หัวหน้ากองบรรณาธิการกระวนกระวายใจเล็กน้อย แสร้งทำเป็นโอ้อวด “เพราะงั้น นายก็เชื่อฟังฉัน ถูกต้องแล้ว”ผู้จัดการไปเปิดราคากับเวินเหลียงแล้วช่างภาพถ่ายเชิงพาณิชย์คิดเงินตามจำนวนรูปภาพงานเชิงพาณิชย์สองชิ้นก่อนและหลังจากนี้ รวมกันแล้วยังมากกว่าเงินเดือนที่สลีลทั้งเดือนอีกทว่าตอนนี้เธอยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น เรียกราคาได้ต่ำมาก หากหลังจากนี้มีชื่อเสียง มีแต่จะทำเงินได้เพิ่มมากขึ้นทว่าหลังจากเสร็จสิ้นงานนี้ เวินเหลียงจะซื้อตั๋วเครื่องบินกลับประเทศนอกจากลู่เย่า เธอก็ไม่ได้บอกคนอื่นและไม่ให้ลู่เย่าบอกฟู่เจิง แม้ตอนนี้ฟู่เจิงจะอยู่ในห้องขัง ไม่แน่ว่าอาจจะรับข่าวสารได้เวินเหลียงเองก็ไม่ได้เอากระเป๋าสัมภาระใด ๆ ไป เอาไปเพียงแค่กระเป๋าใบเล็กลูกเดียว ใส่โทรศัพท์ สายชาร์จ บัตรประชาชน พาสปอร์ตและเอกสารต่าง ๆหลังลงเครื่อง เวินเหลียงก็เรียกแท็กซี่ และมุ่งหน้าไปยังสถานีตำรวจที่ฟู่เจิงถูกจับกุม จากนั้นล้วงเอกสารคำขอเข้าเยี่ยมที่ตนเตรียมเอาไว้ออกมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพาเธอไปรอในห้องเยี่ยมผู้ต้องขังผ่านไปไม่นาน ฟู่เจิงก็ปรากฏตัวหลังกระจกภายใต้การนำของตำรวจในวินาทีที่เห็นเวินเหลียง ฟู่เจิงก็ช
ขณะออกมาจากสถานีตำรวจ เวินเหลียงก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ก่อนหน้านี้ตอนที่ไม่รู้ เธอไม่ได้สังเกตเลยตอนนี้หลังจากรู้แผนของฟู่เจิงแล้ว เธอก็สังเกตแววตาและสีหน้าของฟู่เจิงโดยอัตโนมัติ และพบเส้นสนกลในได้อย่างง่ายดายสายตาหลอกกันไม่ได้เธอเห็นในส่วนลึกของแววตาฟู่เจิงเผยความเจ็บปวดออกมาอยู่เลือนราง ทว่าไม่พูดจาแย่ ๆ ใส่เธอทั้งใบหน้าเย็นชาไม่ได้ แถมยังคิดไปเองอีกว่าตัวเองเสแสร้งได้ดี ในใจเธออยากขำเป็นพิเศษฮึ!เธอยังจำได้ดี วันนั้นหลังจากที่เห็นฉู่ซืออี๋อยู่ในห้องทำงานของฟู่เจิง ตัวเธอเจ็บจี๊ดในใจมากแค่ไหนใครจะไปรู้ว่า ที่แท้ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเรื่องหลอกลวงทั้งเพอย่างนั้นเธอก็ไม่ต้องปวดใจไปฟรี ๆ หรอกเหรอ?เธอต้องคืนทั้งหมดไปให้ฟู่เจิง ให้ฟู่เจิงได้ลิ้มรสถึงความรู้สึกเช่นเดียวกันตอนนี้ในที่สุดก็ถึงตาฟู่เจิงแล้วใครใช้ให้เขาตัดสินใจเองล่ะ?!ใครใช้ให้เขาใช้วิธีพรรค์นี้มาเลือกแทนเธอล่ะ?!เขาคิดเองเออเองว่าแบบนี้จะดีต่อเธอ ทว่าอันที่จริงแล้วมันไม่ใช่สิ่งที่เธออยากทำเลยสักนิด!แต่จะว่าไปแล้ว เวินเหลียงจะแกล้งหยอกฟู่เจิงก็แกล้งหยอกไป ทว่าก็ยังต้องคิดหาวิธีช่วยเขาอยู่ดี จะปล่อยให้ฟู่เจ
