แชร์

บทที่ 5 หาทางทำทุน

ผู้เขียน: องค์หญิงโนเนม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-22 15:56:17

เมื่อไม่มีสิ่งใดให้ต้องสนทนากันต่อแล้ว มู่หรงซานและหลี่จื่อเวยก็เดินทางกลับมาที่เรือนเล็ก มู่หรงซานนั้นก่อนกลับยังคว้าขวดสุราอย่างดีที่ท่านอารองมอบให้ท่านพ่อของเขากลับมาอีกด้วย นายท่านมู่หรงผู้เป็นบิดาทำได้เพียงก่นด่าบุตรชายของตนตามหลังด้วยความโมโห

เมื่อกลับมาแล้ว หลี่จื่อเวยก็ครุ่นคิดว่าจะต้องทำสิ่งใดดี นิยายเรื่องนี้เดิมทีตัวเอกจะต้องปลูกผัก แต่ทว่านางยังอ่านไม่ถึงครึ่งเล่มเลยด้วยซ้ำ ไม่อาจรู้ได้ว่าเรื่องราวจะดำเนินต่อไปในทิศทางไหน ยามนี้คงต้องเสี่ยงโชคชะตาเสียแล้ว

นางเปิดถุงเงินนั้นดู พบว่ามีตั๋วเงินอยู่ไม่น้อยเลย หลี่จื่อเวยยิ้มออกมาเล็กน้อย ในความโชคร้ายของนางที่ครอบครัวเดิมไม่สนใจ ได้สามีไม่ดี แต่นางกลับได้พ่อแม่สามีที่ดี เจ้าของร่างเดิมโง่เขลาเกินไป หากนางไม่ตามใจมู่หรงซาน เข้าหาแม่สามี ยามนี้นางก็คงไม่ต้องพบจุดจบเช่นนั้น

แต่ทุกอย่างไม่อาจแก้ไขสิ่งใดได้แล้ว หลี่จื่อเวย ข้าจะเป็นคนกำหนดชะตาชีวิตนี้ของเจ้าเอง!

เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางจึงนำตั๋วเงินออกมานับ คิดๆ ดูแล้วด้านหลังเรือนเล็กก็มีที่ดินว่างอยู่คาดว่าคงปลูกผักได้หลายอย่าง ตอนนี้สิ่งที่นางจะต้องเริ่มทำก็คือทำให้พ่อแม่สามีเชื่อใจ ไว้ใจว่านางสามารถดูแลกิจการได้

กิจการของตระกูลมู่หรงมีทั้งภัตตาคารและร้านรวงอีกไม่น้อย

ในขณะที่หลี่จื่อเวยกำลังนั่งนับเงินที่แม่สามีให้มาอยู่นั้น นางก็รู้สึกได้ว่ามีสายตาของใครบางคนกำลังมองมาที่นาง เมื่อหลี่จื่อเวยเงยหน้าขึ้นไปมองก็พบกับมู่หรงซานที่กำลังจ้องมองมาที่เงินของนางตาเป็นประกาย หลี่จื่อเวยส่งเสียงเฮอะออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะรีบเก็บเงินนั้นใส่ถุงและเก็บเอาไว้กับตัว มู่หรงซานทำหน้ามุ่ย เดิมทีเขาคิดจะขอนางสักสามสี่ร้อยตำลึงเพื่อเข้าไปต่อทุน แต่เขาไม่กล้าเสียแล้ว นางดูแปลกไปเหลือเกิน ยามนี้เขาเริ่มกลัวนางอย่างบอกไม่ถูก

"จือจือยอดรัก วันนี้ข้านัดสหายเอาไว้ว่าจะดูเขาแข่งขันกัดจิ้งหรีดกัน เจ้าพอจะให้เงินข้าไปสักสองร้อยตำลึงได้หรือไม่"

หลี่จื่อเวยที่ได้ยินเช่นนั้นก็เงยหน้ามามองมู่หรงซาน ก่อนจะเอ่ย

"มู่หรงซาน แทนที่ท่านจะทำให้ท่านพ่อท่านแม่ไว้ใจ และให้ท่านเข้าไปช่วยดูแลกิจการและเทือกสวนไร่นาที่มี แต่ว่าวันๆ ท่านเอาแต่เที่ยวเล่น ใช้เงินราวกับสายน้ำ สมองของท่านคิดเรื่องดีๆ เป็นบ้างหรือไม่"

หลี่จื่อเวยบ่นยาวเหยียด มู่หรงซานถอนหายใจออกมาพร้อมกับลอบเบ้ปาก ก่อนจะเดินเข้าไปหาภรรยายอดรักของตน หลี่จื่อเวยยังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกมู่หรงซานรวบเอวบางเข้าไปกอดเอาไว้ นางหันขวับไปมองเขาทันที ก่อนจะเอ่ย

"ปล่อย"

"ไม่ปล่อย เรามาทำเรื่องที่สามีภรรยาควรทำเถิด จะได้มีหลานเร็วๆ หากเรามีลูกสมบัติก็ต้องตกมาเป็นของลูกเรา"

หลี่จื่อเวยกำมือแน่น นางเริ่มจะอยากกระทืบคนขึ้นมาอีกรอบแล้ว

"ปล่อย"

"ไม่ๆๆ โอ๊ย อย่าหยิกข้า"

มู่หรงซานร้องเสียงหลง หลี่จื่อเวยจึงผลักเขาออก ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา

"ข้าอยากจะไปที่ตลาดเสียหน่อย อยากดูว่าที่ตลาดจะมีอะไรขายบ้าง เผื่อจะมีสิ่งใดที่นำมาต่อยอดค้าขายได้ ส่วนท่านก็ห้ามทำตัวเหลวไหล ต่อไปนี้ตั้งใจทำงาน"

