บทที่สี่
ละครหลอกตา
“ผมสั่งแกงกะทิสายบัวไว้ ยังไม่มาเสิร์ฟเลย ต้มทิ้งไว้หรือเปล่าครับ”
ธีระตัดบท ใบหน้าหล่อทำเหมือนพูดคุยเรื่องดินฟ้าอากาศ ไม่ได้รู้สึกว่าการพูดแทรกเป็นเรื่องเสียมารยาทอะไร หญิงสาวหันมาค้อนเล็กน้อยเพราะกำลังตั้งใจฟังหญิงแก่พูดถึงหลานวัยหนุ่ม ไม่ได้คิดว่าอีกคนจะปราม
“เอ้อ จริงด้วย ป้าต้มแกงกะทิสายบัวทิ้งไว้ เดี๋ยวขอไปเอามาให้ก่อนนะ” แล้วเธอก็ผละออกไป แพรวารู้สึกเหมือนชายหนุ่มกลั่นแกล้งอีกคน แต่ไม่รู้ว่าแกล้งอย่างไร
พอเหลือแค่สองคนในห้อง บรรยากาศก็กลับมาเงียบดังเดิม ธีระตักกับข้าวใส่จาน ส่วนแพรวาแทบไม่แตะอาหารทะเล เธอไม่รู้ว่ากินแล้วจะแพ้หรือเปล่า ชายหนุ่มเห็นเธอไม่แตะต้องอาหารบางจานก็พอจะเดาความคิดได้
“ไม่ได้สั่งปูมา ไม่มีอะไรเกี่ยวกับปู”
“คะ”
“กินเยอะ ๆ จะได้มีแรง” เขาตักอาหารทะเลให้ ทราบว่าหญิงสาวแพ้ปูจึงไม่ได้สั่งอะไรที่เกี่ยวกับปูมาให้เลย
แพรวาพูดขอบคุณก่อนจะตักอาหารทะเลมาชิม
ป้าชื่นโผล่กลับไปเอาแกงกะทิก่อนจะเข้ามาเสิร์ฟ หญิงสาวชวนให้อีกฝ่ายมากินด้วยกัน ป้าชื่นเกรงใจแต่ก็ยอมอยู่นั่งพูดคุยไปด้วย
ทั้งสองพูดคุยในเรื่องทั่วไป ไม่มีอะไรเป็นพิเศษจนกระทั่งเธอเริ่มเอ่ยถึงอดีต
“สมัยก่อนน่ะ ธีร์เขาชอบแพรมากนะ พูดถึงบ่อยมาก ปัจจุบันก็พูดถึงอยู่ ไม่คิดเลยว่าจะหมั้นกับหนูพราว...แกล้งกันหรือเปล่าเนี่ย” ป้าบอก คนในโต๊ะอาหารหยุดมือที่กำลังจะตักข้าว ก่อนเสียงกระแอมไอจะดังขึ้น
“ป้าไปหยิบผักเคียงมาให้ผมหน่อย” ธีระบอก ป้าชื่นมีสีหน้าเจื่อนลงก่อนจะลุกออกไป แพรวาได้แต่งง เธอตามบทสนทนาบนโต๊ะไม่ทัน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ชายหนุ่มชอบเธอตั้งแต่สมัยเด็ก...แต่คงไม่ใช่ตอนนี้กระมัง อีกฝ่ายรักและหลงพราวลดาเสียอย่างนั้น
หญิงสาวดูมีแววทุกข์ใจแต่ดวงตาก็ทอประกายเมื่อเห็นป้านำอาหารมาให้มากขึ้น โชคดีที่อย่างน้อยก็มีผู้หญิงอีกคนมาช่วยคลายเหงา
อีกด้านหนึ่ง
หลังจากพราวลดาไปเจอกับตฤณเมื่อวันนั้น จิตใจของเธอก็อยู่ไม่สุข เธอยังไม่ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างตัวเองกับตฤณ แต่เป็นเพราะอีกฝ่ายอายุมากกว่า มีผู้หญิงเข้าหาเยอะแล้วยังเหมือนจะชอบพี่สาว เธอจึงทำได้แค่เก็บความในใจไว้เงียบ ๆ
วันนั้นในห้องเรียน เธอตั้งใจลืมของไว้เพราะจะได้ขึ้นมาเอา เผื่อจะได้เจอหน้าคนที่ตัวเองหลงรัก แต่ไม่คิดว่าจะได้เห็นฉากร้อนแรงของทั้งสองเข้าก่อน ตอนนั้นในใจเธอรู้สึกเศร้ามาก อีกคนคิดจะนอนกับใครก็นอน อยากจะรักใครก็รัก ไม่เคยได้สังเกตเลยว่ามีคนหนึ่งแอบหลงรักอยู่
พราวลดาร้องไห้บ่อยมากเวลาไปเรียนคาบของตฤณ ยิ่งอีกฝ่ายถือเนื้อถือตัว ปฏิบัติอย่างห่างเหินยิ่งทำให้ตัวเองเสียใจ
วันหนึ่ง เธอรวบรวมความกล้าเข้าหาเขาตรง ๆ แถมยังเป็นฝ่ายออกปากว่าอยากนอนด้วย ไม่คิดว่าตฤณจะตกลงรับคำ แล้วหลังจากคืนนั้นทั้งสองก็นอนด้วยกันมาเรื่อย ๆ
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าแพรวากำลังดูใจอยู่กับตฤณ แต่เธอกลับทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองคน เธออ่านใจหนุ่มรุ่นพี่ไม่ออก เขาดูเหมือนชอบเธอแต่ก็เหมือนจะไม่ชอบ
ตฤณมีผู้หญิงเข้าหาเยอะมาก ส่วนมากสาว ๆ สวยๆ หน้าตาดีกว่าพราวลดาลิบลับ เธออดน้อยใจไม่ได้เวลาอีกฝ่ายควงผู้หญิงออกงาน
