สีหน้าของเจียงชั่นเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอเองก็คิดอยู่นานดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับหยินเส่าฉิงมานานมากแล้ว ตั้งแต่เกิดเรื่องวุ่นวายในบ้านครั้งล่าสุด“ฉันไม่แน่ใจค่ะว่าเขาอยู่ที่หยางเฉิงหรือเปล่า?” เจียงชั่นตอบตามตรง “แต่เขาทำงานเป็นคนงานที่คฤหาสน์ตระกูลฮั่ว มีงานมากมายที่นั่นทุกวัน ไม่น่าเป็นไปได้ที่เขาจะลาออกแล้วใช่ไหมคะ?”“โอ้” เสิ่นเซียวพยักหน้า “ผมคิดว่าเขาคงออกไปจากหยางเฉิงแล้ว”“หมอเสิ่น!” เจียงชั่นพูดอย่างเร่งรีบ “ถึงแม้ว่าเขาจะปรากฎตัว แต่ก็ปล่อยให้เจอจือซินไม่ได้นะ”“ทั้งจือซินและจือสิงเองก็ตาม ฉันไม่อยากให้พวกเขาต้องเจอคนคนนี้ เขาอันตรายเกินไป”เสิ่นเซียวครุ่นคิดแล่วพยักหน้าเล็กน้อยตอนนั้นเองที่ผู้ช่วยเข้ามาบอกบางอย่างกับเขาด้วยความตื่นตระหนก “คุณฮั่วตื่นแล้วค่ะ แต่สภาพจิตใจของเธอไม่ดีนัก...”เสิ่นเซียวจึงรีบเข้าไปที่ห้องทันทีเจียงชั่นติดตามเขาเข้าไป ทันทีที่เข้าไปในห้องก็เห็นฮั่วจือซินมีท่าทางที่สงบ เขาจึงโล่งใจเล็กน้อยเสิ่นเซียวตรวจร่างกายเธอ หลังจากที่ไม่พบอะไรร้ายแรงเขาก็ยิ้มแล้วค่อย ๆ พูดคุยด้วยรอยยิ้มของเขาอบอุ่นราวกับแสงแดดในฤดูหนาวที่พร้อมจะขจ
“อาการที่เธอเป็นคืออาหารเป็นพิษน่ะครับ อาการไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร ผมได้ให้ยาไปแล้ว ในสัปดาห์นี้ก็พักผ่อนให้เยอะ ๆ นะครับ ไม่นานร่างกายก็จะฟื้นฟูครับ”เจียงชั่นอุทานถามขึ้น “อาหารเป็นพิษงั้นเหรอคะ?”“เป็นความผิดของผมแท้ ๆ” ฮั่วจือสิงมองไปที่เจียงชั่น“ชั่นชั่น…ซุปตอนเช้าที่ผมไม่ได้ให้คุณกิน เป็นเพราะผมสงสัยว่าป้าเฉินวางยา”เจียงชั่นอ้าปากค้างเธอรู้ดีว่าฮั่วจือสิงไม่ใช่คนที่สงสัยคนอื่นโดยไร้เหตุผล และยิ่งไปกว่านั้นเขาจะไม่กล่าวหาคนรับใช้เก่าที่ภักดีต่อเขาอย่างผิด ๆ แน่นอน“เดิมทีผมจะยกซุปมาให้คุณกิน แต่ตอนนั้นอาจูกระโดดขึ้นไปบนขอบหน้าต่างเพื่อหาของกิน ผมก็เลยตักไปให้มัน” “แต่พออาจูได้ดมมันก็เบือนหนีทันที”“ตั้งแต่ตอนนั้น ผมก็สงสัยว่าในซุปนั่นมันต้องมีอะไรแน่ ๆ ”เจียงชั่นเพิ่งจะเข้าใจว่าทำไมตอนนั้นเขาถึงดูหนักอกหนักใจ ทำไมถึงได้พูดคำพูดอะไรแปลก ๆ พูดว่าต่อไปไม่ต้องกินในสิ่งที่ป้าเฉินทำอีก…“ตอนบ่ายพอผมกลับมาถึงบ้าน ก็เห็นป้าเฉินกำลังยุ่ง” ฮั่วจือสิงพูดต่อ “ตอนนั้นผมก็รู้สึกสงสัยในตัวเธออยากจะให้เผยพิรุธออกมา เพราะงั้นตอนนั้นที่ป้าถามผมว่าทำไมถึงไม่กิน ผมเลยบอกว่าในข้างในซ
