"กลับลงมาอีกทำไม"ได้ยินเสียงที่คุ้นหูอยู่ใต้ถุนบ้าน ใบหน้างามรีบหันไปมอง"นาย" เมื่อรู้ว่าเป็นใครหัวใจเริ่มเต้นแรงขึ้น ..นี่เราเป็นอะไร ความรู้สึกแบบนี้ไม่เคยมีให้ใครมาก่อน"ถามว่าลงมาอีกทำไม" เท้าแกร่งค่อยๆ ก้าวเดินออกมาจากความมืด ที่เธอมองไม่เห็นก็เพราะแสงเดือนสาดส่องเข้าไปไม่ถึงใต้ถุนบ้าน"ลงมาดูว่านายกลับหรือยัง""ยังไม่กลับ""แล้วทำไมนายถึงยังอยู่"เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงยังไม่กลับ เพราะรู้สึกเป็นห่วง ..ยิ่งเห็นสายตาคนงานพวกนั้นแล้ว มันก็ยิ่งทำให้เขาเป็นห่วงมากขึ้น"พ่อกับแม่นอนหรือยัง" สายตาคมยังมองต่ำลงไปดูคนตัวเล็กที่อยู่ด้านหน้า"หลับแล้ว" สิ้นคำพูดคนร่างสูงก็โน้มลงมาจูบ ซึ่งเธอก็ไม่ปฏิเสธ เขาพาเธอเข้ามาใต้ถุนบ้านในขณะที่ยังไม่ถอนจูบออก แล้ววางร่างเล็กลงที่แคร่ไม้เบาๆ"อือ..ไม่นะ" หญิงสาวรีบหนีบขาเข้าหากันไม่คิดว่าเขาจะใช้ลิ้นกับน้องสาวของเธอ ถึงแม้ว่าจะมืดมากแต่รู้ว่าตอนนี้เขาคุกเข่าอยู่ข้างแคร่ซึ่งเป็นพื้นดินชายหนุ่มไม่หยุด..แถมใบหน้าของเขาก็ยังพยายามซุกไซร้เข้ามา ..และเขาก็ไม่ได้ถอดกางเกงของเธอออก แค่จับมันแยกออกไปพร้อมกันทั้งสองตัว"อ๊อย..อือ" ตอนที่เขาช่วยด้วยนิ
เขาไม่เป็นอันทำอะไร มัวแต่จ้องมองไปที่บ้านหลังนั้น เพื่อรอเวลาให้พ่อของเธอออกจากบ้านไปก่อน ส่วนแม่..ต้องชั่งใจดูก่อนว่าวันนี้ท่านจะตามไปที่สวนผักไหม"ป้าจะไปไหนเหรอครับ" ชายหนุ่มถามขึ้นเมื่อเห็นว่าป้ากำลังจะเดินไปที่บ้านของเธอ"ไม่ได้ยินหรือไงว่าลุงจะลงผักใหม่ ก็จะไปชวนแม่ของหนูมิลานไปช่วยกันจะได้เสร็จเร็วๆ""ดีครับ จะได้เสร็จเร็วๆ" มุมปากแอบยิ้มตามผู้เป็นป้า แต่เขาไม่รู้หรอกว่าป้าวรรณีอยากจะเปิดโอกาสให้เขาได้คุยกับเธอมากกว่า"วันนี้ฉันห่วงลูกจังเลยพี่วรรณี" ดุจดาวอยากจะปฏิเสธแต่ก็เกรงใจเพราะวรรณีอุตส่าห์เดินมาชวน"คงไม่เป็นอะไรหรอก..ปล่อยให้เด็กนอนพักผ่อนไปก่อนถ้าไม่ดีขึ้น ค่อยว่ากันอีกที"จบคำพูดของป้าวรรณี..ดุจดาวก็เลยหันไปหากับลูกสาว"แม่จะลงไปแปลงผักกับป้าเดี๋ยวตอนเที่ยงแม่จะกลับมาหานะ""คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงลูกหรอกค่ะลูกดีขึ้นแล้ว" อาการของเธอจะปรากฏแค่ช่วงเช้า คล้ายๆ เหมือนกระเพาะบีบรัดตัว เพราะไม่มีอะไรลงไปในท้องก็เลยคลื่นไส้อาเจียน ยังคิดว่าตัวเองเป็นโรคกระเพาะหรือเปล่า"หนูไม่เป็นอะไรแน่นะ ทานข้าวแล้วก็นอนพักผ่อน ถ้าตอนเที่ยงแม่ไม่ได้ขึ้นมาก็คงจะคล้อยเย็นหน่อยนะ""ค่ะ"แม่กั
