“ฮั่วจือสิง!”เมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินออกไปแบบนั้น ฮั่วจือเหยียนก็เบิกตากว้างรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก“นี่พี่ชาย” ฮั่วจือสิงหยุดแล้วเอียงศรีษะเล็กน้อยด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน “ปู่เคยบอกเอาไว้ว่าควรมองให้กว้างแล้วอย่าไปใส่ใจกับเรื่องผู้หญิงกับพี่น่ะ”“ก็เลยคิดว่าท่านพูดถูก ดังนั้น...”เขามองฮั่วจือเหยียนอย่างเย็นชา “ขอให้มีช่วงเวลาที่ดีก็แล้วกันนะ”ฮั่วจือเหยียนตกตะลึงทำไมกัน เมื่อกี้นี้เขายังต่อสู้กับเขาอย่างเอาเป็นเอาตายไม่ใช่หรือไง? เขาเกือบจะถูกฮั่วจือสิงบีบคอจนตายแท้ ๆ?ฮั่วจือเหยียนรีบหันไปหยิบปืนลูกซองในขณะที่กำลังบรรจุกระสุน ฮั่วจือสิงก็รีบหันกลับมาแล้วใช้ปืนพกจี้ศีรษะอีกฝ่ายทันที“พี่ชาย” เขายิ้มเย็นชา “เคยบอกพี่กับลุงไปแล้วนี่ว่าอย่าลอบกัดกันข้างหลัง ไม่งั้นจุดจบจะเลวร้ายมากขนาดไหน ยังไม่ลืมใช่ไหม?”ใบหน้าของฮั่วจือเหยียนซีดลง ก่อนจะยอมวางปืนลูกซองลงฮั่วจือสิงมองคนตรงหน้าด้วยแววตาดูถูก แต่ก่อนที่จะก้าวออกไปจากประตูก็มีเสียงกรีดร้องดังมาจากทางด้านหลัง“กู้หม่าง!”เจียงเหยาวิ่งเข้ามาหาเขาด้วยความสิ้นหวัง ทว่าเท้ากลับไปสะดุดกับผ้าปูที่นอนจนล้มลงไปกับพื้นอย่างแรง เธอเพิกเฉยต่อ
ฟางฮั่นตกตะลึง เพราะวันนี้เขาจะต้องไปหาคณะกรรมการเพื่อหารือเรื่องการปฏิรูปบริษัท ฮั่วจือสิงจะกลับไปที่เจียงโจวในช่วงเวลาที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ได้ยังไง“นายน้อยกำลังกังวลเรื่องคุณเจียงใช่ไหมครับ?” ฟางฮั่นเอ่น “ไม่ต้องห่วง ตอนนี้คนของผมกำลังจับตาดูเธออยู่ คุณเจียงยังคงปลอดภัยดีครับ”“แล้วทำไมเธอถึงไม่รับโทรศัพท์ฉัน!” ฮั่วจือสิงอดไม่ได้ที่จะคำรามออกมาด้วยความกังวลฟางฮั่นเองก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไงจริง ๆ แล้วการที่หญิงสาวไม่รับสายก็น่าจะมีหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะโทรศัพท์แบตหมด ไม่ได้ยิน หรือแม้แต่ไม่มีสัญญาณก็เป็นไปได้...อีกอย่างต้องรับสายทันทีกลางดึกแบบนี้ เจียงชั่นจะไม่หลับไม่นอนเลยหรืออย่างไร? นายน้อยของเขาเองก็เช่นกัน...ฮั่วจือสิงอดไม่ได้ก่อนจะรีบไปหยิบกุญแจรถแล้ววิ่งออกไปทว่าจู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขามองหน้าจออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะรับสายด้วยมือที่สั่นเทาเล็กน้อย“ที่รัก...”“ฉันขอโทษค่ะ” น้ำเสียงของเจียงชั่นราวกับเสียงของคนที่เพิ่งตื่นนอน “เมื่อตอนเย็นฉันไปทานข้าวกับเพื่อนแล้วเราก็ดื่มเบียร์กัน...”“คุณก็รู้นี่คะว่าเวลาที่ฉันดื่มมากไปฉันมักจะหลับ พอถึงบ้านฉันก็สลบไ
