สองดรุณีน้อยหลับไปแล้ว แต่บุรุษที่เอาเปรียบนางกับนอนไม่หลับ กล้ามากนะกล้าตบหน้าเขาเชียวหรือ เขาไม่ปล่อยนางแน่เฝิงอันหยวนมีหน้าที่เกี่ยวกับเครื่องบรรณาการก็จริงแต่เกลียดการเข้าวังยิ่งนัก จึงไม่เคยเห็นองค์หญิงหก ได้ยินแค่ว่าเป็นดวงใจฝ่าบาทกับไทเฮาเท่านั้นส่วนจูยวี่ซานเองก็นอนไม่หลับ ต้องอาศัยบ้านหลานสาวคงไม่ดีแน่ เด็กอ้ายซินนั้นจะทำเขาขาดสติแล้วจับนางโยนลงเหวแน่ๆ ต่อให้เป็นน้องสาวของหลานเขยก็เถอะต้องบอกเสี่ยวลี่ว่าอย่าให้นางเลี้ยงผิงผิงเด็ดขาด เขารักผิงผิงแม้ว่าจะเป็นเพียงลูกติดของเซียวจ้านเป่ย นางเป็นเด็กน่ารักรู้ความยิ่งนัก มีอาแบบอ้ายซินไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีนักยามเฉินทุกคนลงมารวมตัวกันที่ด้านล่าง เซียวจ้านเป่ยสั่งอาหารเรียบร้อยแล้ว จูยวี่ซานกับเฝิงอันหยวนลงมาพอดี เซียวจ้านเป่ยเรียกให้พวกเขานั่งด้วยกันก่อนที่เด็กสาวทั้งสองจะลงมาทีหลัง ทันทีที่เห็นพวกเขาหน้าก็งอลงโดยเฉพาะอ้ายเย่วนางเป็นถึงองค์หญิงไม่เคยมีใครมาทำเรื่องชั่วช้าเช่นนี้กับนาง เขาทำให้นางถูกพี่ชายดุ ตั้งแต่เกิดมาพี่ชายตามใจนางตลอดแต่เมื่อคืนเขาดุนางเพราะเขาเข้าข้างคนอื่น"วันหลังอย่าทำแบบนี้อีก หากพี่มาไม่ทันเล่าจะโทษพ
เซียวจ้านเป่ยรับเซียวลี่ผิงกลับบ้าน ทันทีที่มาถึงบ้านเขาก็เห็นจูเหมยลี่กำลังทำอาหาร โดยมีน้องสาวสองคนคอยถามนั่นนี่ตลอดเวลา พวกนางดูชอบเมียเขามากนักแต่อีกสองคนนั่งหน้างอไม่พอใจ ต้องหาบ้านให้พวกเขาไปอยู่ต่างหากเสียแล้ว เจ้าหกหน้าเหมือนท่านน้ามากนัก หากคนคุ้นเคยย่อมต้องมองออก ตอนนั้นเขาไม่ได้เจอเฝิงอันหยวนเพราะเอาแต่ร่ำเรียนท่านตารับท่านน้ามาดูแลเพราะท่านพ่อของท่านน้าถูกโจรปล้นเสียชีวิตรวมถึงน้องสาวท่านตาที่เป็นมารดานางด้วยเขาเคยเห็นท่านน้าร้องไห้ตัดพ้อท่านตาว่าเห็นแก่ตระกูลจนยอมขายความสุขบุตรสาวหลานสาวตนเอง เพื่อรักษาตระกูล ท่าตาร่ำรวยมากนักตระกูลเซียวที่เป็นเหมือนชิ้นปลามันท่านน้าจึงแต่งกับเสด็จอา ท่านแม่ก็แต่งกับผู้ชายคนนั้นเพื่ออาศัยตำแหน่งพระชายารักษาสมบัติตระกูลเช่นกัน ตระกูลเซียวมีแต่สตรีไร้บุตรชายอีกไม่กี่วันเซียวจ้านเป่ยต้องไปชายแดนแล้ว ต้องหาทางเจอคังหยุนก่อนที่เขาจะมาหาจางลู่เหลียน แล้วเจอกับอ้ายเย่วเขาไม่เคยเจออ้ายซินยังพอหลบหลีกใครจะรู้ว่าอ้ายเย่วจะซุกซนจนหนีตามกันมา แต่อ้ายเย่วนั้นไม่เหมือนอ้ายซิน คงต้องบอกความจริงว่าเขาเป็นใคร คังหยุนคือบุตรบุตรธรรมคังกุ้ยเฟยเข
