ลูกคนโตก็คือพ่อของฟู่เจิงกับฟู่เยว่ ในตอนที่ฟู่เจิงเป็นเด็ก เขาประสบอุบัติเหตุกับภรรยาเสียชีวิตทั้งคู่คนรองก็คือประธานกรรมการของฟู่ซื่อกรุ๊ปในปัจจุบัน ปกติจะยื่นมือเข้ายุ่งงานบริษัทน้อยมาก แต่เปิดบริษัทแฟรนไชส์อาหารของตัวเองบริษัทหนึ่ง ยุ่งงวดกับการทำธุรกิจคนที่สามก็คือฟู่ชิงเยว่อาสาวที่ตั้งหลักปักฐานอยู่ทีลอสแอนเจลิสเนื่องจากเด็กที่สุด ทั้งยังเป็นผู้หญิง คุณปู่กับคุณย่าจึงรักมาเป็นพิเศษ จนทำให้ฟู่ชิงเยว่อายุสี่สิบกว่าแล้วก็ยังเอาแต่ใจนิด ๆและเป็นสาวโสดจนถึงตอนนี้เมื่อก่อนคุณปู่กับคุณย่ากลุ้มกับเรื่องแต่งงานของเธอมาก ให้เธอไปดูตัวกับชายหนุ่มรูปงานมากความสามารถหลายต่อหลายคนแต่ฟู่ชิงเยว่ไม่อยากแต่งงาน พี่รองจนปัญญาจึงปล่อยเลยตามเลยได้ยินว่าหลายปีนี้รับเลี้ยงเด็กคนหนึ่งมาตระกูลฟู่เกือบสิบปีแล้ว จำนวนครั้งที่เวินเหลียงเจอกับฟู่ชิงเยว่นับได้ด้วยนิ้วมือเธอรู้สึกได้อย่างฉับไวว่าคุณอาไม่ชอบเธอ เริ่มแรกฟู่ชิงเยว่กลับมาฉลองปีใหม่ พอเห็นเวินเหลียงก็มักเห็นเธอเป็นอากาศธาตุภายหลังเธอแต่งงานกับฟู่เจิง ฟู่ชิงเยว่กลับมาครั้งหนึ่ง สายตาที่มองเธออย่างกับมองศัตรู ทั้งยังเคยมาหาเธออย่า
ฟู่เจิงเงยหน้ามองไป สบสายตากับเวินเหลียงไกล ๆ “ไม่มีแผนอะไรครับ”ฟู่ชิงเยว่อึ้ง “ฉู่ซืออี๋กลับไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”“ครับ”“งั้นเธอไม่หย่ากับเขาแล้วเหรอ?”“คุณอาครับ เรื่องนี้ผมตัดสินใจเองครับ”“อาก็แค่ไม่อยากให้เธอน้อยหน้าไม่ใช่หรือไง? เธอเป็นเด็กที่ดีเด่นของตระกูลฟู่ ถึงเมียจะไม่สมฐานะ แต่ก็ต้องเป็นลูกสาวตระกูลใหญ่ เวินเหลียงไม่คู่ควรเธอ เมียแบบนี้จะเอาออกนอกหน้าได้ยังไง? คุณปู่ก็จริง ๆ เลย ไม่ดูว่าใครเป็นควรก็เก็บเอามาที่บ้าน แถมยังจะจับคู่พวกเธออีก ผิดฝาผิดคู่ไปหมดแล้ว!”“คุณอา ผมไม่รู้สึกน้อยหน้าครับ เรื่องนี้ต่อไปคุณอาไม่ต้องพูดถึงแล้ว”ฟู่ชิงเยว่มองเขาแบบไม่เห็นด้วย “ไหนตอนนี้เธอบอกว่าต้องหย่ากับเขาแน่ไง?”“คุณอา!”ฟู่เจิงมองเวินเหลียงแวบหนึ่งด้วยความระวังเธอน่าจะไม่ได้ยิน“เฮ้อ เธอโตแล้ว มีความคิดเป็นของตัวเองแล้ว” ฟู่ชิงเยว่หมุนตัวออกจากห้องรับแขกฟู่เจิงกลับไปนั่งข้างเวินเหลียงอีกครั้ง “คุณอาก็เป็นอย่างนี้เอง เอาแต่ใจมาหลายสิบปี เธออย่าถือสาเลยนะ”เวินเหลียงยิ้ม “ฉันรู้ค่ะ ปีหนึ่งเจอไม่ถึงสองครั้ง ฉันไม่ใส่ใจหรอก”ตอนเย็น ฟู่เจิงไปรับฟู่ซือฝานหลังเลิกเรียนแทนฟู่ชิ