“อะไรนะ?” ฮั่วจือสิงหรี่ตาลง คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดหยัน “กลัวว่าจะหนีความผิดสิไม่ว่า!”เจียงชั่นมองไปที่เขาอย่างตะลึงบังเอิญมาก เมื่อคนที่เธอสงสัยคือหยินเส้าฉิงเหมือนกันเพราะนอกจากหยินเส้าฉิงกับฮั่วจือซินแล้ว ที่บ้านก็ไม่เคยต้อนรับแขกคนไหนอีกเลย“ฟางฮั่น” ดวงตาฮั่วจือสิงเฉียบดั่งเหยี่ยว “ตรวจสอบหรือยังว่าเขาไปที่ไหน?”ฟางฮั่นพยักหน้า “ตั๋วที่เขาจองบอกบินไปที่เจียงโจวครับ”ดูเหมือนว่าเจียงโจวนั่นจะมีอะไรดึงดูดเขา“ก่อนอื่นควบคุมคนงานระยะยาวของเขาที่บ้าน” เสียงของเขาเย็นชา “แล้วรีบส่งคนไปเจียงโจวเพื่อติดตามที่อยู่ของเขาซะ!”“ครับ”“ในเมื่อหยินเส้าฉิงเลือกที่หนีลาพักร้อนไประยะยาวแบบนี้ มันจะต้องมีคนคอยหนุนหลังเขาแน่นอน!”ดวงตาของฮั่วจือสิงเย็นชาและเขามีแผนเบื้องต้นอยู่ในใจแล้วหยินเส้าฉิงก็เหมือนเหยื่อตกปลา เขาต้องการใช้หยินเส้าฉงเพื่อดึงตัวคนที่หนุนหลังนั่นออกมา!ไม่ว่าเป็นใคร แต่เขาก็พอมีที่เดาอยู่ในใจบ้างแล้วฮั่วจือสิงหันไปมองเจียงชั่นที่ยืนเงียบอยู่ข้าง ๆ เขาเขาถอนหายใจเบา ๆ กอดเธอไว้ในอ้อมแขนและพูดกระซิบข้างหูเธอ “ชีวิตแบบนี้มันน่ากลัวมากเลยใช่ไหมล่ะ?”เจียงชั่น
ดวงตาของฮั่วจือสิงมืดลงเจียงชั่นก็ตกตะลึงเช่นกัน เธอจำได้ราง ๆ ว่าครั้งสุดท้ายที่หยินเส่าฉิงและฮั่วจือซินมาเที่ยวเล่น พวกเขาถืออะไรบางอย่างอยู่ในมือ“แต่ของพวกนั้นมันก็วางไว้อยู่ที่ห้องครัวตลอด ป้าเองก็ไม่ได้สนใจอะไร” เสียงป้าเฉินถอนหานใจยาว “วันนี้ป้าอยากตุ๋นรังนกพุทราให้คุณเจียงได้ทาน ก็เลยนำมันออกมา แต่ใครจะรู้ว่า…”การแสดงออกของฮั่วจือสิงเปลี่ยนไปอย่างรุนแรงในทันทีเพราะฉะนั้น หยินเส่าฉิงต้องไม่ใช่พนักงานธรรมดา ๆ แน่! จุดประสงค์ที่เขาเข้าใกล้ฮั่วจือซินนั้นชัดเจนแล้วเขาต้องใช้ฮั่วจือซินเป็นเครื่องมือในการกำจัดเจียงชั่น!เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นกับเขาและเจียงชั่น และพวกเขาอาศัยอยู่ในซีหยวน ตระกูลไป๋จะต้องรับผิดอย่างแน่นอนเมื่อถึงตอนนั้นตระกูลฮั่วและตระกูลไป๋จะต้องขัดแย้งกัน และทั้งสองฝ่ายจะแข่งขันกันเอง และจะไม่มีใครได้ประโยชน์...“จือสิง” เจียงชั่นยังตระหนักถึงความร้ายแรงของปัญหาอีกด้วย “เรื่องนี้ป้าหยุนต้องรู้!”“ผมเพิ่งคุยกับเสิ่นเซียวในช่วงเวลานี้เขาให้คำปรึกษาด้านจิตวิทยาแก่จือซินมาโดยตลอด สภาพจิตใจของจือซินไม่ดีและเธอมีอาการซึมเศร้าเล็กน้อย!”“หยินเส่าฉิงเป็นต้นเหตุทั้ง
“อะไรนะ?” ฮั่วจือสิงถึงกับหน้าบึ้งตึงและเขาไม่รู้เรื่องว่าครั้งที่แล้วหยินเส่าฉิงได้มาที่ซีหยวนเจียงชั่นนำเรื่องพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมา และพูดอีกว่า “ก่อนหน้าที่ฉันไม่ได้บอกคุณ หนึ่งคือฉันคิดว่าเรื่องมันแก้ปัญหาจบไปแล้ว เลยไม่มีความจำเป็นต้องบอกคุณอีก สองคือ…”“ฉันคิดง่ายเกินไป” เจียงชั่นหงุดหงิดมาก “ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าหยินเส่าฉิงจะแฝงตัวได้ลึกขนาดนี้!”