ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าพ่อไม่มีความรักให้แม่เลย แต่พ่อของเขาไม่เคยทำร้ายร่างกายแม่แบบนี้ คงเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้น ถึงทำให้พ่อมีอารมณ์ฉุนเฉียว
ที่เขาคิดว่าคงเป็นผู้หญิงคนนั้น ก็เพราะไม่ว่าพ่อจะคว้าใครมา ก็ไม่เคยแสดงกิริยาแบบนี้ออกมาให้เห็น
ชายหนุ่มขับรถออกมาจากบ้าน รถที่เขาใช้เป็นรถสี่ประตูแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เพราะที่ที่เขาอยู่มันเป็นพื้นที่กันดาร เหมือนอย่างที่มกราพูด ไฟฟ้าไม่มี น้ำประปาไม่ถึง ถนนเข้าหมู่บ้านก็ยังเป็นถนนลูกรังอยู่เลย
แต่ก่อนที่จะไปหมู่บ้านนั้น เขาต้องไปที่ที่หนึ่งก่อน ชายหนุ่มใช้เวลาขับรถนานพอสมควรก็มาถึง
"เป็นยังไงบ้าง"
"จะเป็นยังไงล่ะครับ ก็โวยวายอย่างเดียวน่ะสิ ผู้หญิงอะไรด่าเก่งฉิบหาย"
"แล้ว..?" สายตาคมมองเข้าไปในห้อง ซึ่งเป็นบ้านเก่าๆ ได้ยินลูกน้องบอกว่าด่าเก่งแต่ทำไมถึงเงียบจัง
"ผมขอโทษครับ ก็เล่นด่าพ่อด่าแม่ด่าถึงโคตรตระกูลผม"
"ไอ้มะลิมึงอย่าบอกนะว่า!?"
"ไม่ตายหรอกครับ" มะลิโมโหมากก็เลยเอายาสลบใส่ผ้าเช็ดหน้าปิดจมูก เพื่อทำให้เธอหมดฤทธิ์
..เรามารู้จักมะลิกันบ้าง ใช่แล้วเขาเป็นผู้ชายที่ชื่อมะลิ แถมมีชื่อจริงว่ามะลิซ้อนอีกด้วย มะลิเป็นคนติดตามเขามานานหลายปีแล้ว ทั้งสองถึงไหนถึงกัน
มะลิเป็นคนที่ไม่มีครอบครัว เป็นเด็กวัด เขาสงสารก็เลยเก็บมาเลี้ยง และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมามะลิก็เลยติดตามตัวเขาไปทุกที ไม่เว้นแม้แต่หมู่บ้านกันดารนั้น
"เราจะเดินทางกันคืนนี้ แกอยากจะได้อะไรก็ไปหาซื้อเอา เดี๋ยวทางนี้กูจะเป็นคนดูต่อเอง"
"จริงเหรอครับ" มะลิถึงกับมีรอยยิ้ม เพราะอยากจะไปซื้อของฝากให้กับสาวในหมู่บ้านนั้นอยู่แล้ว
"อย่าไปเถลไถลที่ไหนล่ะ เงินอยู่ในกระเป๋านั่นแหละได้ของแล้วก็รีบกลับ"
"ครับ"
สองชั่วโมงผ่านไป..
"มันใส่ยาเยอะเลยเหรอทำไมป่านนี้ยังไม่ตื่นอีก" ว่าแล้วนิ้วแกร่งก็ยื่นไปแตะจมูกเพื่อเช็คดูว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ไหม
"โอ๊ยย!!" แต่ทันใดนั้นผู้หญิงที่เขาคิดว่านอนหลับก็กัดเข้าที่นิ้วของเขาอย่างแรง
"อืมมม!!" มิลานต้องได้รีบปล่อยเพราะตอนนี้ถูกเขาบีบจมูกไว้
"เป็นคนหรือเป็นหมาวะเนี่ย!!"
"คุณนั่นแหละหมา!!"
"ปากดี"
"ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้เลยนะ! ถ้าไม่งั้น.."
"ถ้าไม่งั้นอะไร"
"คุณรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร"
เขาไม่ตอบแต่สายตาคมมองตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วก็มองกลับขึ้นมาหยุดอยู่ที่น้องสาว
"แกมองอะไร!" หญิงสาวเริ่มเปลี่ยนสรรพนามการพูด เพราะพูดดีกับคนแบบนี้คงไม่ได้ผลแล้ว
"ไอ้เสี่ยบ้ากามมันชอบเธอตรงไหน"
"เสี่ยบ้ากาม? แกหมายถึงใคร!"
"ก็เสี่ยคนที่เธอทำตัวดี๊ด๊าด้วยไง"
"แล้วแกรู้ไหมเสี่ยที่แกพูดถึงเป็นใคร"
"เป็นใคร"
"ท่านเป็นถึงรัฐมนตรี ถ้าแกไม่อยากตายก็รีบปล่อยฉันไปซะ"
"ใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ ..ชักจะกลัวแล้วสิ"
"ถ้าแกกลัวแกก็ปล่อยฉันไปสิ!"
