พอเดินมาถึงที่วางกับดักทั้งสามคนก็แยกกันไปเก็บกับดักของตัวเอง อวี่หลิงมาเจอก็เห็นกับดักของนางติดไก่ป่ามาหกตัว ของอวี่ซิงได้กระต่ายป่ามาสองตัวทั้งสองคนจึงเดินขึ้นไปอีกพอประมาณ
"วางทิ้งเอาไว้อีกสักคืนก็น่าจะดีนะซิงเอ๋อร์ข้าว่าจะได้มาดูพร้อมปลาของพวกเราเช่นไรละดีไหม" สองพี่น้องปรึกษากันก่อนจะแยกกันวางกับดักกันต่อและเดินมารออาของนางตรงทางแยกนั้นเอง อวี่ซิงทั้งตื่นเต้นและดีใจที่นางสามารถจับกระต่ายได้สองตัวยังไม่ตายนางมัดขามันเอาไว้ก่อนอย่างดีกันมันกระโดดหนีน่าเสียดายแย่สิถ้าหนีไปเกิดมาพึ่งจะเป็นครั้งแรกที่นางจับได้ ส่วนอวี่หลิงนางก็มัดขาไก่และทำเหมือนชะรอมเอาไก่ยัดเข้าไปในนั้นเลยกันมันตาย นางตัดเอาเถาวัลย์นั้นมาทำแก้ขัดไปก่อนและยื่นให้อวี่ซิงใส่กระต่ายของนางด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งยังตัดไม้มาทำไม้หาบอีกต่างหากนางเอาถุงหอยกับกุ้งคนละข้างและเอาไก่ใส่ข้างถุงหอยนั้นเอง อวี่ซิงจึงทำตามนางบ้างแต่ได้ยินเสียงท่านอาเรียกเสียก่อน "หลิงเอ๋อร์ซิงเอ๋อรพวกเจ้ามาช่วยข้าลากหมูป่าหน่อยมันตัวใหญ่มาก" ตอนนี้ท่านอาของนางร่างเต็มไปด้วยเหงื่อกว่าจะเอาหมูขึ้นมาจากหลุมได้ มันตกลงไปขาหักเขาจึงฆ่ามันจนตายและจับมัดด้วยเถาวัลย์กว่าจะเอาขึ้นมาจากหลุมได้ ตอนนี้เขาตัดเอาไม้ทำที่ใส่หมูเพื่อที่จะลากลงจากเขานั้นเอง สองสาวจึงรีบวางของและเดินตามท่านอาไปดูหมูที่หลุม ตอนนี้มันนอนที่ไม้เพื่อจะดึงลงขึ้น แล้วสภาพของท่านอาจึงเหมือนกับอาบน้ำเพราะเหงื่อนั้นเอง "ท่านพ่อได้หมูป่าหรือเจ้าคะ" อวี่ซิงถามด้วยความตื่นเต้น "ครอบครัวของเรารอดตายแล้วที่ได้หมูป่าวันนี้ช่างโชคดียิ่งนัก" นางพูดแล้วกระโดดกอดอวี่หลิงจนนางเซแทบจะล้มทับกันเพราะความดีใจของญาติผู้น้องนั้นเอง "ได้กี่ตัวเจ้าคะท่านอา" นางถามกับไปด้วยรอยยิ้มอย่างดีใจในที่สุดทุกคนก็ได้กินเนื้อแล้ว "ข้าบอกแล้วว่ามันต้องได้เชื่อข้าสิ" อวี่หลิงนางพูดด้วยความภาคภูมิใจในผลงานของตัวเองหึๆและทำหน้าว่าข้าเก่งมาก ก่อนจะรีบไปช่วยท่านอาลากหมู พอทั้งสามคนลากหมูลงมาถึงที่วางตระกร้าของป่าเอาไว้ ก็นั่งลงด้วยความเหนื่อยจึงนั่งพักกันก่อน "มันมีตัวเดียว" อาบอกหลานสาว "แต่ก็ดีแล้วละเพราะถ้าหลายตัวพวกเราคงเอาลงไปไม่หมดแน่ๆ พรุ่งนี้ค่อยขึ้นมาดูอีกทีตอนเช้ามืดพร้อมทั้งหลุมปลาและที่ดักปลารวมทั้งไก่ป่าอีกด้วย" อวี่จางเฉิงบอกหลานสาวด้วยความดีใจที่ได้หมูป่าตัวใหญ่เขาจึงรีบมัดและดึงขึ้นจากหลุมคนเดียวด้วยความดีใจจนลืมลูกสาวกับหลานสาวนั้นเอง พอมองดูของป่าที่หามาได้ "วันนี้จะแบกลงเขากันรอบเดียวหมดไหม" เขาหันมาถามหลานสาวกับลูกสาวที่นั่งพักเหนื่อยกันอยู่ ถ้าไม่กลัวว่าความลับจะถูกเปิดเผยนางคงโยนเข้ามิติไปหมดแล้ว หรือจะบอกท่านอากับญาติผู้น้องดีแต่ยังดีกว่าคงจะน่าสงสัยเกินไป นางจึงได้แต่ยิ้มรับเต็มใบหน้าว่า "ไหวเจ้าค่ะข้าจะหาบของเองพวกท่านลากหมูลงเขาช่วยกันดีไหมเจ้าคะ ไปเอาของมาใส่ไม้ข้าได้แล้วซิงเอ๋อร์" นางบอกญาติผู้น้องที่มองหน้านางอย่างสงสัยว่าเจ้าไหวหรือหลิงเอ๋อร์ "ข้าไหวเอามานี้เลยทั้งตระกร้าผักนั้นละข้าจะหาบเองมันหนักมากนะตระกร้าปลานี้อีกละ" อวี่ซิงตอบกลับ "เจ้าไม่ไหวหรอกหลิงเอ๋อร์" "ต้องไหวสิ" "เดี๋ยวปลาข้าสะพายเองเพราะมันหนักมากเจ้าหาบไม่ไหวหรอกหลิงเอ๋อร์" ท่านอาบอกนางก่อนที่เขาจะยกตระกร้าปลาขึ้นสะพายหลังและเอามือดึงเถาวัลย์ลากหมูไปด้วย