“แหะๆ ก็ไม่บอกกันก่อนนี่นะ เอาเป็นว่าฉันขอโทษก็แล้วกัน ขอโทษด้วยนะคะที่ไม่สุภาพ คือไม่รู้จริงๆ” อรอลินกล่าวขอโทษแล้วยิ้มบางๆ ให้ชายหนุ่มทั้งสอง
ก็แหม ใครจะไปรู้ล่ะ ก็เธอออกมาจากห้องก็พบว่าเพื่อนรักกำลังถูกจูงหรือลากก็ไม่แน่ใจจากผู้ชายแปลกหน้า ซ้ำยังมีชายฉกรรจ์แต่งกายทะมัดทะแมงใส่แว่นตาดำ เหมือนพวกมาเฟียในหนังฝรั่งยืนคุมเชิงอยู่รอบๆ อีกสามสี่คน ก็นึกว่ามุกรวีกำลังจะถูกฉุดไปทำมิดีมิร้ายน่ะสิ
“อืม ไปกันรึยังมุกรวี สายแล้ว” ไอศูรย์พยักหน้าช้าๆ แล้วเรียกหญิงสาวเสียงเรียบก่อนจะก้าวขึ้นไปนั่งในรถยนต์รอเธอด้วยท่าทีหยิ่งผยอง อรอลินได้แต่มองเขาอย่างไม่พอใจพลางหันมาตวัดสายตาชายหนุ่มอีกคนที่ทำให้เธอก้นจ้ำเบ้าโดยที่เขายืนสงบนิ่ง และไม่ขอโทษเธอสักคำด้วย .
ฉันล่ะเกลียดผู้ชายขี้เก๊กพวกนี้นัก อรอลินคิดในใจอย่างเข่นเขี้ยว
“ไข่มุกไปก่อนนะอลิน”
“อืม เดินทางดีๆ ล่ะ แล้วไว้ใจได้ใช่ไหมเจ้านายไข่มุกน่ะ ไปถึงแล้วก็อย่าลืมโทร. มาบอกด้วยนะจะได้ไม่ต้องห่วงอ้อ แล้วโทร. บอกพี่ภูกับแม่แก้วรึยัง แล้ว...”
“พอแล้วจ้ะแม่แก่ แหม.. สั่งเสียยืดยาวใครจะไปจำไหว” มุกรวีรีบยกมือห้ามเมื่อเห็นอรอลินกำลังจะอ้าปากพูด
“จ้า อลินน่ะมันแม่แก่ เอาล่ะรีบๆ ไปเถอะ ดูสิ เจ้านายเทวดาของไข่มุกหน้าเป็นม้าหมากรุกตอนโดนโขลกแล้ว” อรอลินเหน็บแนมชายหนุ่มซึ่งนั่งอยู่ในรถแล้วเลื่อนกระจกลงให้สัญญาณว่า พวกเธอใช้เวลาล่ำลากันนานเกินไป
“จ้ะ ไข่มุกไปนะ ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ อย่าไปรังแกใคร” มุกรวีล้อเพื่อนรักอย่างอารมณ์ดี แล้วเดินไปขึ้นรถยนต์คันหรู ก่อนที่มาร์โคจะเดินไปด้านคนขับด้วยท่วงท่าราวเจ้าชายโดยที่ไม่หันมากล่าวอะไรกับหญิงสาวตัวเล็กที่ยืนกัดฟันกรอดๆ กับท่าทางที่น่าหมั่นไส้ของชายหนุ่มตัวโตในความคิดของตน...
