ภาวินทร์ที่อาบน้ำแต่งตัวออกมาค่อนข้างดูดีอยู่พอสมควรเดิมทีเขาก็เป็นคนที่รูปร่างหน้าตาดีอยู่แล้ว แต่ดวงตาที่คล้ำนั้นยังไม่ดีขึ้น ชินกรเตรียมของให้เขาเสร็จแล้วก็ยกมาให้“พวกกูจะกลับไปเก็บของก่อนมึงรออยู่นี่”“ไม่ กูไปกับมึงด้วยเลยก็แล้วกันกูขอเก็บของเพิ่มอีกหน่อย แล้วเราจะไปที่แพร่ยังไงมึงจะขับรถไปเหรอ”“กูเช่ารถตู้พี่อู๊ตเอาไว้ให้เขามารับ ขับไปเองไม่ไหวหรอก อีกอย่างมึงจะได้มีเวลานอนพักด้วย”“ขอบใจนะกร ครั้งนี้กูจะได้เจอมิวจริง ๆ ใช่ไหม”ชินกรบอกไม่ถูกว่าสงสารเพื่อนสนิทของเขามากแค่ไหน ถึงแม้ว่าตอนแรกเขาจะไม่เชื่อว่าภาวินทร์จะทิ้งลายเจ้าชู้ แต่เมื่อมาเห็นสภาพของภาวินทร์ในตอนนี้ เขาก็รู้แล้วว่าลักษิกาเป็นรักจริงของภาวินทร์จริง ๆ เขาเอื้อมมือไปตบไหล่เพื่อนเบา ๆ“เจอ แต่มึงต้องใจเย็น ๆ และไม่วู่วามเหมือนอย่างที่ทำแบบเดิมอีก ถ้าเจอมิวต้องไม่เร่งรัดให้เธอยอมคุยกับมึง ที่นั่นเป็นบ้านคุณน้าของมิว มึงต้องรักษามารยาทให้มาก ๆ มึงเข้าใจกูไหม”“แต่ว่ามิว…”“เชื่อกู แล้วค่อย ๆ หาโอกาสคุยกันตอนนี้มิวกำลังเสียใจมากมึงก็รู้ว่ามิวเหลือคุณยายแค่คนเดียวแล้ว”“กูรู้ แต่ว่าถ้ามิวไม่ยอมคุยกับกูล่ะ”“มึงต้องอด
แยม แคร์และริชชี่เริ่มทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นว่าวินทร์เริ่มง้อมิวโดยไม่สนใจใครทั้งนั้น ชินกรเอามือกุมขมับเพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าน้าของมิวจะคิดยังไงที่จู่ ๆ พวกเขามาถึงวินทร์ก็ทำแบบนี้ แต่น้าสายแค่ยิ้มและหันมาตบไหล่มิว“แฟนน้องมิวเหรอได้สิ งั้นเดี๋ยวน้าจัดห้องให้นอนชั้นบน...”“ไม่ต้องค่ะน้าสาย พวกเราเองก็ยุ่ง ๆ กับงานให้พวกเขาไปพักที่รีสอร์ตนั่นแหละค่ะดีแล้ว”“ไม่นะมิว พี่อยู่ได้จริง ๆ”เธอค่อย ๆ ดึงแขนออกจากเขาและไม่มองหน้าวินทร์อีก ภาวินทร์สลดลงไปทันที เธอโกรธเขามากขนาดนี้จริง ๆ เหรอ“ไปนอนพักที่รีสอร์ตเถอะค่ะ ที่นี่เสียงดังและยังมีแขกทั้งวันทั้งคืนมิวไม่มีเวลาดูแลใครหรอกค่ะ อีกอย่างในงานก็ยุ่งมากยังไงไปพักที่รีสอร์ตน่าจะเหมาะมากกว่า จะได้พักผ่อนเต็มที่ด้วย”“แต่ว่า...”“ไอ้วินทร์ ไปกับพวกกูเถอะอย่าทำให้มิวลำบากใจเลย เชื่อกู... ยังมีเวลาอีกหลายวัน”ชินกรกระซิบบอกเขาแต่วินทร์ยังไม่ยอมแพ้ที่จะส่งสายตาขอความเห็นใจให้เธอ แต่มิวเองก็นับว่าใจแข็งไม่น้อยเพราะเธอหันไปมองน้าสายทันที“จองเพิ่มสามห้องนะคะน้าสาย”“สามเหรอ อ้อ ๆ ได้”มิวเห็นว่าภาวินทร์ไม่ได้นอนเพราะขอบตาของเขาคล้ำมาก ชินกรเองก็รู้ทัน
