“อ๊ะ!!…พี่วินทร์ อย่าบีบแบบนั้น อ๊าา”มิวหมดแรงในอ้อมแขนเขานั่นเองเมื่อภาวินทร์ดึงออกมาและพ่นน้ำขุ่นใสไปที่หลังของเธอก่อนจะรีบล้างให้และอุ้มเธอออกมาจากห้องน้ำและหอมแก้มเธอไม่หยุด“พอได้แล้วค่ะ”“เมียตัวหอมจัง”“ยังไม่หยุดพูดแบบนี้อีก”“มิวไม่เชื่อพี่เหรอ ไม่เชื่อจริง ๆ เหรอว่าพี่…”มิวใช้มือปิดปากเขาเอาไว้ไม่ให้เขาพูดออกมา“แม่มิวเคยสอนเอาไว้ว่าคำพูดผู้ชายเชื่อไม่ได้อยู่สามเวลา”“เวลาไหนบ้าง”“เวลาเมา”“แต่พี่ว่าคนเมามักจะเผลอพูดเรื่องจริงนะ”“พูดเพราะขาดสติไม่ถือว่าจริงใจค่ะ”“แล้วสองล่ะ”“พูดตอนทำอะไรบางอย่างผิดมา”“แต่พี่ไม่ได้ทำอะไรผิดมานี่ ก็แค่หวงนิดหน่อยเลยไปรอรับเท่านั้น”“แต่เกือบจะบุกเข้าไปข้างในร้าน”“นั่น...”“สาม!!”“จะบอกว่าตอนอยู่บนเตียงหรือตอนจะเสร็จใช่ไหม”“รู้ได้ยังไงคะ”“คำคลาสสิคแต่มิวไม่คิดให้แตกต่างบ้างล่ะ ตั้งแต่มิวเข้ามาในชีวิตพี่ มิวเคยเห็นพี่ไปวุ่นวายกับผู้หญิงคนอื่นหรือเปล่า ตลอดสามเดือนมานี่พี่อยู่กับใครบ้างนอกจากมิว”มิวนั่งนิ่งไปเพราะที่เขาพูดมาก็ไม่ผิดเลยสักนิด เขาอยู่กับเธอมาโดยตลอดแม้ว่าจะมีสาว ๆ ที่ยังเข้ามาทักทายแต่ก็แค่นั้นเพราะภาวินทร์ที่ยุ่งกับเรื
นิธิศเดินถอยก่อนเพื่อนเพราะไม่คิดว่าจะเจอผู้หญิงในห้องของภาวินทร์ แต่ก่อนนอกจากพวกเขาที่พาสาว ๆ มาขอยืมห้องเล็กใช้ภาวินทร์ก็แทบจะไม่พาใครเข้ามาเลยไม่ใช่เหรอ เขามองไม่ชัดว่าผู้หญิงสวยตัวเล็กนี้เป็นใครจนชินกรเป็นคนพูดออกมา“มิว..”""อะไรนะ!!""“น้องมิวเหรอไอ้กร มึงตาฝาดหรือเปล่าน้องมิวเป็นเด็กเนิร์ดจะแต่งตัวเซ็กซี่แบบนี้ได้ไง”“นั่นสิไอ้กรมึงตาฝาดแล้ว”ภาวินทร์วิ่งหาผ้าคลุมและค่อย ๆ พยุงพามิวเดินเข้าไปในห้องนอนก่อนจะปิดประตูและเดินออกมาเผชิญหน้ากับเพื่อนสนิทอีกสามคนในห้อง มีเพียงชินกรคนเดียวที่กำลังยืนกัดกรามแน่นแต่ไม่พูดอะไร“ไอ้วินทร์ ทำไมรีบพาไปเก็บจังเลยวะไม่พามาแนะนำให้พวกกูรู้จักสักหน่อยเหรอ”“นั่นสิไอ้ธิศพูดถูกกูยังเห็นหน้าไม่ชัด เด็กมึงเหรอวะ ใช้ได้นี่ในที่สุดก็พาผู้หญิงเข้าห้องได้แล้ว”“ไอ้วินทร์ ทำไมมิวมาอยู่ที่นี่แล้ว…ทำไมถึงเดินแบบนั้น”นิธิศและวีรภัทรยังขมวดคิ้วและหันมามองชินกรที่ยังมั่นใจว่าผู้หญิงที่เห็นคือน้องมิว เด็กคณะพยาบาลที่มาช่วยพวกเขาทำโปรเจค แม้ว่าจะดูเป็นไปได้แต่พวกเขาคิดว่าคนที่เห็นกับสาวแว่นหนานั่น… ดูยังไงก็เป็นคนละคน“เรื่องมันยาวน่ะ ตอนนี้กูกับมิวคบกันอยู่”
