อเล็กซ์กลับไปที่วิลล่าของครอบครัวแอสเส็กซ์ด้วยสภาพที่ราวกับไร้วิญญาน ถึงแม้ว่าที่นี่จะถูกเรียกว่า วิลล่า แต่ที่นี่ก็เคยเป็นเพียงบ้านหลังเล็ก ๆ ธรรมดาทั่วไปเพียงเท่านั้น ก่อนที่จะรื้อถอนบ้านของครอบครัวเก่าออก แล้วอาคารสามชั้นนี่ก็ถูกสร้างขึ้นมาทดแทนบนที่ดินผืนนี้ แต่อย่างไรก็ตามมันก็ยังแตกต่างจากการที่จะเรียกว่าวิลล่าจริง ๆ ได้อเล็กซ์เงยหน้าขึ้นและเห็นว่าไฟในห้องของโดโรธียังคงเปิดอยู่ 'โดโรธีอยู่บ้านหรือเปล่านะ?' อเล็กซ์นึกสงสัยกับตัวเอง 'เธอไม่ได้อยู่กับสปาร์คหรอกหรอ?' ในช่วงเวลาที่เขาตระหนักได้ถึงความเป็นจริง ราวกับว่าหินก้อนโตได้ถูกยกออกจากอกของเขา เขาเห็นความหวังและตระหนักว่าคำพูดของคุณนายแคลร์นั้นมันไม่สามารถเชื่อถือได้ เธอเป็นคนหลอกลวง เธอชอบทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อเติมเต็มจินตนาการในหัวของเธอเองอเล็กซ์รีบวิ่งผ่านประตูเข้าไปในวิลล่า เขาเห็นคุณนายแคลร์อยุ่ในห้องนั่งเล่นเธอกำลังวีดิโอคอลหาใครบางคนอยุ่ขณะที่ทาเล็บนิ้วเท้าของตัวเองโดยการยกเท้าขึ้นไปในอากาศ เธอฮัมเพลงไปด้วยอย่างมีความสุขอเล็กซ์รู้สึกหนักใจเมื่อรู้ว่าคุณหญิงแคลร์นั้นดูตื่นเต้นมาก ๆ ที่ลูกสาวของตัวเองจะได้แต่งงานใหม่ เธอ
อเล็กซ์ส่ายหัวและเยาะเย้ย "โคลอี้ เธอไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะมาเลียเท้าของฉันหรอก โน่นเธอควรกลับบ้านไปเลียนิ้วเท้าของเจ้าอ้วนนี่ ไปซะ ถ้าเธอทำให้เขามีความสุขได้ เขาอาจจะซื้อขยะชิ้นเล็กชิ้นน้อยมูลค่าสองพันดอลลาร์มาให้เธอก็ได้นะ""แก..."ความโกรธของโคลอี้รุนแรงมาก เธอเหมือนระเบิดเวลาที่กำลังจะระเบิดออกมาในที่สุดคนอ้วนก็กล่าวเสริมโคลอี้ เพราะเขากำลังหว่านล้อมเธอให้ไปนอนกับเขา และอเล็กซ์ก็ทำให้เขารู้สึกอับอาย ชายอ้วนพูดขึ้นว่า "ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ช่วยดูสารรูปของตัวเองหน่อย แกคิดว่าแกจะมีปัญญาซื้อสร้อยคอที่ป้ายราคาสามสิบล้านเหรียญนี้ได้จริง ๆ เหรอ? อะไรนะ?! แกคิดว่าราคาแค่สามพันดอลลาร์เหรอ?"“แล้วถ้าผมมีเงินพอที่จะซื้อได้ล่ะ? คุณจะซื้อมันได้ไหม? คุณจะซื้อมันสักอันด้วยไหมล่ะ?” อเล็กซ์เอ่ยถามอเล็กซ์ตัดสินใจซื้อเครื่องประดับเส้นนั้นเขาเป็นหนี้คุณหนูโดโรธี แอสเส็กซ์ มามากมายในช่วงสิบเดือนที่ผ่านมานี้การซื้อสร้อยคอมูลค่าสามสิบล้านดอลลาร์นี้มันอาจจะทำให้เธอมีความสุข และมันคงจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับเธอสำหรับความสามารถในการปกป้องเธอของเขาชายอ้วนพูดอย่างโกรธเคือง “ไอ้งี่เง่าค
