ที่ออฟฟิศของ ‘FDK Studio’ แถวถนนรามอินทรา พนักงานฝ่ายบุคคลหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่ง พาหลินขึ้นมาที่ชั้นที่เขาต้องนั่งทำงาน ซึ่งอยู่เหนือจากชั้นสำนักงานของ FDK ขึ้นมาสองชั้น
และแวบแรกที่เห็นเด็กหนุ่มก็แปลกใจอย่างยิ่ง เพราะออฟฟิศทั้งชั้นตกแต่งเรียบร้อยแค่ห้องห้องเดียว ในนั้นมีโต๊ะทำงานตัวยาวที่มีพาร์ติชั่นกั้น ตู้เอกสาร ชั้นวางของ กับห้องทำงานติดวิวส่วนตัวอีกห้องหนึ่งแค่นั้น
และดูเหมือนโต๊ะทำงานตัวยาวที่หลินคงต้องไปนั่งตรงนั้นไม่มีใครนั่งทำงานเลยแม้แต่คนเดียว
หนุ่มโอเมก้าอดสงสัยไม่ได้เลยถามออกไป
“อ้าว ทำไมที่นี่ไม่มีคนนั่งเลยล่ะครับ”
“อ้อ เพราะส่วนงานที่คุณหลินสังกัดคือธุรกิจใหม่ของ FDK Studio น่ะค่ะ จะเรียกเป็นบริษัทใหม่ก็ได้ เห็นทางผู้บริหารบอกว่าจะตั้งชื่อว่า ‘FDK Entertainment’ แต่ก่อนธุรกิจของเราคือให้เช่ากับบริการเกี่ยวกับโรงถ่ายอย่างเดียว แต่ไม่ได้เป็นผู้ผลิตสื่อบันเทิงเองน่ะ”
“อ้อ เข้าใจแล้วครับ แล้วบริษัทใหม่ที่ว่ามีพนักงานกี่คนครับ”
พนักงานฝ่ายบุคคลทำคอย่น ก่อนตอบแบบเขิน
“คลานเข่ามาหาฉัน!” หัวหน้าของเด็กหนุ่มที่กลายเป็นหนุ่มดอมตัวจริงที่ไม่ใช่ดอมแค่ชื่อ เขานั่งกอดอกไขว่ห้างอยู่บนโต๊ะทำงาน เสื้อผ้าของตัวเองยังอยู่ครบหลินพยักหน้าอยู่ในท่าคลานสี่เท้า แต่สิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างยิ่งคือ เด็กหนุ่มใส่เสื้อตาข่ายบาง ๆ สีดำที่มีสายรัดไขว้กันเป็นกากบาทเรียงตามแนวดิ่ง ที่ดอมเรียกมันว่า ‘คอร์เซ็ตตาข่าย’ เขาถูกปิดตา มีปลอกคอที่มีห่วงและสายโซ่เส้นเล็ก ๆ โยงออกมา เท่านั้นยังไม่พอเขายังถูกใส่กุญแจมืออีกแต่มีเครื่องแต่งกายเดิมเพียงชิ้นเดียวที่ยังคงไว้บนตัวเด็กหนุ่ม เพราะสิ่งนั้นถูกใจดอมแล้ว นั่นคือกางเกงในเปิดก้นที่เรียกว่าจ๊อกสแตรป ตอนหัวหน้าเห็นยังถึงกับเอ่ยชม‘เพิ่งรู้ว่าหลินชอบใส่แบบนี้’‘เอ้อ บังเอิญว่าผมเหลือกางเกงในสะอาด ๆ แค่ตัวนี้ตัวเดียวน่ะครับ’ หนุ่มโอเมก้าตอบอย่างจริงใจแล้วยิ้มอายดอมทำหน้าแบบไม่อยากเชื่อ ‘จริงดิ แล้วมีกางเกงในอย่างนี้อีกเยอะไหม ถ้ามีแค่ตัวเดียวเดี๋ยวพี่จะซื้อให้อีก จะได้ใส่มาบ่อย ๆ ใส่ทุกวันได้ยิ่งดี’กลับมาสู่เหตุการณ์ตรงหน้า หลิ