ชินกรหันมามองหน้าภาวินทร์ที่พูดกับเขาด้วยความหนักแน่น เขาไม่ตอบอะไรแค่ถามด้วยเสียงปกติไป“ว่าแต่มึงไม่ได้ฝืนใจน้องแน่นะ ก่อนหน้านั้นใคร ๆ ก็รู้ว่ามึงกับมิวเกลียดกันขนาดไหน”“ตอนแรกกูก็ยอมรับว่าที่ให้มึงหาประวัติก็เพราะอยากหาจุดอ่อนมิวเพื่อจะแก้แค้นจริง ๆ แต่พอรู้จักกับเธอนาน ๆ เข้าก็เลยรู้ว่ามิวไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น เธอไม่ทำร้ายใครก่อนแต่ถ้าใครทำเธอก่อนเธอก็พร้อมจะสู้กลับเท่านั้นเอง”“มึงไปชอบมิวตรงไหน”“แล้วมึงล่ะไอ้กร มึงชอบมิวตรงไหน”“กูถามมึงอยู่ ไม่ต้องมาย้อนถามกูกลับ”ภาวินทร์ยิ้มออกมาน้อย ๆ ก่อนจะหันตอบเพื่อนสนิทอย่างชินกรไปโดยไม่ได้ลังเล“ท่าทางจริงจัง รอยยิ้มที่นาน ๆ จะมีสักครั้ง แล้วยังทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจนั่นทำให้กูประทับใจและเผลอมองโดยไม่รู้ตัว มารู้อีกทีก็ไม่อยากอยู่ห่างจากเธอแล้ว มึงว่าแปลกไหมก่อนหน้านี้กูก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะ”ชินกรยิ้มออกมานิด ๆ ก่อนจะค่อย ๆ พยักหน้าให้เพราะเขาต้องรู้ดีกว่าใครว่าภาวินทร์นิสัยยังไง ไม่เคยมีครั้งไหนที่วินทร์จะพูดถึงผู้หญิงด้วยเสียงอ่อนโยนและยิ้มแบบนี้เลยสักครั้ง“แล้วมิวล่ะ ทำไมถึงยอมคบกับมึง”“คงเพราะ… เรื่องนี้พูดแล้วมันยาวม
“พวกมึงแบ่งกันไปเลยให้ไอ้วินทร์มันพักบ้าง มึงบอกมิวไปว่าไม่ต้องห่วงถ้าไม่ทันรอหลังมิวสอบเสร็จค่อยพิมพ์ต่อก็ได้”“มึงว่าเจ้าแม่จอมโหดนั่นจะฟังไหมล่ะไอ้กร กว่ากูจะบังคับให้นอนในแต่ละคืนยังยากเลย มึงดูสภาพตากูสิ สองคืนแล้วที่ต้องมานั่งแก้งาน เซ็งฉิบหายกูของีบหน่อยนะเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงใช่ไหม”“เออ ๆ งีบไปก่อนเหอะเดี๋ยวที่เหลือกูจัดการเอง คลาสนี้เผลอ ๆ อาจารย์ไม่เข้าหรอกได้ยินว่าอาจารย์ติดประชุมอยู่นี่”“อืม กูของีบสักหน่อย”“มึงไหวนะ เอาน้ำหน่อยไหมกูไปซื้อให้”“ไม่เอาขอบใจนะกรแต่กูอยากนอนพักสักหน่อย”ชินกรตบไหล่วินทร์เบา ๆ ก่อนจะช่วยเพื่อน ๆ แยกที่เหลือ ทุกคนถึงกับทึ่งในความสามารถของลักษิกา เพราะเธอใช้เวลาไม่นานที่จะพิมพ์เอกสารนี้ออกมาแล้วยังช่วยพวกเขาตรวจคำผิดอีกด้วย“มึงดูสิรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ แม่เจ้า คุณเธอไม่ปล่อยไปเลยสักจุดสุดยอดไปเลยนี่มันเทพชัด ๆ”“มึงก็ดูสภาพไอ้วินทร์ก่อนสิไอ้ภัทร ดูแล้วกูว่าคนที่หนักสุดน่าจะเป็นมันนี่แหละ ตอนแรกกูก็อิจฉานะที่มันมีแฟนดี แต่เห็นสภาพแล้ว…กูว่ายังไม่มีก็ดีนะ”“ไอ้วินทร์มันคงจริงจังกับน้องมิวมากเลยสิใช่ไหมวะไอ้กร”“อืม เรื่องนี้มันเรื่องของไอ
