เหล่าเพื่อนชาวเน็ตคาดเดากันเอาไว้อยู่แล้วว่าฟู่เจิงมีชู้ เฟซบุ๊กบัญชีนี้ราวกับเป็นคนที่กลับตัวเป็นคนดีแล้ว ช่องคอมเมนต์มีคนเห็นใจฝ่ายหญิง มีคนสนับสนุนฝ่ายหญิง มีคนด่าสาดเสียเทเสียว่าไอ้ผู้ชายสารเลว และมีคนโจมตีชู้ด้วยเพียงแต่สิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเธออีกแล้วในวินาทีที่โพสต์ไปบนเฟซบุ๊กนั้น ในใจของเธอรู้สึกสบายใจอย่างนั้น ถึงขั้นถอนหายใจด้วยความโล่งอกแรง ๆ เฮือกหนึ่ง ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะทำให้ฟู่เจิงไม่ชอบอีกต่อไป ไม่ต้องกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อฟู่เจิงอีกต่อไปเธอปิดโทรศัพท์แล้วหลับตาลง ไม่นานก็เข้าสู่ห้วงความฝัน...ทว่าเธอไม่รู้เลยว่าฟู่เจิงที่อยู่ห่างกับเธอแค่เพียงกำแพงกั้น กำลังนอนอยู่บนเตียงและนอนไม่หลับสุดท้ายเขาก็ล้วงเสื้อผ้าของเวินเหลียงตัวหนึ่งออกมาจากกล่อง กอดเอาไว้ในอ้อมอกหลังออกจากโรงพยาบาลสองสามวัน เขาก็ย้ายกลับไปห้องนอนหลัก นอนอยู่บนเตียงใหญ่ที่เธอเคยนอนหลังนั้น มีเพียงการดมกลิ่นกายที่หลงเหลืออยู่ของเธอเท่านั้น เขาถึงหลับฝันได้อย่างง่ายดายทว่าผ่านไปไม่นานเขาก็ถูกเสียงริงโทนโทรศัพท์ทำให้สะดุ้งตื่นเลขาหยางเตือนให้เขาดูการค้นหาร้อนแรงบนเฟซบุ๊กฟู่เจิงเปิด
ถังซือซือไม่รู้ว่าฟู่เจิงอยู่ข้าง ๆ จงใจสั่งเหล้าสองสามขวด เหล้าขาว“พูดตามตรงนะ สองสามวันก่อนถึงตัวอาเหลียงจะอยู่กับเรา แต่ก็เอาแต่กลุ้มใจไม่มีความสุขอยู่ตลอด ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แต่ตอนนี้ในที่สุดก็ปล่อยวางได้แล้ว มา วันนี้พวกเรามาดื่มให้เต็มที่กันสักหน่อย ฉลองที่อาเหลียงหย่าได้สำเร็จ กลายเป็นคนโสดแล้ว!” “มา ๆ ๆ ไม่เมาไม่เลิก!”เวินเหลียงยิ้มพลางรินเหล้าให้ตัวเองแก้วหนึ่ง “งั้นฉันจะสละชีพเพื่อดื่มเป็นเพื่อนพวกเธอ!”ทั้งสามคนพูดคุยกันไปด้วย พลางดื่มแก้วแล้วแก้วเล่าถังซือซือดื่มไปจนกรึ่ม ๆ แล้ว ในปากเริ่มพูดอะไรแบบไม่ยั้งคิด “…อาเหลียงเอ่อ…ฉันรู้ตั้งนานแล้วว่าฟู่เจิงไม่ใช่คนเด่อะไร…ไม่นึกเลยว่าเธอจะทนเขามาได้นานขนาดนี้? ถ้าเป็นฉันนะ ถีบหัวส่งเขาไปตั้งนานแล้ว ตัวเองเอาเงินค่าหย่าไปเลี้ยงนายแบบสักสองคนไม่ดีกว่าเหรอ?”“มา ๆ ๆ ฉันจะให้พวกเธอดูน้อง ๆ สุดที่รักของฉัน ชู่ว์…อย่าไปพูดที่อื่นนะ ฉันไม่…ไม่เคยให้คนอื่นดูมาก่อน…”ถังซือซือเปิดอัลบั้มภาพเข้ารหัสในโทรศัพท์ทั้งเมาแอ๋ “ดูสิ ผู้ชายแต่ละคนเป็นไอดอลเน็ตใจดีทั้งนั้น ไม่ง่ายเลยกว่าฉันจะรวบรวมมาได้ เธอดูรูปนี้สิ กล้ามเนื้อหน้าอกของเ
