"ใคร??" หญิงสาวพยายามจะเอื้อมมือไปเปิดไฟหัวเตียง เพราะตั้งแต่เข้ามาในห้องเธอยังไม่เปิดไฟสักดวง"กรี๊ด อืมมม!!!" จั๊กจั่นดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธนาการของคนในความมืด ตอนนี้รู้แล้วว่าคนคนนี้ต้องเป็นผู้ชายแน่ เพราะร่างกายที่กำยำและเรี่ยวแรงที่เหนือกว่าซึ่งตอนนี้มันขึ้นคร่อมร่างของเธอไว้ พร้อมกับปิดปากด้วยริมฝีปากของมันเอง แต่พอถูกจูบไปได้เพียงไม่นานก็สัมผัสได้ว่าเธอคุ้นเคยกับจูบนี้มาก หญิงสาวก็เลยหยุดดิ้น เพราะแน่ใจแล้วว่าผู้ชายคนนี้คือใครกันแน่เสียงสะอื้นได้ดังขึ้นในลำคอ พร้อมกับน้ำตาที่คลอออกมาจากเบ้า จนคนที่กำลังรังแกเธออยู่สัมผัสได้"รู้จักกับมันนานหรือยัง ทำไมถึงกล้าไปกับมันดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้" และเขาก็รู้เช่นกัน ว่าตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร"ออกไป" เสียงสะอื้นยังคงมีให้ได้ยิน แต่เธอก็พยายามกลั้นมันไว้"เห็นยืนร่ำลากันเป็นนานสองนาน คงโดนเสน่ห์มันเข้าไปให้แล้วล่ะสิ""ฉันบอกให้ออกไปจากห้องนี้""รู้ไหมว่าที่บ้านผู้ใหญ่ตามหากันให้วุ่น ตัวเองมาหลงระเริงกับไฟแสงสี"เพี๊ยะ!! ถึงแม้จะมืดเธอก็รู้ดีว่าใบหน้าของเขาอยู่ตรงไหน"ที่ฉันต้องได้ซมซานหนีออกจากบ้านมา เพราะใครล่ะ""ก็เห็นอยู่ดีก
"ใกล้เที่ยงแล้วเราไปทานข้าวกันนะครับ""วันนี้ฉันมีนัดทานข้าวแล้วค่ะ" เหลืออีกแค่ไม่กี่นาทีก็เที่ยง จั๊กจั่นก็เลยรีบเก็บของที่อยู่บนโต๊ะแล้วลุกขึ้นเกมตามลงมาข้างล่าง อยากจะรู้ว่าเธอมีนัดกับใคร แต่พอเดินตามออกมาจนถึงด้านหน้า ก็ไม่เห็นว่าเธอไปกับใคร ..หรือว่าเธอแค่อยากจะหลบหน้าเขา"ก๋วยเตี๋ยวชามหนึ่งค่ะ" หญิงสาวเลือกออกมากินข้าวที่ร้านริมถนน เพราะไม่อยากจะไปกินที่โรงอาหารคนเยอะ"ผมไม่คิดว่าเราจะใจตรงกันขนาดนี้" เกมเดินเข้าไปนั่งแบบถือวิสาสะ"คุณก็มาร้านนี้เหรอคะ""ไหนคุณบอกว่านัดเพื่อนไว้ไงครับ"จั๊กจั่นไม่คิดว่าเขาจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะถ้าเห็นแบบนี้ก็รู้แล้วว่าเธอปฏิเสธการขอทานข้าวด้วย"พอดีเพื่อนไม่ว่างค่ะ ก็เลยมาทานคนเดียว""ก๋วยเตี๋ยวได้แล้วค่ะ" เด็กในร้านก๋วยเตี๋ยวมาบริการให้จั๊กจั่นก็เริ่มปรุง..ในขณะที่กำลังปรุงอยู่เธอก็คิดถึงเรื่องเมื่อคืน"คุณจั๊กจั่นกินรสจัดขนาดนี้เลยเหรอครับ""อุ๊ย" ถ้าเกมไม่พูดขึ้นเธอคงจะใส่พริกลงไปทั้งโถของแม่ค้าแน่พอทานเสร็จทั้งสองก็ออกมาจากร้านนั้นพร้อมกัน ซึ่งจั๊กจั่นพยายามจะเดินให้เร็ว แต่ก็ยังสู้คนที่มีขายาวกว่าแบบเกมไม่ได้..หญิงสาวเดินเข้ามาหยุด
