[หน้าห้างสรรพสินค้า]"ตื่น" ไม่ใช่แค่คุณนายแม่ที่เห็นคอนเท้นนั้นของเน็ตไอดอล เจ้าของห้างก็เห็นเช่นกัน จึงต้องได้รีบให้คนมาเชิญตัวผู้หญิงที่นอนอยู่หน้าห้างออกไปก่อน กลัวว่าจะเป็นข่าวเสียหายหญิงสาวถูกเขย่าจนรู้สึกตัว..รีบลุกขึ้นมานั่งแบบงัวเงีย"ขอโทษค่ะ" จั๊กจั่นรีบลุกขึ้นยืนเพราะรู้สึกอาย ตอนนี้ใครหลายคนต่างก็มองมา ถึงแม้ที่นี่จะดึกแล้ว แต่คนก็ยังพลุกพล่านอยู่"ผู้หญิงคนที่นอนอยู่หน้าห้างเมื่อสักครู่ไปไหนแล้ว" ลงรถได้ประไพก็รีบเดินมา เพราะจำห้างนี้ได้แม่น เวลาที่นั่งดูไลฟ์สด แน่นอนว่ามันคือเวลาปัจจุบัน"เห็นรปภ.ของห้างมาไล่ให้ออกไปแล้ว" คนที่ยังอยู่แถวนั้นตอบออกไป"แล้วเห็นไหมว่าเดินไปทางไหน""คนเยอะขนาดนี้ไม่เห็นหรอกป้า""ไอ้นกแก้วมันจะไปไหนของมันเนี่ย" ประไพแน่ใจว่าต้องเป็นจั๊กจั่นแน่พอเดินตามหาแถวนั้นไม่เจอ นางก็เลยโทรไปหาลูกชาย ซึ่งวันนี้เขาขอพาภรรยาไปนอนที่บ้านแม่ยาย>>{"อะไรนะครับแม่?"}{"ตอนนี้แม่ยังอยู่ที่ห้าง เดี๋ยวแม่ส่งคลิปให้ดู"} นางก็เลยกดแชร์คลิปนั้นเพื่อให้ลูกชายได้ช่วยดู พอมิลานและเหนือตะวันเห็นก็แน่ใจเลยว่านั่นคือจั๊กจั่นเหนือตะวันก็เลยรีบโทรกลับไปที่หมู่บ้าน>>{"จ
หญิงสาวทำความสะอาดช่วยแม่บ้านจนถึงช่วงเที่ยง เธอก็ลงมาทานข้าวที่แคนทีนของบริษัท ซึ่งมีไว้สำหรับพนักงานอยู่ทางด้านหลังเพื่อนร่วมงานคนแรกของเธอก็คือแม่บ้าน ซึ่งอายุมากกว่าเธอเกือบ 10 ปี ทั้งสองคุยกันถูกคอเพล้ง! ในขณะที่กำลังถืออาหาร เดินมาก็ได้ชนเข้ากับพนักงานที่กำลังเดินเข้ามาในร้าน จนของที่อยู่ในมือตกแตก"ทำอะไรของเธอ!" แต่คนที่โวยวายกับไม่ใช่คนที่ถูกชน"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ" คนที่ถูกชนห้ามปรามอีกคนไว้"แต่น้องน้ำมนต์คะ ผู้หญิงคนนี้เดินไม่ระวังมาชน..""น้ำมนต์บอกไม่เป็นไรไงคะ" น้ำมนต์ก้มลงเก็บของช่วยจั๊กจั่น เพราะคนที่เดินมาชนก็คือจั๊กจั่นนั่นเอง"ขอบคุณค่ะ" จั๊กจั่นกล่าวขอบคุณ ในขณะที่ช่วยกันเก็บของ"ไม่เป็นไรค่ะ คุณเป็นอะไรไหมคะ""ไม่ค่ะ" จั๊กจั่นแอบมองป้ายที่หน้าอก ก็เห็นว่าเธอคนนี้เป็นหัวหน้าแผนกต้อนรับ ..โชคดีนะคนที่เป็นหัวหน้าแผนกต้อนรับ ไม่นิสัยร้ายกาจเหมือนคนที่ตามมาใช่แล้วน้ำมนต์ก็คือคนเดียวกันกับที่ให้ภูธรและภรรยาไปค้างด้วย และตำแหน่งหัวหน้าภูธรก็เป็นคนแต่งตั้งเอง ส่วนคนที่ตามมาน่ะเหรอ ก็คือหัวหน้าแผนกคนเดิม ถูกลดขั้นให้ลงมาเป็นลูกน้อง แต่ยังไม่วายปากไม่ดีอีกทานข้าวเสร็จจั๊