???? ตอนนี้ไม่รู้ว่าผลออกมาเป็นยังไง แค่มิลานกลั้นขำได้ก็ถือว่าดีมากเท่าไรแล้ว ที่เขาเอาไปอมไว้ในปากแบบนั้น"แล้วมาวัดไข้อะไรกันตรงนี้""วันนี้คุณพ่อกับคุณแม่กลับมาเร็วนะครับ" ชายหนุ่มแกล้งพูดไปเรื่องอื่น และค่อยๆ จับที่วัดไข้ ไม่ใช่สิ..จับที่ตรวจครรภ์ออกมาจากปากแล้วก็เอายัดเข้าไปไว้ในกระเป๋ากางเกง"กลับเร็วตรงไหน อีกนิดเดียวก็จะไม่เห็นทางเดินแล้ว" ภูธรพูดพร้อมกับเอาของที่ถือมาด้วยไปวางไว้"ถ้างั้นผมกลับก่อนนะครับ" พูดจบเขาก็เดินกลับมาที่บ้านของตัวเอง พอมาถึงมือหนาก็ล้วงเอาสิ่งที่ยัดเข้าไปไว้ในกระเป๋ากางเกงออกมาดู"สองขีด??!!" เขาจำได้แม่นเลยที่คนขายบอกว่าถ้ามันขึ้นสองขีดหมายถึงว่าแฟนของเขากำลังตั้งครรภ์ ชายหนุ่มเงยหน้ามองไปที่บ้านหลังนั้น เห็นเธอกำลังก้มๆ เงยๆ อยู่ที่บ่อน้ำ"หำอยู่นี่เองเหรอลุงว่าจะ....เอ้าา มันจะรีบไปไหนของมัน" ลุงพงษ์ได้แต่มองตามหลังหลานชายที่รีบวิ่งไปบ้านหลังนั้น"ทำอะไรของเธอ""นายมาทำไม" ได้ยินเสียงของเขาเธอก็รีบหันไปมองที่บันได กลัวว่าพ่อจะลงมาเร็ว เพราะท่านแค่ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า"เอาเชือกมานี่""ฉันทำเองได้""ทำเองได้ยังไงเอามา" เขาแย่งเชือกมาจากมือของเธอแล้
หญิงสาวไม่รอช้าเดินมุ่งหน้าเข้ามาในหมู่บ้าน ..ในระหว่างที่เดินมาก็คิดถึงทุกครั้งเวลาที่เขาตั้งวงดื่มเหล้า ก็จะมีผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่เคียงข้าง"ทำไมวันนี้มึง ดูแปลกๆ วะ" เสกสรรถามเพื่อน ที่เอาแต่ดื่มเอาดื่มเอาจนเหล้าไม่พอกิน"กูแปลกตรงไหน? ตรงไหนที่กูแปลก!!""อ้าวไอ้นี่..พูดแค่นี้ก็ต้องใส่อารมณ์ด้วย""สั่งแม่ค้าไปนานแล้ว ทำไมถึงยังไม่มาอีก" พอเหล้าหมดพวกเขาก็จะตะโกนไปร้านค้าที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อสั่งให้แม่ค้านำมาส่งให้"ไอ้พวกนี้เมาแล้วชอบเสียงดัง" มันคือเสียงป้าร้านค้าที่กำลังเตรียมกับแกล้ม และชุดโซดาพร้อมเหล้าน้ำแข็งกำลังจะเดินมา เพราะติดลูกค้าคนอื่นอยู่"ป้าจะไปไหนคะ""ก็เอาไปให้ไอ้เสกกับไอ้เหนือนั่นแหละ""เดี๋ยวฉันเอาไปให้""ไม่เป็นไรหรอกลำบากเอ็งเปล่าๆ""เอามาเถอะป้า เดี๋ยวฉันเอาไปให้" ว่าแล้วตั๊กแตนก็แย่งของในมือป้ามา เพราะสายตามองไปที่เสาไฟส่องสว่างเห็นใครบางคนกำลังเดินมาพอดี"ทำไมไม่ชวนกันบ้างล่ะคะ" เดินเข้ามาถึงตั๊กแตนก็รีบเข้าไปนั่งข้างเหนือตะวัน ซึ่งตอนนี้แอลกอฮอล์ได้เข้าสู่ร่างกายไปเยอะแล้ว"ไอ้เหนือเมียมึงมา""เมียที่ไหน..เหอะมึงจะเอาคืนกูล่ะสิ!" ว่าแล้วเหนือตะวันก็จับเหล้าแก