“ไม่ต้องโทษตัวเองหรอก” ฮั่วจือสิงลูบไหล่ของเธอ “แม้แต่ผมก็คิดไม่ถึงว่าหยินเส่าฉิงจะเป็นคนแบบนี้”“โทรศัพท์เครื่องนี้ เป็นป้าเฉินที่ทำพัง ” เจียงชั่นมองหน้าเขา “ ตอนนั้นฉันเป็นห่วงว่าในโทรศัพท์จะมีรูปถ่ายของบ้านเรา กลัวว่าจะไม่ปลอดภัย ป้าเฉินก็เลยหาวิธีที่จะทำให้โทรศัพท์ตกลงไปในซุป”ฮั่วจือสิงพยักหน้าแม้ว่าโทรศัพท์จะพังแล้ว แต่หากต้องการกู้คืนข้อมูล จะยังคงเห็นว่ามีอะไรอยู่ในนั้น...เขาเอาโทรศัพท์ส่งคืนให้กับฟางฮั่น แค่สายตาฟางฮั่นก็รู้ว่าควรทำอะไร และรีบออกไปจัดการทันที“รีบเข้านอนเถอะนะ” ฮั่วจือสิงกอดเจียงชั่นไว้ เสียงทุ้มมีความอบอุ่นเล็กน้อย “พรุ่งนี้ตอนเช้าผมจะไปเยี่ยมจือซินแส และก็หาโอกาสเอาเรื่องนี้ไปบอกป้าหยุน”“ตามนิส
ไม่ใช่เพียงแค่เหตุผลที่เขาต้องแต่งงานกับเหยาม่านหนิงเท่านั้น แต่ยังเป็นเหตุผลที่เหยาม่านหนิงแสดงอำนาจต่อหน้าเธอหลายครั้งด้วย!ใครอยากจะให้คนอื่นมีอำนาจมากกว่าภรรยาตัวเองกันล่ะ?เธอกัดริมฝีปาก ทันใดนั้นรู้สึกว่าอึดอัด เธอจึงผลักเขาออกไปฮั่วจือสิงถึงกับชะงักนิ่ง สังเกตการแสดงออกของเธออย่างระมัดระวัง ไม่พลาดการแสดงออกที่ละเอียดอ่อนบนใบหน้าของเธอ“เป็นอะไรอีกล่ะครับ ที่รัก…”“ไม่มีอะไรนี่คะ” สีหน้าเจียงชั่นไร้อารมณ์ เธอรู้สึกเสียใจเล็กน้อยตอนที่ผลักเขาออกไปเธอรู้ดีว่าตัวเองงี่เง่าอีกแล้วแต่เธอแค่หงุดหงิดที่ผู้หญิงคนอื่นที่อยากได้ผู้ชายของเธอ!ฮั่วจือสิงยิ้มอย่างระรื่นและวางมือบนไหล่ของเธออีกครั้ง “ถ้าไม่มีอะไรล่ะก็…งั้นเรารีบเข้านอนกันดีกว่าไหมครับ?”“คุณนอนก่อนเลยค่ะ ฉันมีงานต้องทำ”“ยังมีงานอีกเหรอ?!” โทนเสียงของฮั่วจือสิงเปลี่ยนไปเจียงชั่นเหลือบมองเขาเบา ๆ เขาไม่ได้อารมณ์เสียทันที เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะยิ้ม จับมือเล็กๆ ของเธอและพูดคุยด้วยน้ำเสียงที่ดี“ชั่นชั่น ดึกดื่นขนาดนี้แล้ว อย่าทำเลยนะ…ปกติคุณก็ขยันจะตายอยู่แล้ว พักผ่อนบ้างคงไม่เป็นไรหรอกครับ”“ไม่ได้ค่ะ” เจีย
วันรุ่งขึ้นเจียงชั่นลากร่างกายที่อ่อนล้าของเธอไปทำงานฟู่ซิ่วอวี้มอบหมายงานให้เธอมากมายและไม่ได้สังเกตเห็นอะไรแปลก ๆ เกี่ยวกับเธอเลย เจียงชั่นเขินอายเกินกว่าจะบอก ดังนั้นเธอจึงต้องอดทนต่อความเหนื่อยล้าและการทำงานในขณะที่ยุ่งอยู่ก็แอบถอนหายใจ เธอจะไม่ยอมให้ผู้ชายคนนี้ทำตัวเหิมเกริมเพียงเพราะคำพูดที่น่าประทับใจของเขาอีกแล้ว!ทันใดนั้นก็มีคนมาเคาะโต๊ะของเธอพร้อมกับถามเสียงดัง “เป็นอะไร? ไม่สบายเหรอ?”