เวินเหลียงยิ้ม ก่อนจะปลดเข็มขัดออก แล้วลงมาจากฝั่งที่นั่งข้างคนขับ จากนั้นก็เปิดประตูรถเข้าไปนั่งยังที่นั่งด้านหลัง “เดี๋ยวฉันนั่งข้างหลังเป็นเพื่อนฝานฝานก็แล้วกัน”เจ้าเด็กน้อยแก่แดดเป็นอย่างมาก เธอมองเวินเหลียงทีหนึ่ง “คุณป้าคือศัตรูหัวใจของหนู!”เวินเหลียงมองสีหน้าจริงจังของเธอ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “อืม ฉันคือศัตรูหัวใจของเธอ”ในจังหวะนี้เอง เสียงริงโทนโทรศัพท์ของฟู่เจิงก็ดังขึ้นมา เขาใส่หูฟังบลูทูทก่อนจะรับสาย “...มีเรื่องอะไร?”จู่ ๆ น้ำเสียงก็ขึงขังขึ้นมา พร้อมทั้งถามกลับอย่างเคร่งขรึมเล็กน้อยเวินเหลียงเห็นเขาขมวดคิ้วมุ่นผ่านกระจกมองหลังไม่รู้ว่าปลายสายพูดอะไร ฟู่เจิงถึงโพล่งออกมาว่า “เอาละ! อย่ามาหาข้ออ้าง ทำให้เขาสงบลงก่อน รอฉันกลับไปจัดการ!”พูดจบเขาก็ตัดสายไป และถอดหูฟังบลูทูทวางไว้ในกล่องเก็บของ“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?” เวินเหลียงถามขึ้น“พนักงานของสาขาย่อยนิวยอร์กทำงานผิดพลาด ฉันต้องกลับไปจัดการ” ฟู่เจิงมองเวินเหลียงจากกระจกมองหลัง“ไปนานแค่ไหน?”“สองวัน เธอว่าไง? ไปกับฉันไหม?”“วันหยุดวันชาติใกล้จะหมดแล้ว ฉันกลับไปเมืองเจียงเฉินก่อนก็แล้วกัน”“ก็ดีเหมือนกัน
หลังทานอาหารเที่ยงที่บ้านของฟู่ชิงเยว่เสร็จ ก็นั่งอยู่ต่ออีกครู่หนึ่ง จากนั้นฟู่เจิงก็ไปส่งเวินเหลียงกลับโรงแรม ส่วนตัวเขารีบกลับไปนิวยอร์กคืนนั้นเลยเวินเหลียงพักอยู่ที่โรงแรมคืนหนึ่ง วันต่อมาก็เดินทางมายังสนามบิน เพื่อกลับเมืองเจียงเฉินการเดินทางในวันหยุดวันชาติจบลงแล้วเวินหลียงไม่ได้แจ้งคนขับรถ แต่บอกให้ป้าหวังเรียกรถมารับเธอที่สนามบินแทนหลังลงจากเครื่องบิน เวินเหลียงกับป้าหวังก็ปรึกษาหารือกัน และไปทำการตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาลเลยเธอตั้งครรภ์ได้สิบสี่สัปดาห์กว่าแล้ว จากอัลตราซาวนด์จะเห็นได้ว่า โดยภาพรวมทารกเป็นรูปเป็นร่างแล้วหมอชี้ให้ป้าหวังที่อยู่ข้าง ๆ ดู “นี่เป็นมือของเด็ก นี่เป็นขาของเด็ก นี่เป็นหัว ตาจมูกมองไม่ค่อยชัด เด็กแข็งแรงมากทีเดียว พัฒนาการไม่เลวเลย”ป้าหวังตอบรับอย่างดีอกดีใจตรวจครรภ์เสร็จ ระหว่างที่เวินเหลียงกำลังจะเดินออกมาจากห้องตรวจ หมอก็กำชับว่า “ระหว่างตั้งครรภ์ต้องควบคุมการมีเพศสัมพันธ์หน่อยนะครับ มันไม่ดีต่อเด็กทารก”ใบหน้าน้อย ๆ ของเวินเหลียงแดงระเรื่อ ก่อนจะตอบรับอย่างลวก ๆระหว่างทางกลับ ป้าหวังโน้มน้าวให้เวินเหลียงบอกเรื่องตั้งครรภ์กับฟู่เจิง
“โอเคค่ะ ฉันจะไปกับพวกคุณ”เวินเหลียงปิดคอมพิวเตอร์ หยิบกระเป๋าของตัวเอง “ไปกันเถอะค่ะ”เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองคน เดินอยู่ทางซ้ายคนหนึ่งทางขวาคนหนึ่ง เดินขนาบข้างเวินเหลียงเจ้าหน้าที่คนหนึ่งพูดกับรองหัวหน้าอู๋ว่า “รองหัวหน้าอู่วางใจเถอะครับ พวกเราจะรีบตรวจสอบให้รู้แจ้งโดยเร็วที่สุด”เมื่อมาถึงยังสถานีตำรวจ เวินเหลียงก็ถูกเก็บโทรศัพท์ไป ก่อนจะถูกพาตัวไปยังห้องห้องหนึ่งมีตำรวจนั่งอยู่ตรงหน้าเธอ กำลังดูกล้องวงจรปิดในวันนั้น แล้วถามอย่างละเอียดว่า “ขอถามหน่อยนะครับคุณเวิน คุณเข้าไปในห้องทำงานประธานกรรมการทำไมครับ? ก่อนเข้าไปคุณรู้หรือเปล่าว่าคุณฟู่ไม่ได้อยู่ที่บริษัท?”