แม้จะทำถึงขนาดนั้นแล้วแต่นายท่านยังไม่สาแก่ใจ จู่ ๆ ดอมก็ผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ ให้หลินลงไปนั่งแทน แล้วอีกวินาทีต่อมา โอเมก้าก็สัมผัสถึงแรงกระแทกมาจากด้านข้างจนใบหน้าหันเพียะ ๆที่แท้อีกคนก็ตบหน้าของเขา โดยตั้งใจให้ฝ่ามือกระทบพอดีกับด้านข้าง ตามแนวโหนกแก้มที่ผิวหนังค่อนข้างหนาและแข็งจะได้ไม่เจ็บแล้วหลินก็ได้ยินเสียงขู่กระโชกน่ากลัวว่า “ฮ่า อีเด็กร่าน อย่างแกต้องโดนตบแบบนี้ล่ะถึงจะเหมาะ!”+++++นายท่านจับเด็กหนุ่มลงมาอยู่นั่งบนพื้น โชคดีที่พื้นออฟฟิศที่นี่ปูพรมขนสั้นเลยไม่เจ็บก้นเท่าใดนักในท่านั่งหลินถูกยกต้นขาขึ้น หัวเข่าของเขาแทบชิดหัวไหล่ เด็กหนุ่มรู้ดีว่ากำลังจะโดนทำอะไร“นายท่าน อ๊าก”ดอมหน้ามืดตามัวไปหมด เขาจับข้อเท้าเด็กหนุ่ม แยกถ่างขาออก ผ้าส่วนน้อยของกางเกงในเซ็กซี่ของเด็กหนุ่มแทบปิดบังส่วนนั้นไว้ไม่มิดตอนเห็นขาขาวเนียนเรียวเล็กแต่มีกล้ามเนื้อแบบผู้ชายถ่างออกแล้วความเป็นอัลฟ่าของดอมก็แผดเผาร่างกายตัวเองแทบไหม้‘ความขาวใสที่กูถวิลหาอยู่ตรงหน้าแล้ว&
เด็กหนุ่มโอเมก้าทำงานที่บริษัท FDK ได้เกือบสองสัปดาห์และยิ่งรักงานที่นี่ขึ้นทุกวันตอนนี้เขาไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวที่ออฟฟิศนี้อีกแล้ว เพราะมีทีมงานเขียนบทมาเสริมอีกสามคน ดูเหมือนในช่วงแรกบริษัทนี้จะเน้นการผลิตบทคุณภาพสำหรับโปรเจกต์นิยายวายเรื่องแรกมากกว่าสิ่งอื่นใดนโยบายของผู้บริหาร ซึ่งก็หมายถึงสามหนุ่มแด๊ดดี้นั่นเอง คิดว่าบทเป็นส่วนสำคัญที่สุดของซีรีส์ ส่วนขั้นตอนการผลิต การคัดเลือกตัวแสดง มองว่าให้คนอื่นผลิตก็ได้ ตราบใดที่ผู้ผลิตมีทุนมากพอ จะผลิตละครที่ภาพสวย ใช้นักแสดงดึงดูดหรือเหมาะสมกับบทอย่างไรก็ได้และตอนนี้หลินกับทีมงานเล็ก ๆ ของเขาต่างพยายามปั้นบทซีรีส์วายเรื่องหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ แต่ทีมของเขาเรียกว่า ‘โปรเจกต์เจ้าชาย’ นั่นเพราะเนื้อเรื่องจะเกี่ยวข้องกับความรักระหว่างเจ้าชายแห่งเมืองสมมุติเมืองหนึ่งกับลูกชายโทนของนายกไทย ฟังแล้วน่าจะเป็นซีรีส์วายที่ลักซัวรี่ไม่เบาแม้เรื่องงานจะสนุกและท้าทาย กระนั้นก็มีบางสิ่งที่เขาไม่สบายใจเย็นวันหนึ่งหลินเพิ่งขับรถของบริษัทกลับจากประชุมข้างนอก น้อง ๆ ในทีมขึ้นมาที
แทนที่จะขึ้นไปออฟฟิศแล้วรีบเก็บของกลับบ้าน หลินกลับเข้าพุ่งตัวเข้าไปในรถเทสลา แล้วขับบึ่งออกมาอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีจุดหมายปลายทางที่แน่นอนกว่าจะรู้ตัวอีกที ฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสี และพอดับเครื่องรถยนต์หลินก็มาถึงสถานที่แห่งหนึ่งที่เขาเคยมาแล้ว นั่นก็คือโรงถ่ายของ FDK Studio ที่ปทุมธานีนั่นเองวิวตอนเย็นของโรงถ่ายงดงามจนเด็กหนุ่มต้องลงจากรถเดินช้า ๆ สีสันบนท้องฟ้ามีหลากหลายทั้งส้มชมพูม่วงที่ไล่เฉดได้สมบูรณ์แบบชนิดที่ไม่มีจิตรกรคนไหนวาดเทียบเทียมได้ และธรรมชาติอันน่าตะลึงก็ทำให้ความคิดของหลินเรียงตัวเป็นระเบียบเขารู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อยแต่แล้วเด็กหนุ่มก็ตื่นจากภวังค์ เพราะมีเสียงรถยนต์คันใหญ่มุ่งมาทางเขา แล้วก็เห็นรถเอสยูวีอีกคันหนึ่งวิ่งมาจอดเทียบรถเทสลาสีเงินของบริษัท และหลินจำได้ว่านั่นคือรถของคิงหนุ่มใจดีทายาทบริษัทอสังหาออกมาจากรถ แล้วรีบเดินมาที่ตัวเด็กหนุ่มทันที“ทำไมจู่ ๆ ก็หลินหนีพี่มา แถมขับรถเร็วซะด้วย ดีนะที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ”“พี่คิง นี่พี่ขับรถตามผมมาถึงนี่เลยเหรอ”“ก็ใช่น่ะสิ คุยกันอยู่
ไม่นานเลยหลินก็ฉ่ำเยิ้มไปทั้งร่าง ตอนฝ่ามือใหญ่ของคิงเข้าไปล้วงเข้าไปเล่น เขารู้ทันทีว่าข้างในกางเกงในสีขาวของหลินมีเหลวเหนียวเหนอะเปียกชื้นอยู่ข้างในชัก ๆ“โอ๊ะ พี่ครับ ซี้ด โอย ผมเสียว” เด็กหนุ่มตื่นเร้าอย่างมากมายไม่น่าเชื่อ ทั้งการถูกรุกรานด้วยนิ้ว ทั้งความกังวลว่าจะมีคนผ่านมาเห็นสิ่งที่พวกเขาทำกันโอเมก้าพอเข้าใจแล้วว่าทำไมคิงถึงโปรดปรานการมีเซ็กซ์แบบเอาต์ดอร์“อึก ขอผมทำพี่บ้างสิ”“มาสิ ก้มลงมาใช้ปากให้พี่หน่อย”คิงรูดกางเกงกับกางในลงไปกองที่ข้อเท้าทันทีพอคนขับเปลือยท่อนล่างแล้ว คนตัวเล็กกว่าก็ตะกายตัว เอาหน้าท้องพาดเกาะกึ่งกลางระหว่างคนขับกับผู้โดยสารแล้วปากนุ่ม ๆ ของเด็กหนุ่มก็ครอบทับดุ้นเนื้อของคนขับเข้าไปหลินเบิกตากว้างตอนเห็นนายช่างเอานิ้วจับที่โคนดุ้น ทำให้อวัยวะที่มีเลือดมาคั่งจนแข็งเกร็งนั่นชี้ชูขึ้นฟ้า ทั้งความยาว ความอวบกำลังดี กับส่วนหัวสีแดงก่ำ กระตุ้นกำหนัดที่ด้านหน้าและด้านหลังของเด็กหนุ่มจนร้อนระอุ“อูย ของพี่หัวแดงจัง” หลินใช้นิ้วแตะสัมผัสที
สองหนุ่มนอนกอดก่ายกันในรถ หลินหนุนแขนล่ำของคิง ศีรษะทุยสวยวางพอดีตรงรอยต่อของหัวไหล่กับหน้าอก คิงจูบเบา ๆ ที่หน้าผากเนียนที่ยังมีเหงื่อชื้นซึม ฝ่ามือใหญ่ลูบเส้นผมอ่อนนุ่มที่ยังเปียกนิดหน่อยตรงปลาย“หิวไหม”“เริ่มหิวแล้วครับ”“งั้นเดี๋ยวแต่งตัวแล้วไปกันเลยดีกว่า”เด็กหนุ่มชูแขนขึ้นด้วยท่าทีน่ารัก “เย้ ปิ้งย่างเกาหลีที่รอคอย”“โอ้ พี่ขอโทษนะที่ปล่อยให้เราหิว”หลินแลบลิ้นอย่างล้อเลียน “ไม่หิวขนาดนั้นหรอกพี่” แล้วเขาก็นึกอะไรได้ หนุ่มโอเมก้าจึงรั้งตัวคิงที่เพิ่งลุกขึ้นมานั่งด้วยการบีบเบา ๆ ที่ต้นแขน “ผมมีเรื่องอยากถาม ที่จริงคือผมสงสัยมาแล้วก่อนหน้านี้”“หือ เรื่องอะไร”“พี่รู้เรื่องที่ผมกับเพื่อนพี่อีกสองคนมีอะไรกัน…”คิงชิงพยักหน้าก่อนจะจบประโยคเสียอีก“พวกพี่ไม่เคยปิดบังอะไรกันเลยสินะ”หนุ่มใหญ่หัวเราะอาย ๆหลินทำปากล่างยื่น “พี่ไม่รู้สึกแปลก ๆ เหรอครับ”&ld