เช้าวันต่อมา "ไหนเมื่อคืนนี้มึงว่าจะกลับไปนอนบ้านไอ้เหนือมันไง""กูเผลอหลับไป"วันนี้มกราเป็นคนขับรถมาส่งเสกสรรที่บริษัท พร้อมกับให้ยืมชุดทำงาน ที่จริงเสกสรรก็ยืมไปทั่ว ค้างบ้านไหนก็ใส่ของคนนั้น เพราะเขาไม่คิดว่าจะทำงานที่นี่นาน ก็เลยไม่จำเป็นต้องมีชุดพวกนี้ไว้ พอกลับไปบ้านนอกก็คงจะใส่แค่กางเกงยีนส์กับเสื้อยืดเหมือนเช่นเคย[บริษัทอสังหาฯ]พอเสกสรรขึ้นมาถึงชั้นที่ทำงานก็เห็นว่าจั๊กจั่นมาทำงานแล้ว เห็นแค่นั้นเขาก็เดินตรงเข้าไปที่ห้องของตัวเอง"เธอว่าหัวหน้าฝ่ายมีแฟนหรือยัง""หล่อขนาดนั้นต้องมีแล้วล่ะ""ถ้ามีแฟนเขาจะไปเที่ยวกับหัวหน้าแผนกงั้นเหรอ""หรือว่าไม่มี" มันคือเสียงเพื่อนร่วมแผนกของจั๊กจั่น ซึ่งเธอก็ไม่ได้ตั้งใจที่อยากจะฟัง แต่นั่งอยู่แถวนั้นก็เลยได้ยิน"นั่นไงพูดยังไม่ขาดคำ"พอได้ยินประโยคนี้จั๊กจั่นก็อดไม่ได้ที่จะมองไปดูว่าพวกนี้หมายถึงใคร พอมองไปก็เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นเปิดประตูเข้าไปในห้องของหัวหน้าฝ่ายเหมือนคนคุ้นเคยกัน"สวัสดีค่ะคุณเสกสรร""สวัสดีครับ เข้ามามีอะไรเหรอครับ" เสกสรรที่กำลังถอดเสื้อสูทเพื่อที่จะเอาแขวนไว้ตรงเก้าอี้ ก็ได้หันกลับมาพูดด้วย"วันนี้น้ำชาเอารถมาด้วย ค
"ปล่อยฉันนะ" หญิงสาวเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ เพราะเธอไม่ใช่พระอิฐพระปูนจากที่ไหน แถมยังเป็นคนที่เธอเคยรัก พอเจอเข้าแบบนี้ก็เริ่มรู้สึกหวั่นไหวอีกครั้งในใจของเธอก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ ในเมื่อเขายอมเสียเงินตั้งมากมาย เพื่อที่จะไล่เธอออกไปจากชีวิต แต่ทำไมพอเธอทำใจได้ เขาถึงต้องกลับมาวนเวียน กับชีวิตของเธออีก"เตือนแล้วใช่ไหมว่าอย่าเข้าใกล้ไอ้เกม" ถึงแม้เสกสรรจะปล่อยจูบออก แต่มือของเขาก็ยังอยู่ที่เดิม"ฉันไม่ได้เข้าใกล้เขาสักหน่อย" หญิงสาวพูดในขณะที่พยายามดึงมือของเขาออกมาจากน้องสาว"ก็เห็นนั่งคุยกันทั้งวัน""เขาเป็นหัวหน้าสั่งให้ทำอะไรฉันก็ต้องได้ทำตาม อ๊อย! เอามือออกมาเดี๋ยวนี้นะ!"แต่แทนที่เสกสรรจะเอามือออก เขากลับล้วงมันเข้าไปในร่องพร้อมกับขยับนิ้ววนไปมา"ไอ้พี่เสก! ปล่อยนะ!!" แต่ก่อนพอโดนเข้าไปแบบนี้เธอก็เริ่มอ่อนระทวยพร้อมกับค่อยๆ แยกขาออกให้เขา ..แต่กับตอนนี้ เธอดิ้นรนมันยิ่งทำให้เขาอยากจะล่วงเกินเธอมากขึ้น"ถ้าไม่หยุดดิ้น สาบานได้เลยว่าจะไม่เจอแค่นิ้ว"ในขณะที่เขากำลังชักนิ้วเข้าออก ฟันแหลมคมของคนตัวเล็กก็ได้ฝังเข้าที่ลำแขน"โอ๊ย!" ถึงแม้เสกสรรจะเจ็บแต่เขาก็ไม่ไ