เวินเหลียงตอบ “ฉันรู้ค่ะ ที่ฉันเข้าไปในห้องทำงานของเขา ก็เพราะจะยืมใช้ห้องพักผ่อนของเขาพักผ่อนตอนกลางวัน และได้รับการอนุญาตจากเขาแล้ว”โทรศัพท์ของเวินเหลียงวางอยู่ข้าง ๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจอ่านบันทึกการสนทนาในวันนั้น จากนั้นก็เลื่อนขึ้นไปอีกสองสามหน้า ก่อนจะถามขึ้นว่า “พวกคุณเป็นอะไรกัน?”“สามีภรรยา”เจ้าหน้าที่ตำรวจมองเวินเหลียงทีหนึ่ง ก่อนจะเดินออกไปในห้องเหลือแค่เวินเหลียงเพียงคนเดียวแม้เธอจะพิสูจน์ได้ว่า การไ
เวินเหลียงเดินตามหลังฟู่เจิงออกมาจากห้องสอบสวน เจอกับจี้เจ๋อฟู่เจิงพยักหน้าไปทางจี้เจ๋อ ก่อนจะตบไหล่ของเขา “เรื่องที่นี่ฝากคุณด้วยนะ พวกเราขอตัวกลับก่อน”“อืม”เวินเหลียงพยักหน้าไปทางจี้เจ๋อเธอไม่สนิทกับจี้เจ๋อ แต่เธอรู้ว่าจี้เจ๋อเป็นทนายความเบอร์หนึ่งของฟู่ซื่อ มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งเมืองเจียงเฉิงเขาคงมาเพื่อจัดการเรื่องความลับที่รั่วไหลออกไป และการประกันตัวเธอออกมาเป็นเพียงแค่ผลพลอยได้เท่านั้น“พวกเราไปกันเถอะ” ฟู่เจิงหันหน้าไปมองเวินเหลียงทีหนึ่งเวินเหลียงก้มหน้าพลางเดินตามอยู่ด้านหลังฟู่เจิง “คุณบอกว่าจะอยู่นิวยอร์กสองวันไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงกลับมาเร็วขนาดนี้ล่ะ?”นัยน์ตาของฟู่เจิงลึกซึ้ง เขาโอบเอวของเธอเอาไว้ เดือดดาลจนหัวเราะออกมา “เธอยังมีหน้ามาถามฉันอีก? คืนนี้คิดจะนอนอยู่ข้างในจริง ๆ เหรอ?”ระยะเวลาสองวันเป็นเพียงแค่การคาดการณ์คร่าว ๆ เท่านั้น จัดการเรื่องเสร็จ เขาก็รีบขึ้นเครื่องบินโดยเร็วที่สุดเมื่อเปิดโทรศัพท์หลังเครื่องลงจอด ก็มีสายไม่ได้รับจากเลขาหยาง และฝากข้อความของเลขาหยางเด้งขึ้นมา เพื่อรับรองว่าเขาจะเห็นในทันทีหลังจากลงจากเครื่องบินหลังทราบสถานกา
“ฮัลโหล ประธานฟู่? ประธานฟู่?”เป็นสายของรองหัวหน้าอู๋ที่โทรเข้ามาหลังรับสาย รองหัวหน้าอู๋กลับไม่ได้ยินเสียงของอีกฝ่าย ในใจอดไม่ได้ที่จะเต้นตึกตัก ๆกระทั่งเขาเรียกประธานฟู่เป็นครั้งที่สาม การตอบกลับของอีกฝ่ายถึงได้ค่อย ๆ แว่วดังขึ้นมา“หัวหน้าอู๋ ทำไมถึงโทรมาในเวลานี้ครับ?”ฟู่เจิงปิดประตูห้องนอนหลักอย่างระมัดระวัง ในตอนนี้เองถึงได้เปล่งเสียงตอบกลับไป“ประธานฟู่กลับมาแล้วเหรอครับ? ผมได้ยินพวกเลขาหยางเขาบอกว่า ทางนิวยอร์กเกิดปัญหาขึ้นนิดหน่อย ลูกน้องไม่ตั้งใจทำงาน สร้างความเดือดร้อน โชคดีที่มีประธานฟู่อยู่ จัดการได้ทันเวลาก็เลยไม่ได้กลายเป็นหายนะร้ายแรง สำหรับบริษัทแล้ว ประธานฟู่ก็ไม่น้อยไปกว่าเสาค้ำทะเลบูรพาเลย” พอรับสายรองหัวหน้าอู๋ก็พูดชมขึ้นมาสองสามประโยคก่อนเลยฟู่เจิงแสร้งยิ้ม “รองหัวหน้าอู๋มีอะไรก็พูดมาตรง ๆ เลยครับ”ในตอนนี้เองรองหัวหน้าอู๋ถึงได้พูดเจตนาที่แท้จริงออกมา “ความลับของบริษัทถูกเปิดเผย ผมกังวลมาก เพราะสถานการณ์มันค่อนข้างคับขัน เลยไปล่วงเกินผู้อำนวยการเวินเข้า ผมภักดีต่อบริษัทเสมอมา ถ้ามีตรงไหนไม่เหมาะสม รบกวนประธานฟู่ช่วยผมพูดกับผู้อำนวยการเวินด้วยนะครับ”