ขณะที่สองสาวเอาของสะพายขึ้นหลังและหาบเอาส่วนของตัวเอาเดินตามหลังท่านอาที่เดินนำหน้า อวี่ซิงนางวิ่งไปหาบิดาและช่วยลากเถาวัลย์อีกเส้นหนึ่งอีกแรงช่วยบิดา "ท่านอาไหวไหมเจ้าคะข้าจะไปช่วยท่านลากด้วยดีกว่านาง" บอกและจะวิ่งตามท่านอาเพื่อช่วยลากหมูตัวใหญ่เพราะสงสารพ่อลูกที่ลากกันที่ข้างหน้านาง ลงเขามาได้เรื่อยๆตามทางที่นางทำสัญลักษ์เอาไว้จนมาถึงทางจะลงเขาเข้าหมู่บ้านทั้งสามคนก็หยุดพักเหนื่อยก่อนนี้ก็มาได้ครึ่งทางแล้ว ทางฝั่งซ้ายมือมีเสียงคนเดินลงเขาลงมาที่พวกนางนั่งพักกันอยู่ ทั้งสามคนมองหน้ากันคงจะเป็นชาวบ้านขึ้นมาหาล่าสัตว์ละมั้งทั้งสามคนคิดแต่ก็นั่งต่อเพราะเหนื่อยมากใครจะไปจะมาก็ช่างตอนนี้ขอพักก่อนก็แล้วกัน เสียงเดิงลงเขาลงมาจนมาถึงที่พวกนางนั่งพักกันอยู่ทุกคนมองขึ้นไปก็เจอกับนายพรานหนุ่มว่าที่สามีของอวี่หลิงนั้นเอง เขาหยุดชะงักพอเห็นว่ามีคนนั่งขวางทางลงเขาพอดี มองไปเห็นหน้าว่าที่ภรรยาตัวน้อยนั่งเอาใบไม้พัดหน้าของนางเพราะร้อนหลุบตามองทุกคนที่นั่งอยู่จึงรู้ว่าคือครอบครัวของว่าที่ภรรยาของเขานั้นเอง "อ้อท่านอวี่จางเฉิงขึ้นมาหาของป่าหรือขอรับพวกท่านได้หมูป่าตัวใหญ่ด้วย" เขามองด้วยความแปลกใจและดีใจด้วยที่ล่าหมูป่าด้วยเพราะเมื่อเช้าเขาก็ได้ตัวหนึ่งและนำไปขายที่เหลาในเมืองมาแล้วเพื่อเป็นสินสอดของว่าที่ภรรยาที่นั่งมองเขาตาใสในตอนนี้ "อ้อใช่แล้วละนายพรานตงเทียนพวกข้าพากันมาหาของป่า โชคดีได้หมูตัวใหญ่กำลังจะลากลงเขากลับเข้าหมู่บ้านก็เลยนั่งพักเหนื่อยกันก่อน" เขาตอบว่าที่หลานเขยที่ตอนนี้จ้องมองหน้าหลานสาวของเขาจนไม่สนใจมองมาทางสองพ่อลูกเขาเลยเหอะปากถามทางนี้แต่จ้องมองหลานข้าตาไม่หลบเลยนะพ่อหนุ่ม "หลิงเอ๋อร์เหนื่อยไหมให้ข้าช่วยอะไรได้บ้าง" เขาถามว่าที่ภรรยาที่มองเขาอยู่ นางยิ้มจนตาหยี่สรรค์มาโปรดแล้วเจอว่าที่สามีกลางทางตอนนี้ นางอยากบอกว่าช่วยอุ้มข้ากลับบ้านได้ไหมสามีข้าเหนื่อยจะตายแล้วได้แต่คิดในใจ "เอ่อพี่หานตงเทียนช่วยลากหมูลงไปในหมู่บ้านช่วยท่านอาได้ไหมเจ้าคะพวกข้าเหนื่อยมากไม่ไหวแล้ว"นางยิ้มแห้งๆส่งไปและบังทำตาปริบๆอ้อนให้เขาอีก หานตงเทียนแทบสำลักที่ว่าที่ภรรยาทำตาปริบๆอ้อนส่งมาให้เขาได้แต่คันหยุบยิบในหัวใจ ข้าต้องหาตำลึงให้ได้ครบภายในอาทิตย์นี้อย่างแน่นอนเพราะอยากอยู่ใกล้สาวน้อยเต็มที่แล้วสายตาที่นางมองเขาตั้งแต่เมื่อวานไม่เคยมีความรังเกียจที่เขาตาบอดข้างหนึ่งเลย "ได้สิข้าจะช่วยพวกท่านเองมาเถอะขอรับท่านอวี่จางเฉิง" หานตงเทียนตอบและเดินไปดึงเชือกอีกเส้นหนึ่งที่อวี่ซิงทิ้งลงตอนนั่งพัก "ขอบใจเจ้ามากหานตงเทียน" อวี่จางเฉิงตอบก่อนที่สองคนจะลากหมูลงเขาไป เร็วกว่าแรงของอวี่ซิงแน่นอนเพราะเขามีรูปร่างสูงใหญ่ สองสาววิ่งตามหลังด้วยความดีใจที่มีคนช่วยลากหมูในที่สุดก็มาถึงที่บ้านตากับยายในตอนเกือบค่ำยามเซินลูกชายของทานอาอวี่จางเฉิงมายืนรอพ่อที่หน้าบ้านพอเห็นพ่อลากหมูป่ามาตามทางเขาดีใจวิ่งเข้าบ้านมาบอกแม่ให้ออกไปดูพ่อ"ท่านพ่อได้หมู่ป่ามาขอรับ ข้าเห็นท่านพ่อกำลังลากมาใกล้จะถึงบ้านของพวกเราแล้วขอรับท่านแม่ท่านตาท่านยายไปดูหน้าบ้านเลยถ้าไม่เชื่อข้า" เสียงของลูกชายคนเล็กของบ้านตะโกนบอกแม่ของตนเองทุกคนจึงรีบเดินออกมาดูที่หน้าบ้านก็พอดีกับอวี่จางเฉิงกับนายพรานหานลากหมูเข้ามาถึงในบ้านแล้ว กำลังลากต่อไปที่หลังบ้านก่อน