ชายหนุ่มลุกขึ้นแล้วค่อยๆ ก้าวถอยหลังออกไปในความมืด ทั้งสามได้แต่มองตาม เพราะไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ที่รู้ใครจะไปทำได้ เพราะนั่นมันแสดงถึงการปฏิเสธสิ่งที่เขาขอพ่อของเธอมา"ขึ้นบ้านได้แล้ว" ภูธรหันไปสั่งภรรยากับลูกสาว ..มิลานได้แต่เดินตามหลังผู้เป็นพ่อขึ้นบ้าน แต่สายตาของเธอยังมองไปในความมืดตรงที่เขาเดินหายไปวันต่อมา..หญิงสาวลงมาทำงานบ้านเหมือนทุกครั้ง แต่สายตาของเธอพยายามมองไปที่บ้านหลังนั้น เผื่อว่าจะเห็นเขา แต่ก็เงียบมาก"ทำกับข้าวเสร็จแล้วเอาลงไปส่งพ่อด้วย" ทำไมพ่อจะไม่รู้ว่าลูกสาวมองอะไร แต่ภูธรไม่คิดว่าลูกสาวจะมาสนใจผู้ชายบ้านนอกบ้านนาอะไรแบบนี้ ถึงแม้หน้าตาของเขาจะหล่อมาก แต่ก็เป็นแค่หลานของชาวไร่ชาวนา"ค่ะพ่อ"หญิงสาวมองตามหลังผู้เป็นพ่อที่เดินไปทางสวนผัก เธอก็รีบหุงข้าวไว้ ก่อนที่จะเดินมาบ้านอีกหลัง เพราะต้องให้เห็นกับตาว่าเขาไม่เป็นอะไรมาก"บ้านนี้ไปไหนกันหมด" หญิงสาวมาถึงก็ไม่มีใครอยู่บ้านรวมทั้งป้าและลุงก็ไม่เห็น ..เธอจำเป็นต้องได้เดินกลับมา เพราะต้องรีบไปส่งข้าวให้พ่อกับแม่ที่ลงไปสวนก่อนหน้านั้นอีกมิลานลงมาที่สวนผักก็เจอพวกท่านทั้งสี่ที่กำลังช่วยกันทำสวน มีวิทยุ
"อะไรนะ?" มกราถึงกับถามซ้ำ เพราะไม่คิดว่าพ่อของเพื่อนจะยังมีน้ำยาอยู่"ก็อย่างที่มึงได้ยินนั่นแหละ""แล้วมึงจะเอายังไง""จะเอายังไงล่ะ?" เหนือตะวันคิดว่าตัวเองคงทำอะไรไม่ได้แล้ว ถ้าเด็กคนนั้นเป็นลูกของพ่อเขาจริง คงจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกของเขา เพราะดูจากท้องของผู้หญิงคนนั้นแล้วเท่ากับท้องของ... คิดมาถึงตรงนี้ใบหน้าสวยหวานก็ลอยเข้ามา เป็นไปได้อยากจะให้เธอมาด้วย แต่เขาต้องทำสิ่งที่พ่อเธอต้องการให้สำเร็จก่อน"แล้วมึงเอาน้องกูไปไว้ที่ไหนวะ""น้องมึงกำลังสนุกกับงานอยู่เลย" มกราให้มะลิซ้อนไปเป็นนักสืบแทน ในระหว่างที่รอพี่ชายมารับ"คืนนี้กูคงจะกลับไปนอนบ้าน มึงช่วยหาแม่ให้กูหน่อยนะว่าแม่กูไปอยู่ไหน""ให้กูหาตั้งแต่เมียยันแม่เลยเหรอวะ""กูก็พึ่งได้แต่มึงนี่แหละ..เพื่อนรัก""ทีแบบนี้รักกูขึ้นมาเลยนะมึง"ในเวลาต่อมา.. ถ้าเป็นบ้านปลายนา ตะวันคงจะลับขอบฟ้าไปแล้ว ที่จริงอยู่ที่นี่ก็ลับขอบฟ้าไปแล้วเช่นกัน แต่มองไม่เหมือนที่นั่นทั้งๆ ที่นี่เป็นบ้านเกิด แต่ทำไมเขาคิดถึงที่นั่นมาก หรือเพราะมีเธออยู่และอีกความรู้สึกก็เป็นห่วงแม่ไม่แพ้กัน ข้อความอะไรก็ไม่มี ..แต่เขาไม่คิดว่าแม่จะเกิดเรื่องร้ายอะ
"ไปแบบไม่ต้องบอกเหรอคะ" มิลานถึงกับถามซ้ำอีกครั้ง"ก็ในเมื่อรู้ว่าถ้าบอกแล้วพวกท่านจะไม่ให้ไป..เราก็ไปแบบไม่ต้องบอกไงคะ""ฉันกลัวพวกท่านเป็นห่วงค่ะ""เขียนจดหมายไว้ค่ะ..เขียนจดหมายบอกว่าเราจะไปตามหาผัวกัน""ตามหาผัว.." ถ้าพ่อรู้พ่อจะคิดยังไงล่ะ เพราะท่านยังไม่ยอมรับเขาเลยเรื่องนี้มิลานคิดว่าจั๊กจั่นคงยังไม่รู้ คนที่รู้คือตั๊กแตน แต่ตั๊กแตนก็ฉลาดมากที่เก็บเรื่องนี้ไว้เล่นงานเธอทีละน้อย"ไปนะคะไปกันตอนนี้เลย" จั๊กจั่นพยายามคะยั้นคะยอ เพราะคิดถึงเสกสรรมาก ตั้งแต่เขาไปเธอแทบจะนอนไม่หลับและมันก็ทำให้มิลานใจอ่อน ..