“เธอควรจะรู้ตัวนะว่าต้องทำอย่างไร และฉันหวังว่าเมื่อกลับมาคงไม่พบเธออยู่ที่นี่นะ มุกรวี” น้ำเสียงห้าวทุ้มนั้นเยียบเย็นและสรรพนามที่เป็นเปลี่ยนไปนั้นก็บาดลึกลงไปในใจบอบบางของหญิงสาวร่างเล็กซึ่งกำลังยืนตัวสั่นเปียกโชกไปทั้งกายเพราะสายฝนซึ่งกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาในค่ำคืนอันแสนโหดร้ายสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ เช่นเธอ
“แต่ว่าคุณไอคะ ฟังไข่มุกบ้างสิคะ ทุกอย่างมันเป็นการเข้าใจผิด”
“ไม่! ฉันไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ทุกอย่างมันเห็นชัดๆ อยู่แล้ว เธอจะต้องเอามันมานอนบนเตียงของฉันและฟัดกับมันให้ฉันเห็นคาตารึไง เธอถึงจะยอมรับความจริงที่ว่าเธอมันก็แค่ผู้หญิงแพศยา ร่าน ร้าย ตีสองหน้าสารเลว!”
“คุณไอคะได้โปรดฟังสักนิด ไข่มุกได้ทำแบบนั้นจริงๆ ไข่มุกรักคุณนะคะ”
“ฉันจะไม่มีวันเชื่อผู้หญิงสองหน้าสารเลวอย่างเธออีกต่อไปแล้วมุกรวี เธอจงออกไปจากบ้านฉันซะก่อนที่ฉันจะกลับมา” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาและเมินหน้าหนีหญิงสาวที่ร่ำไห้จนดวงตาบวมแดงอยู่ตรงหน้าและพยายามอ้อนวอนให้เขาฟังสิ่งที่เธอต้องการอธิบาย
“คุณไอ...ไข่มุก...”
“คุณไอศูรย์เขาพูดขนาดนี้แล้วเธอยังจะหน้าด้านอยู่อีกหรือมุกรวี” เสียงที่แสร้งพูดเสียหวานหยดของหญิงสาวแสนสะคราญในชุดวาบหวิวชวนน้ำลายหกซึ่งเบียดกายเย้ายวนนั้นกับร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มใบหน้าบึ้งตึงเย็นชา ดวงตาสวยโฉบเฉี่ยวของเจ้าหล่อนจิกมองหญิงสาวที่ตนเกลียดแสนเกลียดอย่างเย้ยหยันและแสนจะสะใจ...
“เราไปกันเถอะค่ะ สายแล้วเดี๋ยวเราต้องไปงานเลี้ยงอีกสองงานนะคะที่รัก”
“ไปสิ..” ชายหนุ่มพูดอย่างเฉยเมยใบหน้านั้นไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา แต่กระนั้นก็ทำให้หญิงสาวที่เธอหมายมาดอยากจะเป็นผู้หญิงของเขาดีใจจนเนื้อเต้น อย่างน้อยๆ คืนนี้เธอก็ได้ควงเขาออกงาน และผู้หญิงจืดชืดในสายตาของเธออย่างมุกรวีก็กำลังจะพ้นทาง ดูเหมือนอะไรๆ จะเข้าข้างเธอไปเสียหมด รสริน กระหยิ่มในใจปรายตามองหญิงสาวที่ร่างกายเปียกโชกตรงหน้าอย่างเหยียดหยันอีกครั้งและเก็บอาการดีใจจนเนื้อเต้นของตนไว้อย่างแนบเนียน...
“คุณไอคะ ฟังไข่มุกก่อนสิ อย่าเพิ่งไปนะคะ แค่สักนาทีได้โปรด”
“ปล่อยฉันนะ และเอามือสกปรกของเธอออกไป” ชายหนุ่มสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของเธออย่างแรงหากแต่หญิงสาวกลับยึดแขนแข็งแรงไว้มั่นดวงตากลมโตหวานฉ่ำที่เคยสุกใสกระจ่างฉ่ำวาวด้วยน้ำตาฉายแววอ้อนวอน
“ไม่ค่ะ ขอให้ไข่มุกได้อธิบายสักนิด นะคะได้โปรด อย่าเพิ่งไป ฟังก่อน ไข่มุกรักคุณและไม่มีวันทรยศคุณ”
“ปล่อยฉันมุกรวี”
“ไม่ปล่อยคะ คุณไอต้องฟังไข่มุกก่อน” หญิงสาวจับแขนแกร่งไว้แน่นพยายามยื้อให้เขารับฟัง
“ว้าย.. นังคนหน้าด้านปล่อยแขนคุณไอศูรย์เดี๋ยวนี้นะ” รสริน นางแบบสาวชื่อดังในขณะนี้ปรี่เข้ามากระชากแขนเรียวของมุกรวีออกจากแขนแกร่งของไอศูรย์อย่างแรงและก็สำเร็จ ซ้ำเธอยังฝากรอยเล็บยาวๆ ของเธอลงบนข้อมือเรียวนั้นจนเลือดซึม เท่านั้นยังไม่พอหรือยังไม่สาแก่ใจหญิงสาวเงื้อมือขึ้นสูงแล้วฟาดลงบนแก้มเปียกชื้นด้วยน้ำตาของมุกรวีเต็มแรงจนใบหน้านวลหันไปตามแรงตบและเซถลาตามแรงเหวี่ยงด้วยความริษยานั้น...