ตั้งแต่วันที่ลองชุด จั๊กจั่นก็ยังไม่ได้เข้าไปที่ทำงาน เพราะมัวยุ่งอยู่กับการช่วยงานแต่ง จนเกมตามมาถึงที่บ้าน"ฉันก็ลางานแล้วนี่คะ" จั๊กจั่นเดินออกมาหาที่ประตูหน้าบ้าน เมื่อได้ยินรปภ.แจ้งเข้าไปว่ามีคนมาหา"ผมกลัวว่าคุณจะไม่สบายก็เลยมาดูให้เห็นกับตา""ฉันสบายดีค่ะกำลังมัวยุ่งอยู่กับงานแต่งของเพื่อน""งานแต่งของเพื่อนเหรอครับ""ใช่ค่ะ คุณมีอะไรอีกไหมคะ""ไม่มีครับ""ถ้างั้นฉันเข้าบ้านนะ" เธอเคยผ่านความรักมาแล้วทำไมจะไม่รู้ แต่ก็ไม่อยากเปิดโอกาสให้ใครเข้ามาได้ง่ายๆ เหมือนเช่นเคย เพราะรู้ดีว่ามันเจ็บมากเมื่อผิดหวังเรื่องความรัก"ใครมาเหรอจั๊กจั่น""หัวหน้าแผนกนั่นแหละ คงคิดว่าฉันโกหกเรื่องลางานมั้ง""เขาจีบเธอเหรอ""จีบที่ไหน!!""สงสัยเพื่อนฉันจะเนื้อหอมแล้วนะเนี่ย" มิลานได้แต่มองตามหลังจั๊กจั่นที่กำลังอายเดินเข้าบ้านไปแต่ก่อนตอนที่อยู่หมู่บ้าน ก็เห็นแต่ใส่ผ้าถุง หรูสุดก็คงจะเป็นกางเกงยีนส์ แต่พอเปลี่ยนลุคใหม่ ที่แม่ของสามีเธอเปลี่ยนให้ จั๊กจั่นดูเป็นคนละคนไปเลย เพราะสวยขึ้นมาก ยังแอบคิดอยู่ว่าถ้าเสกสรรมาเห็นจะทำหน้ายังไง"ไปไหนมาคะ" ในระหว่างที่มิลานกำลังคิดเรื่องจั๊กจั่นและเสกสรร สามีก็
"คนที่เคยรู้จักอย่างนั้นเหรอ!" ถ้าที่นี่เสียงไม่ดังคงได้ยินเสียงกัดฟันของเสกสรร แต่จะทำอะไรมากก็ไม่ได้ เพราะมันเป็นงานแต่งของเพื่อนรัก"มันจะเกิดอะไรขึ้นไหมคะ" มิลานแอบสังเกต เพราะเห็นสายตาของเสกสรรที่จ้องมองจั๊กจั่น ซึ่งตอนนี้ควงกับหัวหน้าแผนกคนนั้นออกนอกหน้ามาก"ไม่มีอะไรหรอก ก็ไอ้เสกเองไม่ใช่เหรอที่ปฏิเสธ"ขณะที่เหนือตะวันกำลังยืนคุยอยู่กับเจ้าสาว จอมอนิเตอร์ก็ได้ถูกเปิดขึ้น"......" จากที่มิลานกำลังสนใจเรื่องจั๊กจั่น แต่ตอนนี้ที่จอนั้นได้ดึงความสนใจของเธอกลับมา"นายไปถ่ายตั้งแต่เมื่อไร""ดูไม่รู้เลยเหรอว่าถ่ายตั้งแต่เมื่อไร"ทำไมเธอจะดูไม่รู้ว่าเขาถ่ายวันไหน แต่มิลานไม่รู้ว่าเขาถ่ายเธอด้วยเหรอ เพราะวันนั้นวันที่ทำกล้องของเขาหลุดมือ มิลานดูไปได้แค่สองภาพ และก็คิดว่าภาพที่เหลือคงจะมีแต่รูปของตั๊กแตน แต่กลับไม่ใช่ ทุกภาพที่เธอมองอยู่ในตอนนี้มันโฟกัสมาที่เธอคนเดียวทั้งหมดใช่แล้วในที่ขณะที่เขาขึ้นมาดื่มน้ำ แต่ก็ไม่ได้ดื่ม เพราะมัวแอบถ่ายภาพพวกนั้น และมันเป็นวันเดียวกับที่เคียวบาดมือของเธอ และภาพนั้นก็มีติดมาด้วยภาพที่ทำให้มิลานตะลึงก็คือ ทุ่งนาข้าวที่มีรอยคนล้มลงไป หญิงสาวจำได้ดีวันน
"กูไม่เข้าใจ ในเมื่อมึงไม่ต้องการน้องเอง แล้วทำไมมึงยังทำเหมือนว่าหวงก้างอยู่วะ" เหนือตะวันคุยกับเสกสรรในขณะที่เดินเข้ามาในบริษัท"กูหวงก้างที่ไหน กูแค่อยากทำงาน ก็มึงเองไม่ใช่เหรอที่อยากให้กูทำงาน""ทำก็ทำ แล้วนี่มึงทำอะไรเป็นบ้าง""กูอยากเป็นหัวหน้าแผนก ที่เธอทำงานอยู่""ไม่ได้! หัวหน้าแผนกมีอยู่แล้วกูก็บอกมึงแล้วไง""มึงก็ไล่ไอ้หมอนั่นออกไปสิวะ" เรื่องนั้นเสกสรรก็รู้แล้ว