ฮั่วจือซินบิดตัวแล้วลุกขึ้นจากเตียง ร่างบางเอนตัวพิงกรอบประตูด้วยความงัวเงียเมื่อได้กลิ่นหอมลอยคลุ้งมาจากภายในครัว เธอก็รู้สึกร่าเริงขึ้นมาทันที ก่อนจะวิ่งเท้าเปล่าตามกลิ่นหอมนั้นไปและแล้วภาพที่เห็นบนโต๊ะอาหารก็ไม่ทำให้เธอผิดหวังเลยจริง ๆ“ว้าวพี่สาว นี่พี่ทำเองทั้งหมดเลยใช่ไหม?” เธออุทาน “อย่างกับเสกเอาแน่ะ!”เจียงชั่นยิ้มแล้วนำไข่และโจ๊กเนื้อที่เตรียมไว้มาวางไว้ให้ทันที“รีบกินสิ” เธอยื่นจานชามให้กับฮั่วจือซิน “พี่ไม่รู้ว่าเธอชอบกินอะไร ก็เลยทำมาอาหารจีนและตะวันตกด้วยนิดหน่อย”“สุดยอดมากเลย!” ฮั่วจือซินรีบหยิบขนมปังขึ้นมากัดราวกับเจ้าแมวเหมียวจอมโลภ ในขณะที่อีกมือถือแป้งทอดเอาไว้อย่างพอใจอาหารทุกอย่างควรจะกินในตอนที่มันยังร้อน ๆ เจียงชั่นเป็นคนที่ทำอาหารค่อนข้างเก่ง เธอสามารถทำให้วัตถุดิบธรรมดา ๆ เหล่านี้กลายเป็นอาหารที่แสนอร่อยได้ ไม่แปลกใจเลยที่คุณชายฮั่วผู้เป็นพี่ชายของสาวน้อยจะมีความสุขมากเวลาที่อยู่ที่นี่ จะมัดใจชายต้องใช้เสน่ห์ปลายจวักจริง ๆเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ฮั่วจือซินก็หัวเราะออกมา“เป็นอะไรไป?” เจียงชั่นมองเธอแปลก ๆ “ได้กินอาหารเช้าแล้วมีความสุขขนาดนั้นเลยสิ
แม้ในที่สุดก็พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ก็ต้องคอยระวังอย่าให้มีเรื่องมากระตุ้นจิตใจอีกดังนั้นฮั่วจือสิงจึงต้องเข้ามาช่วยดูแลตระกูลฮั่วก่อนชั่วคราวทำให้การวางแผนกลับเจียงโจวต้องเลื่อนออกไปครั้งแล้วครั้งเล่าเจียงชั่นเองก็ไม่ได้งอแง หญิงสาวเข้าใจและยอมให้เขาจัดการเรื่องของตัวเองต่อไปทว่าเขากลับกังวล การที่ไม่ได้เจอหน้าเธอเลยหลาย ๆ วัน มันทำให้จิตใจของเขาไม่สงบ“ตอนนี้เข้าเยี่ยมท่านได้หรือเปล่า?”“ลุงเฉินบอกว่าตอนนี้มีคุณชายสองกำลังดูแลอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”ฮั่วจือสิงสะดุ้งก่อนจะถอนหายใจออกมาเขาจำได้ว่าเมื่อสองวันก่อนหวังเหม่ยหยุนและฮั่วจ่านเผิงทะเลาะกันทางโทรศัพท์ เหตุผลก็เพราะว่าฮั่วเหวินหยวนป่วย หวังเหม่ยหยุนจึงขอให้ฮั่วจ่านเผิงรีบเอาซุปและยาบำรุงไปให้ถึงที่แต่ฮั่วจ่านเผิงก็ยังคงไม่ทำอะไรหวังเหม่ยหยุนจึงดุเขาด้วยความโกรธ “ถ้าตอนนี้คุณยังไม่ทำอะไร พี่ชายของคุณจะขโมยทุกอย่างไปจากคุณนะฮั่วจ่านเผิง ทำไมถึงได้ขี้ขลาดแบบนี้! แม้จะพยายามคว้าส่วนที่เหลือคุณก็ไม่มีทางเอาชนะฮั่วจ่านเฮ่อได้หรอก!”เธอพูดถูกฮั่วจือสิงส่ายหัวแล้วกำลังจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ ทว่าก็มีผู้ช่วยเอาเอกสารกองหนึ่งเ