มิวนิ่งไปวินทร์จึงค่อย ๆ จับตัวเธอหันมากอดมิวถึงได้รู้สึกถึงลมหายใจของเขาที่ร้อนผ่าวและสีหน้าที่แดงก่ำจัด ภาวินทร์มีไข้อ่อน ๆ แต่เขาไม่บอกเธอแล้วยังตื่นแต่เช้ามืดมาสองวันเพื่อพาเธอและน้าสายไปตลาด“พี่วินทร์มีไข้นี่คะทำไมไม่บอก”“มีมิวอยู่ใกล้ ๆ พี่ก็หายแล้วแต่ตอนนี้อย่าพึ่งไปไหนเลยนะ อยู่กับพี่ก่อน”“ต้องรีบหาอะไรกินแล้วรีบกินยา…”“อย่าไป... อย่าพึ่งไปนะมิว”“ไม่ได้ไปค่ะ แต่มิวจะไปหายามาให้พี่วินทร์กินก่อนนอนอยู่เฉย ๆ นะคะเดี๋ยวมิวมา”“จริง ๆ นะ ไม่หนีกลับบ้านก่อนจริงนะ”เขาคว้ามือเธอเอาไม้พร้อมกับซบหน้าลงไปที่ไหล่ของเธอด้วยความอดแรงเพราะพิษไข้ มิวไม่ทันสังเกตเขาก่อนหน้านี้ อากาศเมืองเหนือแม้ว่าจะยังไม่หนาว แต่เขาที่มาจากกรุงเทพและต้องมาเจอสภาพอากาศแบบนี้คงจะปรับตัวไม่ทัน อีกทั้งภาวินทร์ก่อนหน้านี้ก็แทบไม่กินไม่นอนทำให้ร่างกายของเขาอ่อนแอลงไปมาก“อยู่นี่นะคะเดี๋ยวมิวมา พี่วินทร์ไปนอนก่อน”เธอพยุงเขาไปที่เตียงก่อนจะดึงผ้าห่มมาห่มให้และหันไปเบาเครื่องปรับอากาศในห้องก่อนจะรีบวิ่งออกไปที่ห้องครัวซึ่งมีเพื่อนของน้าสายทำงานอยู่ในนั้นและหากล่องยาเข้ามาในห่อง เธอใช้เวลาเพียงไม่นานเพราะน้าบัว
“แต่พี่วินทร์บอกแล้วว่าจะไม่บังคับมิว”“ก็ไม่ได้บังคับแต่กำลังขอร้องอยู่ นะครับที่รัก”“ปล่อยก่อนสิคะ”“อย่าฝืนเลยน่า หลังจากนี้เราค่อย ๆ ปรับความเข้าใจกันนะแต่ตอนนี้พี่อยากจะออกกำลังกายเพื่อไล่ไข้หวัดสักหน่อย”“พี่วินทร์ อื้อ…”ลิ้นอุ่น ๆ ของเขาที่ฉกเข้ามาในปากทำให้มิวหลงลืมทุกอย่าง ที่เคยโกรธก็หายไปจนหมดทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นเธอคิดว่าจะหยุดความสัมพันธ์เอาไว้เพียงแค่นี้ แต่ภาวินทร์กลับตามเธอมาถึงบ้านยายเพื่อมาช่วยงานแม้แต่งานเสิร์ฟน้ำให้แขก รับส่งพระและงานที่เขาไม่เคยทำ เมื่อมาที่นี่เขากลับทำได้หมดโดยไม่ต้องขอร้องจนเพื่อน ๆ ของมิวยอมรับและเป็นฝ่ายบอกให้เธอยกโทษให้เขาแทน“อื้อ พี่วินทร์”“อย่าห้ามพี่อีกเลยนะ พี่คิดถึงมิวมาก หอมมากเลย…”สายบราของเธอถูกปลดออกไปโดยง่ายดายจากมือเดียวของวินทร์ ไม่นานร่างบางก็ถูกเขารวบขึ้นเตียงอีกครั้ง มิวคว้ารอบคอของเขาและจูบตอบอย่างโหยหาเช่นกัน“พี่รักมิวมากนะครับ อย่าทำแบบนี้อีกนะทำโทษพี่แค่นี้พอแล้วได้ไหม”“ถ้าพี่วินทร์สัญญาว่าจะไม่ใจร้ายเหมือนคืนนั้นอีก”“พี่สัญญาไม่ได้”“ทำไมละคะ”“เพราะพี่ขี้หึงมาก ทางที่ดีมิวก็อย่าทำให้พี่ต้องเป็นบ้าเหมือนคืนนั้นอี