“หึ อย่าให้เจออีกนะ ไอ้ยักษ์ฝรั่งไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษสักนิด ไม่ขอโทษฉันสักคำ นี่ขนาดว่าเหวี่ยงฉันกระเด็นนะ นายโคถึกเอ้ย..” อร อลินตั้งใจพูดเสียงดังเพื่อให้คนตัวโตได้ยินไม่รู้ว่าเขาจะฟังรู้เรื่องหรือไม่ แต่ถ้าฟังรู้เรื่องก็ดี อีตาโคถึก จะได้รู้ว่าเธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายหญิงสาวก็เพียงแต่ยืนมองดูท้ายรถที่ค่อยๆ วิ่งลับตาไป ก่อนจะเดินเข้าบ้านด้วยความฉุนเฉียวไม่หาย…
“คุณไอศูรย์คะ คุณทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไรคะ นี่คุณตั้งใจหลอกฉันมาตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม แล้วตอนนี้คุณก็เป็นคนหน้าด้านหน้าทนที่สุด..” หญิงสาวถามเขาเสียงดังอย่างไม่อาจจะทนเก็บความอัดอั้นตันใจได้อีกต่อไป ทั้งๆ ที่เธอเป็นคนที่เก็บความรู้สึกเก่งและไม่เคยมีสักครั้งที่มุกรวีจะพูดเสียงจนแทบจะเป็นตวาดใส่คนอื่นอย่างที่กำลังทำอยู่ในตอนนี้
หลังจากที่มาถึงเชียงรายในวันแรกเธอก็ต้องเสียจูบแรกให้ไอศูรย์ไปโดยที่ไม่ทันตั้งตัวซ้ำเพิ่งรู้ตัวว่าทั้งหมดนั้นเป็นแผนของเขา แล้วเธอก็ไม่ได้ทำหน้าที่ในส่วนงานที่เขาบอกในครั้งแรกก่อนที่จะมา แต่เธอต้องทำหน้าที่เลขาส่วนตัวของไอศูรย์อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงเพราะไม่ว่าจะสรรหาเลขากี่คนต่อกี่คนมาให้เขาสัมภาษณ์ก็ไม่มีใครถูกใจเจ้านายช่างเลือก ซ้ำเขายังเอาแต่ใจและคอยแต่จะหาโอกาสทำให้เธอหวั่นไหววาบหวามไปกับเขาทั้งยังชอบแอบจูบเธออยู่ร่ำไป คอยกะเกณฑ์ไม่ว่าจะไปไหนจะต้องมีเขาและเหล่าบอดีการ์ดหน้าเข้มประกบเสมอๆ จนบางครั้งมุกรวีก็ทั้งอึดอัดและอับอาย เมื่อไอศูรย์ทำเหมือนว่าเธอคือผู้หญิงของเขา และตอนนี้ไอศูรย์ก็แสดงออกชัดเจนว่าไม่ได้อยากให้เธอเป็นเลขาส่วนตัวของเขาอย่างเดียวอีกต่อไป
ทำไมคนอย่างไอศูรย์ถึงได้สนใจเธอนะ... มุกรวีคิดฉุนๆ ทั้งดีใจลึกๆ และหวั่นใจว่าเขาแค่เพียงเย้าเธอเล่นๆ ประสาคาสโนว่าหนุ่มเนื้อหอม... หญิงสาวมองเขาตาเขียวหากแต่ก็มองใบหน้าหล่อเหลานั้นได้ไม่นานเพราะประกายตาพราวระยับนั่นคอยแต่จะทำให้เธอสั่นหวิวไปทั้งใจทั้งกาย
“ไม่นี่.. ผมไม่ได้หลอก แต่เอาจริง ผมก็บอกคุณตั้งแต่ครั้งแรกที่มาถึงเชียงรายแล้วนี่มุกรวีว่าผมต้องการอะไร”
“แต่ดิฉันต้องการมาทำงานจริงๆ ไม่ได้ต้องการเป็นนางบำเรอหรือเมียเก็บของใครนะคะ หากไม่ได้เป็นอย่างนั้น ดิฉันก็จะกลับหรือไม่ก็ขอลาออกเลยค่ะ” บอกเขาอย่างตัดสินใจได้แล้ว หากจะถูกไล่ออกเธอก็ยินดีจะชิงลาออกเสียก่อนเลยดีกว่าๆ มาเป็นขี้ปากชาวบ้านอีกทั้งที่นี่ก็มีคนรู้จักอยู่พอสมควร เธอไม่อยากให้คนในครอบครัวมารับรู้เรื่องนี้
“ก็เอาสิ ลาออกได้ตอนนี้เลย ดีเสียอีกผมจะได้ไม่ต้องขึ้นชื่อว่าเป็นสมภารกินไก่วัด” เขาพูดหน้าตาเฉยซ้ำยังถือวิสาสะรั้งเธอให้เข้าไปใกล้ๆ แม้หญิงสาวจะขืนกายไว้อย่างไรก็ไม่อาจจะทานทัดแรงจากชายหนุ่มได้
“นี่คุณ อย่านะ จะทำอะไร”
“ก็ทำอย่างที่เราเคยทำกันไง จูบกัน..”