ด้วยความโกรธผสมกับความน้อยใจที่ตฤณไม่มอง เธอเลยมักน้อย ตัดใจจากเขาแล้วคว้าน้องชายเข้ามาในความสัมพันธ์นี้แทน
เธอไม่ได้ชอบธีระ...และก็รู้ด้วยว่าเขามีคนอื่น.. แม้จะไม่รู้ว่าใครแต่หญิงสาวก็ไม่ได้คิดอยากตามไปราวี เพราะเขาไม่ใช่ของเธอตั้งแต่แรก
เธอไม่ได้มีใจให้น้องชายของตฤณเลย เห็นอีกฝ่ายเป็นพี่ชายเสมอ ไม่เคยขอของรางวัลอื่นนอกจากการหอมแก้ม
ความสัมพันธ์ทางกายอย่างอื่นก็ไม่เคยมี ดังนั้นเธอจึงไม่ได้หึงหวงถ้าเขาอยากจะมีคนอื่น
หญิงสาวแค่คบเขาเพราะอยากลองใจตฤณ ที่ผ่านมาจึงเล่นละครตบตา แกล้งทำเป็นว่ารักเขา พราวลดาอยากให้ตฤณหึง แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรตฤณก็ไม่ยอมเปิดเผยว่าคิดอย่างไรกับเธอ เธอจึงจัดฉากงานหมั้นขึ้นมา หวังให้อีกฝ่ายมีอาการหึงขึ้นมาบ้าง
แต่มันก็ยังไม่ได้ผล อาจารย์หมอไม่ได้มีท่าทีหวงหรือหึงเธอเลย ตรงกันข้ามกลับดูสนิทกับแพรวามากกว่าแต่ก่อน นั่นทำให้เธอเสียใจมากยิ่งขึ้น
พราวลดารู้ดีว่าเธอเป็นเด็กขี้อิจฉา อิจฉาพี่สาวที่ได้อยู่ใกล้กับผู้ชายที่รัก หากเรื่องแดงว่าพราวลดาหลอกใช้คนน้องเพื่อให้ได้ใจคนเป็นพี่ คู่หมั้นคงจะรังเกียจรังงอนเธอมาก แม้จะรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายไม่ได้คิดอะไรด้วยก็ตาม
แต่พราวลดามาไกลเกินกว่าจะกลับ แม้ทราบดีว่าสิ่งที่ทำไม่ต่างอะไรกับการจุดเทียนใต้สายฝน
ธีระมีคนอื่นก็ใช่ว่าตฤณจะหันมาชอบหล่อน หมั้นกันได้ก็ยกเลิกได้ แต่รักนี่สิ ใช่ว่าเธออยากรักพี่ชายคู่หมั้นเสียที่ไหน แต่ใจมันไม่ฟังและพร่ำเพร้อหาเขาตลอด
สุดท้าย เพราะรัก ก็หลวมตัวทำเรื่องที่สายเกินแก้ลงไป
พราวลดาขดตัวบนเตียงนุ่ม ปล่อยให้น้ำตาไหลพรากลงมาเป็นสาย
ขณะเดียวกันนั้น
ธีระเองก็มาเข้าห้องน้ำพร้อมกับคิดเรื่องที่ป้าชื่นพูดไปด้วย
จริง ๆ แล้วเขาก็ยังคงชอบแพรวามาตลอดตั้งแต่เล็ก แต่เก็บงำเอาไว้ไม่ได้บอกชอบอีกฝ่ายออกไป เขาคิดว่าอย่างไรเธอก็คงจะชอบพี่ชายมากกว่า เขาตัดสินใจหมั้นกับพราวลดาเพราะอยากจะประชดหญิงสาว เขาไม่ได้ชอบพอกับคนเป็นน้องสาว
แต่เพราะรู้ว่าตฤณกับพราวลดานั้นมีบางอย่างต้องสะสาง ตนจึงรับคำหมั้นเพราะอยากจะแก้เผ็ดพี่ชาย อยากรู้ว่าหากเขาแย่งพราวลดาแล้วจะเป็นอย่างไร พี่ชายจะแสดงสีหน้าแบบไหน แล้วเขาก็ได้เห็นของดีกับตาตัวเอง ตฤณค่อย ๆ เผยความรู้สึกออกมาช้า ๆ
เช่นเดียวกับแพรวา เขาหวังไว้ในซอกหลืบเล็ก ๆ ของหัวใจว่าเธอคงรู้สึกหึงหวงบ้าง แล้วมันก็เป็นจริงตามนั้น
พอได้ทราบว่าหญิงสาวก็รักเขา นั่นทำให้เขารู้สึกดีใจ และยิ่งหึงหวงเธอมากขึ้น แต่เพราะหมั้นกับน้องสาวเอาไว้ ทำให้เขาพูดอะไรไม่ได้มาก
ธีระเองก็รู้เรื่องที่ตฤณกับพราวลดาแอบมีอะไรกันลับหลัง...เขาไม่ถือโทษโกรธ รู้ด้วยว่าพราวลดาต้องการจะคบเขาเพื่อประชดคนเป็นพี่ชาย เขารู้มาตลอด บทละครหลอกตาได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ และจะสิ้นสุดตอนไหน เขารู้ดีทั้งนั้น
ทั้งพราวลดาทั้งเขา ไม่เคยมีใครพิศวาสใครมาตั้งแต่แรก
งานนี้ไม่ใครก็ใครจะต้องมีใครสักคนเผยความรู้สึกออกมา และเขาก็แทบรอตอนจบของบทละครนี่ไม่ไหว