“อนุวัตร” พ่อแท้ ๆ ของมิวเดินเข้ามา มิวเดินจับมือวินทร์ด้วยตัวที่สั่น ชินกรเริ่มหน้าซีดเมื่อเห็นมิวกับวินทร์ที่ทำหน้าตกใจและหันมาเชิงถามก่อนที่นิธิศและวีรภัทรที่เดินตามมา เมื่อภัทรเห็นก็ห้ามไม่ให้ธิศเดินต่อ“อย่าพึ่งเข้าไป มึงดูโน่น”อนุวัตรหยุดเดินก่อนที่จะหันมามองชินกรซึ่งเป็นคนที่พูดขึ้นมา“มิว คุณพ่อแค่อยากมาร่วมแสดงความเสียใจครั้งสุดท้าย อย่าว่าพ่อเลยนะ”มิวอึ้งไปพอ ๆ กับวินทร์ที่หันมามองหน้าชินกรด้วยความตกใจ แปลกใจและงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มิวหันมามองหน้าทั้งสองคน แน่นอนว่าเธอพึ่งจะรู้ว่าทำไมเธอถึงได้ไว้ใจชินกรและทำไมรู้สึกปลอดภัยเวลาที่ชินกรอยู่ใกล้ ๆ ที่แท้…เขาหน้าเหมือนพ่อของเธอไม่มีผิด“ว่าอะไรนะ พี่กรพูดว่า…. พ่องั้นเหรอ”“มิว ชินกรเป็นพี่ชายของมิว คือว่า…”“พี่วินทร์ มิวอยากกลับบ้านแล้ว”“มิว!”“ไอ้กรอย่าพึ่งพูดอะไรตอนนี้เลยกูขอพามิวกลับไปสงบอารมณ์ก่อน คุณอาครับถ้าคุณอาจะไปงานศพก็ให้กรพาไปนะครับผมกับมิวขอตัวก่อน”“มิว พ่ออยาก…”"พ่อครับ"ชินกรดึงแขนอนุวัตรเอาไว้ระหว่างที่วินทร์พามิวเดินไปที่รถตู้ของอู๊ตเพื่อให้เขาไปส่งที่บ้าน วินทร์ฝากกุญแจรถให้ภัทรที่ยืนรออยู่ พวกเขาแค
“ถ้าอย่างนั้นนี่ก็เป็นสาเหตุที่มิวเกลียดพ่อสินะ”"ใช่ พ่อเองก็รู้ตัวว่าทำผิด แต่ทุกเรื่องมันมีเหตุผล อีกอย่างเรื่องที่แม่ทำก็ไม่ได้ถูกต้องแม้ว่าพ่อจะรับผิดชอบ แต่ก็ไม่เคยละเลยน้าสุดากับมิว แม้ว่าน้าสุดาจะไม่ยอมรับจนถึงวันสุดท้ายก็ตาม ยายกับน้าสายรู้ดีว่าเธอปากแข็งไปเท่านั้นเพราะก่อนจะสิ้นใจพ่อได้มีโอกาสมาหาเธอและกอดเธอเป็นครั้งสุดท้าย ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกันจนน้าสุดาเสีย แต่เรื่องนี้มิวไม่รู้เรื่องและพ่อก็ไม่เคยปริปากบอกเธอเพราะยังรู้สึกผิดอยู่“ฉิบหายทำไมเรื่องมันวุ่นวายขนาดนี้วะ แล้วกูจะพูดยังไงกับมิวดี จะช่วยมึงกับคุณอายังไงวะ”“ไม่ต้องหรอกพ่อบอกแล้วว่ายังไงเรื่องแบบนี้ก็คงต้องใช้เวลา พ่อบอกรอได้จนกว่ามิวจะพร้อม อีกอย่างคุณย่าก็ไม่อยู่แล้ว ส่วนแม่ก็หย่ากับพ่อแยกทางกันนานแล้วต่อไปก็คงไม่มีอะไรต้องห่วงอีก วันนี้ที่พ่อมาก็แค่อยากมาส่งยายครั้งสุดท้ายเท่านั้นเอง”“เข้าใจแล้วเอาเป็นว่ากูจะค่อย ๆ พูดกับมิวให้ ยังไงท่านก็เป็นพ่อ อีกอย่างพ่อมึงก็ไม่ได้จะขาดความรับผิดชอบ แม่่ของมิวรู้ทุกเรื่องแต่ไม่มีโอกาสได้บอกมิว”“มึงก็รู้ว่ามิว…”“กูต้องรู้สิ มิวปากแข็งแต่ใจอ่อน นิสัยคงไม่ต่างกับแม่ของเ
มิวเองก็รู้ตัวว่าเคยทะเลาะกับน้าเรื่องนี้บ่อย ๆ หลายครั้งที่น้าสายบอกให้มิวลองติดต่อพ่อเพราะยายต้องรักษาตัว แต่เป็นมิวที่ดื้อและยืนยันว่าจะทำงานและหาเงินมารักษายายให้ได้ จนอาการของยายทรุดหนักลงเธอจึงหยุดเถียงน้าสาย และตัวน้าเองก็เลือกจะเงียบไปเพราะกลัวว่าอาการของยายจะแย่ลง“มิว…”“น้าไม่โทษแกหรอกเพราะแกก็ดื้อไม่ต่างกับแม่ แต่สุดท้ายแล้วแม่ก็ให้อภัยและยอมรับพ่อของมิว