พอเจียงชั่นเงยหน้า ก็พบกับฟู่ซิ่วอวี้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอห้องทำงานของเธออยู่นอกห้องทำงานของประธาน ดังนั้นฟู่ซิ่วอวี้จึงสามารถเรียกหาเธอได้ทุกเมื่อ“อ๋อ เปล่าค่ะ” เจียงชั่นส่ายหน้าอย่างเก้ ๆ กังๆฟู่ซิ่วอวี้หรี่ตา ยกมุมปากขึ้นและลดเสียงลง “เมื่อคืน…คงเหนื่อยแย่เลยสิท่า?”เจียงชั่นตกใจ ใบหน้าของเธอแดงก่ำราวกับว่าเลือดฉีดขึ้นเต็มหน้า และเธอก็ลุกขึ้นยืนทันที “ประธานฟู่ค่ะ ท่าน…”“ไม่เป็นไร ๆ จะมาอายอะไรกับฉัน !” ฟู่ซิ่วอวี้หัวเราะอย่างมีความสุข “งั้นเอาอย่างนี้ ฉันอนุญาตให้เธอลาครึ่งวัน แล้วกลับไปพักผ่อนซะ…”“ไม่ต้องหรอกค่ะ!” เจียงชั่นรีบพูดปัดปฏิเสธทันทีถ้าลากลับไปครึ่งวันก็ต้อง
“นอนเหรอ? ได้สิ!” เขายิ้มพูด “งั้นผมไปนอนเป็นเพื่อน…”“ฮั่วจือสิ่ง!” เจียงชั่นดุเขาด้วยเสียงอ่อน “ที่ฉันพูดหมายถึงนอนจริง ๆ ไม่ใช่เรื่องแบบนั้นสักหน่อย…”“ผมพูดแบบไหนเหรอ?”“…”เจียงชั่นไม่ได้พูดอะไรเลย จนเธอถูกเขาหลอกอีกครั้งฮั่วจือสิงโอบเอวบางของเธอไว้แนบชิดชาวต่างชาติหลายคนเดินผ่านไปฮั่วจือสิงยกแก้วขึ้นและยิ้มทักทายท่าทางของเขาในการยกแก้วนั้นก็แต๊ะอั๋งเจียงชั่นฟางฮั่นยังคงถอนหายใจ โดยตระหนักว่าการติดตามพวกเขาเป็นความผิดพลาด!ไม่รู้ว่าเขาสามารถหารือกับทางคุณชายเขาได้หรือเปล่า ว่าต่อไปเราจะเพิ่มรายการหนึ่งให้กับผลประโยชน์ของพนักงาน เช่นจัดโปรแพ็กเกจให้กับแฟนสาวให้ตายเถอะ… ตอนนี้มีร่างสวมชุดสีแดงราวสีกุหลาบถือแก้วแชมเปญเดินไปหาพวกเขาทั้งสองฮั่วจือสิงอยากจะออกไป แต่เจียงชั่นดึงเขาไว้และขยิบตาให้นั้นไม่ใช่เหยาม่านหนิงหรอกเหรอ ไม่ใช่เสือสิงห์กระทิงแรดดุร้ายที่ไหน…เจียงชั่นเบะปากและปรับเข้าสู่โหมดการต่อสู้ทันที “คุณเหยาคะ!” เธอทักทายด้วยรอยยิ้มที่ชื่นบาน“เฮอะ ก็นึกว่าใครที่แท้ก็คุณเจียงนี่เอง อยู่ที่นี่ด้วยเรอะ!” เหยาม่านนิ่งเชิดหน้าขึ้น โดยรักษาท่าทางที่สุภาพเอ
เจียงชั่นยิ้มแล้วไม่ตอบอะไรโมนาจึงรู้สึกตระหนกขึ้นมาถังอี้หรานเป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้ ภาพยนตร์ทุกเรื่องที่เขากำกับล้วนแต่ได้รับรางวัลในระดับนานาชาติไม่เพียงแค่มีชื่อเสียงในประเทศ แต่ยังมีชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์ระดับนานาชาติอีกด้วยทุกคนในวงการต่างก็กระตือรือร้นที่จะได้เข้าไปอยู่ในทีมของถังอี้หรานแน่นอนว่าโมนาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ถังอี้หรานเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถ ทุกคนรู้จักกันดีว่าเธอหยิ่งแค่ไหน แน่นอนว่าแม้แต่ดารายอดนิยมอย่างเธอถังอี้หรานก็ไม่แยแสแต่ตอนนี้...“เมื่อกี้นี้คุณโทรหาถังอี้หรานจริง ๆ เหรอ?”