ภายในห้องเข้าสู่ความเงียบสงัด ทั้งห้องมืดสลัวไปหมด ไร้ซึ่งเสียงใด ๆในฉับพลันเสียงเปิดประตู ‘เอี๊ยด’ ดังขึ้นทำลายความเงียบสงัดภายในห้อง ประตูห้องถูกเปิดและปิดลง ฟู่เจิงมายังข้างเตียงของเวินเหลียง ก่อนจะนั่งลงเบา ๆเขาอาศัยแสงจันทร์ มองใบหน้าที่หลับใหลของเวินเหลียงด้วยความโลภในวินาทีนี้เอง ในที่สุดเขาก็มองเธอได้อย่างกำเริบเสิบสานและเปิดเผยโจ่งแจ้งได้แล้ว เขามองหน้าเธอตรง ๆเขาคิดถึงเธอมากจริงๆฟู่เจิงค่อย ๆ ยื่นมือออกไปลูบแก้มของเธออย่างเบามือ ก่อนจะโน้มตัวลงไปจูบบนหน้าผากของเธอ ดมกลิ่นกายของเธออย่างกำเริบเสิบสาน…ทันใดนั้น กลับได้กลิ่นเหล้าตีขึ้นจมูกเต็มไปหมดยัยขี้เหล้าคนนี้!ฟู่เจิงบีบจมูกของเวินเหลียงโชคดีที่เธอไม่ได้ตอบตกลงจะไปบาร์ ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่กล้าเชื่อว่าตัวเองจะทำอะไรออกมา!ภายในห้องเปิดฮิตเตอร์เอาไว้ บนตัวของเวินเหลียงยังสวมเสื้อนวมปุยฝ้ายหนา ๆ เอาไว้ เธอเริ่มร้อนจนเหงื่อออก รู้สึกไม่สบายตัวจนแค่นเสียงฮึออกมาเสียงหนึ่ง แล้วดึงเสื้อผ้าออกอย่างไม่รู้สึกตัวฟู่เจิงรูดซิปออก แล้วเอาตัวเธอออกมาจากเสื้อขนสัตว์ จากนั้นก็ช่วยเธอถอดสเวตเตอร์ที่อยู่ข้างในและเลกกิงเพิ่
หนิงหนิง แค่ได้ยินก็รู้ในทันทีว่าเป็นชื่อของผู้หญิงฟู่เจิงมั่นใจเป็นอย่างมากว่าเวินเหลียงไม่มีเพื่อนที่ชื่อหนิงหนิงเมื่อนึกเชื่อมโยงไปถึงฉากเมื่อครู่ ฟู่เจิงก็สงสัย หนิงหนิงก็คือลูกที่เวินเหลียงคลอดออกมาเวินเหลียงหลับเป็นตาย เธอเบะปาก แต่ไม่ได้ตอบอะไรฟู่เจิงไม่สบอารมณ์ ก้มตัวไปข้างหูเวินเหลียง แล้วถามขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “อาเหลียง หนิงหนิงคือใครเหรอ?”“…หนิงหนิงคือใคร…” เวินเหลียงพึมพำด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา“ใช่ หนิงหนิงเป็นใคร?”“หนิงหนิงคือ…”เวินเหลียงพูดไปได้ครึ่งหนึ่ง จู่ ๆ ก็เอามือไปกุมศีรษะ พร้อมทั้งขดตัวขึ้นมา บนหน้าเผยสีหน้าของความเจ็บปวดออกมา และร้องโอดครวญอย่างยากจะอดกลั้นเอาไว้ “ปวดหัวชะมัด! ปวดไม่ไหวแล้ว!”เมื่อฟู่เจิงเห็นดังนั้น ก็รีบยื่นมือไปช่วยเวินเหลียงถูขมับ พร้อมทั้งเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “นึกไม่ออกก็ไม่ต้องนึกแล้ว นอนหลับให้เต็มที่เถอะ”ผ่านไปนานสองนาน เวินเหลียงถึงได้สงบลงมา และหลับเป็นตายไม่รู้เรื่องฟู่เจิงมองใบหน้าที่หลับสนิทของเวินเหลียง นัยน์ตาลึกซึ้งเป็นอย่างมากเขาช่วยจัดการใส่เสื้อผ้าให้เวินเหลียง จากนั้นก็ห่มผ้าห่มให้ เขานั่งอยู
ตอนที่ตอบสนองกลับมา ก็เป็นเวลาบ่ายสองกว่าแล้วพวกนางเอกกลับไปกินข้าวเที่ยงที่โรงแรมเมื่อมาถึงยังร้านอาหารของโรงแรม ขณะเวินเหลียงไปรับอาหาร ทันใดนั้นก็เห็นเงาร่างคุ้นตาเงาร่างหนึ่งเธอมองประเมินอย่างละเอียด ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างตกตะลึงว่า “ลู่เย่า?”