มื้อค่ำผ่านไปแล้ว จูยวี่ซานเอ่ยกับหลานสาวว่าพรุ่งนี้จะไปคุยกับชาวบ้าน ส่วนเรื่องขึ้นเขาๆจะให้เสี่ยวทงไปจัดการ จูเหมยลี่พาบุตรสาวเข้านอน ยังดีทีตอนที่ซ่อมบ้านนางขอร้องเซียวจ้านเป่ยให้ต่อห้องออกไปอีกสามห้อง ตอนนี้ห้องจึงพอให้เข้าพัก แต่อาสามแจ้งว่าจะไปเช่าบ้านของลุงแปดเพราะบ้านนางมีแต่สตรี อีกอย่าเซียวจ้านเป่ยไม่อยู่จะได้กันผู้คนครหาเมื่อแยกย้ายกันแล้วสองสาวก็มาคุยกับพี่ชาย เซียวจ้านเป่ยเตือนพวกนางเพราะที่นี่ไม่ใช่วังหลวง"ที่นี่จิ่วโจวไม่ใช่วังหลวงจะทำอะไรให้ระวัง โดยเฉพาะเจ้าอ้ายเย่วอย่าเข้าใกล้เฝิงอันหยวนคนนั้น เขาเป็นคนไม่น่าไว้ใจเท่าไหร่ แต่เพราะป็นเพื่อนอาสามข้าเองก็พูดมากไม่ได้ อย่าทำพี่สะใภ้เจ้าลำบากใจ รู้หรือไม่""พี่ใหญ่ จูยวี่ซานก็ไม่ใช่คนดีนักหรอก ข้าว่านอกจากพี่สะใภ้แล้วหาคนดีไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ พี่หกหรือว่าพวกเราตามพี่ใหญ่ไปชายแดนดี""อย่าเหลวไหลซินเอ๋อร์ เรียกเขาดีๆเรียกอาสามหรือท่านอา""พี่ชาย ข้ารู้แล้วข้าไม่มีทางเข้าใกล้เฝิงอันหยวนตาแก่นิสัยไม่ดีคนนั้นหรอกเจ้าค่ะ อืมนี่เป็นสิ่งที่เสด็จพ่อให้ข้านำมาให้ท่าน"อ้ายเย่วส่งกล่องไม้ให้เชียวจ้านเป่ย เขารับมันมาก่อนจะศึกษาลวดลาย
เซียวจ้านเป่ยอุ้มจูเหมยลี่มาถึงบริเวณน้ำตกบนภูเขา ที่นี่เขาเจอมันเมื่อห้าปีก่อนเขามักจะมาพักในถ้ำด้านล่างเวลามาหาล่าสัตว์ป่า ร่างสูงอุ้มเมียสาวเดินเข้าไปด้านในก่อนจะสะบัดมือเพื่อเร่งแสงตะเกียงผนังด้านในถ้ำสวยมากเมื่อกระทบแสงไฟสวยระยิบระยับยังเปล่งประกายราวกับโคมไฟราคาแพงในยุคก่อนเชียว บนหินก้อนใหญ่มีผ้าปูเอาไว้เป็นขนสัตว์อ่อนนุ่ม มีผ้าห่มแปลว่าเขาเคยใช้ชีวิตที่นี่หรือ"ท่านพี่ ที่นี่สวยจังเลยเจ้าค่ะท่านอยู่ที่นี่บ่อยไหมเจ้าคะ""เมื่อก่อนข้าหนีหงซิ่วน่ะ รำคาญไม่อยากอยู่ไม่อยากเห็นหน้านาง หากไม่ถูกท่านปู่วางยาจนได้เสียกับนางแล้วกำเนิดผิงผิงข้าคงไม่กลับไปบ้านหรอกลี่เอ๋อร์""ห๊า ผิงผิงเกิดมาจากท่านถูกวางยาหรือ จุ๊ๆๆ น่าสงสารท่านจริงๆ รูปงามเสียเปล่า คิกๆ อื้ออออ"เซียวจ้านเป่ยลงโทษคนตัวเล็กที่หัวเราะเยาะเขา จูเหมยลี่จูบตอบสามีพวกเขาอ้อยอิ่งอยู่นาน จนเซียวจ้านเป่ยถินริมฝีปากออกมา"เมียข้าจูบเก่งขึ้นเยอะเชียวหื้ม""คนบ้า ท่านนี่นะจะเอ่ยให้อายทำไมกัน""ลี่เอ๋อร์จ๋าไม่อยู่ห้าคืนคิดถึงจะบ้าแล้ว อืม หอมตรงนี้ก็หอม ตรงนั้นก็หอมเจ้าหอมไปทั้งตัวเลย"เซียวจ้านเป่ยหอมพวงแก้มสีระเรื่อจากนั้นก