ดอมเพิ่งนึกออกว่าตลอดเวลาที่รู้จักกัน หลินไม่เคยเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับชีวิตของเขา บอกแค่ว่าพ่อแม่อยู่ต่างจังหวัดและเขาอยู่กรุงเทพฯ คนเดียว เลยต้องหาเงินส่งให้ที่บ้านความตระหนักรู้ในสมองของหนุ่มร้ายส่งเสียงกระดิ่งกริ๊งลั่นในหัว ‘ถ้าพ่อมีลูกน้องตัวใหญ่เป็นยักษ์แถมมีหน้าโหดแบบนี้ พ่อของหลินก็น่าจะเป็น…’ นั่นคือสิ่งที่เขาคิดได้อย่างเดียวชายตัวใหญ่ที่หลินบอกว่าชื่อวินย่างเข้ามา มือขยับแว่น แต่เหลือบเห็นมือใหญ่ของดอมที่จับข้อมือเล็กของหลินไว้ วินจึงเอ่ยว่า“คุณเอ้อ คือคุณดอมนั่นเอง ได้โปรดปล่อยคุณหลินมากับเราเถอะครับ”“ทำไมต้องปล่อย นายเป็นใครเนี่ย แล้วจะพาหลินไปไหน” ดอมรีบดึงตัวเด็กหนุ่มมาใกล้ แล้วก้าวไปอยู่ข้างหน้าแทนทันทีอย่างปกป้อง“เอ้อคือว่า…” คนชื่อวินใช้นิ้วเขี่ยที่มุมปากอย่างยุ่งยากใจ“แล้วทำไมนายถึงรู้จักฉัน” ดอมส่งเสียงดังข่มขู่“ก็เพราะคุณพ่อของคุณ คุณเด่นชัย เขารู้จักกับนายท่านหง ตั้งแต่ตอนคุณเด่นชัยยังทำงานให้บอสใหญ่ของผม”ดอม
ที่บ้านพักตากอากาศหลังหนึ่งริมทะเลสาบธรรมชาติที่จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นจังหวัดที่เงียบสงบและมีประชากรเบาบาง และกว่าจะเดินทางมาถึงที่นี่จากถนนใหญ่ยังไม่ง่าย ดังนั้นอาจนับได้ว่าบ้านหลังนี้คือเซฟเฮ้าส์ที่ปลอดภัยและแทบตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิงอย่างไรก็ตามด้วยอำนาจเงินก็ดลบันดาลให้ที่พักแห่งนี้เป็นที่อยู่ที่สะดวกสบายมากแห่งหนึ่งแม้ภาพทิวทัศน์เบื้องหน้าจะสวยงาม แต่เด็กหนุ่มทายาทมาเฟียชื่อก้องก็ถอนหายใจหนักหน่วง ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ในบ้านเขาหดหู่สุดขีด นี่ยังดีที่พอออกมาสู่ธรรมชาติแล้วจิตใจคล้ายถูกเยียวยาขึ้นมาบ้างเด็กหนุ่มจำเป็นต้องอยู่ที่บ้านริมทะเลสาบแห่งนี้ ที่เขาเซ็งสุดขีดเพราะตระหนักได้ว่าสภาพตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากถูกกักขัง สุดท้ายหลังจากพยายามแทบตายก็ต้องกลับมาเป็นเด็กไม่รู้จักโตของคุณพ่ออีกรอบ ไร้อิสระสิ้นดีพ่อบอกให้เขาอยู่ที่นี่ก่อนจนกว่าความคิดจะเข้าที่เข้าทางแล้วค่อยมาคุยกันเด็กหนุ่มถอนใจอีกรอบ อย่างไรก็ดีคราวนี้หลินไม่มีความคิดที่จะหนีไปไหนอีก ลึก ๆ เขารู้สึกผิดกับครั้งที่แล้วที่หนีออกจากบ้านถัดจากการหนี ก็เจอเรื่องไม่คาดฝัน