"ปล่อยไปก็โง่น่ะสิ ยังไม่ได้ชิมเลย ว่าเธอมีดีอะไร ถึงทำให้ท่านรัฐมนตรีหลงใหลได้ขนาดนี้"
"แกหมายความว่ายังไง!" ทีแรกมิลานคิดว่าเขาแค่จะจับเธอมาเรียกค่าไถ่ แต่นี่ไม่ใช่มันต้องการตัวเธออย่างนั้นเหรอ
"แกต้องการเท่าไรบอกมา" หญิงสาวลองเสนอไปก่อนเผื่อว่ามันจะเลือกเงิน
"เธอกล้าเสนอเงินให้ฉันอย่างนั้นเหรอ? ทั้งๆ ที่เธอก็เอาตัวของเธอไปแลกเงินมาไม่ใช่หรือไง"
"ใครจะไปเลวระยำเท่ากับแม่นายล่ะ!" มิลานไม่รู้ว่าจะด่าคำไหนกับผู้ชายที่มองเธอต่ำขนาดนั้น ก็เลยเผลอด่าไปถึงแม่ เหมือนกับด่าลูกน้องของเขา
"เธอว่าอะไรนะ!"
ถ้าตั้งใจฟังคงจะได้ยินเสียงคนตัวสูงที่อยู่ตรงหน้ากัดฟัน"เมื่อกี้มึงว่าอะไร??" เขาถามซ้ำอีกครั้งโดยใช้คำพูดที่เปลี่ยนไปขาเรียวค่อยๆ ก้าวถอยออกไปจนหลังชนผนังห้อง ใครจะไปทนได้ล่ะ ไม่รู้ว่ามันเป็นใคร อยู่ดีๆ ก็จับตัวเธอมา แถมพูดดูถูก ..แต่ตอนนี้มิลานคิดว่าเธอไม่สมควรที่จะไปกระตุ้นอารมณ์ของเขาแบบนั้นเลย"เราไม่เคยรู้จักกัน ฉันไม่รู้จักนาย แล้วนายจับตัวฉันมาทำไมล่ะ""เธอคิดว่า ฉันอยากจะจับตัวเธอมานักเหรอ ผู้หญิงแบบเธอ ไม่มีค่าอะไรในสายตาของฉันเลย""ดี! ถ้างั้นนายก็ปล่อยฉันไปสิ""ปล่อยเธอไปเพื่อยั่วยวนพวกเฒ่าตัณหากลับอย่างงั้นเหรอ""นั่นมันก็เรื่องของฉัน!""เรื่องของเธอ? ถ้าไม่ทำให้ครอบครัวคนอื่นเขาเดือดร้อน มันก็คงจะเป็นเรื่องของเธออยู่หรอก""นายหมายความว่ายังไง ฉันไปทำให้ครอบครัวใครเดือดร้อน โอ๊ยย! ปล่อยนะ!" ที่เธอร้องเจ็บเพราะตอนนี้อุ้งมือแกร่งของเขาได้ล็อคไว้ที่คอระหง"ฉันเจ็บนะ!" หญิงสาวเริ่มจะหายใจไม่ออกถึงแม้ว่าเขาจะใช้แรงบีบไม่มาก"คุณค่าในตัวเอง เธอรู้จักคำนี้ไหม""รู้" ตอนนี้เขาพูดอะไรมาเธอต้องอ่อนข้อไปก่อน เพราะไม่งั้นได้คอหักตายแน่"รู้แล้วทำไมต้องเอาตัวเองเข้าแลก จนทำให้ครอบคร
"อุ๊ย" มะลิซ้อนกลับมาเจอฉากกำลังจูบกันอยู่พอดี"ลูกพี่..เออ..สต๊อปก่อนได้ไหมครับ"เขาได้ยินตั้งแต่เสียงรถวิ่งเข้ามาแล้ว แต่ก็ยังจูบอยู่แบบนั้น พอถูกขัดจังหวะริมฝีปากหนาถอนจูบออก แต่ท่าทางของเขาไม่ได้เสียดายอะไรในตัวเธอเลยสายตาคมตวัดมองไปที่ลูกน้องคนสนิท แต่ก็ยังไม่ได้ปล่อยเธอให้เป็นอิสระ ถึงแม้ว่าจะพยายามดิ้นรนให้เขาปล่อย"มีอะไร""มีครับ" สายตาของมะลิซ้อนมองไปที่ฝ่ายผู้หญิง ซึ่งตอนนี้เธอกำลังจะ.."พี่ระวัง!""โอ๊ย" มะลิซ้อนเตือนไม่ทันเพราะตอนนี้เขาถูกกัดเข้าให้ที่ต้นแขนอย่างแรง"อืออ!!" หญิงสาวต้องรีบปล่อยฟันที่กัดอยู่ออก เพราะถูกนิ้วแกร่งบีบจมูกไว้อีกแล้ว"กูต้องได้ไปฉีดยาก่อนไหมวะเนี่ย!" ชายหนุ่มลูบคลำตรงที่ถูกกัดหมั่บ! จังหวะที่เขาปล่อยมือ เธอก็รีบวิ่งมาที่ประตู แต่ถูกมะลิซ้อนล็อคตัวไว้ได้ก่อน"ปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะ! พวกมึงเป็นใครกันแน่ พวกมึงต้องการอะไรก็บอกมาสิ""อยากรู้ใช่ไหมว่าต้องการอะไร..ปิดประตู" ชายหนุ่มสั่งลูกน้องพร้อมกับถอดเข็มขัดกางเกงออก..ตามด้วยรูดซิปลงไม่ได้ตกตะลึงแค่มิลาน มะลิซ้อนก็ตกตะลึงเหมือนกัน ไม่คิดว่าลูกพี่จะทำอะไรแบบนี้"กูบอกให้ล็อกประตูไง! สองคนอาจจะไม่หนำ