มู่หรงซานที่ได้ยินเช่นนั้นก็ครุ่นคิดคราหนึ่ง ภรรยาชวนออกไปข้างนอก เขาควรจะพานางไป แล้วถือโอกาสที่นางเผลอแอบพบสหายที่โรงพนันสักหนึ่งเค่อ นางย่อมตามเขาไม่ทันอยู่แล้ว

เมื่อคิดได้อย่างนั้นเขาจึงตกปากรับคำและพานางไปที่ตลาดทันที

รถม้าเดินทางมาไม่นานก็หยุดลง หลี่จื่อเวยลงมาจากรถม้าก่อนจะมองไปโดยรอบ และพบว่าตลาดที่นี่ค่อนข้างใหญ่และกว้างขวางไม่น้อย อีกทั้งยังมีร้านค้ามากมาย ทั้งร้านอาหาร ร้านผ้า รวมไปถึงร้านขายเมล็ดผัก แต่เมื่อได้สอบถามราคานางก็ถึงกับถอนหายใจออกมาทันที

ก่อนหน้านี้นางได้ยินมาว่าระยะนี้ต้าเซี่ยเกิดสงครามกับต่างแคว้น บ้านเมืองเดือดร้อนข้าวของราคาแพงสูงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ชาวบ้านที่ยากจนมีบางคนอดอยากล้มตายไปไม่น้อย หลี่จื่อเวยเห็นว่าในสถานการณ์เช่นนี้การนำเงินไปจมกับของบางอย่าง คงไม่เหมาะเท่าใดนัก นางจึงตั้งใจว่าจะเก็บเงินนั้นเอาไว้ก่อน

"เรากลับ..."

ในขณะที่นางกำลังจะหันไปเอ่ยกับมู่หรงซาน ก็พบว่าข้างกายนางไม่มีเงาของเขาอยู่แล้ว หลี่จื่อเวยขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะหันไปมองเถาเถาที่ยืนอยู่ เถาเถาสาวใช้ของนางมีท่าทีกระอักกระอ่วนพร้อมกับส่งยิ้มแห้งๆ มาให้นาง

"มู่หรงซานไปไหนแล้ว เจ้าเห็นเขาไหม"

เถาเถามองเจ้านายของตนด้วยท่าทีที่ไม่สู้ดีเท่าใดนัก ก่อนจะเอ่ย

"เอ่อ นายน้อยน่าจะไปที่โรงพนันแล้วเจ้าค่ะ บ่าวเห็นว่าเดินไปทางนั้น เขาบอกว่าห้ามบ่าวบอกฮูหยินน้อย บ่าวจึงไม่กล้าเจ้าค่ะ"

หลี่จื่อเวยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจออกมาอย่างหนัก ก่อนจะเอ่ย

"เจ้ารู้ไหมว่าโรงพนันแห่งนั้นอยู่ที่ใด"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สามีอยากดื่มสุราต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 6 ผีเข้าสิงเมีย

    ด้านมู่หรงซานนั้นเขามุ่งหน้ามาที่โรงพนันเพื่อพบเจอกับสหายของตนได้สักพักหนึ่งแล้ว เดิมทีนัดกันว่าจะไปดูการแข่งขันกัดจิ้งหรีดเสียหน่อย แต่เขามาช้าไปการแข่งขันนั้นหมดไปเสียแล้ว เขายกจอกสุราขึ้นดื่ม ตอนนี้เขาได้นำเงินที่เหลือติดตัวเพียงสามร้อยตำลึง ซึ่งแอบเก็บเอาไว้ไม่ให้ภรรยารู้ เมื่อจ่ายค่าสุราแล้ว เขาก็นำมันไปแลกมาเล่นพนันเพิ่ม เมื่อเล่นแล้วเสียหมดมู่หรงซานก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาเสียแล้ว"เป็นอันใด เห็นเจ้าหายหัวไปหลายวันเลยสหายรัก""นั่นสิ ข้าคิดว่าเจ้าจะเอาแต่อยู่กับภรรยาคนงามเสียอีก"มู่หรงซานหันไปมองสหายรักสองคนคราหนึ่ง สหายของเขาคนแรกมีนามว่าหวังเจี้ยน เป็นบุตรชายของคหบดีเช่นกัน แต่ฐานะร่ำรวยกว่าเขาไม่น้อย ส่วนอีกคนมีนามว่าจ้าวจิ้น เขาเป็นบุตรชายของท่านหมอผู้หนึ่งที่มีชื่อเสียง คนทั้งสามคบหากันเป็นสหาย เพราะอยู่ในฐานะระดับเดียวกัน ไม่ได้คบหาพวกลูกขุนนางที่มากพิธีเหล่านั้น"พูดมากจริง มีให้ข้ายืมสักพันตำลึงหรือไม่อาเจี้ยน แล้วข้าจะหาทางเอามาคืน"หวังเจี้ยนที่ได้ยินเช่นนั้นก็ส่ายหน้าไปมาคราหนึ่ง ก่อนจะตอบ"ไม่มีหรอก ท่านพ่อท่านแม่ข้าก็ตัดเงินข้าเช่นกัน เขาให้ข้าใช้จำกัด นี่อาซาน เจ้าก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-22
  • สามีอยากดื่มสุราต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 7 จุดเปลี่ยน