ข่าวเรื่องที่เวินเหลียงเป็นมือที่สามเสียบเข้ามาในความสัมพันธ์ระหว่างฟู่เจิงกับฉู่ซืออี๋ผ่านมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่ระดับความร้อนแรงของเรื่องราวไม่เคยลดลงมาเลย ทุกครั้งที่ฉู่ซืออี๋ทำการประชาสัมพันธ์อะไรสักอย่าง ต่อจากนั้นก็จะมีคนพูดถึงเวินเหลียงอยู่เสมอโดยเฉพาะตอนงานเลี้ยงวันเกิดของฉู่ซืออี๋เมื่อไม่นานมานี้ ในขณะที่บรรดาแฟนคลับกำลังฉลองวันเกิดให้ฉู่ซืออี๋ ขณะเดียวกันเวินเหลียงก็ถูกด่าไปด้วยยกหนึ่งแต่ก็มีบางคนพูดแก้ต่างให้เวินเหลียงเพราะพ่อของเวินเหลียง พร้อมทั้งหยิบยกการแสดงออกในงานแถลงข่าวมาพิสูจน์ว่าข่าวลือเรื่องเป็นมือที่สามเป็นเพียงแค่การกุเรื่องของสื่อเท่านั้นแต่ว่าแฟนคลับส่วนใหญ่นั้นไม่เชื่อทว่าเรื่องนี้ก็คลุมเครือไม่ทราบความจริงแน่ชัดอยู่ในสื่อมาตลอด จริงเท็จยากจะแยกแยะที่เลขาหยางโทรเข้ามาในคืนนี้ ก็เป็นเพราะสื่อหยิบยกขึ้นมาเล่าอีกครั้งฟู่เจิงกับเวินเหลียงขึ้นคำค้นหาร้อนแรงอีกแล้วแต่ว่าข่าวในครั้งนี้ไม่ได้คลุมเครืออีกต่อไป เหมือนจะใช่แต่ความจริงไม่ใช่ ทว่ามีหลักฐานที่แน่ชัดสื่อปล่อยวิดีโอแอบถ่ายตอนที่ฟู่เจิงกับเวินเหลียงกลับบ้านด้วยกันออกมาสองสามวิดีโอ และยังมีคนเคยถ
อิเลียลุกขึ้นพรวด พลางมองเยี่ยนหวยอย่างเหลือเชื่อ“ถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นพี่ชายของเธออยู่ ก็เชื่อฟังฉัน แล้วกลับไปเมืองฟิลาเดลเฟียพรุ่งนี้ซะ!” เยี่ยนหวยนั่งตัวตรงพลางเงยหน้ามองเธออยู่บนโซฟา“ฉันไม่กลับ!” อิเลียเดือดดาลจนแค่นเสียงฮึออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะกลับไปนั่งตรงมุมโซฟา “อยากกลับพี่ก็กลับไปเองซะเลยสิ!”“ฟู่เจิงไม่ใช่คนดี ต่อให้ระหว่างพวกเธอมีลูกด้วยกัน เขาก็ไม่มีทางคบกับเธอ”ก่อนหน้านี้ฟู่เจิงเคยมีเรื่องอื้อฉาวว่ามีชู้ ตอนนี้ก็มีอดีตภรรยาที่มีความสัมพันธ์คลุมเครือมาอีกคน ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่รักลูกสาว ก็จะไม่มีวันเลือกเขาทั้งนั้น“พี่รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ใช่คนดี? พี่รู้ได้ไงว่าเขาจะไม่คบกับฉัน? วันนี้ตอนเที่ยงเรายังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย!”เมื่อเห็นอิเลียดื้อดึง ในใจของเยียนหวยก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ เขาแสยะยิ้มออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเธอไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันตามลำพัง แต่ฟู่ซือฝานอยู่ข้าง ๆ ใช่ไหม?”ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ฟู่เจิงจะมากินข้าวกับอิเลียตามลำพังได้ยังไง? นอกเสียจากเขาคิดจะเลิกกับเวินเหลียงจริง ๆ“...ใช่ ก็เขาเป็นลูกของพวกเรานี่” เมื่อเห็นว่าถูกเดาทางถูก อิเลียก็พูดอึ