แคสแซนดราตกใจมากขออภัย ไม่สามารถแสดงยอดคงเหลือของบัตรบนเครื่องนี้ได้“ไม่น่าเชื่อเลยว่าทำไมคุณเจฟเฟอร์สันถึงเคารพเขามาก ถึงขั้นที่บอกว่าเขาเป็น VIP สูงสุด ฉันไม่คิดว่าจะมีการ์ดสูงสุดในแอลจี บัลโฟร์?” ในใจของเธอนั้นเต็มไปด้วยคำถามดูเหมือนเธอจะไม่เข้าใจเหตุผล อเล็กซ์อาศัยอยู่กับครอบครัวแอสเส็กซ์และรับใช้ครอบครัวแอสเส็กซ์ราวกับเป็นคนใช้ ทำไมเขาถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้?ในอดีต อเล็กซ์เคยเทน้ำให้เธอล้างเท้าด้วยซ้ำ!โคลอี้ตะโกนว่า “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เครื่องต้องพังแน่ ๆ ขยะชิ้นนี้จะมีเงินสามสิบล้านดอลลาร์ได้อย่างไร? เขาไม่น่าจะสามารถถอนเงินได้ถึงสามพันดอลลาร์เสียด้วยซ้ำ! พวกคุณ ตรวจสอบธุรกรรมอีกครั้งสิ เร็วเข้า!"เจฟเฟอร์สันจ้องไปที่โคลอี้ “นี่คุณ คุณกำลังกลับคำพูดและผิดคำสัญญาของคุณอยู่หรือเปล่า? ที่นี่เป็นบริษัทย่อยของกลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ กล้าดียังไงถึงมาดุนายท่านอเล็กซ์? คุณกำลังขุดหลุมศพของคุณเอง! รปภ ตบเธอซะ!”กลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ มีอิทธิพลมากที่สุดต่อธุรกิจใต้ดินในแคลิฟอร์เนียแน่นอนว่า รปภ ของพวกเขานั้นต้องไม่ธรรมดาหลัง
ขณะที่เขานอนอยู่บนเตียงของห้องเพรสซิเด้นเชียล สวีท ที่หรูหราที่สุดในโรงแรม เดอะ โกลเด้นเอท ออฟ ยูธ อเล็กซ์กลับนอนไม่หลับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้นั้นมันเกินคาดเขาไม่ได้คาดหวังว่าพ่อของเขาจะเก็บความลับที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ไว้ กลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ นั้นมีอำนาจมากที่สุดในใต้ดินแห่งแคลิฟอร์เนีย นั่นหมายความว่าพ่อของเขาเป็นหัวหน้าแก๊งใต้ดินที่แข็งแกร่งที่สุดด้วยเช่นกันหรือไม่?การตายของเขาเกิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์จริง ๆ หรือ?หรือว่ามันจะมีอะไรที่มากไปกว่าสิ่งที่เห็น?ในดึกดื่นเที่ยงคืน เมื่อเขากำลังหลับสนิทในที่สุด เขากลับถูกปลุกขึ้นด้วยเสียงโทรศัพท์ เขาลุกขึ้นและเร่งรีบไปที่โรงพยาบาลในที่สุด เมื่อเขาไปถึงโรงพยาบาล เขาก็เห็นแพทย์หลาย ๆ คนมารวมตัวกันที่เตียงของแม่เขา ในหมู่ของพวกเขามีคุณหมอเชอริล โคนีย์ แพทย์สาวสวยที่มีทรวดทรงสุดเซ็กซี่เป็นพิเศษอยู่ที่นั่นด้วยเขารู้สึกตกใจเป็นอย่างมากเขาคิดว่ามีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับแม่ของเขาเขารีบถาม “ดร. เชอริล แม่ของผมเป็นอย่างไรบ้าง? อาการของเธอแย่ลงหรือเปล่า?”คุรหมอเชอริลในชุดคลุมสีขาวและหน้ากากอนามัยหันกลับมาพูดว่า "อย่ากังวลไป