ในขณะที่กำลังตั้งใจทำงานอยู่นั้น อยู่ดีๆ น้ำตามันก็ได้ไหลออกมา คิดถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ทีไรก็ช้ำใจ ทำไมเธอถึงปล่อยตัวให้เขาง่ายขนาดนี้ แล้วนี่จะมีความภูมิใจอะไรให้กับตัวเองอีก แค่เขาเล้าโลมก็เคลิ้มไปกับเขาแล้ว"เป็นอะไร" คนที่มองอยู่รีบออกมาถาม เพราะเห็นเธอเช็ดน้ำตา จากที่ไม่มีใครสังเกตพอเสกสรรถามเท่านั้นแหละเพื่อนร่วมงานต่างก็หันมามอง"เปล่า" หญิงสาวรีบลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป"สงสัยจะตื้นตันมั้งคะ เพราะหัวหน้าแผนกชวนไปดินเนอร์คืนนี้" เพื่อนร่วมงานที่นั่งอยู่ใกล้ๆ รีบเสนอหน้าพูดออกมา เผื่อว่าจะมีผลงาน"อะไรนะ" พอได้ยินแบบนั้นสายตาคมของเสกสรรก็ได้ตวัดมองไปที่เกมโดยที่ไม่พูดอะไรต่อ ..เขาได้แต่เก็บอารมณ์ไว้ อยากจะเดินไปกระทืบมันตอนนี้เลย แต่กลัวว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ ชายหนุ่มก็เลยทำได้แค่ กลับเข้าไปทำงานอยู่ในห้อง แต่วันนี้เขาไม่ได้ปิดประตูห้องทำงานไว้ เพราะต้องได้คอยมองออกมาเวลาเลิกงาน.."เราไม่กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านก่อนเหรอคะ" จั๊กจั่นหาเรื่องเพราะไม่อยากไปดินเนอร์กับเขาเลย"ชุดนี้คุณก็สวยอยู่แล้ว ไปกันเลยดีกว่าครับ" เกมยื่นมือไปจับกระเป๋าของเธอมาส่งให้ ..จั๊กจั่นก็เลยจำเป็นต้อ
"ตัวเองเริ่มก่อนนะ" เสียงทุ้มได้ถูกเปล่งออกจากริมฝีปากที่ถูกอีกฝ่ายแนบจูบไว้ แต่เขาก็ยังปล่อยให้เธอทำไปมือหนาโอบเอวบางเข้ามาแนบชิดลำตัว พร้อมกับเผยอปากให้เธอเป็นฝ่ายรุกไปก่อน เพราะตั้งแต่เคยมีอะไรกันมา ถึงแม้ว่าเธอจะวิ่งตามเขาต้อยๆ แต่ก็ไม่มีสักครั้งที่เธอจะเป็นคนเริ่มก่อนแบบนี้ เสกสรรรู้ดีว่ามันอาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยา และสิ่งที่กำลังทำกันอยู่นี้มันอาจจะหยุดฤทธิ์ยานั้นก็ได้ ถ้าเธอได้ปล่อยอารมณ์ออกมาให้หมดมือหนาโน้มลงไปช้อนร่างบางที่เปียกปอน แล้วพาเข้ามาในห้องนอน วางลงบนเตียงนุ่มๆ แบบทะนุถนอม แล้วเขาก็รีบจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองที่มันเปียกอยู่ออกไปจนหมดสิ้น"อึก?!" ชายหนุ่มยังไม่ได้ทำอะไรแค่ก้าวเข้ามาใกล้เตียง ก็ถูกอีกฝ่ายงาบน้องชายเข้าให้ และสิ่งนี้เธอก็ยังไม่เคยทำกับเขามาก่อน"อ้าาา ใจเย็นก่อนน้อง" เพราะเธอไม่ได้ระวังฟันของตัวเองเลย ฟันของเธอก็เลยโดนเข้ากับเนื้อบางๆ ของท่อนเอ็นนั้นมือเรียวกำช่วงโคนของท่อนเอ็นไว้แน่น ส่วนปากของเธอก็รูดเข้าออก โดยที่ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงแต่ก็อยากทำมาก"อ้าาา..เสียวโว๊ย" เสกสรรพยายามอดกลั้นไว้ เพราะเธอทำมือและปากประสานกัน ถึงแม้ว่ามันจะไม่สัมพันธ์กันเ