“โอ๊ยยย...” มุกรวีร้องออกมาอย่างเจ็บปวดร่างบางทรุดลงข้างตู้โชว์บานใหญ่ก้มหน้านิ่ง หากแต่คนที่ทำให้เธอต้องทรุดลงตรงหน้ากลับไม่รู้สึก หากแต่สะบัดหน้าหนีภาพตรงหน้าพร้อมกลับเดินจากไปอย่างสะใจไร้ซึ่งเยื่อใย ดวงตากลมโตพร่ามัวด้วยน้ำตาและหยดน้ำเหนียวหนืดที่ไหลอาบซีกหน้าขาวซีด มุกรวีมองตามร่างของหญิงชายทั้งสองไปอย่างเจ็บช้ำ ขณะพยายามลุกขึ้นอย่างไร้เรียวแรงด้วยหัวใจที่แตกสลาย
“ให้ผมช่วยนะครับ”
“พี่มาร์โค” หญิงสาวเอยออกมาอย่างแผ่วเบาและปล่อยเสียงโฮออกมาอย่างไม่อาย ร่างบางโผเข้าซุกกับอกกว้างของชายหนุ่มตรงหน้าอย่างต้องการที่พึ่ง แม้มันจะทำให้บอดีการ์ดหนุ่มลำบากใจไปบ้าง แต่ในตอนนี้เขารู้สึกสงสารเธอจับใจแม้จะต้องทำอะไรที่ขัดใจนายไปบ้างก็ยอม
“คุณไอเขาเกลียดไข่มุกแล้ว เขากำลังจะทิ้งไข่มุกใช่ไหมคะพี่มาร์โค”
“คงไม่หรอกครับ นายท่านเพียงแค่กำลังโกรธพอท่านหายโกรธก็คงยอมฟังเหตุผล คุณไข่มุกไปหาหมอนะครับเลือดไหลเยอะแล้ว”
“ไม่ไป ไข่มุกไม่ไป ปล่อยให้ตายเสียดีกว่าหากจะถูกเกลียดโดยที่ไม่มีความผิดและถูกเข้าใจผิดแบบนี้” หญิงสาวร้องไห้อย่างหมดอายและพยายามขัดขืนไม่ยอมทำตามชายหนุ่มบอกเมื่อเห็นแผลหัวเธอแตกและเลือดเริ่มออกมาก
“ได้โปรดเถิดครับถือว่าผมขอร้อง คุณไข่มุกเลือดไหลเยอะมาก ไปเถอะครับไปหาหมอกัน” แล้วมาร์โครั้งร่างเล็กบอบบางราวแก้วใสนั้นขึ้นอย่างอ่อนโยนมือหนาลูบเรือนผมที่เปียกชื้นนั้นด้วยความรู้สึกที่ตีบตันไม่แพ้กัน ไข่มุก เม็ดงามนี้ คือผู้หญิงของนายผู้ซึ่งเป็นเจ้าชีวิต และ...
ตอนที่2.ไอศูรย์ อเล็กซิโอ กัสซินี่ เหม่อมองฟ้ายามค่ำคืนผ่านระเบียงกว้างในห้องนอนกว้างอย่างเลื่อนลอยก่อนจะหลุบดวงตาคมลงทอดมองที่นอนข้างๆ กายแกร่งซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีร่างบอบบางของหญิงสาวคนหนึ่งนอนเคียงข้างมาตลอดสองปีแต่บัดนี้ที่ตรงนี้ว่างเปล่าและหัวใจของเขาก็เบาโหวงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนทั้งๆ ที่เขาคิดเสมอว่าผู้หญิงอย่าง มุกรวี ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษมากไปกว่าผู้หญิงคนไหนที่เขาเคยควงแต่เหตุใดเขาจึงได้คิดถึงเธอมาตลอดตั้งแต่วันที่เธอออกจากชีวิตเขาไปไม่มีวันไหนเลยที่เขาจะไม่คิดร่างบอบบางหอมละมุนเนียนนุ่มไปทั้งตัวของเธอ... มุกรวี นี่ฉันรักเธอแล้วใช่ไหม...ไม่จริง เขาไม่ได้รักเธอ เขาจะรักนางบำเรอของตัวเองได้อย่างไร มันเป็นไปไม่ได้หรอก มุกรวีก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น เขาไม่มีวันรักเธอ...ไอศูรย์พยายามจะบอกตนเองอย่างนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่แล้วภาพในอดีตในครั้งแรกที่เขาพบเธอก็พลันฉายชัดเข้ามาในความทรงจำ เรื่องราวระหว่างเขาและเธอก็โลดแล่นเข้ามาในหัวราวกับว่าเขาเพิ่งได้พบเธอเมื่อวานที่ผ่านมานี่เอง...สองปีก่อน... ร่างบางของหญิงสาวที่เพิ่งเดินฉับๆ ผ่านหน้าไปโดยไม่ทันมองว่ามีใครเดินออ