เกิดความเงียบสงบขึ้น!ทุกคนในห้องอาหารส่วนตัวนั้นกำลังตกตะลึงแต่ไม่กี่วินาทีต่อมา เสียงหัวเราะก็ดังลั่นทำลายความเงียบสงบนั้นทุกคนหัวเราะมีเพียงโดโรธีเท่านั้นที่รู้สึกผิดหวังอย่างมากหลังจากการตกใจนั้นคุณนายแคลร์จึงพูดขึ้นว่า “แกสามารถซื้อสร้อยคอ รักแห่งเมืองปฏิหาริย์ มูลค่าสามสิบล้านดอลลาร์ได้จริง ๆ หรือ? เมื่อคืนนี้แกนอนข้างถนนหรือเปล่า? แกคงยังหลับอยู่ และยังคงฝันถึงมันอยู่ใช่ไหมล่ะฮะ? ถ้าแกสามารถซื้อสร้อยคอนี้ได้จริง ๆ ฉันจะแทะโต๊ะนี้เลย"อเล็กซ์ตอบกลับอย่างนิ่ง ๆ ว่า “คุณแม่ คุณไม่ต้องแทะโต๊ะนี้หรอก ฟันของคุณไม่แข็งแรงพอที่จะกัดมันได้”คุณนายแคลร์เลิกคิ้วและจ้องเขม็ง "คุณแม่หรอ? ใครคือแม่ของแก? แม่ของแกยังนอนพะงาบ ๆ ในโรงพยาบาลโน่น! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายน้อยสปาร์ค ร็อคกี้เฟลเลอร์ จะเป็นลูกเขยเพียงคนเดียวของฉัน และเขาเป็นคนเดียวที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ที่จะเรียกฉันว่าเป็นแม่ยาย แกต้องหย่ากับโดโรธีในตอนบ่ายนี้เลย”อเล็กซ์จ้องมองและกำหมัดแน่น“ทำไม? แกโกรธมากเลยเหรอ? ขยะอย่างแกกล้าดียังไงถึงมาเกรี้ยวกราดใส่ฉัน?” คุณนายแคลร์ชี้ไปที่หัวของเธอเอง “มานี่สิ ทุบหัวฉัน ถ้าแกกล
แน่นอน สปาร์คจะไม่มีทางยอมรับว่าสิ่งที่เขาให้นั้นมันเป็นเพียงสร้อยคอปลอมที่มีมูลค่าเพียงสองพันเดอลลาร์เท่านั้นถ้าเขายอมรับ ความพยายามครั้งก่อนนี้ของเขาก็จะสูญเปล่าเป็นแน่ จริงไหม?เขายืนขึ้นทันที และชี้ไปที่แคสแซนดรา แล้วพูดว่า “ผมไม่รู้ว่าคุณกับขยะนั่น อเล็กซ์ เขาให้คุณยืนหยัดเพื่อเขาหรือเปล่า คุณเป็นใครกันแน่ถึงได้มาสงสัยเครื่องประดับที่ผมให้ คุณรู้ไหม ว่าฉันเป็นใคร?"แคสแซนดราเยาะเย้ยและกล่าวว่า “แน่นอน ฉันรู้ว่าคุณเป็นใคร คุณเป็นเด็กเหลือขอนิสัยเสียที่พยายามแย่งชิงทรัพย์สินของครอบครัวอเล็กซ์ พูดกันตามตรง ทุกสิ่งที่คุณมีอยู่ในตอนนี้มันก็เป็นของโดโรธี คุณฉกฉวยทรัพย์สมบัติของเธอและตอนนี้ยังมีหน้ามามอบของปลอมให้เธออีก เครื่องประดับจอมปลอมนั่นคุณมอบให้เพื่อใช้แลกกับร่างกายของเธอ คุณมันช่างหน้าด้านมาก”ในตอนนี้นั้นเธอเชื่อในอเล็กซ์ ร็อคกี้เฟลเลอร์เธอยังเรียกเขาว่าพ่อและเธอยังยืนหยัดเพื่อเขาอีกด้วยสปาร์คถอนหายใจอย่างเย็นชา “คุณเอาแต่พูดว่าคุณขายสร้อยคอ รักแห่งเมืองปาฏิหาริย์ แล้วคุณขายมันให้ใครล่ะ?”แคสแซนดราตอบว่า "ขายให้..."ขณะที่เธอกำลังจะบอกพวกเขาว่าคืออเล็กซ์ ทันใดนั้น เธ
ขณะที่แกสตันเริ่มจำชายชราที่ยืนอยู่ข้างหลังของเขาได้ การแสดงออกทางสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมากชายชราเป็นผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ และเป็นอัลฟ่าแห่งโลกใต้ดิน ท่านเล็กซ์—เล็กซ์ กันเธอร์!