ความคิดของฮั่วจ่านเฮ่อเองก็ตรงกันแม้ว่ากู้หม่างจะได้ถูกฝึกฝนมาอย่างลับ ๆ แต่นับตั้งแต่ถูกจับ เขาก็ยังไม่สามารถเทียบกับฮั่วจือสิงได้เลยแม้จะฝึกขนาดไหนก็ไม่สามารถเป็นเสือได้อย่างที่ต้องการเขาส่งกู้หม่างไปที่อังกฤษเพื่อแกล้งทำตัวเป็นฮั่วจือสิงจากนั้นก็เซ็นสัญญาโกงเงิน แต่คนที่อยู่อังกฤษในตอนนั้นกลับเป็นแม่แท้ ๆ ของฮั่วจือสิงเองกลัวว่าเรื่องจะบานปลายขึ้นมา ฮั่วจ่านเฮ่อจึงนั่งไม่ติด“กู้หม่างคนนั้นดูเหมือนกับจือสิงจริง ๆ เหรอ?” ฮั่วเหวินหยวนถามฮั่วจ่านเฮ่อเอ่ยในขณะที่เหงื่อออกตรงหน้าผาก “ครับ...”“ยิ่งกว่านั้นผมได้ยินมาว่าเดิมทีกู้หม่างได้หมั้นหมายกับลูกสาวตระกูลเจียง แต่ด้วยความผิดพลาดบางอย่าง จือสิงก็เลยได้ไปแต่งงานแทนเพื่อพักฟื้น จากนั้น..”ฮั่วจ่านเฮ่อรีบหุบปาก หากว่าพูดต่อไปเขาอาจจะได้เข้าไปถึงเรื่องเครื่องบินตกอย่างช่วยไม่ได้“เรื่องมัน…ก็เลยกลายเป็นแบบนี้น่ะ” ฮั่วจ่านเฮ่อยิ้ม “มันก็แค่เรื่องเข้าใจผิดน่ะครับพ่อ บางทีเพราะจือสิงไม่เคยสัมผัสกับผู้หญิงที่มีฐานะต่ำกว่าตัวเองมาก่อน เขาก็อาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องแปลกใหม่”“เมื่อไหร่ก็ตามที่เรากำจัดเธอได้ จือสิงก็จะยังกลายเป็น
“เป็นยังไงบ้างจ๊ะลูกชาย?” ทันทีที่ได้ยินน้ำเสียงที่เด็ดเดี่ยวฮั่วจือสิงก็หัวเราะเบา ๆ “ทำไมแม่โทรมาตอนนี้ล่ะครับ?”เมื่อดูจากเวลาตอนนี้ที่ลอนดอนน่าจะเป็นเวลาเช้าตรู่ แม่ของเขามีตำแหน่งสำคัญในสมาคมจึงจะไม่ค่อยมีเวลาคุยกับเขาหลังเลิกงาน“แม่ต่างหากที่จะต้องถาม ว่าส่งลูกชายตัวปลอมมาหาแม่ทำไม?”“ไม่กี่วันมานี้ไม่รู้ว่าเขาหายไปไหนแล้ว?”ฮั่วจือสิงขมวดคิ้วถ้าพูดให้ชัดนั่นก็แสดงว่าฮั่วจ่านเฮ่อและฮั่วจือเหยียนได้เริ่มลงมือแล้วฮั่วจือสิงวางสายด้วยความรู้สึกไม่ดีในใจ“ฟางฮั่น” เขาเอ่ยเสียงทุ้ม “ตอนนี้ลุงสองกำลังทำอะไร?”“ดูเหมือนว่าจะอยู่ข้าง ๆ คุณท่านตลอดเวลาเลยครับ”“แล้วฮั่วจือเหยียนล่ะ?”ก่อนที่ฟางฮั่นจะทันได้ตอบ ความไม่สบายใจของฮั่วจือสิงก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นเขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ราวกับว่ากำลังถูกควักหัวใจออกไปเขาโทรหาเจียงชั่น ทว่าไม่มีคนรับสายฮั่วจือสิงจึงดูเครียดขึ้นมาทันที ก่อนจะตัดสินใจ “จองตั๋วเครื่องบินแล้วกลับไปที่เจียงโจวเดี๋ยวนี้!”“แต่ว่านายน้อย...”“ไม่เข้าใจที๋ฉันสั่งหรือไง!!”ฮั่วจือสิงเริ่มวิตกกังวลโดยไม่มีเหตุผล มือแกร่งดึงเนคไทออกอย่างแรง ในขณะ
การแสดงออกของกู้หม่างเปลี่ยนไป ในขณะที่แอบมีดพกไว้ในแขนเสื้อด้วยการมาที่นี่ ฮั่วจ่านเฮ่อบอกให้เขาจัดการทุกอย่างอย่างรวดเร็ว พูดให้น้อยและอย่าให้คนอื่นเห็นทว่าดูเหมือนผู้หญิงตรงหน้าจะไม่ใช่คนที่เขาจะรับมือได้ง่าย ๆนอกจากนี้หากเขาต้องหารที่จะฆ่าเธอ เขาจะต้องลากเธอไปในที่ลับตา มันดูไม่ฉลาดเลยถ้าจะก่อเหตุฆาตกรรมในร้านกาแฟแบบนี้กู้หม่างอดไม่ได้ที่จะมองเธออีกสองสามครั้งนี่คือเจียงชั่นภรรยาของฮั่วจือสิงที่ได้มาแต่งงานแทนเขาในตอนที่เขาเจอกับช่วงวิกฤติของชีวิต ฮั่วจือสิงได้เข้ามาแก้ปัญหาที่สำคัญในชีวิตของเขาไปแล้วเขาหรี่ตาลงพิจารณาคนตรงหน้า จะว่าไปเจียงชั่นเองก็เป็นผู้หญิงที่สวยมากจริง ๆ คงจะน่าเสียดายถ้าเขาฆ่าตายไปเฉย ๆ โดยที่ยังไม่ได้สนุกด้วยเลย...