“กูเข้าใจแล้ว จะไม่ถามเรื่องนี้อีก”“ขอบใจนะกร”"ลองชิมดูนะคะ"“ว้าวน้องมิว ไม่เคยรู้เลยว่าน้องมิวทำแบบนี้เป็นด้วย ยอดไปเลยกลิ่นหอมมากไปเรียนมาเหรอ”ภัทรถามขึ้นมา มิวจึงหันไปยิ้มให้เขาและตอบ“เปล่าหรอกค่ะ แม่มิวสอนให้ตอนเด็ก ๆ น่ะค่ะ”ทั้งหมดหันมามองหน้ามิวและรู้ว่าเธออยู่กับยาย เรื่องนี้วินทร์เคยพูดและทุกคนก็รู้ว่าแม่ของมิวเสียไปแล้วจึงไม่มีใครอยากจะพูดสะกิดใจเธอขึ้นมาอีก ชินกรที่มีสายตาสลดลงไปจึงหันมามองหน้ามิว“ยอดไปเลยฝีมือและลีลาการชงเหมือนมืออาชีพ พี่ลองดื่มเลยนะ”“ค่ะ ลองดูค่ะ”เพียงแค่จิบไปคำแรกทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยเกินกว่าที่คิด “ไม่คิดเลยว่าน้องมิวจะเก่งขนาดนี้ ว้าวยอดไปเลยไอธิศมึงคิดว่ายังไง”“โคตรอร่อย นี่เป็นเหล้าที่อร่อยมากเลยสุดยอดเลยน้องมิวดื่มสักแก้วไหม”“เฮ้ย ๆ มึงดื่มของมึงไปไม่ต้องมายุ่งกับแฟนกู มิวคออ่อนแค่ชงให้ก็พอ”“โธ่อะไรวะไอ้คนขี้หวง”“เป็นยังไงบ้างคะพี่กรอร่อยไหม”“อร่อย ไม่แรงไปและยังมีสะระแหน่ที่ทำให้สดชื่นด้วยเข้าใจทำ”“สูตรพิเศษของมิวเลยล่ะกูชอบที่สุด เหนื่อยหรือยังพี่เติมน้ำให้”“ขอบคุณค่ะ”วินทร์ลูบหัวแฟนสาวเบา ๆ ก่อนที่กรจะยิ้มให้พวกเขา
“ออ ค่ะได้ค่ะงั้นมิวกลับวันจันทร์เลยนะคะ”“ได้ครับ แล้วอย่าลืมทานข้าวให้ตรงเวลา ติวหนังสือที่ไหน”“ที่ห้องนี่แหละค่ะ”“กี่คนแล้วมีผู้ชายไหม ไม่นับน้องริชชี่อะไรนั่นนะ”“ก็แค่สี่คนค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ”“ก็ได้ครับ”“งั้นวางสายนะคะ”“เฮ้อ… คิดถึงอีกแล้ว ทำยังไงดีล่ะ”“พี่วินทร์คะ พึ่งจะมาส่งเองนะคะ”“รู้แล้วแต่มันคิดถึงนี่ ห้องที่ไม่มีเมียอยู่เหงาชะมัดเลยรีบกลับมานะ”“คะ วางนะคะ”“มิว เดี๋ยวก่อน”“อะไรคะ เพื่อนมิวเรียกแล้ว”“พี่รักมิวนะครับ ดูแลตัวเองด้วยเข้าใจไหม”เสียงบอกรักของเขาทำให้เธอแทบอยากจะกลับไปหาเขาที่คอนโดเสียเดี๋ยวนี้หากไม่ติดว่ารับปากเพื่อน ๆ เอาไว้แล้วล่ะก็เธอคงไม่รอที่จะกลับไปจูบและทำทุกอย่างที่เขาอยากทำเลยจริง ๆ“มิวก็รักพี่วินทร์ค่ะ ฝันดีนะคะ”“ครับที่รัก”มิวกดวางสายไปและรีบกลับเข้าไปในห้องเพื่อติวให้เพื่อนตามที่ตกลงกันเอาไว้ มิวลืมสนิทเลยว่าควรจะบอกวินทร์เรื่องที่เธอจะไปช่วยงานที่ผับเดิมเพราะถูกขอร้องมา แต่พอลงมาติวหนังสือก็ทำให้เธอลืมเรื่องนี้สนิทจนถึงวันอาทิตย์ที่เธอเริ่มเตรียมตัวออกจากห้อง“แกแน่ใจนะที่จะไม่บอกพี่วินทร์เรื่องนี้ แกไม่กลัวว่าถ้าเขารู้ทีหลังจะเอาเรื่อ
นิธิศนิ่งอึ้งไปเมื่อวินทร์พูดจบ เขาต้องขยี้ตาแรง ๆ อีกครั้งเมื่อวินทร์บอกว่าจะพา “เมีย” กลับบ้านเขาถึงได้สังเกตเห็นรอยยิ้มและท่าเทเครื่องดื่มนั่นชัด ๆ“สัด!! นั่นน้องมิวจริง ๆ ด้วย เชี่ยแล้ว!! เฮ้ยไอ้วินทร์มึงใจเย็น ๆ ก่อน” เขารีบเดินตามวินทร์ไปซึ่งตอนนี้เดินมาหยุดตรงหน้าคนที่พึ่งเทเครื่องดื่มแก้วสุดท้าย เธอหันมาเจอเขาด้วยความตกใจจนแก้วชงในมือหล่น“เรเน่ เป็นอะไรน่ะ”“พะ พี่วินทร์”“มาที่นี่ได้ยังไง”“คือว่า…”"ไอ้วินทร์! ใจเย็น ๆ ก่อน"“พี่ธิศ”“เชี่ย… น้องมิวจริง