บทนำ
“แง ๆ ” เสียงกระจองอแงของเด็กหญิงดังลั่นบ้าน ทำให้เด็กชายอายุสิบเอ็ดขวบรีบวิ่งเข้ามาหา ในมือเขามีกล่องปฐมพยาบาลขนาดใหญ่ แพรวาชี้แผลบนเข่าพลางร้องไห้โฮ น้ำตาไหลอาบใบหน้าจิ้มลิ้ม ทำให้คนเป็นพี่รู้สึกสงสาร
“แพรไปเล่นซนมาหรือ ได้แผลอีกแล้ว” น้ำเสียงอ่อนโยนถามขึ้น เขาเปิดกล่องปฐมพยาบาล หยิบแอลกอฮอลล์กับสำลีพร้อมทิงเจอร์ดีนออกมา
“แพรแค่ปีนไปเก็บมะม่วงแล้วตกลงมา ก้นจ้ำเบ้าเลย” เด็กหญิงวัยสี่ขวบร้อง ธีระหัวเราะเสียงเบาก่อนจะรีบทำแผลให้
ท่าทางจริงจังของเขาและสัมผัสอ่อนโยนทำให้เธอยิ้มออกมา ทุกครั้งเวลาเจ็บตัวก็เป็นพี่ชายข้างบ้านคนนี้ที่ช่วยรักษา
เธอรู้ว่าเขาฝันอยากเป็นหมอ เนื่องจากเป็นอาชีพที่มีเกียรติและมั่นคง
เวลาแพรวาเล่นซนจนบาดเจ็บก็ได้ธีระคอยช่วยเหลือ เธอนั้นทั้งรักและเทิดทูนเขา
เฝ้ารอจะได้เห็นอนาคตอันสดใสของอีกฝ่าย อยากจะได้เห็นเด็กชายในชุดกาวน์หมอ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เด็กน้อยในอดีตก็โตขึ้นกลายเป็นหนุ่มสาว รักวัยใสอันบริสุทธิ์แปรเปลี่ยนเป็นรักในเชิงโรแมนติก
แต่อนิจจา..เด็กห้าวแก่นแก้วในวันนั้นกลับเลือกที่จะซ่อนเก็บความในใจไว้กับตัว เธอฝังมันไว้ลึกสุด ไม่ให้ใครได้ล่วงรู้ถึงความในใจ
ใครจะกล้าบอกว่าตนแอบชอบพี่ชายข้างบ้านที่เล่นด้วยกันแต่เด็ก ยิ่งอีกฝ่ายไม่ได้มีท่าทีสนใจเธอ ยิ่งแล้วใหญ่
เธอเป็นผู้หญิง นิสัยของผู้หญิงคือต่อให้จะชอบฝ่ายชายมากแค่ไหนแต่เธอไม่มีวันเปิดเผยความในใจออกไป ดังนั้นจึงไม่กล้าบอกรักผู้ชายก่อน
เพื่อเก็บซ่อนความลับ เธอจึงหันไปตีสนิทกับตฤณ พี่ชายของธีระแทน
ความสัมพันธ์ของเธอกับหมอหนุ่ม นานวันยิ่งห่างเหิน จากเพื่อนในวัยเด็กแปรเปลี่ยนเป็นแค่คนรู้จัก จากคนรู้จักแปรเปลี่ยนเป็นคนแปลกหน้า
ธีระกลายเป็นคุณหมอออร์โธฯ หมอกระดูก ฝีมือดี อนาคตสดใส
ที่สำคัญเขากำลังปลูกต้นรักกับพราวลดา น้องสาวของเธอ
แพรวาไม่รู้ว่าทั้งสองคนคบกันเมื่อไหร่ แต่หลังจากเธออยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่หก ทั้งสองฝ่ายก็เป็นแฟนกันแล้ว แม้จะสงสัยว่าทั้งสองคนคบกันได้อย่างไร แต่เธอก็รู้สึกยินดีที่ทั้งสองคนคบกัน
พราวลดาเป็นเด็กหน้าตาสะสวย น่ารัก เรียบร้อย คำพูดคำจาอ่อนหวาน
ตรงกันข้ามกับเธอที่ลุคห้าวยิ่งกว่าทอมบอย เป็นจอมทโมน หาความเป็นกุลสตรีไม่ได้
ธีระจะไม่ชอบเธอก็ไม่เห็นแปลก ยิ่งอีกฝ่ายพูดน้อยราวกับผ้าพับเสียขนาดนั้น อย่างไรก็ต้องหาคนรักที่นิสัยเหมือนกันเป็นธรรมดา
แพรวาเลยระเห็จไปเรียนหมอที่เชียงใหม่ นอกจากจะไกลจากทั้งสองคนแล้วยังได้รักษาแผลใจ
เธอตั้งใจว่าจะเป็นหมอเด็กเพราะอยู่กับเด็กแล้วได้คลายเครียด ไม่ต้องคิดถึงเรื่องอะไรให้ทุกข์ เรียนจบแล้วก็กลับมางานหมั้นของน้องสาวที่กรุงเทพ
พราวลดากำลังจะหมั้นกับธีระ...
ตอนแรกที่รู้ข่าว จิตใจของหญิงสาวเต็มไปด้วยความทุกข์ ไม่คิดเลยว่าคนที่เธอแอบชอบกำลังจะไปได้สวย...
เพราะอึดอัดมากกับเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เธอจึงแอบมาร้องไห้คนเดียวที่สวนหลังบ้าน
เมื่อถึงเวลาตกดึก น้ำตาของหญิงสาวก็ยังคงไหลจนอาบแก้มใส
เธอไม่รู้จะทำอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น จะขอให้ทั้งสองถอนหมั้นก็ไม่มีความกล้าพอ
เธอรักน้องสาวยิ่งกว่าชีวิตตัวเอง อยากให้น้องสาวมีความสุขกับผู้ชายที่รัก แต่ใจหนึ่งก็อยากให้ผู้ชายที่รักมองตน
เพราะเจ็บจนใจเจียนขาด หญิงสาวถึงไม่อยากมางานหมั้น
ไม่ใช่เจ็บธรรมดา แต่มันแสลงในอก ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นงานมงคลของน้องสาว เธอก็คงจะไม่มาเหยียบที่นี่
พราวลดาดูมีสีหน้าสบายใจเมื่อเห็นหน้าพี่สาวสุดที่รัก ไม่รู้เลยว่าคนเป็นพี่สาวรู้สึกแย่แค่ไหน
“พี่แพร เดินทางมาเป็นอย่างไรบ้างคะ”
“พี่เหนื่อย ขอพักก่อนนะ ของฝากจากเชียงใหม่พี่เอาให้จุ๊บแจงแล้ว น้องกำลังจัดขนมให้ พราวกินได้เลย พี่ขอพักสักหน่อย” หญิงสาวตัดบท หอบร่างกายอิดโรยพร้อมสัมภาระขึ้นบันไดไป
หญิงสาวเอาข้าวของไปเก็บ ย้ายของจากในกระเป๋าไปไว้ในตู้ เธอเปิดผ้าม่านออกเพื่อให้แสงเข้าห้องบ้าง พลังงานดี ๆ จะได้เข้ามา
เมื่อผ้าม่านถูกเปิดออก สายตาของร่างเล็กก็หันไปสบกับห้องของธีระอย่างช่วยไม่ได้
ชายหนุ่มชอบนั่งทำงานและออกกำลังกายในห้อง ด้วยความที่ห้องอยู่ตรงข้ามกับห้องของเธอ บางครั้งก็เห็นอีกฝ่ายเป็นเงาไหว ๆ ไม่รู้ทำไมวันนี้ผ้าม่านถูกดึงลง ไฟในห้องก็ไม่เปิด ซ้ำยังไม่มีวี่แววของมาเซราติคันงามจอดอยู่หน้าบ้าน
หญิงสาวจึงอดเป็นกังวลไม่ได้ ปกติเขาเข้าบ้านเร็ว ไม่อยู่ข้างนอกช่วงหัวค่ำเลย ธีระเป็นเด็กอนามัย เข้านอนเร็ว ตื่นเช้า
เธอไม่รู้ว่าเขาออกไปไหน…
แพรวารู้สึกเครียดที่ไม่เจอหน้า กำลังจะล้มตัวลงนอนแต่ก็นอนไม่หลับ
