แชร์

บทที่ 970 เจ้าเป็นใคร

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-07-11 16:00:00
“หา!”

อินชิงเสวียนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

“ทำไม... ทำไมถึงไปไวขนาดนี้?”

นางคิดว่าตอนที่ไปส่งเย่จั้น จะมอบน้ำพุวิญญาณให้เขา เพื่อใช้ในเวลาที่ต้องการ

วันที่ตัวเองและเย่จิ่งอวี้ไม่ได้อยู่ในวัง เย่จั้นก็ทุ่มเทแรงกายแรงใจไม่น้อย เมื่อได้ยินข่าวว่าเขาไปจากเมืองหลวงกะทันหันเช่นนี้ อินชิงเสวียนก็รู้สึกหว้าเหว่ในหัวใจ

เย่จิ่งอวี้ถอนหายใจเบาๆ และพูดว่า “เสด็จอาคิดจะไปตามหาอินหลี เรงว่าคิดเอาไว้นานแล้ว แต่เพราะต้องแบกรับภาระหนักในราชวงศ์ ตอนนี้เจียงวูพ่ายแพ้ ภัยแล้งถูกแก้ไข เจ้าและข้ามีการพํฒนาอย่างมากก็เพราะน้ำพุวิญญาณ นี่คงเป็นเหตุผลที่เสด็จอาจากไปอย่างไว้วางใจแล้ว”

เมื่อดมเส้นผมที่มีกลิ่นหอมของนาง อารมณ์ที่วุ่นวายของเย่จิ่งอวี้ก็สงบลง

อินชิงเสวียนตบเบาๆ ที่นิ้วอันเรียวยาวของเขา

“ในเมื่อเสด็จอาตัดสินใจแล้ว อาอวี้ก็อย่าคิดมากเลย หวังว่าเสด็จอาจะสมความปรารถนา ตามหาอินหลีได้โดยเร็ว”

“เสวียนเอ๋อร์พูดถูกต้อง เมื่อมีความเชื่อมั่นก็ต้องได้รับผลตามมา ข้าก็เชื่อว่าเสด็จอาจะต้องสมหวังดังใจปรารถนา”

เย่จิ่งอวี้สะบัดชุดคลุมและลุกขึ้นยืน

“ข้าล่าช้ามาครู่หนึ่งแล้ว ควรไปพบเหล่าขุนนางแล้วล
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 971 มารดาของเจ้าคือเหมยชิงเกอ

    อินชิงเสวียนสงบลงอย่างรวดเร็ว การที่อีกฝ่ายไม่ได้ลงมือในทันที หมายความว่าทุกอย่างยังมีความเป็นไปได้ที่จะประนีประนอมกัน นางต้องพาลูกชายกลับมาก่อนตั้งแต่เมื่อครู่ นางได้ใช้ทักษะช่วงชิงโชคลาภกับผู้อาวุโสหันแล้ว คนผู้นี้ลงมือกับเด็กตั้งแต่แรก ต้องไม่ใช่คนดีแน่นอน!วิทยายุทธ์ที่ไม่รู้จักหลายอย่างได้ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของนาง แต่นางไม่กล้าลงมืออย่างผลีผลาม เพราะลูกยังอยู่ในมือของชายชราผู้นี้อยู่“ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสท่านนี้มาหาผู้เยาว์ด้วยเรื่องอันใด โปรดมอบจ้าวเอ๋อร์ให้ข้าด้วย หากผู้อาวุโสต้องการอะไร ผู้เยาว์จะพยายามอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่”สำหรับคนทั่วไป วังหลวงได้รับการปกป้องอย่างเข้มงวดกวดขัน แข็งแกร่งดั่งหินผา แต่สำหรับยอดฝีมือผู้บำเพ็ญฌานตบะเหล่านี้แล้ว เหล่าทหารองครักษ์อารักขาก็ไม่ต่างจากเด็กน้อยอินชิงเสวียนรู้เหตุผลข้อนี้ดี พยายามทำตัวสุภาพให้มากที่สุดแต่ไม่รู้ว่าคนผู้นี้เป็นเทพเซียนมาจากแห่งใด ในระหว่างการสู้รบในเป่ยไห่ สำนักในจงหยวนที่อินชิงเสวียนรู้จักเกือบทั้งหมดนั้น กลับไม่เคยเห็นชายชราตรงหน้าเลยผู้อาวุโสหันพูดด้วยรอยยิ้ม “ที่ข้ามาหาเจ้าเพราะมีธุระบางอย่างจริงๆ ในเมื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-11
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 972 ความเมตตาจอมปลอม