ๆ เหรอ”มิวเริ่มก้มหน้าและหันไปมองที่เชน เขาพยักหน้าให้เธอเมื่อเห็นเข็มกลัดที่ติดปกเสื้อของวินทร์และธิศก็รู้ว่าพวกเขามาจากแขกชั้นสอง และดูเหมือนว่าครั้งนี้เรเน่จะเจอคนที่ไม่ควรเจอเข้าให้แล้ว“เรเน่ เธอกลับไปก่อนเถอะเดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการเอง”“ขอโทษทีนะเชน เหลืออีกแค่ครึ่งชั่วโมงก็จะเลิกแล้วแท้ ๆ”“ไม่เป็นไรรีบไปเถอะ”มิวมองไปที่ภาวินทร์ที่ยืนกำหมัดแน่นสีหน้าตึงเครียดเพราะความโกรธที่หน้าบาร์โดยมีนิธิศดึงเขาเอาไว้ มิวจึงรีบเดินไปห้องด้านหลัง นิธิศเผลอนิดเดียวภาวินทร์ก็สะบัดเขาหลุดและเดินตามเธอเข้าไปห้องด้านหลัง“โอ๊ย!! พี่วิ
มิวแทบจะจำไม่ได้เลยว่าเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง เธอจำได้เพียงความเจ็บปวดที่เขาทิ้งไว้ให้จนร้องไห้ออกมาอีกครั้ง แยมที่เดินเข้ามารีบเดินมาพร้อมกับข้าวต้มและวางไว้ให้เธอ“แกลุกไหวไหมนี่พึ่งจะหกโมง วันนี้…มีสอบ”“ไหวสิ ฉันยังไหว”แยมค่อย ๆ พยุงร่างที่แทบจะไม่มีแรงของมิวเข้าไปอาบน้ำ วันนี้พวกเธอมีสอบซึ่งกว่าจะผ่านมาได้มิวก็เกือบจะเป็นลม เธอให้แยมมองดูที่หน้าคณะซึ่งภาวินทร์และเพื่อน ๆ ของเขามายืนรออยู่“ฉันไม่อยากกลับไปกับเขา”“ฉันจะพาแกหนีไปอีกทาง คืนนี้ไม่ต้องนอนที่ห้อง พวกเราไปนอนที่หอของแคร์กัน”“ขอบใจนะแยม”“ไม่เป็นไร ออกประตูหลังไปที่รถของฉันพวกเขาไม่รู้หรอก มาเถอะ”“อืม”ภาวินทร์ยืนรออยู่หน้าคณะจนถึงช่วงค่ำซึ่งตึกเริ่มปิด เขาพอจะรู้แล้วว่ามิวน่าจะหนีกลับไปแล้ว“ไปเถอะ”“ไอ้วินทร์ นี่มึงไปทำอะไรมิวกันแน่น้องถึงได้โกรธมึงขนาดนี้อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนนี้มึง….”“อืม กูรุนแรงไปหน่อย"“ไอ้เลว! มึงไม่รู้เหรอว่าวันนี้น้องมิวต้องสอบถ้าเป็นลมขึ้นมามึงจะทำยังไงนั่นเด็กท็อปคณะพยาบาลเชียวนะ” / นิธิศ“ไอ้วินทร์ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ กูบอกแล้วว่า…” / ชินกร“ไม่เกี่ยวกับมึง เรื่องนี้กูคุยกับมิวเอง”“แต
“ฉันว่าคนที่น่าห่วงน่ะไม่ใช่มิวหรอก แต่เป็นคนขี้อิจฉาอย่างเธอมากกว่า”“ยัยแคร์ หมายความว่ายังไง”แคร์ ริชชี่และแยมเดินมาพอดีพร้อมกับดึงมิวเข้ามา ดูท่าทางแพรวาเองก็เหมือนจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ “ก็เธอโดนทิ้งก็ไม่ได้หมายความว่ามิวจะเป็นอย่างเธอ ที่ฉันเห็นนะมิวกับพี่วินทร์คบหากันมานานเกินครึ่งปีแล้ว อีกอย่างตอนที่มิวโกรธ พี่วินทร์ถึงกับตามไปง้อถึงที่เลยนะ เรื่องแบบนี้เธอเคยเจอบ้างหรือเปล่า”“แก!”