พอดีกับที่ตฤณโผล่หน้าเข้ามาในบ้าน เขาเพิ่งทราบว่าหญิงสาวกลับจากเชียงใหม่จึงอดไม่ได้ที่จะเชิญเธอไปเปิดหูเปิดตา
ตฤณสนิทกับแพรวามาก ใคร ๆ ต่างมองว่าสองคนนี้เป็นพี่ชาย-น้องสาวกัน จะมีก็แค่ธีระกับพราวลดาที่คิดว่าทั้งสองคบกัน
แพรวาไม่ได้คิดกับตฤณในฐานะคนรัก เธอมองเขาเป็นพี่ชายที่พึ่งพาได้ เวลามีเรื่องเดือดร้อน หญิงสาวมักจะให้ตฤณมาช่วยเหลือตนเสมอ
ในบางครั้งทั้งสองมักจะหัวเราะต่อซิกกัน ทำให้ธีระกับพราวลดาคิดว่าทั้งสองคนซุ่มปลูกต้นรัก
แต่แพรวาไม่คิดรักอีกฝ่าย แม้ร่างสูงจะเป็นอาจารย์หมอฝีมือฉกาจ แต่เขามีนิสัยเจ้าชู้ เป็นตัวพ่อเพลย์บอย ขึ้นเตียงกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า แพรวาจึงไม่เข้าใกล้มาก
ตฤณเองก็รู้ดีว่าหญิงสาวคงจะกลัวเขาในเรื่องนี้ จึงลดดีกรีความเจ้าชู้ลงเมื่ออยู่ใกล้ จะมีก็แต่พราวลดาเท่านั้นที่เขาเคยรุ่มร่ามใส่ แปลกที่ตฤณไม่คิดปิดบังความต้องการของตนเมื่ออยู่ใกล้น้องสาวของแพรวา
พราวลดาเคยเห็นอีกคนควงนักศึกษาแพทย์ในห้องเรียน เธอลืมของเอาไว้ตอนเรียนก็เลยกลับขึ้นมาเอา
ไม่คิดว่าจะเห็นภาพชายหญิงอย่างตฤณกับนักศึกษาระเริงรักอยู่ในห้อง
หนังสดที่ว่าทำเอาเธอหน้าม้าน รีบเก็บของกลับบ้านทันที เสียงหัวเราะไล่ตามหลังมาของอาจารย์หมอบ้ากามนั่นยังติดอยู่ในหู
จากนั้นมาตฤณก็กลายเป็นอาจารย์ในแบล็กลิสต์ที่พราวลดาไม่คิดจะอยู่ด้วยสองต่อสอง เธอรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นหนุ่มหน้าตาดี แต่การทำแบบนี้ในสถานศึกษาก็ดูจะเกินงามไปหน่อย
พราวคงไม่ได้มาแอบดูพี่เล่นหนังสดเพราะชอบพี่หรอกใช่ไหม
คำพูดนั้นยังติดอยู่ในหูของหญิงสาว สลัดไม่ออก เขากับธีระนั้นแตกต่างกันสุดขั้ว
ตฤณคือไฟ ธีระคือน้ำ แน่นอนว่าเธอชอบคนที่นิสัยอ่อนโยนไม่ใช่คนตัวโตที่หายใจเข้าออกก็เป็นเรื่องอย่างว่า
พอเห็นอีกฝ่ายมาหาพี่สาวของตน พราวลดาก็รู้สึกไม่สบายใจ เกรงว่าจะอีกฝ่ายจะทำอะไรรุ่มร่ามใส่พี่สาว
ตฤณเห็นอาการร้อนรนของคนเป็นน้องสาวก็รู้สึกสนุกที่ได้เย้า เขารู้ว่าน้องชายตัวเองกำลังจะหมั้น อีกไม่นานก็จะได้แต่งงาน แต่นั่นแล้วอย่างไร หากเขามีความสุขที่จะได้หยอกเธอ นั่นก็เป็นเรื่องของเขา
แพรวาลุกขึ้นมาจากเตียงพอดีตอนที่ตฤณมาถึง
ชายหนุ่มขึ้นมาหาเธอก่อนจะชวนออกไปเที่ยวข้างนอก หญิงสาวรู้สึกมึนหัว เธอเพลียเพราะเพิ่งลงมาจากเครื่องบิน กว่าจะมาถึงได้ก็ค่ำ
แพรวาไม่อยากออกไปไหนรวมถึงไม่อยากกินอะไรด้วย
“ไปบาร์กับพี่สักหน่อยสิแพร”
“แพรไม่ดื่ม พี่ก็รู้” หญิงสาวบอก แต่ตฤณคะยั้นคะยอ เขาไม่ได้เจอเธอนาน อยากหาเวลาออกไปเที่ยวเล่นด้วยกัน แต่อีกฝ่ายกลับปฏิเสธ
“งั้นไปร้านอาหารที่มีบาร์กัน” เขาชวน
“แพรไม่อยากกินอะไร”
“ออกไปเปิดหูเปิดตาสักหน่อย นาน ๆ ทีแพรได้กลับมากรุงเทพ พี่อยากพาไปกินข้าวร้านอร่อย ๆ ในโรงแรม เพื่อนพี่ก็ไป”
“...”
หญิงสาวคิดอยู่ครู่ใหญ่ เธอตั้งใจจะปฏิเสธ แต่เมื่อเห็นหน้าของอีกฝ่ายก็ตัดสินใจพยักหน้ารับ
ไหน ๆ มากรุงเทพแล้วการไปเปิดหูเปิดตาตอนกลางคืนก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่น้อย
แพรวาแต่งตัวในลุคสบาย ๆ เตรียมออกจากบ้าน เธอแต่งตัวในชุดเดรสกระโปรงสีขาวรัดรูป ยาวถึงหัวเข่า ตฤณถึงกับตะลึงเมื่อเห็นภาพเบื้องหน้า
“แพร สวยมากเลย”
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวไหว้รับ
“สวยขนาดนี้เพื่อนพี่คงตะลึงเมื่อได้เห็น” ชายหนุ่มหัวเราะ แพรวารู้สึกขัดเขิน เธอยื่นมือให้ชายหนุ่มจับ
ที่ที่พวกเขาทั้งสองคนจะไปเป็นโรงแรมที่ชั้นบนสุดเป็นภัตตาคารกับบาร์ มันตกแต่งอย่างหรูหรา มีแชนเดอเลียร์ประดับอยู่ด้านบน ภัตตาคารจะเป็นห้องแอร์แต่ส่วนบริเวณบาร์จะอยู่ด้านนอก เหมาแก่การออกไปเดินเล่นรับลม
บรรยากาศตอนกลางคืนของเมืองในกรุงเทพทำให้หญิงสาวรู้สึกคึกครื้น รถสปอร์ตเปิดประทุนที่เธอนั่งทำให้รู้สึกได้ถึงสายตาที่จับจ้องจากคนรอบข้าง อาจเพราะว่าตฤณหล่อและมีคลาส เธอจึงถูกจับตามองไปโดยปริยาย
เมื่อรถแล่นมาถึงที่โรงแรม เจ้าของผิวนวลเนียนก็ลงจากรถก่อนจะเข้าลิฟต์ไป
“ขอทางหน่อยนะครับ วันนี้มีงานเลี้ยงแต่งงาน คนเยอะนิดหนึ่ง” รปภ.ช่วยกดลิฟต์ให้ เขาส่งยิ้มให้แพรวาก่อนจะหันมาพยักหน้าให้กับตฤณ
คนในลิฟต์ดูแน่นขนัดเนื่องจากโรงแรมจัดงานแต่งให้กับบ่าวสาว คนที่ขึ้นไปกินอาหารบนภัตตาคารจึงต้องใช้ลิฟต์ร่วมกับคนที่ไปงานแต่ง
หญิงสาวอยู่ในชุดเดรสสีขาวรัดรูป ใบหน้าแต่งแต้มเครื่องสำอางเล็กน้อย แต่กระนั้นดึงดูดความสนใจจากผู้ชายได้เป็นอย่างดี
อาจเพราะว่าเธอมีเครื่องหน้าจิ้มลิ้มน่ารัก ผิวพรรณขาวสะอาดสะอ้าน ทรวงทรงองค์เอวก็ดี จึงเป็นจุดสนใจของเพื่อนตฤณ ไม่ใช่แค่ผู้ชายแต่ผู้หญิงเองก็รู้สึกเอ็นดูด้วยเช่นกัน
“นี่น้องสาวตฤณเหรอ น่ารักจังเลย” เพื่อนสาวของตฤณชมไม่ขาดปาก เธอชื่อแองจี้ ท่าทางจะเป็นหัวโจกในกลุ่ม