    อินชิงเสวียนไม่เชื่อคำโกหกของเขาเลย คิดแค่จะชิงตัวเสี่ยวหนานเฟิงกลับคืนมาเมื่อครู่นางพยายามเอาตัวเสี่ยวหนานเฟิงเข้าไปในมิติ แต่ระบบยังคงแจ้งเตือนว่า ห้ามไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไปก่อนที่ผู้อาวุโสหันจะบีบบังคับด้วยกำลัง นางต้องหลอกเอาตัวเสี่ยวหนานเฟิงออกมาให้ได้ ไม่เช่นนั้นมิติจะสามารถเปิดได้หรือไม่นั้น ยังเป็นปัญหาอยู่ นางมองไปที่เสี่ยวหนานเฟิง เห็นว่าชายชราจับเขาไว้ด้วยท่าทางสบาย จากนั้นจึงขยิบตากับลูก บอกเสี่ยวหนานเฟิงว่าไม่ต้องกลัว มีแม่อยู่เสี่ยวหนานเฟิงก็รู้ความยิ่งนัก ด้วยมือเล็กป้อมคู่นั้นจับเสื้อของผู้อาวุโสหันไว้แน่น รอให้เสด็จแม่มาช่วยตัวเองอินชิงเสวียนละสายตาจากลูกชาย ถามอย่างแสร้งทำเป็นประหลาดใจว่า “ผู้อาวุโสท่านพูดจริงหรือนี่? ถ้าท่านแม่ของข้ามาจากตำหนักเทพจริง แล้วตำหนักเทพเป็นสถานที่เช่นไรหรือเจ้าคะ”“ข้าก็อายุปูนนี้แล้ว จะหลอกเด็กอย่างเจ้าได้อย่างไร ตำหนักเทพหอทองคำเป็นสำนักสันโดษที่แท้จริง ยังดำรงอยู่ในระดับสุดยอดที่สุดในยุทธจักร”ผู้อาวุโสหันพูดประโยคนี้อย่างค่อนข้างภาคภูมิใจ แล้วพูดอย่างใจดี “เด็กน้อย กลับไปกับข้าเถิด ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเจ้าคือหวังให

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-11
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 973 ดื้อด้าน

    “ท่านผู้อาวุโสเจ้าคะ เด็กเป็นผู้บริสุทธิ์ โปรดวางจ้าวเอ๋อร์ลงด้วย หากเสียงร้องของเด็กดึงดูดเหล่าทหารองครักษ์ วันนี้คงไม่จบลงด้วยดีอย่างแน่นอน ในเมื่อผู้อาวุโสมาจากสำนักสันโดษ คิดว่าประจักษ์แจ้งในวิถีทางแห่งสวรรค์แล้ว คงรู้ว่าการเข่นฆ่าจี้ปล้นเป็นภัยต่อการบำเพ็ญตน คิดว่าผู้อาวุโสคงไม่ต้องการให้กลายเป็นเช่นนั้น ตราบใดที่ท่านเต็มใจมอบจ้าวเอ๋อร์คืนให้ผู้เยาว์ ผู้เยาว์จะให้คำตอบแก่โดยเร็วที่สุดแน่นอน”ร่างของอินชิงเสวียนหายวับ แล้วมาปรากฏอยู่ตรงหน้าผู้อาวุโสหันชายชราเจอตำหนักจินหวูได้อย่างไรนั้น อินชิงเสวียนไม่อยากถามให้มากความอีกแล้ว ในเมื่อเขามีวรยุทธ์ยอดเยี่ยมเช่นนี้ การจะถามตำแหน่งที่อยู่ของตัวเองจากขันทีหรือนางกำนัลนั้น ย่อมไม่ใช่เรื่องยากเลยแต่ว่า เหตุใดเขาถึงรู้เรื่องพวกนี้อินชิงเสวียนนึกสงสัยอยู่ครามครัน สีหน้าของผู้อาวุโสหันอ่อนลงชั่วขณะ รอยยิ้มปรากฏบนริมฝีปากอีกครั้ง“เจ้าพูดถูก ข้าไม่สังหารโดยไม่เลือกหน้าอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขความมีเหตุมีผลของเจ้า ผลลัพธ์จะดีหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าเลือกอย่างไร”อินชิงเสวียนสะกดอารมณ์ความโกรธแล้วถามว่า “ในเมื่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-12
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 974 เป็นแม่แล้วยิ่งแกร่งขึ้น