กู้หม่างยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่จะมีความชั่วร้ายแวบเข้ามาในแววตาเขากระแอมไอสองสามครั้งเพื่อปกปิด เจียงชั่นจึงรีบเทน้ำและขอให้เขานั่งรอ เธอสวมผ้ากันเปื้อนแล้วเข้าไปเตรียมอาหารง่าย ๆ ด้วยความชำนาญจากหางตาเธอเองก็กำลังมองการเคลื่อนไหวที่ไม่สงบสุขของเขาเช่นกัน ชายหนุ่มนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยสีหน้าแปลก ๆ ในขณะที่สายตาก็สอดส่องไปทั่วทั้
“แต่ก่อนหน้านั้น...”.........ฮั่วจือสิงโทรหาเจียงชั่นทันทีที่เขาลงจากเครื่องบิน แต่ไม่มีใครรับสายความรู้สึกที่ไม่ดีเริ่มกัดกินหัวใจของเขาราวกับแมลงร้ายนับล้านตัวเขารีบกลับบ้านแล้วตรงเข้าไปหาคนที่ฟางฮั่นส่งมาทันทีทุกคนตกตะลึงที่เห็นเขา“คุณชายสาม คุณ...คุณไม่ได้ไปที่ร้านกับเธอหรอกเหรอครับ?”“ว่าไงนะ?” หัวใจของฮั่วจือสิงเจ็บแปลบ “ร้านอะไร?”“คนของเราเพิ่งบอกว่าเห็นคุณเข้าไปในร้านกาแฟด้วยกันกับตาตัวเอง ก่อนหน้านี้พี่ฮั่นก็กำชับด้วยว่าอย่าไปรบกวนเวลาที่คุณกับคุณเจียงอยู่ด้วยกัน พอเห็นพวกคุณเข้าไปในร้านพวกเขาก็เลยออกมากันหมด”“บัดซบเอ้ย!!”ทันใดนั้นฮั่วจือสิงก็เข้าใจทุกอย่างคนที่เข้าไปในร้านพร้อมกับเจียงชั่นคือกู้หม่างตัวจริง ตอนนี้เธอกำลังเผชิญหน้ากับเขาเพียงลำพัง“ขับรถไปที่นั่นเดี๋ยวนี้!”บอดี้การ์ดหลายคนมองหน้ากันแล้วขึ้นรถทันที พยายามไปถึงที่ร้านกาแฟให้เร็วที่สุด.....เจียงชั่นถูกกู้หม่างตบเข้าที่ใบหน้าจนรู้สึกเจ็บปวดไปหมดจนมุมปากมีเลือดซิบออกมา เธอพยายามดิ้นหนีสุดกำลัง แต่กู้หม่างก็ค่อย ๆ เอามีดพกจี้ไปที่คอจนเลือดค่อย ๆ ไหลออกมาเช่นกันในขณะที่ใช้มืออีกข้างดึง
เจียงชั่นยิ้มแล้วไม่ตอบอะไรโมนาจึงรู้สึกตระหนกขึ้นมาถังอี้หรานเป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้ ภาพยนตร์ทุกเรื่องที่เขากำกับล้วนแต่ได้รับรางวัลในระดับนานาชาติไม่เพียงแค่มีชื่อเสียงในประเทศ แต่ยังมีชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์ระดับนานาชาติอีกด้วยทุกคนในวงการต่างก็กระตือรือร้นที่จะได้เข้าไปอยู่ในทีมของถังอี้หรานแน่นอนว่าโมนาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ถังอี้หรานเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถ ทุกคนรู้จักกันดีว่าเธอหยิ่งแค่ไหน แน่นอนว่าแม้แต่ดารายอดนิยมอย่างเธอถังอี้หรานก็ไม่แยแสแต่ตอนนี้...