“แพรวา นี่แองจี้...ส่วนแองจี้นี่แพรวา” ตฤณแนะนำให้ทั้งสองคนได้รู้จักกัน
“สวัสดีค่ะ พี่แองจี้” หญิงสาวยกมือไหว้ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ เธอ แองจี้รู้สึกประทับใจมากจึงสั่งเหล้ามาเลี้ยงหญิงสาว แต่ตฤณกลับยั้งมือไว้เพราะรู้ว่าแพรวาไม่ดื่มเหล้า เขาสั่งอาหารเบา ๆ รวมถึงเลือกค็อกเทลล์ให้ เป็นค็อกเทลล์ที่รสชาติกลมกล่อม ไม่แรงเกินไป
เมื่อนั่งลงได้ แพรวาก็มองซ้ายมองขวาเพื่อสำรวจสิ่งรอบข้าง ภัตตาคารนี้ดีที่มีดนตรีมาเล่นให้ฟัง แต่เพลงที่เล่นก็เป็นเพลงเศร้า นั่นทำให้อดคิดถึงธีระไม่ได้
¯ ถึงฉันไม่ได้ต้องการจะไป แต่ยังไงก็คงจะต้องลา (บาย บาย บาย) เมื่อเธอนั้นให้คำตอบมาทางสายตา ก็คงต้องยอมจำนนกับคนไม่มีใจ ยอมจำลา แม้ว่ารักสักเท่าไหร่ ไม่จำเป็นว่ารักฉันแค่ไหน (มากมาย) แค่เธอไม่ได้รักก็แค่นั้น ¯
อีกฝ่ายจะเป็นอย่างไรแล้วทำอะไรอยู่ที่ไหนบ้างก็ไม่รู้ หญิงสาวคิด นั่งฟังเพลงไปเรื่อย ๆ มีทั้งเพลงจำนนและเพลงปลิว
¯ อยู่ภายในใจเป็นหมื่นล้านคำ บอกให้เธอฟังไม่ได้สักคำ เปล่งได้แค่เสียงเบา ๆ ในยามลำพังว่าฉันรักเธอ ฉันรักเธอ อยากให้ได้ยินคำในใจหัวใจ แต่มันคงเบาไปไม่ถึงเธอ หนึ่งคำว่ารักคงปลิวไปตามแรงลมก่อนถึงใจเธอ แล้วก็คงสลายไป ¯
น้ำตาเริ่มเอ่อล้นขอบตา แพรวาซับน้ำตาก่อนทิ้งทิชชู่ลงใต้โต๊ะ
อาหารค่อย ๆ ทยอยมาเสิร์ฟ มีทั้งข้าวผัด กุ้งล็อบสเตอร์ ยำหมูมะนาว รวมไปถึงอาหารฝรั่ง
ร่างบางกินน้อย ส่วนมากเลยมองดูคนอื่นนั่งเล่นพูดคุยเสียมากกว่า
ขึ้นชื่อว่ามาภัตตาคารกับบาร์ ตามสเต็ปของชายหนุ่มเพลย์บอย ตฤณเลยแวะไปหาสาวโต๊ะอื่น ทักทายผู้หญิงภายในงานอย่างเอิกเกริก ทิ้งให้เธออยู่กับเพื่อนของเขาลำพัง
“หนูเอาเหล้าไหม ไอ้ตฤณมันไม่อยู่โต๊ะละ ดื่มได้ ๆ” พี่สาวคนสวยข้างตัวส่งแก้วเหล้าให้ แพรวาปฏิเสธ แต่สุดท้ายก็ต้องรับมาดื่มเมื่อเห็นอีกฝ่ายคะยั้นคะยอ แองจี้บอก
“หนูดื่มเถอะ ดื่ม ๆ เข้าไป พี่เลี้ยงเอง” เธอว่าก่อนจะเทเหล้าดีกรีแรงให้ แพรวารับไปดื่ม
เสียงดนตรีผสมกับเสียงพูดคุยของคนทำให้ราตรีนี้ไม่เงียบเหงา แต่เสียงเพลงเศร้าอกหักทำให้จิตใจของหญิงสาวขุ่นมัว ยิ่งคิดถึงชายหนุ่ม น้ำตายิ่งไหลนองหน้า
พรุ่งนี้เป็นวันที่ทั้งสองคนจะหมั้นกันอย่างมีความสุข ได้กระชับความสัมพันธ์ไปอีกขั้น
น่าเศร้าที่ว่าที่เจ้าบ่าวไม่เคยรับรู้ความในใจที่เก็บมาหลายปีของเธอเลย เธอไม่กล้าบอกเขาเพราะกลัวเขาไม่ชอบเธอ
สุดท้ายก็เป็นน้องสาวที่บอกชอบอีกฝ่ายและได้หมั้นกัน
คิดถึงตรงนี้ใบหน้าหวานก็เศร้าลง
จากคนที่ไม่ดื่มกลายเป็นดื่มเหล้าเสียจนเมา เธอแค่อยากลืมใครสักคนเท่านั้น แม้จะรู้ว่าลืมได้ยากก็ตาม
หญิงสาวหน้าแดงแจ๋ สติสัมปชัญญะไม่อยู่กับตัว อาจเป็นเพราะเมามากทำให้ทรงตัวไม่ค่อยอยู่ เธอสะเปะสะปะควานหากระเป๋าของตนแล้วขอตัว
“แพรขอไปห้องน้ำก่อนนะคะ” บอกแองจี้แล้วเดินเข้าไปในอาคาร ไม่รู้เลยว่าเพื่อนของตฤณคนหนึ่งได้จุดยิ้มบนใบหน้า เดินตามหลังหญิงสาวไป
ร่างบางวักน้ำล้างหน้า เธอยืนพิงอ่างล้างมือก่อนจะกุมขมับ รู้สึกปวดหัวตุบ ๆ น้ำตาเอ่อล้นท่วมใบหน้างาม เธอตบหน้าเรียกสติตัวเอง วักน้ำล้างหน้าอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ยังไม่สร่างเมา
พอเดินออกไปนอกห้องน้ำ ร่างเล็กก็ซวนเซจะล้ม โชคดีที่ได้เพื่อนของตฤณพยุงไว้
“เราชื่อแพรใช่ไหม พี่ชื่อคิมนะ” แนะนำตัวเองเสร็จก็ยิ้ม เขาแอบมองเธอตั้งแต่ตอนที่ตฤณพามาแนะนำตัวแล้ว เห็นว่าอีกฝ่ายสวยน่ารัก ตรงสเป็ก แต่ไม่มีโอกาสได้เข้ามาคุยด้วย
ไม่คิดว่าจะได้อยู่สองต่อสองด้วยกัน ยิ่งอีกฝ่ายเมาไม่ได้สติยิ่งทำให้ชายหนุ่มอยากจะลิ้มลองเนื้อหวาน ๆ ที่กองอยู่ตรงหน้า
มือปลาหมึกของเขาค่อย ๆ โอบรอบเอว แพรวาสะดุ้ง เธอรู้ทันทีว่าอีกคนคิดอย่างไร ได้แต่ผลักตัวหนีอีกฝ่าย หญิงสาวพยายามรวบรวมสติที่ไม่คงที่บอกความต้องการออกไป
“แพรอยากกลับบ้าน”
“อยู่กับพี่ก่อนสิ พี่มีเรื่องอยากคุยกับแพรตั้งเยอะ” คิมจ้องด้วยสายตากะลิ้มกะเหลี่ย ร่างบางยกมือขึ้นปิดหน้าอกตัวเองทันที เธอกำลังจะร้องขอให้คนมาช่วย แต่อีกฝ่ายดันเธอเข้าไปในห้องน้ำชายเสียก่อน ร่างบางทันเห็นธีระเดินออกมาจากลิฟต์
เขาอยู่ในชุดสูทสีขาว ลักษณะเหมือนเพิ่งออกมาจากงานเลี้ยง ธีระใส่แว่นกรอบสีทอง รอยยิ้มบนใบหน้าคมหายวับเมื่อเห็นฉากตรงหน้าจะ ๆ
เขาตามเข้ามาในห้องน้ำชาย ก่อนจะเห็นท่าทางของคิมที่ดูคุกคามหญิงสาวอย่างเห็นได้ชัด ธีระอดไม่ได้ที่จะเข้ามาแทรก คนเลวจึงเอ่ยขึ้น
“มึงมายุ่งอะไรเรื่องผัวเมีย”
“ผัวเมีย?” ร่างสูงมองหน้าหญิงสาวก่อนจะหันกลับไปมองอีกฝ่าย ใบหน้าหล่อพ่นลมหายใจออกมา นึกหยันอีกคนอยู่ในที คิมรู้ว่าคนเบื้องหน้าต้องคิดว่าเขาไม่เหมาะสมกับเธอ
แน่ล่ะ อีกคนเหมือนนางฟ้า อีกคนคือยักษ์หน้าตาแย่