แต่บางคนที่บ้านเขากลับนอนไม่หลับเซียวจ้านเป่ยไม่รู้เลยว่าฝากปลาย่างไว้กับแมวเสียแล้ว เซียวลี่ผิงนอนกับอ้ายซินส่วนอ้ายเย่วนอนอีกห้องและเฝิงอันหยวนที่ตอนนี้กำลังนอนให้คนตัวเล็กหนุนแขนเขาอยู่ อีกทั้งกอดหอมนางทั้งคืนเช่นกัน วรยุทธเขาร้ายกาจมากนัก ขนาดจูยวี่ซานที่ว่าวรยุทธสูงส่งแล้วยังไม่รู้เลยว่าสหายแอบปีนเข้าห้องน้องสาวของหลานเขยไม่ว่านางจะใช่บุตรสาวของเซียวหงหรือไม่ก็ไม่สำคัญแล้ว กลิ่นกายนางยั่วเย้าเขาตั้งแต่ที่โรงเตี้ยม มันรบกวนสมาธิเขาจนต้องย่องเข้าหา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาปีนเข้าหาผู้หญิง แขนแกร่งโอบนางเอาไว้ทั้งคืนสูดกลิ่นกายคนตัวเล็ก นางหอมจริงๆหอมเหลือเกินเฝิงอันหยวนกอดนางจนถึงยามเหมาจึงออกไป กลิ่นกายนางติดตัวเขามาด้วยไม่อยากอาบน้ำเลยอยากเก็บเอาไว้ แต่คงไม่ได้จูยวี่ซานจมูกยิ่งกว่าสุนัขเสียอีก สมกับเป็นพ่อค้าใบชาและสุรารายใหญ่ทั้งสามแคว้นจริงๆยามเหมาจูเหมยลี่ปลุกเซียวจ้านเป่ย ต้องกลับแล้วจะเอาแต่ใจไม่ได้ น้องสาวพวกเขาตอนนี้ไม่ควรเผชิญหน้ากับอาสาม ต้องรอให้พวกเขาปรับความเข้าใจกันก่อน"ท่านพี่ตื่นเถอะกลับบ้านนะเจ้าคะ""อืม ลี่เอ๋อร์อีกรอบได้ไหมก่อนกลับนะคนดี""เดี๋ยวสายอย่ารุ่มร่ามเ
เฝิงอันหยวนอมยิ้มเขาเพิ่งรู้ว่าตนเองเป็นเทพเซียน แสบไม่เบาจะหนี่พี่ชายเข้าบ่อนหรือ พวกเจ้าเป็นสตรีวังหลวงไปหาเอาเรื่องพวกนี้มาจากไหนใครสอนพวกเจ้ากันเจ้าตัวแสบทั้งสองจูยวี่ซานที่ได้ยินเช่นกันมองหน้าคังหยวน บุรุษตัวหอมหรือกลิ่นดอกบัวเสียด้วย จึงกระแอมใส่เฝิงอันหยวน"แฮ่มๆๆ พี่อันหยวนเทพเซียนองค์นั้นเป็นท่านหรือไม่กันเล่า""เจ้าน้อยๆหน่อยจูยวี่ซานจะเป็นข้าได้อย่างไรกัน เด็กคนนั้นนิสัยรับไม่ได้สักนิดใครจะอยากอยู่ใกล้นาง ข้าอยากอยู่ห่างๆมากกว่า""พวกนางเป็นเชื้อพระวงศ์หรือ ท่านรู้หรือไม่ถ้าเช่นนั้นหลานเขยข้าก็เป็นเชื้อพระวงศ์สินะ""ข้าไม่ชอบเมืองหลวง ไม่ชอบเข้าเฝ้าไม่รู้หรอก ว่าแต่ไหนบอกจะไปดูหลานสาวเจ้าเกณฑ์คนในหมู่บ้านไง""เอ่อ ท่านพี่อันหยวนท่านจะไม่กินมื้อเช้าก่อนหรือ ไปกินอะไรก่อนหน้าอิ่มมาเล่า"เฝิงอันหยวนมองหน้าสหายรุ่นน้องก่อนจะส่งเสียงจิ๊จ๊ะรำคาญออกมาแล้วเดินหนี อยู่ด้วยกันมาแปดปีนับแต่วันที่เขาช่วยเฝิงอันหยวนจากกลุ่มนักฆ่ารับจ้างเหตใดจะไม่รู้ว่าเมื่อคืนเทพเซียนที่แม่ตัวแสบอ้ายเย่วเอ่ยนั้นหมายถึงใคร หลานเขยเจ้าต้องหาบ้านเช่าให้ข้าไวๆเสียแล้วล่ะเซียวจ้านเป่ยให้จินฝานไปส่งจดหมายแก
อ้ายซินวิ่งร้องไห้ตามพี่สาวไปเช่นกัน เฝิงอันหยวนที่ตามมาได้ยินก็ตกใจ นางตายแล้วหรือเซียวหงนางตายแล้วหรือ เมื่อเช้าคนของเขามารายงานเพียงแค่ว่าอ้ายเย่วเป็นบุตรสาวของนางจริงๆ แต่ไม่ได้บอกว่านางตายแล้ว เซียวจ้านเป่ยกับสหายของเขามาถึงพอดีเฝิงอันหยวนจึงจะไปตามเด็กๆเอง"ซื่อจื่อข้าไปตามน้องสาวท่านเอง ท่านจัดการทางนี้เถอะไปกันใหญ่แล้ว