"คุณตำรวจอยากจะสอบถามอะไรเหรอครับ" เสกสรรลงมาโดยปล่อยให้เธอพักผ่อนไป"เราแค่อยากจะสอบถามเพิ่มเติมกับผู้เสียหายครับ""เธอยังไม่สะดวกที่จะตอบ และตอนนี้เธอก็พักผ่อนไปแล้ว ถ้าดีขึ้นเดี๋ยวผมจะพาไปหาพวกคุณเอง"ในระหว่างที่ทุกคนกำลังคุยกันอยู่นั้น ก็ได้มีรถคันหรูวิ่งเข้ามาในบ้านมันเกิดเรื่องอะไรขึ้น เจ้าของรถคันนั้นได้เดินตรงเข้ามาเมื่อเห็นว่าทุกคนอยู่พร้อมหน้า"ท่านครับ" ตำรวจที่เข้ามาทั้งสามนายต่างก็ลุกขึ้น"ผมถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น" ที่จริงสำราญพอจะได้ยินเรื่องจากตำรวจที่ประสานงานไปแล้ว แต่เขาไม่รู้ว่าใครเป็นคนที่โดนยาเพราะไม่คุ้นชื่อ แต่ทางตำรวจบอกว่าเป็นลูกสาวของ ภรรยาเก่า มันยิ่งสร้างความงวยงงให้ จนเขาต้องได้เข้ามาดูเอง"เธอชื่อจั๊กจั่นครับ.." เหนือตะวันเอ่ยขึ้น"เดี๋ยวแม่พูดเอง" จริงๆ แล้วคนที่โทรไปขอให้ตำรวจเร่งทำคดีนี้ก็คือประไพ นางรู้ดีว่าถ้าเอ่ยชื่อของท่านรัฐมนตรีขึ้นมา ทุกอย่างคงจะเรียบร้อยโดยเร็ว แต่นางไม่คิดว่าทางตำรวจจะโทรไปหาท่านด้วย เพราะนางแค่อยากจะอ้างชื่อ"จั๊กจั่นเป็นลูกบุญธรรมของฉันเองค่ะ"พอได้ยินคำนี้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็หันมองมาที่นาง"ลูกบุญธรรม?" และมันก็ทำให้ส
"ไอ้พี่เสกบ้า! ทำอะไรไม่อายคนอื่นเขาบ้างหรือไง!!" เมื่อหญิงสาวเป็นอิสระก็เริ่มต่อว่าเรื่องที่เขาจูบเธอ"อยากดื้อทำไมล่ะพูดอะไรก็ฟังกันหน่อยสิ รู้ไหมว่าไอ้นั่นมันเกี่ยวข้องกับคดีฆ่าคนตายด้วย""อะไรนะ""อย่าเพิ่งพูดอะไรกันเลย จะไปโรงพักด้วยไหมเนี่ย" คนที่ตะโกนเข้ามาก็คือเหนือตะวัน พอได้ยินเสียงโวยวายก็รู้แล้วว่าทั้งสองคงจะแยกกันแล้วจั๊กจั่นก็เลยรีบเดินออกมาข้างนอกแล้วตรงไปขึ้นรถ ความอายก็ยังคงมีอยู่ ใครจะไม่อายล่ะถูกจูบต่อหน้าคนทั้งบ้านแบบนี้[สถานีตำรวจ]"รถคุณพ่อนี่ครับ" พอรถวิ่งเข้ามาก็เจอว่ารถของผู้เป็นพ่อจอดอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว"เราเข้าไปข้างในกันเถอะ" ประไพเริ่มหัวใจเต้นแรงขึ้นอีกครั้งเมื่อรู้ว่าจะได้เห็นหน้าสามีเก่า แต่นางก็พยายามทำให้ปกติที่สุด เพราะอดีตยังไงก็คืออดีตทั้งสี่ก็เลยเดินเข้าไปด้านในพร้อมกัน ส่วนมิลานสามีไม่ให้ตามมาด้วยเพราะที่นี่ไม่เหมาะกับคนท้อง"สวัสดีครับคุณพ่อ" เหนือตะวันยกมือไหว้ทักทายพ่อก่อน และอีกสองคนก็ไหว้ตาม"คนนี้เหรอที่เป็นคนเสียหาย" สำราญมองหน้าจั๊กจั่น เพราะเพิ่งเคยเห็นเธอเป็นครั้งแรก"ใช่ครับ"ประไพอดไม่ได้ที่จะมองสายตาของสามีเก่า เวลามองเด็กสาวแบบน
สามเดือนผ่านไปตอนนี้ท้องของมิลานก็เริ่มโตขึ้นจนโผล่พ้นออกมาให้เห็นมากแล้ว"ทำไมกลับบ้านเร็วล่ะคะ" หลายวันมานี้สามีกลับบ้านก่อนเวลาตลอด"ว่าจะไม่ไปทำงานด้วยซ้ำ""ทำไมล่ะ""ก็เป็นห่วงคุณไง ดูสิจะเดินจะนั่งก็ดูลำบากไปหมด" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับประคองภรรยาค่อยๆ นั่งลงที่โซฟา"ฉันอยู่ที่บ้านกับคุณแม่ไม่เห็นมีอะไรต้องน่าเป็นห่วงเลยค่ะ"ถึงแม้ว่าแม่ของเขาจะดูแลเธอเป็นอย่างดี แต่ผู้เป็นสามีก็อดห่วงไม่ได้ เพราะอยากจะดูแลเธอเอง