    อินชิงเสวียนรู้สึกว่าบริเวณอกถูกดันอย่างแรง รู้สึกเจ็บปวดไปทั้งทรวงอก หายใจลำบากเหงื่อกาฬหยดจากหัวลงมา นางเป็นเหมือนปลาใกล้ตาย หายใจเฮือกๆ อย่างเหนื่อยหอบ“ว่าอย่างไร เจ้าคิดได้แล้วหรือไม่”ผู้อาวุโสหันถามอย่างเนิบช้า อินชิงเสวียนกำนิ้วอย่างอดไม่ได้ นางควรทำอย่างไรดีนะหรือจะตามตาเฒ่าท่าทางแปลกๆ คนนี้ไปจริงๆ?เขาดูไม่ใช่คนดีชัดๆวรยุทธ์ของเขาแข็งแกร่งมากขนาดนี้ ต่อให้เย่จิ่งอวี้จะมาก็ไม่มีประโยชน์อะไร มีแต่จะเพิ่มจำนวนผู้เสียชีวิตเท่านั้นในใจยิ่งรู้สึกเสียใจมากขึ้น ถ้ารู้แต่แรก ไม่ว่าอย่างไรนางก็จะไม่นำน้ำพุวิญญาณออกมานางมองคนในโลกนี้เรียบง่ายเกินไป คิดเสมอว่าพวกเขาคงไม่เชื่อเรื่องลึกลับพิสดารเช่นนี้ แต่ยังมีคนที่รู้จักอยู่ด้วยความสิ้นหวังพลันปะทุขึ้นในใจของนาง จู่ๆ อินชิงเสวียนรู้สึกท้อแท้ทันทีดูเหมือนว่านางถูกกำหนดให้ไร้วาสนากับต้าโจว!ในเวลานี้ เสียงนุ่มนิ่มแบบเด็กๆ ของเสี่ยวหนานเฟิงดังมาจากด้านบน“เสด็จแม่ๆ ลูกอยากไปหาเสด็จแม่”หลังจากรอมาตั้งนาน เสด็จแม่ก็ไม่มาอุ้มตัวเองเสียที เสี่ยวหนานเฟิงก็เริ่มร้อนใจ เตะเท้าเล็กๆ อย่างกระสับกระส่ายเสียงของลูกชาย ทำให้อินช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-12
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 975 ผู้อาวุโสหันผู้สับปลับ