ยวี่ซานเจ้าไปตามแม่หนูอ้ายซินนั่นข้าจะไปตามแม่หนู่อ้ายเย่ว"เฝิงอันหยวนรีบตามเด็กสาวไปจูยวี่ซายนเองก็ตามอ้ายซินไปเช่นกัน คังหยุนกำลัวจะตามน้องสาวไปก็ถูกเซียวจ้านเป่ยสะบัดฝ่ามือใส่เขาจนกระอักเลือด จางลู่เหลียนร้องกรี๊ดทันทีนางรีบวิ่งมาหาเขา"ซื่อจื่อ แค่เรื่องเข้าใจผิดอธิบายกันไม่ได้หรือเจ้าคะ เหตุใดต้องลงมือรุนแรงเพียงนี้ ฮือๆๆพี่คังหยุนท่านเป็นอะไรหรือไม่""อธิบายหรือ แล้วเขาเล่ารอซินเอ๋อร์กับเย่วเอ๋อร์อธิบายสิ่งใดหรือไม่ ไม่ถามพวกนางสักคำเอาแต่ใจตนเอง ตัดสินจากความคิดตนเอง น้องสาวของข้าถ้าเจ้าลำบากใจจะดูแลก็อย่ามาวุ่นวาย ข้ามีคนดูแแลดีกว่าเจ้า""ซื่อจื่อหรือ เซียวจ้านเป่ย อ้ายจ้าน ที่แท้ท่านก็คืออ้ายจ้านซื่อจื่อ หึ ข้าหาแทบพลิกแผ่นดินแต่ท่านปั่นหัวข้าหรือ เ
เฝิงอันหยวนอุ้มอ้ายเย่วลงมาจากด้านบนเขา สายตาทุกคู่มองมาที่ทั้งคู่เป็นจุดเดียว เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้มองเฝิงอันหยวนด้วยสายตาที่ไม่พอใจ แต่ก็ถูกมือบางของภรรยามือจับเอาไว้พร้อมกับส่ายหน้าให้“ท่านพี่ หากไม่ได้เขาไปตามบางทีน้องหกอาจจะเตลิดไปแล้วนะเจ้าคะ อุ๊บ อื้อ”จูเหมยลี่ไม่ไหวแล้ว ไม่นะอย่าออกอาการตอนนี้นางอยากให้เขาออกเดินทางไปก่อน นางไม่อยากให้เขากังวล แต่เซียวจ้านเป่ยสังเกตเห็นนางหน้าซีดมาสองวันแล้ว เมื่อคืนก็ตามใจเขาจนผิดปกติ เมียมีเรื่องปิดบังอยู่ แม้กระทั่งอาการป่วยหรือเขาวางเซียวลี่ผิงลง ก่อนจะจับไหล่บางหันมาหา สบสายตานาง จูเหมยลี่ไม่กล้าสบตาเขา นางกลัวตัวเองทนไม่ไหวร้องไห้ออกมา แต่เซียวจ้านเป่ยไม่ยอม เขาเชยคางนางบังคับให้จ้องตาของเขา“ลี่เอ๋อร์ ป่วยทำไมไม่บอกพี่กัน เจ้าเป็นอะไรบอกพี่ให้รู้ มะรืนพี่ต้องไปแล้วนะ อย่าให้พี่กังวลใจสิ”“ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ ข้าสบายดีอาจเพราะช่วงนี้มีแต่เรื่องให้กังวล ข้าไม่อยากให้ท่านไปเลยเครียดนิดหน่อยเจ้าค่ะ อุ๊บ”อ๊วก!!!! แหวะ!!!! จูเหมยลี่อาเจียนออกมาจนหมด วันนี้นางเหนื่อยมากนัก ยังมีเรื่องของน้องสาวเขาอีก ทำให้นางไม่ได้พักผ่อนอาการจึงออกมากกว่าปก
บรรดาคนที่อยู่ในห้องสนทนาถึงกับตกใจกับข่าวใหม่ หานรั่วสุ่ยมีภรรยาแล้วอีกทั้งมีบุตรแล้วด้วย จ้านอ๋องก็มีพระชายาแล้วเช่นกัน พวกเขาสนทนาโดยไม่สนใจบุคคลที่อยู่ในห้องด้วยสักนิด "อืมพี่เมีย ข้าจะล่วงหน้าไปก่อนคิดถึงเหลี่ยนเอ๋อร์ของข้าแล้ว พวกท่านค่อยเดินทางทีหลังแล้วกัน""องค์ชายคังหยุนท่านจะไปเมื่อใดหรือพ่ะย่ะค่ะ""ออกเดินทางวันนี้ ข้าคิดถึงเมีย มีบางคนคิดถึงจูเว่ยเว่ยจนแทบจะขาดใจอยู่แล้ว น่ารำคาญยิ่งนัก อ้อนวอนข้าทุกวันจะกลับจิ่วโจวให้ได้""เอ๋เสด็จพี่ ข้าคิดถึงเว่ยเว่ยไม่ได้หรืออย่างไร ทีท่านคิดถึงพี่สะใภ้ได้เล่าหรือไม่เล่า ท่านพี่ล่ะคิดถึงพี่สะใภ้แสนงามของข้าหรือไม่ "อืม หยุนเอ๋อร์ รั่วสุ่ยพวกเจ้าคุยกันไปเถอะ อ้อพวกท่านทั้งหลายก็กลับไปเถอะนะ ไม่ว่าของขวัญของฝากที่ใครๆไหว้วานพวกท่านนำมานั้น ก็จงนำกลับไปด้วย ข้าอ้ายจ้านมีภรรยาแล้ว และข้าไม่แต่งเมียเพิ่ม ข้าไปล่ะพวกเจ้าปรึกษากันต่อเถอะ" "เอ่อพี่เมีย แล้วยายเฒ่าตาเฒ่าสกุลหานเหล่านั้นท่านจะว่าอย่างไรหรือ" คังหยุนแม้จะเป็นองค์ชายแต่ก็ไม่อยากใช้อำนาจกับพวกเขา แต่น่ารำคาญเหลือเกินโดยเฉพาะยายเฒ่าหานนั่น ตอนจาง
“เอ๋ เสด็จพ่อตาใครกันนะว่ากระหม่อมเป็นตาเฒ่าหลอกเด็กรุ่นลูกมาเป็นเมีย นี่ๆพี่อันหยวนของข้าสามสิบเก้า ท่านสี่สิบสอง บางคนสี่สิบห้าแล้วนะ เหอะ”ซูฟางหรูอายหน้าแดง อ้ายเฉิงถลึงตาใส่จูยวี่ซานก่อนจะเอ่ย“มีอะไรคุยพรุ่งนี้ เมียข้าหิวข้าว หากไม่หยุดข้าจะเอาลูกสาวข้าคืนตาแก่จู”จูยวี่ซานและเฝิงอันหยวนหัวเราะก่อนจะพากันออกไป ปล่อยคู่รักต่างวัยให้อยู่ด้วยกัน จูเหมยลี่รับรู้จากอาสามว่าพ่อสามีกับซูฟางหรูข้าวสารเป็นข้าวสุกเรียบร้อยแล้วตอนนี้ซูฟางหรูนอนอยู่ในอ้อมกอดอ้ายเฉิง เขาลูบไหล่นางเบาๆ พูดคุย“อาให้คนไปรับมารดากับบิดาเจ้ามาแล้ว พรุ่งนี้บ่ายๆ ถึงจิ่วโจว”“ท่านอาพูดจริงหรือเจ้าคะ”“อารู้ว่าเจ้าเคยหมั้นหมาย แต่เพราะห่วงบิดากับมารดา จนคู่หมั้นถอนหมั้นเจ้า”“ท่านอา คือว่าเรื่องนั้น”“ข้ารู้ เจ้าห่วงพวกเขาจนฝ่ายนั้นรำคาญ แต่ก็ดีแล้วมิใช่หรือหากตอนนั้นเจ้าแต่งออกไป ใครจะนอนหนุนแขนอาเล่าตอนนี้หื้ม”“ท่านอา ท่านอายุสี่สิบห้าจริงๆ หรือ เหตุใดถึงเหมือนพี่น้องกับท่านพี่เซียวนัก ใบหน้าท่านเด็กกว่าอาสามอีก”“ปากหวานแบบนี้ต้องให้รางวัลแล้วไหม”อ้ายเฉิงเริ่มปลดอาภรณ์นางอีกครั้ง ซูฟางหรูจับมือเขาไว้ก่อนจะเอ่
ซูฟางหรูกลับมาที่ริมแม่น้ำ อ้ายเฉิงนั่งรออยู่ พอเห็นนางก็เอามือกุมท้องดังเดิม ซูฟางหรูไม่รู้เลยว่าหมาป่ากำลังมองจ้องลูกแกะตัวน้อยเนื้อขาวๆ“ท่านอาเฉิง ยามาแล้วเจ้าค่ะเอ่อ ทะ ท่านอาทาเองได้ไหมเจ้าคะ”“ข้าจะทาอย่างไรกันมันไม่ถนัด เจ้าช่วยหน่อยสิอาหรู”“แต่ข้าเป็นสตรี ท่านเป็นบุรุษใกล้ชิดกันคงไม่ดีนักคือๆ ว่าข้า”“ช่างเถอะ เจ้ากลับไปเถอะเดี๋ยวข้านั่งหายเจ็บก็กลับเอง ไม่รบกวนเจ้าหรอก”“ท่านอา กะ ก็ได้แต่ว่าถ้าหากใครมาเห็นคงไม่ดี ว้าย!!”