เขาไม่กล้าที่จะต่อล้อต่อเถียงกับท่านเล็กซ์ ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยังคงให้ความสำคัญกับชีวิตของตัวเขาเองแกสตันยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ขณะที่เขากำลังรวบรวมสติ เขายิ้มและกล่าวคำขอโทษทันที “ท่านเล็กซ์ ผมเสียใจจริง ๆ ผมต้องขออภัยด้วย ไม่รู้ว่าเป็นท่าน! ได้โปรดยกโทษให้ผมสำหรับสิ่งที่ผมเพิ่งพูดไป ผมรู้ว่าท่านเป็นคนใจกว้าง โอ้ ผมชื่อแกสตัน ที่ท่านส่งคนมาเรียกผมมาที่นี่ จุดประสงค์ของการประชุมครั้งนี้เพื่อมอบหมายงานเพิ่มเติมให้ผมหรือบางทีเพื่อเลื่อนตำแหน่งให้ผมเป็นผู้จัดการหรือเปล่าครับ? ผมสัญญาว่าผมจะทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถเลยครับ"ใบหน้าของท่านเล็กซ์ย่นลงเล็กน้อย ดวงตาของเขาเคร่งขรึมและเย็นชาเขาพูดด้วยเสียงโมโนโทนว่า "เราไปคุยกันที่ห้องประชุมเถอะ"เมื่อแกสตันเห็นว่าท่านเล็กซ์ไม่ได้ลงโทษหรือโมโหอะไรเขาเลย เขาก็รู้สึกปีติยินดีอย่างยิ่ง แม้ว่าท่านเล็กซ์นั้นจะไม่สามารถซ่อนความโกรธข
ท่านเล็กซ์เตะแกสตันและตะโกนว่า “ตอนนี้มันสายเกินไปแล้วที่จะมาร้องขอความเมตตา! ลากมันออกไปแล้วจับมันไปถ่วงน้ำซะ”การ์ดรักษาความปลอดภัยพุ่งไปข้างหน้า ในขณะเดียวกันความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ของแกสตันนันมันได้เอ่อล้นออกมา เขาคำนับหมอบลงกับพื้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนหน้าผากของเขาแตกและเริ่มมีเลือดไหลนองออกมา แกสตันตะโกนว่า “ท่านเล็กซ์ ได้โปรดไว้ชีวิตผมด้วย! ลุงจอห์น ช่วยด้วย! ผมรู้ว่าผมผิดได้ทำผิดไปแล้ว ผมสำนึกผิดแล้ว นายท่านอเล็กซ์ครับ ได้โปรดให้อภัยผมด้วย!”การทนดูการกระทำนั้นมันช่างเป็นเรื่องยากมาก ๆ สำหรับจอห์น เกตส์ ที่จะอดทนดูได้ แต่เขาก็ไม่สามารถคัดค้านอะไรได้เลยสักคำอเล็กซ์ชำเลืองมองไปที่แกสตันและพูดว่า “ไว้ชีวิตเขา เขายังอาจจะมีประโยชน์สำหรับเรา”เมื่อได้ยินคำพูดของอเล็กซ์ ความกตัญญูกตเวทีก็ถูกจารึกไว้ทั่วใบหน้าของจอห์น เขาเตะแกสตันอย่างรวดเร็วและพูดว่า “ขอบคุณนายท่านอเล็กซ์เดี๋ยวนี้เลย จำเอาไว้ว่านับจากนี้ไปเขาจะเป็นเจ้านายของแก!”แกสตันลุกลี้ลุกลนหมอบลงกับพื้นพร้อมกับพูดว่า “ขอบคุณครับ! ขอบคุณมาก ๆ นายท่านอเล็กซ์!”ท่านเล็กซ์ไม่สามารถซ่อนความโกรธเคืองในน้ำเสียงได้และกล่าวว่า "ส
“คุณคิดว่าผมอยากรอจริง ๆ เหรอ? ค่าผ่าตัดอย่างน้อยก็ต้องหมดเกือบครึ่งล้าน อีกทั้ง ความเสี่ยงต่อการผ่าตัดก็สูงไม่น้อยเลยด้วย โอกาสรอดคือห้าสิบห้าต่อห้าสิบ ผมอาจจะตายระหว่างผ่าตัดก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะ? อีกอย่าง คุณเองก็รู้ว่าสภาพครอบครัวของผมเป็นยังไง ถ้ามีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นกับผม ทั้งแม่แล้วก็น้องสาวผมจะอยู่กันยังไง? แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความแล้ว ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ ผมมีพัสดุอีกเยอะต้องส่งตอนเที่ยงด้วย” เจ้าของร้านพลันถอนหายใจ พร้อมกับดวงตาเต็มซึ่งไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นโศกนาฏกรรมอีกเรื่องหนึ่ง “เดี๋ยวก่อน!” อเล็กซ์พูดขึ้น "นายเชื่อใจฉันไหมล่ะ?" ชายหนุ่มพลันนิ่งไปเกือบสามวินาที ทันใดนั้น เขาก็พลันเผยยิ้มและพยักหน้า "ฉันเชื่อ ในฐานะเพื่อนของคุณโยเวล คุณคงไม่มีเวลาว่างมาหลอกลวงคนต่ำต้อยอย่างผมหรอก” อเล็กซ์ยืนขึ้น “งั้นก็เชื่อใจฉัน แล้วฉันจะช่วยนายเอง” อเล็กซ์เดินเข้าไปและกางนิ้ว พร้อมกับวางนิ้วหนึ่งไว้เหนือขมับของชายหนุ่ม ตรงนั้นคือตำแหน่งของเนื้องอกซึ่งอยู่ใต้กะโหลกศีรษะของลุค ทันใดนั้น นิ้วของอเล็กซ์ก็ส่องประกายราวกับสีของหยก รา
ในระหว่างนั้น ชายหนุ่มที่สำลักบะหมี่ก่อนหน้าก็หันกลับลงไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง "คุณหนูโยเวล... นักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย? จริงเหรอ?” ทันใดนั้นเอง ใครสักคนก็แอบหยิบโทรศัพท์ออกมาและค้นหาชื่อของนักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย ทว่า ทั้งรูปภาพและผลลัพธ์มากมายต่างก็ปรากฏขึ้นมา อันที่จริง มิเชลล์มักจะทำตัวเป็นเป้าสายตาของสาธารณะชน และไม่ได้พวกใจพวกปาปารัสซี่เท่าไหร่นัก อีกทั้ง คนในตระกูลโนเวลเองก็ไม่ได้สนใจในตัวมิเชลล์ด้วยเช่นกัน เธออยากจะเป็นอะไรก็เป็นไป ด้วยเหตุนั้น มันจึงเป็นเรื่องง่ายไม่น้อยเลยที่จะมองหาคนอย่างเธอ ไม่นานนัก ใครสักคนก็ตะโกนขึ้นมา... "มันเป็นความจริง! ทั้งหมดคือเรื่องจริง! เธอคนนี้คือคุณหนูโยเวลตัวจริงเสียงจริง คุณมิเชลล์ โยเวลยังไงล่ะ!” “ใช่แล้ว! ยังไงก็เถอะ คุณหนูโยเวลอุตส่าห์มากินสตูว์ถึงที่ร้านทั้งที ฉัน... ฉันชักอยากจะขอเธอถ่ายรูปหน่อยแล้วสิ” “นายตาบอดหรือยังไงกัน? ดูเธอสิ เธอกำลังโกรธอยู่นะ ทำไมถึงอยากเข้าไปขอเธอถ่ายรูปตอนนี้กันล่ะ?” หลังจากที่ชายคนนั้นตบตัวเองไปมากกว่าสิบครั้ง แจ็คก็พูดขึ้น "รู้จักผมด้วยงั้นเหรอ?" ชายคนนั้นพยักหน้า แจ็คถามขึ้นอีก
อันที่จริง อเล็กซ์ต้องการที่จะรักษาแจ็คก็เพราะเขาช่วยตนในเรื่องเอกสาร ทันใดนั้น อเล็กซ์เผยยิ้มและกล่าวคำพูดออกมา “คุณเทรนต์ครับ การช่วยชีวิตใครสักคนอาจต้องใช้โชคชะตา แต่ถ้ามีกำลังสงสัยอะไรอยู่ ก็ไม่เป็นไรครับ คุณสามารถไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลได้ตลอดเวลาเลย แต่ยังไงเสีย คุณคงต้องรีบหน่อยแล้วแหละ เพราะนิ่วในไตของคุณตอนนี้อยู่ในตำแหน่งที่แย่มาก คุณอาจะติดเชื้อได้เลยล่ะ" ทว่า ทุกคนก็พลันหัวเราะออกมาอีกครั้ง 'นายไม่ได้ใช้เครื่องอัลตราซาวนด์หรือเครื่องเอ็กซ์เรย์เลยด้วยซ้ำ อีกทั้ง ชีพจรก็ไม่ได้ตรวจ นายจะรู้ได้ยังไงกันว่านิ่วในไตนั้นอยู่ในตำแหน่งดีหรือร้าย? นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์หรือยังไงกัน?' สำหรับคราวนี้ มิเชลล์เองก็พลันเบิกตากว้างเช่นกัน เธอเอาแขนพาดหน้าอกด้วยความสงสัย “อเล็กซ์ นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์ด้วยงั้นเหรอ?” อเล็กซ์ไม่สนใจเธอเลย ทว่า ไม่นานนัก แจ็คก็พูดขึ้น "คุณร็อคกี้เฟลเลอร์ครับ ผมเชื่อใจคุณ” ยังไงเสีย อเล็กซ์เองก็ไม่ได้จะใช้มีดผ่าตัดอยู่แล้ว ดังนั้น แจ็คจึงรู้สึกว่ามันก็คุ้มที่จะลอง อเล็กซ์ไม่พูดอะไรต่อ ไม่นานนัก เขาก็วางมือเอาไว้บนแผล พร้อมกับสอดพลังฉีเข้าไปในร่างกายของ
ผู้หญิงที่พูดขึ้นนั้นนั่งอยู่ข้างหลังอเล็กซ์ ดูเหมือนว่าเธอจะอายุราวสามสิบปีแล้ว ผู้หญิงคนนั้นได้ยินการสนทนาของพวกเขาตั้งแต่เข้ามานั่งใกล้ ๆ แล้ว ผู้หญิงคนนั้นนั่งฟังพวกเขาตั้งแต่ตอนที่มิเชลล์บอกว่าเธอจะจับพริสซิลล่ามาอยู่บนเตียงของอเล็กซ์ ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกดูถูกเหยียดหยามทั้งสองอย่างถึงที่สุด อันที่จริง เธออยากจะเรียกตำรวจมาจับพวกเขาด้วยซ้ำ แต่ทว่า เธอก็รู้สึกโล่งใจที่อเล็กซ์ปฏิเสธข้อเสนอไป ต่อมา เธอก็ได้ยินทั้งสองพูดถึงบริษัทเธาซันด์ลีฟ เธอได้ยินมิเชลล์พูดว่าตัวเองนั้นสามารถขอใบอนุญาตได้เลยเพียงแค่เอ่ยวาจา และทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็แทบจะพ่นสตูว์เนื้อรสเผ็ดออกมาทางปาก อันที่จริง เธอเองก็เพิ่งรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทเธาซันด์ลีฟ สามีของเธอขายวัสดุก่อสร้างอยู่ที่นั่น แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายรายย่อยที่ทำงานภายใต้แฟรนไชส์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่เธอก็รู้ดีว่าเจ้าของบริษัทเธาซันด์ลีฟก็คือตระกูลโยเวล ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย อีกทั้ง บริษัทยังได้รับการโฆษณาเป็นอย่างดีอีกด้วย ทว่า สามีของเธอก็ได้แจกจ่ายวัสดุก่อสร้างอยู่ตั้งหลายร
อันที่จริง เบียทริซเองก็กลัวว่าตัวเองจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดในมหาวิทยาลัยได้หากจะต้องเปิดโปงพวกเขาทั้งสอง ทันทีที่ทั้งคู่มาถึงลานจอดรถ อเล็กซ์ก็ตระหนักได้ว่ามิเชลล์นั้นซื้อรถสปอร์ตสุดหรูแอสตันมาร์ตินสีแดงให้กับตน โครงสร้างสุดเท่ของรถสปอร์ตคนนี้ค่อนข้างทันสมัย แต่มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ขับผ่านถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่ออย่างแน่นอน “โทษทีนะ พอดีฉันหารุ่น M8 ที่นายต้องการไม่ได้เลยน่ะ ตอนนี้ไม่มีรุ่นนั้นเหลืออยู่ในแคลิฟอร์เนียเลยด้วย ยังไงก็เถอะ นายก็ใช้คันนี้พลาง ๆ ไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวถ้าของเข้าแล้ว ฉันจะไปซื้อรุ่น M8 มาคืนให้” 'ดูเธอสิ ช่างมีน้ำใจเหลือเกิน' เธอสามารถซื้อรถหรูราคาหลายแสนได้ราวกับว่าซื้อลูกโป่ง “ก็ได้!” อเล็กซ์ไม่เรื่องมากกับเรื่องรถยนต์อยู่แล้ว ทั้งสองเดินทางไปยังร้านอาหารสตูว์รสจัดจ้าน มิเชลล์นึกประหลาดใจ “นายอยากทำกับฉันแบบนี้จริง ๆ เหรอ?” อเล็กซ์ตอบกลับ “ตอนแรกฉันจะรักษาพริสซิลล่า แต่เธอดันกลับบ้านไปก่อน ยังไงเสีย ตอนนี้เรามาสั่งอะไรง่ายๆ กินกันดีกว่า” “นี่นายกำลังพยายามตามจีบพริสซิลล่าอยู่หรือเปล่าเนี่ย? อันที่จริง ฉันช่วยนายได้นะรู้ไหม? ฉันทำให้เธ