"ไม่เจอเลยครับท่าน" สำราญสั่งให้ลูกน้องควานหาไปทั่วทุกหนทุกแห่ง แต่ก็ยังไร้ร่องรอย"ผมว่าไม่ใช่คนลักพาตัวไปหรอกครับ เธอคงหนีไปมากกว่า" เพราะลูกน้องทุกคนก็ดูออกว่าเด็กสาวคนนี้ ไม่เต็มใจที่จะเป็นของเจ้านายตั้งแต่ทีแรกแล้ว"กูก็ว่าเหมือนมึง กูมันน่ารังเกียจตรงไหนวะ""ไม่เลยครับ ท่านไม่ได้น่ารังเกียจเลย" ลูกน้องต้องรีบชมเข้าไว้ก่อนที่หัวจะขาด"แล้วเราจะเอายังไงดีครับท่าน" มือขวาคนสนิทเอ่ยถามขึ้นมาบ้าง"กูคิดดูก่อนว่าจะจัดการกับพวกมันยังไงดี" สำราญเสียความรู้สึกมาก เพราะทุ่มเทให้กับเด็กคนนี้มากมายเช้าวันต่อมา.. ณ.ที่ห่างไกลความเจริญมันเกิดอะไรขึ้นกับเรากันแน่? ..มิลานหวังไว้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอทั้งหมดมันจะเป็นแค่ฝัน แต่พอลืมตาขึ้นมาเธอก็รู้ได้เลยว่ามันคือความจริงดวงตากลมโตมองออกไปนอกกระจกรถ เธอไม่กล้าใช้เสียงเพราะกลัวว่าคนที่ขับรถและคนที่นั่งอยู่ด้านข้างคนขับจะรู้ว่าเธอได้สติแล้วมันกำลังจะพาเราไปที่ไหน? แล้วพวกมันเป็นใคร? หญิงสาวสัมผัสได้ว่ารถค่อยๆ ชะลอความเร็วลงทีละน้อยติ๊ก! พอรถหยุดเท่านั้นแหละคนตัวเล็กที่พวกเขาคิดว่ายังไม่รู้สึกตัวก็เปิดประตูด้านหลังแล้ววิ่ง"ตามสิโว้ย!!" ทั้งส
คำขู่ของเขาได้ผล มือเรียวทั้งสองข้างยกขึ้นมาพนมไหว้ เพื่อขอร้องอย่าให้เขาทำอะไรกับเธอเลย"ไม่เก่งแล้วเหรอ""ฉันขอร้องปล่อยฉันไปเถอะนะ" ถ้าตั้งใจฟังคงสัมผัสได้ถึงอาการหวาดกลัว เธอไม่ได้เก่งอย่างที่แสดงออกมาให้เห็นเลย แต่เพราะความกลัว ถ้าทำตัวอ่อนแอก็ยิ่งจะถูกรังแก แต่เมื่อใช้ไม้แข็งไม่ได้หญิงสาวก็เลยเลือกที่จะใช้ไม้อ่อน"ไม่ปล่อย.." ชายหนุ่มพูดพร้อมกับปลดเข็มขัดกางเกงของตัวเองอีกครั้ง"ฉะ..ฉันกลัวแล้ว คุณอย่าทำแบบนี้เลยนะ คุณจะให้ฉันทำอะไรฉันยอมทั้งนั้น คุณอย่าทำแบบนี้กับฉันได้ไหม""เธอชอบแบบนี้ไม่ใช่เหรอ""ไม่ ฉันไม่ได้ชอบแบบนี้" ถ้าเธอชอบเธอคงไม่เดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ เวลาที่พ่อกับแม่นัดให้ออกเดทกับเสี่ยบ้ากาม เธอชอบจะหลบหนีไปต่างประเทศ ถือโอกาสไปใช้เงินมันสะเลย"ก็ได้ถ้าเธอเชื่อฟัง""จะให้ฉันเชื่อฟังอะไร"มือหนารูดซิปลงไปทันทีเมื่อเธอมีคำถาม"ก็ได้ฉันจะเชื่อฟังนายทุกอย่าง" หญิงสาวต้องได้รับปากไปก่อนถ้าไม่งั้นคงเสร็จมันตรงนี้แน่"กลับเข้าไปก่อนลูก เดี๋ยวถ้าคนแถวนี้ไม่เชื่อฟังเราค่อยออกมาใหม่" ว่าแล้วเขาก็รูดซิปกลับคืนพร้อมกับสวมเข็มขัดให้เรียบร้อย"ตามมา"หญิงสาวต้องได้เดินตามหลังไ
"นายปล่อยฉันลงได้แล้วฉันเจ็บท้อง" มิลานเริ่มจุกท้องน้อย เพราะเวลาที่เขาเดิน ท้องของเธอเสียดสีกับไหล่แข็งๆ"อย่าพูดมากใกล้จะถึงแล้ว" ฝนเริ่มลงเม็ดแรงขึ้น ชายหนุ่มก็เลยต้องได้เร่งฝีเท้า เพราะกลัวว่ากล้องในมือของเธอจะเปียก"เบาๆ หน่อยได้ไหม! ฉันบอกว่าฉันเจ็บไง!" แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ฟังยิ่งบอกให้เบาๆ เขาก็ยิ่งเดินเร็วแทบจะกลายเป็นวิ่ง"ถ้านายไม่หยุดฉันจะทิ้งกล้องลงตรงนี้""ก็ลองดูสิ!" ที่จริงเขาก็กลัวว่าเธอจะทำตามที่พูด แต่ถ้าให้เธอลงตรงนี้ คงต้องได้ทะเลาะกันก่อนกว่าจะถึงฝนคงตกแรงกว่านี้แน่เดินมาอีกเพียงไม่นานก็ถึงบ้านไม้ 2-3 หลังอยู่ในพื้นที่เดียวกัน เป็นบ้านไม้..