บทที่ห้าความหลังธีระกลับมาจากเข้าห้องน้ำแล้วเรียบร้อย หลังจากนั่งพูดคุยกันเสร็จ ป้าชื่นก็เอาขนมพร้อมกับของฝากจากสมุทรสาครให้แพรวา หญิงสาวไหว้รับ รู้สึกดีใจที่อีกคนเมตตา “ป้าชื่นดูแลตัวเองด้วยนะคะ” เธอกล่าว แม้จะได้อยู่พูดคุยกันไม่กี่ชั่วโมง แต่ก็รู้สึกสนิทกับอีกคนเหมือนเป็นญาติกันมานาน ธีระมาตรวจอาการของหญิงชราบ่อย เป็นเพราะอีกคนเป็นลมเป็นแล้งประจำ เขาถึงต้องแวะมาตรวจมาครั้งนี้ก็ตั้งใจพาหญิงสาวมาให้อีกฝ่ายดูหน้าโดยเฉพาะ ไม่คิดว่าพี่เลี้ยงจะยังจำได้ แถมยังรู้มากเสียด้วยว่าอะไรเป็นอะไร คนแก่รู้สึกเอ็นดูหญิงสาวจึงอดไม่ได้จะเอามือมาลูบหัว ขอให้พระอวยพรพอหญิงสาวขึ้นรถมาได้ คนขับก็พาตรงกลับเข้ากรุงเทพ ระหว่างทางไม่มีอะไรให้ได้คุยกันมากนัก อีกด้านหนึ่ง พลอยลดายังคงไปเรียนที่คณะตามเดิม แม้เธอจะได้พบกับตฤณบ้างประปราย แต่ก็ไม่ได้มีโอกาสได้สานสัมพันธ์ต่อเธอยังจำวันแรกที่เข้าเรียนกับเขาได้ ปกติแล้วชายหนุ่มจะมีท่าทีเป็นกันเอง ไม่ค่อยจริงจังเท่าไหร่นักแต่วันแรกที่เขาสอน เขากลับทำหน้าที่อาจารย์ได้อย่างดีเยี่ยม สอนดีกว่าอาจารย์หลายท่านเสียอีก สา
บทที่หกความลับเผย เนื่องจากมีการร้องเรียนเข้ามาถึงการผ่าตัดที่ล้มเหลวของสุรศักดิ์ บอร์ดบริหารจึงต้องจัดประชุมขึ้นเพื่อหารือว่าจะทำอย่างไรต่อ โชคดีที่ห้องผ่าตัดมีฟุตเทจบันทึกเรื่องราวทั้งหมดไว้ จึงจะพอเอามาเป็นหลักฐานดูได้ “คนไข้อายุสี่สิบแปดปี เพศหญิงมาด้วยอาการปวดท้องทางด้านขวา หลังจากสังเกตอาการในห้อง ER อาจารย์ med กับอาจารย์สูติลงความเห็นว่าต้องส่องกล้อง เมื่อส่องกล้องพบว่าไส้ติ่งแตก จึงต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน หมอสุรศักดิ์เป็นหมอที่เข้าผ่าตัดในขณะนั้น” พยาบาลรายงานเคสให้ทราบ “ระหว่างการผ่าตัด เป็นไปด้วยดี ไม่มีความผิดพลาด แต่หลังจากการผ่าตัด คนไข้ติดเชื้อในกระแสเลือดจึงจากไปในอาทิตย์ต่อมา” เธอสรุป ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมีสีหน้าเคร่งเครียด “คนไข้ไม่ได้แพ้ยาสลบ แต่ติดเชื้อในกระแสเลือดงั้นหรือ” เคสนี้ถือว่าพูดยาก การทำหัตถการมีความเสี่ยงที่ต้องรองรับ ผู้ป่วยอาจจะจากไปได้ทุกเมื่อไม่ว่าจะเป็นการเสียเลือด ติดเชื้อ หรือแผลผ่าตัดมีรอยรั่ว ในกรณีนี้เกิดการติดเชื้อขึ้น ก็จำเป็นจะต้องหาสาเหตุว่าติดเชื้อเพราะอะไร หากยังไม่ทรา
บทที่เจ็ดสายปริศนา พราวลดาถูกตฤณรุกคืบมากขึ้น หญิงสาวได้แต่ปัดป้องคนตัวสูง เขาฉวยโอกาสตอนที่เธอกำลังเคลิ้ม เลื่อนมือเข้าไปใต้บรา หญิงสาวสะดุ้งเมื่อถูกมือหนาทาบทับ เธอผละออกจากเขา โกยอากาศหายใจเข้าปอด หมอหนุ่มเคลื่อนใบหน้าหล่อลงมาที่บริเวณเหนือหน้าอก ซุกเข้ากับร่างกายเล็กของพราวลดา เท่านั้นเธอก็ร้องห้าม “พี่ตฤณ นี่มันในบ้านพราวนะคะ” “แปลว่านอกบ้านก็ได้งั้นสิ” เขากระตุกยิ้ม ร่างเล็กหน้าขึ้นสี เธอผลักอีกคนออก “เดี๋ยวจะมีคนเห็นเข้า” “ใครจะมาเห็นเรา ให้เขาดูไปสิ” เธอไม่ได้หน้าด้านหน้าทน ไม่มียางอายเหมือนชายหนุ่ม คิดแล้วก็รู้สึกอาย ตฤณลำพองใจเมื่อเห็นอีกคนนิ่งไป เขายิ่งรุกไล้ร่างกายหนักขึ้น หญิงสาวอยากผลักอีกคนออก แต่ใจหนึ่งก็อยากใช้งานตฤณ เธออยากนอนกับเขาแลกกับการให้พ่อไม่ถูกพักงาน “คิดอะไรอยู่” ชายหนุ่มถามเมื่อเห็นสาวเจ้าก้มหน้านิ่ง “พี่ตฤณช่วยพราวเรื่องพ่อไม่ได้จริง ๆ หรือคะ” ลองใช้มารยาหญิงดู พราวลดาปลดตะขอบราออก หมอหนุ่มถึงกับกลืนน้ำลาย “เรื่องนี้แม้คนผิดไม่ใช่คุณสุรศักดิ์ แต่ก็ถือว่ามี