“โอเค”เยี่ยนหวยวางสาย เมื่อหมุนตัวไปก็เห็นว่าอิเลียยืนอยู่เบื้องหลังเขาอย่างเงียบ ๆ ไม่ส่งเสียงใด ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไร“พี่ ใครโทรมาเหรอ?” อิเลียมองเขาด้วยความสงสัยทีหนึ่ง“เพื่อนทางธุรกิจน่ะ” เยี่ยนหวยลวดมือเอาโทรศัพท์ใส่เข้าไปในกระเป๋าเสื้อ ทำท่าไม่แยแส“ฉันไม่เชื่อ” อิเลียเม้มริมฝีปาก พร้อมเบิกตาโพลงจ้องเยี่ยนหวยเขม็ง “เมื่อกี้เหมือนฉันได้ยินเสียงผู้หญิง”ทั้ง ๆ ที่อยู่ในห้องรับแขกอยู่ดี ๆ จู่ ๆ เขาก็ออกมารับสาย ทำท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆคนที่โทรมาหาเขาต้องเป็นเฟย์แน่ ๆ!ไม่รู้ว่าขอให้เขาทำอะไร เขาถึงตอบรับเร็วขนาดนั้น“เธอฟังผิดแล้ว” สีหน้าของเยี่ยนหวยยังคงเดิม “เข้าไปในห้องเถอะ”“ฉันฟังไม่ผิด พี่หยุดนะ...หยุดนะ...” อิเลียตะโกนเรียกอยู่เบื้องหลังของเยี่ยนหวยเมื่อเห็นเยี่ยนหวยไม่แม้แต่จะหันหน้ามา อิเลียก็กระทืบเท้าอย่างเดือดดาลเวินเหลียงหาโรงแรมพักเยี่ยนหวยโทรหาเวินเหลียงในตอนเที่ยงวันของวันถัดมาเขาบอกว่า เขาติดต่อเลขาของคุณเซี่ยไปแล้ว วันนี้ตอนค่ำคุณเซี่ยจะไปทานอาหารกับผู้นำคนอื่น ๆ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งหลังกินข้าวเสร็จ คุณเซี่ยพอจะดึงเวลาออกมาเจอเธอได้ครึ่งชั่วโ
“ถ้าเรื่องราวมันพัฒนาไปตามปกติ ฉันไม่มีทางเป็นกังวลหรอกค่ะ พูดตามตรงนะคะ ฉันกลัวว่าจะมีคนเลวใส่ร้ายเขา ครั้งนี้มีคนจงใจรายงานเขา เขาถึงได้ถูกคุมตัวไปตรวจสอบ คุณเซี่ยคะ คุณมีศีลธรรมซื่อสัตย์และไม่เห็นแก่ตัว เป็นที่เคารพของผู้คนมากมาย ต้องรู้ว่า...”“เธอคิดเยอะไปแล้ว และคิดว่าฟู่เจิงอ่อนแอเกินไป”เซี่ยเจินตัดบทพูดคำประจบสอพลอของเธอ เขาเอ่ยขึ้นอย่างมีความหมายแฝงว่า “ทฤษฎีการเล่นเกม มักมีแพ้มีชนะ เกมยังไม่จบ สถานการณ์ยากลำบากประเดี๋ยวประด๋าวไม่ได้แปลว่าจะแพ้ ตอนนี้คนที่ได้ใจไม่จำเป็นว่าจะได้หัวเราะในตอนท้าย เอาละ ถ้าไม่มีเรื่องอื่นแล้วก็ออกไปเถอะ”เซี่ยเจินหลับตาลง ก่อนจะยกมือขึ้นไปบีบหว่างคิ้ว ทำท่าเหนื่อยล้าเป็นอย่างมากออกมาเวินเหลียงกัดริมฝีปาก ไม่กล้ารบกวนอีก “ขอบคุณการอธิบายของคุณเซี่ยมากนะคะ คุณพักผ่อนดี ๆ ก่อนเถอะค่ะ ฉันขอตัวนะคะ”หลังออกมาจากห้องรับรอง เวินเหลียงก็เดินตามอยู่เบื้องหลังเยี่ยนหวยสองสามก้าว เธอเป็นฝ่ายล้วงโทรศัพท์ออกมาก่อน จากนั้นก็หาภาพนั้นออกมาแล้วลบไปต่อหน้าเยี่ยนหวย “รูปนั้นน่ะ ลบแล้วนะ”เยี่ยนหวยจ้องเธอเขม็ง “คุณคงไม่ได้สำรองไว้ใช่ไหม?”เวินเหลียงยัดโทรศั
ทว่า เวินเหลียงก็ยังอยากจะตั้งใจทำงานให้เสร็จลุล่วง พร้อมกับโน้มนำให้นักแสดงให้ความร่วมมือกับเธอที่ตำบลเล็ก ๆ ผู้คนไปมาพลุกพล่านมีคนเห็นว่าเธอถ่ายรูปให้นักแสดง ไม่เดินเข้ามาหาเลยก็หยุดฝีเท้าหลังถ่ายเสร็จสองสามภาพ เวินเหลียงกำลังตั้งใจเลื่อนดูภาพอยู่ ทันใดนั้นรอบข้างก็มีเสียงความวุ่นวายดังขึ้นมา เมื่อหันหน้าไปมอง ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเป็นลมล้มพับไปกับพื้นคุณลุงที่อยู่ข้าง ๆ รีบประคองเธอเอาไว้ทันที จับจุดท่ามกลางผู้คนรอบข้างมีคนห้อมล้อมอยู่สองสามคนเมื่อผู้หญิงคนนั้นฟื้นขึ้นมา สีหน้าก็ซีดเผือด แล้วแสดงความขอบคุณกับคุณลุง “ขอโทษจริง ๆ นะคะ ทำให้คุณลำบากแล้ว”“คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ไปตรวจที่โรงพยาบาลดูหน่อยไหม?”