“ท่านหงให้พวกเราทุกคนฝังไมโครชิปที่หลังมือ” ดอมเฉลยพร้อมกับยกหลังมือให้เห็น ผิวตรงนั้นมีจุดแดงจาง ๆ เหมือนตุ่มมดกัด“หา? นั่นหมายถึง...” เด็กหนุ่มอ้าปากค้างอย่างพิศวง“ท่านหงบอกว่าถ้าพวกเราอยากมาเจอหลิน ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่ายินดีเสียสละเพื่อหลิน ลูกชายคนสุดท้ายของเขาจริง ๆ” ดอมเริ่ม“การฝังชิปเปรียบเหมือนการยอมให้เขาติดตามตัวเราได้ตลอดชีวิต ท่านหงบอกว่า วันใดที่พวกเราทำให้หลินเสียใจ ถ้ามีชิปนี้อยู่ที่ตัว ไม่ว่าจะหนีไปสุดหล้าฟ้าเขียวแค่ไหน เขาก็จะให้คนออกตามล่าพวกเราจนได้” เฟย์เสริม“และชิปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ฝังลงไปได้อย่างเดียว เอาออกมาไม่ได้ ถ้าพยายามเอาออก มันจะระเบิด” คิงอธิบายแล้วกลืนน้ำลายเอื๊อกเด็กหนุ่มเอามือปิดปาก แววตาเบิกโพลง “นั่นไง ผมกะแล้วว่าคนอย่างพ่อผมไม่มีทางให้อะไรใครฟรี ๆ แน่ แล้วพวกพี่ยอมได้ยังไง มันคือทั้งชีวิตของพวกพี่เลยนะ!”ดอมผู้มั่นใจยักไหล่ เอามือล้วงกระเป๋ากางเกง “ไม่เห็นมีอะไรเสียหายนี่ ยังไงเราก็ไม่คิดจะทิ้งหลินไปไหนอยู่แล้ว”
ที่บ้านพักตากอากาศหลังหนึ่งริมทะเลสาบธรรมชาติที่จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นจังหวัดที่เงียบสงบและมีประชากรเบาบาง และกว่าจะเดินทางมาถึงที่นี่จากถนนใหญ่ยังไม่ง่าย ดังนั้นอาจนับได้ว่าบ้านหลังนี้คือเซฟเฮ้าส์ที่ปลอดภัยและแทบตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิงอย่างไรก็ตามด้วยอำนาจเงินก็ดลบันดาลให้ที่พักแห่งนี้เป็นที่อยู่ที่สะดวกสบายมากแห่งหนึ่งแม้ภาพทิวทัศน์เบื้องหน้าจะสวยงาม แต่เด็กหนุ่มทายาทมาเฟียชื่อก้องก็ถอนหายใจหนักหน่วง ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ในบ้านเขาหดหู่สุดขีด นี่ยังดีที่พอออกมาสู่ธรรมชาติแล้วจิตใจคล้ายถูกเยียวยาขึ้นมาบ้างเด็กหนุ่มจำเป็นต้องอยู่ที่บ้านริมทะเลสาบแห่งนี้ ที่เขาเซ็งสุดขีดเพราะตระหนักได้ว่าสภาพตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากถูกกักขัง สุดท้ายหลังจากพยายามแทบตายก็ต้องกลับมาเป็นเด็กไม่รู้จักโตของคุณพ่ออีกรอบ ไร้อิสระสิ้นดีพ่อบอกให้เขาอยู่ที่นี่ก่อนจนกว่าความคิดจะเข้าที่เข้าทางแล้วค่อยมาคุยกันเด็กหนุ่มถอนใจอีกรอบ อย่างไรก็ดีคราวนี้หลินไม่มีความคิดที่จะหนีไปไหนอีก ลึก ๆ เขารู้สึกผิดกับครั้งที่แล้วที่หนีออกจากบ้านถัดจากการหนี ก็เจอเรื่องไม่คาดฝัน