ว่าใครเป็นหัวหน้าแผนกของจั๊กจั่น"มันไล่กันออกได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรือไง""ก็มึงเป็นเจ้าของบริษัทนี้ไม่ใช่หรือไง""มึงอย่าพูดดังสิ คนมองแล้วเห็นไหม""มองก็ช่างปะไร กูไม่สนใจ" คราวก่อนที่เสกสรรเข้ามาบริษัทนี้พร้อมกับเหนือตะวันและมิลาน เขามีท่าทางสนใจผู้หญิงทุกคนที่แต่งตัวสวย แต่มาคราวนี้ดูเปลี่ยนไป เพราะเขาไม่มองใครเลยลิฟต์ได้ถูกเปิดออกที่ชั้นผู้บริหาร ทั้งสองก้าวเดินออกจากลิฟต์มาพร้อมกัน"สวัสดีครับคุณพ่อ" พอออกมาก็เจอกับภูธรพ่อของภรรยา ที่กำลังจะเข้าห้องทำงานของท่าน"อ้าว..ทำไมมาทำงานเร็วจังเลย ไม่ไปฮันนีมูนที่ไหนกันก่อนเหรอ""ผมอยากจะเคลียร์งานก่อนสักระยะค่อยไปครับ""แล้วนี่มากับเขาด้วยเหรอ" ภูธรหันมาพูดกับเสกสรร
รถได้วิ่งมาจอดที่หน้าคอนโดหรู เพื่อส่งเสกสรรให้ลง"มึงไม่ขึ้นไปเล่นข้างบนก่อนเหรอ""กูบอกมึงแล้วไงว่ากูคิดถึงเมีย รีบลงจากรถได้แล้ว""ทำเป็นไล่ไปได้" เสกสรรเปิดประตูแล้วก้าวลงรถ แต่สายตาของเขาก็อดไม่ได้ที่จะมองไปดูผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้านหลัง ซึ่งเธอก็ยังมีทีท่าเหมือนเดิม ไม่สนใจเขานั่นเอง"จะมานั่งหน้าไหมเราน่ะ" พอเสกสรรลงไปแล้วเหนือตะวันก็เลยหันกลับมาถามคนด้านหลังจั๊กจั่นตอบโดยการส่ายหน้า เพราะเธอสับสนว่าตอนนี้เสกสรรกำลังทำอะไรอยู่ กว่าที่เธอจะบังคับใจตัวเองไม่ให้อยากเห็นหน้าเขาได้ รู้ไหมว่ามันยากลำบากแค่ไหนใช้เวลาอยู่บนถนนพอสมควรกว่าจะมาถึงบ้าน เพราะเป็นช่วงที่รถกำลังติด"แม่ครับ ให้คนจัดห้องให้ผมสักห้องนะ""ใครจะมาพักด้วยเหรอลูก""เพื่อนที่มาจากหมู่บ้านครับ""ใครเหรอ" คนที่ถามก็คือมิลาน"ก็ไอ้เสกนั่นแหละ วันนี้ว่าจะกลับมาถึงบ้านเร็วหน่อย แต่ต้องได้ไปส่งมันที่คอนโดอีก""เสกสรรเหรอ" มิลานรีบมองตามจั๊กจั่นที่เดินขึ้นบ้านไป เพราะถ้าเสกสรรมาพักที่บ้านหลังนี้ แล้วจั๊กจั่นล่ะ จะทำตัวยังไง"พวกเขาไม่มีอะไรกันแล้วไม่ต้องคิดมากหรอก"เรื่องแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องที่จะลืมกันง่ายๆ สักหน่อย แต่มิ
แกร็ก! จั๊กจั่นเปิดประตูเข้ามาโดยที่ไม่ส่งสัญญาณบอกเจ้าของห้องก่อน"คุณกำลังทำอะไรของคุณกันแน่""คุณ?" คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเชิงเป็นคำถาม เพราะเขาแปลกใจกับสรรพนามใหม่ที่เธอเรียก แต่ก่อน..ไม่ใช่แต่ก่อนสิ คงตั้งแต่จำความได้มั้ง เธอก็เรียกเขาพี่เสกมาโดยตลอด"คุณรู้ไหม กว่าที่ทุกคนจะทำงานนี้ออกมาได้ พวกเขาเสียสุขภาพจิตกับคุณไปตั้งเท่าไร กว่าที่จะแก้งานออกมาตามใจคุณได้ แต่คุณบอกจะใช้อันเดิมเนี่ยนะ?""