มือหนาลูบไล้หน้าท้องของภรรยาซึ่งตอนนี้เด็กดื้อที่อยู่ในนั้นกำลังดิ้นแรงมาก"เหลืออีกตั้งสี่เดือนกว่า ลูกถึงจะคลอด ถ้าไม่ไปทำงานใครจะดูงานให้ล่ะคะ""ก็ให้ท่านรองประธานดูไปสิ""คุณเสกสรรนะเหรอ""ไอ้เสกมันทำงานเก่งไม่เป็นแบบที่คุณคิดหรอกนะ" ใครจะคิดว่าเสกสรรจะเก่งในการทำงานขนาดนี้ เพราะเคยเห็นแต่สำมะเลเทเมาไปวันวานพอรู้ว่าโปรเจคงานที่ก่อปัญหาในครั้งนั้นเป็นผลงานของเสกสรร เหนือตะวัน และพ่อของมิลานก็มองเสกสรรใหม่ จนตอนนี้ให้ตำแหน่งเขาเป็นถึงท่านรองประธาน เพื่อที่จะมาดูงานช่วยกันอีกแรงแต่เสกสรรจะยอมรับตำแหน่งนั้น ถ้าให้ภรรยาของเขาเป็นเลขาส่วนตัว เพราะทีแรกจั๊กจั่นขอไปทำงานที่แ
เช้าวันต่อมา.."ถ้ามีโอกาส เราจะมาเที่ยวเล่นที่นี่อีกนะ" ประไพเอ่ยพูดขึ้นกับลุงพงษ์และป้าวรรณีที่เดินมาส่งตรงท้ายหมู่บ้านเพื่อจะขึ้นรถไปสนามบิน"เชิญพวกท่านทั้งสองได้เสมอเลยครับ" ลุงพงษ์ตอบกลับไปแบบนอบน้อม"ถ้าเมื่อไรอยากได้ถนน กับไฟฟ้า ให้บอกมาได้ตลอดเลยนะ เดี๋ยวให้คนมาจัดการให้" คำพูดนี้ท่านรัฐมนตรีเป็นคนพูดเอง เพราะถ้าเป็นคำสั่งของท่านคงใช้เวลาไม่นาน"ก็ไอ้หำน่ะสิ..เออ..ขอโทษครับ" ลุงพงษ์เผลอปากเรียกลูกชายท่านว่าหำต่อหน้า"ไม่เป็นไรหรอกครับลุง ลุงถนัดแบบไหนก็พูดแบบนั้นเถอะ" เหนือตะวันที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ได้พูดให้ลุงคลายกังวล"ลูกหลานมันอยากจะเก็บบรรยากาศแบบนี้ไว้ ก็ทำตามคนที่เขาอยู่อาศัยต่อเถอะครับท่าน" มันยิ่งทำให้ป้าและลุงรักหลานชายคนนี้เพิ่มขึ้น เพราะเขาไม่ใช่คนธรรมดา แต่ยังมาอาศัยอยู่กับพวกท่าน ถือว่าบุญเก่าเคยทำมาร่วมกัน"คุณพ่อกับคุณแม่กลับไปก่อนนะครับ ถ้าพ้นช่วงฮันนีมูนแล้วเดี๋ยวผมจะพาลูกสะใภ้กลับไปหาเอง" เหนือตะวันพูดพร้อมกับเปิดประตูให้ผู้เป็นพ่อกับแม่ได้ขึ้น"ฝากดูแลท่านทั้งสองด้วยนะเสก" เขายังหันไปพูดกับเสกสรรที่กำลังจะขึ้นรถอีกคัน"ได้สิ มึงอย่าลืมนะว่านี่ก็พ่อตาแม่ยายกูเ
"คิดถึง""คะ?" จะตกใจอะไรก่อนดี ระหว่าคำที่ท่านบอกว่าคิดถึง หรือมือที่ท่านยื่นมาโอบกอด สัมผัสแบบนี้ไม่เคยเจอมาเป็นสิบปีแล้ว ถึงแม้เวลามันจะยาวนาน แต่นางก็นับวันนับคืน ว่าเมื่อไรสามีจะหันหน้ากลับมาหา แต่ยิ่งท่านหันหลังให้ก็ยิ่งเดินห่างไกลออกไป วิ่งตามเท่าไรก็ตามไม่ทัน"ท่านไม่สบายหรือเปล่าคะ" ความคิดนี้พุ่งขึ้นมาในหัว ส่วนมากถ้าคนที่เป็นโรคร้าย ชอบจะกลับมาตายรังแบบนี้เสมอ เพราะอีหนูพวกนั้นคงดูแลไม่ได้"ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ""ก็ดูท่านเปลี่ยนไป" นอกจากคำว่าคุณแล้ว ประไพชอบเรียกสามีว่าท่าน เพราะยังไงนางก็อายุน้อยกว่าเป็นสิบปี"ถ้าผมไม่สบายจริง คุณจะดูแลไหม"เพียงไม่นานก็ได้ยินเสียงสะอื้นของภรรยาเก่า