เมื่อได้ยินเสียง ลู่เย่าก็หันหน้าไป พร้อมทั้งเลิกคิ้วแล้วยิ้ม “บังเอิญจังเลยนะครับ”ถึงจะพูดแบบนี้ ทว่าบนใบหน้าเขากลับไร้ซึ่งความรู้สึกประหลาดใจใด ๆ“บังเอิญมากจริง ๆ ไม่นึกเลยว่าจะมาเจอพวกคุณที่นี่”“ที่นี่ค่อนข้างมีชื่อเสียงทีเดียว เพื่อนผมอยากมาดูหน่อยน่ะ”เวินเหลียงมองไปที่เบื้องหลังของลู่เย่า แต่ไม่เห็นเพื่อนคนหล่อรูปร่างดีที่ร่ำลือกันคนนั้นเลยลู่เย่ามองเจตนาของเธอออก จึงอธิบายพร้อมครุ่นคิดว่า “เขาอยากผ่อนคลายอารมณ์ ก็เลยออกไปเดินเล่นแล้ว”“อ๋อ แล้วพวกคุณแพลนว่าจะไปเมื่อไรเหรอ?”“ยังไม่แน่ใจเลย ต้องดูเพื่อนผมน่ะ”“แล้วหลังออกไปจากที่นี่ พวกคุณจะกลับประเทศเลย หรือว่ามีแพลนเที่ยวอื่นอีก?”“ต้องดูเพื่อนผมน่ะ” ลู่เย่ายังพูดประโยคเดิม“หลังจากนี้พวกเราจะไปเกาะลิงกาส พวกคุณจะไปด้วยไหม?”ลู่เย่านึกไม่ถึงว่าเวินเหลียงจะเชิญพวกเขา
หลังลงมาจากเนินหิมะ เวินหลียงก็ได้รับไลน์ของลู่เย่าเป็นอย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆ เพื่อนเขาปฏิเสธเวินเหลียงตอบกลับ “น่าเสียดายจัง ต่อไปถ้ามีโอกาสไว้ไปด้วยกันนะ”ลู่เย่าตอบกลับด้วยมีมภาพหนึ่งเห็นคำว่า ‘ถ้ามีโอกาสไว้ไปด้วยกันนะ’ เก้าพยางค์ สีหน้าของฟู่เจิงก็เคร่งขรึมลงพวกเวินเหลียงเธอไปกินข้าวที่ร้านอาหาร ในร้านอาหารมีหน้าต่างยาวขอบจรดพื้นบานใหญ่บานหนึ่ง สามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้ทั้งหมดเนื่องจากไม่มีเวลาให้ครุ่นคิด เวลากินข้าวของเหล่านักท่องเที่ยวเองก็ไม่แน่นอน ตอนนี้ภายในร้านอาหารคนไม่เยอะกินไปได้พักหนึ่ง จู่ ๆ ก็มีคนตะโกนขึ้นมาด้วยความตกตะลึง “ดูสิ! นั่นแสงเหนือใช่ไหม?”ในท้องฟ้าสีน้ำเงิน ปรากฏแสงสีเขียวจาง ๆ เส้นหนึ่ง หากไม่สังเกตดูดี ๆ เดิมทีนั้นมองไม่ออกเลยก็ยังคงดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากเช่นเคยผ่านไปไม่นาน จู่ ๆ ก็มีแสงเหนือเส้นใหญ่เกิดขึ้นมาสายหนึ่ง สีเขียวเป็นสายใหญ่ปรากฏขึ้นเคียงคู่กับแสงเหนือที่มีสีขาวสีม่วงและสีแดงนิดหน่อยบนท้องฟ้ากว้างใหญ่ไพศาลนักท่องเที่ยวที่พักผ่อนอยู่ภายในห้องของโรงแรมบางส่วนรีบวิ่งออกไปนอกห้องอย่างรวดเร็วพวกเวินเหลียงท
ชายหนุ่มประหลาดใจเล็กน้อย ทว่าเขาเดาออกได้ในทันทีว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ไม่นึกเลยว่าเวินเหลียงจะระแวดระวังตัวขนาดนั้น!เขายิ้มพลางรับถาดมาและพูดขอบคุณพนักงาน ก่อนจะปิดประตูห้องไปเวินเหลียงหดหัวกลับมา ยืนชิดผนังเธอรู้จักชายหนุ่มคนนั้น คือลู่เย่า!เธอก็รู้สึกอยู่แล้วว่าลู่เย่าดูแปลก ๆ!เป็นอย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆ ด้วย!คนที่จ้องเธอในคืนนั้นก็คงเป็นเขาเหมือนกัน!เขาคงไม่ได้รู้จักเธอจากในข่าวธรรมดา ๆ แค่นั้นแน่ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเวินเหลียงก็มีข้อความไลน์เข้ามาข้อความหนึ่งลู่เย่าเป็นฝ่ายส่งข้อความมาหาเธอก่อน “ผมปวดท้อง?”เห็นเขาถามออกมาอย่างเปิดเผย ในใจของเวินเหลียงก็เต้นผิดจังหวะไปเลย เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับ “เห็นคุณเอาแต่อยู่ในห้องไม่ยอมออกมา เลยเป็นห่วงกลัวว่าคุณจะไม่สบาย ทำไมคุณถึงรู้ว่าเป็นฉันล่ะ?”