ขอโทษครับ ตกลงใครเป็นหัวหน้าฝ่าย คุณหรือผม" ในเมื่อเธอพูดมาแบบนี้เขาก็เลยเล่นด้วย"ถ้าคุณแค่อยากจะแกล้งฉัน อยากจะให้ฉันไม่มีที่ยืน คุณก็เล่นงานฉันโดยตรงเลยสิ ทำไมต้องเล่นงานกันทั้งแผนกด้วย""ที่พูดมาทั้งหมดนี้ เป็นห่วงเพื่อนร่วมงานหรือว่าเป็นห่วงไอ้หัวหน้าแผนกคนนั้น""แล้วแต่คุณจะคิดเถอะ ฉันคงไปห้ามความคิดของคุณไม่ได้""มันใช่ตามที่คิดใช่ไหมล่ะ""ไม่ต้องมานอกเรื่อง ตอนนี้ฉันกำลังคุยเรื่องงานอยู่""ก็ได้..เราจะกลับมาเรื่องงาน ผมต้องการอยากจะได้งานตัวเก่าที่ส่งมาเมื่อเช้านี้ ทำยังไงก็ได้ให้งานเสร็จภายในวันนี้""คงไม่ได้แล้วล่ะค่ะ ตอนนี้ทุกคนกลับบ้านไปหมดแล้ว""ถ้างั้นคุณต้องเป็นคนทำแล้วล่ะ"จั๊กจ
"ใคร??" หญิงสาวพยายามจะเอื้อมมือไปเปิดไฟหัวเตียง เพราะตั้งแต่เข้ามาในห้องเธอยังไม่เปิดไฟสักดวง"กรี๊ด อืมมม!!!" จั๊กจั่นดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธนาการของคนในความมืด ตอนนี้รู้แล้วว่าคนคนนี้ต้องเป็นผู้ชายแน่ เพราะร่างกายที่กำยำและเรี่ยวแรงที่เหนือกว่าซึ่งตอนนี้มันขึ้นคร่อมร่างของเธอไว้ พร้อมกับปิดปากด้วยริมฝีปากของมันเอง แต่พอถูกจูบไปได้เพียงไม่นานก็สัมผัสได้ว่าเธอคุ้นเคยกับจูบนี้มาก หญิงสาวก็เลยหยุดดิ้น เพราะแน่ใจแล้วว่าผู้ชายคนนี้คือใครกันแน่เสียงสะอื้นได้ดังขึ้นในลำคอ พร้อมกับน้ำตาที่คลอออกมาจากเบ้า จนคนที่กำลังรังแกเธออยู่สัมผัสได้"รู้จักกับมันนานหรือยัง ทำไมถึงกล้าไปกับมันดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้" และเขาก็รู้เช่นกัน ว่าตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร"ออกไป" เสียงสะอื้นยังคงมีให้ได้ยิน แต่เธอก็พยายามกลั้นมันไว้"เห็นยืนร่ำลากันเป็นนานสองนาน คงโดนเสน่ห์มันเข้าไปให้แล้วล่ะสิ""ฉันบอกให้ออกไปจากห้องนี้""รู้ไหมว่าที่บ้านผู้ใหญ่ตามหากันให้วุ่น ตัวเองมาหลงระเริงกับไฟแสงสี"เพี๊ยะ!! ถึงแม้จะมืดเธอก็รู้ดีว่าใบหน้าของเขาอยู่ตรงไหน"ที่ฉันต้องได้ซมซานหนีออกจากบ้านมา เพราะใครล่ะ""ก็เห็นอยู่ดีก
สามเดือนผ่านไปตอนนี้ท้องของมิลานก็เริ่มโตขึ้นจนโผล่พ้นออกมาให้เห็นมากแล้ว"ทำไมกลับบ้านเร็วล่ะคะ" หลายวันมานี้สามีกลับบ้านก่อนเวลาตลอด"ว่าจะไม่ไปทำงานด้วยซ้ำ""ทำไมล่ะ""ก็เป็นห่วงคุณไง ดูสิจะเดินจะนั่งก็ดูลำบากไปหมด" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับประคองภรรยาค่อยๆ นั่งลงที่โซฟา"ฉันอยู่ที่บ้านกับคุณแม่ไม่เห็นมีอะไรต้องน่าเป็นห่วงเลยค่ะ"ถึงแม้ว่าแม่ของเขาจะดูแลเธอเป็นอย่างดี แต่ผู้เป็นสามีก็อดห่วงไม่ได้ เพราะอยากจะดูแลเธอเอง มือหนาลูบไล้หน้าท้องของภรรยาซึ่งตอนนี้เด็กดื้อที่อยู่ในนั้นกำลังดิ้นแรงมาก"เหลืออีกตั้งสี่เดือนกว่า ลูกถึงจะคลอด