แบบไม้จริงๆ ชั้นบนเป็นไม้เก่าๆ ทรุดโทรม ส่วนชั้นล่างเปิดโล่ง มีแคร่ไว้นั่งรับลมเล่นอึ๊บ! เสียงเขาวางเธอลงแคร่ไม้ "โอ๊ย!! นายช่วยวางฉันเบาๆ หน่อยไม่ได้หรือไง!""ไปกินช้างมาหรือไง""นายว่าฉันอ้วนเหรอ!""แล้วแต่จะคิดแล้วกัน! คนอะไรตัวแค่นี้แต่หนักฉิบหาย""ใครใช้ให้นายแบกฉันมาล่ะ!""ส่งกล้องคืนมา""ไม่!" หญิงสาวรีบจับกล้องซ่อนไว้ด้านหลังของตัวเอง"บอกให้เอากล้องคืนมา!" เขายื่นมือออกไปด้วยใบหน้าถมึงทึงแทบจะกินเลือดกินเนื้อเธอให้ไ
"ฉันไปเป็นเมียนายตั้งแต่เมื่อไร!""หรือเธออยากจะเป็นเมียทุกคนในซุ้มโจรพร้อมกัน.."มิลานใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง เพราะตอนนี้ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ยังไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองกันแน่ ดูท่าทางแล้วไอ้หมอนี่มันคงไม่ต้องการเงิน แต่มันต้องการอะไรทำไมมันถึงจับตัวเธอมา"ก็ได้ถ้าเธออยากเป็นเมียทุกคนพร้อมกัน ..ลุงครับ" ชายหนุ่มเริ่มจะขู่เมื่อเห็นว่าเธอเงียบไป"นี่นาย!!""จะเอาไง""แล้วฉันเลือกอะไรได้บ้างล่ะ!""แล้วนี่แกกินข้าวมาหรือยังล่ะไอ้หำ" ลุงถามขัดจังหวะขึ้น เพราะดูท่าทางแล้วคงจะคุยกันอีกยาว"ยังเลยครับลุง""ป้าทำกับข้าวไว้เผื่อแต่ไม่ได้เอาไปไว้เรือนหลังนั้นนะ กลัวแกจะยังไม่กลับ""ครับลุง"..แสดงว่าที่นี่ยังมีผู้หญิงอย่างนั้นเหรอ เพราะได้ยินโจรแก่พูดถึงป้า แต่ถ้าเป็นเมียของลุง ก็ต้องเป็นโจรเหมือนกันน่ะสิ ความฝันที่จะออกไปจากที่นี่เริ่มริบหรี่ลงอีกครั้ง เอาวะถ้ามันอยากจะเอาชีวิตป่านนี้มันคงฆ่าเราทิ้งไปแล้ว เก็บลมหายใจไว้หนีดีกว่า"ฉันหิวข้าว" ก่อนอื่นต้องหาอะไรลงท้องก่อนเพราะยังไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน"หิวก็ไปติดเตาไฟ มีไม้ และถ่าน ถนัดใช้อันไหน""อะไรนะ?" ที่เขาพูดมาเธอไม่รู้จักสักอ
หญิงสาวนั่งมองเขากินอยู่แบบนั้นหลายคำ จนคิดว่าเขาจะไม่เก็บไว้ให้เธอกินแล้ว มิลานก็เลยรีบแย่งช้อนในมือของเขาออกมา แล้วถือมันไปที่ตุ่มน้ำ"เธอทำอะไร" ชายหนุ่มถามออกไปแบบสงสัย"ล้างช้อน" ..ใครจะไปกล้ากินต่อจากเขาล่ะ เธอล้างจนสะอาดแล้วก็กลับมานั่งลงที่แคร่ไม้ นิ้วเรียวล้วงเอาข้าวเหนียวในกระติบออกมา"..มันกินได้แน่นะ" หญิงสาวพูดออกมาเบาๆ กับตัวเองใบหน้าหล่อเผลอยกยิ้มขึ้น แต่ต้องได้รีบสลัดอารมณ์นั้นออกไป"กินไม่ได้ก็ไม่ต้องกิน เอาไปเททิ้ง" เขาไม่พูดเปล่ามือหนายื่นไปยกถ้วยแกงปลาขึ้นมา"จะบ้าเหรอฉันยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว"ได้ยินแบบนั้นชายหนุ่มก็เลยวางถ้วยลงที่เดิม"รีบกิน แล้วเก็บไปล้างด้วย""แล้วนายจะไปไหน" พอเห็นเขาลุกเดินออกมาก็เลยตกใจ เพราะแถวนี้มันน่ากลัวมาก ยิ่งมองออกไปด้านนอกก็มืดทุกทิศทุกทาง"ไม่ไปไหนไกลหรอก อยู่แถวนี้แหละ"พอเขาไปแล้วเธอก็ลองตักน้ำซุปขึ้นมาชิมดู"อืม..พอกินได้" มือเรียวปั้นข้าวเหนียวให้เป็นก้อนแล้ววางลงไปในน้ำแกง แล้วก็ตักมันขึ้นมามองดูก่อน"..กินได้แน่นะ" ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยกินข้าวเหนียว แต่ก็รู้แหละว่ามันมีอยู่บนโลกใบนี้เวลาผ่านไป..เธอนั่งรออย