“ไม่นะ อย่านะคุณไอศูรย์ ฉันไม่ยอมเป็นผู้หญิงของคุณหรอก คุณจะมาทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะคะ”
“ทำไมจะไม่ได้ หากผมอยากได้อะไร ไม่มีที่จะไม่ได้” ไอศูรย์พูดอย่างหยิ่งยโสจนน่าหมั่นไส้ และมุกรวีก็อดไม่ได้ที่จะทุบอกกว้างแรงๆ ทั้งหมั่นไส้และเพื่อให้ตนเองหลุดออกจากอ้อมแขนแข็งแรง เอาอีกแล้วเขาฉวยโอกาสกับเธอแบบหน้าด้านๆ แบบนี้อีกแล้ว และทุกครั้งมันยิ่งทำให้เธอหวั่นไหว ยิ่งเขาเข้าใกล้มากเท่าไหร่หัวใจของเธอก็เริ่มเอนเอียงเข้าหาเขามาขึ้นเท่านั้น
“คนบ้า หน้าด้านที่สุ...อุ๊บ...”เสียงทันทานหายลงลำคอเมื่อไอศูรย์ปิดปากช่างต่อต้านนั้นด้วยริมฝีปากหยักสวยของเขา ลิ้นร้อนผ่าวฉกชิมเรียวลิ้นอ่อนเดียงสาอย่างเร่าร้อน เขาจูบเธออย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนว่าไม่เคยจูบใครมาก่อน ทั้งออดอ้อนและเอาแต่ใจ สุดท้ายหญิงสาวก็โอนอ่อนผ่อนตามตอบสนองจุมพิตเร่าร้อนนั่นอย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่ก็ทำให้ชายหนุ่มพอใจนักมือหนาลูบไล้เรือนกายอรชรอย่างอ่อนโยน หลงใหลไปกับผิวเนื้อเนียนละมุนมือจนคนตัวโตไม่อยากจะทำเพียงแค่จูบ...
ตอนที่ 1 “เธอควรจะรู้ตัวนะว่าต้องทำอย่างไร และฉันหวังว่าเมื่อกลับมาคงไม่พบเธออยู่ที่นี่นะ มุกรวี” น้ำเสียงห้าวทุ้มนั้นเยียบเย็นและสรรพนามที่เป็นเปลี่ยนไปนั้นก็บาดลึกลงไปในใจบอบบางของหญิงสาวร่างเล็กซึ่งกำลังยืนตัวสั่นเปียกโชกไปทั้งกายเพราะสายฝนซึ่งกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาในค่ำคืนอันแสนโหดร้ายสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ เช่นเธอ “แต่ว่าคุณไอคะ ฟังไข่มุกบ้างสิคะ ทุกอย่างมันเป็นการเข้าใจผิด” “ไม่! ฉันไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ทุกอย่างมันเห็นชัดๆ อยู่แล้ว เธอจะต้องเอามันมานอนบนเตียงของฉันและฟัดกับมันให้ฉันเห็นคาตารึไง เธอถึงจะยอมรับความจริงที่ว่าเธอมันก็แค่ผู้หญิงแพศยา ร่าน ร้าย ตีสองหน้าสารเลว!” “คุณไอคะได้โปรดฟังสักนิด ไข่มุกได้ทำแบบนั้นจริงๆ ไข่มุกรักคุณนะคะ” “ฉันจะไม่มีวันเชื่อผู้หญิงสองหน้าสารเลวอย่างเธออีกต่อไปแล้วมุกรวี เธอจงออกไปจากบ้านฉันซะก่อนที่ฉันจะกลับมา” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาและเมินหน้าหนีหญิงสาวที่ร่ำไห้จนดวงตาบวมแดงอยู่ตรงหน้าและพยายามอ้อนวอนให้เขาฟังสิ่งที่เธอต้องการอธิบาย “คุณไอ...ไข่มุก...” “คุณไ