“ผู้หญิงไม่ยอมก็ปล่อยเขาไป เตือนแล้วนะหรือว่าแกอยากจะไปคุยกับตำรวจ อยากนอนในตะรางก็ไม่บอก” เสียงเรียบออกมาจากปาก คิมดูไม่อยากปล่อยแพรวาไป เธอหน้าตาดีถูกใจเขาทุกอย่าง เสียอย่างเดียวคือเล่นตัวจนมีอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วย
“มึงเป็นใคร มายุ่งอะไรด้วย”
ธีระไม่ตอบ แต่กดเบอร์โทรศัพท์เรียกรปภ. เขาไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด
รปภ.โรงแรมรีบเข้ามาเมื่อทราบเรื่อง
พอเห็นธีระ คนที่อุปถัมป์โรงแรมมาตลอดก็รีบช่วยเหลือทันที
“ขอเชิญคุณคิมทางด้านนี้ด้วยนะครับ” เขาบอก คิมไม่ปล่อยมือจากแพรวาง่าย ๆ เขาบีบแขนจนร่างเล็กร้องเจ็บ รปภ.จึงกัดฟันพูด
“หากคุณคิมยังไม่มา ผมต้องขอเชิญออกจากตึกนะครับ” ท่าทางเอาจริงเอาจังของอีกฝ่าย ทำให้คนร้ายร้องจิ๊ออกมาอย่างขัดใจ ยอมปล่อยหญิงสาว
แพรวาถึงกับเซ โชคดีที่ได้ธีระคอยประคองไว้ ใบหน้าหล่อเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด เขาดูเป็นห่วงเธอมาก
“แพรมาทำอะไรที่นี่”
“แพรมากับพี่ตฤณ” หญิงสาวพูด กลิ่นแอกอฮอลล์ฉุนทำให้ธีระเป็นกังวล
“แล้วตฤณไปไหน” ใบหน้าคมมองซ้ายมองขวา แต่ไม่เห็นพี่ชายของตนเลยสักนิด
“ไม่รู้ค่ะ” หญิงสาวตอบออกมาตามตรง หัวใจเต้นแรงขึ้นมาเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของคนที่ชอบ ธีระนึกคาดโทษญาติผู้พี่อยู่ในใจที่ปล่อยให้หญิงสาวเมาไม่ได้สติ เธอไม่รู้หรอกว่าโลกข้างนอกมันโหดร้ายเพียงใด การไม่มีคนคอยดูแล หากพลาดไปเพียงนิด อาจตกเป็นเหยื่อของชายฉกรรจ์ได้
“เราดื่มเหล้าด้วยเหรอ” เขาถามขณะอยู่ในลิฟต์เพียงลำพัง แพรวาย่นจมูกก่อนตอบออกไป “เพราะพี่น่ะล่ะ”
เกิดความเงียบขึ้นภายในลิฟต์ ธีระเข้าใจว่าหญิงสาวเมาเลยพูดอะไรเพ้อเจ้อไปเรื่อยเปื่อย ชายหนุ่มค่อย ๆ ประคองคนตัวเบาเข้ามาในรถ
กระเป๋าของเธอเกี่ยวเข้ากับประตู ร้อนถึงสารถีต้องเอาออกให้ กระโปรงสีขาวรัดรูปเลื่อนขึ้นมาถึงครึ่งหน้าตัก ธีระดึงลงให้ก่อนจะจัดสภาพของหญิงสาวให้นอนพักบนเบาะข้างคนขับ
ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร หญิงสาวก็ร้องไห้ออกมา ใบหน้างามเปรอะเครื่องสำอางจนดูไม่จืด พี่ชายข้างบ้านทำอะไรไม่ถูกจึงไม่ได้ออกรถ เขาเป็นห่วงเธอมาก
นั่นทำให้แพรวายิ่งร้องไห้หนัก ความเมาทำให้เธอบ้าบิ่น ขาดสติ หญิงสาวลุกนั่งก่อนจะจูบอีกฝ่ายบนแก้ม จากนั้นไล้มาที่ซอกคอ
ธีระนิ่งไปด้วยความตกใจ ร่างบางคลานขึ้นไปนั่งตักเขาแล้วถอดเสื้อผ้าของตัวเองก่อนจะลูบกายอีกฝ่าย ชายหนุ่มจับมือเล็กไว้ไม่ให้ซุกซน ปากเตือนสติอีกฝ่าย
“อย่าถอดเสื้อผ้าสิแพร เราเมามากแล้ว”
“แพรไม่ได้เมา” ร้องบอกก่อนจะก้มลงจูบเขาอีก ธีระจึงจับแขนทั้งสองข้างไว้ หญิงสาวผละออกมา เธอน้ำตาไหลก่อนจะสารภาพออกมาหมดเปลือก
“แพรชอบพี่ธีร์..ชอบมานานแล้ว” เธอร้อง พอสบกับนัยน์ตาคมที่ยากจะคาดเดา หัวใจก็สั่นระริก เหมือนเข็มนับสิบเล่มแทงใจ กระนั้นปากบางพูดต่อ
“ฮึก..ไม่หมั้นกับพราวได้ไหม”
“รู้ตัวไหมว่ากำลังพูดอะไรอยู่” ธีระถาม ขมวดคิ้ว ร่างสูงปลดเนคไทให้หลวมขึ้นก่อนจะเสยผม
บรรยากาศในรถตึงเครียดขึ้นทันที แม้แต่แอร์ก็ยังทำให้ข้างในรถร้อนขึ้นมาได้
“ก็แพรชอบพี่ธีร์” หญิงสาวพูดย้ำ ๆ ซ้ำ ๆ
“แพรกำลังทำให้พี่ลำบากใจ รู้ตัวไหม” ยิ่งอีกฝ่ายขึ้นเสียงใส่ยิ่งทำให้ใบหน้าหวานน้ำตาไหล
“พี่ธีร์รักพราวมากเลยเหรอ”
“หึ” ชายหนุ่มแค่นหัวเราะ เขาถอดแว่นสายตาออกก่อนจะพูดขึ้นด้วยเหตุผล “พี่กำลังจะหมั้นกับพราวพรุ่งนี้ แต่แพรกลับมาสารภาพว่าชอบพี่ แล้วยังมาถามว่าพี่รักน้องสาวเราไหม”
หญิงสาวหน้าชา รู้อยู่แล้วว่าต้องโดนปฏิเสธ แต่ไม่คิดว่ามันจะแรงถึงเพียงนี้ เธอได้พูดทวนซ้ำ ๆ “พี่ธีร์คงรักพราวมาก”
เขาไม่เคยขึ้นเสียงใส่เธอมาก่อน ไม่คิดว่าการสารภาพออกไปจะทำให้ชายหนุ่มดุด่าว่าเธอ นัยน์ตากวางจ้องคนใจร้ายก่อนจะหลุบสายตา เธอกำลังจะคลานออกจากตักเขา แต่ชายหนุ่มรั้งไว้
“จะไปไหน”
“ก็พี่ธีร์ไม่ชอบแพร แพรก็จะไปให้พ้นจากหน้าพี่ธีร์ไง”
“ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น”
“แต่พี่ธีร์ไม่ชอบแพร ฮึก” หญิงสาวเช็ดน้ำตา ธีระสบถออกมา สถานการณ์ในตอนนี้ไม่มีอะไรได้ดั่งใจเขา ชายหนุ่มไม่เคยล่วงรู้ความในใจของอีกฝ่าย พอเธอเปิดเผยทุกอย่าง เขาก็รู้สึกปั่นป่วน
แพรวาจะชอบเขาได้อย่างไรในเมื่อเธอสนิทกับตฤณ พอโตขึ้นเธอก็ไม่เรียกหาเขาเหมือนแต่ก่อน ธีระยังคิดอยู่เลยว่าระหว่างเราคงจะมีอะไรผิดพลาดไป แต่จู่ ๆ อีกฝ่ายกลับสารภาพออกมาแบบนั้น ซ้ำร้ายยังก่อนถึงงานหมั้นแค่คืนเดียว
นั่นแปลว่าเธอคงเก็บความรู้สึกไว้ลึกสุดใจ ลึกจนแม้กระทั่งเขายังมองไม่ออก พอทนไม่ไหวก็ระเบิดออกมา
“แพรจะขึ้นแท็กซี่กลับ” น้องสาวข้างบ้านบอก ธีระกดล็อกประตูทันที “เมาแบบนี้ยังจะขึ้นแท็กซี่กลับ?”