    หลายวันต่อมา ได้ยินมาว่าคนในบ้านตระกูลมู่หรงคิดจะเดินทางไปที่บ้านสวนนอกเมืองหลวง ที่นั่นมีที่ดินมากมาย และยังมีทั้งสวนผัก ไร่นา และต้นไม้มากมาย ทุกๆ ปีจะมีผลผลิตจากบ้านสวนส่งมาที่จวนตระกูลมู่หรง พ่อแม่สามีของนางก็จะนำไปขายต่อ นับว่าได้กำไรดีเป็นอย่างมากครั้งนี้คนบ้านรองเองก็จะติดตามไปด้วย ทุกคนเดินทางกันตั้งแต่เช้าตรู่ ช่วงบ่ายก็ไปถึงที่บ้านสวน เมื่อได้มาเห็นสถานที่จริงแล้ว หลี่จื่อเวยก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ที่บ้านสวนแห่งนี้กว้างใหญ่มากจริงๆ อีกทั้งยังมีที่ดินทำกินมากมาย พืชผักก็มีไม่น้อยเลยคนทั้งหมดพักกันอยู่หลายวัน ก่อนจะเร่งเดินทางกลับเมืองหลวง เมื่อกลับมาถึงก็พบว่ายามนี้บ้านเมืองกำลังระส่ำระสาย ได้ยินว่าทหารรักษาชายแดนเริ่มต้านกำลังของศัตรูเอาไว้ไม่ไหวเสียแล้ว อีกทั้งเงินในท้องพระคลังที่ใช้สนับสนุนทหารก็ขัดสนไม่พอใช้ ฮ่องเต้ต้าเซี่ยจึงมีรับสั่งให้ทุกจวนที่มีฐานะนำทรัพย์สินเงินทองมาบริจาคเข้าท้องพระคลัง แต่บริจาคเท่าใดก็ยังคงไม่พออยู่ดี ขุนนางบางคนก็คิดคดโกง เปลี่ยนฝั่งไปเข้าหากบฏ บ้านเมืองตกอยู่ในกลียุค การทำมาค้าขายเริ่มไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็น ร้านรวงปิดไปหลายร้าน ซ้ำร้ายยังม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-22
  • สามีอยากดื่มสุราต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 8 เริ่มใช้ชีวิตที่บ้านสวน

    กลางดึกคืนนั้นทุกคนก็เดินทางออกจากเมืองหลวงในทันที เพราะมีผู้คนเข้าออกเยอะมาก อีกทั้งการดูแลก็ไม่เข้มงวดเท่าแต่ก่อน การที่ผู้คนจะเดินทางออกนอกเมืองหลวงจึงไม่ใช่เรื่องยากเท่าแต่ก่อนอีก ขอเพียงใช้เงินติดสินบนเหล่าทหารที่เฝ้าประตูมากหน่อยก็ไม่มีปัญหาแล้วระหว่างทางหลี่จื่อเวยไม่ได้พูดสิ่งใดกับมู่หรงซานเลยแม้แต่น้อย เขาเองก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดเช่นกัน แต่ทว่าในใจกลับโอดครวญเป็นอย่างมากเดิมทีเขาใช้ชีวิตอยู่แต่ในเมืองหลวงมาตลอด ต้องออกไปใช้ชีวิตอยู่ในเมืองชนบทเช่นนั้นเขาคงอึดอัดตาย สหายสักคนก็ไม่มี ร้านค้าก็ไม่ได้มากมายเท่าในเมืองหลวง เขาต้องบ้าตายเป็นแน่ใช้เวลาเดินทางอยู่ครึ่งค่อนคืนก็เดินทางมาถึงบ้านสวนในตอนเกือบรุ่งสาง เมื่อมาถึงก็รู้สึกเหนื่อยล้าไม่น้อย บ่าวไพร่ที่ติดตามมาก็มีเพียงคนสองคน ตอนนี้ทุกคนจึงทำได้เพียงช่วยกันคนละไม้ละมือเพื่อจัดที่ทางให้เรียบร้อยหลี่จื่อเวยหันไปมองบิดาของตนและหลี่ฮูหยินผู้เป็นแม่เลี้ยง รวมถึงน้องชายและน้องสาวที่กำลังยืนอยู่ด้วยท่าทีที่เหนื่อยล้า หลี่ฮูหยินเดินเข้ามาหาหลี่จื่อเวย ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา"นับว่าบ้านสามีของเจ้ายังมีสมบัติชิ้นสุดท้ายเหลืออยู่นะ จือจือ พว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-22
  • สามีอยากดื่มสุราต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 9 เริ่มต้นหาเงิน

    เมื่อต้องมาอยู่ชนบทแน่นอนว่าทุกคนย่อมต้องปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตใหม่ทั้งหมด พ่อแม่สามีของนางนั้นเดิมทีก่อนจะร่ำรวยก็เคยทำสวนทำนามาก่อน จึงไม่ใช่ปัญหาอันใด แต่เรื่องนี้ค่อนข้างจะส่งผลต่อคนตระกูลหลี่ไม่น้อย เพราะเดิมทีก็กินใช้เงินเดิมที่บรรพบุรุษสั่งสมมา จึงไม่เคยต้องมาทำงานลำบากแบบนี้ด้านหลี่จื่อเวยเอง การที่นางมาจากโลกอนาคตนั้นถือเป็นเรื่องดี เพราะนางทำสิ่งใดด้วยตนเองมาตลอด ไม่ได้มีคนมาคอยรับใช้ เวลาว่างจากงานก็ชอบเดินป่าเข้าไปเที่ยวเล่นพักผ่อน เมื่อได้ยินแม่สามีบอกว่าครั้งนี้คงจะต้องเข้าป่าไปถกถางที่ดินทำกินที่ทิ้งร้างมานาน นางก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องใหญ่ แต่มู่หรงซานนั้นค่อนข้างจะโอดครวญไม่น้อยบ้านสวนมีคนสวนนามว่าลุงกู้คอยดูแลอยู่ เมื่อเจ้านายกลับมาอยู่เขาก็ดีใจไม่น้อย เร่งรีบเป็นคนนำทางทุกคนเข้าไปถกถางที่ทำกินในทันทีที่ดินบ้านสวนค่อนข้างกว้างใหญ่ ที่ใช้ทำสวนปลูกผักไปนั้นก็แค่ส่วนหนึ่ง และด้านหลังยังมีพื้นที่อีกไม่น้อย แต่เพราะถูกทิ้งร้างเอาไว้จึงมีหญ้าขึ้นรถทึบ หลี่จื่อเวยเดินไปตามทางพร้อมกับสะพายกระบุงเอาไว้ที่หลัง เมื่อพบเจอของป่าอะไรนางก็เก็บเอามาใส่กระบุงไว้"จือจือ ข้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-22
  • สามีอยากดื่มสุราต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 10 ไปจับปลาและเจอห่าน