ดอมเพิ่งนึกออกว่าตลอดเวลาที่รู้จักกัน หลินไม่เคยเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับชีวิตของเขา บอกแค่ว่าพ่อแม่อยู่ต่างจังหวัดและเขาอยู่กรุงเทพฯ คนเดียว เลยต้องหาเงินส่งให้ที่บ้านความตระหนักรู้ในสมองของหนุ่มร้ายส่งเสียงกระดิ่งกริ๊งลั่นในหัว ‘ถ้าพ่อมีลูกน้องตัวใหญ่เป็นยักษ์แถมมีหน้าโหดแบบนี้ พ่อของหลินก็น่าจะเป็น…’ นั่นคือสิ่งที่เขาคิดได้อย่างเดียวชายตัวใหญ่ที่หลินบอกว่าชื่อวินย่างเข้ามา มือขยับแว่น แต่เหลือบเห็นมือใหญ่ของดอมที่จับข้อมือเล็กของหลินไว้ วินจึงเอ่ยว่า“คุณเอ้อ คือคุณดอมนั่นเอง ได้โปรดปล่อยคุณหลินมากับเราเถอะครับ”“ทำไมต้องปล่อย นายเป็นใครเนี่ย แล้วจะพาหลินไปไหน” ดอมรีบดึงตัวเด็กหนุ่มมาใกล้ แล้วก้าวไปอยู่ข้างหน้าแทนทันทีอย่างปกป้อง“เอ้อคือว่า…” คนชื่อวินใช้นิ้วเขี่ยที่มุมปากอย่างยุ่งยากใจ“แล้วทำไมนายถึงรู้จักฉัน” ดอมส่งเสียงดังข่มขู่“ก็เพราะคุณพ่อของคุณ คุณเด่นชัย เขารู้จักกับนายท่านหง ตั้งแต่ตอนคุณเด่นชัยยังทำงานให้บอสใหญ่ของผม”ดอม
สองหนุ่มนอนกอดก่ายกันในรถ หลินหนุนแขนล่ำของคิง ศีรษะทุยสวยวางพอดีตรงรอยต่อของหัวไหล่กับหน้าอก คิงจูบเบา ๆ ที่หน้าผากเนียนที่ยังมีเหงื่อชื้นซึม ฝ่ามือใหญ่ลูบเส้นผมอ่อนนุ่มที่ยังเปียกนิดหน่อยตรงปลาย“หิวไหม”“เริ่มหิวแล้วครับ”“งั้นเดี๋ยวแต่งตัวแล้วไปกันเลยดีกว่า”เด็กหนุ่มชูแขนขึ้นด้วยท่าทีน่ารัก “เย้ ปิ้งย่างเกาหลีที่รอคอย”“โอ้ พี่ขอโทษนะที่ปล่อยให้เราหิว”หลินแลบลิ้นอย่างล้อเลียน “ไม่หิวขนาดนั้นหรอกพี่” แล้วเขาก็นึกอะไรได้ หนุ่มโอเมก้าจึงรั้งตัวคิงที่เพิ่งลุกขึ้นมานั่งด้วยการบีบเบา ๆ ที่ต้นแขน “ผมมีเรื่องอยากถาม ที่จริงคือผมสงสัยมาแล้วก่อนหน้านี้”“หือ เรื่องอะไร”“พี่รู้เรื่องที่ผมกับเพื่อนพี่อีกสองคนมีอะไรกัน…”คิงชิงพยักหน้าก่อนจะจบประโยคเสียอีก“พวกพี่ไม่เคยปิดบังอะไรกันเลยสินะ”หนุ่มใหญ่หัวเราะอาย ๆหลินทำปากล่างยื่น “พี่ไม่รู้สึกแปลก ๆ เหรอครับ”&ld
ไม่นานเลยหลินก็ฉ่ำเยิ้มไปทั้งร่าง ตอนฝ่ามือใหญ่ของคิงเข้าไปล้วงเข้าไปเล่น เขารู้ทันทีว่าข้างในกางเกงในสีขาวของหลินมีเหลวเหนียวเหนอะเปียกชื้นอยู่ข้างในชัก ๆ“โอ๊ะ พี่ครับ ซี้ด โอย ผมเสียว” เด็กหนุ่มตื่นเร้าอย่างมากมายไม่น่าเชื่อ ทั้งการถูกรุกรานด้วยนิ้ว ทั้งความกังวลว่าจะมีคนผ่านมาเห็นสิ่งที่พวกเขาทำกันโอเมก้าพอเข้าใจแล้วว่าทำไมคิงถึงโปรดปรานการมีเซ็กซ์แบบเอาต์ดอร์“อึก ขอผมทำพี่บ้างสิ”“มาสิ ก้มลงมาใช้ปากให้พี่หน่อย”คิงรูดกางเกงกับกางในลงไปกองที่ข้อเท้าทันทีพอคนขับเปลือยท่อนล่างแล้ว คนตัวเล็กกว่าก็ตะกายตัว เอาหน้าท้องพาดเกาะกึ่งกลางระหว่างคนขับกับผู้โดยสารแล้วปากนุ่ม