แม้ว่าจะยังไม่ทันได้จดทะเบียนสมรสแต่พ่อของมิวก็ตั้งใจที่จะมาที่นี่และอยู่กับแม่ของมิว”มิวปล่อยโฮเมื่อความจริงทั้งหมดออกมาจากน้าสาย เป็นเธอที่ดื้อรั้นไม่รับฟังจนยายเสียไป เวลานานเป็นสิบปีกว่าที่เธอจะเข้าใจ บัญชีเงินฝากมีเงินในนั้นเกือบสามล้านบาทเพราะพ่อของเธอโอนมาฝากให้เป็นประจำโดยที่ไม่มีการถอนออกมา ค่ารักษาของยายและทุนการศึกษาที่เธอได้เรียนทุกวันนี้ก็เป็นพ่อที่จ่ายให้“น้าสายมิวควรจะทำยังไงดี มิวไม่เคยรู้ว่าแม่อภัยให้เขาแล้วแต่ว่ามิว…”“น้าเข้าใจที่มิวโกรธ แต่ตอนนั้นมิวยังเด็กจึงดื้อไม่ฟังใครน้ากับยายก็เข้าใจ ทุกครั้งที่มีใครพูดถึงพ่อมิวก็จะโกรธและไม่คุยกับคนอื่น ยายไม่อยากเห็นมิวเป็นแบบนั้นก็เลยเลี่ยงไม่พูดมาตลอด น้าผิด
“ไอ้ธิศเนี่ยนะ! ไปยกของบ้าไปแล้วแน่ ๆ คนอย่างมันน่ะเหรอจะ…”“เอาไปไว้ทางโน้นค่ะ เร็ว ๆ เลยเหลืออีกหลายตัว”“ครับ ๆ รู้แล้ว ๆ ไม่ต้องดุมากได้ไหมชาติก่อนเป็นแมวเหรอขู่เก่งจัง”วีรภัทรหันไปมองนิธิศที่กำลังช่วยเพื่อนของมิวอีกคนยกพานพุ่มเข้าไปเก็บข้างใน ดูเหมือนจะเป็นพานที่ใช้ประกอบพิธีในคืนพรุ่งนี้ ตามไปด้วยเพื่อนที่เป็นสาวสองที่ชื่อริชชี่และแยมที่ช่วยกันยก “มีอีกไหม แรงพี่ยังเหลือนะ”“โน่นค่ะ แล้วอย่าบ่นนะว่าหนักขนาดริชชี่เป็นสาวยังยกไหวเลย”“ใครจะไปถึกเหมือนไอ้บ้านั่น”“พี่ธิศ!”“ครับ ๆ ไม่ว่า ๆ น้องริชชี่คนสวยมีอะไรให้พี่ช่วยอีกไหมครับ”“แหมยังเหลืออีกไม่เยอะค่ะ แยมแกก็อย่าไปขู่พี่เขามากสิ เดี๋ยวเขาก็ไม่ช่วยหรอก”“ก็….”“ไปน่า ๆ น้องแยมไม่ต้องพูด ไปช่วยพี่ยกของก่อนดีกว่ามาเถอะ ๆ”“นี่! ปล่อยมือนะพี่ธิศ บ้าเหรอมาลากแยมทำไม”แคร์หันไปแค่ยิ้มและหันมาจัดการข้าวต้มในชามตัวเองก่อนจะหันมามองท่าทางตกตะลึงของวีรภัทรที่ไม่เคยเห็นเพื่อนของเขาทำแบบนี้มาก่อน นิธิศเป็นคนปากดีและหยิ่งในศักดิ์ศรีมาก นอกจากมิวที่เคยด่าเขาหน้าคณะจนอายแล้วยังไม่เคยเห็นนิธิศยอมให้ผู้หญิงคนไหนใช้งานแบบนี้มาก่อน“เป็นไปได้
“โอ้โหน้องมิว วันนี้สวยเหมือนนางฟ้าจริง ๆ เลย”นิธิศเอ่ยปากชมด้วยใจจริง เขาเคยเห็นมิวมาก่อนหน้านี้แล้วในชุดบาร์เทนเดอร์และเห็นด้วยกับวินทร์ว่ามิวต้องสวยโดดเด่นในชุดไทยแน่ ๆ แต่ชินกรและวีรภัทรที่ไม่เคยเห็นถึงกับยืนอึ้งอ้าปากค้าง รวมถึงคนที่เริ่มมามุงดูกันและเริ่มสงสัยว่าเธอเป็นใคร“นั่นใครวะ คนของคณะพยาบาลเหรอ”“นั่นสิหน้าไม่คุ้นเลยแต่สวยฉิบหาย มึงดูรูปร่างสิอย่างกับนางแบบ”“นั่งรถหรูมาขนาดนั้นลูกนักการเมืองหรือเปล่าวะ”“แต่รุ่นพี่วิศวะคนนั้น….