ถ้าไม่ไปทำงานใครจะดูงานให้ล่ะคะ""ก็ให้ท่านรองประธานดูไปสิ""คุณเสกสรรนะเหรอ""ไอ้เสกมันทำงานเก่งไม่เป็นแบบที่คุณคิดหรอกนะ" ใครจะคิดว่าเสกสรรจะเก่งในการทำงานขนาดนี้ เพราะเคยเห็นแต่สำมะเลเทเมาไปวันวานพอรู้ว่าโปรเจคงานที่ก่อปัญหาในครั้งนั้นเป็นผลงานของเสกสรร เหนือตะวัน และพ่อของมิลานก็มองเสกสรรใหม่ จนตอนนี้ให้ตำแหน่งเขาเป็นถึงท่านรองประธาน เพื่อที่จะมาดูงานช่วยกันอีกแรงแต่เสกสรรจะยอมรับตำแหน่งนั้น ถ้าให้ภรรยาของเขาเป็นเลขาส่วนตัว เพราะทีแรกจั๊กจั่นขอไปทำงานที่แ
เช้าวันต่อมา.."ถ้ามีโอกาส เราจะมาเที่ยวเล่นที่นี่อีกนะ" ประไพเอ่ยพูดขึ้นกับลุงพงษ์และป้าวรรณีที่เดินมาส่งตรงท้ายหมู่บ้านเพื่อจะขึ้นรถไปสนามบิน"เชิญพวกท่านทั้งสองได้เสมอเลยครับ" ลุงพงษ์ตอบกลับไปแบบนอบน้อม"ถ้าเมื่อไรอยากได้ถนน กับไฟฟ้า ให้บอกมาได้ตลอดเลยนะ เดี๋ยวให้คนมาจัดการให้" คำพูดนี้ท่านรัฐมนตรีเป็นคนพูดเอง เพราะถ้าเป็นคำสั่งของท่านคงใช้เวลาไม่นาน"ก็ไอ้หำน่ะสิ..เออ..ขอโทษครับ" ลุงพงษ์เผลอปากเรียกลูกชายท่านว่าหำต่อหน้า"ไม่เป็นไรหรอกครับลุง ลุงถนัดแบบไหนก็พูดแบบนั้นเถอะ" เหนือตะวันที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ได้พูดให้ลุงคลายกังวล"ลูกหลานมันอยากจะเก็บบรรยากาศแบบนี้ไว้ ก็ทำตามคนที่เขาอยู่อาศัยต่อเถอะครับท่าน" มันยิ่งทำให้ป้าและลุงรักหลานชายคนนี้เพิ่มขึ้น เพราะเขาไม่ใช่คนธรรมดา แต่ยังมาอาศัยอยู่กับพวกท่าน ถือว่าบุญเก่าเคยทำมาร่วมกัน"คุณพ่อกับคุณแม่กลับไปก่อนนะครับ ถ้าพ้นช่วงฮันนีมูนแล้วเดี๋ยวผมจะพาลูกสะใภ้กลับไปหาเอง" เหนือตะวันพูดพร้อมกับเปิดประตูให้ผู้เป็นพ่อกับแม่ได้ขึ้น"ฝากดูแลท่านทั้งสองด้วยนะเสก" เขายังหันไปพูดกับเสกสรรที่กำลังจะขึ้นรถอีกคัน"ได้สิ มึงอย่าลืมนะว่านี่ก็พ่อตาแม่ยายกูเ
"คิดถึง""คะ?" จะตกใจอะไรก่อนดี ระหว่าคำที่ท่านบอกว่าคิดถึง หรือมือที่ท่านยื่นมาโอบกอด สัมผัสแบบนี้ไม่เคยเจอมาเป็นสิบปีแล้ว ถึงแม้เวลามันจะยาวนาน แต่นางก็นับวันนับคืน ว่าเมื่อไรสามีจะหันหน้ากลับมาหา แต่ยิ่งท่านหันหลังให้ก็ยิ่งเดินห่างไกลออกไป วิ่งตามเท่าไรก็ตามไม่ทัน"ท่านไม่สบายหรือเปล่าคะ" ความคิดนี้พุ่งขึ้นมาในหัว ส่วนมากถ้าคนที่เป็นโรคร้าย ชอบจะกลับมาตายรังแบบนี้เสมอ เพราะอีหนูพวกนั้นคงดูแลไม่ได้"ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ""ก็ดูท่านเปลี่ยนไป" นอกจากคำว่าคุณแล้ว ประไพชอบเรียกสามีว่าท่าน เพราะยังไงนางก็อายุน้อยกว่าเป็นสิบปี"ถ้าผมไม่สบายจริง คุณจะดูแลไหม"เพียงไม่นานก็ได้ยินเสียงสะอื้นของภรรยาเก่า พร้อมกับมือที่ขยับขึ้นปาดน้ำตาตัวเองออก"คุณเป็นอะไร" สำราญตกใจ รีบลุกขึ้นนั่ง จะจุดไฟตะเกียงก็ทำไม่ได้แล้วเพราะทำไม่เป็น"คุณป่วยระยะที่เท่าไรแล้วคะ""ระยะที่เท่าไรหมายความว่ายังไง""คุณเป็นมะเร็งใช่ไหม คุณไปหาหมอมาหรือยัง แล้วทำไมคุณไม่รีบกลับมาหาฉัน" สิ้นประโยคคำพูดเสียงสะอื้นของนางก็ดังขึ้นเรื่อยๆ ที่ประไพคิดแบบนี้ ก็เพราะมีไม่กี่โรคหรอกคนรุ่นราวคราวนี้ที่จะเจอ"ใจเย็นก่อนสิคุณ""ทำไมคุณไม่รี