“พวกคุณวางใจเถอะค่ะ ฉันไม่เป็นอะไร แค่น้ำตาลในเลือดตกนิดหน่อย เลยมึนหัวน่ะค่ะ”“คุณผู้หญิงคะ ฉันมีช็อกโกแลตอยู่สองชิ้น ถ้าไม่รังเกียจ คุณกินก่อนเถอะค่ะ” เวินเหลียงเดินเข้าไปพร้อมล้วงช็อกโกแลตออกมาจากในกระเป๋าเสื้อสองชิ้นช็อกโกแลตสองชิ้นนี้เธอลวดเอาใส่กระเป๋าเสื้อไว้ คิดว่าจะเอามาใช้เพิ่มกำลังเท่านั้นผู้หญิงคนนั้นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ระหว่างนั้นมีคนเอ่ยโน้มน้าวขึ้นมาว
“เวินเสี่ยวเหลียง เธอทำให้ฉันโมโหจะแย่แล้วจริง ๆ!”“ถัง เธอฟังฉันพูดก่อน...”“ให้ฉันฟังที่เธอพูดงั้นเหรอ?!” ถังซือซือขบกรามแน่น “ฉันจะดูซิว่าเธอจะพูดอะไรออกมา ถ้าเหตุผลของเธอทำให้ฉันยอมเชื่อไม่ได้ หลังจากนี้เธอก็ไม่ต้องมาพูดกับฉันแล้ว!!”“ตอนแรกฉันก็ไม่เชื่อจริง ๆ แต่ว่าหลังจากนั้นฉันลองคิดดูดี ๆ แล้ว มีความเป็นไปได้นี้จริง ๆ” เวินเหลียงเล่าถึงกระบวนการความคิดของตัวเองในตอนแรกและการมีอยู่ของลู่เย่าให้ถังซือซือฟัง“เอ่อเรื่องนี้...จริงเหรอ เธอไม่ได้โกหกฉันแน่นะ?”คงเป็นเพราะภาพจำที่ถังซือซือมีต่อฟู่เจิงแย่มาก ๆ ถังซือซือไม่ยอมเชื่อคำอธิบายของเวินเหลียงเลยสักนิด“จริงแท้แน่นอน ฉันจะโกหกเธอได้ยังไง?”“ไม่สนใจก่อนแล้วกัน ถึงยังไงเรื่องนี้เขาก็ทำไม่ถูก ถ้าเขาทำเพื่อเธอจริง ๆ ตอนนี้รอดพ้นจากอันตรายแล้ว เขาต้องมาหาเธอแน่นอน เธออย่าอภัยให้เขาง่าย ๆ นะ เข้าใจไหม?”“แน่นอนอยู่แล้ว”“เธออย่าดีแต่พูดล่ะ”“ไม่มีทางอยู่แล้ว!” เวินเหลียงยืนยันเสียงแข็ง “จริงสิ...”หลังจากนั้นเวินเหลียงก็เล่าเรื่องข้อแลกเปลี่ยนของเธอกับเยี่ยนหวยให้ถังซือซือฟังอีกแล้วเรื่องที่รับปากกับเยี่ยนหวยว่าจะไม่บอกถ
“ฉันจะให้พวกเขาแนะนำตัวก่อน จากนั้นเธอก็เลือกมาสักคนแล้วกัน!”“เดี๋ยวก่อน พวกเขาทำงานอยู่ที่นี่ไม่ใช่เหรอ? ฉันจ่ายเงินจ้างพวกเขาได้เหรอ?”ไม่รอให้เบลล่าพูด ผู้ชายคนหนึ่งก็กะพริบตาพร้อมฉีกยิ้มมาทางเวินเหลียง “ได้อยู่แล้วครับ คนสวยเชื้อสายเอเชีย ขอแค่คุณมีเงิน จะให้พวกเราทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น”เมื่อเวินเหลียงได้ยินดังนั้นก็มองเขาทีหนึ่ง รู้สึกว่าเขาค่อนข้างเป็นงาน “นายชื่ออะไร? อายุเท่าไร?”“เรียกผมริชาร์ดก็พอครับ ปีนี้ผมอายุยี่สิบหกปี ราศีพิจิก พี่คนสวย คุณจะจ้างพวกเราไปทำอะไรเหรอ?”“แกล้งเป็นแฟนฉัน รับมือกับอดีตสามี”“หา? พี่คนสวย ทั้งสาวทั้งสวยขนาดนี้ ไม่คิดเลยว่าจะมีอดีตสามีกะเขาด้วย ถ้าคุณไม่พูด ผมยังคิดว่าคุณเพิ่งอายุสิบแปดนะเนี่ย!”เวินเหลียงฉีกยิ้ม “ฉันคิดว่านายน่าสนใจมาก เลือกนายแล้วกัน”“ครับ พี่คนสวย คุณว่ามาสิต้องการให้ผมทำอะไร?”หลังคนอื่น ๆ ออกไป เวินเหลียงก็บอกความต้องการของตนไปในเมื่อเป็นแฟนที่ถูกเวินเหลียงเลือก อย่างนั้นอย่างแรกก็ต้องดูแลเอาอกเอาใจเธอ เข้าใจความชอบของเธออย่างต่อมาต้องมีงานเป็นหลักเป็นแหล่ง แบบนี้เวินเหลียงมองไปเขาคงคาดไม่ถึงอย่างแน่นอนอย่างห