เธอมองซ้าย มองขวา เพื่อหามุมที่ พอจะนอนได้ ..ให้ยุงกัดยังดีกว่าเป็นเมียโจรแบบเขาเมื่อมองดูแล้วว่ามุมไหนก็เหมือนกันหมด หญิงสาวก็เลยนั่งพิงลงข้างผนังบ้านที่เป็นไม้ ..นั่งอยู่แบบนั้นเพียงไม่นานก็เริ่มง่วงนอน เพราะเหนื่อยล้ามาตลอดตั้งแต่ถูกเขา ลักพาตัวออกมาจากงานเลี้ยงเช้าวันต่อมา.. ไม่ใช่แค่เธอที่เหนื่อยเขาก็เหนื่อยเช่นกัน ก็เลยไม่ได้สนใจว่าเธอจะเข้ามานอนด้วยไหม พอตื่นมาอีกทีก็เห็นว่าเธอเลือกที่จะนอนนอกมุ้ง"นั่นนายจะไปไหน" มิลานได้ยินเสียงตั้งแต่เขาออกจากมุ้งแล้ว ก็เลยรีบลุกขึ้น"ลงไปข้างล่าง""แล้วฉันล่ะ""เธอก็อยู่บนนี้แหละ""ให้ฉันไปด้วย""แน่ใจนะว่าเธอจะลงไปสภาพนี้จริง" เขามองดูชุดที่เธอสวมใส่เป็นผ้าถุงและเสื้อคอกระเช้า ถ้ามองลึกเข้าไปด้านในรู้ได้เลยว่าเธอไม่มีชุดชั้นในเพราะเมื่อคืนนี้มันเปียกหมดหญิงสาวเหมือนจะรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่เธอก็เลยรีบถอยออกมา"นายช่วยเอาชุดของฉันขึ้นมาให้หน่อยได้ไหม""ใส่แบบนี้แหละ" เขาพูดตัดบทแค่นั้นแล้วก็ลงไป"หายไปทั้งคืนเลยนะมึง" พอลงมาก็เจอมะลิซ้อนกลับมาบ้านพอดี"ผมรู้ดีน่าาว่าต้องทำยังไง""รู้ดีเรื่องอะไร""ไม่ต้องมาทำเป็นไขสือหรอกพี่หวานกันขนาดนั้น
สามเดือนผ่านไปตอนนี้ท้องของมิลานก็เริ่มโตขึ้นจนโผล่พ้นออกมาให้เห็นมากแล้ว"ทำไมกลับบ้านเร็วล่ะคะ" หลายวันมานี้สามีกลับบ้านก่อนเวลาตลอด"ว่าจะไม่ไปทำงานด้วยซ้ำ""ทำไมล่ะ""ก็เป็นห่วงคุณไง ดูสิจะเดินจะนั่งก็ดูลำบากไปหมด" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับประคองภรรยาค่อยๆ นั่งลงที่โซฟา"ฉันอยู่ที่บ้านกับคุณแม่ไม่เห็นมีอะไรต้องน่าเป็นห่วงเลยค่ะ"ถึงแม้ว่าแม่ของเขาจะดูแลเธอเป็นอย่างดี แต่ผู้เป็นสามีก็อดห่วงไม่ได้ เพราะอยากจะดูแลเธอเอง มือหนาลูบไล้หน้าท้องของภรรยาซึ่งตอนนี้เด็กดื้อที่อยู่ในนั้นกำลังดิ้นแรงมาก"เหลืออีกตั้งสี่เดือนกว่า ลูกถึงจะคลอด ถ้าไม่ไปทำงานใครจะดูงานให้ล่ะคะ""ก็ให้ท่านรองประธานดูไปสิ""คุณเสกสรรนะเหรอ""ไอ้เสกมันทำงานเก่งไม่เป็นแบบที่คุณคิดหรอกนะ" ใครจะคิดว่าเสกสรรจะเก่งในการทำงานขนาดนี้ เพราะเคยเห็นแต่สำมะเลเทเมาไปวันวานพอรู้ว่าโปรเจคงานที่ก่อปัญหาในครั้งนั้นเป็นผลงานของเสกสรร เหนือตะวัน และพ่อของมิลานก็มองเสกสรรใหม่ จนตอนนี้ให้ตำแหน่งเขาเป็นถึงท่านรองประธาน เพื่อที่จะมาดูงานช่วยกันอีกแรงแต่เสกสรรจะยอมรับตำแหน่งนั้น ถ้าให้ภรรยาของเขาเป็นเลขาส่วนตัว เพราะทีแรกจั๊กจั่นขอไปทำงานที่แ
เช้าวันต่อมา.."ถ้ามีโอกาส เราจะมาเที่ยวเล่นที่นี่อีกนะ" ประไพเอ่ยพูดขึ้นกับลุงพงษ์และป้าวรรณีที่เดินมาส่งตรงท้ายหมู่บ้านเพื่อจะขึ้นรถไปสนามบิน"เชิญพวกท่านทั้งสองได้เสมอเลยครับ" ลุงพงษ์ตอบกลับไปแบบนอบน้อม"ถ้าเมื่อไรอยากได้ถนน กับไฟฟ้า ให้บอกมาได้ตลอดเลยนะ เดี๋ยวให้คนมาจัดการให้" คำพูดนี้ท่านรัฐมนตรีเป็นคนพูดเอง เพราะถ้าเป็นคำสั่งของท่านคงใช้เวลาไม่นาน"ก็ไอ้หำน่ะสิ..เออ..