“เพราะเมื่อกี้ผมเห็นคุณ แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าผมอยู่ห้องนี้?”เวินเหลียงไม่นึกว่าลู่เย่าจะยอมรับตรง ๆ “เมื่อเช้าเห็นคุณเข้าไปน่ะ”เมื่อเห็นข้อความนี้ ลู่เย่าก็ยิ้มก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองฟู่เจิงทีหนึ่ง ทว่าไม่ได้ปฏิเสธ “งั้นผมก็ต้องขอบคุณคุณมาก ๆ นะครับที่เป็นห่วงผม
ฟู่เจิงแข็งทื่อไปทั้งตัว นิ้วมือชะงัก อึ้งไปอยู่นานสองนานถึงได้ตอบกลับไปสองพยางค์ว่า “ไม่ใช่”ฟู่เจิงจ้องหน้าจอโทรศัพท์ ผ่านไปนานแล้วก็ไม่เห็นเวินเหลียงตอบกลับมา ในใจตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ ทันใดนั้นก็เกิดความรู้สึกนั่งไม่ติดขึ้นมาเล็กน้อยเขากลัวว่าเวินเหลียงจะมองเขาออก แต่อีกใจก็กลัวว่าเวินเหลียงจะมองเขาไม่ออกเวินเหลียงมองหน้าจอทั้งอึ้งทึ่งไป เธอยิ่งรู้สึกแปลกเพิ่มมากขึ้น‘ไม่ใช่’ สองคำนี้ ยิ่งไปเพิ่มความสงสัยของเธอหนักเข้าไปอีกหรือว่าจะเป็นเพื่อนของลู่เย่าจริง ๆ?ทำไมเพื่อนลู่เย่าตอบข้อความแทนลู่เย่าล่ะ?เพื่อนของลู่เย่าที่ไม่เคยเผยโฉมหน้า...ในหัวของเวินเหลียงวาบเงาร่างคนหนึ่งขึ้นมาเธอเยาะเย้ยตัวเองเสียงหนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้า ทำไมคิดถึงเขาอีกแล้วนะ?“อาเหลียง เธอเหนื่อยแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมยังไม่กลับไปพักผ่อนอีก?” ถังซือซือและจูฝานขึ้นมาชั้นบน ก็เห็นเวินเหลียงยืนถือโทรศัพท์อยู่ปากบันได“อ๋อ ฉันไม่ชอบที่ในห้องมันอุดอู้เกินไปน่ะ ก็เลยออกมาสูดอากาศ”ถ้าในห้องอุดอู้ ก็เปิดหน้าต่างได้ไม่ใช่เหรอ? แถมยังมองเห็นแสงเหนือได้อีกด้วยถังซือซือมองเวินเหลียงด้วยความสงสัยทีหนึ่ง ก่อนจะ
อิเลียลุกขึ้นพรวด พลางมองเยี่ยนหวยอย่างเหลือเชื่อ“ถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นพี่ชายของเธออยู่ ก็เชื่อฟังฉัน แล้วกลับไปเมืองฟิลาเดลเฟียพรุ่งนี้ซะ!” เยี่ยนหวยนั่งตัวตรงพลางเงยหน้ามองเธออยู่บนโซฟา“ฉันไม่กลับ!” อิเลียเดือดดาลจนแค่นเสียงฮึออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะกลับไปนั่งตรงมุมโซฟา “อยากกลับพี่ก็กลับไปเองซะเลยสิ!”“ฟู่เจิงไม่ใช่คนดี ต่อให้ระหว่างพวกเธอมีลูกด้วยกัน เขาก็ไม่มีทางคบกับเธอ”ก่อนหน้านี้ฟู่เจิงเคยมีเรื่องอื้อฉาวว่ามีชู้ ตอนนี้ก็มีอดีตภรรยาที่มีความสัมพันธ์คลุมเครือมาอีกคน ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่รักลูกสาว ก็จะไม่มีวันเลือกเขาทั้งนั้น“พี่รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ใช่คนดี? พี่รู้ได้ไงว่าเขาจะไม่คบกับฉัน? วันนี้ตอนเที่ยงเรายังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย!”