“ดาวมหาลัยชนชั้นกลาง... เบียทริซ แอสเส็กซ์งั้นเหรอ?” “เธอคือ...” ทั้งแอนนาลิสและพริสซิลล่าต่างก็จ้องไปที่เบียทริซอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง หลังจากนั้น พวกเขาก็หันไปหาอเล็กซ์ จากท่าทีของทั้งสอง พวกเขาต่างก็รับรู้มาว่าอเล็กซ์เป็นแฟนของมิเชลล์ ไม่อย่างนั้น ทั้งสองจะรู้จักและจูบกันได้ยังไงล่ะ? ในตอนนี้ พวกเขาต่างก็คิดว่ามิเชลล์คงจะต้องตะคอกและทุบตีอเล็กซ์อย่างแน่นอน แม้แต่เบียทริซเองก็คิดเช่นนั้น เบียทริซเรียกอเล็กซ์ว่าพี่เขยก็เพื่อเปิดเผยตัวตนของเขาเอง อีกทั้ง เบียทริซเองก็ต้องการบอกกล่าวให้มิเชลล์รับรู้ว่าว่าอเล็กซ์เป็นชายที่แต่งงานแล้ว และแน่นอน เบียทริซในตอนนี้กำลังเล่นกับความรู้สึกของมิเชลล์อยู่ จากที่เบียทริซรู้เรื่องราวของมิเชลล์มา มิเชลล์จะต้องโมโหและทำร้ายอเล็กซ์อย่างแน่นอน แต่ทว่า กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย มิเชลล์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่นานนัก เธอก็กล่าวคำพูดขึ้น “เบียทริซ แอสเซ็กซ์ เธอเป็นน้องสะใภ้ของอเล็กซ์หรือยังไงกัน? เธอน่าจะบอกให้เร็วกว่านี้นะ! ยังไงก็เถอะ ถ้ามีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเธอ ก็เอ่ยชื่อของฉันออกไปได้เลย แล้วฉันจะมาปกป้องเธอเอง!” "อะไรก
สตีเวนเผยยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมกับคำรามออกมา เขาปลุกพละกำลังภายในที่น่ากลัวและชั่วร้ายออกมาอย่างฉับพลัน พร้อมกับแสงสีแดงที่กะพริบระยิบระยับในดวงตา ระหว่างที่มิเชลล์กำลังจะฟาดฝ่ามือลงไปที่สตีเวน เขาก็พลันตอบโต้การโจมตีด้วยฝ่ามือของตัวเองเช่นกัน ตู้ม! เสียงระเบิดดังก้องกังวานไปทั่วห้องโถง สตีเวนเองก็ได้เก็บซ่อนพลังพิเศษไว้ที่ในฝ่ามือของตัวเอง พลังนั้นพุ่งทะลุผ่านฝ่ามือของมิเชลล์ไป มันเป็นทักษะอันทรงพลังในฐานะจ้าวแห่งเงามรณะเลยก็ว่าได้ หรือเรียกอีกอย่างว่าทักษะแห่งการล่อลวง เพราะเหตุนั้น สตีเวนจึงไม่สนใจการโจมตีมิเชลล์มากนัก เพราะเขารู้ว่าท้ายที่สุดแล้วตนจะต้องชนะอย่างแน่นอน ในตอนนั้นเอง เขาพลันดีดนิ้วและกล่าวคำพูดขึ้นมา “หยุด!” ทว่า ทักษะแห่งชัยชนะทั้งหมดของสตีเวนกลับไม่มีผลอะไรเลยในวันนี้ มิเชลล์พุ่งเข้าใส่สตีเวนด้วยการเคลื่อนไหวที่รุนแรงและเฉียบแหลม เธอยกขาขึ้นแล้วกระแทกไปยังศีรษะของสตีเวนอย่างแรง "อะไรกัน?" อึก! สตีเวนล้มลงไปนอนกับพื้น เขาพลันกลอกตาไปมาและรู้สึกเหมือนจะเป็นลม ทันทีที่สติเริ่มจางหาย ความคิดสุดท้ายของสตีเวนก็พลันปรากฏขึ้นมาในหัว “มันจะเป็นไปได้ยังไง