ตอนที่3.อะไรนะ เดินทางวันมะรืนนี้.. นี่ก็เท่ากับว่าเธอจะมีเวลาเตรียมตัวไปเชียงรายแค่วันเดียวและทุกอย่างไม่ว่าที่พัก สถานที่ทำงานรายละเอียดของงานก็พร้อมสำหรับการเริ่มงานทันที นั่นคือเมื่อไปถึงทุกอย่างจะพร้อมสำหรับเธอ แต่ว่ามันเร็วไปไหม.. ใครจะเตรียมตัวทันไปซ้ำเธอยังต้องทำงานที่นั่นตั้งเกือบห้าเดือน แล้วงานทางนี้ล่ะ หญิงสาวคิดอย่างกังวล จริงอยู่แม้ว่าบ้านเกิดครอบครัวของตนจะอยู่ที่นั่น แต่เธอก็ยังอยากหาประสบการณ์ในการทำงานในเมืองกรุงแห่งนี้ก่อนอีกสักปีหรือสองปีนี่ก่อนจะกลับไปทำงานที่บ้านเกิดของตนจริงๆ มุกรวีก็เหมือนๆ กับสาวน้อยทั่วไปที่พอเรียนจบก็อยากทำงานในเมืองกรุงเพื่อหาประสบการณ์หรือเพราะยังติดความศิวิไลซ์ในเมืองหลวงของไทย...“ไม่ต้องห่วง งานทางนี้มีคนทำหน้าที่แทนคุณ และหากเมื่อคุณกลับมาคุณก็จะต้องเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่ต้องห่วงงานทางนี้” เขาพูดเหมือนมานั่งอยู่ในใจเธอ“แต่ว่า เอ่อ มันเร็วไปไหมคะ คือไข่มุก เอ๊ย ดิฉันตั้งตัวไม่ทันและไม่ทันได้เตรียมตัวอะไรเลย” “สรุปคือคุณจะไม่ไป”“เอ่อ คือ ไม่ใช่ค่ะ แหม โอกาสดีๆ แบบนี้มาถึงใครจะไม่ไปล่ะคะ เพียงแต่ดิฉันไม่ทันได้เตรียมอะไ
ตอนที่4.“แหะๆ ก็ไม่บอกกันก่อนนี่นะ เอาเป็นว่าฉันขอโทษก็แล้วกัน ขอโทษด้วยนะคะที่ไม่สุภาพ คือไม่รู้จริงๆ” อรอลินกล่าวขอโทษแล้วยิ้มบางๆ ให้ชายหนุ่มทั้งสองก็แหม ใครจะไปรู้ล่ะ ก็เธอออกมาจากห้องก็พบว่าเพื่อนรักกำลังถูกจูงหรือลากก็ไม่แน่ใจจากผู้ชายแปลกหน้า ซ้ำยังมีชายฉกรรจ์แต่งกายทะมัดทะแมงใส่แว่นตาดำ เหมือนพวกมาเฟียในหนังฝรั่งยืนคุมเชิงอยู่รอบๆ อีกสามสี่คน ก็นึกว่ามุกรวีกำลังจะถูกฉุดไปทำมิดีมิร้ายน่ะสิ“อืม ไปกันรึยังมุกรวี สายแล้ว” ไอศูรย์พยักหน้าช้าๆ แล้วเรียกหญิงสาวเสียงเรียบก่อนจะก้าวขึ้นไปนั่งในรถยนต์รอเธอด้วยท่าทีหยิ่งผยอง อรอลินได้แต่มองเขาอย่างไม่พอใจพลางหันมาตวัดสายตาชายหนุ่มอีกคนที่ทำให้เธอก้นจ้ำเบ้าโดยที่เขายืนสงบนิ่ง และไม่ขอโทษเธอสักคำด้วย .ฉันล่ะเกลียดผู้ชายขี้เก๊กพวกนี้นัก อรอลินคิดในใจอย่างเข่นเขี้ยว“ไข่มุกไปก่อนนะอลิน”“อืม เดินทางดีๆ ล่ะ แล้วไว้ใจได้ใช่ไหมเจ้านายไข่มุกน่ะ ไปถึงแล้วก็อย่าลืมโทร. มาบอกด้วยนะจะได้ไม่ต้องห่วงอ้อ แล้วโทร. บอกพี่ภูกับแม่แก้วรึยัง แล้ว...”“พอแล้วจ้ะแม่แก่ แหม.. สั่งเสียยืดยาวใครจะไปจำไหว” มุกรวีรีบยกมือห้ามเมื่อเห็นอรอลินกำลังจะอ้าปากพูด“จ้