แต่หลังจากเดินตามแผนแล้วถึงได้พบว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยถ้าพ่อแม่คุณลุงคุณป้ารู้ว่าเธอมีลูกนอกสมรสข้างนอก ต้องเข้ามาแทรก และไม่แน่ว่าจะพาตัวเธอกับลูกกลับไป“อิเลีย ผมเข้าใจนะครับคุณในฐานะแม่แท้ ๆ คุณอยากรีบกระชับความสัมพันธ์กับฝานฝาน แต่ก็อย่าตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะมักจะไปหาฝานฝานที่โรงเรียนอนุบาล แบบนี้จะส่งผลกระทบกับชีวิตของเธอได้นะครับ”“ฉันรู้แล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ไปหาเขาที่โรงเรียนอนุบาลอีก ฉันเห็นว่าคุณกินน้อยมาก อาหารที่เหลือไม่ถูกปากหรือเปล่า?”ฟู่เจิง “...ก่อนมาผมกินมาบ้างแล้ว”หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฟู่ซือฝานรบเร้าขอกลับกับฟู่เจิงเธอล้วงกลยุทธ์ร้องไห้งอแงชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นของเด็กห้าขวบออกมาอย่างล้ำลึก ไม่มีเหตุผล ทว่าอิเลียฝืนเธอไม่ได้อิเลียทำได้เพียงกลับไปที่บ้านของเซี่ยเจิน“อิเลีย เธอกลับมาแล้วเหรอ?”เมื่อเห็นอลิซนั่งอยู่บนโซฟา อิเลียเดินมานั่งลง “เป็นยังไงบ้าง? ครั้งนี้เธอไปเมืองซีกับซีซาร์ ได้แสร้งทำเป็นเจอโดยบังเอิญ แล้วไปกินข้าวกับเขาอะไรหรือเปล่า?”อลิซเบะปาก “เปล่า”“ทำไมล่ะ? โอกาสดีขนาดนั้นทำไมเธอไม่คว้าเอาไว้?”“เขางานยุ่งมาก ฉันกล
อิเลียจัดผมด้วยท่าทางราวกับไม่มีเจตนาอื่น หน้าตาเผยความตื่นเต้นออกมาดูท่าเธอจะเลือกวิธีถูกจริง ๆในตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใกล้ฟู่ซือฝานไม่เท่าไร ท่าทีของฟู่เจิงเขาก็ผ่อนคลายลงเยอะแล้วผ่านไปยี่สิบนาที ฟู่เจิงก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องรับรองนี่เป็นการเจอกันครั้งที่สองหลังจากวันนั้นเขานั่งลงข้าง ๆ ฟู่ซือฝาน พลางพยักหน้าให้อิเลียเบา ๆ “รบกวนแล้ว ไม่ถือสาที่ผมมาร่วมโต๊ะด้วยใช่ไหม?”“ไม่ถือสา นั่งเถอะค่ะ”สีหน้าของอิเลียเย็นชา ราวกับยังอยู่ต่อหน้าคุณหญิงและฟู่ชิงเยว่ครั้งก่อน เธอไม่ได้โกรธที่ฟู่เจิงปฏิเสธเธออย่างไร้ความปรานี“งานผมยุ่งมาก ยากที่จะใส่ใจคุณกับฝานฝานได้มากขนาดนั้น”“ฝานฝานเป็นลูกของฉัน นี่เป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมา ก็เลยสั่งอาหารไปสุ่ม ๆ เดี๋ยวอาหารมาเสิร์ฟคุณก็ดูแล้วกันว่าอยากจะสั่งเพิ่มไหม”“ผมไม่เลือกกิน” ฟู่เจิงตอบจากนั้นพนักงานก็เริ่มมาเสิร์ฟอาหารฟู่เจิงมองเนื้อแพะที่มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก้มหน้าไปมองฟู่ซือฝานฟู่ซือฝานก้มศีรษะน้อย ๆ อย่างกระวนกระวายอิเลียหยิบตะเกียบขึ้นมา “ไม่ต้องเกรงใจ กินเลยค่ะ”ฟู่เจิงลังเลอยู่ครู่หนึ่