เวินเหลียงเห็นฟู่เจิงในตอนเย็นของวันหนึ่งช่วงปลายเดือนกรกฎาคมสีฟ้าสลัวเวินเหลียงแบกกระเป๋ากล้องออกมาจากตึกใหญ่ หลังถ่ายภาพทั้งวันของตัวเองเสร็จมีคนคนหนึ่งยืนอยู่บนบันไดหน้าตึกใหญ่ รูปร่างสูงตระหง่าน ในมือถือดอกไม้ช่อหนึ่ง ราวกับกำลังรอใครบางคนอยู่เพียงแต่เวินเหลียงไม่ได้สังเกตดี ๆ เธอชำเลืองมองโทรศัพท์ไปพลางเดินมุ่งหน้าไป พร้อมทั้งคอยสังเกตทะเบียนรถของรถยนต์บนถนน รอการมาถึงของรถที่ตนเรียกจากแอปพลิเคชันกระทั่งฟู่เจิงหอบดอกไม้สดเดินเข้ามาหา และขวางทางเธอเอาไว้“อาเหลียง”เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย เวินเหลียงก็เงยหน้าขึ้นมามองฟู่เจิงที่อยู่ตรงหน้าทันที บนใบหน้าของเธอเผยความตกตะลึงออกมาอึ้งไปสองวินาที เธอก็เอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าแสนเย็นชา “มีธุระอะไรเหรอ”เมื่อเห็นท่าทีของเวินเหลียง ฟู่เจิงก็รู้ได้ในทันทีว่าการขอให้เวินเหลียงอภัยให้ตนในครั้งนี้ต้องทุ่มเทมากขึ้นหน่อยแล้วแต่ใครใช้ให้เขาตัดสินใจเองและไม่บอกเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเธอก่อนล่ะ?เขาฉีกยิ้มสดใสพร้อมส่งดอกไม้ในมือออกไป “ฉันมารับเธอกลับไปน่ะ”เวินเหลียงมองเขาด้วยความฉงนทีหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่รู้แต่ก็แสร้งถามไปว่า “ฟู่
อิเลียลุกขึ้นพรวด พลางมองเยี่ยนหวยอย่างเหลือเชื่อ“ถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นพี่ชายของเธออยู่ ก็เชื่อฟังฉัน แล้วกลับไปเมืองฟิลาเดลเฟียพรุ่งนี้ซะ!” เยี่ยนหวยนั่งตัวตรงพลางเงยหน้ามองเธออยู่บนโซฟา“ฉันไม่กลับ!” อิเลียเดือดดาลจนแค่นเสียงฮึออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะกลับไปนั่งตรงมุมโซฟา “อยากกลับพี่ก็กลับไปเองซะเลยสิ!”“ฟู่เจิงไม่ใช่คนดี ต่อให้ระหว่างพวกเธอมีลูกด้วยกัน เขาก็ไม่มีทางคบกับเธอ”ก่อนหน้านี้ฟู่เจิงเคยมีเรื่องอื้อฉาวว่ามีชู้ ตอนนี้ก็มีอดีตภรรยาที่มีความสัมพันธ์คลุมเครือมาอีกคน ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่รักลูกสาว ก็จะไม่มีวันเลือกเขาทั้งนั้น“พี่รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ใช่คนดี? พี่รู้ได้ไงว่าเขาจะไม่คบกับฉัน? วันนี้ตอนเที่ยงเรายังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย!”