ๆ ของเด็กหนุ่มก็ครอบทับดุ้นเนื้อของคนขับเข้าไปหลินเบิกตากว้างตอนเห็นนายช่างเอานิ้วจับที่โคนดุ้น ทำให้อวัยวะที่มีเลือดมาคั่งจนแข็งเกร็งนั่นชี้ชูขึ้นฟ้า ทั้งความยาว ความอวบกำลังดี กับส่วนหัวสีแดงก่ำ กระตุ้นกำหนัดที่ด้านหน้าและด้านหลังของเด็กหนุ่มจนร้อนระอุ“อูย ของพี่หัวแดงจัง” หลินใช้นิ้วแตะสัมผัสที
แทนที่จะขึ้นไปออฟฟิศแล้วรีบเก็บของกลับบ้าน หลินกลับเข้าพุ่งตัวเข้าไปในรถเทสลา แล้วขับบึ่งออกมาอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีจุดหมายปลายทางที่แน่นอนกว่าจะรู้ตัวอีกที ฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสี และพอดับเครื่องรถยนต์หลินก็มาถึงสถานที่แห่งหนึ่งที่เขาเคยมาแล้ว นั่นก็คือโรงถ่ายของ FDK Studio ที่ปทุมธานีนั่นเองวิวตอนเย็นของโรงถ่ายงดงามจนเด็กหนุ่มต้องลงจากรถเดินช้า ๆ สีสันบนท้องฟ้ามีหลากหลายทั้งส้มชมพูม่วงที่ไล่เฉดได้สมบูรณ์แบบชนิดที่ไม่มีจิตรกรคนไหนวาดเทียบเทียมได้ และธรรมชาติอันน่าตะลึงก็ทำให้ความคิดของหลินเรียงตัวเป็นระเบียบเขารู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อยแต่แล้วเด็กหนุ่มก็ตื่นจากภวังค์ เพราะมีเสียงรถยนต์คันใหญ่มุ่งมาทางเขา แล้วก็เห็นรถเอสยูวีอีกคันหนึ่งวิ่งมาจอดเทียบรถเทสลาสีเงินของบริษัท และหลินจำได้ว่านั่นคือรถของคิงหนุ่มใจดีทายาทบริษัทอสังหาออกมาจากรถ แล้วรีบเดินมาที่ตัวเด็กหนุ่มทันที“ทำไมจู่ ๆ ก็หลินหนีพี่มา แถมขับรถเร็วซะด้วย ดีนะที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ”“พี่คิง นี่พี่ขับรถตามผมมาถึงนี่เลยเหรอ”“ก็ใช่น่ะสิ คุยกันอยู่
เด็กหนุ่มโอเมก้าทำงานที่บริษัท FDK ได้เกือบสองสัปดาห์และยิ่งรักงานที่นี่ขึ้นทุกวันตอนนี้เขาไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวที่ออฟฟิศนี้อีกแล้ว เพราะมีทีมงานเขียนบทมาเสริมอีกสามคน ดูเหมือนในช่วงแรกบริษัทนี้จะเน้นการผลิตบทคุณภาพสำหรับโปรเจกต์นิยายวายเรื่องแรกมากกว่าสิ่งอื่นใดนโยบายของผู้บริหาร ซึ่งก็หมายถึงสามหนุ่มแด๊ดดี้นั่นเอง คิดว่าบทเป็นส่วนสำคัญที่สุดของซีรีส์ ส่วนขั้นตอนการผลิต การคัดเลือกตัวแสดง มองว่าให้คนอื่นผลิตก็ได้ ตราบใดที่ผู้ผลิตมีทุนมากพอ จะผลิตละครที่ภาพสวย ใช้นักแสดงดึงดูดหรือเหมาะสมกับบทอย่างไรก็ได้และตอนนี้หลินกับทีมงานเล็ก ๆ ของเขาต่างพยายามปั้นบทซีรีส์วายเรื่องหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ แต่ทีมของเขาเรียกว่า ‘โปรเจกต์เจ้าชาย’ นั่นเพราะเนื้อเรื่องจะเกี่ยวข้องกับความรักระหว่างเจ้าชายแห่งเมืองสมมุติเมืองหนึ่งกับลูกชายโทนของนายกไทย ฟังแล้วน่าจะเป็นซีรีส์วายที่ลักซัวรี่ไม่เบาแม้เรื่องงานจะสนุกและท้าทาย กระนั้นก็มีบางสิ่งที่เขาไม่สบายใจเย็นวันหนึ่งหลินเพิ่งขับรถของบริษัทกลับจากประชุมข้างนอก น้อง ๆ ในทีมขึ้นมาที