ตุ๊บ! ท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครมของฝูงชน มิเชลล์ก็กระโดดข้ามราวขึ้นไปบนเวทีประลอง ระหว่างที่มิเชลล์ขึ้นไปยืนบนเวทีประลอง หน้าอกขนาดมหึมาของเธอก็พลันกระเพื่อมขึ้นลงไม่หยุด ทุกคนต่างตกตะลึงและเบิกตากว้าง โดยเฉพาะเหล่านักเรียนชาย พวกเขาต่างก็ยิ่งอิจฉาอเล็กซ์มากกว่าเดิมทันทีที่เห็นเช่นนั้น มิเชลล์รีบคว้าตัวพริสซิลล่าและลากเธอมาหลบอยู่ด้านหลัง มิเชลล์จ้องไปยังชายวัยกลางคนจอมหยิ่งผยองและกล่าวคำพูดขึ้น “ฉันจะเป็นคู่ต่อสู้ของนายเอง!” พริสซิลล่าในตอนนี้ไม่กล้าที่จะอยู่บนเวทีอีกต่อไปแล้ว ด้วยเหตุนั้น เธอจึงรีบวิ่งออกไปจากลานประลอง พร้อมกับกุมมือตัวเองด้วยความหวาดกลัว อเล็กซ์ตบไหล่ของพริสซิลล่าและเผยยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น “เธอทำดีมาก ฉันบอกแล้วว่าเธอต้องชนะ” “ฉัน... ฉันชนะการประลองจริง ๆ เหรอ?” “...” หลายต่อหลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เริ่มจ้องมองไปที่พริสซิลล่าและกลอกตา แอนนาลิสเองก็ขมวดคิ้วและจ้องไปยังพริสซิลล่าเช่นกัน เธอไม่เข้าใจความสามารถที่ระเบิดออกมาอย่างกะทันหันของพริสซิลล่าเลยแม้แต่น้อย หลังจากนั้น เธอก็คิดเองเออเองว่าเทรเวอร์น่าจะใช้พลังของตัวเองมากเกินไป แอนนาลิสคิดหาวิธีอื่
“พูดบ้าอะไรของเธอกัน?!” ระหว่างกำลังคิดว่านี่คงเป็นแผนของชมรมซาตานที่ต้องการส่งใครสักคนขึ้นมาบนเวทีประลอง เทรเวอร์ก็รู้สึกโกรธไม่น้อย ทันใดนั้น เทรเวอร์ก็พุ่งเข้าไปหาพริสซิลล่าและฟาดฝ่ามือใส่เธอ เทรเวอร์ต้องการสยบพริสซิลล่าด้วยฝ่ามือ นั่นก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงพละกำลังและความยิ่งใหญ่ในฐานะประธานชมรมมังกรหยก "อ๊าย!" พริสซิลล่าพลันกรีดร้องและยกมือขึ้นมาตั้งการ์ดโดยสัญชาตญาณ ทันใดนั้น กระแสพลังฉีพลันพุ่งออกมาจากร่างกายของเธอ ตุบ! เทรเวอร์พลันฟาดลงไปยังข้อมือพริสซิลล่า ทว่า เขากลับสัมผัสได้ถึงกระแสพลังจำนวนมหาศาลพุ่งตรงเข้ามา ฟิ้ว! ทันใดนั้น ร่างกายของเทรเวอร์ก็ลอยละล่องขึ้นไปกลางอากาศเหนือเวทีประลองและล้มลงกระแทกกับพื้นอย่างแรง พร้อมกับผมที่ตั้งชูอยู่เหนือศีรษะ ร่างกายของเทรเวอร์สั่นเทา เขาอ้าปากค้างราวกับมีหมอกพิษทมิฬลอยออกมาจากปาก ทุกคนในห้องโถงต่างก็เงียบไปด้วยความตกใจ พวกเขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยด้วยซ้ำ มิเชลล์เองก็เบิกตากว้างเช่นกัน เธอจ้องมองดูสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ดวงตาของแอนนาลิสพลันเบิกกว้าง เธออ้าปากค้างทันใด เธอแทบจะไม่อยากเชื่อเหตุการณ์ท