ตอนที่2.ไอศูรย์ อเล็กซิโอ กัสซินี่ เหม่อมองฟ้ายามค่ำคืนผ่านระเบียงกว้างในห้องนอนกว้างอย่างเลื่อนลอยก่อนจะหลุบดวงตาคมลงทอดมองที่นอนข้างๆ กายแกร่งซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีร่างบอบบางของหญิงสาวคนหนึ่งนอนเคียงข้างมาตลอดสองปีแต่บัดนี้ที่ตรงนี้ว่างเปล่าและหัวใจของเขาก็เบาโหวงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนทั้งๆ ที่เขาคิดเสมอว่าผู้หญิงอย่าง มุกรวี ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษมากไปกว่าผู้หญิงคนไหนที่เขาเคยควงแต่เหตุใดเขาจึงได้คิดถึงเธอมาตลอดตั้งแต่วันที่เธอออกจากชีวิตเขาไปไม่มีวันไหนเลยที่เขาจะไม่คิดร่างบอบบางหอมละมุนเนียนนุ่มไปทั้งตัวของเธอ... มุกรวี นี่ฉันรักเธอแล้วใช่ไหม...ไม่จริง เขาไม่ได้รักเธอ เขาจะรักนางบำเรอของตัวเองได้อย่างไร มันเป็นไปไม่ได้หรอก มุกรวีก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น เขาไม่มีวันรักเธอ...ไอศูรย์พยายามจะบอกตนเองอย่างนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่แล้วภาพในอดีตในครั้งแรกที่เขาพบเธอก็พลันฉายชัดเข้ามาในความทรงจำ เรื่องราวระหว่างเขาและเธอก็โลดแล่นเข้ามาในหัวราวกับว่าเขาเพิ่งได้พบเธอเมื่อวานที่ผ่านมานี่เอง...สองปีก่อน... ร่างบางของหญิงสาวที่เพิ่งเดินฉับๆ ผ่านหน้าไปโดยไม่ทันมองว่ามีใครเดินออ
ตอนที่3.อะไรนะ เดินทางวันมะรืนนี้.. นี่ก็เท่ากับว่าเธอจะมีเวลาเตรียมตัวไปเชียงรายแค่วันเดียวและทุกอย่างไม่ว่าที่พัก สถานที่ทำงานรายละเอียดของงานก็พร้อมสำหรับการเริ่มงานทันที นั่นคือเมื่อไปถึงทุกอย่างจะพร้อมสำหรับเธอ แต่ว่ามันเร็วไปไหม.. ใครจะเตรียมตัวทันไปซ้ำเธอยังต้องทำงานที่นั่นตั้งเกือบห้าเดือน แล้วงานทางนี้ล่ะ หญิงสาวคิดอย่างกังวล จริงอยู่แม้ว่าบ้านเกิดครอบครัวของตนจะอยู่ที่นั่น แต่เธอก็ยังอยากหาประสบการณ์ในการทำงานในเมืองกรุงแห่งนี้ก่อนอีกสักปีหรือสองปีนี่ก่อนจะกลับไปทำงานที่บ้านเกิดของตนจริงๆ มุกรวีก็เหมือนๆ กับสาวน้อยทั่วไปที่พอเรียนจบก็อยากทำงานในเมืองกรุงเพื่อหาประสบการณ์หรือเพราะยังติดความศิวิไลซ์ในเมืองหลวงของไทย...“ไม่ต้องห่วง งานทางนี้มีคนทำหน้าที่แทนคุณ และหากเมื่อคุณกลับมาคุณก็จะต้องเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่ต้องห่วงงานทางนี้” เขาพูดเหมือนมานั่งอยู่ในใจเธอ“แต่ว่า เอ่อ มันเร็วไปไหมคะ คือไข่มุก เอ๊ย ดิฉันตั้งตัวไม่ทันและไม่ทันได้เตรียมตัวอะไรเลย” “สรุปคือคุณจะไม่ไป”“เอ่อ คือ ไม่ใช่ค่ะ แหม โอกาสดีๆ แบบนี้มาถึงใครจะไม่ไปล่ะคะ เพียงแต่ดิฉันไม่ทันได้เตรียมอะไ