Home / โรแมนติก / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 892 พบการฝังโลหิตอีกครั้ง

Share

บทที่ 892 พบการฝังโลหิตอีกครั้ง

Author: ม่อเยี่ยน
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
ร่างอันหล่อเหลานั้นรวดเร็วราวกับสายฟ้า เพียงพริบตาเดียวก็ตีแตกรูปแบบค่ายกลของตำแหน่งฟ้า

ดังคำกล่าวที่ว่าดึงจุดเดียวกันก็สั่นสะเทือนไปทั้งหมด การถูกตีพ่ายของตำแหน่งฟ้ามีผลกระทบไปยังตำแหน่งค่ายกลอื่นๆ การส่งผลกระทบกันเป็นทอดๆ ของค่ายกล ทำให้มันสูญหายไปในทันที

เจ้าสำนักเซี่ยวและคนอื่นๆ รู้สึกเห็นภาพตรงหน้าชัดเจนขึ้น ภาพมายาตรงหน้าก็หายไปด้วยเช่นกัน

ระหว่างที่ตกตะลึง ชายชุดดำที่ปิดบังหน้าตาก็เดินเข้ามาใกล้

“ตามข้ามา ข้าจะพาพวกท่านไปตามหาหัวใจค่ายกล”

เสียงของผู้พูดเบามาก และเป็นการยากที่จะบอกอายุของเขาได้เวลาอันสั้น แต่มั่นใจว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชาย

เจ้าสำนักเซี่ยวรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมา ประสานมือคำนับแล้วพูดว่า “ขอบคุณท่านอัศวิน หากชนะสงครามในครั้งนี้ ข้าจะจัดงานเลี้ยงสุราที่หอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ และดื่มกับท่านอัศวินให้สาแก่ใจเลย”

“ไม่ต้องพูดจาเกรงใจหรอกขอรับ รีบทำลายค่ายกลเถอะ”

ก้าวเดินของชายคนนั้นเป็นอิสระและสง่างาม และท่าทางของเขาแข็งแกร่งราวกับมังกรแหวกว่าย

เจ้าสำนักเซี่ยวนำคนตามไป ตรงไปยังสองแห่งของหัวใจค่ายกล

ภาพมายาทางด้านของเย่จิ่งอวี้ก็หายไปเช่นกัน ยังนึกว่าวิธีการ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 893 บาดเจ็บทั้งสองฝ่าย

    เพื่อไม่ให้เขาเห็นเลือดมากเกินไปจนไม่อาจควบคุมสติได้ ชายชุดดำจึงตะโกนขึ้นทันที“อยากตามหาอินชิงเสวียนก็ตามข้ามา”เมื่อได้ยินคำว่า “อินชิงเสวียน” สีหน้าของเย่จิ่งอวี้ก็สดใสขึ้นเล็กน้อยถามเสียงแข็งว่า “ท่านคือผู้ใด?” “ผู้ที่พาพวกเจ้าไปทำลายค่ายกล หากเข้าเชื่อข้าก็ตามมา”ชายชุดดำพูดจบก็เดินต่อไปอย่างไม่รีรอ เย่จิ่งอวี้จึงถือดาบตามไปทันทีทั้งสองต่อสู้กับศัตรูตลอดทาง แต่ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของอินชิงเสวียนความตื่นตระหนกทำให้เย่จิ่งอวี้กระสับกระส่ายในหัวใจ ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายสีแดงอีกครั้งสายตาของชายชุดดำก็กังวลมากยิ่งขึ้น เมื่อเย่จิ่งอวี้สูญเสียการควบคุม ก็จะทำให้ถูกการฝังโลหิตควบคุมโดยสิ้นเชิง และตกอยู่ในภาวะบ้าคลั่งเพียงแต่น่าเสียดายที่เป็นอาคมต้องห้ามของเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง แม้ว่าเฮ่อฉางเฟิงเป็นพ่อลูกกับเจ้าเมือง แต่ก็ไม่สามารถแก้อาคมนี้ได้“รักษาจิตใจให้สงบ รักษาจิตวิญญาณให้เข้มแข็ง หากเจ้ากลายเป็นคนเสียสติ เจ้าจะไม่รู้จักกับภรรยาของเจ้าอีกเลย”เสียงที่ทุ้มต่ำราวกับน้ำวิสุทธิ์ ทำให้จิตใจของเย่จิ่งอวี้สดใสขึ้นทันทีเมื่อเห็นคราบเลือดบนร่างกาย เขาก็รู้สึกคล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 894 รักษาชีวิตไว้ก่อน