จึงพากันมานั่งที่แคร่พักเหนื่อย"ขอบใจเจ้ามากหานตงเทียนถ้าไม่พบเจ้าพวกข้าทั้งสามคนคงมาถึงบ้านมืดค่ำอย่างแน่นอนเพราะแรงของลูกสาวกับหลานของข้าไม่มีมากขนาดนั้น" อวี่จางเฉิงบอกว่าที่หลานเขยของตัวเอง"ไม่เป็นไรขอรับท่านจางเฉิงอีกไม่กี่วันข้าก็จะแต่อวี่หลิงเข้าบ้านแล้วข้ายินดีช่วยเหลือครอบครัวของภรรยาขอรับ" เขาตอบรับคำขอบคุณยังกล่าวมาถึงนางอีกทุกคนจึงหันไปมองหลานสาวตัวเองยิ้มๆ"เอาละพักเหนื่อยแล้วก็ช่วยจางเฉิงแล่หมูด้วยนะหานตงเทียนจะได้นำเนื้อหมูไปทำมื้อค่ำให้กับน้องของเจ้าด้วย""ขอรับ""แล้วนี้นังหนูมันได้อะไรมากันจนเต็มตระกร้าไปหมด" ท่านตาถามหลานสาวตอนนี้ทุกคนนั่งดื่มน้ำด้วยความหิว"
"พี่ใหญ่ท่านมามืดเลยนะขอรับวันนี้ไหนบอกว่าแค่ขึ้นไปวางกับดักอย่างไรเล่า" น้องชายถามพี่ชายด้วยความเป็นห่วงพวกเขามีกันแค่สามคนพี่น้องถ้าไม่มีพี่ชายใหญ่สองพี่น้องต้องตายตามพี่ชายไปอย่างแน่นอนเพราะคนในหมู่บ้านรังเกียจพวกเขาที่มีพี่ชายตาบอดจนไม่มีเพื่อนเล่นด้วยเลยสักคนพวกเขาจึงมีกันแค่สามคนเท่านั้น"อ้อพอดีพี่เจอครอบครัวของว่าที่พี่สะใภ้ของพวกเจ้านางขึ้นไปหาของป่าจึงเจอ พวกนางโชคดีได้หมูป่าตัวใหญ่ลากกันลงมาถึงครึ่งทางที่พี่ลงเขามาพอดีจึงช่วยพวกเขาลากเข้าไปที่บ้านและช่วยชำแหละหมูป่าจนเสร็จได้เนื้อหมูมาเยอะแยะเลยในตระกร้าข้างหลังพี่ ยังมีในห่อผ้านี้ว่าที่พี่สะใภ้ใหญ่ของพวกเจ้านางบอกว่าเป็นอาหารใหม่ที่นางเจอในป่าจึงทำเผื่อพวกเราพร้อมกับครอบครัวของนางด้วย นี้ไงเจ้าเอาไปขึ้นโต๊ะอาหารเถิด" หานตงเทียนยกน้องห่อผ้าให้น้องสาวคนเล็กนำไปเปิดใส่ถ้วยกินมื้อค่ำกัน"ข้าอยากเจอหน้าพี่สะใภ้ใหญ่ยิ่งนักเห็นพี่ชายรองบอกนางน่ารักมากพูดจาไพเราะมากๆเลยเจ้าค่ะ วันนี้พวกข้าก็ทำความสะอาดบ้านรอนางแล้วนะเจ้าคะ" นางบอกก่อนจะเดินยิ้มเข้าไปในบ้านพร้อมพี่ชายที่เดินตามหลังนางมาติดๆ"เดี๋ยวก็ได้เจอ กินข้าวก่อนค่อยไปหมักหมูใ
ยามเหมาสามคนอาหลานได้เวลาตื่นนอน อวี่หลิงเตรียมซาลาเปาไส้หมูใส่ห่อผ่าและเอากระบอกไม้ไผ่ใส่น้ำดื่มในมิติของนางสามกระบอกให้กับสองพ่อลูก นางแยกห่อซาลาเปาอีกห่อเอาไว้ให้กับว่าที่สามีที่นัดกันขึ้นเขาไปเก็บกับดักด้วยเช่นเดียวกันเพราะชายหนุ่มไปเขาฝั่งซ้ายนางกับท่านอาไปฝั่งขวา จึงนัดเจอกันที่ทางพบกันตรงทางแยกที่ไปเก็บกับดัก พอเตรียมของครบทั้งสามคนก็รีบออกจากบ้านทันที นางบอกอาสะใภ้ไว้แล้วว่าให้ดูหม้อตุ๋นหมูให้นางด้วยมันเปื่อยแล้วเพียงแต่ดูไฟให้อุ่นตลอดก็พอซาลาเปาในเข่งนางอุ่นเอาไว้สำหรับทุกคนแล้วท่านอาของนางเดินนำหน้าถือคบไฟส่องนำทาง สองสาวเดินตามหลังอวี่หลิงรั้งท้ายนางอยากเอาไฟของนางออกมาใช้แต่คงทำไม่ได้เพราะความลับยังไม่อยากเปิดเผยทั้งกลัวว่าครอบครัวของร่างเดิมจะตกใจกลัวนางของให้มั่นใจเสียก่อนตอนนี้ตามน้ำไปก่อนช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากความลำบากเสียก่อนเดินขึ้นเขามาครึ่งชั่วยามก็ถึงทางแยกที่จะเลี้ยวขวาหานตงเทียนยืนรออยู่ตรงทางแยกตามที่บอกเอาไว้"อ้างตงเทียนมาถึงนานแล้วหรือ" อวี่จางเฉิงถามว่าที่หลานเขยพอมองเห็นว่าเขายืนรอทุกคนอยู่ก่อนแล้ว"ข้าพึ่งมาถึงสักครู่ขอรับท่าอวี่จาง" เขาตอบและมองไปข้างห