เขาแฟนของ…”“เฮ้ย! อย่าบอกนะว่าแฟนพี่ภาวินทร์คณะวิศวะเครื่องกลปีสี่คนนั้นน่ะ ที่ใส่แว่นหนา ๆ”“เชี่ย!! สวยขนาดนี้เลยเหรอวะ”ไม่ใช่แค่พวกเขาที่ตกตะลึงในความขาวและความสวยของลักษิกาตรงหน้า แม้แต่คณะอาจารย์และกรรมการที่เริ่มเดินมาให้คะแนนในรอบแรกที่จะขึ้นรถที่ตกแต่งเอาไว้แล้ว ซึ่งครั้งนี้ชินกรให้คนของคณะวิศวะมาช่วยแต่งรถของมิวด้วยดอกไม้สดทั้งคัน วินทร์เดินเข้ามาหาและถามเธอ“เป็นยังไงบ้างเมื่อยไหม”“ไม่ค่ะแล้วพี่วินทร์ละคะ เหนื่อยไหม”“ไม่เหนื่อยแค่เห็นหน้ามิวก็หายเหนื่อยแล้ว วันนี้มิวสวยมากที่สุดเลย สวยจนอยากขอแต่งงานเลย”“พี่วินทร์ พูดอะไรน่ะ”“หนัก
“คิดเอาไว้ไม่มีผิดเลยว่าต้องมีเรื่องแบบนี้”มิวพูดขึ้นมาหลังจากที่ริชชี่เดินออกมาจากร้านยืมชุดร้านที่สี่ที่เธอรู้จัก “นั่นสิ จะเป็นไปได้ยังไงที่จะไม่มีร้านไหนเลยที่มีชุดเหลือ แบบนี้มันเหมือนแกล้งกันชัด ๆ เลย”“กลับกันเถอะ”“อ้าว แล้วจะทำยังไงละมิว”“ค่อยกลับไปคิดกันใหม่”“แต่ว่าเหลืออีกแค่อาทิตย์เดียวเอง ช่างแต่งหน้าก็ยังหาไม่ได้แล้วไหนจะชุดอีก”“เอาไว้ค่อยคิด”เย็นวันนั้น วินทร์ที่พึ่งกลับมาจากเรียนช่วงบ่ายเข้ามาในห้องก็เห็นว่ามิวนอนอยู่ที่โซฟาโดยมีมือถือวางอยู่ แต่เธอหลับสนิทจึงไม่เห็นข้อความของแยมที่ส่งมาให้“ริชชี่บอกว่าหาไปถึงร้านเวดดิ้งที่ทองหล่อก็ยังหาไม่ได้เหมือนกัน สงสัยงานนี้คงได้ตัดชุดใส่เองแล้วมั้ง ฮ่า ๆ”เขาไม่ได้แอบอ่านเพราะข้อความมันเด้งขึ้นมาเองจากหน้าจอภาวินทร์ถึงได้รู้ว่าเกิดปัญหาขึ้นแต่เขาเห็นว่ามิวยังหลับสนิทอยู่จึงได้โทรไปหาริชชี่เพื่อนสนิทของมิวโดยตรงซึ่งเขามีเบอร์ของเพื่อนมิวเอาไว้ทุกคน“โอเคพี่รู้แล้ว ขอบใจมากนะริชชี่”วินทร์วางหูไปแล้วและรีบกดเบอร์โทรที่คุ้นเคยทันที เสียงปลายสายรับอย่างงัวเงียเพราะยังไม่ถึงเวลาตื่น“ว่าไงไอ้ตัวแสบยังจำเบอร์พี่สาวแกได้อยู่เหร
“ต้องแบบนี้สิวะถึงจะเรียกว่าน้องเขย”วินทร์หันมายักคิ้วให้ชินกรก่อนจะดูดกาแฟเย็นของเขาต่อ วินทร์ยื่นชาเขียวแก้วใหม่ให้มิว“ไม่ต้องห่วงพี่อยู่ข้างมิวเสมอ ไม่ต้องกลัวเพราะแพรวากับพี่ไม่ได้มีอะไรเกินเลยและพี่ไม่เคยล่วงเกินเธอ”“พี่เป็นพยานให้ไอ้วินทร์ได้ในเรื่องนี้ น้องแพรคนนั้นถ้ากูจำไม่ผิดมากับดาวคณะที่บอกว่าเป็นเพื่อนกัน สุดท้ายมาเพื่อจะเข้าหามึงใช่ไหม”“พอไอ้ธิศพูดกูก็นึกออกเพราะพวกเธอตบตีกันเองมึงเลยเลิกติดต่อทั้งคู่ น้องแพรวาอะไรนี่ดูเหมือนจะยังไม่ทันได้คบหากับมึงเลยด้วยนี่ แค่ให้มึงเดินไปที่คณะด้วยกันเพราะเป็นทางผ่าน ตอนนั้นกูก็ไปด้วย”“ไอ้ภัทรมึงความจำแม่นใช้ได้เลยนี่กูก็ลืมไปแล้ว”“ก็หลังจากวันนั้นพวกพยาบาลมาใช้ห้องของคณะเราไงล่ะ มึงกับไอ้ธิศเลยโดนน้องมิวด่าที่หน้าคณะจำได้ไหมล่ะ”“ไอ้เชี่ยภัทรไม่พูดก็ไม่มีใครว่านะ มึงรื้อฟื้นทำไมวะกูอุตส่าห์ลืมไปแล้ว”วินทร์หันมามองหน้ามิวและยิ้มให้กันอย่างเข้าใจ มิวรู้ดีว่าตอนนี้วินทร์จะอยู่ข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจยังไงก็ยังมีวินทร์และชินกร พี่ชายของเธอที่พร้อมจะช่วยเหลืออยู่เสมอ“มิว พ่อโทรมาหาพี่บอกว่าเรื่องที่จะเข้าประกวดพ่อบอกว่าให้มิวทำ