พูดไม่ทันจบนางก็ตัวลอยขึ้น อ้ายเฉิงอุ้มนางดีดตัวผ่านยอดไม้ก่อนจะมาถึงเรือนของตน ซูฟางหรูซบกับหน้าอกเขาแน่นเพราะกลัวตก จึงไม่เห็นบรรดาข้าราชบริพารที่ถอยหลังออกจากเรือนพักจนหมด องครักษ์เงาหายไปจากบริเวณนั้นทันทีอ้ายเฉิงวางร่างบางระหงลงบนเตียงของตน ซูฟางหรูมองเขาหน้าตาเหรอหรา ยิ่งมองยิ่งน่ารักเหลือเกินจนอ้ายเฉิงอดใจไม่ไหว รั้งนางมาจูบทันที“อื้อ” ซูฟางหรูเองนี่เป็นครั้งแรกที่นางใกล้ชิดบุรุษเพศ นางทำอะไรไม่ถูกยอมให้คนตัวโตชักจุงในที่สุดนางก็ถูกเขาลอกคราบจนเปลือยเปล่า“อาหรูเจ้างามนัก ขออาเฉิงนะเด็กดี”“อื้อ ท่านอาแบบนี้ไม่ถูกต้องนะเจ้าคะ ไหนท่านบอกว่าเจ็บท้อง
จูเหมยลี่ออกเดือนได้หลายวันแล้ว ตอนนี้บุตรชายอ้ายหลิวเหว่ยได้สองเดือนกว่าแล้ว เมื่อวานอ้ายซินมาบอกว่าเซียวจ้านเป่ยจัดการกลุ่มกบฏเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่กวาดล้างกากเดนที่เหลืออยู่ ฮ่องเต้แต่งตั้งเขาเป็นอ๋อง เดิมทีอีกเจ็ดวันจะเดินทางมาจิ่วโจวแต่เพราะมีเหตุต้องอยู่ต่อ อีกครึ่งเดือนจึงจะมาพร้อมขบวนต้อนรับพระชายาจูเหมยลี่ส่งหลิวเหว่ยให้กับหรงหรง ก่อนจะเดินออกไปด้านนอก ก็เห็นซูฟางหรูเดินหิ้วตระกร้ามาหา เด็กสาวคนนี้หน้าตาสะสวยจริงๆ เป็นเด็กกตัญญูยิ่งนัก“พี่ฟางหรู ท่านเอาอะไรมาอีกละนั่นข้าเกรงใจจะแย่แล้ว”“อาซ้อเซียวท่านเกรงใจไปแล้ว หากไม่ได้ท่านคอยช่วยเหลือข้ากับพี่สาวและหลานๆ คงลำบากไม่น้อย เอ่อ นี่เป็นขนมดอกหยางไหวของท่านอาเฉิงเจ้าค่ะ”ซูฟางหรูส่งห่อใบบัวให้จูเหมยลี่ เว่ยเว่ยเดินออกมาจากในบ้านก่อนจะรับแล้วเอ่ยกับจูเหมยลี่“เสี่ยวลี่ พี่จะไปบ้านท่านยายสักสามวัน ทางนี้ไม่ขาดคนพอดีท่านยายป่วยอีกแล้ว พักนี้ท่านยายไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่”“อืม ท่านอาเสี่ยวทงรบกวนท่านมานี่สักหน่อย”เสี่ยวทงเป็นคนของนางไปแล้ว อาสามยกให้เขาคอยดูแลจูเหมยลี่กับเซียวลี่ผิงโดยเฉพาะ จูยวี่ซานไปข้างนอกบ่อยๆ เขากลัว
เมื่อเรื่องในวังหลังเรียบร้อย ยามเฉินฮ่องเต้ก็สวมฉลองพระองค์นั่งอยู่บนบัลลังก์ในท้องพระโรง วันนี้ขุนนางมาเข้าเฝ้าโดยไม่รู้ว่าเรื่องราวอะไรกำลังจะเกิดขึ้นแต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาเห็นคืออ้ายจ้านซื่อจื่อที่กลับมาแล้ว อีกคนหยางตงเซี่ย และหานรั่วสุ่ยทั่นฮวาน้อย"ฝ่าบาท วันนี้ประชุมเช้า เหตุใดซื่อจื่อจึงพกอาวุธเข้ามายังท้องพระโรงกันพ่ะย่ะค่ะ นี่มิเท่ากับทำผิดร้ายแรงหรอกหรือ""รองเจ้ากรมอาลักษณ์พูดจาน่าขัน พวกเราอารักขาฝ่าบาท มีอะไรไม่สมเหตุสมผลหรอกหรือ" จางรั่วสุ่ยเอ่ยขึ้น คนที่จ้องเขาตาถลนกำลังกำมือแน่น เขาคือหานรั่วท่านปู่ของเขา "รั่วสุ่ย อย่าเสียมารยาท นี่คือขุนนางเจ้าเป็นเพียงทหารปลายแถวจงสำรวม""โย่ว ใต้เท้าหานกล่าววาจาอันใดกัน ท่านดูไม่ออกหรือว่าข้ามีตำแหน่งใด สายตาฝ้าฟางเช่นนี้ควรลาออกไปเลี้ยงหลานอยู่บ้านจะดีกว่าหรือไม่"หานรั่วถึงกับหน้าเขียว เป็นเด็กเลวจริงๆ เลือดชั้นต่ำของมารดาคงแรง"อ้อ ใต้เท้าหานที่แท้เขาก็คือทั่นฮวาน้อยหานรั่วสุ่ย หลานชายของท่านนั่นเอง ""รองเจ้ากรมท่านกล่าวผิดแล้ว ข้าแซ่จาง จางรั่วสุ่ย แซ่หานนั้นข้าไม่เคยใช้"หานรั่วถึงกับหน้าคล้ำกว่าเดิ