“เมื่อกี้นี้คุณโทรหาถังอี้หรานจริง ๆ เหรอ?”“ใช่ครับ” ผู้จัดการห่าวเหลือบมองเธอ “ผู้อำนวยการถังเพิ่งสร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่ คุณเนี่ยซินและคุณเจียงช่วยติดต่อกับเธอแล้ว”สีหน้าของโมนาเปลี่ยนไปด้วยความรู้สึกเสียใจอย่างมาก“ผะ..ผู้ช่วยเจียง” เธอมองเจียงชั่น “ผู้กำกับถังจะมาร่วมรายการนี้ด้วยเหรอ? แต่ฉันได้ยินมาว่าเธอไม่เคยปรากฎตัวในรายการวาไรตี้เลยนะ”เจียงชั่นยิ้มและยังคงไม่พูดอะไร“มันไม่ใช่รายการวาไรตี้ธรรมดา ๆ หรอกเหรอ?!” โมนาโกรธจัดเจียงชั่นเม้มปากแล้วเอ่ยอย่างใจเย็น “ไม่สำคัญหรอกค่ะ เพ
เจียงชั่นที่กำลังดื่มน้ำ เกือบพ่นน้ำออกมาทันทีที่ได้ยินหลังจากวางสายแล้วเธอก็เดินออกไปเห็นได้ชัดว่าดาราสาวเป็นคนที่ใจร้อนมาก หญิงสาวจ้องเจียงชั่นด้วยความไม่พอใจ“นี่น่ะเหรอที่เรียกว่ามืออาชีพ กำลังทำอะไรอยู่?” โมนาตะโกน “หยู่เฟิงมีเดียก็ใหญ่โตแล้วมีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้นะ จะดูแลได้ดีแน่เหรอ? เพิกเฉยต่อศิลปินแบบนี้มันไม่สุภาพเลยนะ!”ผู้จัดการห่าวทนไม่ไหว “คุณโมนามีมารยาทหน่อยได้ไหมครับ?”โมนาเหลือบมองเขา“ผู้ช่วยเจียงเป็นผู้ช่วยอาวุโสของคุณฟู่ เธอรับผิดชอบงานประชาสัมพันธ์และการฝึกอบรมต่าง ๆ ให้กับศิลปินทุกคน แม้แต่เนี่ยซินเองก็ต้องทำตามและให้ความร่วมมือกับผู้ช่วยเจียง”“คุณโมนาคิดว่าตัวเองมีสถานะที่สูงกว่าคุณเนี่ยซินงั้นสินะครับ?”ทุกคำพูดของผู้จัดการห่าวเน้นย้ำ โมนาจึงถอยหลังเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจเจียงชั่นยิ้มแล้วหยิบเอกสารจากโต๊ะขึ้นมา ในนั้นมีตารางงานของศิลปินหลายคนของบริษัท“นี่เป็นแผนการเดินทางของคุณค่ะ” เจียงชั่นยื่นเอกสารสำเนาให้กับโมนา “ในนั้นมีข้อควรระวังในการปรากฏตัวในรายการ เดี๋ยวฉันจะช่วยสื่อสารกับผู้จัดการส่วนตัวของคุณล่วงหน้า”“นีมันรายการอะไ
เจียงชั่นขมวดคิ้วพลางมองตามไปยังเสียงที่ได้ยินเธอเห็นหญิงสาวสวยแต่งตัวเรียบหรู สวมแว่นกันแดดอันใหญ่และต่างหูกับสร้อยคอที่ดูเว่อร์เดินนวยนาดเข้ามา“ไม่ได้บอกว่ามีทีมผู้บริหารที่เป็นมืออาชีพหรอกเหรอ?” เธอถอดแว่นนกันแดดอันใหญ่ออกแล้วมองเจียงชั่นด้วยท่าทางที่ไม่เป็นมิตร “แล้วอยู่ไหน?”ผู้จัดการห่าวและเจียงชั่นมองหน้ากันแล้วพยักหน้าเบา ๆเจียงชั่นยื่นมือออกมาแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณโมนาใช่ไหมคะ? ฉันคือ...”