เมื่อเห็นอิเลียดื้อดึง ในใจของเยียนหวยก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ เขาแสยะยิ้มออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเธอไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันตามลำพัง แต่ฟู่ซือฝานอยู่ข้าง ๆ ใช่ไหม?”ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ฟู่เจิงจะมากินข้าวกับอิเลียตามลำพังได้ยังไง? นอกเสียจากเขาคิดจะเลิกกับเวินเหลียงจริง ๆ“...ใช่ ก็เขาเป็นลูกของพวกเรานี่” เมื่อเห็นว่าถูกเดาทางถูก อิเลียก็พูดอึ
แต่หลังจากเดินตามแผนแล้วถึงได้พบว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยถ้าพ่อแม่คุณลุงคุณป้ารู้ว่าเธอมีลูกนอกสมรสข้างนอก ต้องเข้ามาแทรก และไม่แน่ว่าจะพาตัวเธอกับลูกกลับไป“อิเลีย ผมเข้าใจนะครับคุณในฐานะแม่แท้ ๆ คุณอยากรีบกระชับความสัมพันธ์กับฝานฝาน แต่ก็อย่าตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะมักจะไปหาฝานฝานที่โรงเรียนอนุบาล แบบนี้จะส่งผลกระทบกับชีวิตของเธอได้นะครับ”“ฉันรู้แล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ไปหาเขาที่โรงเรียนอนุบาลอีก ฉันเห็นว่าคุณกินน้อยมาก อาหารที่เหลือไม่ถูกปากหรือเปล่า?”ฟู่เจิง “...ก่อนมาผมกินมาบ้างแล้ว”หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฟู่ซือฝานรบเร้าขอกลับกับฟู่เจิงเธอล้วงกลยุทธ์ร้องไห้งอแงชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นของเด็กห้าขวบออกมาอย่างล้ำลึก ไม่มีเหตุผล ทว่าอิเลียฝืนเธอไม่ได้อิเลียทำได้เพียงกลับไปที่บ้านของเซี่ยเจิน“อิเลีย เธอกลับมาแล้วเหรอ?”เมื่อเห็นอลิซนั่งอยู่บนโซฟา อิเลียเดินมานั่งลง “เป็นยังไงบ้าง? ครั้งนี้เธอไปเมืองซีกับซีซาร์ ได้แสร้งทำเป็นเจอโดยบังเอิญ แล้วไปกินข้าวกับเขาอะไรหรือเปล่า?”อลิซเบะปาก “เปล่า”“ทำไมล่ะ? โอกาสดีขนาดนั้นทำไมเธอไม่คว้าเอาไว้?”“เขางานยุ่งมาก ฉันกล
อิเลียจัดผมด้วยท่าทางราวกับไม่มีเจตนาอื่น หน้าตาเผยความตื่นเต้นออกมาดูท่าเธอจะเลือกวิธีถูกจริง ๆในตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใกล้ฟู่ซือฝานไม่เท่าไร ท่าทีของฟู่เจิงเขาก็ผ่อนคลายลงเยอะแล้วผ่านไปยี่สิบนาที ฟู่เจิงก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องรับรองนี่เป็นการเจอกันครั้งที่สองหลังจากวันนั้นเขานั่งลงข้าง ๆ ฟู่ซือฝาน พลางพยักหน้าให้อิเลียเบา ๆ “รบกวนแล้ว ไม่ถือสาที่ผมมาร่วมโต๊ะด้วยใช่ไหม?”“ไม่ถือสา นั่งเถอะค่ะ”สีหน้าของอิเลียเย็นชา ราวกับยังอยู่ต่อหน้าคุณหญิงและฟู่ชิงเยว่ครั้งก่อน เธอไม่ได้โกรธที่ฟู่เจิงปฏิเสธเธออย่างไร้ความปรานี“งานผมยุ่งมาก ยากที่จะใส่ใจคุณกับฝานฝานได้มากขนาดนั้น”“ฝานฝานเป็นลูกของฉัน นี่เป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมา ก็เลยสั่งอาหารไปสุ่ม ๆ เดี๋ยวอาหารมาเสิร์ฟคุณก็ดูแล้วกันว่าอยากจะสั่งเพิ่มไหม”“ผมไม่เลือกกิน” ฟู่เจิงตอบจากนั้นพนักงานก็เริ่มมาเสิร์ฟอาหารฟู่เจิงมองเนื้อแพะที่มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก้มหน้าไปมองฟู่ซือฝานฟู่ซือฝานก้มศีรษะน้อย ๆ อย่างกระวนกระวายอิเลียหยิบตะเกียบขึ้นมา “ไม่ต้องเกรงใจ กินเลยค่ะ”ฟู่เจิงลังเลอยู่ครู่หนึ่