    ยามเช้าของวันต่อมาหลี่จื่อเวยตื่นแต่เช้าหลังจากกินมื้อเช้าอิ่มแล้ว ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำงานที่ตนต้องทำ หลี่จื่อเวยไม่ได้เรียกมู่หรงซานให้ตื่น นางเบื่อแล้วจึงไม่อยากสนใจเขาอีก หญิงสาวเอากระบุงแบกไว้บนหลังเหมือนเดิม เตรียมจะออกไปที่แม่น้ำ แต่ทว่าหลี่อินและหลี่หยวนกลับมาขวางทางนางเอาไว้เสียก่อน หลี่หยวนมองพี่สาวตนด้วยแววตาที่ดูแคลน ก่อนจะเอ่ย"ได้ยินว่าเดี๋ยวนี้พี่ใหญ่ใจกล้า บังอาจมาเถียงท่านแม่ของข้า ไม่ทำตามคำสั่งของนางเช่นนั้นหรือ"หลี่อินส่งเสียงเหอะออกมา ก่อนจะเอ่ยสมทบกับพี่ชายของตนในทันที"คิดว่าตนเองเก่งมากละมั้ง ท่านแม่จัดการพี่ไม่ได้พวกข้าย่อมมาทำแทน เอาเงินมา ข้ากับพี่ชายต้องใช้เงิน แล้วอย่าลืมทำอาหารให้ข้ากินด้วย เข้าใจไหม"หลี่จื่อเวยเท้าเอวมองดูน้องชายและน้องสาวตัวดีสองคนด้วยแววตาที่เย็นชา ก่อนจะเอ่ย"พวกเจ้าข่มขู่ข้าหรือ"นางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่รำคาญเต็มทน หลี่หยวนกับหลี่อินที่เห็นท่าทีไม่แยแสของหลี่จื่อเวยก็เริ่มโมโห"พูดไม่รู้ความ อินเอ๋อร์ เราอย่าสนทนากับนางให้เสียเวลาเลย เจ้าไปจับตัวนาง ข้าจะควานหาเงินจากตัวนางเอง!!!""ได้"แต่ทว่ายังไม่ทันที่สองพี่น้องจะเข้ามา ก็ถูก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-22
  • สามีอยากดื่มสุราต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 11 ข้อแลกเปลี่ยน

    มู่หรงซานและหลี่จื่อเวยหันมาสบตากันอีกครั้ง ความแปลกใจฉายชัดอยู่ในดวงตาของทั้งสอง หลี่จื่อเวยขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะครุ่นคิดในใจห่านสองตัวนั่นมันพูดได้เหรอ?วิเศษเกินไปแล้วสำหรับนางแล้วถือว่าไม่ใช่เรื่องที่แปลกใหม่เท่าใดนัก แม้แต่นางยังทะลุมิติมาเลย นับประสาอะไรกับแค่ห่านพูดได้มู่หรงซานผละออกจากหลี่จื่อเวย ก่อนจะจับมือของภรรยาเอาไว้และเดินขึ้นมาจากแม่น้ำ พร้อมกับจ้องมองห่านสองตัวนั้นเจ้าห่านสองตัวตอนนี้ตัวหนึ่งล้มป่วยลง และกำลังนอนราบไปกับพื้นคล้ายว่าจะเจ็บขาทั้งสองข้าง ส่วนเจ้าห่านอีกตัวไม่ได้รับบาดเจ็บ เมื่อมันเห็นคนทั้งสอง จึงเอ่ยถามทันที"พวกเจ้าได้ยินข้าใช่หรือไม่ ช่วยข้าด้วยเถิด ช่วยภรรยาข้าด้วย"มู่หรงซานที่ได้ยินเช่นนั้นก็คว้าตัวหลี่จื่อเวยเข้ามากอด ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่หวาดหวั่น"จือจือ เจ้าดูสิ ผีห่าน!!!"หลี่จื่อเวยหันมามองมู่หรงซานเล็กน้อย ผีห่านกับผีน่ะสิ โง่บัดซบจริงเชียว นี่มันห่านวิเศษ สวรรค์จะต้องเห็นว่านางย้อนเวลามาพบเจอกับสามีเฮงซวย จึงคิดจะส่งห่านสองตัวนี้มามอบให้นางเพื่อเป็นการชดเชยใช่หรือไม่แล้วทำไมไม่มอบเงินมากันนะ เอามาทำไมห่านสองตัวนี่น่ะเจ้าห่านตัวที่ไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-22
  • สามีอยากดื่มสุราต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 12 ขโมยห่าน

    เมื่อกลับมาถึงบ้านสวนแล้วก็พบว่า มู่หรงฮูหยินและนายท่านมู่หรงผู้เป็นพ่อแม่สามีกำลังเพิ่งกลับมาจากที่สวนเช่นเดียวกัน ส่วนคนตระกูลหลี่นั้นก็เดินตามกลับมาติดๆ อีกทั้งยังบ่นว่าวันนี้เหนื่อยเหลือเกิน อาหารก็กินไม่อิ่ม ต้องกินแต่ผักไม่ได้กินเนื้อเลยสักมื้อมู่หรงฮูหยินที่เห็นว่าหลี่จื่อเวยอุ้มห่านกลับมาตัวหนึ่ง อีกทั้งยังมีห่านอีกตัวเดินตามมาด้วย จึงเอ่ยถามทันที"จือจือ เจ้าไปเอาห่านมาจากไหนกัน"หลี่จื่อเวยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มตาหยี ก่อนจะตอบ"ข้าเห็นว่ามันได้รับบาดเจ็บน่ะเจ้าค่ะ จึงพากลับมารักษา ตั้งใจว่าจะเลี้ยงเอาไว้เฝ้าสวน ข้าขอเลี้ยงมันนะเจ้าคะท่านแม่"มู่หรงฮูหยินที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าพร้อมกับยิ้มออกมาเล็กน้อย ด้านหลี่ฮูหยินก็เอ่ยกับหลี่จื่อเวยทันที"นี่จือจือ พ่อเจ้าพักนี้ล้มป่วยสุขภาพไม่ดี เจ้าจะเลี้ยงเอาไว้ทำไมกัน ไม่สู้นำมันมาตุ๋นน้ำแกงให้พ่อเจ้ากินไม่ดีกว่าหรือ มีที่ไหนกัน บิดาไม่สบายแทนที่จะหาของดีๆ มาบำรุง กลับเอามาเลี้ยงให้สิ้นเปลืองอาหารไปอีก"หลี่จื่อเวยที่ได้ยินเช่นนั้น จึงหันมามองหลี่ฮูหยิน ก่อนจะเอ่ย"ข้าจะเอามาเลี้ยง ไม่ได้จับมันมาตุ๋นน้ำแกงให้ผู้ใดกิน หากอยากหาอา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-22
  • สามีอยากดื่มสุราต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 12 กิจกรรมหลังต้นไม้