“ไม่อยากรบกวน”
“ตามใจนะ แพร...ออกไปแบบนี้ ถูกลากไปขืนใจ พี่ก็ไม่รู้ด้วยแล้ว ทางก็เปลี่ยว สวย ๆ อย่างแพร รับรองว่ามันคงติดใจ มีเรื่องให้พูดไปอีกนาน” เพราะทนฟังคำจากคนใจร้ายไม่ไหว ร่างเล็กเลยเปิดประตูลงไป หมายจะไปเรียกแท็กซี่ ร้อนถึงคนบนรถต้องรีบรวบตัวอีกฝ่ายไว้
“ปล่อยแพร”
“ทำไมดื้ออย่างนี้”
“แพรจะไปแท็กซี่”
“สภาพแบบนี้จะขึ้นแท็กซี่ อยากถูกข่มขืนมากนักหรือไง”
“ใช่” คำตอบนั้นเหมือนกับน้ำร้อนราดลงบนผิว ร่างสูงรู้สึกโกรธมาก ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตเขาไม่เคยโกรธใครมาก่อน แต่แพรวาเป็นคนแรกที่ทำให้เขามีน้ำโห
“ขอโทษที่ไปขวางตั้งแต่ที่โรงแรมนะ ถ้าพี่ไม่ได้ไปห้าม แพรคงจะมีความสุขกับไอ้คิมนั่นไปแล้ว”
“ถ้าแพรอยู่กับพี่คิม อาจจะมีความสุขกว่าตอนอยู่กับพี่ธีร์ก็ได้..อ๊ะ” คำพูดประชดที่ออกมาจากปากล้วนแต่ทำให้สถานการณ์แย่ลง ธีระดึงหญิงสาวเข้ามาจูบเพราะความโมโห ลิ้นร้อนแทรกเข้ามากระหวัดพันเกี่ยว แพรวาดิ้นไปดิ้นมาจนหลุดก่อนจะตบเขาจนหน้าหัน
เพี๊ยะ
ร่างสูงหันกลับมา นัยน์ตาของเขาเย็นเยียบขึ้น ทำให้เธอรู้สึกผวา
ธีระกำลังจะเอาจริง
“แย่หน่อยนะที่แพรต้องอยู่กับพี่ในคืนนี้แทน”
บทที่หนึ่งสามีหนึ่งคืนชายหนุ่มเปลี่ยนใจ เดินกลับขึ้นไปในโรงแรมพร้อมกับหญิงสาว เขาจับเธอกระแทกลงบนเตียงขนาดใหญ่ร่างบางพยายามจะหนีออกจากอ้อมกอดของอีกคน แต่หนีไม่พ้น ธีระรีบตามลงมาทาบทับ ริมฝีปากหนาพรมจูบไปตามกรอบหน้า เขาจุมพิตจนหญิงสาวครางฮือในลำคอ น้ำตาไหลไม่ขาดสาย“ปล่อย” เธอร้องบอก แต่มีหรือที่อีกคนจะฟัง ตอนนี้อารมณ์โมโหกำลังคุกรุ่นร่างบางพยายามดิ้นแต่เพราะอยู่ใต้อาณัติของร่างหนา จึงดิ้นไม่หลุด ซ้ำอีกคนยังมีแรงเยอะกว่านั่นทำให้เธอต้องยอมแต่โดยดี“แพรเกลียดพี่ธีร์”“เกลียด? เมื่อกี้ยังบอกชอบพี่อยู่เลย พอจะเป็นสามี ถึงขั้นรังเกียจแล้วหรือ”“อย่ามายุ่งกับแพร”“อย่ามายุ่ง? แพรน่ะล่ะที่เข้ามายุ่งเรื่องของพี่กับพราว..ถ้าคนอื่นเขารู้ว่าพี่สาวอยากได้สามีคนเดียวกันกับน้องสาวจะว่าอย่างไร”คำพูดนั้นกรีดแทงใจคนฟังจนเจ็บปวดร้าวรานไปหมดความรักก็เป็นเช่นนี้ ไม่เลือกสถานที่ ไม่เลือกคน แต่เธอไม่ได้ผิดที่แอบชอบเขา เธอไม่ได้ตั้งใจทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนยุ่งเหยิง ที่เป็นอยู่นี่อาจจะเป็นไปเพราะฤทธิ์เหล้า“แพรไม่ได้อยากสามีคนเดียวกับพราว”“โกหก”“ไม่ได้โกหก”“ไม่ได้โกหก? แต่จงใจเข้าหาพี่คืนก่อน
บทที่สองเช็ดตัว“เอายาคุมมาไว้ตรงหัวเตียงแบบนี้ อยากให้คนอื่นรู้ว่ามีอะไรกับพี่?” แพรวารีบคว้าแผงยาคุมไปซ่อนทันที เธอเอ่ยเสียงราบเรียบ“แพรจะระวังตัวให้มากกว่านี้”ร่างสูงไม่ได้พูดอะไรอีก เขานั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง นัยน์ตาคมปราดมองผิวบริเวณที่โผล่พ้นเสื้อผ้า พอพบว่าเป็นรอยดูดเม้มอย่างเห็นได้ชัด ก็เอามือล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกง หยิบยาทาภายนอกให้หญิงสาวไม่กล้ารับยาจากอีกฝ่าย เดือดร้อนคนพี่ต้องยัดยาใส่มือเล็ก“หรือต้องให้พี่ทาให้”แพรวาส่ายหัวไปมา ธีระมีหลายเรื่องที่อยากจะพูดกับอีกฝ่าย แต่พอเห็นอีกคนนอนซมเพราะเรื่องเมื่อวาน เขาก็ไม่มีกะจิตกะใจคิดจะรังแก“งานหมั้นเรียบร้อยแล้วหรือคะ”“อยากได้คำตอบว่าอะไร”“...” หญิงสาวเม้มปากแน่น“เลิกคิดไปได้เลยเรื่องให้พี่ถอนหมั้นกับพราว แพรไม่มีวันทำสำเร็จ” ชายหนุ่มบอก“แพรไม่ได้คิดจะให้พี่กับพราวเลิกกัน”อย่างนั้นหรือหากมันเป็นอย่างนั้นจริง เธอคงไม่เข้าหาเขาหรอกกระมัง เพราะอิจฉาน้องสาวที่ได้ดีจึงทำเรื่องทั้งหมดลงไป นั่นดูจะเป็นคำตอบของเด็กขี้อิจฉาที่แย่งของของน้องสาว“อาทิตย์หน้าไปแผนกสูตินรีเวชที่โรงพยาบาลด้วย”ใบหน้าเล็กดูฉงนกับคำสั่งของคนตรงหน้า
บทที่สามแกงกะทิสายบัวปลาทูนึ่ง ตฤณมองภาพหญิงสาวกับชายหนุ่มหัวเราะต่อซิกในห้องตรวจก่อนจะคิดไปถึงหญิงสาวที่นอนป่วยอยู่ที่บ้านแพรวาไม่สมควรต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย เขาทั้งทะนุถนอมเธอ ดูแลเหมือนเป็นน้องสาวแท้ ๆ คนหนึ่ง แต่คนเป็นน้องชายกลับทำมันพัง ไม่ต้องเอ่ยถึงงานวิวาห์ในอนาคตเลย รับรองว่าสามคนนั้นไม่มีทางอยู่เป็นสุข และคนที่น่าสงสารที่สุดในเรื่องนี้ก็คือพราวลดา เขาเฝ้ามองหญิงสาวตั้งแต่ยังเล็ก รู้แก่ใจดีว่าหญิงสาวเป็นคนอย่างไร อ่อนหวาน เรียบร้อย น่ารัก เป็นสเป็กของผู้ชายหลายคน ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งจะต้องมากินน้ำใต้ศอก ถูกว่าที่สามีตลบหลัง กาแฟร้อนในมือหมอตฤณถูกจิบ ไออุ่นของมันลอยออกมาจากแก้ว ตฤณอยากจะผ่อนคลายเล็กน้อย และปล่อยให้สมองของตนล่องลอยไปตามจินตนาการเขาเคยมีเรื่องอย่างว่ากับพราวลดา ไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้ง แต่หลายครั้งหลายคราหญิงสาวเป็นนักศึกษาในคลาสของตน เธอเรียนเก่งแต่ก็ไม่ได้มากจนถึงขั้นสะดุดตา มีบางเรื่องที่หญิงสาวไม่รู้ และเขาก็มีความจำเป็นจะต้องอยู่ช่วยในฐานะอาจารย์ที่ปรึกษาเป็นธรรมดาที่ผู้ชาย-ผู้หญิงหน้าตาดี เมื่ออยู่ในที่ลับตาค