โมนาแสดงท่าทีที่หยิ่งออกมา เธอไม่ยอมจับมือกับเจียงชั่นเลยเจียงชั่นจึงหยุดค้างอยู่กลางอากาศแบบนั้น ก่อนจะดึงมือกลับเงียบ ๆผู้จัดการห่าวก้าวไปข้างหน้าแล้วเอ่ย “คุณโมนาครับ นี่คือคุณเจียงชั่นผู้ช่วยอาวุโสที่หยู่เฟิงมีเดียของเรา เธอรับผิดชอบในการจัดหาศิลปิน ถ้าหากว่าคุณมีคำถามอะไร สามารถคุยกับเธอได้เลยโดยตรง”“อ้อ เจียงชั่น!” โมนายิ้มในขณะที่ก้มลงมองเล็บมือที่เพิ่งทำมาของเธอ “มีประสบการณ์หรือเปล่า? ไม่ใช่ใครก็จะดูแลฉันได้นะ”“ไม่ต้องกังวลครับคุณโมนา แม้ว่าผู้ช่วยเจียงจะไม่ได้อยู่ในวงการนี้นาน แต่ความสามารถในการทำงานของเธอโดดเด่นมาก”“ความสามารถในการทำงานหรือยั่วผู้ชายกันแน่ที่โดด
“ไอ้สารเลว! แกมันน่ารังเกียจ”สีหน้าของหยินรั่วหงแดงจัดฮั่วจ่านเฮ่อมองกลับด้วยรอยยิ้ม ภายใต้แววตาเจ้าเล่ห์มีความชั่วร้ายอยู่เต็มเปี่ยมเครื่องบินส่วนตัวของฮั่วจือสิงตกจริง แต่หยินรั่วหงไม่รู้เรื่องนี้ในตอนนั้นเขาพบกับฮั่วจ่านเฮ่อที่งานเลี้ยงหลายแห่ง พวกเขาเป็นเพียงคนที่รู้จักกันเท่านั้นนอกเหนือจากการฝึกฝนด้านการแพทย์และเภสัชกรรมแล้ว ตระกูลหยินในหนานหยางยังเปิดสนามบินพลเรือนอีกด้วย สนามบินขนาดใหญ่หลายแห่งในหนานหยางอยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลหยินดังนั้นฮั่วจ่านเฮ่อจึงมีแผนนี้ขึ้นมา ทว่าเขาซ่อนความจริงนี้จากหยินรั่วหง ก่อนจะใช้อุบายในการใช้ช่างเทคนิคเข้ามาทำอะไรบางอย่างกับเครื่องบินของฮั่วจือสิง...จากนั้นเขาก็แกล้งทำกรรมธรรม์ก้อนใหญ่แล้วบอกหยินรั่วหงว่าเงินหลายล้านจะตกเป็นของเขาหยินรั่วหงไม่คิดมาก่อนว่าตัวเองจะกลายเป็นผู้ร้ายในการก่ออาชญากรรมที่เลวร้ายในครั้งนี้ด้วย“ประธานหยิน ถ้าเรื่องนี้ถูกพูดออกไป จะไม่มีใครฟังคำอธิบายของคุณหรอกนะ เพราะพวกเขาจะคิดว่าคุณเป็นคนที่ร่วมทำร้ายฮั่วจือสิงเหมือนกัน”“เมื่อถึงเวลาชื่อเสียงและความมั่นคงของคุณก็จะถูกทำลายลงไป”หยินรั่วหงหายใจเข
“ใช่”ฮั่วจือสิงขมวดคิ้วด้วยสีหน้าที่จริงจังขึ้นมาเล็กน้อย “ผมไม่ได้บอกเรื่องนี้กับชั่นชั่น ดังนั้นอย่าพูดเรื่องนี้เลยนะ...”“เกิดอะไรขึ้น?” “ช่วงนี้อาการบาดเจ็บที่ขา...มันมีอาการนิดหน่อยน่ะ”เสิ่นเซียวตกใจ รีบพาเขาไปเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดทันที“ไม่มีอะไรหรอก” ฮั่วจือสิงตบไหล่อีกฝ่าย “มันน่าจะกำเริบ ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ช่วงนี้อากาศเย็นลงมาก ก็จะเจ็บมากหน่อย”“ผมจำได้ว่าตอนนั้นคุณให้ยาผม ทั้งแบบกินแล้วก็แบบทา มันได้ผลดีมากนะ..วันนี้ก็เลยอยากจะให้สั่งยาเพิ่ม”เสิ่นเซียวลังเลอยู่นาน โดยที่ไม่พูดอะไร“มีอะไรรึเปล่า?”ฮั่วจือสิงนึกสงสัยว่าแพทย์อาจจะไม่สามารถสั่งยาได้ง่ายดายอย่างทีคิด?“จือสิง” เสิ่นเซียวมองเขาแล้วเม้มปากแน่น ในที่สุดก็ตัดสินใจเอ่ยออกมา “ที่จริงผม..ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือยาอะไร”“ว่าไงนะ?” ฮั่วจือสิงประหลาดใจ “แต่ตอนนั้นคนที่ให้ยากับผมคือคุณนะ”“ใช่ แต่ยานั่นมีคนมอบให้คุณอีกที”ฮั่วจือสิงยิ่งเกิดความสับสนมากขึ้นเสิ่นเซียวถอนหายใจแล้วบอกความจริงทั้งหมด“คุณลองคิดดูสิ ถึงผมจะจบจากโรงเรียนแพทย์มา แต่ตอนนั้นผมไม่ได้เป็นหมอมานานแล้ว ไม่เคยผ่า