พร้อมกับมือที่ขยับขึ้นปาดน้ำตาตัวเองออก"คุณเป็นอะไร" สำราญตกใจ รีบลุกขึ้นนั่ง จะจุดไฟตะเกียงก็ทำไม่ได้แล้วเพราะทำไม่เป็น"คุณป่วยระยะที่เท่าไรแล้วคะ""ระยะที่เท่าไรหมายความว่ายังไง""คุณเป็นมะเร็งใช่ไหม คุณไปหาหมอมาหรือยัง แล้วทำไมคุณไม่รีบกลับมาหาฉัน" สิ้นประโยคคำพูดเสียงสะอื้นของนางก็ดังขึ้นเรื่อยๆ ที่ประไพคิดแบบนี้ ก็เพราะมีไม่กี่โรคหรอกคนรุ่นราวคราวนี้ที่จะเจอ"ใจเย็นก่อนสิคุณ""ทำไมคุณไม่รี
ในเวลาเดียวกันนั้นที่บ้านปลายนา..หลังจากร่วมรับประทานอาหารเย็นกันเสร็จแล้ว ลุงพงษ์กับป้าวรรณี และคู่ที่มาฮันนีมูนก็ได้กลับบ้าน ซึ่งปล่อยให้ท่านรัฐมนตรีกับอดีตภรรยาได้อยู่ด้วยกันแค่สองคน ในบ้านหลังที่พ่อและแม่ของมิลานเคยอาศัยอยู่เรามารู้จักกับท่านรัฐมนตรีและภรรยาเก่ากันบ้าง สำราญ ชายวัย 57 ปี แต่รูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้เป็นไปตามอายุเท่าไร เพราะดูแลร่างกายดี ส่วนประไพ ซึ่งอายุน้อยกว่าสามีเก่าถึง 10 ปี ตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยในปีนั้นนางก็ได้คว้าดาวมหาวิทยาลัยมาครอง ความสวยของนางก็ยังคงมีอยู่ แต่ด้วยความไม่พอของสามี จึงยังต้องการเด็กสาวเข้ามาเติมเต็ม"คุณนอนได้ไหมล่ะคะ""นอนได้สิ" สำราญพูดพร้อมกับค่อยๆ หย่อนกายมุดเข้าไปในมุ้งแบบลำบากเพราะไม่เคยนอนแบบนี้มาก่อน"หึ..มันก็สรรหาที่มาอยู่นะ""แต่ผัวเมียคู่นั้นก็ดูรักลูกเราดีนะคะ""อืมม..ชีวิตแบบนี้ก็ดีไปอีกแบบ""คุณนอนไปก่อนเลยนะคะ ฉันจะลงไปเล่นข้างล่าง" ว่าแล้วนางก็แยกตัวลงมาก่อน ..อายุปูนนี้แล้วทำไมหัวใจยังเต้นแรงอยู่อีกควรพอได้แล้วมั้งประไพ เข้าใกล้สามีเก่าแล้วรู้สึกหวั่นไหวจนต้องได้ตำหนิตัวเองพอลงมาถึงข้างล่างนางก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้า ซึ่งตอนน
"คนเจ้าเล่ห์" ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรเพื่อแลกเปลี่ยน"เจ้าเล่ห์ที่ไหนอยากรู้ความลับก็ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนกันหน่อยสิ" ใบหน้าหล่อคมขยับเข้ามาใกล้ริมฝีปากบางแบบห้ามใจตัวเองไม่อยู่"ครั้งนี้พี่จะเป็นเหมือนครั้งที่แล้วไหม" หญิงสาวไม่ปฏิเสธแถมเธอยังหลับตาให้ แต่อดที่จะถามออกไปไม่ได้ เพราะกลัวว่าเรื่องแบบเดิมๆ มันจะกลับมาอีกครั้ง"ไม่แล้ว..และพี่จะไม่ขอโทษเราอีก แต่พี่จะทำให้เราเห็น" เสกสรรรู้ดีว่าเธอหมายถึงอะไร ตอนนั้นเขายังคึกคะนองในตัวเอง และเสียดายความโสดของตัวเอง จึงได้พยายามผลักไสเธอออกไป"พี่จะทำอะไรให้ฉันเห็น" ดวงตากลมเปิดขึ้นอีกครั้งเพื่อมองสบตา"ทำให้เห็นว่าพี่รักเราไง"น้ำตาได้ไหลลงมาจากดวงตางามคู่นั้น เธอสัมผัสได้ว่าที่เขาพูดมันออกมาจากใจจริง ไม่เหมือนครั้งก่อนที่เขาต้องการแค่ร่างกายของเธอ"ไม่ร้องนะคนเก่งของพี่" จากที่จะจูบก็เลยได้เปลี่ยนมาเป็นซับน้ำตาให้"ฉันเก่งที่ไหน""เก่งสิ..