อวี่หลิงมองลงไปที่ก้นหลุมเห็นหมูป่าสามตัวนอนหลับพวกมันคงจะเหนื่อยทั้งคืนที่ตกลงไปจึงวิ่งในหลุมจนหมดแรง มันคงเป็นครอบครัวเดียวกันที่เดินมาหากินพร้อมกันจนตกลงไปในหลุมทั้งสามตัวเลยสงสัยความลับเราคงต้องบอกท่านอากับญาติผู้น้องแล้วกระมังอวี่หลิงคิดก่อนที่จะเงยหน้าเรียกสองพ่อลูก"ท่านอาข้ามีความลับจะบอกข้าสามารถไว้ใจพวกท่านเพราะข้าถือว่าคือคนในครอบครัวของข้าและสิ่งที่ข้าจะบอกพวกท่านทั้งสองขอให้เก็บเป็นความลับไปจนตายได้ไหมเจ้าคะ ถึงแม้จะไม่มีใครมาแย่งมันจากข้าไปได้แต่ข้าก็ไม่อยากให้ใครรู้โดยไม่จำเป็นพวกท่านรับปากข้าได้ไหมเจ้าคะ" นางถามท่านอาและลูกสาวของท่านอาของนาง"หลิงเอ๋อร์ถึงแม้ครอบครัวเราจะยากจนแต่อาคนนี้ไม่เคยเอาเปรียบหรือรังแกเจ้า ข้ารักเจ้าเท่าลูกสาวของข้าคนหนึ่งที่พี่สาวทิ้งให้ข้าดูแลเจ้ามาเจ้าไม่เชื่อใจข้าอีกหรือ" ท่านอาถามนางกับด้วยความน้อยใจ"ไม่ใช่นะเจ้าคะแต่สิ่งที่ข้าจะบอกมันเหลือเชื่อมากต่างหากละเจ้าคะพวกท่านอย่าได้ตกใจไปละถ้าข้าบอกแล้ว" นางย้ำอีกอวี่ซิงพยักหน้ายิกๆ"ข้าสาบานด้วยความจริงใ-" นางยังพูดไม่จบอวี่หลิงนางเอามือปิดปากของนางเอาไว้ก่อนและส่งเสียงอือๆในลำคอ"พอเลยข้าเชื่
อวี่หลิงนางมองชายหนุ่มที่นางส่งยิ้มให้จนหูแดงด้วยความเอ็นดูผู้ชายโบราณช่างขี้อายยิ่งนักนางคิดก่อนจะถามเขาไป"กินมื้อเช้าหรือยังเจ้าคะพี่ตงเทียน"กินอิ่มแล้วพี่ก็รีบเดินมาเลย นี้น้ำของเจ้าที่ให้พี่ไปเจ้าดื่มสิพี่กินไปครึ่งหนึ่งกลัวเจ้าไม่ได้ดื่มน้ำเอามาให้ข้าแทน" เขายื่นกระบอกน้ำให้นางก่อนจะรีบหันไปหาเอาของนางและหามกวางช่วยลงเขาเข้าหมู่บ้าน เขาไม่กล้ามองหน้านางนานเดี๋ยวนางจะเห็นว่าหน้าเขาแดงมากที่นางรับเอาน้ำที่เขาดื่มแล้วไปโดยไม่รังเกียจที่เขาดื่มก่อน เท่ากับว่านางเอาปากไปดื่มน้ำที่เดียวกันกับเขาหานตงเทียนใจเต้นแรงที่นางดื่มน้ำต่อจากเขาทันทีที่ที่ชายหนุ่มยื่นให้อวี่หลิงดื่มน้ำและร้องขอบคุณชายหนุ่มที่เป็นห่วงตัวเองจนเหลือน้ำเอาไว้ให้นางดื่มด้วย"พี่ตงเทียนให้ข้าช่วยท่านสะพายตระกร้าไหมเจ้าคะมันจะหนักมากนะที่ท่านต้องแบกกวางช่วยท่านอาของข้าด้วย" นางถามว่าที่สามีเพราะไม่อยากให้เขาหนักมากเกินไปนั้นเอง"ไม่เป็นไรข้าแบกเองมันหนักมากข้าไหวเจ้าแบกไม่ไหวหรอก" หานตงเทียนตอบว่าที่ภรรยาที่ถามเขาด้วยความห่วงใยแค่นี้เขาก็มีแรงยกหมูคนเดียวได้ทั้งตัวแล้วเขาคิก แอบยกยิ้มที่มุมปากด้วยความดีใจที่นางมีน้ำ
ตอนนี้อวี่หลิงกับอวี่ซิงช่วยกันเอาปลาใส่ถังเอาน้ำใส่และเอาตาข่ายที่ตาสานให้ปิดกันปลากระโดนออกแลัมีอากาศหายใจ แต่คงไม่เป็นไรหรอกนางเอาน้ำในมิติใส่เข้าไปด้วยดูพวกมันยังสดใหม่ทุกตัวเลย"ข้าว่าเอาไปเท่านี้ก่อนก็แล้วกันซิงเอ๋อร์ ถ้าได้ราคาดีข้าจะให้ท่านลุงซื้อเกวียนกลับมาด้วยเลย เราไม่ต้องไปเช่าเกวียนอีก พี่หานตงเทียนก็จะได้ไปขายพร้อมกันด้วยเพราะเขาคงไม่เข้าไปในหมูบ้านอย่างแน่นอนเพราะมีแต่คนกลัวเขา ข้าละไม่เข้าใจคนที่นี้เลยแทนที่จะกลัวโจรผู้ร้ายกลับมากลัวคนในหมู่บ้านเดียวกัน ข้าว่าพวกเขาใจพิการมากกว่าที่มองคนแค่ภายนอกจนพากันทำร้ายเพื่อนร่วมหมู่บ้านเดียวกัน" นางพูดให้อวี่ซิงฟังกันสองคน นางจึงไม่เห็นว่าที่สามีมายืนเพื่อจะช่วยนางขนของออกไปรออาของนางที่ลานหน้าบ้าน เขาเดินเข้ามาและทักทายยายของนางและอาสะใภ้กับหลานของนางที่หน้าบ้านทุกคนกำลังยกของที่จะขายออกไปรอเกวียน หานตงเทียนจึงได้ยินสิ่งที่ว่าที่ภรรยาของเขาคิดเขารู้สึกอบอุ่นในหัวใจที่นางห่วงใยความรู้สึกของเขาที่รู้ว่าชาวบ้านพากันหวาดกลัวครอบครัวของเขาที่ตาบอดโดนหมีทำร้ายมาแค่นางไม่รังเกียจเขาก็พอใจมากแล้วละเขาจึงส่งเสียงเข้ามาก่อนว่ามาถึงแล้ว