“อ๊ะ ๆ แคร์พูดไม่จบฉันขอต่อให้ก็แล้วกันนะ เรื่องของเธอกับมิวมันเอามาเทียบกันไม่ได้ แค่คนที่เคยคุยกับ "แฟน" น่ะ มันก็คนละเรื่องกันแล้ว อีกอย่างนะตอนนี้พี่วินทร์ก็ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนอีกเลย ไม่คิดเลยนะว่าพี่วินทร์จะคลั่งรักขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าไหมริชชี่"แพรวากำหมัดแน่นเพราะความอิจฉา เธอเคยคุยกับภาวินทร์และเคยควงเขาอยู่ไม่ถึงสิบวัน อาจเพราะเธอเซ้าซี้เขามากเกินไปและเรียกร้องขอให้เขามารับมาส่ง แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่ภาวินทร์จะทำตามที่เธอขอ ไม่เหมือนกับที่เขาถึงกับขับรถมาส่งมิวที่หน้าคณะอย่างเต็มใจแบบนี้“งานลอยกระทงปีนี้ ถ้าเธอคิดว่าเธอแน่จริงกล้ามาแข่งกับฉันไหมล่ะ”“อะไรนะ”“งานลอยกระทงของมหาวิทยาลั
มิวหันมามองหน้าเขาเมื่อรับจานจากวินทร์มาเข้าเครื่องล้างจาน“ทำไมจู่ ๆ พี่วินทร์มาถามเรื่องนี้กับมิวละคะ ไหนบอกว่าไม่อยากให้มิวทำยังไงล่ะ”“ก็ถ้า…พี่เรียนจบแล้วและต้องทำงาน อีกอย่างที่ร้านนั้นตอนนี้พ่อพี่ก็เป็นหุ้นส่วนใหญ่ ถ้าแต่งตัวให้ดี ๆ บาร์เทนเดอร์ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวโป๊นี่จริงไหม”“ก็จริงค่ะ ที่จริงมิวก็ไม่ได้ชอบการแต่งตัวแบบนั้นเท่าไหร่หรอกค่ะ แต่ตอนนั้นมันเลือกไม่ได้”“อีกอย่างตอนนี้มิวก็ไม่ต้องห่วงเรื่องทุนการศึกษาแล้วด้วย ไม่จำเป็นต้องปิดบัง พี่แค่อยากถามว่ามิวอยากทำหรือเปล่า แต่ใจพี่ยังไม่อยากให้มิวไปทำหรอกนะ เพราะปีหน้ามิวก็เรียนปีสุดท้ายแล้ว พี่อยากให้มิวเรียนให้จบก่อน”“ที่จริงมิวก็รักงานนี้นะคะ แต่ก็อย่างที่พี่วินทร์พูดนั่นแหละค่ะว่าคงต้องตั้งใจเรียนก่อน เอาเป็นว่าไปช่วยแค่ชั่วครั้งชั่วคราวได้เหมือนกับงานที่แล้ว”“แต่พี่จะไม่ให้ใส่ชุดแบบนั้นแล้วนะ ใส่ให้มันรัดกุมให้ดูเป็นผับที่ดูดีหน่อยไม่ใช่…”“ตอนนี้ที่นั่นมีใครดูแลอยู่เหรอคะ”“พี่รินทร์กับสามีไง วันนี้เธอมาที่นี่เพราะจะคุยเรื่องมิวนั่นแหละ พ่อคงไปบอกเรื่องของเราหมดแล้วเพราะคืนนั้นพ่อเห็นพี่ลากมิวออกมาจากงาน วันนี้พี่ร
มิวที่ช็อกอยู่หน้าประตูพยายามก้าวขาออกจากห้อง แต่ภาพตรงหน้าทำให้เธอตกใจจนขาแทบไม่กระดิก เมื่อสาวสวยคนนั้นหันมามองหน้าเธอ ส่วนภาวินทร์พยายามลุกขึ้นมา“ฟังพี่ก่อนนะ”“เธอเป็นใครน่ะวินทร์”มิวพยายามกลั้นน้ำตาและหันออกไปจากห้องแต่ภาวินทร์ที่พยายามลุกจากโซฟามาหาเธอกลับล้มตึงลงไปกับพื้นจนเธอตกใจและหันมา“ว้าย! ไอ้วินทร์! น้องคะมาช่วยพี่หน่อยเร็ว ๆ เข้า ไอ้บ้านี่ตัวอย่างกับยักษ์ แกไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะค่อย ๆ ลุก”“พี่รินทร์หลีกไปเลยผมบอกว่า…โอ๊ย!!”