“ครับ นายน้อย” ฟางฮั่นพยักหน้าแต่หยินรั่วหงเป็นคนค่อนข้างลึกลับ ไม่ชอบปรากฎตัวต่อสาธารณะแม้แต่ในงานประมูลวันนั้น ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้เจอหน้าเขา“ถ้านัดหมายในนามของเรา เขาจะต้องรับ” ฮั่วจือสิงคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว“แล้ว...ในนามของคุณชายสองล่ะครับ?”“ไม่จำเป็น” ฮั่วจือสิงเม้มปาก “บอกแค่ว่าปู่อยากเจอเขา”ฟางฮั่นสะดุ้งเล็กน้อย “นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ถ้ามีปู่ร่วมด้วย หยินรั่วหงจะไม่กล้าทำอะไร”ฮั่วจือสิงยิ้ม ก่อนจะปรับสีหน้าไปเป็นไม่พอใจอีกครั้ง“นายน้อย เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” ฟางฮั่นรู้สึกตระหนกเล็กน้อยฮั่วจือสิงลดเสียงทันทีและเจียงชั่นก็ยังอยู่ในครัว“เปล่า” เขาขยับตัวเล็กน้อย “ก็ปัญหาเดิม ๆ”“อาการบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเปล่าครับ?” ฟางฮั่นเป็นกังวลหลังจากเหตุการณ์เครื่องบินตก ฮั่วจือสิงได้รับบาดเจ็บหนัก แม้ตรวจแล้วทุกอย่างจะปกติดี แต่ก็มีเพียงอาการบาดเจ็บที่ขาเท่านั้นที่ยังมีผลกระทบที่ต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้“จริง ๆ มันก็ไม่ได้ร้ายแรง” เขายืดตัวขึ้นแล้วเอ่ยอย่างใจเย็น “ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลง ก็เลยเจ็บมากเป็นบางครั้งแต่ไม่รุนแรงมาก คงจะไม่เป็นอะไรถ้าฉันพอจะปรั
เจียงชั่นหน้าแดงด้วยความเขินอาย ในขณะที่ฮั่วจือสิงกำลังโมโห เธอรีบผละออกจากเขาแล้ววิ่งเข้าไปในบ้านทันทีฟางฮั่นอ้าปากค้าง สายเกินไปแล้วที่เขาจะหนีไปอีกคน...สีหน้าของฮั่วจือสิงมืดดำราวกับมีหมึกดำ ๆ มาป้ายไว้บนหน้าเขาเดินออกไปตรงลานสนามหญ้าอย่างรวดเร็ว พลางมองฟางฮั่นด้วยแววตาที่แข็งกร้าวและเย็นชาฟางฮั่วกระตุกยิ้มแห้ง ๆ หัวใจเต้นแรงจนจะกระเด้งออกมาจากปาก“เกิดอะไรขึ้น?” เขาเอ่ยตอนนี้ฟางฮั่นลืมทุกสิ่งที่เขาต้องการจะพูดแล้ว จึงมองคนตรงหน้าด้วยแววตาว่างเปล่าความเงียบไม่กี่วินาที ทว่าความรู้สึกกลับยาวนานเป็นทศวรรษจากนั้นเจียงชั่นก็ได้ยินเสียงคำรามเข้ม ๆ ของใครบางคนดังขึ้นมา “ฟางฮั่น!”ป้าเฉินที่กำลังเลือกผักอยู่สะดุ้งแล้วรีบวิ่งออกมาจากครัวทันที“เกิดอะไรขึ้นคะ?”เจียงชั่นนั่งหัวเราะอยู่บนโซฟา“เสี่ยวฟางมีเรื่องเหรอคะ?” ป้าเฉินส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ ก่อนจะกลับไปที่ห้องครัวพลางพึมพำกับตัวเอง “ตะเบ็งเสียงขนาดนี้ คงต้องทำซุปไว้ให้นายน้อยหน่อยแล้วล่ะนะ...”ที่สนามหญ้าเองเจ้าแมวส้มที่กินอาหารจนหมดก็กำลังเหวี่ยงร่างอ้วน ๆ ของมันไปมา ขณะที่มองชายหนุ่มทั้งสองแล้วร้องเหมียวสองสามครั้ง