    เรื่องราวจบลงที่หลี่ฮูหยินและบุตรชายบาดเจ็บจนล้มป่วย ไม่บอกทุกคนก็เดาเรื่องราวออก สองแม่ลูกนั้นคิดจะจับเจ้าห่านมากินสินะ แต่เจ้าห่านกลับดุร้ายไม่ยอมให้จับโดยง่ายๆรุ่งเช้าวันต่อมา มู่หรงซานถูกหลี่จื่อเวยปลุุกขึ้นมาแต่เช้า นางบอกว่าให้เขาไปช่วยตัดต้นไผ่มาทำเล้าให้กับเจ้าห่าน รวมถึงไก่ป่าที่จับมาได้นางก็ทำเล้าให้มันอยู่ด้วย นางจะเลี้ยงมันเอาไว้เก็บไข่ขาย อย่างน้อยคงจะมีรายได้เพิ่มมาอีกทางหนึ่งด้วย เมื่อใดที่บ้านเมืองสงบ นางคิดจะเปิดร้านอาหารเล็กๆ สักหนึ่งร้านหารายได้มาใช้จ่ายหมุนเวียนมู่หรงซานตัดไผ่ไปก็หาวไป เขารู้เรื่องที่ห่านผีทุบตีคนตระกูลหลี่แล้วก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ เจ้าห่านนี่ก็น่าสนใจดี หากเอามันไปตีพนันคงได้เงินมาไม่น้อยระยะนี้เขาไม่ได้เล่นการพนันที่ไหนเลยด้วยซ้ำ รู้สึกว่าชีวิตเงียบเหงาและไร้รสชาติไปเสียหน่อย เมื่อคิดถึงสหายอย่างหวังเจี้ยนและจ้าวจิ้นเขาก็เศร้าใจขึ้นมาเล็กน้อย ตั้งแต่เกิดเรื่องก็ไม่ได้พบเจอสหายทั้งสองอีกเลยหลี่จื่อเวยแบกกระบุงเอาไว้บนบ่าพร้อมกับเดินไปรอบๆ กอไผ่ ก่อนจะพบกับหน่อไม้อวบอ้วนน่ากินหลายหน่อที่ทะลุหน้าดินขึ้นมา นางยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะนั่งลงและลงมือขุด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-22

บทล่าสุด

  • สามีอยากดื่มสุราต้องช่วยข้าทำสวน   ตอนพิเศษ

    หลี่จื่อเวยฟื้นกลับมา ทุกคนดีใจไม่น้อยเลย ด้านท่านหมอจ้าวและจ้าวจิ้นเองก็ไม่ได้ถามสิ่งใดให้มากความ คนฟื้นขึ้นมาแล้วก็นับว่าเป็นเรื่องดี จ้าวจิ้นนำยาบำรุงมามอบให้หลี่จื่อเวยหลายอย่าง บอกนางว่าขอเพียงตั้งใจบำรุงอย่างเต็มที่ย่อมหายดีในไม่ช้า หลี่จื่อเวยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองบุตรชายฝาแฝดของตนที่ยามนี้กำลังนอนหลับอยู่มู่หรงซานกอดนางเอาไว้ ราวกับกลัวว่านางจะหายไปจากเขาอีกยี่สิบห้าปีต่อมา"นั่นแหละดี เจ้าเทระวังหน่อยสิ สุรานี้ซื้อมาแพงนัก!!!"เสียงเอะอะโวยวายดังออกมาจากศาลาริมสระน้ำ มู่หรงซานที่กำลังเดินออกมาหลังจากตรวจตราบัญชีสินค้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาปรายตามองไปยังศาลาริมน้ำ ก่อนจะถอนหายใจออกมาคราหนึ่งนับแต่วันนั้นหลี่จื่อเวยก็ไม่อาจตั้งครรภ์ได้อีก ร่างกายของนางอ่อนแอเกินไป แต่เขากลับไม่ใส่ใจ ยามนี้บุตรชายสองคนเติบโตแล้ว อายุก็ยี่สิบต้นๆ นามว่า มู่หรงเสวียน และมู่หรงชางมู่หรงเสวียนนั้นนับว่าเอาการเอางาน ชอบอ่านตำรา สนใจการค้าขาย ถอดแบบหลี่จื่อเวยมาไม่มีผิดเพี้ยน ต่างจากมู่หรงชางที่วันๆ เอาแต่ดื่มสุรา เที่ยวหอนางโลม เล่นการพนัน ถอดแบบเขามาราวกับจับวาง เขาเตือนเท่าใดมันก็เถีย

  • สามีอยากดื่มสุราต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 30 ครองคู่และสร้างครอบครัวไปด้วยกัน (ตอนจบ)