“ฉันว่าคนที่น่าห่วงน่ะไม่ใช่มิวหรอก แต่เป็นคนขี้อิจฉาอย่างเธอมากกว่า”“ยัยแคร์ หมายความว่ายังไง”แคร์ ริชชี่และแยมเดินมาพอดีพร้อมกับดึงมิวเข้ามา ดูท่าทางแพรวาเองก็เหมือนจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ “ก็เธอโดนทิ้งก็ไม่ได้หมายความว่ามิวจะเป็นอย่างเธอ ที่ฉันเห็นนะมิวกับพี่วินทร์คบหากันมานานเกินครึ่งปีแล้ว อีกอย่างตอนที่มิวโกรธ พี่วินทร์ถึงกับตามไปง้อถึงที่เลยนะ เรื่องแบบนี้เธอเคยเจอบ้างหรือเปล่า”“แก!”“อ๊ะ ๆ แคร์พูดไม่จบฉันขอต่อให้ก็แล้วกันนะ เรื่องของเธอกับมิวมันเอามาเทียบกันไม่ได้ แค่คนที่เคยคุยกับ "แฟน" น่ะ มันก็คนละเรื่องกันแล้ว อีกอย่างนะตอนนี้พี่วินทร์ก็ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนอีกเลย ไม่คิดเลยนะว่าพี่วินทร์จะคลั่งรักขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าไหมริชชี่"แพรวากำหมัดแน่นเพราะความอิจฉา เธอเคยคุยกับภาวินทร์และเคยควงเขาอยู่ไม่ถึงสิบวัน อาจเพราะเธอเซ้าซี้เขามากเกินไปและเรียกร้องขอให้เขามารับมาส่ง แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่ภาวินทร์จะทำตามที่เธอขอ ไม่เหมือนกับที่เขาถึงกับขับรถมาส่งมิวที่หน้าคณะอย่างเต็มใจแบบนี้“งานลอยกระทงปีนี้ ถ้าเธอคิดว่าเธอแน่จริงกล้ามาแข่งกับฉันไหมล่ะ”“อะไรนะ”“งานลอยกระทงของมหาวิทยาลั
มิวหันมามองหน้าเขาเมื่อรับจานจากวินทร์มาเข้าเครื่องล้างจาน“ทำไมจู่ ๆ พี่วินทร์มาถามเรื่องนี้กับมิวละคะ ไหนบอกว่าไม่อยากให้มิวทำยังไงล่ะ”“ก็ถ้า…พี่เรียนจบแล้วและต้องทำงาน อีกอย่างที่ร้านนั้นตอนนี้พ่อพี่ก็เป็นหุ้นส่วนใหญ่ ถ้าแต่งตัวให้ดี ๆ บาร์เทนเดอร์ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวโป๊นี่จริงไหม”“ก็จริงค่ะ ที่จริงมิวก็ไม่ได้ชอบการแต่งตัวแบบนั้นเท่าไหร่หรอกค่ะ แต่ตอนนั้นมันเลือกไม่ได้”“อีกอย่างตอนนี้มิวก็ไม่ต้องห่วงเรื่องทุนการศึกษาแล้วด้วย ไม่จำเป็นต้องปิดบัง พี่แค่อยากถามว่ามิวอยากทำหรือเปล่า แต่ใจพี่ยังไม่อยากให้มิวไปทำหรอกนะ เพราะปีหน้ามิวก็เรียนปีสุดท้ายแล้ว พี่อยากให้มิวเรียนให้จบก่อน”“ที่จริงมิวก็รักงานนี้นะคะ แต่ก็อย่างที่พี่วินทร์พูดนั่นแหละค่ะว่าคงต้องตั้งใจเรียนก่อน เอาเป็นว่าไปช่วยแค่ชั่วครั้งชั่วคราวได้เหมือนกับงานที่แล้ว”“แต่พี่จะไม่ให้ใส่ชุดแบบนั้นแล้วนะ ใส่ให้มันรัดกุมให้ดูเป็นผับที่ดูดีหน่อยไม่ใช่…”“ตอนนี้ที่นั่นมีใครดูแลอยู่เหรอคะ”“พี่รินทร์กับสามีไง วันนี้เธอมาที่นี่เพราะจะคุยเรื่องมิวนั่นแหละ พ่อคงไปบอกเรื่องของเราหมดแล้วเพราะคืนนั้นพ่อเห็นพี่ลากมิวออกมาจากงาน วันนี้พี่ร