เจียงเฉิงเที่ยงวันศุกร์ อิเลียไปรับฟู่ซือฝานออกไปกินข้าวเที่ยงที่คฤหาสน์ย่านซิงเหอวานเธอฉีกยิ้มพลางพูดกับฟู่ซือฝานว่า “เมื่อวานแม่ว่าจะไปรับหนูที่โรงเรียนอนุบาล จู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดของหนูเมื่อครั้งก่อนได้ ก็เลยมาวันนี้ วันนี้ตอนบ่ายแม่จะพาหนูไปเล่นดี ๆ เป็นยังไงจ๊ะ?”ฟู่ซือฝานเอียงคอพลางครุ่นคิด “ตอนบ่ายหนูต้องทำการบ้าน แค่กินข้าวเที่ยงก็พอแล้วค่ะ”“ก็ได้ งั้นหนูคิดไว้หรือเปล่าว่าอยากกินอะไร?”“ไปร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อแพะแนะนำแล้วกันค่ะ” ฟู่ซือฝานเอ่ยขึ้นด้วยทีท่าจริงจัง “วันนี้คุณลุงบอกว่าจะไปกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนหนู ไม่รู้ว่าจะมาไหม”นัยน์ตาอิเลียวาบความปลื้มปีติออกมา “จริงเหรอ?”“เขาเคยบอกไว้แบบนี้ค่ะ คุณน้าคะ ที่คุณน้ารับหนูออกมา ไม่ใช่เป็นเพราะอยากกระชับความสัมพันธ์กับหนูสองต่อสองเหรอคะ? ทำไมถึงหวังให้คุณลุงมาด้วยล่ะคะ?”เจ้าตัวน้อยเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง“น้า...น้ามีเรื่องอยากพูดคุยกับพ่อของหนูน่ะ แล้วก็หวังว่าเราจะได้กินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว” อิเลียรีบหาข้ออ้างทันทีเจ้าเด็กคนนี้ หูตาเฉียบแหลมจริง ๆ“อ้อ”“น้าจะหาร้านอาหารเนื้อแพะเดี๋ยวน
“เรียกฉันทำไม?” เยี่ยนหวยมองเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา“ตอนนี้มันฤดูร้อน”ผ่านฤดูใบไม้ผลิมาแล้ว“ฉันแค่นึกถึงวันนั้นที่ไปติวให้เธอแล้วเจอแม่เธอเข้าโดยบังเอิญ เธอคิดไปถึงไหน?” เยี่ยนหวยเลิกคิ้วถังซือซือชะงักไปมีครั้งหนึ่งตอนที่เธอติวอยู่ในบ้าน แล้วบังเอิญเจอแม่ของเธอเข้าจริง ๆ แต่นั่นมันเรื่องตอนเทอมที่สองเยี่ยนหวยต้องจงใจพูดถึงวันนั้นตอนเทอมแรกแน่ ๆ ให้เธอเข้าใจผิดถ้าเธอชี้ไปเลยว่าเยี่ยนหวยจำผิด ก็จะเข้าแผนของเยี่ยนหวย เหมือนว่าเธอยังไม่เคยลืมเรื่องในอดีต คิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นของเธอกับเยี่ยนหวยอยู่ตลอด“ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูร้อนเหรอ? นายคิดไปถึงไหนอีก?” เธอปัดตกเรื่องนี้ไปอย่างมั่นใจทันทีหลังพูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินไปด้านหน้าต่อ “ไม่พูดแล้ว รีบไปร้านถัดไปเถอะ”อยู่ข้างนอกจนถึงสี่ทุ่ม ทั้งสองคนถึงกลับไปยังโรงแรมด้วยกันถังซือซืออยากเรียกรถกลับไปเอง ไม่อยากให้เยี่ยนหวยไปส่งเธอเยี่ยนหวยจึงเอ่ยไปตามตรงว่า “ฉันพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกันกับเธอ”ถังซือซือ “...”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้วคราวก่อนตอนที่เวินเหลียงถ่ายรูปเยี่ยนหวยรูปแรกที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เวินเหลียงก็ถามว่าช่วงนี้เยี่ยนหวย