    สองปีผ่านไป"ฮูหยินน้อย ออกแรงอีกหน่อยเถิดเจ้าค่ะ อีกหน่อย""อื้อ"เสียงร้องดังออกมาจากห้องเป็นระยะ สร้างความไม่สบายใจให้แก่ทุกคนเป็นอย่างมาก มู่หรงซานเดินวนเวียนไปมาหน้าห้องนอนอย่างไม่สบายใจ จนมู่หรงฮูหยินต้องเอ่ยปากเตือนขึ้นมา"ซานเอ๋อร์ เจ้าใจเย็นหน่อยเถิด สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้ เจ้าเดินวนไปเวียนมาข้าเวียนหัวหมดแล้ว""ท่านแม่ ข้าร้อนใจนี่ขอรับ นางเป็นเช่นไรบ้าง นี่ก็ข้ามวันข้ามคืนแล้วยังไม่คลอดอีก"เขาเอ่ยพร้อมกับขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะหันไปมองเฉินหลิ่น จ้าวจิ้นและหวังเจี้ยนที่กำลังเดินเข้ามา จ้าวจิ้นเอ่ยถามมู่หรงซานทันที"จือจือเล่าเป็นเช่นไรบ้าง ข้านำโสมอย่างดีติดมือมาด้วย เอาไว้ให้นางบำรุงร่างกาย""ขอบใจจ้าวมากนะอาจิ้น""อืม"ด้านเฉินหลิ่นก็เดินเข้ามาหามู่หรงซาน ก่อนจะเอ่ยเช่นเดียวกัน"ใจเย็นเถิด ยามที่ภรรยาข้าคลอดบุตรชายก็เป็นเช่นนี้"มู่หรงซานหันมาพยักหน้าให้เฉินหลิ่นคราหนึ่ง เฉินหลิ่นได้แต่งงานกับองค์หญิงจากในวังหลวง พวกเขาทั้งสองรักใคร่ทะนุถนอมกันเป็นอย่างดี อีกทั้งภรรยาของเฉินหลิ่นก็สนิทสนมกับหลี่จื่อเวยมาก เพราะสองจวนมักไปมาหาสู่กันอยู่บ่อยครั้ง เพราะพบเจอกันบ่อยครั้ง"ภรรย

  • สามีอยากดื่มสุราต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 29 คนบ้านรอง

    หลายวันต่อมา หลี่จื่อเวยที่กำลังกลับมาจากภัตตาคารจื่อซานก็ได้พบกับคนบ้านรอง ท่านอาของมู่หรงซาน ก็คือมู่หรงหยางนั่นเอง มู่หรงหยางมาพร้อมกับอาสะใภ้รองอวี้ซิน และลูกชายลูกสะใภ้ สภาพของคนทั้งหมดดูไม่ได้เลยแม้แต่น้อย หลี่จื่อเวยปรายตามองพวกเขาคราหนึ่ง ในใจพลันนึกถึงเรื่องราวในปีนั้นได้ ยามที่เกิดสงครามใหม่ๆ บ้านรองมารีดไถเงินจากบ้านหลักไปมากมาย ทำเป็นเก่งกล้าสามารถ แต่ท้ายที่สุดกลับไปไม่รอดอย่างเช่นวันนี้มู่หรงฮูหยินเองไม่ได้เอ่ยสิ่งใด เพียงเชิญคนเข้ามาในจวนเพื่อถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันตามมรรยาทมู่หรงหยางเล่าว่าหลังจากเดินทางไปที่บ้านเก่าของอวี้ซิน ฟางม่านม่านลูกสะใภ้ของเขาก็แท้งบุตร นับแต่นั้นก็ไม่อาจตั้งครรภ์ได้อีก บุตรชายก็ไม่เอาไหน ดื่มแต่สุราทั้งยังเที่ยวสตรีหอนางโลมไม่เว้นวัน สามีภรรยาทุบตีกันจนมู่หรงเฉินบุตรชายเขาแขนพิการ ฟางม่านม่านก็ขาหัก กลายเป็นคนพิการทั้งคู่ส่วนมู่หรงหยางและภรรยานั้นสิ้นเนื้อประดาตัว ถูกญาติพี่น้องฝั่งภรรยาคดโกงทรัพย์สินไปจนหมด จึงอดอยากจะมาหยิบยืมเงินจากคนบ้านหลัก เพราะรู้ว่ายามนี้คนบ้านหลักร่ำรวยมีเงินมากมายมู่หรงฮูหยินยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยกับน้องชา

  • สามีอยากดื่มสุราต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 28 ต่างเป็นสหายที่ดีต่อกัน

    หลายวันต่อมามู่หรงซานและหลี่จื่อเวยก็เดินทางมาที่เมืองหลวงพร้อมกัน ระยะทางจากหมู่บ้านหลิงซีมาที่เมืองหลวงนั้นไม่ได้ไกลกันเท่าใดนัก ระยะเวลาการเดินทางจึงไม่ได้ล่าช้าอย่างที่คิด สองสามีภรรยามาถึงเมืองหลวงในช่วงสายๆ เมื่อหาโรงเตี๊ยมสำหรับนอนพักหนึ่งคืนเรียบร้อยแล้ว มู่หรงซานและหลี่จื่อเวยจึงรีบไปดูจวนแห่งนั้นทันทีการเดินทางครั้งนี้มีลุงกู้ติดตามมาด้วย ลุงกู้พาเจ้านายไปดูที่ดินและจวนนั้นในทันที เมื่อหลี่จื่อเวยได้เห็นก็รู้สึกชอบมากเหลือเกิน จวนหลังนี้ขนาดพอดี ที่ดินก็เป็นทำเลเหมาะเจาะ อีกทั้งยังมีบ่อน้ำด้วยเจ้าของที่ดินเก่าร้อนเงินและต้องการเดินทางไปอยู่กับลูกชายที่ต่างเมือง จึงตัดใจขายจวนหลังนี้ในราคาสองพันตำลึงราคาอาจจะสูงไปสักเล็กน้อย แต่หลี่จื่อเวยจำคำของเจ้าห่านตัวผู้นั้นได้ดี มันบอกว่าให้นางตัดใจซื้อเสียอย่าได้ลังเล เมื่อคิดได้เช่นนั้นหลี่่จื่อเวยจึงตกลงซื้อในทันที ใช้เวลาครึ่งค่อนวันทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อยดี เจ้าของเดินรับเงินไปอย่างยินดีปรีดามู่หรงซานที่เห็นเช่นนั้นก็หันมาเอ่ยถามภรรยาตนทันที"ราคาไม่ได้น้อยเลย เจ้าตัดใจซื้อได้ลงจริงๆ หรือ""ดีกว่าเอาให้ท่านไปเล่นพนันก็แล้วกัน