ในเวลาเดียวกันนั้นที่บ้านปลายนา..หลังจากร่วมรับประทานอาหารเย็นกันเสร็จแล้ว ลุงพงษ์กับป้าวรรณี และคู่ที่มาฮันนีมูนก็ได้กลับบ้าน ซึ่งปล่อยให้ท่านรัฐมนตรีกับอดีตภรรยาได้อยู่ด้วยกันแค่สองคน ในบ้านหลังที่พ่อและแม่ของมิลานเคยอาศัยอยู่เรามารู้จักกับท่านรัฐมนตรีและภรรยาเก่ากันบ้าง สำราญ ชายวัย 57 ปี แต่รูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้เป็นไปตามอายุเท่าไร เพราะดูแลร่างกายดี ส่วนประไพ ซึ่งอายุน้อยกว่าสามีเก่าถึง 10 ปี ตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยในปีนั้นนางก็ได้คว้าดาวมหาวิทยาลัยมาครอง ความสวยของนางก็ยังคงมีอยู่ แต่ด้วยความไม่พอของสามี จึงยังต้องการเด็กสาวเข้ามาเติมเต็ม"คุณนอนได้ไหมล่ะคะ""นอนได้สิ" สำราญพูดพร้อมกับค่อยๆ หย่อนกายมุดเข้าไปในมุ้งแบบลำบากเพราะไม่เคยนอนแบบนี้มาก่อน"หึ..มันก็สรรหาที่มาอยู่นะ""แต่ผัวเมียคู่นั้นก็ดูรักลูกเราดีนะคะ""อืมม..ชีวิตแบบนี้ก็ดีไปอีกแบบ""คุณนอนไปก่อนเลยนะคะ ฉันจะลงไปเล่นข้างล่าง" ว่าแล้วนางก็แยกตัวลงมาก่อน ..อายุปูนนี้แล้วทำไมหัวใจยังเต้นแรงอยู่อีกควรพอได้แล้วมั้งประไพ เข้าใกล้สามีเก่าแล้วรู้สึกหวั่นไหวจนต้องได้ตำหนิตัวเองพอลงมาถึงข้างล่างนางก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้า ซึ่งตอนน
"คนเจ้าเล่ห์" ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรเพื่อแลกเปลี่ยน"เจ้าเล่ห์ที่ไหนอยากรู้ความลับก็ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนกันหน่อยสิ" ใบหน้าหล่อคมขยับเข้ามาใกล้ริมฝีปากบางแบบห้ามใจตัวเองไม่อยู่"ครั้งนี้พี่จะเป็นเหมือนครั้งที่แล้วไหม" หญิงสาวไม่ปฏิเสธแถมเธอยังหลับตาให้ แต่อดที่จะถามออกไปไม่ได้ เพราะกลัวว่าเรื่องแบบเดิมๆ มันจะกลับมาอีกครั้ง"ไม่แล้ว..และพี่จะไม่ขอโทษเราอีก แต่พี่จะทำให้เราเห็น" เสกสรรรู้ดีว่าเธอหมายถึงอะไร ตอนนั้นเขายังคึกคะนองในตัวเอง และเสียดายความโสดของตัวเอง จึงได้พยายามผลักไสเธอออกไป"พี่จะทำอะไรให้ฉันเห็น" ดวงตากลมเปิดขึ้นอีกครั้งเพื่อมองสบตา"ทำให้เห็นว่าพี่รักเราไง"น้ำตาได้ไหลลงมาจากดวงตางามคู่นั้น เธอสัมผัสได้ว่าที่เขาพูดมันออกมาจากใจจริง ไม่เหมือนครั้งก่อนที่เขาต้องการแค่ร่างกายของเธอ"ไม่ร้องนะคนเก่งของพี่" จากที่จะจูบก็เลยได้เปลี่ยนมาเป็นซับน้ำตาให้"ฉันเก่งที่ไหน""เก่งสิ..ถ้าจั๊กจั่นของพี่ไม่เก่งแล้วใครจะเก่งล่ะ" เสกสรรคว้าร่างบางเข้ามากอดไว้"ยังเจ็บอยู่ไหม"หญิงสาวตอบด้วยการส่ายหน้าเบาๆ สิ่งที่เกิดขึ้นมันทำให้เธอลืมความเจ็บปวดไปได้ เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะมีความ
"จะ..จะ..จริงเหรอวะ" อัมพรแม่ของจั๊กจั่นไม่ค่อยเชื่อ แต่พอมีคนไปตามก็รีบมาดู"ต่อไปนี้แม่จะไม่ให้ใครทำร้ายหนูได้อีกแล้ว เราจะกลับไปพร้อมกันนะ" ประไพพูดพร้อมกับลูบผมของจั๊กจั่นเบาๆ เพื่อปลอบใจหญิงสาวไม่ตอบแต่เธอพยักหน้าเพราะตื้นตันใจ ขนาดท่านไม่ใช่แม่แท้ๆ ยังเป็นห่วงเธอขนาดนี้"คนนี้บอกว่าเป็นแม่ของคุณจั๊กจั่นครับท่าน" ตำรวจที่ควบคุมสถานการณ์อยู่ข้างนอกได้พาผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามา"จั๊กจั่น" อัมพรตกใจที่เห็นลูกสาวอยู่ในอ้อมกอดของใครก็ไม่รู้"คนนี้ใช่ไหม" ประไพถามจั๊กจั่น แต่สายตามองไปที่อัมพร ซึ่งข้างกายของอัมพรก็มีผู้หญิงอีกคนที่รุ่นราวคราวเดียวกับจั๊กจั่นยืนอยู่ด้วยจั๊กจั่นทำได้แค่ส่ายหน้า เพราะเป็นห่วงแม่ ยังไงท่านก็เป็นแม่ที่ให้กำเนิด"บอกแม่มาตามตรง คนนี้ใช่ไหมคือแม่ใจร้ายที่ทำหนู""เกิดอะไรขึ้นน่ะน้า" ตั๊กแตนสะกิดข้างของน้าอัมพร แล้วถามเบาๆ สายตาก็ได้มองไปดูทั่วบริเวณบ้านของเสกสรร ซึ่งตอนนี้ผู้ชายที่แต่งตัวภูมิฐาน ต่างก็ยืนรอบล้อมอยู่แถวนั้น"ท่านนี้คือผู้ใหญ่ที่จะมาสู่ขอจั๊กจั่นให้ผมครับ" เสกสรรซึ่งยืนอยู่ไม่ไกล ก็เดินเข้ามาแนะนำให้แม่ของจั๊กจั่นได้รู้จัก"ท่านคือ ท่านรัฐมนตรีสำร
"กูขอโทษด้วยนะที่ทำให้มึงเดือดร้อนไปด้วย" พอเหตุการณ์ปกติ ทั้งสี่ก็ได้มานั่งคุยกันที่บ้านหลังเดิมของมิลาน"ไม่เป็นไรหรอกน่าา เป็นเพื่อนกัน""แล้วพ่อมึงจะยอมมาไหมวะ" ด้วยความโมโหและความเป็นห่วงคนรัก เขาก็เลยพูดไปโดยไม่ได้คิด เพราะคนระดับท่านรัฐมนตรีจะว่างมาให้ไหม"ต้องลองคุยกับพ่อดูก่อน""อย่าคิดมากนะเดี๋ยวทุกอย่างมันก็ผ่านไป" มิลานได้แต่ปลอบใจจั๊กจั่นที่นั่งทำหน้าเศร้า"ทุกคนก็เลยต้องได้มาเดือดร้อนเพราะฉัน ฉันน่าจะกลับไปพร้อมแม่ให้เรื่องมันจบๆ ไป""ทุกคนเต็มใจช่วย อย่าพูดแบบนั้นอีกนะ เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ"เหนือตะวันก็เลยเดินเข้ามาเอาโทรศัพท์ที่รถ เพื่อที่จะโทรหาพ่อดูก่อน.. ที่เขาต้องเก็บโทรศัพท์ไว้ในรถเพราะยังไงบ้านปลายนาก็ไม่ค่อยมีสัญญาณอยู่แล้ว แถมไม่มีไฟฟ้าที่จะชาร์จโทรศัพท์ด้วยเวลาผ่านไป.. ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เขาก็ได้กลับมาหาทั้งสามที่นั่งรออยู่ที่เดิม"พ่อกูติดประชุมในพรรค""ท่านปลีกตัวมาไม่ได้เลยเหรอ" มิลานเดินเข้ามาถามสามี"ไม่แน่ใจ""ทำไมไม่ถามดีๆ ก่อนล่ะ""ทุกคนพอแค่นี้เถอะ ฉันจะกลับบ้าน" จั๊กจั่นไม่อยากจะให้ พวกเพื่อนๆ ต้องมาเดือดร้อนกับเธอมากไปกว่านี้อีกแล้ว"ไม่ได้นะ