บทที่สี่ละครหลอกตา“ผมสั่งแกงกะทิสายบัวไว้ ยังไม่มาเสิร์ฟเลย ต้มทิ้งไว้หรือเปล่าครับ”ธีระตัดบท ใบหน้าหล่อทำเหมือนพูดคุยเรื่องดินฟ้าอากาศ ไม่ได้รู้สึกว่าการพูดแทรกเป็นเรื่องเสียมารยาทอะไร หญิงสาวหันมาค้อนเล็กน้อยเพราะกำลังตั้งใจฟังหญิงแก่พูดถึงหลานวัยหนุ่ม ไม่ได้คิดว่าอีกคนจะปราม“เอ้อ จริงด้วย ป้าต้มแกงกะทิสายบัวทิ้งไว้ เดี๋ยวขอไปเอามาให้ก่อนนะ” แล้วเธอก็ผละออกไป แพรวารู้สึกเหมือนชายหนุ่มกลั่นแกล้งอีกคน แต่ไม่รู้ว่าแกล้งอย่างไรพอเหลือแค่สองคนในห้อง บรรยากาศก็กลับมาเงียบดังเดิม ธีระตักกับข้าวใส่จาน ส่วนแพรวาแทบไม่แตะอาหารทะเล เธอไม่รู้ว่ากินแล้วจะแพ้หรือเปล่า ชายหนุ่มเห็นเธอไม่แตะต้องอาหารบางจานก็พอจะเดาความคิดได้“ไม่ได้สั่งปูมา ไม่มีอะไรเกี่ยวกับปู”“คะ”“กินเยอะ ๆ จะได้มีแรง” เขาตักอาหารทะเลให้ ทราบว่าหญิงสาวแพ้ปูจึงไม่ได้สั่งอะไรที่เกี่ยวกับปูมาให้เลยแพรวาพูดขอบคุณก่อนจะตักอาหารทะเลมาชิมป้าชื่นโผล่กลับไปเอาแกงกะทิก่อนจะเข้ามาเสิร์ฟ หญิงสาวชวนให้อีกฝ่ายมากินด้วยกัน ป้าชื่นเกรงใจแต่ก็ยอมอยู่นั่งพูดคุยไปด้วยทั้งสองพูดคุยในเรื่องทั่วไป ไม่มีอะไรเป็นพิเศษจนกระทั่งเธอเริ่มเอ่ยถึงอด
บทที่ห้าความหลังธีระกลับมาจากเข้าห้องน้ำแล้วเรียบร้อย หลังจากนั่งพูดคุยกันเสร็จ ป้าชื่นก็เอาขนมพร้อมกับของฝากจากสมุทรสาครให้แพรวา หญิงสาวไหว้รับ รู้สึกดีใจที่อีกคนเมตตา “ป้าชื่นดูแลตัวเองด้วยนะคะ” เธอกล่าว แม้จะได้อยู่พูดคุยกันไม่กี่ชั่วโมง แต่ก็รู้สึกสนิทกับอีกคนเหมือนเป็นญาติกันมานาน ธีระมาตรวจอาการของหญิงชราบ่อย เป็นเพราะอีกคนเป็นลมเป็นแล้งประจำ เขาถึงต้องแวะมาตรวจมาครั้งนี้ก็ตั้งใจพาหญิงสาวมาให้อีกฝ่ายดูหน้าโดยเฉพาะ ไม่คิดว่าพี่เลี้ยงจะยังจำได้ แถมยังรู้มากเสียด้วยว่าอะไรเป็นอะไร คนแก่รู้สึกเอ็นดูหญิงสาวจึงอดไม่ได้จะเอามือมาลูบหัว ขอให้พระอวยพรพอหญิงสาวขึ้นรถมาได้ คนขับก็พาตรงกลับเข้ากรุงเทพ ระหว่างทางไม่มีอะไรให้ได้คุยกันมากนัก อีกด้านหนึ่ง พลอยลดายังคงไปเรียนที่คณะตามเดิม แม้เธอจะได้พบกับตฤณบ้างประปราย แต่ก็ไม่ได้มีโอกาสได้สานสัมพันธ์ต่อเธอยังจำวันแรกที่เข้าเรียนกับเขาได้ ปกติแล้วชายหนุ่มจะมีท่าทีเป็นกันเอง ไม่ค่อยจริงจังเท่าไหร่นักแต่วันแรกที่เขาสอน เขากลับทำหน้าที่อาจารย์ได้อย่างดีเยี่ยม สอนดีกว่าอาจารย์หลายท่านเสียอีก สา
บทที่หกความลับเผย เนื่องจากมีการร้องเรียนเข้ามาถึงการผ่าตัดที่ล้มเหลวของสุรศักดิ์ บอร์ดบริหารจึงต้องจัดประชุมขึ้นเพื่อหารือว่าจะทำอย่างไรต่อ โชคดีที่ห้องผ่าตัดมีฟุตเทจบันทึกเรื่องราวทั้งหมดไว้ จึงจะพอเอามาเป็นหลักฐานดูได้ “คนไข้อายุสี่สิบแปดปี เพศหญิงมาด้วยอาการปวดท้องทางด้านขวา หลังจากสังเกตอาการในห้อง ER อาจารย์ med กับอาจารย์สูติลงความเห็นว่าต้องส่องกล้อง เมื่อส่องกล้องพบว่าไส้ติ่งแตก จึงต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน หมอสุรศักดิ์เป็นหมอที่เข้าผ่าตัดในขณะนั้น” พยาบาลรายงานเคสให้ทราบ “ระหว่างการผ่าตัด เป็นไปด้วยดี ไม่มีความผิดพลาด แต่หลังจากการผ่าตัด คนไข้ติดเชื้อในกระแสเลือดจึงจากไปในอาทิตย์ต่อมา” เธอสรุป ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมีสีหน้าเคร่งเครียด “คนไข้ไม่ได้แพ้ยาสลบ แต่ติดเชื้อในกระแสเลือดงั้นหรือ” เคสนี้ถือว่าพูดยาก การทำหัตถการมีความเสี่ยงที่ต้องรองรับ ผู้ป่วยอาจจะจากไปได้ทุกเมื่อไม่ว่าจะเป็นการเสียเลือด ติดเชื้อ หรือแผลผ่าตัดมีรอยรั่ว ในกรณีนี้เกิดการติดเชื้อขึ้น ก็จำเป็นจะต้องหาสาเหตุว่าติดเชื้อเพราะอะไร หากยังไม่ทรา
บทที่เจ็ดสายปริศนา พราวลดาถูกตฤณรุกคืบมากขึ้น หญิงสาวได้แต่ปัดป้องคนตัวสูง เขาฉวยโอกาสตอนที่เธอกำลังเคลิ้ม เลื่อนมือเข้าไปใต้บรา หญิงสาวสะดุ้งเมื่อถูกมือหนาทาบทับ เธอผละออกจากเขา โกยอากาศหายใจเข้าปอด หมอหนุ่มเคลื่อนใบหน้าหล่อลงมาที่บริเวณเหนือหน้าอก ซุกเข้ากับร่างกายเล็กของพราวลดา เท่านั้นเธอก็ร้องห้าม “พี่ตฤณ นี่มันในบ้านพราวนะคะ” “แปลว่านอกบ้านก็ได้งั้นสิ” เขากระตุกยิ้ม ร่างเล็กหน้าขึ้นสี เธอผลักอีกคนออก “เดี๋ยวจะมีคนเห็นเข้า” “ใครจะมาเห็นเรา ให้เขาดูไปสิ” เธอไม่ได้หน้าด้านหน้าทน ไม่มียางอายเหมือนชายหนุ่ม คิดแล้วก็รู้สึกอาย ตฤณลำพองใจเมื่อเห็นอีกคนนิ่งไป เขายิ่งรุกไล้ร่างกายหนักขึ้น หญิงสาวอยากผลักอีกคนออก แต่ใจหนึ่งก็อยากใช้งานตฤณ เธออยากนอนกับเขาแลกกับการให้พ่อไม่ถูกพักงาน “คิดอะไรอยู่” ชายหนุ่มถามเมื่อเห็นสาวเจ้าก้มหน้านิ่ง “พี่ตฤณช่วยพราวเรื่องพ่อไม่ได้จริง ๆ หรือคะ” ลองใช้มารยาหญิงดู พราวลดาปลดตะขอบราออก หมอหนุ่มถึงกับกลืนน้ำลาย “เรื่องนี้แม้คนผิดไม่ใช่คุณสุรศักดิ์ แต่ก็ถือว่ามี
บทที่แปดจำยอม “พี่ธีร์” หลังจากรู้ว่าคนที่พาเธอเข้ามาหลบคือใคร เธอก็ตกใจไป แพรวาดูสับสนเป็นอย่างมาก ธีระและหญิงสาวตั้งใจฟังบทสนทนาลับนั้นเป็นอย่างดี อาจเพราะมันเกี่ยวกับพ่อเขาและพ่อของแพรวา เมื่อคนคุยโทรศัพท์เดินไปอีกทาง เขาจึงพาหญิงสาวออกมาจากบริเวณนั้น “พี่ธีร์มาได้ยังไงหรือคะ” “พี่ตามแพรออกมา” นี่เขาจับตาดูเธออยู่หรือ ใบหน้าสวยไม่เข้าใจการกระทำของอีกคน ร่างสูงดูเคร่งเครียดขึ้นกว่าเดิม ธีระเคยได้ยินเรื่องที่ธนา พ่อของตนมีปากเสียงกับเพื่อนเรื่องสร้างโรงพยาบาล คิดว่าจบไปแล้วด้วยดี แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่รามือ จริงอยู่ที่ธนาไม่ได้มีความคิดริเริ่มจะสร้างโรงพยาบาล อีกฝ่ายเป็นคนต้นคิด แต่สุดท้ายคน ๆ นั้นกลับละทิ้งโปรเจ็กต์แล้วหนีไปต่างประเทศเพราะปัญหาเรื่องเงิน ทิ้งให้พ่อของเขาแบกรับหนี้มหาศาลจากการสร้างสุดท้ายเมื่ออีกฝ่ายกลับมา พอเห็นว่าโรงพยาบาลกำลังประสบความสำเร็จ ก็คิดจะเคลมโรงพยาบาลเป็นของตนเอง หนักเข้าก็ทำเรื่องชั่วช้า ธีระแสยะยิ้ม เป็นยิ้มที่ทำให้หญิงสาวใจคอไม่ค่อยดี “ที่เขาพูดในโทรศัพท