หานตงเทียนจึงพาอวี่จางเฉิงไปซื้อเกวียนที่ตลาดค้าสัตว์ เขาคิดถึงคำพูดของอวี่หลิงที่ต้องการให้เขาเข้าเมืองขายของพร้อมกับท่านอาของนางเพราะมันจำเป็น นางไม่อยากให้เขาเดินเข้าเมืองคนเดียวตอนนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีครอบครัวของงนางมีวิธีจับปลาขายโดยที่ปลายังไม่ตายนางช่างใส่ใจทุกคนในครอบครัวและตัวเขาเองยังรู้สึกดีที่นางใส่ใจเขาด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งที่ยังไม่แต่นางเข้าบ้านเลยวันนี้เขาจะขอคุยกับนางสักหน่อยและบอกวันที่จะแต่งนางเข้าบ้านในอีกไม่กี่วันนี้อวี่หลิงนางบอกท่านอาว่าอยากได้อะไรให้ซื้อเอาใส่บ้านหรือไปฝากอาสะใภ้ด้วย ที่นางร่วมหัวจมท้ายมาในครอบครัวของเราทั้งที่แสนจะยากจนนางก็ยังอยู่เคียงข้างท่านอามาโดยตลอด จนครอบครัวของนางตัดขาดมานานตั้งแต่ที่นางแต่งให้ท่านอาด้วยความรักถึงแม้จะยากจนและครอบครัวตัดนางออกจากต้นตระกูลมาหลายปีแล้วขนาดลูกสาวคลอดลูกครอบครัวเดิมไม่เหลียวแลทั้งยังเหยียบย้ำอีกสมน้ำหน้าที่เลือกเอาคนจนเอง พ่อแม่ของท่านอาสะใภ้หาคนที่มีอายุและร่ำรวยขอให้นางแต่งเข้าเป็นอนุนางจึงหนีออกมาหาท่านอาที่อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งและโดนตัดขาดจากครอบครัวอย่างสิ้นเชิง อวี่หลิงว่าก็ดีนะต่อไปถ้าท่านอาร่ำรว
"ท่านพี่หานตงเทียนข้าเอาของใส่ในตระกร้าให้ท่านไปฝากน้องๆที่บ้านด้วยนะเจ้าคะและห้ามเปิดก่อนที่จะถึงบ้านด้วยไม่เช่นนั้นข้าจะโกรธท่านถ้าไม่รับของที่ข้าซื้อให้ท่าน อ่าแล้วข้าอยากขอแรงท่านมาช่วยทำคอกวัวและล้อมหน้าบ้านของตากับยายของข้าก่อนที่ท่านจะแต่งข้าเข้าบ้านได้ไหมเจ้าคะ" นางถามหานตงเทียน นางบอกว่าซื้อของให้และบอกให้มาช่วยล้อมรั้วและทำคอกวัวด้วยหลังจากที่ไปขายของที่ในเมืองกลับมาพร้อมท่านอา"ให้พาน้องของท่านมาที่บ้านของข้าด้วยก็ได้ นางบอกข้าจะพาพวกเขาไปหาหน่อไม้ด้วยจะได้ไม่เหงาเพราะอยู่บ้านทั้งวันรอแต่พี่ชายให้พวกเขาได้ออกมาเล่นข้างนอกบ้างนะเจ้าคะ" นางบอกกับชายหนุ่ม"อือได้สิ แล้วข้าจะพาพวกเขามาด้วยฝากเจ้าด้วยก็แล้วกันหรืออยากไปที่บ้านของข้าพร้อมพวกเขาก็ได้ ข้าไม่ห้ามเพราะเราต้องแต่งกันในไม่ช้า" หานตงเทียนตอบอวี่หลิงนางพยักหน้าตอบเสียงเบาอือ"ถ้าท่านลำบากใจที่จะรับของจากข้าถือว่าค่าแรงที่ให้ท่านมาช่วยงานนะเจ้าคะ เดินทางกลับบ้านดีๆเจ้าค่ะ" นางบอกก่อนจะวิ่งหนีที่ชายหนุ่มตอบจะคำถามนางแล้วนั้นเออ วิ่งเข้าบ้านเลยชายหนุ่มจึงหัวเราะเบาๆที่นางอายเขาก็เป็นด้วย หานตงเทียนที่ยกตระกร้าหนักมากไม่รู
ในที่สุดอวี่หลิงนางก็เจ็บท้องคลอดลูกในตอนกลางคืนที่สามีเตรียมหมอตำแยเอาไว้สามคนเถ้าแก่ร้านทำเครื่องประดับหามาให้สำหรับทำคลอดกับอวี่หลิงโดยเฉพาะ ตอนดึกในห้องนอนในมิติกับสามีนางปวดท้องจนพาสามีออกมาจากในมิติมานอนในห้องที่เตรียมเอาไว้คลอด หานตงเทียนเรียกน้องสาวเสียงดังให้ต้มน้ำช่วยหมอตำแยเสียงดังตื่นเต้นทั้งร้อนรนไปหมดเสียงตีเกราะดังขึ้นคนงานในไร่รีบลุกไปที่บ้านของเจ้านายทันทีที่ตอนนี้นายหญิงคงกำลังเจ็บท้องจะคลอดนายน้อยหรือคุณหนูของไร่แล้ว ทุกคนจึงรีบมาช่วยกันต้มน้ำคอยรับใช้ว่าในห้องทำคลอดของนายหญิงต้องการอะไรบ้างเพราะทุกคนต่างก็รอคอยนายน้อยคุณหนูน้อยกันทุกคนหานตงเทียนเดินวนเวียนที่หน้าประตูห้าทำคลอดจนหานซูอิงตาลายไปหมดรวมทั้งหานตงเหวินด้วยที่ไปส่งข่าวบอกความให้คนที่บ้านของท่านตาอวี่เซี่ยท่านยายกับท่านอาของนางว่าพี่สะใภ้ใหญ่ปวดท้องจะคลอดลูกแล้วครอบครัวอวี่จึงรีบมาที่บ้านของนางกันทุกคนยกเว้นอวี่ซิงที่จะมาในตอนเช้าเพราะท้องของนางก็ใหญ่โตไม่แพ้กันกับอวี่หลิงเสียงกรีดร้องของเมียรักหานตงเทียนใจจะขาดเขาอยากเจ็บแทนนางทุกอย่างถ้าเลือกได้นางบอกว่าคนสมัยนี้คลอดลูกน่ากลัวเพราะไม่มีโรงหมอที่ใหญ่