ทั้งสองเดินตามกันออกมา โดยทิ้งแค่ข้อความที่เขียนไว้ตรงเสาบ้านด้วยถ่านไฟ แบบที่เหนือตะวันเคยเขียนให้เธอไว้"แล้วเราจะออกจากหมู่บ้านไปรอขึ้นรถได้ยังไงคะ""เราจะเอามอเตอร์ไซค์ไป""มอเตอร์ไซค์ของใครคะ""ของพ่อฉันเอง" จั๊กจั่นแอบกลับไปที่บ้านและเขียนข้อความไว้ พร้อมกับเอามอเตอร์ไซค์ของพ่อออกมาด้วย22 : 06 น. ทั้งสองจำเป็นต้องได้เข้าไปในตัวเมืองเพื่อขึ้นรถทัวร์ ขับรถมอเตอร์ไซค์ในความมืด อยู่แบบนั้น เกือบสามชั่วโมงได้ ก็มาถึงที่..บขส.ทั้งสองรอรถรอบแรก โดยนั่งรออยู่แถวนั้น..ส่วนมอเตอร
"ปล่อย!!" หญิงสาวสะบัดเขาออกอย่างแรงแต่ก็ไม่เป็นผล เหนือตะวันยังคงพยายามกอดจูบเธออยู่แบบนั้นเมื่อคืนนี้ยังนอนคิดถึงเธออยู่เลย ต้องได้พยายามห้ามใจตัวเองไม่ให้กลับไปที่หมู่บ้าน จนกว่าทุกอย่างที่เขาทำจะสำเร็จลุล่วงไปก่อน เพราะเขาต้องจัดการทุกอย่างด้วยตัวเองแต่มาคืนนี้กลับมีเธอมาให้กอด ให้จูบ และเขาคิดว่าคงไม่ทำแค่นั้น แถมตอนนี้แอลกอฮอล์ในร่างกายกำลังปลุกเร้าความเป็นชายในตัวออกมา จนมันแข็งไม่รู้จะแข็งยังไงแล้วไม่ใช่ว่าเขาไม่เห็นตอนที่เพื่อนๆ กำลังล้วงเข้าไปในที่สงวนของสาวๆ พวกที่มานั่งดริ้งค์ แต่เขาก็ไม่สนใจผู้หญิงพวกนั้น เพราะในใจคิดถึงแต่เธอ ไม่ว่าผู้หญิงพวกนั้นจะหน้าตาดีแค่ไหนก็สู้เธอไม่ได้"ฉันบอกให้คุณปล่อยไง เหม็นเหล้าจะตายอยู่แล้ว" มิลานพยายามจะดมหากลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงคนอื่น แต่ก็ไม่มีติดตัวเขามาเลย ถึงแม้จะไม่มีกลิ่นน้ำหอม ..ได้ยินแค่พวกเพื่อนๆ ของเขาคุยกัน เธอก็รู้สึกหึงหวงมากแล้ว ที่รู้ว่าเขาไปนั่งร่วมโต๊ะกับผู้หญิงพวกนั้นด้วย"นายเหนือนรก! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ..อื้อออ!" เขาไม่ปล่อยแถมยังยกชายเสื้อของเธอขึ้นมาพร้อมกับเสื้อชั้นใน แล้วก้มลงไปดูด..ชายหนุ่มดูดยอดปทุมพร้อมกับบีบเคล้
สามเดือนผ่านไปตอนนี้ท้องของมิลานก็เริ่มโตขึ้นจนโผล่พ้นออกมาให้เห็นมากแล้ว"ทำไมกลับบ้านเร็วล่ะคะ" หลายวันมานี้สามีกลับบ้านก่อนเวลาตลอด"ว่าจะไม่ไปทำงานด้วยซ้ำ""ทำไมล่ะ""ก็เป็นห่วงคุณไง ดูสิจะเดินจะนั่งก็ดูลำบากไปหมด" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับประคองภรรยาค่อยๆ นั่งลงที่โซฟา"ฉันอยู่ที่บ้านกับคุณแม่ไม่เห็นมีอะไรต้องน่าเป็นห่วงเลยค่ะ"ถึงแม้ว่าแม่ของเขาจะดูแลเธอเป็นอย่างดี แต่ผู้เป็นสามีก็อดห่วงไม่ได้ เพราะอยากจะดูแลเธอเอง มือหนาลูบไล้หน้าท้องของภรรยาซึ่งตอนนี้เด็กดื้อที่อยู่ในนั้นกำลังดิ้นแรงมาก"เหลืออีกตั้งสี่เดือนกว่า ลูกถึงจะคลอด