บทที่แปดจำยอม “พี่ธีร์” หลังจากรู้ว่าคนที่พาเธอเข้ามาหลบคือใคร เธอก็ตกใจไป แพรวาดูสับสนเป็นอย่างมาก ธีระและหญิงสาวตั้งใจฟังบทสนทนาลับนั้นเป็นอย่างดี อาจเพราะมันเกี่ยวกับพ่อเขาและพ่อของแพรวา เมื่อคนคุยโทรศัพท์เดินไปอีกทาง เขาจึงพาหญิงสาวออกมาจากบริเวณนั้น “พี่ธีร์มาได้ยังไงหรือคะ” “พี่ตามแพรออกมา” นี่เขาจับตาดูเธออยู่หรือ ใบหน้าสวยไม่เข้าใจการกระทำของอีกคน ร่างสูงดูเคร่งเครียดขึ้นกว่าเดิม ธีระเคยได้ยินเรื่องที่ธนา พ่อของตนมีปากเสียงกับเพื่อนเรื่องสร้างโรงพยาบาล คิดว่าจบไปแล้วด้วยดี แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่รามือ จริงอยู่ที่ธนาไม่ได้มีความคิดริเริ่มจะสร้างโรงพยาบาล อีกฝ่ายเป็นคนต้นคิด แต่สุดท้ายคน ๆ นั้นกลับละทิ้งโปรเจ็กต์แล้วหนีไปต่างประเทศเพราะปัญหาเรื่องเงิน ทิ้งให้พ่อของเขาแบกรับหนี้มหาศาลจากการสร้างสุดท้ายเมื่ออีกฝ่ายกลับมา พอเห็นว่าโรงพยาบาลกำลังประสบความสำเร็จ ก็คิดจะเคลมโรงพยาบาลเป็นของตนเอง หนักเข้าก็ทำเรื่องชั่วช้า ธีระแสยะยิ้ม เป็นยิ้มที่ทำให้หญิงสาวใจคอไม่ค่อยดี “ที่เขาพูดในโทรศัพท
บทที่เก้าคาดไม่ถึงข้าวต้มมื้อค่ำทำให้ท้องของหญิงสาวอิ่มหนำสำราญ ธีระสั่งกับมาเพิ่มอีก ในขณะที่หญิงสาวปฏิเสธ แม้จะออกมานอกบ้านและมีความสุขดี แต่ในหัวคิดไปถึงพ่อและน้องสาว เคสของพ่อจะต้องรอสืบ แต่เคสของน้องสาวและตฤณ ไม่รู้ว่าความเป็นมาเป็นอย่างไรเรื่องที่ตฤณกับพราวลดาลอบมีสัมพันธ์กัน ไม่รู้ว่าธีระรู้เรื่องนี้แล้วหรือยัง และถ้ารู้แล้ว เขาจะว่าอย่างไร นัยน์ตาสวยแอบมองเสี้ยวหน้าหล่อ วันนี้ธีระสวมแว่นตากรอบสีเงิน กระแสในดวงตาดูอ่อนนุ่มกว่าปกติ ผิวขาวราวกับคุณชายทำให้เธอรู้สึกหมั่นเขี้ยว ไม่รู้อีกฝ่ายอาบน้ำวันละกี่รอบเพราะดูสะอาดสะอ้านเหลือเกิน“มองพี่ทำไม” เขาพูดทั้งที่สายตายังไม่ละจากชามข้าวต้ม หญิงสาวรีบเฉสายตาไปทางอื่น“ไม่ได้มอง”“แพรมอง”“เปล่าค่ะ” เธอเลื่อนสายตาขึ้นมองกรามของร่างสูง ก่อนจะกลืนน้ำลาย“มองอีกแล้ว” เขายิ้มบาง หญิงสาวรู้สึกฉุน เธอลอบถามขึ้นมา"ถ้ายัยพราวนอกใจพี่ธีร์ พี่ธีร์จะโกรธไหมเหรอคะ" หญิงสาวเพิ่งรู้สึกตัวว่าไม่ควรถาม แต่จะหุบปากก็ไม่ทันแล้วธีระวางตะเกียบและช้อนลง ผ้าเช็ดหน้าถูกเอาขึ้นมาเช็ดปาก สีหน้าชายหนุ่มมองไม่ออกว่าคิดอย่างไร เขาผุดยิ้มน้อยบนใบหน้าก่อนเอ่ยข
บทที่สิบเข้าใกล้ความจริงเกิดความเงียบอันน่าอึดอัดใจขึ้นภายในรถ พราวลดาไม่กล้าบอกธีระถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ได้แต่นั่งนิ่งเป็นก้อนหินแพรวาเองก็ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติมนอกจากนั่งเงียบ สารถีหนุ่มจ้องหน้าคู่หมั้นเขม็ง“พราวมีอะไรอยากจะพูดกับพี่หรือเปล่า” เขาถาม ตั้งใจว่าหากอีกฝ่ายสารภาพความจริงออกมา เขาจะปล่อยเธอไป“มะ..มีอะไรหรือคะ” เธอถาม ทำเป็นไม่เห็นซองถุงยางที่ตกอยู่ในรถธีระเห็นหลักฐานทุกอย่างแล้วแต่เขายังไม่เก็บทุกอย่างออกไปหนึ่งคืออยากให้หลักฐานมันคงเดิม ทุกคนในนี้จะได้เห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้น สองคืออยากจับพิรุธคู่หมั้นให้ได้คาหนังคาเขา เรื่องพราวลดากับตฤณ ชายหนุ่มรู้มาตั้งแต่แรก ก่อนจะเกิดเรื่องของเขากับแพรวาเสียอีกแปลกที่คู่หมั้นยังไม่พูดอะไร“รถคันนี้เป็นรถของตฤณ พี่ยืมมาใช้ก่อน หวังว่าพราวคงจะไม่ว่าอะไร...เรื่องสภาพรถ”“อ๋อ ค่ะ” เธอจะว่าอย่างไรได้แพรวารับรู้ถึงบรรยากาศมาคุระหว่างทั้งสองคนจึงกระแอมไอขึ้นแล้วพูดเปลี่ยนเรื่อง“พี่ธีร์ไปส่งพราวที่มหาวิทยาลัย เสร็จแล้วแวะกูร์เมต์มาร์เก็ตให้หน่อยนะคะ”ธีระไม่ตอบ อาจเป็นเพราะเขากำลังคิดอะไรอยู่ในหัวเรื่องของพราวลดากับตฤณรบกวนจิตใจเข