เจียงเฉิงเที่ยงวันศุกร์ อิเลียไปรับฟู่ซือฝานออกไปกินข้าวเที่ยงที่คฤหาสน์ย่านซิงเหอวานเธอฉีกยิ้มพลางพูดกับฟู่ซือฝานว่า “เมื่อวานแม่ว่าจะไปรับหนูที่โรงเรียนอนุบาล จู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดของหนูเมื่อครั้งก่อนได้ ก็เลยมาวันนี้ วันนี้ตอนบ่ายแม่จะพาหนูไปเล่นดี ๆ เป็นยังไงจ๊ะ?”ฟู่ซือฝานเอียงคอพลางครุ่นคิด “ตอนบ่ายหนูต้องทำการบ้าน แค่กินข้าวเที่ยงก็พอแล้วค่ะ”“ก็ได้ งั้นหนูคิดไว้หรือเปล่าว่าอยากกินอะไร?”“ไปร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อแพะแนะนำแล้วกันค่ะ” ฟู่ซือฝานเอ่ยขึ้นด้วยทีท่าจริงจัง “วันนี้คุณลุงบอกว่าจะไปกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนหนู ไม่รู้ว่าจะมาไหม”นัยน์ตาอิเลียวาบความปลื้มปีติออกมา “จริงเหรอ?”“เขาเคยบอกไว้แบบนี้ค่ะ คุณน้าคะ ที่คุณน้ารับหนูออกมา ไม่ใช่เป็นเพราะอยากกระชับความสัมพันธ์กับหนูสองต่อสองเหรอคะ? ทำไมถึงหวังให้คุณลุงมาด้วยล่ะคะ?”เจ้าตัวน้อยเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง“น้า...น้ามีเรื่องอยากพูดคุยกับพ่อของหนูน่ะ แล้วก็หวังว่าเราจะได้กินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว” อิเลียรีบหาข้ออ้างทันทีเจ้าเด็กคนนี้ หูตาเฉียบแหลมจริง ๆ“อ้อ”“น้าจะหาร้านอาหารเนื้อแพะเดี๋ยวน
“เรียกฉันทำไม?” เยี่ยนหวยมองเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา“ตอนนี้มันฤดูร้อน”ผ่านฤดูใบไม้ผลิมาแล้ว“ฉันแค่นึกถึงวันนั้นที่ไปติวให้เธอแล้วเจอแม่เธอเข้าโดยบังเอิญ เธอคิดไปถึงไหน?” เยี่ยนหวยเลิกคิ้วถังซือซือชะงักไปมีครั้งหนึ่งตอนที่เธอติวอยู่ในบ้าน แล้วบังเอิญเจอแม่ของเธอเข้าจริง ๆ แต่นั่นมันเรื่องตอนเทอมที่สองเยี่ยนหวยต้องจงใจพูดถึงวันนั้นตอนเทอมแรกแน่ ๆ ให้เธอเข้าใจผิดถ้าเธอชี้ไปเลยว่าเยี่ยนหวยจำผิด ก็จะเข้าแผนของเยี่ยนหวย เหมือนว่าเธอยังไม่เคยลืมเรื่องในอดีต คิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นของเธอกับเยี่ยนหวยอยู่ตลอด“ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูร้อนเหรอ? นายคิดไปถึงไหนอีก?” เธอปัดตกเรื่องนี้ไปอย่างมั่นใจทันทีหลังพูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินไปด้านหน้าต่อ “ไม่พูดแล้ว รีบไปร้านถัดไปเถอะ”อยู่ข้างนอกจนถึงสี่ทุ่ม ทั้งสองคนถึงกลับไปยังโรงแรมด้วยกันถังซือซืออยากเรียกรถกลับไปเอง ไม่อยากให้เยี่ยนหวยไปส่งเธอเยี่ยนหวยจึงเอ่ยไปตามตรงว่า “ฉันพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกันกับเธอ”ถังซือซือ “...”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้วคราวก่อนตอนที่เวินเหลียงถ่ายรูปเยี่ยนหวยรูปแรกที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เวินเหลียงก็ถามว่าช่วงนี้เยี่ยนหวย