สิบวันต่อมาเซียวจ้านเป่ยมารวมกับทัพใหญ่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็เรียกหานอี้มาหา หานอี้เป็นคนสนิทของแม่ทัพจ้าว"ตอนข้าไม่อยู่มีเรื่องอันใดหรือไม่""เป็นอย่างที่ท่านคาดการณ์ นายกองหูออกจากค่ายไปบ่อยๆ เขานัดพบคนๆหนึ่ง เราสืบดูแล้วเป็นคนของซีเป่ย ไท่ซ่างหวงทิ้งข้อความไว้ให้ท่านแม่ทัพขอรับ"เซียวจ้านเป่ยหยิบกระดาษที่วาดรูปออกมา เป็นเหมือนรูปวาดธรรมดา แต่เซียวจ้านเป่ยรู้ดีว่าเสด็จปู่กำลังจะสื่อถึงอะไร ภูเขา ลำธารหรือ นี่มันทางเข้าหลังตำหนักร้างนี่ รอยเท้าย้อนกลับเดินถอยหลังเช่นนั้นหรือ มีบางคนส่งข่าวจากช่องทางนั้น "รั่วสุ่ยเขียนอักษรถึงองค์ชายสี่หน่อย เขียนแค่ว่าชมจันทร์ในคืนที่ไร้เมฆบัง"จางรั่วสุยเขียนโครงตามที่เซียวจ้านเป่ยบอก ชมจันทร์ในคืนที่ไร้เมฆบัง แปลว่าอะไร พี่น้องคู่นี้หน้าสิ่วหน้าขวานยังมีแก่ใจต่อกลอนกันด้วยหรือ อินทรีปากเหล็กรับข้อความไปแล้ว ยามอิ๋นจึงได้จดหมายตอบกลับมา มีเพียงรูปวาดของเด็กทั้งห้า ที่มีสัญลักษณ์แตกต่างกันไป แต่เด็กคนหนึ่งหายไป"เป็นเจ้าจริงองค์ชายรอง คิดจะเปิดประตูหลังตำหนักร้างให้คนของท่านตาเจ้าเข้าไปก่อกบฏหรือ หึ สำคัญผิดเสียแล้ว"
หลังจากจูเหมยลี่คลอดบุตรชายให้เซียวจ้านเป่ยเรียบร้อยแล้วนางก็พักฟื้น ตอนนี้บริเวณหมู่บ้านกับตำบลจิ่วโจวทั้งตำบล มีทหารคอยอารักขาเต็มไปหมด จูเก่อคังที่ตอนนี้นั่งดื่มกับอาเฉิงอยู่ เขาไม่รู้ว่าคนตรงหน้าคือเชื้อพระวงศ์ จึงได้พูดคุยทุกเรื่อง"นี่ๆน้องเฉิง บุตรชายเจ้าเก่งนัก ไปทหารไม่นานก็ได้ตำแหน่งใหญ่โตกลับมา เฮ้อ วาสนาเสี่ยวลี่ของข้าจริงๆ อยากให้น้องรองกับน้องสะใภ้ของข้าได้รับรู้เหลือเกินว่าตอนนี้นางมีชีวิตที่ดีเพียงใด""พี่เก่อคัง หลานสาวท่านคนนี้บุตรชายของข้าดูท่าจะรักนางมาก""เสี่ยวลี่เป็นเด็กดี ขยันขันแข็ง หากไม่ใช่ว่าถูกลุงใหญ่กับป้าสะใภ้กลั่นแกล้งชีวิตนางคงไม่เลวร้าย โชคดีที่วันนั้นสองคนนั้นตัดสินใจขายเสี่ยวลี่ให้บุตรชายท่าน ไม่เช่นนั้นข้าไม่อาจเดาชะตากรรมนางได้เลย""กฎหมายซื้อขายคนคงต้องแจ้งฝ่าบาทให้ปรับจริงๆ แต่พวกขุนนางเก่าแก่คงไม่ยอม"เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้กำลังกอดรักเมีย เขาต้องไปแล้วคนของเขาแจ้งมาแล้วว่ากลุ่มกบฏมีกี่พรรคพวก แล้วหลบซ่อนอยู่ที่ใดบ้าง"ลี่เอ๋อร์ พี่ต้องไปแล้ว พี่สัญญาว่าจะทำรีบจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย แล้วกลับมารับเจ้ากับลูก""ท่านพี่