บทส่งท้ายวันแต่งงานมาถึงในไม่ช้า แพรวากลับมาจากเชียงใหม่แล้ว ตอนนี้ทราบเพศของลูกในครรภ์แล้วเรียบร้อย“เป็นผู้หญิงครับ” คุณหมอร้องบอก ธีระเลยมีความสุขสมใจ อาจเป็นเพราะตนเองอยากให้ลูกคนโตเป็นผู้หญิง พอลูกเป็นผู้หญิงจริงก็อดดีใจไม่ได้ “แพร พี่ดีใจมากที่ลูกคนแรกเป็นผู้หญิง” น้ำตาของชายหนุ่มเกือบจะไหล ว่าที่คุณแม่ถึงกับหลุดหัวเราะเมื่อเห็นปฏิกิริยาสามี “ฮิ ๆ มันดีใจจนน้ำตาเกือบไหลเลยหรือพี่ธีร์” “พี่อยากมีลูกเป็นผู้หญิง แกน่ารัก” แทบจะเป็นความใฝ่ฝันของผู้ชายทุกคนที่มีลูก ใคร ๆ ก็ย่อมอยากได้ลูกผู้หญิงกันทั้งนั้น แพรวาต้องพักการเรียนหมอไว้ก่อนเพราะตอนนี้ตนกำลังจะท้อง กำลังจะมีเจ้าตัวเล็ก เธอเอาเวลามาโฟกัสกับอนาคตของลูกน้อย ธีระเองก็หยุดงานบ่อยขึ้นเพื่อดูแลแม่ของลูกในท้องส่วนคู่ของพราวลดากับตฤณ ตอนนี้ยังไม่หมั้นและยังไม่จัดงานแต่งงาน พราวลดายังเรียนไม่จบ ยังเป็นนักศึกษาแพทย์อยู่ ทั้งสองจึงทำได้แต่คบหาดูใจกันไปก่อน ชัยวุฒิและพ่อของไข่มุกตอนนี้ติดคุก ประกันตัวไม่ได้ ส่วนพิจิตราหลังจากลาออกแล้วก็ไม่ทราบข่าวอีกเลย คอปเตอร์กับคิมก็หายหน
บทที่สิบเก้างานหมั้นแพรวาใกล้จะได้กลับไปเชียงใหม่เพื่อเรียนต่อ ระหว่างนี้พิธีหมั้นจึงถูกจัดขึ้นที่คฤหาสน์ของทั้งสองตระกูลธีระบอกว่าทนรอจนถึงวันแต่งไม่ไหว แพรวาเองก็ทนรองานแต่งไม่ไหวเหมือนกัน แต่เหนือสิ่งอื่นสิ่งใดนั้น ต้องจัดงานหมั้นเสียก่อนงานหมั้นอยู่ในชุดตีมสีเอิร์ธโทน แพรวาต้องไปลองชุดที่ร้านพร้อมกับธีระ เพื่อน ๆ ของแต่ละฝ่ายต่างเตรียมตัวเพื่องานหมั้นครั้งนี้ด้วยเช่นกันเมื่อพวกเขาไปถึงที่ร้านแรก มองซ้ายมองขวาไม่เจอเจ้าของร้าน ก็นั่งรออีกฝ่ายให้มาถึง ระหว่างนั้นทั้งสองคนเบื่อเลยต้องนั่งอ่านหนังสือรอไปก่อน“นานมากเลยค่ะ พี่ธีร์ เจ้าของร้านหลับหรือเปล่าเนี่ย”“ถ้ามันนานขนาดนี้ งั้นไปร้านอื่นกันไหม” เขาชวน หญิงสาวเลยว่าจะรออีกห้านาที แต่รอแล้วรอเล่า อีกฝ่ายก็ยังไม่มาเลยว่าจะไปที่อื่นแทนหญิงสาวเดินเคียงข้างกับชายหนุ่มไปที่ร้านเช่าชุดหมั้นร้านที่สอง หลังจากลองชุดแล้วพบว่าร้านนี้ช่างพูดคุยดี แต่ยังไม่เจอแบบที่ถูกใจเป็นพิเศษแพรวาจึงไปหาร้านเช่าชุดหมั้นร้านที่สาม ร้านนี้อยู่ไกลออกไปหลายกิโล ธีระขับรถหาที่จอดอยู่ตั้งนาน พอถึงที่จอดก็เดินกลับมาโชคดีที่ร้านนี้มีชุดสวย เหมาะกับสิ่งที่ต
บทที่สิบแปดหวานหลังจากไร้ซึ่งขวากหนามมารบกวน หญิงสาวกับชายหนุ่มก็อยู่อย่างมีความสุขดี ธีระมีกำหนดหมายจะหมั้นกับแพรวาเร็ว ๆ นี้ เขาจึงต้องเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านกับร้านขายชุดแต่งงานแพรวาดีใจมากที่คนเลวถูกจับได้และบ้านก็กลับมาสงบสุขดังเดิมช่วงนี้ธีระติดเธอหนักขึ้น ชายหนุ่มชอบเข้ามาคลอเคลียใบหน้าและชอบเข้ามาจูบ“แพร พี่อยาก...เรายังไม่ได้ให้รางวัลพี่เลยที่พี่ช่วยพ่อเรา” ธีระทวงรางวัล คนตัวเล็กได้แต่ร้องห้าม“ไม่ได้ค่ะ พี่ธีร์ แพรยังไม่พร้อม”“น่า ให้พี่หน่อยนะ” เขาทวงอีก ทวงไปทวงมา หญิงสาวก็ใจอ่อน ยอมให้อีกฝ่ายชายหนุ่มไม่รอช้ารีบหอมพวงแก้มใส ก่อนจะไล่ไปทั่วกรอบหน้า เขาจุมพิตหล่อนเบา ๆ ก่อนสอดแทรกลิ้นเข้าไปด้านใน แพรวาจูบตอบ จับใบหน้าหล่ออย่างถนัดถนี่มากขึ้นธีระผลักหญิงสาวลงกับเตียง ก่อนจะพรมจูบไปทั่วหัวไหล่มน ลากยาวลงมาถึงเนินอก เขาจุมพิตไปทั่วบริเวณด้วยความรู้สึกรักและหวงแหนปลายลิ้นหยอกล้อกับปทุมถันสีชมพูสวย ก่อนจะงับเบา ๆ แล้วดูดดึง แพรวารู้สึกอายจึงได้แต่เอามือปิดหน้า แต่อีกคนไม่รู้สึกม้านแต่อย่างไร ชมออกมาไม่ขาดปาก“แพรสวยมาก หวานด้วย”หญิงสาวรู้สึกอาย จึงได้แต่หุบขาเข้าหากั
บทที่สิบเจ็ดเปิดโปงไข่มุกเอาบัญชีของพ่อตนให้กับธีระดูหลังจากลงมาถึงชั้นล่าง แต่ก่อนจะยื่นให้เธอไม่ลืมบอก“สัญญาก่อนสิว่าตั้งแต่นี้ไป พี่ธีร์ต้องไปไหนมาไหนกับไข่มุก”ธีระไม่อยากตอบรับแต่ไม่มีทางเลือกจึงพยักหน้ารับ หญิงสาวยิ้มแล้วจึงเอาบัญชีของพ่อยื่นให้ หมอหนุ่มรับมาดูก่อนจะขอตัว แต่ไข่มุกไม่ปล่อยอีกฝ่ายไปง่าย ๆ“พี่ธีร์ไปกินข้าวด้วยกันก่อนสิคะ” เธอร้องขอ ชายหนุ่มอยากจะปฏิเสธแต่เพราะติดที่อีกฝ่ายติดตนแจ เขาจึงเลือกไปกับเธอไข่มุกเป็นคนปล่อยข่าวไปทั่วทั้งโรงพยาบาลว่าธีระกำลังจะเป็นแฟนเธอ ทำให้โดนกระแสสังคมลอบนินทา ธีระนั้นมีแฟนอยู่แล้วซึ่งก็คือแพรวา การที่เธอเข้าไปยุ่งด้วยนั้นย่อมเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นนางพยาบาลต่างจับกลุ่มซุบซิบเรื่องของทั้งคู่ แม้กระทั่งป้าที่ขายข้าวในโรงพยาบาลยังอดที่จะพูดคุยเรื่องพวกนี้ไม่ได้ เธอเข้ามากระซิบกับธีระ“หมอ หมอเป็นแฟนกับไข่มุกจริงหรือ”“ไม่ใช่ครับ” เขาปฏิเสธ“แฟนหมอก็คือหนูแพรวาใช่ไหม แต่ทำไมยัยไข่มุกนี่ชอบอวดอ้างว่าหมอเป็นแฟนอยู่เรื่อย” ป้าบอก เมื่อเห็นหญิงสาวเดินมาก็ทำเป็นมองไม่เห็น ทำเหมือนตัวเองไม่ได้พูดเรื่องอีกคน“ผมกำลังทำภารกิจอยู่นะป้า”“ภารกิจอ