มิวที่ช็อกอยู่หน้าประตูพยายามก้าวขาออกจากห้อง แต่ภาพตรงหน้าทำให้เธอตกใจจนขาแทบไม่กระดิก เมื่อสาวสวยคนนั้นหันมามองหน้าเธอ ส่วนภาวินทร์พยายามลุกขึ้นมา“ฟังพี่ก่อนนะ”“เธอเป็นใครน่ะวินทร์”มิวพยายามกลั้นน้ำตาและหันออกไปจากห้องแต่ภาวินทร์ที่พยายามลุกจากโซฟามาหาเธอกลับล้มตึงลงไปกับพื้นจนเธอตกใจและหันมา“ว้าย! ไอ้วินทร์! น้องคะมาช่วยพี่หน่อยเร็ว ๆ เข้า ไอ้บ้านี่ตัวอย่างกับยักษ์ แกไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะค่อย ๆ ลุก”“พี่รินทร์หลีกไปเลยผมบอกว่า…โอ๊ย!!”มิวตกใจแต่ก็ไม่ทันได้ถาม แต่สรรพนามที่ผู้หญิงสวยคนนั้นเรียกแฟนหนุ่มของเธอ หากฟังไม่ผิดพวกเขาน่าจะไม่ใช่อย่างที่มิวคิดเอาไว้ เธอรีบวิ่งมาประคองภาวินทร์ที่ล้มให้ลุกขึ้น ซึ่งตัวภาวินทร์ร้อนเหมือนไฟ“พี่วินทร์…ไม่สบายเหรอคะ”“ใช่ค่ะ มันไม่ยอมให้พี่โทรบอก น้องมิวใช่ไหมอย่าพึ่งถามตอนนี้ช่วยพี่ลากไอ้เด็กดื้อนี่เข้าห้องนอนก่อน”“เอ่อ ค่ะ ๆ”“ไม่ต้อง พี่รินทร์กลับไปเถอะ ผมมีมิวแล้วเดี๋ยวมิวจัดการเอง โอย…”“พี่วินทร์ อย่าพึ่งพูดเข้าไปในห้องก่อน”“กลับมาแล้วเหรอ กลับมาได้เสียที”แม้แต่เสียงของวินทร์ก็แหบจนแทบไม่มีเสียง มิวไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เธอก็รีบให้เขา
มิวรีบเดินออกมาจากห้องน้ำและไม่พูดอะไรกับเข้าอีก ปล่อยให้ภาวินทร์ยืนงงอยู่ในห้องน้ำ เขารีบอาบน้ำตามเธอออกมาเพื่อจะมาง้อแฟนสาวที่นั่งเป่าผมอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง“เอ่อ…”เธอเปิดเสียงไดร์เป่าผมให้ดังขึ้นและไม่สนใจเขาอีก วินทร์พยายามเดินวนรอบ ๆ จนต้องยอมถอยเพราะมิวคงไม่ฟังที่เขาพูดแน่ ดังนั้นจึงเดินไปเปลี่ยนชุดนอน มิวปิดที่เป่าผมและเดินมาเปลี่ยนชุดเช่นกัน“เอ่อ…”“ปิดไฟด้วยนะคะ”“เดี๋ยว… คุยกันก่อนไม่ได้เหรอครับ เมียจ๋า”“อย่ารบกวนคนจะนอนถ้ายังพูดอีกพรุ่งนี้มิวจะกลับหอ”วินทร์รูดซิปปากจนสนิทและยอมที่จะปิดไฟนอนแต่โดยดี มันตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขากลัวเธอมากขนาดนี้ ไม่สิเขาคิดว่าเข้าไม่ได้กลัว เขาแค่รักเธอมากขึ้นทุก ๆ วันจนไม่อยากเสียเธอไปต่างหากจึงได้ยอมลดนิสัยเอาแต่ใจของเขาลง อีกอย่างมิวแทบจะไม่เคยโกรธเขาจริง ๆ มาก่อนเลยถ้าไม่นับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่ยายของมิวจะเสีย“ขยับออกไป ร้อน”“แต่ว่าพี่นอนไม่หลับ”“มิวบอกว่ามิวร้อนไม่ได้ยินเหรอคะ จะนอนที่นี่หรือว่าจะไปนอนห้องนอนเล็ก”“ก็ได้ ๆ ไม่กวนแล้วก็ได้อย่าแยกห้องนอนเลยนะครับ”มิวขยับหนีเขาไปเกือบสุดเตียง คนตัวโตได้แต่นอนถอนหายใจและทำท่าเห