เมื่อเห็นอิเลียดื้อดึง ในใจของเยียนหวยก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ เขาแสยะยิ้มออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเธอไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันตามลำพัง แต่ฟู่ซือฝานอยู่ข้าง ๆ ใช่ไหม?”ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ฟู่เจิงจะมากินข้าวกับอิเลียตามลำพังได้ยังไง? นอกเสียจากเขาคิดจะเลิกกับเวินเหลียงจริง ๆ“...ใช่ ก็เขาเป็นลูกของพวกเรานี่” เมื่อเห็นว่าถูกเดาทางถูก อิเลียก็พูดอึ
แต่หลังจากเดินตามแผนแล้วถึงได้พบว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยถ้าพ่อแม่คุณลุงคุณป้ารู้ว่าเธอมีลูกนอกสมรสข้างนอก ต้องเข้ามาแทรก และไม่แน่ว่าจะพาตัวเธอกับลูกกลับไป“อิเลีย ผมเข้าใจนะครับคุณในฐานะแม่แท้ ๆ คุณอยากรีบกระชับความสัมพันธ์กับฝานฝาน แต่ก็อย่าตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะมักจะไปหาฝานฝานที่โรงเรียนอนุบาล แบบนี้จะส่งผลกระทบกับชีวิตของเธอได้นะครับ”“ฉันรู้แล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ไปหาเขาที่โรงเรียนอนุบาลอีก ฉันเห็นว่าคุณกินน้อยมาก อาหารที่เหลือไม่ถูกปากหรือเปล่า?”ฟู่เจิง “...ก่อนมาผมกินมาบ้างแล้ว”หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฟู่ซือฝานรบเร้าขอกลับกับฟู่เจิงเธอล้วงกลยุทธ์ร้องไห้งอแงชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นของเด็กห้าขวบออกมาอย่างล้ำลึก ไม่มีเหตุผล ทว่าอิเลียฝืนเธอไม่ได้อิเลียทำได้เพียงกลับไปที่บ้านของเซี่ยเจิน“อิเลีย เธอกลับมาแล้วเหรอ?”เมื่อเห็นอลิซนั่งอยู่บนโซฟา อิเลียเดินมานั่งลง “เป็นยังไงบ้าง? ครั้งนี้เธอไปเมืองซีกับซีซาร์ ได้แสร้งทำเป็นเจอโดยบังเอิญ แล้วไปกินข้าวกับเขาอะไรหรือเปล่า?”อลิซเบะปาก “เปล่า”“ทำไมล่ะ? โอกาสดีขนาดนั้นทำไมเธอไม่คว้าเอาไว้?”“เขางานยุ่งมาก ฉันกล
อิเลียจัดผมด้วยท่าทางราวกับไม่มีเจตนาอื่น หน้าตาเผยความตื่นเต้นออกมาดูท่าเธอจะเลือกวิธีถูกจริง ๆในตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใกล้ฟู่ซือฝานไม่เท่าไร ท่าทีของฟู่เจิงเขาก็ผ่อนคลายลงเยอะแล้วผ่านไปยี่สิบนาที ฟู่เจิงก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องรับรองนี่เป็นการเจอกันครั้งที่สองหลังจากวันนั้นเขานั่งลงข้าง ๆ ฟู่ซือฝาน พลางพยักหน้าให้อิเลียเบา ๆ “รบกวนแล้ว ไม่ถือสาที่ผมมาร่วมโต๊ะด้วยใช่ไหม?”“ไม่ถือสา นั่งเถอะค่ะ”สีหน้าของอิเลียเย็นชา ราวกับยังอยู่ต่อหน้าคุณหญิงและฟู่ชิงเยว่ครั้งก่อน เธอไม่ได้โกรธที่ฟู่เจิงปฏิเสธเธออย่างไร้ความปรานี“งานผมยุ่งมาก ยากที่จะใส่ใจคุณกับฝานฝานได้มากขนาดนั้น”“ฝานฝานเป็นลูกของฉัน นี่เป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมา ก็เลยสั่งอาหารไปสุ่ม ๆ เดี๋ยวอาหารมาเสิร์ฟคุณก็ดูแล้วกันว่าอยากจะสั่งเพิ่มไหม”“ผมไม่เลือกกิน” ฟู่เจิงตอบจากนั้นพนักงานก็เริ่มมาเสิร์ฟอาหารฟู่เจิงมองเนื้อแพะที่มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก้มหน้าไปมองฟู่ซือฝานฟู่ซือฝานก้มศีรษะน้อย ๆ อย่างกระวนกระวายอิเลียหยิบตะเกียบขึ้นมา “ไม่ต้องเกรงใจ กินเลยค่ะ”ฟู่เจิงลังเลอยู่ครู่หนึ่