เมืองซีในฐานะเมืองใหญ่ของเจียงหนาน ประเภทของกินเล่นมีมากมาย ของกินเอกลักษณ์ที่ขึ้นชื่อไปทั่วประเทศอาทิ เต้าหู้เหม็น ไส้กรอกยักษ์ เส้นหมีเฝิ่น กุ้งเผ็ดเป็นต้นถังซือซือเคยมาเมืองซีตอนมาทำงานต่างถิ่นก่อนหน้านี้ เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด จึงทำได้เพียงเดินช็อปปิงที่อื่น แต่เพิ่งเคยมาถนนคนเดินที่นี่เป็นครั้งแรกเธอซื้อไส้กรอกยักษ์สองชิ้นก่อน และแบ่งให้เยี่ยนหวยหนึ่งชิ้นกินไปได้เพียงครึ่งเดียว ถังซือซือก็หยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายขนมฉือปา เธอกลืนน้ำลายแล้วถามขึ้นว่า “รู้ไหมคะว่าตรงไหนมีถังขยะบ้าง?”“ที่เหลือเธอไม่กินแล้วเหรอ?”“อืม”“ไม่อร่อย?”“ไม่ใช่ อร่อยมาก แต่ว่ายังมีของอร่อยอื่น ๆ อีกเยอะแยะ ฉันอยากเก็บท้องเอาไว้”เยี่ยนหวย “...”“เอามาให้ฉันก็ได้” เยี่ยนหวยรับไส้กรอกครึ่งชิ้นที่เหลืออยู่มาจากในมือของเธอ ก่อนจะเติมเข้าไปในท้องอย่างไม่มีภาระใด ๆถังซือซือซื้อขนมฉือปาแล้วเธอทำตัวอย่างกับโจร แต่ละร้านไม่ยอมปล่อยไปเลย ทว่าก็ชิมเพียงสองสามคำ ทั้งหมดที่เหลือก็โยนให้เยี่ยนหวยอย่างสบายใจเยี่ยนหวยเพลิดเพลินกับพฤติกรรมพรรค์นี้ ในใจเข้าใจได้ในทันที ราวกับกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหลังเรียนอย
“มันเรื่องอะไรกันแน่?”ก่อนหน้านี้ที่เยี่ยนหวยอยู่ที่เจียงเฉิง กลับไม่ได้สังเกตเท่าไรว่าอิเลียกำลังทำอะไรอยู่ เธอออกไปข้างนอกทุกวัน เยี่ยนหวยคิดเพียงแค่ว่าเธอกำลังไปเที่ยวเล่นถังซือซือไม่ใช่คนที่จะกุเรื่องมั่วซั่ว เธอพูดแบบนี้ ต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆ“พูดไปแล้วก็ยาว ตอนแรกฟู่ชิงเยว่อาของฟู่เจิงรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่ที่เมืองนอก ตอนนี้อายุห้าขวบแล้ว ปีที่แล้วอาเหลียงแท้ง แล้วฟู่ชิงเยว่ติดธุระพอดี เลยส่งเด็กคนนั้นกลับประเทศมาให้ฟู่เจิงดูแลช่วงหนึ่ง ฟู่เจิงเลยให้เด็กคนนั้นอยู่ในประเทศไปเลยเพื่อง้ออาเหลียง ปกติจะมาอยู่เป็นเพื่อนอาเหลียง และเด็กคนนั้นเองก็เข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของฟู่เจิง แต่ว่า...”เยี่ยนหวยเดาเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปออกแล้ว จึงรับช่วงเอ่ยขึ้นต่อว่า “แต่ว่าจู่ ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของฟู่เจิงกับอิเลีย?”“ใช่ รายละเอียดฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน เหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับอาของฟู่เจิงนิดหน่อย เธอรู้ตัวตนของเด็กผู้หญิงคนนั้นมาตั้งแต่แรก และไม่ชอบอาเหลียงมาโดยตลอด ยังไงตอนนี้อาเหลียงก็อยู่กับฉัน เขากับฟู่เจิงทะเลาะกันอีกแล้ว”เยี่ยนหวยเอ่ยควา