"ฮือๆๆ เสด็จพ่อ" อ้ายเฉิงกางแขนกอดรับบุตรสาวที่ตอนนี้ร้องไห้กับอกเขา"ร้องทำไมเจ้าตัวดี ใครใช้ให้เจ้าหนีออกจากวังกันหึ"แม้คำพูดจะตำหนิแต่น้ำเสียงกับอาทรห่วงใยบุตรสาวยิ่งนัก อ้ายซินมองหน้าก่อนจะทำสีหน้าสงสัย"เสด็จมาได้อย่างไรเพคะ แล้วคนของฉู่หรานซินที่เฝ้าเสด็จพ่อในทุกๆวันเล่า""เรื่องราวยากกว่าที่เจ้าเข้าใจ นางกำลังพาบุตรชายหนีน่ะ""อ้ายฉางหรือเพคะ หม่อมฉันรู้ว่าเขาไม่ใช่บุตรเสด็จพ่อ หม่อมฉันเคยได้ยินนางกับรองเจ้ากรมอาลักษณ์ติดต่อกัน เขาบอกว่าต้องอดทนถึงเมื่อไหร่อ้ายฉางจึงจะเรียกเขาว่าท่านพ่อสักที""ลูกเห็นว่าพ่อหลับนอนกับนางหรือ เห็นตาแก่ใกล้ตายคนนั้นที่ร่วมสังวาสกับสตรีคือพ่อหรือ"อ้ายซินทำสีหน้าสงสัย เซียวจ้านเป่ยจึงเอ่ยกับนาง"มีคนที่ใบหน้าคล้ายเสด็จพ่อน่ะ เราวางหมากตั้งแปดปีที่แล้ว ก่อนที่ฉู่หรานซินจะแต่งเข้ามา เสด็จพ่อก็อยู่ที่ตำหนักเย็นของพระราชวังหลังเก่านอกเมืองมาตลอด ไม่มีใครรู้นอกจากฝ่าบาทเสด็จปู่แล้วก็พี่ เฉิงอ๋องคนนั้นที่อยู่กับฉู่หรานซินทุกวันคือคนสนิทของเสด็จพ่อ ที่ปลอมแปลงใบหน้า"จากนั้นทุกคนก็เข้าใจ จางรั่วสุ่ยรีบกลับไปหาภรรยา เพราะว่านางกำลังอยู่เดือน เซี่ยตงหยางม
อ้ายซินเอ่ยจบประโยคลมสายหนึ่งก็ผ่านตัวนางไป เห็นด้านหลังเป็นบุรุษใส่ชุดกองทัพ เขาคือพี่ชายของนาง อ้ายซินดิ้นลงจากตักสามีรีบเดินไปหา"พี่ชาย ท่านกลับมาแล้ว ฮือๆๆ"เซียวจ้านเป่ยหันมามองหน้าน้องสาวก่อนจะรั้งนางเข้ามากอด"ซินเอ๋อร์ เสี่ยวลี่อยู่ในนั้นหรือ""เจ้าค่ะ พี่สะใภ้เจ็บท้องมาสองชั่วยามแล้ว พี่ชายไหนว่าท่านอยู่ชายแดนไงเจ้าคะ""ทางนั้นเรียบร้อยแล้วล่ะ เหลือแค่ทางวังหลวง ฉู่ฉางเกินมุ่งหน้าเข้าวัง พี่สกัดเขาไว้ได้แต่ยังไม่รู้ว่ากองกำลังของเขาที่ยังซุกซ่อนอยู่มีเท่าไหร่ พอดีจิ่วโจวเป็นทางผ่านพี่จึงแวะหาลี่เอ๋อร์กับผิงผิงน่ะ"อ้ายซินกำมือแน่น ก่อนจะมองหน้าสามี จูยวี่ซานถอนหายใจ เขาคงปกป้องพี่ชายพี่สะใภ้และจูหมิงซูไม่ได้หรอก ได้ข่าวว่าแค่สตรีนางหนึ่งกล่าวหาเสี่ยวลี่คำเดียวก็ถูกโยนไปอยู่ก้นเหวแล้ว"ผิงผิงป่วยเจ้าค่ะ คือว่า""พี่รู้เรื่องหมดแล้ว ระหว่างทางที่มามีคนรายงานพี่ สามคนพ่อแม่ลูกนั้นพี่ให้ส่งไปชายแดนใต้หมดแล้ว ที่นั่นมีเหมืองแร่ให้พวกมันไปชดใช้ที่นั่น โดยเฉพาะจูหมิงซูคนนั้น หากรอดจากแผลบนใบหน้าได้นับว่านางดวงแข็งแล้ว""จ้านเป่ยอาสามต้องขออภัยเจ้าจริงๆ หากมิใช่ว่าอาสามต้องไปเจราจาก