หลังจากช่วยชาวบ้านและคนในเมืองนี้ก็ผ่านมาได้สองเดือนกว่าๆแล้ว แต่ข่าวการช่วยเหลือจากสองครอบครัวที่นายน้อยหลี่ออกหน้าให้แทน นายอำเภอแจ้งบอกกับชาวบ้านว่าที่ผ่านหน้าหนาวมาได้ในหนึ่งเดือนที่หนักสุดเพราะขาดจากการติดต่อจากเมืองหลวงและไม่มีเสบียงส่งมาได้เพราะพายุหิมะที่ตกหนัก ที่ทุกครอบครัวของชาวบ้านที่ได้ของแจกจ่ายมาจากสามครอบครัวคือเหลาอาหารของนายน้อยหลี่และครอบครัวตระกูลอวี่กับครอบครัวหานแห่งหมู่บ้านให่หนาน ชาวบ้านธรรมดาที่ยึดอาชีพทำสวนผักขายที่นำข้าวปลาอาหารมาแจกจ่ายในตอนที่หิมะตกหนักที่ผ่านมาสร้างชื่อเสียงให้กับสามครอบครัวในอำเภอนี้เป็นอย่างมาก จนนายอำเภอออกมาขอบคุณถึงที่บ้านเชิงเขาของสองครอบครัวตาหลานและได้รางวัลแห่งการทำดีที่นายอำเภอส่งไปที่เมืองหลวงเรื่องการบริจาคช่วยเหลือชาวบ้านตอนที่พายุหิมะถล่ม เป็นหน้าหนาวที่ยาวนานถึงหกเดือนตอนนี้ที่บ้านไร่พลิกหน้าดินและหว่านข้าวในที่ดินที่แบ่งเอาไว้ปลูกข้าวสามร้อยกว่าหมู่ ผักก็ทำการปลูกจนหมดทุกแปลงแล้วที่ผ่านมาทำตำลึงให้กับสองครอบครัวตาหลานมากมาย จนท่านยายร่ำให้ด้วยความดีใจที่ทุกวันนี้ไม่ต้องกลัวจะกับไปลำบากอีกต่อไปเพราะหลานสาวได้ทำอาชีพที่ยั่ง
"ตามที่จริงข้าก็ไม่ว่าอะไรหรอกเจ้าค่ะท่านลุงผู้ใหญ่บ้าน ข้ายินดีช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยากเช่นเดียวกันเอาเป็นว่าข้าจะจัดเตรียมเอาไว้ให้ทุกครอบครัวในหมู่บ้านของพวกเราเลย ท่านลุงก็ไปบอกให้พวกเขามารับที่หน้าบ้านของข้าได้เลยหรือท่านลุงจะรับไปแจกแทนข้าก็ได้เพราะบางครอบครัวพวกเขาต่างรังเกียจครอบครัวของสามีข้าคงไม่กล้ามารับด้วยตัวเองก็ได้" นางบอกให้หัวหน้าหมู่บ้านได้รับรู้"ถ้าพวกมันคิดเช่นนั้นก็พากันอดตายไปเถอะข้าจะไปประกาศให้รับรู้กันทั้งหมู่บ้าน ใครไม่มาก็ไม่ต้องเอาในเมื่อจิตใจแคบแคบต่อพวกเจ้าเองข้าก็คงไปช่วยเหลือพวกเขาไม่ได้แต่ที่วิ่งมาที่บ้านของข้าก็มีแต่พวกที่เคยรังเกียจหานตงเทียนนะส่วนใหญ่" หัวหน้าหมู่บ้านบอกกับอวี่หลิง"ข้าไม่เป็นอะไรหรอกขอรับท่านลุงข้าจะช่วยเท่าที่จะช่วยได้แต่อย่าเข้ามาล้ำเส้นข้าก็พอ" หานตงเทียนตอบกลับไป อวี่หลิงจึงถามท่านตาเรื่องนี้ด้วย"จะช่วยเหลือชาวเมืองร่วมกันกับข้าไหมเจ้าคะท่านตาท่านอา ข้าอยากช่วยคนที่ลำบากพวกเขาคงจะมีชีวิตไม่ต่างกับพวกเราเหมือนเมื่อก่อนข้าสงสารเด็กกับคนแก่เจ้าค่ะ ในเขตอำเภอข้าจะให้นายน้อยหลี่ออกหน้าให้เพราะข้าไม่ชอบความวุ่นวาย จะส่งของไปให้ห
หน้าหนาวนี้ยาวนานถึงหกเดือนข้าวของที่ชาวบ้านพากันซื้อมาตุนเอาไว้กำลังขาดแคลนเพราะว่าทุกปีจะหนาวแค่สามถึงสี่เดือน แต่ปีนี้เกิดพายุหิมะถล่มในหลายเมือง ดีที่ก่อนที่พายุจะถล่มหนักนายน้อยหลี่ได้ขนส่งผักผลไม้ส่งไปทุกเมืองเพียงพอต่อการทำอาหารและขายในหนึ่งเดือนตอนนี้จึงหยุดส่งมาได้หนึ่งอาทิตย์แล้วเพราะหิมะตกหนักมาก ทั้งยังมีพายุอีกเขาจึงเอาความปลอดภัยของคนงานและม้าเอาไว้ก่อนเพราะที่ส่งไปก็มากมายพอขายแล้วในตัวเมืองก็วุ่ยวายเพราะพายุหิมะถล่มคนก็ขาดแคลนเสบียงเพราะมันเข้าเดือนที่ห้าแล้วมีเพียงงานของอวี่หลิงกับท่านอาที่ไม่ขาดผักและอาหารต่อให้หนาวทั้งปีอวี่หลิงนางก็ยังอยู่ได้อย่างสบาย