บทที่สิบเอ็ดสารภาพ คำพูดของหมอหนุ่มทำให้พยาบาลตั้งสติได้ พิจิตราส่ายหัวช้า ๆ “โทรได้ค่ะ” เธอบอกก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กดสายไปหาสามีเก่าของตัวเองทันที ใช้เวลาเพียงอึดใจ ชัยวุฒิก็รับ เขากรอกเสียงลงไปอย่างโมโห [นี่ ฉันได้ข่าวว่าสุรศักดิ์มันทำงานที่บ้านแต่ก็ยังไม่วายซื้อหุ้นโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น] “สวัสดีค่ะ คุณหมอชัยวุฒิ ขอคอนซัลต์อาการคนไข้หน่อยนะคะ ผู้ป่วยชายอายุสามสิบปีมาด้วยอาการกระดูกหัก มีการทะลุถึงผิวหนัง คาดว่าจะต้องผ่าตัด หมอธีระให้มาคอนซัลต์ค่ะ” เธอจงใจเน้นย้ำคำว่าธีระ [ธีระมันจะให้เธอโทรมาหาฉันทำซากอะไร กวนประสาท ก็รู้อยู่ว่าพ่อมันไม่ถูกกับฉัน ฉันหาทางเลี่ยงอยู่..มันก็ยังจะกวนประสาทดึงฉันกลับไปอยู่นั่น] “เนื่องจากคุณชัยวุฒิเป็นหมอที่มีประสบการณ์ผ่าตัดมานาน เคสนี้ค่อนข้างยากและคิดว่าน่าจะใช้เวลานาน คุณหมอธีระเลยให้มาคอนซัลต์และ อยากจะขอเชิญมาตรวจคนไข้สักหน่อยค่ะ” [ให้มันได้อย่างนี้สิ เออ ๆ เดี๋ยวไป] “ค่ะ” พิจิตราวางสาย หล่อนทำเป็นไม่ได้ยินในสิ่งที่คนปลายสายว่า ธีระหรี่ตาลง เขาจับจ้องทุ
บทที่สิบสองโชว์ไทม์ เนื่องจากมีกินเลี้ยงช่วงหัวค่ำ ตฤณเอารถไปรับพราวลดาที่มหาวิทยาลัยธีระกับแพรวาจึงต้องนั่งรถไปกับพี่พยาบาลแทนอย่างช่วยไม่ได้ ร้านอาหารที่ต้องไปนั้นเป็นร้านอาหารที่อยู่ติดกับแม่น้ำ ตกแต่งแบบเรียบหรูโมเดิร์น มีลมโกรกพัดมาเย็นสบายธีระว่าจะเลี้ยงเหล้าชัยวุฒิจากนั้นค่อยส่งข้อความไปล่อพิจิตราให้ออกมา เขาอยากเห็นเธอลนลานรีบมาที่นี่ ชัยวุฒิเป็นคนที่เมาแล้วชอบหลุดปากพูดความลับของตนออกมา ถ้าสองคนนี้อยู่ด้วยกัน แน่นอนว่ายิ่งกว่าบันเทิง ไม่รู้อะไรจะหลุดออกมาจากปากบ้าง ชายหนุ่มแตะลำแขนของหญิงสาว“แพรไปนั่งกับคุณชัยวุฒิ ไม่ต้องแนะนำนะว่าเป็นลูกของอาสุรศักดิ์ บอกว่าเป็นรุ่นน้องพี่ก็พอ” “พี่ธีร์มีแผนแล้วหรือคะ” เธอกระซิบถาม “คอยดูเถอะ” เขาบอก ชัยวุฒิเดินทางมาถึงที่ร้านอาหารได้ไม่นาน พยาบาลก็แห่กันไปต้อนรับแพรวาพอเห็นคุณหมอเดินเข้ามาก็ทำเนียนเข้าไปนั่งข้าง ๆ ไม่ลืมหยิบเหล้าให้เขาดื่ม บรรยากาศที่ร้านอาหารค่อนข้างดี ไม่มืดไม่สว่างเกินไป ทั้งหมดค่อย ๆ ทยอยสั่งอาหารมากินหลังจากผ่านไปสามชั่วโมง ชัยวุฒิก็เมาได้ที่ เ
บทส่งท้ายวันแต่งงานมาถึงในไม่ช้า แพรวากลับมาจากเชียงใหม่แล้ว ตอนนี้ทราบเพศของลูกในครรภ์แล้วเรียบร้อย“เป็นผู้หญิงครับ” คุณหมอร้องบอก ธีระเลยมีความสุขสมใจ อาจเป็นเพราะตนเองอยากให้ลูกคนโตเป็นผู้หญิง พอลูกเป็นผู้หญิงจริงก็อดดีใจไม่ได้ “แพร พี่ดีใจมากที่ลูกคนแรกเป็นผู้หญิง” น้ำตาของชายหนุ่มเกือบจะไหล ว่าที่คุณแม่ถึงกับหลุดหัวเราะเมื่อเห็นปฏิกิริยาสามี “ฮิ ๆ มันดีใจจนน้ำตาเกือบไหลเลยหรือพี่ธีร์” “พี่อยากมีลูกเป็นผู้หญิง แกน่ารัก” แทบจะเป็นความใฝ่ฝันของผู้ชายทุกคนที่มีลูก ใคร ๆ ก็ย่อมอยากได้ลูกผู้หญิงกันทั้งนั้น แพรวาต้องพักการเรียนหมอไว้ก่อนเพราะตอนนี้ตนกำลังจะท้อง กำลังจะมีเจ้าตัวเล็ก เธอเอาเวลามาโฟกัสกับอนาคตของลูกน้อย ธีระเองก็หยุดงานบ่อยขึ้นเพื่อดูแลแม่ของลูกในท้องส่วนคู่ของพราวลดากับตฤณ ตอนนี้ยังไม่หมั้นและยังไม่จัดงานแต่งงาน พราวลดายังเรียนไม่จบ ยังเป็นนักศึกษาแพทย์อยู่ ทั้งสองจึงทำได้แต่คบหาดูใจกันไปก่อน ชัยวุฒิและพ่อของไข่มุกตอนนี้ติดคุก ประกันตัวไม่ได้ ส่วนพิจิตราหลังจากลาออกแล้วก็ไม่ทราบข่าวอีกเลย คอปเตอร์กับคิมก็หายหน