ขอโทษครับ" ลุงพงษ์เผลอปากเรียกลูกชายท่านว่าหำต่อหน้า"ไม่เป็นไรหรอกครับลุง ลุงถนัดแบบไหนก็พูดแบบนั้นเถอะ" เหนือตะวันที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ได้พูดให้ลุงคลายกังวล"ลูกหลานมันอยากจะเก็บบรรยากาศแบบนี้ไว้ ก็ทำตามคนที่เขาอยู่อาศัยต่อเถอะครับท่าน" มันยิ่งทำให้ป้าและลุงรักหลานชายคนนี้เพิ่มขึ้น เพราะเขาไม่ใช่คนธรรมดา แต่ยังมาอาศัยอยู่กับพวกท่าน ถือว่าบุญเก่าเคยทำมาร่วมกัน"คุณพ่อกับคุณแม่กลับไปก่อนนะครับ ถ้าพ้นช่วงฮันนีมูนแล้วเดี๋ยวผมจะพาลูกสะใภ้กลับไปหาเอง" เหนือตะวันพูดพร้อมกับเปิดประตูให้ผู้เป็นพ่อกับแม่ได้ขึ้น"ฝากดูแลท่านทั้งสองด้วยนะเสก" เขายังหันไปพูดกับเสกสรรที่กำลังจะขึ้นรถอีกคัน"ได้สิ มึงอย่าลืมนะว่านี่ก็พ่อตาแม่ยายกูเ
"คิดถึง""คะ?" จะตกใจอะไรก่อนดี ระหว่าคำที่ท่านบอกว่าคิดถึง หรือมือที่ท่านยื่นมาโอบกอด สัมผัสแบบนี้ไม่เคยเจอมาเป็นสิบปีแล้ว ถึงแม้เวลามันจะยาวนาน แต่นางก็นับวันนับคืน ว่าเมื่อไรสามีจะหันหน้ากลับมาหา แต่ยิ่งท่านหันหลังให้ก็ยิ่งเดินห่างไกลออกไป วิ่งตามเท่าไรก็ตามไม่ทัน"ท่านไม่สบายหรือเปล่าคะ" ความคิดนี้พุ่งขึ้นมาในหัว ส่วนมากถ้าคนที่เป็นโรคร้าย ชอบจะกลับมาตายรังแบบนี้เสมอ เพราะอีหนูพวกนั้นคงดูแลไม่ได้"ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ""ก็ดูท่านเปลี่ยนไป" นอกจากคำว่าคุณแล้ว ประไพชอบเรียกสามีว่าท่าน เพราะยังไงนางก็อายุน้อยกว่าเป็นสิบปี"ถ้าผมไม่สบายจริง คุณจะดูแลไหม"เพียงไม่นานก็ได้ยินเสียงสะอื้นของภรรยาเก่า พร้อมกับมือที่ขยับขึ้นปาดน้ำตาตัวเองออก"คุณเป็นอะไร" สำราญตกใจ รีบลุกขึ้นนั่ง จะจุดไฟตะเกียงก็ทำไม่ได้แล้วเพราะทำไม่เป็น"คุณป่วยระยะที่เท่าไรแล้วคะ""ระยะที่เท่าไรหมายความว่ายังไง""คุณเป็นมะเร็งใช่ไหม คุณไปหาหมอมาหรือยัง แล้วทำไมคุณไม่รีบกลับมาหาฉัน" สิ้นประโยคคำพูดเสียงสะอื้นของนางก็ดังขึ้นเรื่อยๆ ที่ประไพคิดแบบนี้ ก็เพราะมีไม่กี่โรคหรอกคนรุ่นราวคราวนี้ที่จะเจอ"ใจเย็นก่อนสิคุณ""ทำไมคุณไม่รี
ในเวลาเดียวกันนั้นที่บ้านปลายนา..หลังจากร่วมรับประทานอาหารเย็นกันเสร็จแล้ว ลุงพงษ์กับป้าวรรณี และคู่ที่มาฮันนีมูนก็ได้กลับบ้าน ซึ่งปล่อยให้ท่านรัฐมนตรีกับอดีตภรรยาได้อยู่ด้วยกันแค่สองคน ในบ้านหลังที่พ่อและแม่ของมิลานเคยอาศัยอยู่เรามารู้จักกับท่านรัฐมนตรีและภรรยาเก่ากันบ้าง สำราญ ชายวัย 57 ปี แต่รูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้เป็นไปตามอายุเท่าไร เพราะดูแลร่างกายดี ส่วนประไพ ซึ่งอายุน้อยกว่าสามีเก่าถึง 10 ปี ตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยในปีนั้นนางก็ได้คว้าดาวมหาวิทยาลัยมาครอง ความสวยของนางก็ยังคงมีอยู่ แต่ด้วยความไม่พอของสามี จึงยังต้องการเด็กสาวเข้ามาเติมเต็ม"คุณนอนได้ไหมล่ะคะ""นอนได้สิ" สำราญพูดพร้อมกับค่อยๆ หย่อนกายมุดเข้าไปในมุ้งแบบลำบากเพราะไม่เคยนอนแบบนี้มาก่อน"หึ..มันก็สรรหาที่มาอยู่นะ""แต่ผัวเมียคู่นั้นก็ดูรักลูกเราดีนะคะ""อืมม..ชีวิตแบบนี้ก็ดีไปอีกแบบ""คุณนอนไปก่อนเลยนะคะ ฉันจะลงไปเล่นข้างล่าง" ว่าแล้วนางก็แยกตัวลงมาก่อน ..อายุปูนนี้แล้วทำไมหัวใจยังเต้นแรงอยู่อีกควรพอได้แล้วมั้งประไพ เข้าใกล้สามีเก่าแล้วรู้สึกหวั่นไหวจนต้องได้ตำหนิตัวเองพอลงมาถึงข้างล่างนางก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้า ซึ่งตอนน