แม้จะทำถึงขนาดนั้นแล้วแต่นายท่านยังไม่สาแก่ใจ จู่ ๆ ดอมก็ผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ ให้หลินลงไปนั่งแทน แล้วอีกวินาทีต่อมา โอเมก้าก็สัมผัสถึงแรงกระแทกมาจากด้านข้างจนใบหน้าหันเพียะ ๆที่แท้อีกคนก็ตบหน้าของเขา โดยตั้งใจให้ฝ่ามือกระทบพอดีกับด้านข้าง ตามแนวโหนกแก้มที่ผิวหนังค่อนข้างหนาและแข็งจะได้ไม่เจ็บแล้วหลินก็ได้ยินเสียงขู่กระโชกน่ากลัวว่า “ฮ่า อีเด็กร่าน อย่างแกต้องโดนตบแบบนี้ล่ะถึงจะเหมาะ!”+++++นายท่านจับเด็กหนุ่มลงมาอยู่นั่งบนพื้น โชคดีที่พื้นออฟฟิศที่นี่ปูพรมขนสั้นเลยไม่เจ็บก้นเท่าใดนักในท่านั่งหลินถูกยกต้นขาขึ้น หัวเข่าของเขาแทบชิดหัวไหล่ เด็กหนุ่มรู้ดีว่ากำลังจะโดนทำอะไร“นายท่าน อ๊าก”ดอมหน้ามืดตามัวไปหมด เขาจับข้อเท้าเด็กหนุ่ม แยกถ่างขาออก ผ้าส่วนน้อยของกางเกงในเซ็กซี่ของเด็กหนุ่มแทบปิดบังส่วนนั้นไว้ไม่มิดตอนเห็นขาขาวเนียนเรียวเล็กแต่มีกล้ามเนื้อแบบผู้ชายถ่างออกแล้วความเป็นอัลฟ่าของดอมก็แผดเผาร่างกายตัวเองแทบไหม้‘ความขาวใสที่กูถวิลหาอยู่ตรงหน้าแล้ว&
“คลานเข่ามาหาฉัน!” หัวหน้าของเด็กหนุ่มที่กลายเป็นหนุ่มดอมตัวจริงที่ไม่ใช่ดอมแค่ชื่อ เขานั่งกอดอกไขว่ห้างอยู่บนโต๊ะทำงาน เสื้อผ้าของตัวเองยังอยู่ครบหลินพยักหน้าอยู่ในท่าคลานสี่เท้า แต่สิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างยิ่งคือ เด็กหนุ่มใส่เสื้อตาข่ายบาง ๆ สีดำที่มีสายรัดไขว้กันเป็นกากบาทเรียงตามแนวดิ่ง ที่ดอมเรียกมันว่า ‘คอร์เซ็ตตาข่าย’ เขาถูกปิดตา มีปลอกคอที่มีห่วงและสายโซ่เส้นเล็ก ๆ โยงออกมา เท่านั้นยังไม่พอเขายังถูกใส่กุญแจมืออีกแต่มีเครื่องแต่งกายเดิมเพียงชิ้นเดียวที่ยังคงไว้บนตัวเด็กหนุ่ม เพราะสิ่งนั้นถูกใจดอมแล้ว นั่นคือกางเกงในเปิดก้นที่เรียกว่าจ๊อกสแตรป ตอนหัวหน้าเห็นยังถึงกับเอ่ยชม‘เพิ่งรู้ว่าหลินชอบใส่แบบนี้’‘เอ้อ บังเอิญว่าผมเหลือกางเกงในสะอาด ๆ แค่ตัวนี้ตัวเดียวน่ะครับ’ หนุ่มโอเมก้าตอบอย่างจริงใจแล้วยิ้มอายดอมทำหน้าแบบไม่อยากเชื่อ ‘จริงดิ แล้วมีกางเกงในอย่างนี้อีกเยอะไหม ถ้ามีแค่ตัวเดียวเดี๋ยวพี่จะซื้อให้อีก จะได้ใส่มาบ่อย ๆ ใส่ทุกวันได้ยิ่งดี’กลับมาสู่เหตุการณ์ตรงหน้า หลิ