เจียงเฉิงเที่ยงวันศุกร์ อิเลียไปรับฟู่ซือฝานออกไปกินข้าวเที่ยงที่คฤหาสน์ย่านซิงเหอวานเธอฉีกยิ้มพลางพูดกับฟู่ซือฝานว่า “เมื่อวานแม่ว่าจะไปรับหนูที่โรงเรียนอนุบาล จู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดของหนูเมื่อครั้งก่อนได้ ก็เลยมาวันนี้ วันนี้ตอนบ่ายแม่จะพาหนูไปเล่นดี ๆ เป็นยังไงจ๊ะ?”ฟู่ซือฝานเอียงคอพลางครุ่นคิด “ตอนบ่ายหนูต้องทำการบ้าน แค่กินข้าวเที่ยงก็พอแล้วค่ะ”“ก็ได้ งั้นหนูคิดไว้หรือเปล่าว่าอยากกินอะไร?”“ไปร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อแพะแนะนำแล้วกันค่ะ” ฟู่ซือฝานเอ่ยขึ้นด้วยทีท่าจริงจัง “วันนี้คุณลุงบอกว่าจะไปกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนหนู ไม่รู้ว่าจะมาไหม”นัยน์ตาอิเลียวาบความปลื้มปีติออกมา “จริงเหรอ?”“เขาเคยบอกไว้แบบนี้ค่ะ คุณน้าคะ ที่คุณน้ารับหนูออกมา ไม่ใช่เป็นเพราะอยากกระชับความสัมพันธ์กับหนูสองต่อสองเหรอคะ? ทำไมถึงหวังให้คุณลุงมาด้วยล่ะคะ?”เจ้าตัวน้อยเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง“น้า...น้ามีเรื่องอยากพูดคุยกับพ่อของหนูน่ะ แล้วก็หวังว่าเราจะได้กินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว” อิเลียรีบหาข้ออ้างทันทีเจ้าเด็กคนนี้ หูตาเฉียบแหลมจริง ๆ“อ้อ”“น้าจะหาร้านอาหารเนื้อแพะเดี๋ยวน
“เรียกฉันทำไม?” เยี่ยนหวยมองเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา“ตอนนี้มันฤดูร้อน”ผ่านฤดูใบไม้ผลิมาแล้ว“ฉันแค่นึกถึงวันนั้นที่ไปติวให้เธอแล้วเจอแม่เธอเข้าโดยบังเอิญ เธอคิดไปถึงไหน?” เยี่ยนหวยเลิกคิ้วถังซือซือชะงักไปมีครั้งหนึ่งตอนที่เธอติวอยู่ในบ้าน แล้วบังเอิญเจอแม่ของเธอเข้าจริง ๆ แต่นั่นมันเรื่องตอนเทอมที่สองเยี่ยนหวยต้องจงใจพูดถึงวันนั้นตอนเทอมแรกแน่ ๆ ให้เธอเข้าใจผิดถ้าเธอชี้ไปเลยว่าเยี่ยนหวยจำผิด ก็จะเข้าแผนของเยี่ยนหวย เหมือนว่าเธอยังไม่เคยลืมเรื่องในอดีต คิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นของเธอกับเยี่ยนหวยอยู่ตลอด“ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูร้อนเหรอ? นายคิดไปถึงไหนอีก?” เธอปัดตกเรื่องนี้ไปอย่างมั่นใจทันทีหลังพูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินไปด้านหน้าต่อ “ไม่พูดแล้ว รีบไปร้านถัดไปเถอะ”อยู่ข้างนอกจนถึงสี่ทุ่ม ทั้งสองคนถึงกลับไปยังโรงแรมด้วยกันถังซือซืออยากเรียกรถกลับไปเอง ไม่อยากให้เยี่ยนหวยไปส่งเธอเยี่ยนหวยจึงเอ่ยไปตามตรงว่า “ฉันพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกันกับเธอ”ถังซือซือ “...”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้วคราวก่อนตอนที่เวินเหลียงถ่ายรูปเยี่ยนหวยรูปแรกที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เวินเหลียงก็ถามว่าช่วงนี้เยี่ยนหวย