ถ้าไม่ไปทำงานใครจะดูงานให้ล่ะคะ""ก็ให้ท่านรองประธานดูไปสิ""คุณเสกสรรนะเหรอ""ไอ้เสกมันทำงานเก่งไม่เป็นแบบที่คุณคิดหรอกนะ" ใครจะคิดว่าเสกสรรจะเก่งในการทำงานขนาดนี้ เพราะเคยเห็นแต่สำมะเลเทเมาไปวันวานพอรู้ว่าโปรเจคงานที่ก่อปัญหาในครั้งนั้นเป็นผลงานของเสกสรร เหนือตะวัน และพ่อของมิลานก็มองเสกสรรใหม่ จนตอนนี้ให้ตำแหน่งเขาเป็นถึงท่านรองประธาน เพื่อที่จะมาดูงานช่วยกันอีกแรงแต่เสกสรรจะยอมรับตำแหน่งนั้น ถ้าให้ภรรยาของเขาเป็นเลขาส่วนตัว เพราะทีแรกจั๊กจั่นขอไปทำงานที่แ
เช้าวันต่อมา.."ถ้ามีโอกาส เราจะมาเที่ยวเล่นที่นี่อีกนะ" ประไพเอ่ยพูดขึ้นกับลุงพงษ์และป้าวรรณีที่เดินมาส่งตรงท้ายหมู่บ้านเพื่อจะขึ้นรถไปสนามบิน"เชิญพวกท่านทั้งสองได้เสมอเลยครับ" ลุงพงษ์ตอบกลับไปแบบนอบน้อม"ถ้าเมื่อไรอยากได้ถนน กับไฟฟ้า ให้บอกมาได้ตลอดเลยนะ เดี๋ยวให้คนมาจัดการให้" คำพูดนี้ท่านรัฐมนตรีเป็นคนพูดเอง เพราะถ้าเป็นคำสั่งของท่านคงใช้เวลาไม่นาน"ก็ไอ้หำน่ะสิ..เออ..ขอโทษครับ" ลุงพงษ์เผลอปากเรียกลูกชายท่านว่าหำต่อหน้า"ไม่เป็นไรหรอกครับลุง ลุงถนัดแบบไหนก็พูดแบบนั้นเถอะ" เหนือตะวันที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ได้พูดให้ลุงคลายกังวล"ลูกหลานมันอยากจะเก็บบรรยากาศแบบนี้ไว้ ก็ทำตามคนที่เขาอยู่อาศัยต่อเถอะครับท่าน" มันยิ่งทำให้ป้าและลุงรักหลานชายคนนี้เพิ่มขึ้น เพราะเขาไม่ใช่คนธรรมดา แต่ยังมาอาศัยอยู่กับพวกท่าน ถือว่าบุญเก่าเคยทำมาร่วมกัน"คุณพ่อกับคุณแม่กลับไปก่อนนะครับ ถ้าพ้นช่วงฮันนีมูนแล้วเดี๋ยวผมจะพาลูกสะใภ้กลับไปหาเอง" เหนือตะวันพูดพร้อมกับเปิดประตูให้ผู้เป็นพ่อกับแม่ได้ขึ้น"ฝากดูแลท่านทั้งสองด้วยนะเสก" เขายังหันไปพูดกับเสกสรรที่กำลังจะขึ้นรถอีกคัน"ได้สิ มึงอย่าลืมนะว่านี่ก็พ่อตาแม่ยายกูเ
"คิดถึง""คะ?" จะตกใจอะไรก่อนดี ระหว่าคำที่ท่านบอกว่าคิดถึง หรือมือที่ท่านยื่นมาโอบกอด สัมผัสแบบนี้ไม่เคยเจอมาเป็นสิบปีแล้ว ถึงแม้เวลามันจะยาวนาน แต่นางก็นับวันนับคืน ว่าเมื่อไรสามีจะหันหน้ากลับมาหา แต่ยิ่งท่านหันหลังให้ก็ยิ่งเดินห่างไกลออกไป วิ่งตามเท่าไรก็ตามไม่ทัน"ท่านไม่สบายหรือเปล่าคะ" ความคิดนี้พุ่งขึ้นมาในหัว ส่วนมากถ้าคนที่เป็นโรคร้าย ชอบจะกลับมาตายรังแบบนี้เสมอ เพราะอีหนูพวกนั้นคงดูแลไม่ได้"ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ""ก็ดูท่านเปลี่ยนไป" นอกจากคำว่าคุณแล้ว ประไพชอบเรียกสามีว่าท่าน เพราะยังไงนางก็อายุน้อยกว่าเป็นสิบปี"ถ้าผมไม่สบายจริง คุณจะดูแลไหม"เพียงไม่นานก็ได้ยินเสียงสะอื้นของภรรยาเก่า พร้อมกับมือที่ขยับขึ้นปาดน้ำตาตัวเองออก"คุณเป็นอะไร" สำราญตกใจ รีบลุกขึ้นนั่ง จะจุดไฟตะเกียงก็ทำไม่ได้แล้วเพราะทำไม่เป็น"คุณป่วยระยะที่เท่าไรแล้วคะ""ระยะที่เท่าไรหมายความว่ายังไง""คุณเป็นมะเร็งใช่ไหม คุณไปหาหมอมาหรือยัง แล้วทำไมคุณไม่รีบกลับมาหาฉัน" สิ้นประโยคคำพูดเสียงสะอื้นของนางก็ดังขึ้นเรื่อยๆ ที่ประไพคิดแบบนี้ ก็เพราะมีไม่กี่โรคหรอกคนรุ่นราวคราวนี้ที่จะเจอ"ใจเย็นก่อนสิคุณ""ทำไมคุณไม่รี