ภาวินทร์คว้าข้อมมือของมิวเดินผ่านผู้หญิงสองคนที่ซุบซิบพวกเขาอยู่ พวกเธอหลบตาเขาจนเขาเดินผ่านไปและไม่กล้าแม้แต่จะตอบโต้ มิวเห็นท่าทางโกรธของเขาจึงได้ยิ้มออกมา“ขำอะไรกัน ไม่โมโหเหรอที่ถูกคนว่าลับหลังแบบนั้น”“แล้วพี่วินทร์จะไปฟังทำไมละคะ”“ก็มันน่าโมโหนี่ ถ้ามิวแต่งตัวแต่งหน้าจัดเต็ม สวยกว่าพวกปากมากนั่นอีก”“เฮ้อ… ความปากดีของพี่วินทร์ไม่เคยลดลงเลยนะคะ”“แล้วไม่ชอบเหรอ”ภาวินทร์หันมาคว้าเอวของแฟนสาวเข้ามากอดพร้อมกับค่อย ๆ เอียงหน้าเข้ามาใกล้ ๆ มิวเบี่ยงหลบและตีไปที่ไหล่ของเขาจนวินทร์หัวเราะเพราะเธอเริ่มอายอีกแล้ว“เมือไหร่จะเลิกทำหน้าตาน่ารักนั่นเสียทีนะ พี่จะทนไม่ไหวอีกแล้ว”“พอเลยค่ะรีบกลับเถอะ ผักก็เลือกมาได้ไม่เท่าไหร่เองก็ไปหาเรื่องคนอื่น”“ไปซื้อที่อื่นก็ได้ไม่เห็นจะยากเลย พี่ไม่ชอบให้ใครมาพูดลับหลังแฟนพี่แบบนี้”“รีบไปเถอะค่ะเสียเวลา”“ครับผม”“แล้ววันหลังอย่าไปพูดแบบนี้อีกนะคะ ยังไงพวกเขาก็เป็นผู้หญิง”“ทำไมล่ะพวกนั้นนินทาได้แล้วพี่ตอบโต้กลับไม่ได้เหรอ…. ก็ได้ ๆ ไม่พูดก็ได้ครับ ไปคิดเงินกันนะอย่าโมโหสิ”วินทร์หยุดพูดเมื่อเห็นสายตาขุ่นเขียวที่ส่งมาให้เขา ตอนนี้เขาจะไม่ยั่วโมโหเ
“อะไรวะไอ้กร อย่ามาขู่กูเลย”“กูไม่ได้ขู่แต่มึงไม่เห็นเหรอ พ่อพยายามมาหลายปีให้มิวยอมรับ มึงว่ามหาลัยเรามีทุนให้เรียนมากขนาดนั้นเลยเหรอ”“มึงจะบอกว่าทุนที่มิวคิดว่าเป็นทุนจากมหาลัยนั่นที่จริงแล้ว…”“ทุนจากพ่อทั้งนั้นแหละ พ่อจัดการและคุยกับคณบดีโดยตรงโดยที่มิวไม่รู้มาสามปี ทั้งค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาลของยายและงานศพทั้งหมดนี่ก็ด้วย น้าสายรู้ดีที่สุดแต่มิวไม่รู้คิดว่าน้าสายจะเคลียร์หลังงานจบน่ะ”“กูเริ่มจะกลัวขึ้นมาจริง ๆ แล้วสิทีนี้”“ไม่ต้องห่วงหรอก แม้ว่าพ่อจะดีใจที่ได้ลูกสาวคืนแต่ก็คงไม่ถึงกับสั่งห้ามมิวเรื่องมึงหรอก แค่ต้องระวังให้มาก ๆ หน่อยเท่านั้น เกิดมึงอะไรพลาดขึ้นมากูแค่จะเตือนว่าแม้แต่กูก็ช่วยมึงไม่ได้เท่านั้นเอง”“เฮ้อ จากมิวคนเดียวที่ว่าง้อยากแล้ว นี่ยังเพิ่มพ่อตามาอีกคน กูตายแน่ ๆ ไม่เคยคิดเลยว่ามีเมียมันจะยากขนาดนี้”“เฮ้ย นี่มึงจะถอยตอนนี้เหรอวะ”“ฝันไปเถอะ กูรักของกูขนาดนี้มีเหรอจะยอมแพ้”“ขนาดนั้นเลยเหรอวะ ดูเหมือนว่ามึงจะทิ้งลายเจ้าชู้แล้วจริง ๆ เหรอวะไอ้วินทร์”“เออ ตั้งแต่กูเจอมิวกูก็ไม่ต้องการผู้หญิงคนอื่น ไม่คิดอยากจะหาและไม่มีอารมณ์กับใครด้วยนอกจากมิว”“มึงกล้าพูดแ