“เยี่ยนหวย!!”ประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสองคนเข้าไปกันตามลำดับ แล้วลงไปยังลานจอดรถใต้ดินตรงมุมเลี้ยว ในหัวของผู้หญิงสวมหน้ากากอนามัยวาบภาพที่เห็นเมื่อครู่ขึ้นมา หมัดที่ห้อยอยู่กำขึ้นแน่น เธอก้มหน้าทั้งดวงตาที่ประกายความอำมหิตออกมาหากเวินเหลียงอยู่ตรงนี้ คงจะจำได้แน่ ๆ ว่าผู้หญิงที่สวมหน้ากากอนามัยคนนี้ก็คืออลิซที่เธอมาเจียงเฉิง ก็เพราะเยี่ยนหวย เยี่ยนหวยมาเมืองซีเมื่อสองวันก่อน เธอเองก็ตามมาเช่นกันอิเลียถามเลขาของเยี่ยนหวย เมื่อรู้โรงแรมของเขาก็บอกกับอลิซทีแรกอลิซคิดว่าเยี่ยนหวยมาทำธุระที่เมืองซี จากนั้นก็ค่อย ๆ พบว่ามันไม่ชอบมาพากลเยี่ยนหวยไม่ยุ่งเลยสักนิดแถมยังมีเวลาไปสอบถามร้านอาหารท้องถิ่น ถนนคนเดิน จุดชมวิวของเมืองซีเป็นต้น อีกต่างหาก ไม่เหมือนมาทำงานต่างถิ่น แต่เหมือนมาเที่ยวเสียมากกว่าจนกระทั่งวันนี้ เมื่อได้เห็นภาพนั้น อลิซถึงเข้าใจทุกอย่างที่แท้คนที่ซีซาร์ชอบไม่ใช่เฟย์ แต่เป็นถังซือซือเพื่อนของเฟย์!ที่แท้เขาไม่ได้มาทำงานต่างถิ่นที่เมืองซี แต่มาเพื่อตามจีบถังซือซือ!ที่เขาสอบถามร้านอาหารและจุดชมวิวของเมืองซี ก็เพื่อพาถังซือซือไปวันนี้!ในใจอลิซอิจฉาเป็นอย่างม
เมื่อเยี่ยนหวยได้ยินดังนั้น ก็รู้ในทันทีว่าเวินเหลียงไม่ได้รักษาคำมั่นสัญญาแต่เขาก็เตรียมตัวไว้นานแล้ว วันนั้นหลังจากกลับไปก็ให้คนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด แล้วตัดคลิปมาใส่ไว้ในโทรศัพท์เมื่อได้ยินถังซือซือถามขึ้น เขาก็รีบส่งให้เธอทันที “ก็แค่คนที่ไม่สลักสำคัญอะไรคนหนึ่ง ฉันปฏิเสธเขาไปแล้ว”ถังซือซือดูคลิปรอบหนึ่ง ก่อนจะเบะปาก “อยู่ต่างประเทศคุณเยี่ยนมีสาวมาชอบเพียบเลยนะคะ”“แต่ฉันสนใจอยากจะครอบครองแค่เธอ”“จะยอมให้ฉันครอบครองไหม คุณถัง?”เยี่ยนหวยนั่งเอี้ยวตัว แขนข้างหนึ่งพาดอยู่บนพนักพิงเก้าอี้ เขาโน้มตัวเข้ามา ตัวท่อนบนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กลิ่นหอมฉุยจาง ๆ และกลิ่นอายของชายหนุ่มที่มาพร้อมกับการบุกรุกโอบล้อมเธอเอาไว้เขาดันแว่นตากรอบทอง สีหน้าอบอุ่น ฉีกยิ้มทว่าก็ราวกับไม่ยิ้ม มุมปากกระตุกรอยยิ้มเล็กน้อย ค่อนข้างมีความรู้สึกประเภทหน้าเนื้อใจเสือถังซือซือเหม่อไปครู่หนึ่ง“คุณถัง?”ใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ไออุ่นร้อนปะทะเข้ามาที่หน้า ในที่สุดถังซือซือก็ได้สติกลับมา เธอเอนหลังพลางตบหน้าอก “นายทำฉันตกใจหมด...ไป ไปเดินหาของกินเล่นกันเถอะ”เธอลุกขึ้นและเดินออกไปอย่าง