนักได้ว่ามิเชลล์นั้นซื้อรถสปอร์ตสุดหรูแอสตันมาร์ตินสีแดงให้กับตน โครงสร้างสุดเท่ของรถสปอร์ตคนนี้ค่อนข้างทันสมัย ​​แต่มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ขับผ่านถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่ออย่างแน่นอน “โทษทีนะ พอดีฉันหารุ่น M8 ที่นายต้องการไม่ได้เลยน่ะ ตอนนี้ไม่มีรุ่นนั้นเหลืออยู่ในแคลิฟอร์เนียเลยด้วย ยังไงก็เถอะ นายก็ใช้คันนี้พลาง ๆ ไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวถ้าของเข้าแล้ว ฉันจะไปซื้อรุ่น M8 มาคืนให้” 'ดูเธอสิ ช่างมีน้ำใจเหลือเกิน' เธอสามารถซื้อรถหรูราคาหลายแสนได้ราวกับว่าซื้อลูกโป่ง “ก็ได้!” อเล็กซ์ไม่เรื่องมากกับเรื่องรถยนต์อยู่แล้ว ทั้งสองเดินทางไปยังร้านอาหารสตูว์รสจัดจ้าน มิเชลล์นึกประหลาดใจ “นายอยากทำกับฉันแบบนี้จริง ๆ เหรอ?” อเล็กซ์ตอบกลับ “ตอนแรกฉันจะรักษาพริสซิลล่า แต่เธอดันกลับบ้านไปก่อน ยังไงเสีย ตอนนี้เรามาสั่งอะไรง่ายๆ กินกันดีกว่า” “นี่นายกำลังพยายามตามจีบพริสซิลล่าอยู่หรือเปล่าเนี่ย? อันที่จริง ฉันช่วยนายได้นะรู้ไหม? ฉันทำให้เธ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 195

    “ดาวมหาลัยชนชั้นกลาง... เบียทริซ แอสเส็กซ์งั้นเหรอ?” “เธอคือ...” ทั้งแอนนาลิสและพริสซิลล่าต่างก็จ้องไปที่เบียทริซอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง หลังจากนั้น พวกเขาก็หันไปหาอเล็กซ์ จากท่าทีของทั้งสอง พวกเขาต่างก็รับรู้มาว่าอเล็กซ์เป็นแฟนของมิเชลล์ ไม่อย่างนั้น ทั้งสองจะรู้จักและจูบกันได้ยังไงล่ะ? ในตอนนี้ พวกเขาต่างก็คิดว่ามิเชลล์คงจะต้องตะคอกและทุบตีอเล็กซ์อย่างแน่นอน แม้แต่เบียทริซเองก็คิดเช่นนั้น เบียทริซเรียกอเล็กซ์ว่าพี่เขยก็เพื่อเปิดเผยตัวตนของเขาเอง อีกทั้ง เบียทริซเองก็ต้องการบอกกล่าวให้มิเชลล์รับรู้ว่าว่าอเล็กซ์เป็นชายที่แต่งงานแล้ว และแน่นอน เบียทริซในตอนนี้กำลังเล่นกับความรู้สึกของมิเชลล์อยู่ จากที่เบียทริซรู้เรื่องราวของมิเชลล์มา มิเชลล์จะต้องโมโหและทำร้ายอเล็กซ์อย่างแน่นอน แต่ทว่า กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย มิเชลล์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่นานนัก เธอก็กล่าวคำพูดขึ้น “เบียทริซ แอสเซ็กซ์ เธอเป็นน้องสะใภ้ของอเล็กซ์หรือยังไงกัน? เธอน่าจะบอกให้เร็วกว่านี้นะ! ยังไงก็เถอะ ถ้ามีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเธอ ก็เอ่ยชื่อของฉันออกไปได้เลย แล้วฉันจะมาปกป้องเธอเอง!” "อะไรก

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 194

    สตีเวนเผยยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมกับคำรามออกมา เขาปลุกพละกำลังภายในที่น่ากลัวและชั่วร้ายออกมาอย่างฉับพลัน พร้อมกับแสงสีแดงที่กะพริบระยิบระยับในดวงตา ระหว่างที่มิเชลล์กำลังจะฟาดฝ่ามือลงไปที่สตีเวน เขาก็พลันตอบโต้การโจมตีด้วยฝ่ามือของตัวเองเช่นกัน ตู้ม! เสียงระเบิดดังก้องกังวานไปทั่วห้องโถง สตีเวนเองก็ได้เก็บซ่อนพลังพิเศษไว้ที่ในฝ่ามือของตัวเอง พลังนั้นพุ่งทะลุผ่านฝ่ามือของมิเชลล์ไป มันเป็นทักษะอันทรงพลังในฐานะจ้าวแห่งเงามรณะเลยก็ว่าได้ หรือเรียกอีกอย่างว่าทักษะแห่งการล่อลวง เพราะเหตุนั้น สตีเวนจึงไม่สนใจการโจมตีมิเชลล์มากนัก เพราะเขารู้ว่าท้ายที่สุดแล้วตนจะต้องชนะอย่างแน่นอน ในตอนนั้นเอง เขาพลันดีดนิ้วและกล่าวคำพูดขึ้นมา “หยุด!” ทว่า ทักษะแห่งชัยชนะทั้งหมดของสตีเวนกลับไม่มีผลอะไรเลยในวันนี้ มิเชลล์พุ่งเข้าใส่สตีเวนด้วยการเคลื่อนไหวที่รุนแรงและเฉียบแหลม เธอยกขาขึ้นแล้วกระแทกไปยังศีรษะของสตีเวนอย่างแรง "อะไรกัน?" อึก! สตีเวนล้มลงไปนอนกับพื้น เขาพลันกลอกตาไปมาและรู้สึกเหมือนจะเป็นลม ทันทีที่สติเริ่มจางหาย ความคิดสุดท้ายของสตีเวนก็พลันปรากฏขึ้นมาในหัว “มันจะเป็นไปได้ยังไง