ตอนในหมู่บ้านคงกำลังวุ่นวายไหนจะพายุถล่มไหนจะขาดอาหารการกินทั้งกลัวว่าบ้านจะรับน้ำหนักไม่ไหวถล่มลงมาใส่คนในครอบครัวอีก"ท่านพี่หนาวนี้ทำไมยาวนานจังเลยละเจ้าคะ ข้าว่าคนในหมู่บ้านและตัวเมืองคงวุ่นวายน่าดูนี้ก็ห้าเดือนแล้วยังไม่มีวี่แววว่าหิมะจะหยุดตกเลย ข้าว่าอากาศมันแปรปวนยิ่งนักปีนี้ดีนะเจ้าคะที่ไร่ของเราไม่ขาดแคลนอาหารการกินข้าสงสารชาวบ้านที่ไม่มีตำลึงพอที่จะตุนเสบียงได้ยาวนานหลานเดือนทั้งคนไร้บ้านอีกเฮ้อ" นางถออนหา
ในที่สุดการเก็บผลชีกวาก็เสร็จไปเรียบร้อยอวี่หลิงนางจัดงานเลี้ยงให้กับรายได้ที่ขายทั้งผักรอบแรกกับแตงโมนางได้ตำลึงมาหลายแสน นางจึงฉลองให้กับทุกคน จนแทบจะคลานออกจากวงของงานเลี้ยงกันเลยทีเดียวและคนงานนางยังให้พิเศษกับครอบครัวของคนงานของนางครัวละหนึ่งร้อยตำลึงเงิน ให้เด็กน้อยทั้งสิบคนอีกคนละยี่สิบตำลึงเงินให้ทุกคนมีกำลึงใจทำงานให้นางกันทุกคนส่วนเด็กน้อยที่หัดปักผ้าสามสี่คนลูกของคนงานนางยังให้คนละห้าตำลึงเงินพวกเขาจะได้มีกำลังใจในการทำงานยิ่งๆขึ้นไป อีกทั้งยังทำตำลึงให้เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวอีกต่อไปในภายภาคหน้ามีเพียงครอบครัวของท่านตากับท่านอาของนางที่ไม่รับตำลึงจากหลานสาวแต่ให้ทำอาหารที่อร่อยให้กินก็พอแล้ว เพราะท่านอาได้ตำลึงเป็นแสนมาเช่นเดียวกันในตอนนี้ทั้งสองครอบครัวไม่ขาดตำลึงทั้งยังหามาได้ทุกวันจากการส่งปลาทุกวันอีกที่เหลาอาหารทั้งสองสาขาของนายน้อยหลี่เหลียงเฉิน และท่านก็ยังจ่ายค่าเหนื่อยให้กับคนงานทุกคนในไร่เช่นเดียวกันกับหลานสาวด้วยทั้งสองไร่เพราะใช้ระบบเดียวกันทุกอย่างและคนที่ได้กำไรมากสุดคือนายน้อยหลี่นั้นเอง แต่อวี่หลิงนางรับมาสามเด้งเลยทั้งค่าสูตรอาหารทั้งส่วนแบ่งหนึ่งส่วนจ
ในที่สุดผักที่บ้านของท่านอาของนางก็ตัดเสร็จใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์เท่ากัน ตอนนี้กำลังไปเก็บชีกวาที่ไร่ของอวี่หลิงเกือบสามสิบหมู่รถม้าวิ่งเข้าออกที่บ้านไร่เชิงเขาทุกวัน ครอบครัวของท่านอาก็มาช่วยนางที่ไร่กันทุกคนเพราะแตงโมที่ไร่ของนางมีแต่ลูกใหญ่ๆเนื้อสีแดงหวานมากจนนายน้อยหลี่ต้องเหมารถม้ามาช่วยอีกจากต่างอำเภอใกล้เคียงที่มีสาขาของเหลาอาหารของเขา โดยผู้ดูแลเหลาหารถม้ามาให้ห้าสิบคันเลยจึงจะพอขนส่งแตงโมและผักส่งไปต่างเมืองแต่ก็แทบจะไม่พอขายสร้างกำไรให้นายน้อยหลี่จนยิ้มแก้มแทบจะแตกหลังจากวันที่เก็บผักวันสุดท้ายท่านอาได้เลี้ยงฉลองให้กับคนงานและคนที่มารับจ้างกันทุกคนรวมทั้งครอบครัวของอวี่หลิงด้วย นายน้อยหลี่ดื่มเหล้าของอวี่หลิงจนเมาได้ที่ก็สารภาพรักอวี่ซิงจนนางอายม้วนหลบหลังอวี่หลิงตลอดเวลา นางบอกกลัวว่าเขาจะรังเกียจที่นางเป็นคนบ้านป่าคงไม่สามารถไปเป็นฮูหยินของเขาได้ที่เมืองหลวงได้และนางจะอยู่ที่บ้านไร่ไม่จากไปไหนจากท่านพ่อท่ายแม่ตากับยายและอวี่หลิงญาติของนางเอง ซึ่งนายน้อยหลี่ก็บอกว่าเขาจะอยู่ที่นี้เพราะบิดายกเหลาอาหารให้สองสาขาที่หุ้นกันกับหลงจู๊ดูแลทั้งสองสาขา และคงต้องอยู่ที่นี้ตลอดไปจะกลับเ