เมืองซีในฐานะเมืองใหญ่ของเจียงหนาน ประเภทของกินเล่นมีมากมาย ของกินเอกลักษณ์ที่ขึ้นชื่อไปทั่วประเทศอาทิ เต้าหู้เหม็น ไส้กรอกยักษ์ เส้นหมีเฝิ่น กุ้งเผ็ดเป็นต้นถังซือซือเคยมาเมืองซีตอนมาทำงานต่างถิ่นก่อนหน้านี้ เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด จึงทำได้เพียงเดินช็อปปิงที่อื่น แต่เพิ่งเคยมาถนนคนเดินที่นี่เป็นครั้งแรกเธอซื้อไส้กรอกยักษ์สองชิ้นก่อน และแบ่งให้เยี่ยนหวยหนึ่งชิ้นกินไปได้เพียงครึ่งเดียว ถังซือซือก็หยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายขนมฉือปา เธอกลืนน้ำลายแล้วถามขึ้นว่า “รู้ไหมคะว่าตรงไหนมีถังขยะบ้าง?”“ที่เหลือเธอไม่กินแล้วเหรอ?”“อืม”“ไม่อร่อย?”“ไม่ใช่ อร่อยมาก แต่ว่ายังมีของอร่อยอื่น ๆ อีกเยอะแยะ ฉันอยากเก็บท้องเอาไว้”เยี่ยนหวย “...”“เอามาให้ฉันก็ได้” เยี่ยนหวยรับไส้กรอกครึ่งชิ้นที่เหลืออยู่มาจากในมือของเธอ ก่อนจะเติมเข้าไปในท้องอย่างไม่มีภาระใด ๆถังซือซือซื้อขนมฉือปาแล้วเธอทำตัวอย่างกับโจร แต่ละร้านไม่ยอมปล่อยไปเลย ทว่าก็ชิมเพียงสองสามคำ ทั้งหมดที่เหลือก็โยนให้เยี่ยนหวยอย่างสบายใจเยี่ยนหวยเพลิดเพลินกับพฤติกรรมพรรค์นี้ ในใจเข้าใจได้ในทันที ราวกับกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหลังเรียนอย
“มันเรื่องอะไรกันแน่?”ก่อนหน้านี้ที่เยี่ยนหวยอยู่ที่เจียงเฉิง กลับไม่ได้สังเกตเท่าไรว่าอิเลียกำลังทำอะไรอยู่ เธอออกไปข้างนอกทุกวัน เยี่ยนหวยคิดเพียงแค่ว่าเธอกำลังไปเที่ยวเล่นถังซือซือไม่ใช่คนที่จะกุเรื่องมั่วซั่ว เธอพูดแบบนี้ ต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆ“พูดไปแล้วก็ยาว ตอนแรกฟู่ชิงเยว่อาของฟู่เจิงรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่ที่เมืองนอก ตอนนี้อายุห้าขวบแล้ว ปีที่แล้วอาเหลียงแท้ง แล้วฟู่ชิงเยว่ติดธุระพอดี เลยส่งเด็กคนนั้นกลับประเทศมาให้ฟู่เจิงดูแลช่วงหนึ่ง ฟู่เจิงเลยให้เด็กคนนั้นอยู่ในประเทศไปเลยเพื่อง้ออาเหลียง ปกติจะมาอยู่เป็นเพื่อนอาเหลียง และเด็กคนนั้นเองก็เข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของฟู่เจิง แต่ว่า...”เยี่ยนหวยเดาเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปออกแล้ว จึงรับช่วงเอ่ยขึ้นต่อว่า “แต่ว่าจู่ ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของฟู่เจิงกับอิเลีย?”“ใช่ รายละเอียดฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน เหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับอาของฟู่เจิงนิดหน่อย เธอรู้ตัวตนของเด็กผู้หญิงคนนั้นมาตั้งแต่แรก และไม่ชอบอาเหลียงมาโดยตลอด ยังไงตอนนี้อาเหลียงก็อยู่กับฉัน เขากับฟู่เจิงทะเลาะกันอีกแล้ว”เยี่ยนหวยเอ่ยควา