“ใช่ครับ” ผู้จัดการห่าวเหลือบมองเธอ “ผู้อำนวยการถังเพิ่งสร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่ คุณเนี่ยซินและคุณเจียงช่วยติดต่อกับเธอแล้ว”สีหน้าของโมนาเปลี่ยนไปด้วยความรู้สึกเสียใจอย่างมาก“ผะ..ผู้ช่วยเจียง” เธอมองเจียงชั่น “ผู้กำกับถังจะมาร่วมรายการนี้ด้วยเหรอ? แต่ฉันได้ยินมาว่าเธอไม่เคยปรากฎตัวในรายการวาไรตี้เลยนะ”เจียงชั่นยิ้มและยังคงไม่พูดอะไร“มันไม่ใช่รายการวาไรตี้ธรรมดา ๆ หรอกเหรอ?!” โมนาโกรธจัดเจียงชั่นเม้มปากแล้วเอ่ยอย่างใจเย็น “ไม่สำคัญหรอกค่ะ เพ
เจียงชั่นที่กำลังดื่มน้ำ เกือบพ่นน้ำออกมาทันทีที่ได้ยินหลังจากวางสายแล้วเธอก็เดินออกไปเห็นได้ชัดว่าดาราสาวเป็นคนที่ใจร้อนมาก หญิงสาวจ้องเจียงชั่นด้วยความไม่พอใจ“นี่น่ะเหรอที่เรียกว่ามืออาชีพ กำลังทำอะไรอยู่?” โมนาตะโกน “หยู่เฟิงมีเดียก็ใหญ่โตแล้วมีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้นะ จะดูแลได้ดีแน่เหรอ? เพิกเฉยต่อศิลปินแบบนี้มันไม่สุภาพเลยนะ!”ผู้จัดการห่าวทนไม่ไหว “คุณโมนามีมารยาทหน่อยได้ไหมครับ?”โมนาเหลือบมองเขา“ผู้ช่วยเจียงเป็นผู้ช่วยอาวุโสของคุณฟู่ เธอรับผิดชอบงานประชาสัมพันธ์และการฝึกอบรมต่าง ๆ ให้กับศิลปินทุกคน แม้แต่เนี่ยซินเองก็ต้องทำตามและให้ความร่วมมือกับผู้ช่วยเจียง”“คุณโมนาคิดว่าตัวเองมีสถานะที่สูงกว่าคุณเนี่ยซินงั้นสินะครับ?”ทุกคำพูดของผู้จัดการห่าวเน้นย้ำ โมนาจึงถอยหลังเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจเจียงชั่นยิ้มแล้วหยิบเอกสารจากโต๊ะขึ้นมา ในนั้นมีตารางงานของศิลปินหลายคนของบริษัท“นี่เป็นแผนการเดินทางของคุณค่ะ” เจียงชั่นยื่นเอกสารสำเนาให้กับโมนา “ในนั้นมีข้อควรระวังในการปรากฏตัวในรายการ เดี๋ยวฉันจะช่วยสื่อสารกับผู้จัดการส่วนตัวของคุณล่วงหน้า”“นีมันรายการอะไ
เจียงชั่นขมวดคิ้วพลางมองตามไปยังเสียงที่ได้ยินเธอเห็นหญิงสาวสวยแต่งตัวเรียบหรู สวมแว่นกันแดดอันใหญ่และต่างหูกับสร้อยคอที่ดูเว่อร์เดินนวยนาดเข้ามา“ไม่ได้บอกว่ามีทีมผู้บริหารที่เป็นมืออาชีพหรอกเหรอ?” เธอถอดแว่นนกันแดดอันใหญ่ออกแล้วมองเจียงชั่นด้วยท่าทางที่ไม่เป็นมิตร “แล้วอยู่ไหน?”ผู้จัดการห่าวและเจียงชั่นมองหน้ากันแล้วพยักหน้าเบา ๆเจียงชั่นยื่นมือออกมาแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณโมนาใช่ไหมคะ? ฉันคือ...”โมนาแสดงท่าทีที่หยิ่งออกมา เธอไม่ยอมจับมือกับเจียงชั่นเลยเจียงชั่นจึงหยุดค้างอยู่กลางอากาศแบบนั้น ก่อนจะดึงมือกลับเงียบ ๆผู้จัดการห่าวก้าวไปข้างหน้าแล้วเอ่ย “คุณโมนาครับ นี่คือคุณเจียงชั่นผู้ช่วยอาวุโสที่หยู่เฟิงมีเดียของเรา เธอรับผิดชอบในการจัดหาศิลปิน ถ้าหากว่าคุณมีคำถามอะไร สามารถคุยกับเธอได้เลยโดยตรง”“อ้อ เจียงชั่น!” โมนายิ้มในขณะที่ก้มลงมองเล็บมือที่เพิ่งทำมาของเธอ “มีประสบการณ์หรือเปล่า? ไม่ใช่ใครก็จะดูแลฉันได้นะ”“ไม่ต้องกังวลครับคุณโมนา แม้ว่าผู้ช่วยเจียงจะไม่ได้อยู่ในวงการนี้นาน แต่ความสามารถในการทำงานของเธอโดดเด่นมาก”“ความสามารถในการทำงานหรือยั่วผู้ชายกันแน่ที่โดด