  • สามีอยากดื่มสุราต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 27 กรรมตามสนอง

    เช้าวันนี้อากาศค่อนข้างแจ่มใส พืชผักที่ปลูกไว้ถูกเก็บเกี่ยวและนำไปขายจนหมดแล้ว ลุงกู้เองก็กลับมาพร้อมกับบอกว่าเขาขายผักได้หมด อีกทั้งยังขายได้ในราคาที่ดีมากอีกด้วย ตอนนี้เมืองหลวงคึกคักไม่น้อยเลย อีกทั้งยังได้ยินมาว่าในเมืองหลวงมีคนต้องการจะขายที่ดิน ซึ่งอยู่ติดกับตลาดพอดี หลี่จื่อเวยจึงตั้งใจว่าจะเดินทางไปดูที่ทางเสียหน่อยการตายของหลี่อินและจุดจบของสามแม่ลูกไม่ได้ส่งผลใดต่อคนตระกูลมู่หรงเลยแม้แต่น้อย บิดาของนางเองก็เสียใจอยู่เพียงไม่กี่วันก็ไม่ได้แสดงท่าทีใดอีก หลี่จื่อเวยกำลังล้างผักอยู่ในครัว วันนี้นางตั้งใจว่าจะทำข้าวเหนียวไก่ห่อใบบัวเสียหน่อย เมื่อจัดการเตรียมทุกอย่างพร้อมจึงได้เริ่มทำอาหาร ใช้เวลาอยู่ครึ่งค่อนวันทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย หลี่จื่อเวยจึงนำอาหารมาให้ห่านสองตัวนั้นต่อทันทีเมื่อเข้ามาก็พบว่าเจ้าห่านสองตัวกำลังกอดก่ายกันอย่างรักใคร่กลมเกลียว หลี่จื่อเวยวางอาหารลงตรงหน้ามันก็กินอย่างไม่รีบไม่ร้อน เมื่อกินอิ่มแล้ว หลี่จื่อเวยจึงเอ่ยถามทันที"นี่เจ้าห่านตัวผู้ อีกไม่นานข้าคงต้องย้ายไปอยู่ที่เมืองหลวงแล้ว หากข้าอยากเปิดร้านอาหาร แล้วต้องการใช้บ่อน้ำวิเศษ แต่ไม่สามารถนำม

  • สามีอยากดื่มสุราต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 26 วางแผนย้ายที่อยู่

    เมื่อสามแม่ลูกมหาประลัยย้ายออกจากบ้านสวนไปแล้ว ทุกคนต่างถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจไม่น้อย ด้านบิดาของหลี่จื่อเวยก็รู้สึกผิดไม่น้อย หลี่จื่อเวยเองก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดอีก เรื่องที่แล้วก็ให้แล้วไปเถิด นางไม่่ได้ติดใจอยากจะเอาความใดมากไปกว่านี้เช้าวันต่อมาหลังจากกินมื้อเช้ากันเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลี่จื่อเวยและมู่หรงซานก็ตัดสินใจเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับห่านสองตัวนั้นให้แม่สามีได้ฟัง เพราะตอนนี้สามแม่ลูกนั่นออกจากบ้านสวนไปแล้ว ย่อมไม่มีสิ่งใดน่าเป็นกังวลอีกแล้ว มู่หรงฮูหยินที่ได้ยินเช่นนั้นเดิมทีก็ไม่อยากจะเชื่อเท่าใดนัก แต่เมื่อได้เห็นตั๋วเงินมากมายที่เก็บเอาไว้ในห้องนอนของบุตรชายและสะใภ้ นางก็ถึงกับอ้าปากตาค้างเงินนี่มันมากมายเหลือเกินนางไม่ได้ถามว่าเพราะเหตุใดหลี่จื่อเวยจึงคิดมาบอกนางเอาป่านนี้ นางเองเข้าใจว่าทุกอย่างล้วนมีเหตุผลของมันหลี่จื่อเวยจับมือของมู่หรงฮูหยิน ก่อนจะเอ่ย"ข้าต้องขออภัยท่านแม่ที่ไม่ได้บอกกล่าวให้เร็วกว่านี้ เพราะข้าไม่ไว้ใจสามแม่ลูกนั้น ยามนี้พวกนางจากไปแล้ว ข้าจึงวางใจอยากบอกท่าน ท่านแม่เจ้าคะ ยามนี้เมืองหลวงเองก็เจริญมากแล้ว พวกเราไปหาที่ทางทำกินในเมืองหลวงกันดีห

  • สามีอยากดื่มสุราต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 25 แผนไม่สำเร็จ