บทที่สิบหกภาระสุรศักดิ์โผล่หน้าเข้ามาเยี่ยมพร้อมกับพราวลดา ในมือเขามีสลัดพร้อมกับดอกไม้เยี่ยมไข้ พราวลดารีบวิ่งมากอดพี่สาวทันที“พี่แพร เป็นอย่างไรบ้างคะ” เธอเอาหน้าซุกอกพี่สาว คนป่วยรีบยีหัวคนตัวเล็ก“พี่สบายดี พราวนั่งก่อน มาเหนื่อย ๆ ” หญิงสาวว่าพร้อมกับเพยิดหน้าไปทางเก้าอี้ คนเป็นน้องนั่งลงก่อนจะกวาดสายตามองห้องที่พี่สาวพักมันเป็นห้องชั้นดี ราคาแพงที่ตั้งอยู่บนชั้นบน ๆ ของโรงพยาบาล ธีระเป็นคนเลือกห้องให้เพราะอยากให้คนรักสบายมากที่สุดพ่อของแพรวานั่งข้าง ๆ พราวลดา ถามขึ้นมา“ไอ้คอปเตอร์อะไรนั่นมันลวนลามแพรมานานหรือยัง”“ตั้งแต่ปีหนึ่งค่ะ แพรกลัวมาก”“พี่คอปเตอร์เคยลวนลามพราวด้วยค่ะ” ผู้เป็นน้องว่า นั่นทำให้สุรศักดิ์นึกโกรธกว่าเดิม เขาโทรไปหาประสิทธิ์เพื่อนของตนเองเพื่อต่อว่าทันที“ฮัลโหล ประสิทธิ์ ลูกแกมาลวนลามลูกสาวฉัน ทำแบบนี้ไม่ได้นะ”[ขอโทษจริง ๆ เพื่อน ฉันพยายามบอกไอ้คอปมันแล้วว่าอย่าไปทำรุ่มร่ามใส่ใคร ไม่คิดว่ามันจะร้ายขนาดนี้]“ฝากเตือนมันด้วยว่าถ้ายังทำนิสัยแบบนี้อยู่ ระวังจะจบลงในตะราง”[ได้ ๆ ] ประสิทธิ์ตอบ ยืนยันว่าจะบอกลูกให้ก่อนวางสายไป สุรศักดิ์ถอนหายใจออกมาพรืดหนึ
บทที่สิบห้าคนเลว หลังจากกินเลี้ยงที่ร้านอาหารผ่านไป ธีระก็แอบนำคลิปที่ถ่ายชัยวุฒิไว้ไปเปิดให้กับธนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลดู ท่านตกใจที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก่อนจะยอมรับว่าตนกับอีกฝ่ายมีปัญหากัน “ชัยวุฒิเขาเป็นคนเสนอให้สร้างโรงพยาบาลแห่งนี้ขึ้น แต่เขาไม่มีทุนทรัพย์ พ่อจึงเป็นฝ่ายออกให้โดยเขาจะต้องใช้หนี้คืน แต่เขาไม่มีเงินจ่ายและยังทิ้งหนี้ให้พ่อรับผิดชอบ สุดท้าย โรงพยาบาลแห่งนี้จึงกลายมาเป็นของพ่อ... เขาอาจจะมีความแค้นกับพ่อเป็นการส่วนตัวจากเรื่องนี้ก็ได้” ธนาบอก หลังจากปรึกษาหารือกันเสร็จ ธีระก็ตั้งใจจะนำคลิปไปลงบันทึกประจำวันเพื่อปกป้องชื่อเสียงของพ่อและสุรศักดิ์เขายังวางแผนจะทำการสืบสวนว่ามีใครอยู่เบื้องหลังบอร์ดบริหารหรือเปล่า มีใครคนอื่นที่ยักยอกเงินหรือไม่ แพรวาเห็นคนรักเคร่งเครียดกับการหาตัวผู้ร้ายก็เลยซื้อของมาฝาก ธีระมีความจำเป็นต้องตรวจสอบบัญชีย้อนหลัง “นี่มัน...”ใช้เวลาไม่นาน เขาพบพิรุธอยู่หลายจุด และกำลังหาหลักฐานจ่อเอาผิดชัยวุฒิ ระหว่างที่กำลังขะมักขะเม้นอยู่นั้น พอเห็นคนรักเดินมาพร้อมกับกับข้าวในมือ เขาก็ยิ้มบา
บทที่สิบสี่ขอขมา แพรวาพาธีระขึ้นไปทำแผลด้านบน ในขณะที่พราวลดาก็จัดแจงทายาให้กับคนรัก หญิงสาวไม่คิดว่าตฤณจะต่อยตีธีระจนคิ้วแตกได้ สภาพของชายหนุ่มดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ลุคคุณหมอสำอางหายวับกับตาเหลือเพียงลูกแมวตัวโตที่ยังรู้สึกชาหน้าอยู่ “พี่ตฤณต่อยพี่ธีร์แรงเหมือนกันนะคะ” เธอทายาให้อย่างเบามือ คนเจ็บได้แต่ร้องโอดโอย ทำให้เธอรู้สึกสงสาร “คิดอย่างไรถึงไปต่อยกับพี่ตฤณคะ พี่ธีร์ตัวเล็กกว่าพี่ตฤณอีกนะ” “พี่โกรธ” ธีระยอมรับออกมาตรง ๆ “โกรธที่พี่ตฤณแย่งพราวไป?” “โกรธที่มันมาอยู่กับแพรบ่อย ๆ นี่ล่ะ” คราวนี้ชายหนุ่มไม่คิดปิดบัง เขาทั้งหึงทั้งหวงตอนที่อีกคนอยู่กับพี่ชายของตัวเอง ไม่ใช่แค่กับพี่ชายด้วย แต่หวงตอนที่อีกฝ่ายอยู่กับคอปเตอร์อีกต่างหาก “พี่ตฤณไม่ได้จีบแพรสักหน่อย เขาแค่มาอยู่ด้วยเพราะรู้สึกเอ็นดูแพรเหมือนเป็นน้องสาว” “แต่พี่ไม่ไว้ใจมัน มันนอนกับผู้หญิงไปทั่ว แพรอย่าไปยุ่งกับมันมากจะดีกว่า” ธีระบอก “แต่พี่ตฤณก็หยุดเจ้าชู้แล้วนะคะ ตั้งแต่มีพราว พี่ตฤณก็ไม่ได้นอนกับผู้หญิงคนไหนอีกเลยนะ” แพ
บทที่สิบสามวิวาทเสียงเอะอะโวยวายดังลั่นคฤหาสน์อนันต์ตาลัย ปลุกให้สองพี่น้องเดินลงบันไดมาในสภาพงัวเงีย แพรวามีสีหน้าไม่สู้ดีนักเมื่อเห็นธีระปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับผู้เป็นพี่ทั้งสองคนกำลังทะเลาะกันเรื่องของพราวลดา และนั่นทำให้สุรศักดิ์ถึงกับเดินออกมาจากห้องทำงาน คุณนายของบ้านเองก็รับเข้ามาห้ามปรามทั้งคู่“หยุดทะเลาะกันเลยนะ”“ไอ้ธีร์มันมาหาเรื่องผมก่อน” ตฤณบอก ผลักน้องชายกระเด็น“ก็มึงนอนกับคู่หมั้นกูไม่ใช่หรือไง” ธีระพูด ต่อยคนเป็นพี่จนล้ม ร่างสูงเซไปเล็กน้อยก่อนจะซัดคนเป็นน้องกลับเช่นกัน“ทีมึงยังนอนกับแพรได้เลย” ตฤณชี้หน้า“นั่นมันเกิดทีหลัง เกิดหลังจากมึงไปนอนกับพราวต่างหาก” ธีระทำท่าจะเข้าไปต่อยอีก“พอ พอ ไม่ต้องทะเลาะกันเลย” สุรศักดิ์เข้ามาห้าม สองพี่น้องเลยจำต้องหยุดตีกัน แพรวาเดินมาลูบหลังธีระ ในขณะที่พราวลดาเดินมาจับไหล่คนรัก“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่หรือคะ” พราวลดาถามด้วยความงุนงงตฤณเปิดโทรศัพท์มือถือยื่นให้คนรักดู ปรากฏว่าในนั้นมีคลิปหญิงสาวกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับคนที่ไม่ใช่คู่หมั้น“ไอ้ธีร์มันแอบซ่อนกล้องเพื่อถ่ายเราสองคน” ตฤณบอก พราวลดาตกใจ“พี่ธีร์แอบถ่ายคลิปของพราวกับพี่ตฤณห
บทที่สิบสองโชว์ไทม์ เนื่องจากมีกินเลี้ยงช่วงหัวค่ำ ตฤณเอารถไปรับพราวลดาที่มหาวิทยาลัยธีระกับแพรวาจึงต้องนั่งรถไปกับพี่พยาบาลแทนอย่างช่วยไม่ได้ ร้านอาหารที่ต้องไปนั้นเป็นร้านอาหารที่อยู่ติดกับแม่น้ำ ตกแต่งแบบเรียบหรูโมเดิร์น มีลมโกรกพัดมาเย็นสบายธีระว่าจะเลี้ยงเหล้าชัยวุฒิจากนั้นค่อยส่งข้อความไปล่อพิจิตราให้ออกมา เขาอยากเห็นเธอลนลานรีบมาที่นี่ ชัยวุฒิเป็นคนที่เมาแล้วชอบหลุดปากพูดความลับของตนออกมา ถ้าสองคนนี้อยู่ด้วยกัน แน่นอนว่ายิ่งกว่าบันเทิง ไม่รู้อะไรจะหลุดออกมาจากปากบ้าง ชายหนุ่มแตะลำแขนของหญิงสาว“แพรไปนั่งกับคุณชัยวุฒิ ไม่ต้องแนะนำนะว่าเป็นลูกของอาสุรศักดิ์ บอกว่าเป็นรุ่นน้องพี่ก็พอ” “พี่ธีร์มีแผนแล้วหรือคะ” เธอกระซิบถาม “คอยดูเถอะ” เขาบอก ชัยวุฒิเดินทางมาถึงที่ร้านอาหารได้ไม่นาน พยาบาลก็แห่กันไปต้อนรับแพรวาพอเห็นคุณหมอเดินเข้ามาก็ทำเนียนเข้าไปนั่งข้าง ๆ ไม่ลืมหยิบเหล้าให้เขาดื่ม บรรยากาศที่ร้านอาหารค่อนข้างดี ไม่มืดไม่สว่างเกินไป ทั้งหมดค่อย ๆ ทยอยสั่งอาหารมากินหลังจากผ่านไปสามชั่วโมง ชัยวุฒิก็เมาได้ที่ เ