จู่ ๆ ไป๋จิ่งหยวนก็รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นผิดจังหวะ แทบจะควบคุมเอาไว้ไม่ได้ใบหน้าที่ชัดเจนของเหยาหว่านยินสะกดเขาราวกับมีเวทย์มนตร์ ดวงตากลมคู่นั้นราวกับโลกที่ลึกลับกำลังดึงดูดให้เขาเข้าไปสำรวจไป๋จิ่งหยวนมองเธออย่างว่างเปล่า บรรยากาศโดยรอบเงียบลง ราวกับว่าทุกอย่างกำลังมุ่งความสนใจไปที่เธอลมเย็น ๆ ที่พัดกระโชกมาทำให้เหยาหว่านยินไอออกมาสองสามครั้งทำให้ไป๋จิ่งหยวนถอดเสื้อคลุมออกมาแล้วสวมให้กับเธอแทน“ไม่เป็นไร...”“ใส่เถอะ” เขาช่วยกระชับเสื้อให้กับเธอ “ไม่สบายเหรอคุณ? หรือว่าเป็นหวัด?”เหยาหว่านยินเม้มปากแล้วมองเขาเงียบ ๆตอนนี้เริ่มมีคนทะยอยออกมาจากประตูงานประมูล“ดูเหมือนงานจะจบแล้วล่ะ” ไป๋จิ่งหยวนเอ่ย “เอาล่ะ..เดี๋ยวผมไปส่ง คุณอยู่ที่ไหน?”เหยาหว่านยินชะงักแล้วส่ายหน้าเล็กน้อยทุกอย่างราวกับภาพฝัน ในตอนที่เธอตื่นเธอก็ต้องกลับสู่โลกของความเป็นจริงความจริงที่ว่าเธอเป็นลูกสาวนิรนามของตระกูลเหยา ไม่รู้ว่าจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอีกนานแค่ไหน ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง...ร่างบางหันหลังกลับแล้วเดินไปอย่างช้า ๆ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนของตระดูลเหยากำลังตามหาเธออยู่ไม่ไกล
“คุณชื่อหว่านยินเหรอ?” ไป๋จิ่งหยวนขมวดคิ้วดูสับสน “แล้วนามสกุลอะไร?”เหยาหว่านยินหลับตาลงแล้วนิ่งเงียบไป๋จิ่งหยวนจึงยิ้มกว้าง ไม่ว่าเธอจะนามสกุลอะไรแต่แค่ได้รู้จักชื่อก็ดีมากแล้ว“เอาล่ะ เดี๋ยวผมจะพาไปเดินเล่นในสวน” เขาเอ่ยพลางเดินออกไปจากประตู“นี่คุณ...”แต่ก่อนที่เขาจะออกไปได้ ร่างสูงก็ถูกเหยาหว่านยินรั้งเอาไว้เขาตะลึงก่อนจะหันกลับมามองเขายังไม่ได้ใส่กางเกง!ชายหนุ่มหน้าแดง ในขณะที่มองเหยาหว่านยินด้วยความตระหนก ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ใส่เธอดีเห็นอย่างนั้นเหยาหว่านยินก็รู้สึกขบขัน ใบหน้าที่ซีดเซียวเริ่มมีสีสันขึ้นมาทันทีไป๋จิ่งหยวนวิ่งเข้าไปในห้องแล้วรีบสวมกางเกงทันที ก่อนจะพาเหยาหว่านยินออกไปเดินเล่นในค่ำคืนของฤดใบไม้ร่วงช่างสวยงาม ภายในสวนที่ได้รับแสงแดดอบอุ่นมาตลอดทั้งวัน ยังคงมีกลิ่นอายของความอบอุ่นไปทั่วทั้งบริเวณ รอบข้างมีความเงียบสงบและมีเสียงนกนานาชนิดร้องเป็นระยะ ๆ แสงไฟดวงเล็ก ๆ ที่ตกแต่งสวยงามราวกับมีหิ่งห้อยกำลังบินอยู่เหยาหว่านยินสูดหายใจลึกแล้วหลับตาลงเบา ๆเธอยืนอยู่บนสนามหญ้าและหายใจได้อย่างอิสระ อิสระที่เธอเฝ้าใฝ่หามาทั้งชีวิต“ดีจัง” เธอหั