“ไอ้สารเลว! แกมันน่ารังเกียจ”สีหน้าของหยินรั่วหงแดงจัดฮั่วจ่านเฮ่อมองกลับด้วยรอยยิ้ม ภายใต้แววตาเจ้าเล่ห์มีความชั่วร้ายอยู่เต็มเปี่ยมเครื่องบินส่วนตัวของฮั่วจือสิงตกจริง แต่หยินรั่วหงไม่รู้เรื่องนี้ในตอนนั้นเขาพบกับฮั่วจ่านเฮ่อที่งานเลี้ยงหลายแห่ง พวกเขาเป็นเพียงคนที่รู้จักกันเท่านั้นนอกเหนือจากการฝึกฝนด้านการแพทย์และเภสัชกรรมแล้ว ตระกูลหยินในหนานหยางยังเปิดสนามบินพลเรือนอีกด้วย สนามบินขนาดใหญ่หลายแห่งในหนานหยางอยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลหยินดังนั้นฮั่วจ่านเฮ่อจึงมีแผนนี้ขึ้นมา ทว่าเขาซ่อนความจริงนี้จากหยินรั่วหง ก่อนจะใช้อุบายในการใช้ช่างเทคนิคเข้ามาทำอะไรบางอย่างกับเครื่องบินของฮั่วจือสิง...จากนั้นเขาก็แกล้งทำกรรมธรรม์ก้อนใหญ่แล้วบอกหยินรั่วหงว่าเงินหลายล้านจะตกเป็นของเขาหยินรั่วหงไม่คิดมาก่อนว่าตัวเองจะกลายเป็นผู้ร้ายในการก่ออาชญากรรมที่เลวร้ายในครั้งนี้ด้วย“ประธานหยิน ถ้าเรื่องนี้ถูกพูดออกไป จะไม่มีใครฟังคำอธิบายของคุณหรอกนะ เพราะพวกเขาจะคิดว่าคุณเป็นคนที่ร่วมทำร้ายฮั่วจือสิงเหมือนกัน”“เมื่อถึงเวลาชื่อเสียงและความมั่นคงของคุณก็จะถูกทำลายลงไป”หยินรั่วหงหายใจเข
“ใช่”ฮั่วจือสิงขมวดคิ้วด้วยสีหน้าที่จริงจังขึ้นมาเล็กน้อย “ผมไม่ได้บอกเรื่องนี้กับชั่นชั่น ดังนั้นอย่าพูดเรื่องนี้เลยนะ...”“เกิดอะไรขึ้น?” “ช่วงนี้อาการบาดเจ็บที่ขา...มันมีอาการนิดหน่อยน่ะ”เสิ่นเซียวตกใจ รีบพาเขาไปเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดทันที“ไม่มีอะไรหรอก” ฮั่วจือสิงตบไหล่อีกฝ่าย “มันน่าจะกำเริบ ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ช่วงนี้อากาศเย็นลงมาก ก็จะเจ็บมากหน่อย”“ผมจำได้ว่าตอนนั้นคุณให้ยาผม ทั้งแบบกินแล้วก็แบบทา มันได้ผลดีมากนะ..วันนี้ก็เลยอยากจะให้สั่งยาเพิ่ม”เสิ่นเซียวลังเลอยู่นาน โดยที่ไม่พูดอะไร“มีอะไรรึเปล่า?”ฮั่วจือสิงนึกสงสัยว่าแพทย์อาจจะไม่สามารถสั่งยาได้ง่ายดายอย่างทีคิด?“จือสิง” เสิ่นเซียวมองเขาแล้วเม้มปากแน่น ในที่สุดก็ตัดสินใจเอ่ยออกมา “ที่จริงผม..ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือยาอะไร”“ว่าไงนะ?” ฮั่วจือสิงประหลาดใจ “แต่ตอนนั้นคนที่ให้ยากับผมคือคุณนะ”“ใช่ แต่ยานั่นมีคนมอบให้คุณอีกที”ฮั่วจือสิงยิ่งเกิดความสับสนมากขึ้นเสิ่นเซียวถอนหายใจแล้วบอกความจริงทั้งหมด“คุณลองคิดดูสิ ถึงผมจะจบจากโรงเรียนแพทย์มา แต่ตอนนั้นผมไม่ได้เป็นหมอมานานแล้ว ไม่เคยผ่า