    “คิดจริงๆ หรือว่า อย่างเจ้าน่ะจะชิงตัวเด็กไปจากข้าได้?”ผู้อาวุโสหันค่อยๆ เงื้อฝ่ามือขวาที่ว่างขึ้นอย่างช้าๆ แสงสีม่วงเข้มก็เปล่งแสงออกมาจากนิ้วทั้งห้า“วันนี้ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็น ว่าอะไรคือวิทยายุทธ์ที่แท้จริงของตำหนักเทพ”อินชิงเสวียนเคยเห็นแสงสีม่วงแบบนี้จากมือของฮั่วเทียนเฉิงมาก่อนแล้ว แต่มันก็ไม่ได้เข้มข้นเท่ากับชายชราที่อยู่ตรงหน้า และแสงสีม่วงที่นางเชี่ยวชาญนั้น ยังห่างชั้นกับทั้งสองคนมากนับตั้งแต่กลับมาที่เมืองหลวงก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับสำนักศึกษาหลวงและโรงเรียนสอนการต่อสู้ อินชิงเสวียนยังไม่มีเวลาตั้งใจศึกษาวิทยายุทธ์ที่ตัวเองช่วงชิงมาได้เลยนางคิดเสมอมาว่าตัวเองออกจากยุทธภพแล้ว ก็จะอยู่ห่างจากข้อพิพาททุกประเภทในยุทธภพ ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าทำไม เหล่าจอมยุทธ์ในสมัยโบราณถึงพูดว่าเมื่อเข้าวงการยุทธภพแล้วออกยาก จากนี้ไปความสงบสุขกลายเป็นอื่นนางไม่ต้องการก้าวเข้าสู่ยุทธภพ แต่ยุทธภพอาจไม่ปล่อยนางไป!ความรู้สึกหายใจไม่ออกในตอนนั้นกลับมาอีกครั้ง อินชิงเสวียนต้องสูดหายใจเข้าลึกๆ นางกัดฟันพูดว่า “ดี เช่นนั้นผู้เยาว์ต้องขอคำชี้แนะแล้ว!”นางเรียกมิตินั้น ต้องการนำพิณการเวกที่เจ้าสำน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-12
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 976 ตัดสินชี้ขาด

    ตำหนักจินหวูอินชิงเสวียนนั่งอยู่บนพื้นอย่างซึมเซา ดวงตาทั้งคู่มองจับไปยังตั่งผ้าที่วางอยู่บนพื้น จิตใจว่างเปล่านางไม่เข้าใจว่าทำไมสวรรค์ถึงทำเช่นนี้กับนาง ในวันที่นางได้รับแต่งตั้งขึ้นเป็นฮองเฮา ลูกชายของนางกลับถูกคนพรากไป!นางจะอธิบายกับเจ้าของร่างเดิมว่าอย่างไร แล้วจะอธิบายกับจิ่งอวี้อย่างไรนางอยากจะร้องไห้ แต่สติสัมปชัญญะบอกนางว่า อย่าร้องไห้ เพราะการร้องไห้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ไม่ว่าอย่างไรนางก็จะเอาเสี่ยวหนานเฟิงกลับคืนมาให้ได้“เฮ้ย ทำไมข้าถึงเผลอหลับไปได้ เกี้ยวพระที่นั่งมาถึงแล้ว ข้าต้องรีบไปตามเจ้านายก่อน”เสียงของอวิ๋นฉ่ายดังมาจากด้านนอก ดูเหมือนว่าจะถูกตาเฒ่าประหลาดนั่นจี้สกัดจุดอินชิงเสวียนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แต่แล้วก็รู้สึกตัวในทันที รีบยกเก้าอี้ขึ้น เช็ดเลือดออกจากมุมปากอย่างรวดเร็วนางทนต่อความเจ็บปวดสาหัสที่หน้าอก นั่งลงบนเก้าอี้นวมยาวด้านข้างอวิ๋นฉ่ายวิ่งเข้ามาจากข้างนอก นางเต็มไปด้วยความสุขความยินดี มองไม่เห็นความผิดปกติของอินชิงเสวียน ขมวดคิ้วและพูดว่า “นายหญิง เกี้ยวพระที่นั่งมาแล้ว งานเลี้ยงในวังน่าจะพร้อมแล้ว หม่อมฉันจะช่วยนายหญิงผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-12
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 977 แบกรับเพียงลำพัง