บทที่สิบเก้างานหมั้นแพรวาใกล้จะได้กลับไปเชียงใหม่เพื่อเรียนต่อ ระหว่างนี้พิธีหมั้นจึงถูกจัดขึ้นที่คฤหาสน์ของทั้งสองตระกูลธีระบอกว่าทนรอจนถึงวันแต่งไม่ไหว แพรวาเองก็ทนรองานแต่งไม่ไหวเหมือนกัน แต่เหนือสิ่งอื่นสิ่งใดนั้น ต้องจัดงานหมั้นเสียก่อนงานหมั้นอยู่ในชุดตีมสีเอิร์ธโทน แพรวาต้องไปลองชุดที่ร้านพร้อมกับธีระ เพื่อน ๆ ของแต่ละฝ่ายต่างเตรียมตัวเพื่องานหมั้นครั้งนี้ด้วยเช่นกันเมื่อพวกเขาไปถึงที่ร้านแรก มองซ้ายมองขวาไม่เจอเจ้าของร้าน ก็นั่งรออีกฝ่ายให้มาถึง ระหว่างนั้นทั้งสองคนเบื่อเลยต้องนั่งอ่านหนังสือรอไปก่อน“นานมากเลยค่ะ พี่ธีร์ เจ้าของร้านหลับหรือเปล่าเนี่ย”“ถ้ามันนานขนาดนี้ งั้นไปร้านอื่นกันไหม” เขาชวน หญิงสาวเลยว่าจะรออีกห้านาที แต่รอแล้วรอเล่า อีกฝ่ายก็ยังไม่มาเลยว่าจะไปที่อื่นแทนหญิงสาวเดินเคียงข้างกับชายหนุ่มไปที่ร้านเช่าชุดหมั้นร้านที่สอง หลังจากลองชุดแล้วพบว่าร้านนี้ช่างพูดคุยดี แต่ยังไม่เจอแบบที่ถูกใจเป็นพิเศษแพรวาจึงไปหาร้านเช่าชุดหมั้นร้านที่สาม ร้านนี้อยู่ไกลออกไปหลายกิโล ธีระขับรถหาที่จอดอยู่ตั้งนาน พอถึงที่จอดก็เดินกลับมาโชคดีที่ร้านนี้มีชุดสวย เหมาะกับสิ่งที่ต
บทที่สิบแปดหวานหลังจากไร้ซึ่งขวากหนามมารบกวน หญิงสาวกับชายหนุ่มก็อยู่อย่างมีความสุขดี ธีระมีกำหนดหมายจะหมั้นกับแพรวาเร็ว ๆ นี้ เขาจึงต้องเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านกับร้านขายชุดแต่งงานแพรวาดีใจมากที่คนเลวถูกจับได้และบ้านก็กลับมาสงบสุขดังเดิมช่วงนี้ธีระติดเธอหนักขึ้น ชายหนุ่มชอบเข้ามาคลอเคลียใบหน้าและชอบเข้ามาจูบ“แพร พี่อยาก...เรายังไม่ได้ให้รางวัลพี่เลยที่พี่ช่วยพ่อเรา” ธีระทวงรางวัล คนตัวเล็กได้แต่ร้องห้าม“ไม่ได้ค่ะ พี่ธีร์ แพรยังไม่พร้อม”“น่า ให้พี่หน่อยนะ” เขาทวงอีก ทวงไปทวงมา หญิงสาวก็ใจอ่อน ยอมให้อีกฝ่ายชายหนุ่มไม่รอช้ารีบหอมพวงแก้มใส ก่อนจะไล่ไปทั่วกรอบหน้า เขาจุมพิตหล่อนเบา ๆ ก่อนสอดแทรกลิ้นเข้าไปด้านใน แพรวาจูบตอบ จับใบหน้าหล่ออย่างถนัดถนี่มากขึ้นธีระผลักหญิงสาวลงกับเตียง ก่อนจะพรมจูบไปทั่วหัวไหล่มน ลากยาวลงมาถึงเนินอก เขาจุมพิตไปทั่วบริเวณด้วยความรู้สึกรักและหวงแหนปลายลิ้นหยอกล้อกับปทุมถันสีชมพูสวย ก่อนจะงับเบา ๆ แล้วดูดดึง แพรวารู้สึกอายจึงได้แต่เอามือปิดหน้า แต่อีกคนไม่รู้สึกม้านแต่อย่างไร ชมออกมาไม่ขาดปาก“แพรสวยมาก หวานด้วย”หญิงสาวรู้สึกอาย จึงได้แต่หุบขาเข้าหากั
บทที่สิบเจ็ดเปิดโปงไข่มุกเอาบัญชีของพ่อตนให้กับธีระดูหลังจากลงมาถึงชั้นล่าง แต่ก่อนจะยื่นให้เธอไม่ลืมบอก“สัญญาก่อนสิว่าตั้งแต่นี้ไป พี่ธีร์ต้องไปไหนมาไหนกับไข่มุก”ธีระไม่อยากตอบรับแต่ไม่มีทางเลือกจึงพยักหน้ารับ หญิงสาวยิ้มแล้วจึงเอาบัญชีของพ่อยื่นให้ หมอหนุ่มรับมาดูก่อนจะขอตัว แต่ไข่มุกไม่ปล่อยอีกฝ่ายไปง่าย ๆ“พี่ธีร์ไปกินข้าวด้วยกันก่อนสิคะ” เธอร้องขอ ชายหนุ่มอยากจะปฏิเสธแต่เพราะติดที่อีกฝ่ายติดตนแจ เขาจึงเลือกไปกับเธอไข่มุกเป็นคนปล่อยข่าวไปทั่วทั้งโรงพยาบาลว่าธีระกำลังจะเป็นแฟนเธอ ทำให้โดนกระแสสังคมลอบนินทา ธีระนั้นมีแฟนอยู่แล้วซึ่งก็คือแพรวา การที่เธอเข้าไปยุ่งด้วยนั้นย่อมเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นนางพยาบาลต่างจับกลุ่มซุบซิบเรื่องของทั้งคู่ แม้กระทั่งป้าที่ขายข้าวในโรงพยาบาลยังอดที่จะพูดคุยเรื่องพวกนี้ไม่ได้ เธอเข้ามากระซิบกับธีระ“หมอ หมอเป็นแฟนกับไข่มุกจริงหรือ”“ไม่ใช่ครับ” เขาปฏิเสธ“แฟนหมอก็คือหนูแพรวาใช่ไหม แต่ทำไมยัยไข่มุกนี่ชอบอวดอ้างว่าหมอเป็นแฟนอยู่เรื่อย” ป้าบอก เมื่อเห็นหญิงสาวเดินมาก็ทำเป็นมองไม่เห็น ทำเหมือนตัวเองไม่ได้พูดเรื่องอีกคน“ผมกำลังทำภารกิจอยู่นะป้า”“ภารกิจอ
บทที่สิบหกภาระสุรศักดิ์โผล่หน้าเข้ามาเยี่ยมพร้อมกับพราวลดา ในมือเขามีสลัดพร้อมกับดอกไม้เยี่ยมไข้ พราวลดารีบวิ่งมากอดพี่สาวทันที“พี่แพร เป็นอย่างไรบ้างคะ” เธอเอาหน้าซุกอกพี่สาว คนป่วยรีบยีหัวคนตัวเล็ก“พี่สบายดี พราวนั่งก่อน มาเหนื่อย ๆ ” หญิงสาวว่าพร้อมกับเพยิดหน้าไปทางเก้าอี้ คนเป็นน้องนั่งลงก่อนจะกวาดสายตามองห้องที่พี่สาวพักมันเป็นห้องชั้นดี ราคาแพงที่ตั้งอยู่บนชั้นบน ๆ ของโรงพยาบาล ธีระเป็นคนเลือกห้องให้เพราะอยากให้คนรักสบายมากที่สุดพ่อของแพรวานั่งข้าง ๆ พราวลดา ถามขึ้นมา“ไอ้คอปเตอร์อะไรนั่นมันลวนลามแพรมานานหรือยัง”“ตั้งแต่ปีหนึ่งค่ะ แพรกลัวมาก”“พี่คอปเตอร์เคยลวนลามพราวด้วยค่ะ” ผู้เป็นน้องว่า นั่นทำให้สุรศักดิ์นึกโกรธกว่าเดิม เขาโทรไปหาประสิทธิ์เพื่อนของตนเองเพื่อต่อว่าทันที“ฮัลโหล ประสิทธิ์ ลูกแกมาลวนลามลูกสาวฉัน ทำแบบนี้ไม่ได้นะ”[ขอโทษจริง ๆ เพื่อน ฉันพยายามบอกไอ้คอปมันแล้วว่าอย่าไปทำรุ่มร่ามใส่ใคร ไม่คิดว่ามันจะร้ายขนาดนี้]“ฝากเตือนมันด้วยว่าถ้ายังทำนิสัยแบบนี้อยู่ ระวังจะจบลงในตะราง”[ได้ ๆ ] ประสิทธิ์ตอบ ยืนยันว่าจะบอกลูกให้ก่อนวางสายไป สุรศักดิ์ถอนหายใจออกมาพรืดหนึ
บทที่สิบห้าคนเลว หลังจากกินเลี้ยงที่ร้านอาหารผ่านไป ธีระก็แอบนำคลิปที่ถ่ายชัยวุฒิไว้ไปเปิดให้กับธนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลดู ท่านตกใจที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก่อนจะยอมรับว่าตนกับอีกฝ่ายมีปัญหากัน “ชัยวุฒิเขาเป็นคนเสนอให้สร้างโรงพยาบาลแห่งนี้ขึ้น แต่เขาไม่มีทุนทรัพย์ พ่อจึงเป็นฝ่ายออกให้โดยเขาจะต้องใช้หนี้คืน แต่เขาไม่มีเงินจ่ายและยังทิ้งหนี้ให้พ่อรับผิดชอบ สุดท้าย โรงพยาบาลแห่งนี้จึงกลายมาเป็นของพ่อ... เขาอาจจะมีความแค้นกับพ่อเป็นการส่วนตัวจากเรื่องนี้ก็ได้” ธนาบอก หลังจากปรึกษาหารือกันเสร็จ ธีระก็ตั้งใจจะนำคลิปไปลงบันทึกประจำวันเพื่อปกป้องชื่อเสียงของพ่อและสุรศักดิ์เขายังวางแผนจะทำการสืบสวนว่ามีใครอยู่เบื้องหลังบอร์ดบริหารหรือเปล่า มีใครคนอื่นที่ยักยอกเงินหรือไม่ แพรวาเห็นคนรักเคร่งเครียดกับการหาตัวผู้ร้ายก็เลยซื้อของมาฝาก ธีระมีความจำเป็นต้องตรวจสอบบัญชีย้อนหลัง “นี่มัน...”ใช้เวลาไม่นาน เขาพบพิรุธอยู่หลายจุด และกำลังหาหลักฐานจ่อเอาผิดชัยวุฒิ ระหว่างที่กำลังขะมักขะเม้นอยู่นั้น พอเห็นคนรักเดินมาพร้อมกับกับข้าวในมือ เขาก็ยิ้มบา