ในเวลาเดียวกันนั้นที่บ้านปลายนา..หลังจากร่วมรับประทานอาหารเย็นกันเสร็จแล้ว ลุงพงษ์กับป้าวรรณี และคู่ที่มาฮันนีมูนก็ได้กลับบ้าน ซึ่งปล่อยให้ท่านรัฐมนตรีกับอดีตภรรยาได้อยู่ด้วยกันแค่สองคน ในบ้านหลังที่พ่อและแม่ของมิลานเคยอาศัยอยู่เรามารู้จักกับท่านรัฐมนตรีและภรรยาเก่ากันบ้าง สำราญ ชายวัย 57 ปี แต่รูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้เป็นไปตามอายุเท่าไร เพราะดูแลร่างกายดี ส่วนประไพ ซึ่งอายุน้อยกว่าสามีเก่าถึง 10 ปี ตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยในปีนั้นนางก็ได้คว้าดาวมหาวิทยาลัยมาครอง ความสวยของนางก็ยังคงมีอยู่ แต่ด้วยความไม่พอของสามี จึงยังต้องการเด็กสาวเข้ามาเติมเต็ม"คุณนอนได้ไหมล่ะคะ""นอนได้สิ" สำราญพูดพร้อมกับค่อยๆ หย่อนกายมุดเข้าไปในมุ้งแบบลำบากเพราะไม่เคยนอนแบบนี้มาก่อน"หึ..มันก็สรรหาที่มาอยู่นะ""แต่ผัวเมียคู่นั้นก็ดูรักลูกเราดีนะคะ""อืมม..ชีวิตแบบนี้ก็ดีไปอีกแบบ""คุณนอนไปก่อนเลยนะคะ ฉันจะลงไปเล่นข้างล่าง" ว่าแล้วนางก็แยกตัวลงมาก่อน ..อายุปูนนี้แล้วทำไมหัวใจยังเต้นแรงอยู่อีกควรพอได้แล้วมั้งประไพ เข้าใกล้สามีเก่าแล้วรู้สึกหวั่นไหวจนต้องได้ตำหนิตัวเองพอลงมาถึงข้างล่างนางก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้า ซึ่งตอนน
"คนเจ้าเล่ห์" ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรเพื่อแลกเปลี่ยน"เจ้าเล่ห์ที่ไหนอยากรู้ความลับก็ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนกันหน่อยสิ" ใบหน้าหล่อคมขยับเข้ามาใกล้ริมฝีปากบางแบบห้ามใจตัวเองไม่อยู่"ครั้งนี้พี่จะเป็นเหมือนครั้งที่แล้วไหม" หญิงสาวไม่ปฏิเสธแถมเธอยังหลับตาให้ แต่อดที่จะถามออกไปไม่ได้ เพราะกลัวว่าเรื่องแบบเดิมๆ มันจะกลับมาอีกครั้ง"ไม่แล้ว..และพี่จะไม่ขอโทษเราอีก แต่พี่จะทำให้เราเห็น" เสกสรรรู้ดีว่าเธอหมายถึงอะไร ตอนนั้นเขายังคึกคะนองในตัวเอง และเสียดายความโสดของตัวเอง จึงได้พยายามผลักไสเธอออกไป"พี่จะทำอะไรให้ฉันเห็น" ดวงตากลมเปิดขึ้นอีกครั้งเพื่อมองสบตา"ทำให้เห็นว่าพี่รักเราไง"น้ำตาได้ไหลลงมาจากดวงตางามคู่นั้น เธอสัมผัสได้ว่าที่เขาพูดมันออกมาจากใจจริง ไม่เหมือนครั้งก่อนที่เขาต้องการแค่ร่างกายของเธอ"ไม่ร้องนะคนเก่งของพี่" จากที่จะจูบก็เลยได้เปลี่ยนมาเป็นซับน้ำตาให้"ฉันเก่งที่ไหน""เก่งสิ..ถ้าจั๊กจั่นของพี่ไม่เก่งแล้วใครจะเก่งล่ะ" เสกสรรคว้าร่างบางเข้ามากอดไว้"ยังเจ็บอยู่ไหม"หญิงสาวตอบด้วยการส่ายหน้าเบาๆ สิ่งที่เกิดขึ้นมันทำให้เธอลืมความเจ็บปวดไปได้ เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะมีความ
"จะ..จะ..จริงเหรอวะ" อัมพรแม่ของจั๊กจั่นไม่ค่อยเชื่อ แต่พอมีคนไปตามก็รีบมาดู"ต่อไปนี้แม่จะไม่ให้ใครทำร้ายหนูได้อีกแล้ว เราจะกลับไปพร้อมกันนะ" ประไพพูดพร้อมกับลูบผมของจั๊กจั่นเบาๆ เพื่อปลอบใจหญิงสาวไม่ตอบแต่เธอพยักหน้าเพราะตื้นตันใจ ขนาดท่านไม่ใช่แม่แท้ๆ ยังเป็นห่วงเธอขนาดนี้"คนนี้บอกว่าเป็นแม่ของคุณจั๊กจั่นครับท่าน" ตำรวจที่ควบคุมสถานการณ์อยู่ข้างนอกได้พาผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามา"จั๊กจั่น" อัมพรตกใจที่เห็นลูกสาวอยู่ในอ้อมกอดของใครก็ไม่รู้"คนนี้ใช่ไหม" ประไพถามจั๊กจั่น แต่สายตามองไปที่อัมพร ซึ่งข้างกายของอัมพรก็มีผู้หญิงอีกคนที่รุ่นราวคราวเดียวกับจั๊กจั่นยืนอยู่ด้วยจั๊กจั่นทำได้แค่ส่ายหน้า เพราะเป็นห่วงแม่ ยังไงท่านก็เป็นแม่ที่ให้กำเนิด"บอกแม่มาตามตรง คนนี้ใช่ไหมคือแม่ใจร้ายที่ทำหนู""เกิดอะไรขึ้นน่ะน้า" ตั๊กแตนสะกิดข้างของน้าอัมพร แล้วถามเบาๆ สายตาก็ได้มองไปดูทั่วบริเวณบ้านของเสกสรร ซึ่งตอนนี้ผู้ชายที่แต่งตัวภูมิฐาน ต่างก็ยืนรอบล้อมอยู่แถวนั้น"ท่านนี้คือผู้ใหญ่ที่จะมาสู่ขอจั๊กจั่นให้ผมครับ" เสกสรรซึ่งยืนอยู่ไม่ไกล ก็เดินเข้ามาแนะนำให้แม่ของจั๊กจั่นได้รู้จัก"ท่านคือ ท่านรัฐมนตรีสำร
"กูขอโทษด้วยนะที่ทำให้มึงเดือดร้อนไปด้วย" พอเหตุการณ์ปกติ ทั้งสี่ก็ได้มานั่งคุยกันที่บ้านหลังเดิมของมิลาน"ไม่เป็นไรหรอกน่าา เป็นเพื่อนกัน""แล้วพ่อมึงจะยอมมาไหมวะ" ด้วยความโมโหและความเป็นห่วงคนรัก เขาก็เลยพูดไปโดยไม่ได้คิด เพราะคนระดับท่านรัฐมนตรีจะว่างมาให้ไหม"ต้องลองคุยกับพ่อดูก่อน""อย่าคิดมากนะเดี๋ยวทุกอย่างมันก็ผ่านไป" มิลานได้แต่ปลอบใจจั๊กจั่นที่นั่งทำหน้าเศร้า"ทุกคนก็เลยต้องได้มาเดือดร้อนเพราะฉัน ฉันน่าจะกลับไปพร้อมแม่ให้เรื่องมันจบๆ ไป""ทุกคนเต็มใจช่วย อย่าพูดแบบนั้นอีกนะ เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ"เหนือตะวันก็เลยเดินเข้ามาเอาโทรศัพท์ที่รถ เพื่อที่จะโทรหาพ่อดูก่อน.. ที่เขาต้องเก็บโทรศัพท์ไว้ในรถเพราะยังไงบ้านปลายนาก็ไม่ค่อยมีสัญญาณอยู่แล้ว แถมไม่มีไฟฟ้าที่จะชาร์จโทรศัพท์ด้วยเวลาผ่านไป.. ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เขาก็ได้กลับมาหาทั้งสามที่นั่งรออยู่ที่เดิม"พ่อกูติดประชุมในพรรค""ท่านปลีกตัวมาไม่ได้เลยเหรอ" มิลานเดินเข้ามาถามสามี"ไม่แน่ใจ""ทำไมไม่ถามดีๆ ก่อนล่ะ""ทุกคนพอแค่นี้เถอะ ฉันจะกลับบ้าน" จั๊กจั่นไม่อยากจะให้ พวกเพื่อนๆ ต้องมาเดือดร้อนกับเธอมากไปกว่านี้อีกแล้ว"ไม่ได้นะ