"คนเจ้าเล่ห์" ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรเพื่อแลกเปลี่ยน"เจ้าเล่ห์ที่ไหนอยากรู้ความลับก็ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนกันหน่อยสิ" ใบหน้าหล่อคมขยับเข้ามาใกล้ริมฝีปากบางแบบห้ามใจตัวเองไม่อยู่"ครั้งนี้พี่จะเป็นเหมือนครั้งที่แล้วไหม" หญิงสาวไม่ปฏิเสธแถมเธอยังหลับตาให้ แต่อดที่จะถามออกไปไม่ได้ เพราะกลัวว่าเรื่องแบบเดิมๆ มันจะกลับมาอีกครั้ง"ไม่แล้ว..และพี่จะไม่ขอโทษเราอีก แต่พี่จะทำให้เราเห็น" เสกสรรรู้ดีว่าเธอหมายถึงอะไร ตอนนั้นเขายังคึกคะนองในตัวเอง และเสียดายความโสดของตัวเอง จึงได้พยายามผลักไสเธอออกไป"พี่จะทำอะไรให้ฉันเห็น" ดวงตากลมเปิดขึ้นอีกครั้งเพื่อมองสบตา"ทำให้เห็นว่าพี่รักเราไง"น้ำตาได้ไหลลงมาจากดวงตางามคู่นั้น เธอสัมผัสได้ว่าที่เขาพูดมันออกมาจากใจจริง ไม่เหมือนครั้งก่อนที่เขาต้องการแค่ร่างกายของเธอ"ไม่ร้องนะคนเก่งของพี่" จากที่จะจูบก็เลยได้เปลี่ยนมาเป็นซับน้ำตาให้"ฉันเก่งที่ไหน""เก่งสิ..ถ้าจั๊กจั่นของพี่ไม่เก่งแล้วใครจะเก่งล่ะ" เสกสรรคว้าร่างบางเข้ามากอดไว้"ยังเจ็บอยู่ไหม"หญิงสาวตอบด้วยการส่ายหน้าเบาๆ สิ่งที่เกิดขึ้นมันทำให้เธอลืมความเจ็บปวดไปได้ เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะมีความ
"จะ..จะ..จริงเหรอวะ" อัมพรแม่ของจั๊กจั่นไม่ค่อยเชื่อ แต่พอมีคนไปตามก็รีบมาดู"ต่อไปนี้แม่จะไม่ให้ใครทำร้ายหนูได้อีกแล้ว เราจะกลับไปพร้อมกันนะ" ประไพพูดพร้อมกับลูบผมของจั๊กจั่นเบาๆ เพื่อปลอบใจหญิงสาวไม่ตอบแต่เธอพยักหน้าเพราะตื้นตันใจ ขนาดท่านไม่ใช่แม่แท้ๆ ยังเป็นห่วงเธอขนาดนี้"คนนี้บอกว่าเป็นแม่ของคุณจั๊กจั่นครับท่าน" ตำรวจที่ควบคุมสถานการณ์อยู่ข้างนอกได้พาผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามา"จั๊กจั่น" อัมพรตกใจที่เห็นลูกสาวอยู่ในอ้อมกอดของใครก็ไม่รู้"คนนี้ใช่ไหม" ประไพถามจั๊กจั่น แต่สายตามองไปที่อัมพร ซึ่งข้างกายของอัมพรก็มีผู้หญิงอีกคนที่รุ่นราวคราวเดียวกับจั๊กจั่นยืนอยู่ด้วยจั๊กจั่นทำได้แค่ส่ายหน้า เพราะเป็นห่วงแม่ ยังไงท่านก็เป็นแม่ที่ให้กำเนิด"บอกแม่มาตามตรง คนนี้ใช่ไหมคือแม่ใจร้ายที่ทำหนู""เกิดอะไรขึ้นน่ะน้า" ตั๊กแตนสะกิดข้างของน้าอัมพร แล้วถามเบาๆ สายตาก็ได้มองไปดูทั่วบริเวณบ้านของเสกสรร ซึ่งตอนนี้ผู้ชายที่แต่งตัวภูมิฐาน ต่างก็ยืนรอบล้อมอยู่แถวนั้น"ท่านนี้คือผู้ใหญ่ที่จะมาสู่ขอจั๊กจั่นให้ผมครับ" เสกสรรซึ่งยืนอยู่ไม่ไกล ก็เดินเข้ามาแนะนำให้แม่ของจั๊กจั่นได้รู้จัก"ท่านคือ ท่านรัฐมนตรีสำร
"กูขอโทษด้วยนะที่ทำให้มึงเดือดร้อนไปด้วย" พอเหตุการณ์ปกติ ทั้งสี่ก็ได้มานั่งคุยกันที่บ้านหลังเดิมของมิลาน"ไม่เป็นไรหรอกน่าา เป็นเพื่อนกัน""แล้วพ่อมึงจะยอมมาไหมวะ" ด้วยความโมโหและความเป็นห่วงคนรัก เขาก็เลยพูดไปโดยไม่ได้คิด เพราะคนระดับท่านรัฐมนตรีจะว่างมาให้ไหม"ต้องลองคุยกับพ่อดูก่อน""อย่าคิดมากนะเดี๋ยวทุกอย่างมันก็ผ่านไป" มิลานได้แต่ปลอบใจจั๊กจั่นที่นั่งทำหน้าเศร้า"ทุกคนก็เลยต้องได้มาเดือดร้อนเพราะฉัน ฉันน่าจะกลับไปพร้อมแม่ให้เรื่องมันจบๆ ไป""ทุกคนเต็มใจช่วย อย่าพูดแบบนั้นอีกนะ เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ"เหนือตะวันก็เลยเดินเข้ามาเอาโทรศัพท์ที่รถ เพื่อที่จะโทรหาพ่อดูก่อน.. ที่เขาต้องเก็บโทรศัพท์ไว้ในรถเพราะยังไงบ้านปลายนาก็ไม่ค่อยมีสัญญาณอยู่แล้ว แถมไม่มีไฟฟ้าที่จะชาร์จโทรศัพท์ด้วยเวลาผ่านไป.. ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เขาก็ได้กลับมาหาทั้งสามที่นั่งรออยู่ที่เดิม"พ่อกูติดประชุมในพรรค""ท่านปลีกตัวมาไม่ได้เลยเหรอ" มิลานเดินเข้ามาถามสามี"ไม่แน่ใจ""ทำไมไม่ถามดีๆ ก่อนล่ะ""ทุกคนพอแค่นี้เถอะ ฉันจะกลับบ้าน" จั๊กจั่นไม่อยากจะให้ พวกเพื่อนๆ ต้องมาเดือดร้อนกับเธอมากไปกว่านี้อีกแล้ว"ไม่ได้นะ
"มานี่เลยนะนังลูกไม่รักดี!" อัมพรเดินเข้าไปคว้าตัวลูกสาวเข้ามาหวังจะทำโทษ"อย่าทำอะไรจั๊กจั่นนะน้า" เสกสรรที่เดินตามหลังมา ดูท่าไม่ดีก็เลยรีบเข้ามาขวางไว้"เราคุยกันรู้เรื่องแล้วไม่ใช่เหรอเสก ไหนตกลงกับน้าแล้วไงว่าจะไม่เจอหน้ากัน""ผมแค่มาส่งเห็นมันมืดค่ำแล้ว น้าจะปล่อยให้ลูกสาวมีอันตรายหรือไง" ในขณะที่พูดสายตาของเขาตวัดมองไปที่ตั๊กแตน แต่ก่อนไม่เคยรู้เลยว่าตั๊กแตนจะเป็นคนนิสัยแบบนี้ เพราะดูเรียบร้อย ผิดกับอีกคนที่เขากำลังหลงใหลอยู่ในตอนนี้ เธออาจจะเป็นคนที่ดูแรง แต่เธอก็ไม่ได้เสแสร้งเหมือนตั๊กแตน"ใครก็พูดได้ถ้าจะพูดแบบนี้" ตั๊กแตนยังพูดยุแยง เพราะได้ยินเมื่อตอนกลางวันเรื่องที่เสกสรรมาสู่ขอจั๊กจั่นอีกครั้ง ก็เลยเริ่มจะหมั่นไส้"ตกลงแม่จะตีไหม ถ้าไม่ตีฉันจะกลับเข้าห้องแล้ว""จั๊กจั่นอย่าพูดแบบนั้น" เสกสรรห้ามปรามไว้ เพราะมันเหมือนกับไปกระตุ้นอารมณ์ของแม่ เขากลัวว่าน้าอัมพรจะตีเธอซ้ำรอยเดิม"พี่ไม่ต้องมายุ่งหรอกกลับบ้านพี่ไปเถอะ" จั๊กจั่นหันมาตวาดใส่เสกสรร เพราะถ้าเขายังอยู่กลัวว่าเรื่องจะบานปลายมากไปกว่านี้"พี่จะกลับ แต่ต้องแน่ใจก่อนว่าน้าอัมพรจะไม่ตีเรา" แต่เสกสรรไม่ยอมไปเพราะกลัวแม
"ไอ้เสกมึงจะฆ่าแม่หรือไง" พ่อรีบเข้ามาในครัวเมื่อได้ยินเสียง"ผมฆ่าแม่ตอนไหน""ก็เรื่องที่มึงกำลังพูดอยู่เมื่อกี้ไง!""พ่อได้ยินแล้วเหรอ""กูได้ยินตั้งแต่คำแรกที่มึงพูดแล้ว" ที่พ่อของเขาได้ยินเพราะท่านอยู่แถวหน้าต่าง ตรงที่เขาคุยกับแม่พอดี"นะพ่อนะ..ไปขอเมียให้ผมหน่อยนะ"ผู้เป็นพ่อไม่ตอบ แต่เดินเข้าไปเก็บของที่ภรรยาทำตกหล่น"พ่อกับแม่จะไปคุยให้ผมไหมเนี่ย""มึงจำได้ไหมก่อนที่มึงจะหนีเข้ากรุงเทพฯ มึงก็พูดคำนี้แหละ แต่มึงให้พวกกูไปถอนคำพูด จนเสียค่าสินไหมไปกี่แสน""เรื่องนั้นผมขอโทษ ผมรับรองว่ามันจะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีกแล้ว""กูไม่เชื่อมึงหรอกไอ้เสก""เชื่อผมเถอะพ่อ" เสกสรรเดินตามพ่อออกมาหน้าบ้าน เพราะตอนนี้พ่อเอาขยะออกมาทิ้ง"ถูกตีเลยเหรอวะ" จังหวะนั้นป้าร้านค้ากำลังคุยกับตั๊กแตนอยู่พอดี"จะเหลือเหรอป้า""เรื่องปกติของแม่มันอยู่แล้ว เอะอะอะไรก็ตีลูก""สมน้ำหน้าน่ะสิไม่ว่า เดี๋ยวก็ท้องไม่มีพ่อเข้าสักวัน""กำลังพูดถึงเรื่องใครอยู่" เสกสรรเดินตามพ่อออกมาได้ยินคำนี้พอดี"จะพูดถึงใครล่ะ ก็พูดถึงเรื่องผู้หญิงที่พี่ไม่เอาแล้วไง" ตั๊กแตนหันไปพูดกับเสกสรรแบบได้ใจ เหมือนกับว่าหาแนวร่วมเพราะ