“ครับ นายน้อย” ฟางฮั่นพยักหน้าแต่หยินรั่วหงเป็นคนค่อนข้างลึกลับ ไม่ชอบปรากฎตัวต่อสาธารณะแม้แต่ในงานประมูลวันนั้น ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้เจอหน้าเขา“ถ้านัดหมายในนามของเรา เขาจะต้องรับ” ฮั่วจือสิงคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว“แล้ว...ในนามของคุณชายสองล่ะครับ?”“ไม่จำเป็น” ฮั่วจือสิงเม้มปาก “บอกแค่ว่าปู่อยากเจอเขา”ฟางฮั่นสะดุ้งเล็กน้อย “นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ถ้ามีปู่ร่วมด้วย หยินรั่วหงจะไม่กล้าทำอะไร”ฮั่วจือสิงยิ้ม ก่อนจะปรับสีหน้าไปเป็นไม่พอใจอีกครั้ง“นายน้อย เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” ฟางฮั่นรู้สึกตระหนกเล็กน้อยฮั่วจือสิงลดเสียงทันทีและเจียงชั่นก็ยังอยู่ในครัว“เปล่า” เขาขยับตัวเล็กน้อย “ก็ปัญหาเดิม ๆ”“อาการบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเปล่าครับ?” ฟางฮั่นเป็นกังวลหลังจากเหตุการณ์เครื่องบินตก ฮั่วจือสิงได้รับบาดเจ็บหนัก แม้ตรวจแล้วทุกอย่างจะปกติดี แต่ก็มีเพียงอาการบาดเจ็บที่ขาเท่านั้นที่ยังมีผลกระทบที่ต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้“จริง ๆ มันก็ไม่ได้ร้ายแรง” เขายืดตัวขึ้นแล้วเอ่ยอย่างใจเย็น “ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลง ก็เลยเจ็บมากเป็นบางครั้งแต่ไม่รุนแรงมาก คงจะไม่เป็นอะไรถ้าฉันพอจะปรั
เจียงชั่นหน้าแดงด้วยความเขินอาย ในขณะที่ฮั่วจือสิงกำลังโมโห เธอรีบผละออกจากเขาแล้ววิ่งเข้าไปในบ้านทันทีฟางฮั่นอ้าปากค้าง สายเกินไปแล้วที่เขาจะหนีไปอีกคน...สีหน้าของฮั่วจือสิงมืดดำราวกับมีหมึกดำ ๆ มาป้ายไว้บนหน้าเขาเดินออกไปตรงลานสนามหญ้าอย่างรวดเร็ว พลางมองฟางฮั่นด้วยแววตาที่แข็งกร้าวและเย็นชาฟางฮั่วกระตุกยิ้มแห้ง ๆ หัวใจเต้นแรงจนจะกระเด้งออกมาจากปาก“เกิดอะไรขึ้น?” เขาเอ่ยตอนนี้ฟางฮั่นลืมทุกสิ่งที่เขาต้องการจะพูดแล้ว จึงมองคนตรงหน้าด้วยแววตาว่างเปล่าความเงียบไม่กี่วินาที ทว่าความรู้สึกกลับยาวนานเป็นทศวรรษจากนั้นเจียงชั่นก็ได้ยินเสียงคำรามเข้ม ๆ ของใครบางคนดังขึ้นมา “ฟางฮั่น!”ป้าเฉินที่กำลังเลือกผักอยู่สะดุ้งแล้วรีบวิ่งออกมาจากครัวทันที“เกิดอะไรขึ้นคะ?”เจียงชั่นนั่งหัวเราะอยู่บนโซฟา“เสี่ยวฟางมีเรื่องเหรอคะ?” ป้าเฉินส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ ก่อนจะกลับไปที่ห้องครัวพลางพึมพำกับตัวเอง “ตะเบ็งเสียงขนาดนี้ คงต้องทำซุปไว้ให้นายน้อยหน่อยแล้วล่ะนะ...”ที่สนามหญ้าเองเจ้าแมวส้มที่กินอาหารจนหมดก็กำลังเหวี่ยงร่างอ้วน ๆ ของมันไปมา ขณะที่มองชายหนุ่มทั้งสองแล้วร้องเหมียวสองสามครั้ง