บทที่สิบสี่ขอขมา แพรวาพาธีระขึ้นไปทำแผลด้านบน ในขณะที่พราวลดาก็จัดแจงทายาให้กับคนรัก หญิงสาวไม่คิดว่าตฤณจะต่อยตีธีระจนคิ้วแตกได้ สภาพของชายหนุ่มดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ลุคคุณหมอสำอางหายวับกับตาเหลือเพียงลูกแมวตัวโตที่ยังรู้สึกชาหน้าอยู่ “พี่ตฤณต่อยพี่ธีร์แรงเหมือนกันนะคะ” เธอทายาให้อย่างเบามือ คนเจ็บได้แต่ร้องโอดโอย ทำให้เธอรู้สึกสงสาร “คิดอย่างไรถึงไปต่อยกับพี่ตฤณคะ พี่ธีร์ตัวเล็กกว่าพี่ตฤณอีกนะ” “พี่โกรธ” ธีระยอมรับออกมาตรง ๆ “โกรธที่พี่ตฤณแย่งพราวไป?” “โกรธที่มันมาอยู่กับแพรบ่อย ๆ นี่ล่ะ” คราวนี้ชายหนุ่มไม่คิดปิดบัง เขาทั้งหึงทั้งหวงตอนที่อีกคนอยู่กับพี่ชายของตัวเอง ไม่ใช่แค่กับพี่ชายด้วย แต่หวงตอนที่อีกฝ่ายอยู่กับคอปเตอร์อีกต่างหาก “พี่ตฤณไม่ได้จีบแพรสักหน่อย เขาแค่มาอยู่ด้วยเพราะรู้สึกเอ็นดูแพรเหมือนเป็นน้องสาว” “แต่พี่ไม่ไว้ใจมัน มันนอนกับผู้หญิงไปทั่ว แพรอย่าไปยุ่งกับมันมากจะดีกว่า” ธีระบอก “แต่พี่ตฤณก็หยุดเจ้าชู้แล้วนะคะ ตั้งแต่มีพราว พี่ตฤณก็ไม่ได้นอนกับผู้หญิงคนไหนอีกเลยนะ” แพ
บทที่สิบสามวิวาทเสียงเอะอะโวยวายดังลั่นคฤหาสน์อนันต์ตาลัย ปลุกให้สองพี่น้องเดินลงบันไดมาในสภาพงัวเงีย แพรวามีสีหน้าไม่สู้ดีนักเมื่อเห็นธีระปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับผู้เป็นพี่ทั้งสองคนกำลังทะเลาะกันเรื่องของพราวลดา และนั่นทำให้สุรศักดิ์ถึงกับเดินออกมาจากห้องทำงาน คุณนายของบ้านเองก็รับเข้ามาห้ามปรามทั้งคู่“หยุดทะเลาะกันเลยนะ”“ไอ้ธีร์มันมาหาเรื่องผมก่อน” ตฤณบอก ผลักน้องชายกระเด็น“ก็มึงนอนกับคู่หมั้นกูไม่ใช่หรือไง” ธีระพูด ต่อยคนเป็นพี่จนล้ม ร่างสูงเซไปเล็กน้อยก่อนจะซัดคนเป็นน้องกลับเช่นกัน“ทีมึงยังนอนกับแพรได้เลย” ตฤณชี้หน้า“นั่นมันเกิดทีหลัง เกิดหลังจากมึงไปนอนกับพราวต่างหาก” ธีระทำท่าจะเข้าไปต่อยอีก“พอ พอ ไม่ต้องทะเลาะกันเลย” สุรศักดิ์เข้ามาห้าม สองพี่น้องเลยจำต้องหยุดตีกัน แพรวาเดินมาลูบหลังธีระ ในขณะที่พราวลดาเดินมาจับไหล่คนรัก“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่หรือคะ” พราวลดาถามด้วยความงุนงงตฤณเปิดโทรศัพท์มือถือยื่นให้คนรักดู ปรากฏว่าในนั้นมีคลิปหญิงสาวกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับคนที่ไม่ใช่คู่หมั้น“ไอ้ธีร์มันแอบซ่อนกล้องเพื่อถ่ายเราสองคน” ตฤณบอก พราวลดาตกใจ“พี่ธีร์แอบถ่ายคลิปของพราวกับพี่ตฤณห
บทที่สิบสองโชว์ไทม์ เนื่องจากมีกินเลี้ยงช่วงหัวค่ำ ตฤณเอารถไปรับพราวลดาที่มหาวิทยาลัยธีระกับแพรวาจึงต้องนั่งรถไปกับพี่พยาบาลแทนอย่างช่วยไม่ได้ ร้านอาหารที่ต้องไปนั้นเป็นร้านอาหารที่อยู่ติดกับแม่น้ำ ตกแต่งแบบเรียบหรูโมเดิร์น มีลมโกรกพัดมาเย็นสบายธีระว่าจะเลี้ยงเหล้าชัยวุฒิจากนั้นค่อยส่งข้อความไปล่อพิจิตราให้ออกมา เขาอยากเห็นเธอลนลานรีบมาที่นี่ ชัยวุฒิเป็นคนที่เมาแล้วชอบหลุดปากพูดความลับของตนออกมา ถ้าสองคนนี้อยู่ด้วยกัน แน่นอนว่ายิ่งกว่าบันเทิง ไม่รู้อะไรจะหลุดออกมาจากปากบ้าง ชายหนุ่มแตะลำแขนของหญิงสาว“แพรไปนั่งกับคุณชัยวุฒิ ไม่ต้องแนะนำนะว่าเป็นลูกของอาสุรศักดิ์ บอกว่าเป็นรุ่นน้องพี่ก็พอ” “พี่ธีร์มีแผนแล้วหรือคะ” เธอกระซิบถาม “คอยดูเถอะ” เขาบอก ชัยวุฒิเดินทางมาถึงที่ร้านอาหารได้ไม่นาน พยาบาลก็แห่กันไปต้อนรับแพรวาพอเห็นคุณหมอเดินเข้ามาก็ทำเนียนเข้าไปนั่งข้าง ๆ ไม่ลืมหยิบเหล้าให้เขาดื่ม บรรยากาศที่ร้านอาหารค่อนข้างดี ไม่มืดไม่สว่างเกินไป ทั้งหมดค่อย ๆ ทยอยสั่งอาหารมากินหลังจากผ่านไปสามชั่วโมง ชัยวุฒิก็เมาได้ที่ เ