เมืองซีในฐานะเมืองใหญ่ของเจียงหนาน ประเภทของกินเล่นมีมากมาย ของกินเอกลักษณ์ที่ขึ้นชื่อไปทั่วประเทศอาทิ เต้าหู้เหม็น ไส้กรอกยักษ์ เส้นหมีเฝิ่น กุ้งเผ็ดเป็นต้นถังซือซือเคยมาเมืองซีตอนมาทำงานต่างถิ่นก่อนหน้านี้ เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด จึงทำได้เพียงเดินช็อปปิงที่อื่น แต่เพิ่งเคยมาถนนคนเดินที่นี่เป็นครั้งแรกเธอซื้อไส้กรอกยักษ์สองชิ้นก่อน และแบ่งให้เยี่ยนหวยหนึ่งชิ้นกินไปได้เพียงครึ่งเดียว ถังซือซือก็หยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายขนมฉือปา เธอกลืนน้ำลายแล้วถามขึ้นว่า “รู้ไหมคะว่าตรงไหนมีถังขยะบ้าง?”“ที่เหลือเธอไม่กินแล้วเหรอ?”“อืม”“ไม่อร่อย?”“ไม่ใช่ อร่อยมาก แต่ว่ายังมีของอร่อยอื่น ๆ อีกเยอะแยะ ฉันอยากเก็บท้องเอาไว้”เยี่ยนหวย “...”“เอามาให้ฉันก็ได้” เยี่ยนหวยรับไส้กรอกครึ่งชิ้นที่เหลืออยู่มาจากในมือของเธอ ก่อนจะเติมเข้าไปในท้องอย่างไม่มีภาระใด ๆถังซือซือซื้อขนมฉือปาแล้วเธอทำตัวอย่างกับโจร แต่ละร้านไม่ยอมปล่อยไปเลย ทว่าก็ชิมเพียงสองสามคำ ทั้งหมดที่เหลือก็โยนให้เยี่ยนหวยอย่างสบายใจเยี่ยนหวยเพลิดเพลินกับพฤติกรรมพรรค์นี้ ในใจเข้าใจได้ในทันที ราวกับกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหลังเรียนอย
“มันเรื่องอะไรกันแน่?”ก่อนหน้านี้ที่เยี่ยนหวยอยู่ที่เจียงเฉิง กลับไม่ได้สังเกตเท่าไรว่าอิเลียกำลังทำอะไรอยู่ เธอออกไปข้างนอกทุกวัน เยี่ยนหวยคิดเพียงแค่ว่าเธอกำลังไปเที่ยวเล่นถังซือซือไม่ใช่คนที่จะกุเรื่องมั่วซั่ว เธอพูดแบบนี้ ต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆ“พูดไปแล้วก็ยาว ตอนแรกฟู่ชิงเยว่อาของฟู่เจิงรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่ที่เมืองนอก ตอนนี้อายุห้าขวบแล้ว ปีที่แล้วอาเหลียงแท้ง แล้วฟู่ชิงเยว่ติดธุระพอดี เลยส่งเด็กคนนั้นกลับประเทศมาให้ฟู่เจิงดูแลช่วงหนึ่ง ฟู่เจิงเลยให้เด็กคนนั้นอยู่ในประเทศไปเลยเพื่อง้ออาเหลียง ปกติจะมาอยู่เป็นเพื่อนอาเหลียง และเด็กคนนั้นเองก็เข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของฟู่เจิง แต่ว่า...”เยี่ยนหวยเดาเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปออกแล้ว จึงรับช่วงเอ่ยขึ้นต่อว่า “แต่ว่าจู่ ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของฟู่เจิงกับอิเลีย?”“ใช่ รายละเอียดฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน เหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับอาของฟู่เจิงนิดหน่อย เธอรู้ตัวตนของเด็กผู้หญิงคนนั้นมาตั้งแต่แรก และไม่ชอบอาเหลียงมาโดยตลอด ยังไงตอนนี้อาเหลียงก็อยู่กับฉัน เขากับฟู่เจิงทะเลาะกันอีกแล้ว”เยี่ยนหวยเอ่ยควา