    อวิ๋นฉ่ายร้องไห้ออกมาแล้ว นางเข้าจวนมาตั้งแต่อายุหกขวบ ไม่เคยทิ้งเจ้านายไปไหนเลย ยามนี้ จู่ๆ เจ้านายก็จะไล่นางออกไป แล้วจะให้นางไปอยู่ที่ไหนนางสั่นศีรษะแรงๆ“หม่อมฉันไม่ไป ไม่ว่านายหญิงจะไปไหน หม่อมฉันก็จะไปกับท่าน”เสี่ยวอานจื่อโขกศีรษะซ้ำๆ“พระนางก็ทราบมานานแล้วว่ากระหม่อมไร้ญาติขาดมิตร ออกจากวังก็ไม่มีที่พึ่ง คราวนี้ ไม่ว่าอย่างไรกระหม่อมก็จะติดตามพระนางไปให้ได้”จังอวี้จิ่นไม่ได้พูดอะไร แต่คุกเข่าร้องไห้อย่างเงียบๆ เมื่อมองดูหยาดน้ำตาเม็ดโตเท่าเม็ดถั่วเขียวเหล่านั้น อินชิงเสวียนย่อมรู้สึกไม่สบายใจอยู่แล้วแต่ว่า ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิมนางไม่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเย่จิ่งอวี้ได้อีกต่อไปเย่จั้นออกจากเมืองหลวงแล้ว ไม่มีใครสามารถดำรงตำแหน่งฮ่องเต้แทนเย่จิ่งอวี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น นี่คือชะตากรรมของเย่จิ่งอวี้หากเขาไม่ใช่เพราะตัวเองมาที่รัชสมัยนี้ จับพลัดจับผลูทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้น คงไม่ทำให้เขาเข้าไปพัวพันกับเป่ยไห่เพราะพิณการเวกอย่างแน่นอนบัดนี้ เขาควรกลับคืนสู่วิถีชีวิตของตัวเองทุกอย่างเกิดขึ้นก็เพราะน้ำพุวิญญาณ คราวนี้ นางจะแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยกำลังความสา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-12
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 978 มีคุณสมบัติที่จะอยู่ครองคู่กับนางไปตลอดชีวิต

    “สิ่งที่ควรพูดข้าก็ได้ชี้แจงชัดเจนแล้ว พวกเจ้าออกจากวังตอนนี้เถอะ ข้าจะไปที่สวนบุปผาหลวง งานเลี้ยงวันนี้จัดขึ้นเพื่อข้า ในงานขาดข้าไม่ได้”หลังจากที่อินชิงเสวียนพูดจบก็ลุกขึ้นยืน มีความเจ็บปวดรวดร้าวในอกก็เกิดขึ้นอีกครั้ง นางต้องรีบเข้าไปในมิติ ดื่มน้ำพุวิญญาณบรรเทาอาการทั้งสี่มองไปที่อินชิงเสวียนอีกครั้ง แววตาเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ในความคิดของพวกเขา เจ้านายก็เปรียบเสมือนพ่อแม่คนที่สอง ถึงขั้นใกล้ชิดกว่าพ่อแม่ด้วยซ้ำ และครั้งนี้ มันแตกต่างไปจากครั้งที่แล้วอย่างเห็นได้ชัดเกรงว่าพระนางคงไม่คิดที่จะกลับมาอีก!นอกจากอวิ๋นฉ่ายผู้ไร้เดียงสาแล้ว อีกสามคนที่เหลือต่างรู้สึกอยู่รางๆ ว่าพระนางต้องเผชิญกับเรื่องร้ายแรงมาแน่ๆ ไม่เช่นนั้นนางจะไม่มีวันตัดสินใจเช่นนั้นก่อนที่พวกเขาจะได้พูดอะไร อินชิงเสวียนโบกแขนเสื้อ ทั้งสี่คนก็ลอยออกจากประตูอย่างควบคุมไม่ได้ทันที ในวินาทีต่อมา ประตูก็ปิดลงเมื่อมองไปยังประตูที่ปิดอยู่ น้ำตาของยายหลี่ที่นางกลั้นไว้มานานก็ไหลลงมาทันทีนางคุกเข่าลงกับพื้น โขกศีรษะไปทางประตูสามครั้ง“ไม่ว่าภายหน้าพระนางจะไปไหน โปรดรำลึกไว้เสมอ ว่าในเมืองหลวงยังมีพวกเรารอท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-13

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status