"มานี่เลยนะนังลูกไม่รักดี!" อัมพรเดินเข้าไปคว้าตัวลูกสาวเข้ามาหวังจะทำโทษ"อย่าทำอะไรจั๊กจั่นนะน้า" เสกสรรที่เดินตามหลังมา ดูท่าไม่ดีก็เลยรีบเข้ามาขวางไว้"เราคุยกันรู้เรื่องแล้วไม่ใช่เหรอเสก ไหนตกลงกับน้าแล้วไงว่าจะไม่เจอหน้ากัน""ผมแค่มาส่งเห็นมันมืดค่ำแล้ว น้าจะปล่อยให้ลูกสาวมีอันตรายหรือไง" ในขณะที่พูดสายตาของเขาตวัดมองไปที่ตั๊กแตน แต่ก่อนไม่เคยรู้เลยว่าตั๊กแตนจะเป็นคนนิสัยแบบนี้ เพราะดูเรียบร้อย ผิดกับอีกคนที่เขากำลังหลงใหลอยู่ในตอนนี้ เธออาจจะเป็นคนที่ดูแรง แต่เธอก็ไม่ได้เสแสร้งเหมือนตั๊กแตน"ใครก็พูดได้ถ้าจะพูดแบบนี้" ตั๊กแตนยังพูดยุแยง เพราะได้ยินเมื่อตอนกลางวันเรื่องที่เสกสรรมาสู่ขอจั๊กจั่นอีกครั้ง ก็เลยเริ่มจะหมั่นไส้"ตกลงแม่จะตีไหม ถ้าไม่ตีฉันจะกลับเข้าห้องแล้ว""จั๊กจั่นอย่าพูดแบบนั้น" เสกสรรห้ามปรามไว้ เพราะมันเหมือนกับไปกระตุ้นอารมณ์ของแม่ เขากลัวว่าน้าอัมพรจะตีเธอซ้ำรอยเดิม"พี่ไม่ต้องมายุ่งหรอกกลับบ้านพี่ไปเถอะ" จั๊กจั่นหันมาตวาดใส่เสกสรร เพราะถ้าเขายังอยู่กลัวว่าเรื่องจะบานปลายมากไปกว่านี้"พี่จะกลับ แต่ต้องแน่ใจก่อนว่าน้าอัมพรจะไม่ตีเรา" แต่เสกสรรไม่ยอมไปเพราะกลัวแม
"ไอ้เสกมึงจะฆ่าแม่หรือไง" พ่อรีบเข้ามาในครัวเมื่อได้ยินเสียง"ผมฆ่าแม่ตอนไหน""ก็เรื่องที่มึงกำลังพูดอยู่เมื่อกี้ไง!""พ่อได้ยินแล้วเหรอ""กูได้ยินตั้งแต่คำแรกที่มึงพูดแล้ว" ที่พ่อของเขาได้ยินเพราะท่านอยู่แถวหน้าต่าง ตรงที่เขาคุยกับแม่พอดี"นะพ่อนะ..ไปขอเมียให้ผมหน่อยนะ"ผู้เป็นพ่อไม่ตอบ แต่เดินเข้าไปเก็บของที่ภรรยาทำตกหล่น"พ่อกับแม่จะไปคุยให้ผมไหมเนี่ย""มึงจำได้ไหมก่อนที่มึงจะหนีเข้ากรุงเทพฯ มึงก็พูดคำนี้แหละ แต่มึงให้พวกกูไปถอนคำพูด จนเสียค่าสินไหมไปกี่แสน""เรื่องนั้นผมขอโทษ ผมรับรองว่ามันจะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีกแล้ว""กูไม่เชื่อมึงหรอกไอ้เสก""เชื่อผมเถอะพ่อ" เสกสรรเดินตามพ่อออกมาหน้าบ้าน เพราะตอนนี้พ่อเอาขยะออกมาทิ้ง"ถูกตีเลยเหรอวะ" จังหวะนั้นป้าร้านค้ากำลังคุยกับตั๊กแตนอยู่พอดี"จะเหลือเหรอป้า""เรื่องปกติของแม่มันอยู่แล้ว เอะอะอะไรก็ตีลูก""สมน้ำหน้าน่ะสิไม่ว่า เดี๋ยวก็ท้องไม่มีพ่อเข้าสักวัน""กำลังพูดถึงเรื่องใครอยู่" เสกสรรเดินตามพ่อออกมาได้ยินคำนี้พอดี"จะพูดถึงใครล่ะ ก็พูดถึงเรื่องผู้หญิงที่พี่ไม่เอาแล้วไง" ตั๊กแตนหันไปพูดกับเสกสรรแบบได้ใจ เหมือนกับว่าหาแนวร่วมเพราะ