มิวตกใจแต่ก็ไม่ทันได้ถาม แต่สรรพนามที่ผู้หญิงสวยคนนั้นเรียกแฟนหนุ่มของเธอ หากฟังไม่ผิดพวกเขาน่าจะไม่ใช่อย่างที่มิวคิดเอาไว้ เธอรีบวิ่งมาประคองภาวินทร์ที่ล้มให้ลุกขึ้น ซึ่งตัวภาวินทร์ร้อนเหมือนไฟ“พี่วินทร์…ไม่สบายเหรอคะ”“ใช่ค่ะ มันไม่ยอมให้พี่โทรบอก น้องมิวใช่ไหมอย่าพึ่งถามตอนนี้ช่วยพี่ลากไอ้เด็กดื้อนี่เข้าห้องนอนก่อน”“เอ่อ ค่ะ ๆ”“ไม่ต้อง พี่รินทร์กลับไปเถอะ ผมมีมิวแล้วเดี๋ยวมิวจัดการเอง โอย…”“พี่วินทร์ อย่าพึ่งพูดเข้าไปในห้องก่อน”“กลับมาแล้วเหรอ กลับมาได้เสียที”แม้แต่เสียงของวินทร์ก็แหบจนแทบไม่มีเสียง มิวไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เธอก็รีบให้เขา
มิวรีบเดินออกมาจากห้องน้ำและไม่พูดอะไรกับเข้าอีก ปล่อยให้ภาวินทร์ยืนงงอยู่ในห้องน้ำ เขารีบอาบน้ำตามเธอออกมาเพื่อจะมาง้อแฟนสาวที่นั่งเป่าผมอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง“เอ่อ…”เธอเปิดเสียงไดร์เป่าผมให้ดังขึ้นและไม่สนใจเขาอีก วินทร์พยายามเดินวนรอบ ๆ จนต้องยอมถอยเพราะมิวคงไม่ฟังที่เขาพูดแน่ ดังนั้นจึงเดินไปเปลี่ยนชุดนอน มิวปิดที่เป่าผมและเดินมาเปลี่ยนชุดเช่นกัน“เอ่อ…”“ปิดไฟด้วยนะคะ”“เดี๋ยว… คุยกันก่อนไม่ได้เหรอครับ เมียจ๋า”“อย่ารบกวนคนจะนอนถ้ายังพูดอีกพรุ่งนี้มิวจะกลับหอ”วินทร์รูดซิปปากจนสนิทและยอมที่จะปิดไฟนอนแต่โดยดี มันตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขากลัวเธอมากขนาดนี้ ไม่สิเขาคิดว่าเข้าไม่ได้กลัว เขาแค่รักเธอมากขึ้นทุก ๆ วันจนไม่อยากเสียเธอไปต่างหากจึงได้ยอมลดนิสัยเอาแต่ใจของเขาลง อีกอย่างมิวแทบจะไม่เคยโกรธเขาจริง ๆ มาก่อนเลยถ้าไม่นับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่ยายของมิวจะเสีย“ขยับออกไป ร้อน”“แต่ว่าพี่นอนไม่หลับ”“มิวบอกว่ามิวร้อนไม่ได้ยินเหรอคะ จะนอนที่นี่หรือว่าจะไปนอนห้องนอนเล็ก”“ก็ได้ ๆ ไม่กวนแล้วก็ได้อย่าแยกห้องนอนเลยนะครับ”มิวขยับหนีเขาไปเกือบสุดเตียง คนตัวโตได้แต่นอนถอนหายใจและทำท่าเห
ภาวินทร์คว้าข้อมมือของมิวเดินผ่านผู้หญิงสองคนที่ซุบซิบพวกเขาอยู่ พวกเธอหลบตาเขาจนเขาเดินผ่านไปและไม่กล้าแม้แต่จะตอบโต้ มิวเห็นท่าทางโกรธของเขาจึงได้ยิ้มออกมา“ขำอะไรกัน ไม่โมโหเหรอที่ถูกคนว่าลับหลังแบบนั้น”“แล้วพี่วินทร์จะไปฟังทำไมละคะ”“ก็มันน่าโมโหนี่ ถ้ามิวแต่งตัวแต่งหน้าจัดเต็ม สวยกว่าพวกปากมากนั่นอีก”“เฮ้อ… ความปากดีของพี่วินทร์ไม่เคยลดลงเลยนะคะ”“แล้วไม่ชอบเหรอ”ภาวินทร์หันมาคว้าเอวของแฟนสาวเข้ามากอดพร้อมกับค่อย ๆ เอียงหน้าเข้ามาใกล้ ๆ มิวเบี่ยงหลบและตีไปที่ไหล่ของเขาจนวินทร์หัวเราะเพราะเธอเริ่มอายอีกแล้ว“เมือไหร่จะเลิกทำหน้าตาน่ารักนั่นเสียทีนะ พี่จะทนไม่ไหวอีกแล้ว”“พอเลยค่ะรีบกลับเถอะ ผักก็เลือกมาได้ไม่เท่าไหร่เองก็ไปหาเรื่องคนอื่น”“ไปซื้อที่อื่นก็ได้ไม่เห็นจะยากเลย พี่ไม่ชอบให้ใครมาพูดลับหลังแฟนพี่แบบนี้”“รีบไปเถอะค่ะเสียเวลา”“ครับผม”“แล้ววันหลังอย่าไปพูดแบบนี้อีกนะคะ ยังไงพวกเขาก็เป็นผู้หญิง”“ทำไมล่ะพวกนั้นนินทาได้แล้วพี่ตอบโต้กลับไม่ได้เหรอ…. ก็ได้ ๆ ไม่พูดก็ได้ครับ ไปคิดเงินกันนะอย่าโมโหสิ”วินทร์หยุดพูดเมื่อเห็นสายตาขุ่นเขียวที่ส่งมาให้เขา ตอนนี้เขาจะไม่ยั่วโมโหเ
“อะไรวะไอ้กร อย่ามาขู่กูเลย”“กูไม่ได้ขู่แต่มึงไม่เห็นเหรอ พ่อพยายามมาหลายปีให้มิวยอมรับ มึงว่ามหาลัยเรามีทุนให้เรียนมากขนาดนั้นเลยเหรอ”“มึงจะบอกว่าทุนที่มิวคิดว่าเป็นทุนจากมหาลัยนั่นที่จริงแล้ว…”“ทุนจากพ่อทั้งนั้นแหละ พ่อจัดการและคุยกับคณบดีโดยตรงโดยที่มิวไม่รู้มาสามปี ทั้งค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาลของยายและงานศพทั้งหมดนี่ก็ด้วย น้าสายรู้ดีที่สุดแต่มิวไม่รู้คิดว่าน้าสายจะเคลียร์หลังงานจบน่ะ”“กูเริ่มจะกลัวขึ้นมาจริง ๆ แล้วสิทีนี้”“ไม่ต้องห่วงหรอก แม้ว่าพ่อจะดีใจที่ได้ลูกสาวคืนแต่ก็คงไม่ถึงกับสั่งห้ามมิวเรื่องมึงหรอก แค่ต้องระวังให้มาก ๆ หน่อยเท่านั้น เกิดมึงอะไรพลาดขึ้นมากูแค่จะเตือนว่าแม้แต่กูก็ช่วยมึงไม่ได้เท่านั้นเอง”“เฮ้อ จากมิวคนเดียวที่ว่าง้อยากแล้ว นี่ยังเพิ่มพ่อตามาอีกคน กูตายแน่ ๆ ไม่เคยคิดเลยว่ามีเมียมันจะยากขนาดนี้”“เฮ้ย นี่มึงจะถอยตอนนี้เหรอวะ”“ฝันไปเถอะ กูรักของกูขนาดนี้มีเหรอจะยอมแพ้”“ขนาดนั้นเลยเหรอวะ ดูเหมือนว่ามึงจะทิ้งลายเจ้าชู้แล้วจริง ๆ เหรอวะไอ้วินทร์”“เออ ตั้งแต่กูเจอมิวกูก็ไม่ต้องการผู้หญิงคนอื่น ไม่คิดอยากจะหาและไม่มีอารมณ์กับใครด้วยนอกจากมิว”“มึงกล้าพูดแ
“ไอ้ธิศเนี่ยนะ! ไปยกของบ้าไปแล้วแน่ ๆ คนอย่างมันน่ะเหรอจะ…”“เอาไปไว้ทางโน้นค่ะ เร็ว ๆ เลยเหลืออีกหลายตัว”“ครับ ๆ รู้แล้ว ๆ ไม่ต้องดุมากได้ไหมชาติก่อนเป็นแมวเหรอขู่เก่งจัง”วีรภัทรหันไปมองนิธิศที่กำลังช่วยเพื่อนของมิวอีกคนยกพานพุ่มเข้าไปเก็บข้างใน ดูเหมือนจะเป็นพานที่ใช้ประกอบพิธีในคืนพรุ่งนี้ ตามไปด้วยเพื่อนที่เป็นสาวสองที่ชื่อริชชี่และแยมที่ช่วยกันยก “มีอีกไหม แรงพี่ยังเหลือนะ”“โน่นค่ะ แล้วอย่าบ่นนะว่าหนักขนาดริชชี่เป็นสาวยังยกไหวเลย”“ใครจะไปถึกเหมือนไอ้บ้านั่น”“พี่ธิศ!”“ครับ ๆ ไม่ว่า ๆ น้องริชชี่คนสวยมีอะไรให้พี่ช่วยอีกไหมครับ”“แหมยังเหลืออีกไม่เยอะค่ะ แยมแกก็อย่าไปขู่พี่เขามากสิ เดี๋ยวเขาก็ไม่ช่วยหรอก”“ก็….”“ไปน่า ๆ น้องแยมไม่ต้องพูด ไปช่วยพี่ยกของก่อนดีกว่ามาเถอะ ๆ”“นี่! ปล่อยมือนะพี่ธิศ บ้าเหรอมาลากแยมทำไม”แคร์หันไปแค่ยิ้มและหันมาจัดการข้าวต้มในชามตัวเองก่อนจะหันมามองท่าทางตกตะลึงของวีรภัทรที่ไม่เคยเห็นเพื่อนของเขาทำแบบนี้มาก่อน นิธิศเป็นคนปากดีและหยิ่งในศักดิ์ศรีมาก นอกจากมิวที่เคยด่าเขาหน้าคณะจนอายแล้วยังไม่เคยเห็นนิธิศยอมให้ผู้หญิงคนไหนใช้งานแบบนี้มาก่อน“เป็นไปได้
มิวเองก็รู้ตัวว่าเคยทะเลาะกับน้าเรื่องนี้บ่อย ๆ หลายครั้งที่น้าสายบอกให้มิวลองติดต่อพ่อเพราะยายต้องรักษาตัว แต่เป็นมิวที่ดื้อและยืนยันว่าจะทำงานและหาเงินมารักษายายให้ได้ จนอาการของยายทรุดหนักลงเธอจึงหยุดเถียงน้าสาย และตัวน้าเองก็เลือกจะเงียบไปเพราะกลัวว่าอาการของยายจะแย่ลง“มิว…”“น้าไม่โทษแกหรอกเพราะแกก็ดื้อไม่ต่างกับแม่ แต่สุดท้ายแล้วแม่ก็ให้อภัยและยอมรับพ่อของมิว แม้ว่าจะยังไม่ทันได้จดทะเบียนสมรสแต่พ่อของมิวก็ตั้งใจที่จะมาที่นี่และอยู่กับแม่ของมิว”มิวปล่อยโฮเมื่อความจริงทั้งหมดออกมาจากน้าสาย เป็นเธอที่ดื้อรั้นไม่รับฟังจนยายเสียไป เวลานานเป็นสิบปีกว่าที่เธอจะเข้าใจ บัญชีเงินฝากมีเงินในนั้นเกือบสามล้านบาทเพราะพ่อของเธอโอนมาฝากให้เป็นประจำโดยที่ไม่มีการถอนออกมา ค่ารักษาของยายและทุนการศึกษาที่เธอได้เรียนทุกวันนี้ก็เป็นพ่อที่จ่ายให้“น้าสายมิวควรจะทำยังไงดี มิวไม่เคยรู้ว่าแม่อภัยให้เขาแล้วแต่ว่ามิว…”“น้าเข้าใจที่มิวโกรธ แต่ตอนนั้นมิวยังเด็กจึงดื้อไม่ฟังใครน้ากับยายก็เข้าใจ ทุกครั้งที่มีใครพูดถึงพ่อมิวก็จะโกรธและไม่คุยกับคนอื่น ยายไม่อยากเห็นมิวเป็นแบบนั้นก็เลยเลี่ยงไม่พูดมาตลอด น้าผิด
“ถ้าอย่างนั้นนี่ก็เป็นสาเหตุที่มิวเกลียดพ่อสินะ”"ใช่ พ่อเองก็รู้ตัวว่าทำผิด แต่ทุกเรื่องมันมีเหตุผล อีกอย่างเรื่องที่แม่ทำก็ไม่ได้ถูกต้องแม้ว่าพ่อจะรับผิดชอบ แต่ก็ไม่เคยละเลยน้าสุดากับมิว แม้ว่าน้าสุดาจะไม่ยอมรับจนถึงวันสุดท้ายก็ตาม ยายกับน้าสายรู้ดีว่าเธอปากแข็งไปเท่านั้นเพราะก่อนจะสิ้นใจพ่อได้มีโอกาสมาหาเธอและกอดเธอเป็นครั้งสุดท้าย ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกันจนน้าสุดาเสีย แต่เรื่องนี้มิวไม่รู้เรื่องและพ่อก็ไม่เคยปริปากบอกเธอเพราะยังรู้สึกผิดอยู่“ฉิบหายทำไมเรื่องมันวุ่นวายขนาดนี้วะ แล้วกูจะพูดยังไงกับมิวดี จะช่วยมึงกับคุณอายังไงวะ”“ไม่ต้องหรอกพ่อบอกแล้วว่ายังไงเรื่องแบบนี้ก็คงต้องใช้เวลา พ่อบอกรอได้จนกว่ามิวจะพร้อม อีกอย่างคุณย่าก็ไม่อยู่แล้ว ส่วนแม่ก็หย่ากับพ่อแยกทางกันนานแล้วต่อไปก็คงไม่มีอะไรต้องห่วงอีก วันนี้ที่พ่อมาก็แค่อยากมาส่งยายครั้งสุดท้ายเท่านั้นเอง”“เข้าใจแล้วเอาเป็นว่ากูจะค่อย ๆ พูดกับมิวให้ ยังไงท่านก็เป็นพ่อ อีกอย่างพ่อมึงก็ไม่ได้จะขาดความรับผิดชอบ แม่่ของมิวรู้ทุกเรื่องแต่ไม่มีโอกาสได้บอกมิว”“มึงก็รู้ว่ามิว…”“กูต้องรู้สิ มิวปากแข็งแต่ใจอ่อน นิสัยคงไม่ต่างกับแม่ของเ