    ด้านหลี่หยวนนั้น เขาใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวงไม่น้อย ไม่กล้าออกไปเที่ยวเล่นอีก เพราะกลัวว่าพวกนักเลงจะตามมาคิดบัญชีกับเขา เพราะน้องสาวตัวดีของเขาคนเดียวเลยที่วางเแผนเช่นนี้ออกมา สุดท้ายคนที่ลำบากจึงเป็นเขา หลี่อินเองก็ด่าทอพี่ชายว่าไร้ความสามารถ สองพี่น้องทำสงครามเย็นไม่พูดไม่จากันเลยแม้แต่คำเดียว หลี่ฮูหยินเองก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติ แต่ทว่าไม่ได้เอ่ยถามสิ่งใด คิดว่าคงเป็นเพียงเรื่องที่พี่น้องทะเลาะกันปกติธรรมดาทั่วไป นางเองตั้งแต่ถูกห่านบ้านั่นกระโดดตีก็รู้สึกว่าร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง เดินนิดหน่อยก็เหนื่อยล้ามากแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นนังสารเลวหลี่จื่อเวยที่นำห่านบัดซบนั้นมา จึงทำให้เกิดเรื่องกับนางเช่นนี้หลังจากที่หลี่จื่อเวยหายดีแล้ว ก็ได้กลับมาเปิดร้านขายน้ำเต้าหู้และบะหมี่เช่นเดิม วันนี้จ้าวจิ้นแวะมาซื้อน้ำเต้าหู้ จึงได้ไถ่ถามหลี่จื่อเวย"นี่หลี่จื่อเวย อาการเจ้าหายดีแล้วกระมัง"หลี่จื่อเวยยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะตอบ"ดีแล้วเจ้าค่ะ ขอบคุณท่านมากที่นำยาอย่างดีมามอบให้ข้า""เรื่องเล็กน่า วันนี้ท่านพ่อข้าอยากดื่มน้ำเต้าหู้และบะหมี่ผักร้านเจ้า จึงให้ข้ามาซื้อไป"หลี่จื่อเวยที่ได้ยินเช่นนั้นก

  • สามีอยากดื่มสุราต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 24 ด่าทอ

    ท้ายที่สุดพวกนักเลงก็ถูกจับตัวไปไต่สวน แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้เบาะแสใดมากนัก เพราะพวกมันเองก็ไม่รู้ว่าคนที่มาจ้างวานเป็นผู้ใดกัน รู้เพียงว่าหน้าตาหล่อเหลาใช้ได้ คล้ายว่าจะเป็นบุตรคนมีฐานะ อีกทั้งยังจ่ายค่าจ้างมาแค่ครึ่งเดียว บอกว่าหากงานสำเร็จจะจ่ายในส่วนที่เหลือให้แก่พวกเขาทีหลังเฉินหลิ่นเพียงจับพวกมันทำโทษไปเล็กน้อย เพราะพยานหลักฐานมีไม่มาก จึงไม่อาจจัดการคนส่งเดชได้ แต่พวกมันก็คงไม่กล้าแล้ว เพราะครั้งนี้เขาจัดการสั่งสอนพวกมันไปไม่น้อยเฉินหลิ่นถอนหายใจออกมา ไม่รู้เพราะเหตุใดระยะนี้จิตใจของเขาค่อนข้างสับสนวุ่นวายเป็นอย่างมาก เขาเอาแต่คิดถึงหลี่จื่อเวย เป็นเช่นนี้จนเขาเองก็ไม่สบายใจ ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า รักครั้งแรกจะเกิดขึ้นกับสตรีที่มีสามีแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อยด้านหลี่จื่อเวยนั้นก็กลับมาที่บ้านสวนพร้อมกับมู่หรงซานและเถาเถา มู่หรงฮูหยินที่เห็นว่าลูกสะใภ้ได้รับบาดเจ็บจึงรีบเอ่ยถามทันที"จือจือ เกิดเรื่องใดขึ้นกัน เหตุใดเจ้าจึงบาดเจ็บเช่นนี้"มู่หรงซานวางหลี่จื่อเวยลงบนเก้าอี้อย่างทะนุถนอม ก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้มารดาของตนฟังทั้งหมด มู่หรงฮ

  • สามีอยากดื่มสุราต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 23 สร้างความยุ่งยาก

    เมื่อกินอาหารจนอิ่มแล้ว เฉินหลิ่นจึงลุกขึ้นก่อนจะนำเงินมาจ่ายค่าอาหารให้หลี่จื่อเวย เขาเงยหน้ามองท้องฟ้า พบว่ายามนี้ท้องฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว จึงเอ่ยถามนางทันที"เจ้ายังไม่เก็บร้านหรือ ท้องฟ้ามืดแล้ว ไม่มีคนมาช่วยหรือ"ใจของเขาอยากจะถามว่าสามีเจ้าไม่มาช่วยหรือ หายหัวไปที่ใด แต่เขากลับคิดว่าคงไม่เหมาะเท่าใดนักหลี่จื่อเวยยิ้มให้เฉินหลิ่นคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"วันนี้ได้ยินว่าที่บ้านมีงานให้ทำมากกว่าทุกวัน สามีข้าจึงมาช้าน่ะเจ้าค่ะ อีกเดี๋ยวก็คงจะมาแล้ว ขอบคุณใต้เท้าที่มีน้ำใจไต่ถาม""อืม ที่นี่ยังมีพวกนักเลงที่ป่าเถื่อนซ่อนตัวอยู่หลายคน พวกมันก่อเรื่องทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนอยู่หลายครั้ง เจ้าระวังตัวด้วยเล่า หากขายหมดเร็วก็รีบกลับบ้านก่อนฟ้ามืดจะดีกว่า""ขอบคุณเจ้าค่ะใต้เท้า"เฉินหลิ่นเห็นว่าไม่มีสิ่งใดจะพูดคุยกันต่อแล้ว เขาจึงจากไปทันที ด้านหลี่จื่อเวยนั้นก็หันมาเอ่ยกับเถาเถาทันที"นี่เถาเถา ไหนเจ้าบอกว่ามู่หรงซานกำลังจะมาแล้วอย่างไรเล่า"เถาเถาสาวใช้น้อยที่กำลังจัดเก็บถ้วยชามเงยหน้าขึ้นมามองหลี่จื่อเวยคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"บ่าวไปแจ้งนายน้อยแล้วนะเจ้าคะ แต่นายน้อยบอกว่าขอปรับหน้าดินต่ออีกสักหน่

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status