จู่ ๆ ไป๋จิ่งหยวนก็รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นผิดจังหวะ แทบจะควบคุมเอาไว้ไม่ได้ใบหน้าที่ชัดเจนของเหยาหว่านยินสะกดเขาราวกับมีเวทย์มนตร์ ดวงตากลมคู่นั้นราวกับโลกที่ลึกลับกำลังดึงดูดให้เขาเข้าไปสำรวจไป๋จิ่งหยวนมองเธออย่างว่างเปล่า บรรยากาศโดยรอบเงียบลง ราวกับว่าทุกอย่างกำลังมุ่งความสนใจไปที่เธอลมเย็น ๆ ที่พัดกระโชกมาทำให้เหยาหว่านยินไอออกมาสองสามครั้งทำให้ไป๋จิ่งหยวนถอดเสื้อคลุมออกมาแล้วสวมให้กับเธอแทน“ไม่เป็นไร...”“ใส่เถอะ” เขาช่วยกระชับเสื้อให้กับเธอ “ไม่สบายเหรอคุณ? หรือว่าเป็นหวัด?”เหยาหว่านยินเม้มปากแล้วมองเขาเงียบ ๆตอนนี้เริ่มมีคนทะยอยออกมาจากประตูงานประมูล“ดูเหมือนงานจะจบแล้วล่ะ” ไป๋จิ่งหยวนเอ่ย “เอาล่ะ..เดี๋ยวผมไปส่ง คุณอยู่ที่ไหน?”เหยาหว่านยินชะงักแล้วส่ายหน้าเล็กน้อยทุกอย่างราวกับภาพฝัน ในตอนที่เธอตื่นเธอก็ต้องกลับสู่โลกของความเป็นจริงความจริงที่ว่าเธอเป็นลูกสาวนิรนามของตระกูลเหยา ไม่รู้ว่าจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอีกนานแค่ไหน ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง...ร่างบางหันหลังกลับแล้วเดินไปอย่างช้า ๆ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนของตระดูลเหยากำลังตามหาเธออยู่ไม่ไกล
“คุณชื่อหว่านยินเหรอ?” ไป๋จิ่งหยวนขมวดคิ้วดูสับสน “แล้วนามสกุลอะไร?”เหยาหว่านยินหลับตาลงแล้วนิ่งเงียบไป๋จิ่งหยวนจึงยิ้มกว้าง ไม่ว่าเธอจะนามสกุลอะไรแต่แค่ได้รู้จักชื่อก็ดีมากแล้ว“เอาล่ะ เดี๋ยวผมจะพาไปเดินเล่นในสวน” เขาเอ่ยพลางเดินออกไปจากประตู“นี่คุณ...”แต่ก่อนที่เขาจะออกไปได้ ร่างสูงก็ถูกเหยาหว่านยินรั้งเอาไว้เขาตะลึงก่อนจะหันกลับมามองเขายังไม่ได้ใส่กางเกง!ชายหนุ่มหน้าแดง ในขณะที่มองเหยาหว่านยินด้วยความตระหนก ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ใส่เธอดีเห็นอย่างนั้นเหยาหว่านยินก็รู้สึกขบขัน ใบหน้าที่ซีดเซียวเริ่มมีสีสันขึ้นมาทันทีไป๋จิ่งหยวนวิ่งเข้าไปในห้องแล้วรีบสวมกางเกงทันที ก่อนจะพาเหยาหว่านยินออกไปเดินเล่นในค่ำคืนของฤดใบไม้ร่วงช่างสวยงาม ภายในสวนที่ได้รับแสงแดดอบอุ่นมาตลอดทั้งวัน ยังคงมีกลิ่นอายของความอบอุ่นไปทั่วทั้งบริเวณ รอบข้างมีความเงียบสงบและมีเสียงนกนานาชนิดร้องเป็นระยะ ๆ แสงไฟดวงเล็ก ๆ ที่ตกแต่งสวยงามราวกับมีหิ่งห้อยกำลังบินอยู่เหยาหว่านยินสูดหายใจลึกแล้วหลับตาลงเบา ๆเธอยืนอยู่บนสนามหญ้าและหายใจได้อย่างอิสระ อิสระที่เธอเฝ้าใฝ่หามาทั้งชีวิต“ดีจัง” เธอหั