“เยี่ยนหวย!!”ประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสองคนเข้าไปกันตามลำดับ แล้วลงไปยังลานจอดรถใต้ดินตรงมุมเลี้ยว ในหัวของผู้หญิงสวมหน้ากากอนามัยวาบภาพที่เห็นเมื่อครู่ขึ้นมา หมัดที่ห้อยอยู่กำขึ้นแน่น เธอก้มหน้าทั้งดวงตาที่ประกายความอำมหิตออกมาหากเวินเหลียงอยู่ตรงนี้ คงจะจำได้แน่ ๆ ว่าผู้หญิงที่สวมหน้ากากอนามัยคนนี้ก็คืออลิซที่เธอมาเจียงเฉิง ก็เพราะเยี่ยนหวย เยี่ยนหวยมาเมืองซีเมื่อสองวันก่อน เธอเองก็ตามมาเช่นกันอิเลียถามเลขาของเยี่ยนหวย เมื่อรู้โรงแรมของเขาก็บอกกับอลิซทีแรกอลิซคิดว่าเยี่ยนหวยมาทำธุระที่เมืองซี จากนั้นก็ค่อย ๆ พบว่ามันไม่ชอบมาพากลเยี่ยนหวยไม่ยุ่งเลยสักนิดแถมยังมีเวลาไปสอบถามร้านอาหารท้องถิ่น ถนนคนเดิน จุดชมวิวของเมืองซีเป็นต้น อีกต่างหาก ไม่เหมือนมาทำงานต่างถิ่น แต่เหมือนมาเที่ยวเสียมากกว่าจนกระทั่งวันนี้ เมื่อได้เห็นภาพนั้น อลิซถึงเข้าใจทุกอย่างที่แท้คนที่ซีซาร์ชอบไม่ใช่เฟย์ แต่เป็นถังซือซือเพื่อนของเฟย์!ที่แท้เขาไม่ได้มาทำงานต่างถิ่นที่เมืองซี แต่มาเพื่อตามจีบถังซือซือ!ที่เขาสอบถามร้านอาหารและจุดชมวิวของเมืองซี ก็เพื่อพาถังซือซือไปวันนี้!ในใจอลิซอิจฉาเป็นอย่างม
เมื่อเยี่ยนหวยได้ยินดังนั้น ก็รู้ในทันทีว่าเวินเหลียงไม่ได้รักษาคำมั่นสัญญาแต่เขาก็เตรียมตัวไว้นานแล้ว วันนั้นหลังจากกลับไปก็ให้คนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด แล้วตัดคลิปมาใส่ไว้ในโทรศัพท์เมื่อได้ยินถังซือซือถามขึ้น เขาก็รีบส่งให้เธอทันที “ก็แค่คนที่ไม่สลักสำคัญอะไรคนหนึ่ง ฉันปฏิเสธเขาไปแล้ว”ถังซือซือดูคลิปรอบหนึ่ง ก่อนจะเบะปาก “อยู่ต่างประเทศคุณเยี่ยนมีสาวมาชอบเพียบเลยนะคะ”“แต่ฉันสนใจอยากจะครอบครองแค่เธอ”“จะยอมให้ฉันครอบครองไหม คุณถัง?”เยี่ยนหวยนั่งเอี้ยวตัว แขนข้างหนึ่งพาดอยู่บนพนักพิงเก้าอี้ เขาโน้มตัวเข้ามา ตัวท่อนบนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กลิ่นหอมฉุยจาง ๆ และกลิ่นอายของชายหนุ่มที่มาพร้อมกับการบุกรุกโอบล้อมเธอเอาไว้เขาดันแว่นตากรอบทอง สีหน้าอบอุ่น ฉีกยิ้มทว่าก็ราวกับไม่ยิ้ม มุมปากกระตุกรอยยิ้มเล็กน้อย ค่อนข้างมีความรู้สึกประเภทหน้าเนื้อใจเสือถังซือซือเหม่อไปครู่หนึ่ง“คุณถัง?”ใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ไออุ่นร้อนปะทะเข้ามาที่หน้า ในที่สุดถังซือซือก็ได้สติกลับมา เธอเอนหลังพลางตบหน้าอก “นายทำฉันตกใจหมด...ไป ไปเดินหาของกินเล่นกันเถอะ”เธอลุกขึ้นและเดินออกไปอย่าง