"มานี่เลยนะนังลูกไม่รักดี!" อัมพรเดินเข้าไปคว้าตัวลูกสาวเข้ามาหวังจะทำโทษ"อย่าทำอะไรจั๊กจั่นนะน้า" เสกสรรที่เดินตามหลังมา ดูท่าไม่ดีก็เลยรีบเข้ามาขวางไว้"เราคุยกันรู้เรื่องแล้วไม่ใช่เหรอเสก ไหนตกลงกับน้าแล้วไงว่าจะไม่เจอหน้ากัน""ผมแค่มาส่งเห็นมันมืดค่ำแล้ว น้าจะปล่อยให้ลูกสาวมีอันตรายหรือไง" ในขณะที่พูดสายตาของเขาตวัดมองไปที่ตั๊กแตน แต่ก่อนไม่เคยรู้เลยว่าตั๊กแตนจะเป็นคนนิสัยแบบนี้ เพราะดูเรียบร้อย ผิดกับอีกคนที่เขากำลังหลงใหลอยู่ในตอนนี้ เธออาจจะเป็นคนที่ดูแรง แต่เธอก็ไม่ได้เสแสร้งเหมือนตั๊กแตน"ใครก็พูดได้ถ้าจะพูดแบบนี้" ตั๊กแตนยังพูดยุแยง เพราะได้ยินเมื่อตอนกลางวันเรื่องที่เสกสรรมาสู่ขอจั๊กจั่นอีกครั้ง ก็เลยเริ่มจะหมั่นไส้"ตกลงแม่จะตีไหม ถ้าไม่ตีฉันจะกลับเข้าห้องแล้ว""จั๊กจั่นอย่าพูดแบบนั้น" เสกสรรห้ามปรามไว้ เพราะมันเหมือนกับไปกระตุ้นอารมณ์ของแม่ เขากลัวว่าน้าอัมพรจะตีเธอซ้ำรอยเดิม"พี่ไม่ต้องมายุ่งหรอกกลับบ้านพี่ไปเถอะ" จั๊กจั่นหันมาตวาดใส่เสกสรร เพราะถ้าเขายังอยู่กลัวว่าเรื่องจะบานปลายมากไปกว่านี้"พี่จะกลับ แต่ต้องแน่ใจก่อนว่าน้าอัมพรจะไม่ตีเรา" แต่เสกสรรไม่ยอมไปเพราะกลัวแม
"ไอ้เสกมึงจะฆ่าแม่หรือไง" พ่อรีบเข้ามาในครัวเมื่อได้ยินเสียง"ผมฆ่าแม่ตอนไหน""ก็เรื่องที่มึงกำลังพูดอยู่เมื่อกี้ไง!""พ่อได้ยินแล้วเหรอ""กูได้ยินตั้งแต่คำแรกที่มึงพูดแล้ว" ที่พ่อของเขาได้ยินเพราะท่านอยู่แถวหน้าต่าง ตรงที่เขาคุยกับแม่พอดี"นะพ่อนะ..ไปขอเมียให้ผมหน่อยนะ"ผู้เป็นพ่อไม่ตอบ แต่เดินเข้าไปเก็บของที่ภรรยาทำตกหล่น"พ่อกับแม่จะไปคุยให้ผมไหมเนี่ย""มึงจำได้ไหมก่อนที่มึงจะหนีเข้ากรุงเทพฯ มึงก็พูดคำนี้แหละ แต่มึงให้พวกกูไปถอนคำพูด จนเสียค่าสินไหมไปกี่แสน""เรื่องนั้นผมขอโทษ ผมรับรองว่ามันจะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีกแล้ว""กูไม่เชื่อมึงหรอกไอ้เสก""เชื่อผมเถอะพ่อ" เสกสรรเดินตามพ่อออกมาหน้าบ้าน เพราะตอนนี้พ่อเอาขยะออกมาทิ้ง"ถูกตีเลยเหรอวะ" จังหวะนั้นป้าร้านค้ากำลังคุยกับตั๊กแตนอยู่พอดี"จะเหลือเหรอป้า""เรื่องปกติของแม่มันอยู่แล้ว เอะอะอะไรก็ตีลูก""สมน้ำหน้าน่ะสิไม่ว่า เดี๋ยวก็ท้องไม่มีพ่อเข้าสักวัน""กำลังพูดถึงเรื่องใครอยู่" เสกสรรเดินตามพ่อออกมาได้ยินคำนี้พอดี"จะพูดถึงใครล่ะ ก็พูดถึงเรื่องผู้หญิงที่พี่ไม่เอาแล้วไง" ตั๊กแตนหันไปพูดกับเสกสรรแบบได้ใจ เหมือนกับว่าหาแนวร่วมเพราะ