เป็นเช้าที่ปวดเมื่อยที่เอวมากที่สุดอวี่หลิงคิดวันนี้นางตื่นเกือบยามซื่อเพราะเมื่อคืนพากันดื่มสามคนกับอาสะใภ้และอวี่ซิง ยิ่งดื่มยิ่งมันส์จนไม่รู้ว่าตัวเองเมาสามีต้องประคองเข้าบ้าน ไม่ต่างกันกับอาสะใภ้และลูกสาวที่ตอนนี้กำลังดื่มน้ำแกงแก้เมาจนไม่ได้ออกไปตัดผัดช่วยคนงาน มีเพียงบิดากับท่านตาที่ไปดูคนงานแต่หานตงเทียนก็ส่งหัวหน้าครอบครัวคนงานในไร่ของตัวเองไปช่วยก่อนเพราะต้องดูแลเมียรักที่ยังไม่ตื่นเช่นเดียวกัน เขาก็ให้น้องสาวทำน้ำแกงแก้เมาให้กับพี่สะใภ้ใหญ่เช่นเดียวกันพอนางย่อนขาลงเตียงเสียงประตูเปิดสามีก็เดินเข้ามาในห้องถามไถ่ภรรยาด้วยความเป็นห่วง"ปวดหัวไหมหลิงเอ๋อร์" หานตงเทียนยกน้ำแกงแก้เมาเข้ามาด้วยและป้อนให้นางถึงปากเลยทีเดียว"ดื่มสักหน่อยเถิดน้องจะได้ไม่ปวดหัว" เขาบอกเมียรักเอาถ้วยจ่อปากนางเลยจะไม่ดื่มก็ไม่ได้ก็สามีทำมาให้ขนาดนี้ นางจึงปิดจมูกและกลั้นใจดื่มไปจนหมดถ้วยด้วยใบหน้าที่ยากจะอธิบาย สามีจึงเอาก้อนน้ำผึ้งใส่ปากนางจึงรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย"ดีขึ้นไหม" เขาถามภรรยากอดนางแนบอกเพราะกลั้นขำที่มองใบหน้าตลกที่นางทำหน้าตอนดื่มยาแกเมา "เจ้าค่ะข้าดีขึ้นแล้วและอยากอาบน้ำมากทั้งหิวมากๆด้
ตัดผักที่บ้านไร่ของอวี่หลิงอาทิตย์หนึ่งนายน้อยหลี่แทบจะไม่ยอมกลับไปนอนที่บ้านในเมือง มื้อเช้ากับมื้อเที่ยงกินที่บ้านของอวี่หลิงเพราะติดใจฝีมือของอวี่หลิงกับหานซูอิงและได้เมนูใหม่ๆกลับไปให้หลงจู๊อีกหลายรายการไก่ย่าง ปลาเผา กุ้งเผาที่น้ำจิ้มรสเด็ดจากไอ้เม็ดสีแดงสีเขียวที่นางเรียกว่าพริกที่กินเข้าไปทั้งร้อนและชาลิ้นน้ำตาแทบไหลแต่ก็ยังอดกินไม่ได้อยู่ดี ในไร่ของนางยังปลูกมะละกอและตำให้กินในมื้อเที่ยงทำให้เจริญอาหารยิ่งนักยิ่งมีไก่ย่างสมุนไพรเข้าไปอีก เนื้อแดดเดียวรสเด็ดจนนายน้อยหลี่อยากจะทำบ้านเอาไว้ที่นี้เลย จนไปขอค้างคืนที่บ้านหลังใหญ่ของอวี่ซานที่ยังไม่ได้เข้าไปนอนเพราะเขายังนอนบ้านหลังเดียวกับพี่สาวของตัวเองอยู่เลย จึงยกให้นายน้อยหลี่เช่านอนไปก่อนคนที่ได้ตำลึงคือตัวของอวี่ซานนั้นเองถั่วฝักยาว มะเขือเทศ แตงกวา แตงล้านรถม้าของเหลาอาหารของนายน้อยหลี่รับซื้อไปขายต่อทั้งหมด รถม้าที่จ้างเหมามาจากในตัวเมืองขนผักออกจากไร่วันละเป็นร้อยเที่ยว ชาวบ้านแตกตื่นกันทั้งหมูบ้านพอได้ยินข่าวว่าสองครอบครัวบ้านเชิงเขาทำการค้ากับเหลาอาหารชื่อดังในตัวเมืองยิ่งอยากจะมาให้เห็นกับตาแต่โดนหัวหน้าหมู่บ้านคาดโทษห
หลังจากวันที่เข้าไปขายมุกน้ำจืดตอนนี้ก็เป็นเวลาตัดผักขายของบ้านไร่เชิงเขาของนาง อีกไม่ถึงเดือนก็จะเข้าหน้าหนาวเต็มตัว นางเพาะเมล็ดผักในโรงเรือนเอาไว้มากมายให้เพียงพอต่อการขายผักสดและทำผักดองในตอนระหว่างวันสองสามีภรรยาบอกให้คนงานทำหน้าที่แทนตัวเอง แล้วสองคนจะขึ้นเขาไปหาสิ่งที่ต้องการบนเขาลงมาปลูกในไร่ ไม่ว่าจะเป็นหัวมัน หัวเผือก นางขุดเอาทั้งหมดแม้แต่มันฝรั่งก็ยังมีที่จริงมันก็ควรจะมีครบทุกสิ่งทุกอย่างที่ในโลกแห่งนี้ที่สร้างขึ้นมาให้คนได้กิน เพียงแต่ยังไม่ถึงยุคที่มีความรู้มากมายและกินทุกสิ่งอย่างนั้นเอง ตรงนี้ก็คือผักสวนครัวขนาดใหญ่บนภูเขานั้นเองของส่วนมากนางจะเอาเข้ามิติให้หมดและทยอยนำออกมาไม่ให้เป็นที่น่าสงสัยของคนงานที่ขึ้นเขาแค่สองคนทำไมถึงมีของลงมาเยอะขนาดนี้ แต่ส่วนมากนางจะทำเองเพราะลำพังงานในไร่ก็แทบล้นมือพวกเขาแล้ว ดีนะที่แต่ละบ้านมีลูกมีหลานที่สามารถทำงานได้แทบจะทุกคนยกเว้นเด็กน้อยสามสี่คนที่ตามติดหานซูอิงเป็นโขยงนั้นเองนางพาไปถอนหญ้าก็ตามกันไปพาไปเก็บไม่นานก็เต็มตระกร้าใหญ่และแบ่งปันไปให้คนงานในไร่ครบทุกครัวเรือน ของอะไรบนเขานางกับสามีหาเจอทุกอย่าง ตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่ขึ