ถ้าจั๊กจั่นของพี่ไม่เก่งแล้วใครจะเก่งล่ะ" เสกสรรคว้าร่างบางเข้ามากอดไว้"ยังเจ็บอยู่ไหม"หญิงสาวตอบด้วยการส่ายหน้าเบาๆ สิ่งที่เกิดขึ้นมันทำให้เธอลืมความเจ็บปวดไปได้ เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะมีความ
"จะ..จะ..จริงเหรอวะ" อัมพรแม่ของจั๊กจั่นไม่ค่อยเชื่อ แต่พอมีคนไปตามก็รีบมาดู"ต่อไปนี้แม่จะไม่ให้ใครทำร้ายหนูได้อีกแล้ว เราจะกลับไปพร้อมกันนะ" ประไพพูดพร้อมกับลูบผมของจั๊กจั่นเบาๆ เพื่อปลอบใจหญิงสาวไม่ตอบแต่เธอพยักหน้าเพราะตื้นตันใจ ขนาดท่านไม่ใช่แม่แท้ๆ ยังเป็นห่วงเธอขนาดนี้"คนนี้บอกว่าเป็นแม่ของคุณจั๊กจั่นครับท่าน" ตำรวจที่ควบคุมสถานการณ์อยู่ข้างนอกได้พาผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามา"จั๊กจั่น" อัมพรตกใจที่เห็นลูกสาวอยู่ในอ้อมกอดของใครก็ไม่รู้"คนนี้ใช่ไหม" ประไพถามจั๊กจั่น แต่สายตามองไปที่อัมพร ซึ่งข้างกายของอัมพรก็มีผู้หญิงอีกคนที่รุ่นราวคราวเดียวกับจั๊กจั่นยืนอยู่ด้วยจั๊กจั่นทำได้แค่ส่ายหน้า เพราะเป็นห่วงแม่ ยังไงท่านก็เป็นแม่ที่ให้กำเนิด"บอกแม่มาตามตรง คนนี้ใช่ไหมคือแม่ใจร้ายที่ทำหนู""เกิดอะไรขึ้นน่ะน้า" ตั๊กแตนสะกิดข้างของน้าอัมพร แล้วถามเบาๆ สายตาก็ได้มองไปดูทั่วบริเวณบ้านของเสกสรร ซึ่งตอนนี้ผู้ชายที่แต่งตัวภูมิฐาน ต่างก็ยืนรอบล้อมอยู่แถวนั้น"ท่านนี้คือผู้ใหญ่ที่จะมาสู่ขอจั๊กจั่นให้ผมครับ" เสกสรรซึ่งยืนอยู่ไม่ไกล ก็เดินเข้ามาแนะนำให้แม่ของจั๊กจั่นได้รู้จัก"ท่านคือ ท่านรัฐมนตรีสำร
"กูขอโทษด้วยนะที่ทำให้มึงเดือดร้อนไปด้วย" พอเหตุการณ์ปกติ ทั้งสี่ก็ได้มานั่งคุยกันที่บ้านหลังเดิมของมิลาน"ไม่เป็นไรหรอกน่าา เป็นเพื่อนกัน""แล้วพ่อมึงจะยอมมาไหมวะ" ด้วยความโมโหและความเป็นห่วงคนรัก เขาก็เลยพูดไปโดยไม่ได้คิด เพราะคนระดับท่านรัฐมนตรีจะว่างมาให้ไหม"ต้องลองคุยกับพ่อดูก่อน""อย่าคิดมากนะเดี๋ยวทุกอย่างมันก็ผ่านไป" มิลานได้แต่ปลอบใจจั๊กจั่นที่นั่งทำหน้าเศร้า"ทุกคนก็เลยต้องได้มาเดือดร้อนเพราะฉัน ฉันน่าจะกลับไปพร้อมแม่ให้เรื่องมันจบๆ ไป""ทุกคนเต็มใจช่วย อย่าพูดแบบนั้นอีกนะ เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ"เหนือตะวันก็เลยเดินเข้ามาเอาโทรศัพท์ที่รถ เพื่อที่จะโทรหาพ่อดูก่อน.. ที่เขาต้องเก็บโทรศัพท์ไว้ในรถเพราะยังไงบ้านปลายนาก็ไม่ค่อยมีสัญญาณอยู่แล้ว แถมไม่มีไฟฟ้าที่จะชาร์จโทรศัพท์ด้วยเวลาผ่านไป.. ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เขาก็ได้กลับมาหาทั้งสามที่นั่งรออยู่ที่เดิม"พ่อกูติดประชุมในพรรค""ท่านปลีกตัวมาไม่ได้เลยเหรอ" มิลานเดินเข้ามาถามสามี"ไม่แน่ใจ""ทำไมไม่ถามดีๆ ก่อนล่ะ""ทุกคนพอแค่นี้เถอะ ฉันจะกลับบ้าน" จั๊กจั่นไม่อยากจะให้ พวกเพื่อนๆ ต้องมาเดือดร้อนกับเธอมากไปกว่านี้อีกแล้ว"ไม่ได้นะ