“เยี่ยนหวย!!”ประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสองคนเข้าไปกันตามลำดับ แล้วลงไปยังลานจอดรถใต้ดินตรงมุมเลี้ยว ในหัวของผู้หญิงสวมหน้ากากอนามัยวาบภาพที่เห็นเมื่อครู่ขึ้นมา หมัดที่ห้อยอยู่กำขึ้นแน่น เธอก้มหน้าทั้งดวงตาที่ประกายความอำมหิตออกมาหากเวินเหลียงอยู่ตรงนี้ คงจะจำได้แน่ ๆ ว่าผู้หญิงที่สวมหน้ากากอนามัยคนนี้ก็คืออลิซที่เธอมาเจียงเฉิง ก็เพราะเยี่ยนหวย เยี่ยนหวยมาเมืองซีเมื่อสองวันก่อน เธอเองก็ตามมาเช่นกันอิเลียถามเลขาของเยี่ยนหวย เมื่อรู้โรงแรมของเขาก็บอกกับอลิซทีแรกอลิซคิดว่าเยี่ยนหวยมาทำธุระที่เมืองซี จากนั้นก็ค่อย ๆ พบว่ามันไม่ชอบมาพากลเยี่ยนหวยไม่ยุ่งเลยสักนิดแถมยังมีเวลาไปสอบถามร้านอาหารท้องถิ่น ถนนคนเดิน จุดชมวิวของเมืองซีเป็นต้น อีกต่างหาก ไม่เหมือนมาทำงานต่างถิ่น แต่เหมือนมาเที่ยวเสียมากกว่าจนกระทั่งวันนี้ เมื่อได้เห็นภาพนั้น อลิซถึงเข้าใจทุกอย่างที่แท้คนที่ซีซาร์ชอบไม่ใช่เฟย์ แต่เป็นถังซือซือเพื่อนของเฟย์!ที่แท้เขาไม่ได้มาทำงานต่างถิ่นที่เมืองซี แต่มาเพื่อตามจีบถังซือซือ!ที่เขาสอบถามร้านอาหารและจุดชมวิวของเมืองซี ก็เพื่อพาถังซือซือไปวันนี้!ในใจอลิซอิจฉาเป็นอย่างม
เมื่อเยี่ยนหวยได้ยินดังนั้น ก็รู้ในทันทีว่าเวินเหลียงไม่ได้รักษาคำมั่นสัญญาแต่เขาก็เตรียมตัวไว้นานแล้ว วันนั้นหลังจากกลับไปก็ให้คนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด แล้วตัดคลิปมาใส่ไว้ในโทรศัพท์เมื่อได้ยินถังซือซือถามขึ้น เขาก็รีบส่งให้เธอทันที “ก็แค่คนที่ไม่สลักสำคัญอะไรคนหนึ่ง ฉันปฏิเสธเขาไปแล้ว”ถังซือซือดูคลิปรอบหนึ่ง ก่อนจะเบะปาก “อยู่ต่างประเทศคุณเยี่ยนมีสาวมาชอบเพียบเลยนะคะ”“แต่ฉันสนใจอยากจะครอบครองแค่เธอ”“จะยอมให้ฉันครอบครองไหม คุณถัง?”เยี่ยนหวยนั่งเอี้ยวตัว แขนข้างหนึ่งพาดอยู่บนพนักพิงเก้าอี้ เขาโน้มตัวเข้ามา ตัวท่อนบนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กลิ่นหอมฉุยจาง ๆ และกลิ่นอายของชายหนุ่มที่มาพร้อมกับการบุกรุกโอบล้อมเธอเอาไว้เขาดันแว่นตากรอบทอง สีหน้าอบอุ่น ฉีกยิ้มทว่าก็ราวกับไม่ยิ้ม มุมปากกระตุกรอยยิ้มเล็กน้อย ค่อนข้างมีความรู้สึกประเภทหน้าเนื้อใจเสือถังซือซือเหม่อไปครู่หนึ่ง“คุณถัง?”ใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ไออุ่นร้อนปะทะเข้ามาที่หน้า ในที่สุดถังซือซือก็ได้สติกลับมา เธอเอนหลังพลางตบหน้าอก “นายทำฉันตกใจหมด...ไป ไปเดินหาของกินเล่นกันเถอะ”เธอลุกขึ้นและเดินออกไปอย่าง