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 193

    ตุ๊บ! ท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครมของฝูงชน มิเชลล์ก็กระโดดข้ามราวขึ้นไปบนเวทีประลอง ระหว่างที่มิเชลล์ขึ้นไปยืนบนเวทีประลอง หน้าอกขนาดมหึมาของเธอก็พลันกระเพื่อมขึ้นลงไม่หยุด ทุกคนต่างตกตะลึงและเบิกตากว้าง โดยเฉพาะเหล่านักเรียนชาย พวกเขาต่างก็ยิ่งอิจฉาอเล็กซ์มากกว่าเดิมทันทีที่เห็นเช่นนั้น มิเชลล์รีบคว้าตัวพริสซิลล่าและลากเธอมาหลบอยู่ด้านหลัง มิเชลล์จ้องไปยังชายวัยกลางคนจอมหยิ่งผยองและกล่าวคำพูดขึ้น “ฉันจะเป็นคู่ต่อสู้ของนายเอง!” พริสซิลล่าในตอนนี้ไม่กล้าที่จะอยู่บนเวทีอีกต่อไปแล้ว ด้วยเหตุนั้น เธอจึงรีบวิ่งออกไปจากลานประลอง พร้อมกับกุมมือตัวเองด้วยความหวาดกลัว อเล็กซ์ตบไหล่ของพริสซิลล่าและเผยยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น “เธอทำดีมาก ฉันบอกแล้วว่าเธอต้องชนะ” “ฉัน... ฉันชนะการประลองจริง ๆ เหรอ?” “...” หลายต่อหลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เริ่มจ้องมองไปที่พริสซิลล่าและกลอกตา แอนนาลิสเองก็ขมวดคิ้วและจ้องไปยังพริสซิลล่าเช่นกัน เธอไม่เข้าใจความสามารถที่ระเบิดออกมาอย่างกะทันหันของพริสซิลล่าเลยแม้แต่น้อย หลังจากนั้น เธอก็คิดเองเออเองว่าเทรเวอร์น่าจะใช้พลังของตัวเองมากเกินไป แอนนาลิสคิดหาวิธีอื่

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 192

    “พูดบ้าอะไรของเธอกัน?!” ระหว่างกำลังคิดว่านี่คงเป็นแผนของชมรมซาตานที่ต้องการส่งใครสักคนขึ้นมาบนเวทีประลอง เทรเวอร์ก็รู้สึกโกรธไม่น้อย ทันใดนั้น เทรเวอร์ก็พุ่งเข้าไปหาพริสซิลล่าและฟาดฝ่ามือใส่เธอ เทรเวอร์ต้องการสยบพริสซิลล่าด้วยฝ่ามือ นั่นก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงพละกำลังและความยิ่งใหญ่ในฐานะประธานชมรมมังกรหยก "อ๊าย!" พริสซิลล่าพลันกรีดร้องและยกมือขึ้นมาตั้งการ์ดโดยสัญชาตญาณ ทันใดนั้น กระแสพลังฉีพลันพุ่งออกมาจากร่างกายของเธอ ตุบ! เทรเวอร์พลันฟาดลงไปยังข้อมือพริสซิลล่า ทว่า เขากลับสัมผัสได้ถึงกระแสพลังจำนวนมหาศาลพุ่งตรงเข้ามา ฟิ้ว! ทันใดนั้น ร่างกายของเทรเวอร์ก็ลอยละล่องขึ้นไปกลางอากาศเหนือเวทีประลองและล้มลงกระแทกกับพื้นอย่างแรง พร้อมกับผมที่ตั้งชูอยู่เหนือศีรษะ ร่างกายของเทรเวอร์สั่นเทา เขาอ้าปากค้างราวกับมีหมอกพิษทมิฬลอยออกมาจากปาก ทุกคนในห้องโถงต่างก็เงียบไปด้วยความตกใจ พวกเขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยด้วยซ้ำ มิเชลล์เองก็เบิกตากว้างเช่นกัน เธอจ้องมองดูสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ดวงตาของแอนนาลิสพลันเบิกกว้าง เธออ้าปากค้างทันใด เธอแทบจะไม่อยากเชื่อเหตุการณ์ท

DMCA.com Protection Status