"มานี่เลยนะนังลูกไม่รักดี!" อัมพรเดินเข้าไปคว้าตัวลูกสาวเข้ามาหวังจะทำโทษ"อย่าทำอะไรจั๊กจั่นนะน้า" เสกสรรที่เดินตามหลังมา ดูท่าไม่ดีก็เลยรีบเข้ามาขวางไว้"เราคุยกันรู้เรื่องแล้วไม่ใช่เหรอเสก ไหนตกลงกับน้าแล้วไงว่าจะไม่เจอหน้ากัน""ผมแค่มาส่งเห็นมันมืดค่ำแล้ว น้าจะปล่อยให้ลูกสาวมีอันตรายหรือไง" ในขณะที่พูดสายตาของเขาตวัดมองไปที่ตั๊กแตน แต่ก่อนไม่เคยรู้เลยว่าตั๊กแตนจะเป็นคนนิสัยแบบนี้ เพราะดูเรียบร้อย ผิดกับอีกคนที่เขากำลังหลงใหลอยู่ในตอนนี้ เธออาจจะเป็นคนที่ดูแรง แต่เธอก็ไม่ได้เสแสร้งเหมือนตั๊กแตน"ใครก็พูดได้ถ้าจะพูดแบบนี้" ตั๊กแตนยังพูดยุแยง เพราะได้ยินเมื่อตอนกลางวันเรื่องที่เสกสรรมาสู่ขอจั๊กจั่นอีกครั้ง ก็เลยเริ่มจะหมั่นไส้"ตกลงแม่จะตีไหม ถ้าไม่ตีฉันจะกลับเข้าห้องแล้ว""จั๊กจั่นอย่าพูดแบบนั้น" เสกสรรห้ามปรามไว้ เพราะมันเหมือนกับไปกระตุ้นอารมณ์ของแม่ เขากลัวว่าน้าอัมพรจะตีเธอซ้ำรอยเดิม"พี่ไม่ต้องมายุ่งหรอกกลับบ้านพี่ไปเถอะ" จั๊กจั่นหันมาตวาดใส่เสกสรร เพราะถ้าเขายังอยู่กลัวว่าเรื่องจะบานปลายมากไปกว่านี้"พี่จะกลับ แต่ต้องแน่ใจก่อนว่าน้าอัมพรจะไม่ตีเรา" แต่เสกสรรไม่ยอมไปเพราะกลัวแม
"ไอ้เสกมึงจะฆ่าแม่หรือไง" พ่อรีบเข้ามาในครัวเมื่อได้ยินเสียง"ผมฆ่าแม่ตอนไหน""ก็เรื่องที่มึงกำลังพูดอยู่เมื่อกี้ไง!""พ่อได้ยินแล้วเหรอ""กูได้ยินตั้งแต่คำแรกที่มึงพูดแล้ว" ที่พ่อของเขาได้ยินเพราะท่านอยู่แถวหน้าต่าง ตรงที่เขาคุยกับแม่พอดี"นะพ่อนะ..ไปขอเมียให้ผมหน่อยนะ"ผู้เป็นพ่อไม่ตอบ แต่เดินเข้าไปเก็บของที่ภรรยาทำตกหล่น"พ่อกับแม่จะไปคุยให้ผมไหมเนี่ย""มึงจำได้ไหมก่อนที่มึงจะหนีเข้ากรุงเทพฯ มึงก็พูดคำนี้แหละ แต่มึงให้พวกกูไปถอนคำพูด จนเสียค่าสินไหมไปกี่แสน""เรื่องนั้นผมขอโทษ ผมรับรองว่ามันจะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีกแล้ว""กูไม่เชื่อมึงหรอกไอ้เสก""เชื่อผมเถอะพ่อ" เสกสรรเดินตามพ่อออกมาหน้าบ้าน เพราะตอนนี้พ่อเอาขยะออกมาทิ้ง"ถูกตีเลยเหรอวะ" จังหวะนั้นป้าร้านค้ากำลังคุยกับตั๊กแตนอยู่พอดี"จะเหลือเหรอป้า""เรื่องปกติของแม่มันอยู่แล้ว เอะอะอะไรก็ตีลูก""สมน้ำหน้าน่ะสิไม่ว่า เดี๋ยวก็ท้องไม่มีพ่อเข้าสักวัน""กำลังพูดถึงเรื่องใครอยู่" เสกสรรเดินตามพ่อออกมาได้ยินคำนี้พอดี"จะพูดถึงใครล่ะ ก็พูดถึงเรื่องผู้หญิงที่พี่ไม่เอาแล้วไง" ตั๊กแตนหันไปพูดกับเสกสรรแบบได้ใจ เหมือนกับว่าหาแนวร่วมเพราะ