    เสียงอยู่ใกล้มาก ทำให้โมริตะคาวาสึบาเมะเปลี่ยนสีหน้าทันทีหากมีคนเข้ามาช่วยเหลือ ตัวเองต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยต้องรีบหนีออกไปจากที่นี่เขาพยายามรวบรวมกำลังภายในแล้วกลิ้งตัวคลานเข้าไปในโขดหินที่อยู่ข้างๆเสียงของเย่จิ่งอวี้มาถึงตรงหน้าเขาแล้ว“เสวียนเอ๋อร์ เจ้าอยู่ที่ใด?” ขณะที่เขากำลังจะออกไปจากที่นี่ ทันใดนั้นเขาก็เห็นเสื้อผ้าสีชมพูชิ้นหนึ่งโผล่มาจากด้านหลังก้อนหินขนาดใหญ่เขารู้ว่าอินชิงเสวียนสวมชุดกระโปรงพับกลีบสีขาว ต้องเป็นลูกศิษย์ของสำนักอื่นที่ถูกทำร้ายแน่นอนพวกนางเดินทางหลายพันลี้เพื่อมาที่นี่ จึงไม่สามารถทิ้งร่างไว้ข้างนอกได้เขาจึงจึงรีบเดินไปด้านหลังหินก้อนใหญ่ทันที เย่จิ่งอวี้รีบเร่งฝีเท้า เวลาเพียงไม่นานเขาก็มายืนอยู่ด้านหน้าก้อนหินขนาดใหญ่เมื่อเห็นหญิงสาวที่นอนสยายผมอยู่บนพื้น เย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกว่าหัวใจถูกโจมตีอย่างรุนแรง สองขาอ่อนแรงลง และคุกเข่าลงบนพื้นเขายื่นมือที่สั่นเทิ้มออกไป และกอดหญิงสาวที่ไร้ซึ่งชีวิตชีวาไว้ในอ้อมอกเขาตะโกนร้องออกมาอย่างไม่เชื่อ “เสวียนเอ๋อร์ นี่เจ้าใช่ไหม?” สิ่งที่ตอบเขาเป็นเพียงเสียงลมที่ดังก้องอยู่ในหูอินช

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 895 อินชิงเสวียน เจ้ายอมแพ้ไม่ได้นะ

    วินาทีที่ฝาขวดถูกเปิดออก เฮ่อฉางเฟิงรู้สึกได้ถึงความแตกต่าง จึงเหลือบมองเย่จิ่งหลานอย่างอดไม่ได้หรือว่าพวกเขาสามารถดื่มน้ำชนิดนี้ได้หมดทุกคน?ระหว่างที่ครุ่นคิด เย่จิ่งหลานได้จับใต้คางของอินชิงเสวียน และพยายามป้อนให้นางดื่มลงไปปากของพูดราวกับกำลังโกรธว่า “อินชิงเสวียน เจ้าจะกลับไปเช่นนี้งั้นหรือ ข้าจะเกลียดเจ้าไปทั้งชาติ ไม่สิ สิบชาติเลย!”อินชิงเสวียนขบฟันไว้แน่น น้ำส่วนใหญ่รั่วไหลออกมา เย่จิ่งหลานจึงร้อนใจอย่างอดไม่ได้“อินชิงเสวียน เจ้ายอมแพ้ไม่ได้นะ”เขาใช้ความพยายามเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยและในที่สุดก็ดื่มไปได้บางส่วนจากนั้นก็เปิดอีกขวดหนึ่ง และป้อนให้เย่จิ่งอวี้ด้วยวิธีที่คล้ายกันขณะเดียวกันนั้นเอง เสียงที่รีบร้อนก็ดังขึ้นด้านหลัง“น้องใหญ่!”อินสิงอวิ๋นรีบวิ่งเข้ามาแต่ไกลเมื่อรู้ว่าชาวตงหลิวเหยียบเข้ามาบนเกาะ อินสิงอวิ๋นก็รีบรุดเข้าฝั่งเพื่อให้ความช่วยเหลือ น่าเสียดายที่มีชาวตงหลิวมากเกินไปในสนามรบ จึงไม่ได้มารวมตัวกับอินชิงเสวียนตั้งแต่แรกคิดในใจว่าทุกที่ล้วนเต็มไปด้วยศัตรู จึงอยู่ด้านนอกวงล้อมกับลูกศิษย์สำนักอื่นๆเมื่อชาวตงหลิวเหล่านั้นถูกฆ่าตายไ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 896 ฆ่าสังหาร

    ขุนศึกถามอีกว่า “พวกเราไม่ตามหาท่านอ๋องน้อยแล้วหรือ?” ทันใดนั้นท่านอ๋องโมริตะก็นึกขึ้นได้ว่า โมริตะคาวาสึบาเมะบอกว่าเขาเป็นบรรพบุรุษของตัวเอง ยังสั่งให้เขาทำตามคำสั่งทุกอย่าง แววตาจึงเยือกเย็นลงทันที“ไม่ต้องตามหาหรอก เขามีวิทยายุทธ์สูงส่ง เจ้าปัญญา จะต้องหาทางหลีกหนีจากอันตรายได้แน่นอน”ทุกคนต่างพยักหน้าในทันที“ขอรับ”โมริตะคาวาสึบาเมะเหลือบมองดูผิวน้ำทะเลที่วาบวับและพูดเสียงเข้มว่า “เราคงใช้เส้นทางทางน้ำไม่ได้แล้ว พวกเราจะใช้เส้นทางเมืองเติงหลง”“คิดหนี ฝันไปเถอะ”เสียงของผู้อาวุโสสวีลอยมาเหนือศีรษะ ท่านอ๋องโมริตะรู้สึกถึงแสงเย็นๆ วูบวาบบนหัว และเส้นผมก็ตั้งขึ้นทันทีเขาก้าวไปด้านข้างโดยไม่ได้คาดคิดว่าดาบยาวของผู้อาวุโสสวีจะผ่าลงบนก้อนหิน ได้ยินเพียงแครกดังลั่น ก้อนหินถูกแยกออกเป็นสองชิ้นจากนั้นก็มีลูกศิษย์ของสำนักตามมาอีกยี่สิบกว่าคน ล้อมรอบท่านอ๋องโมริตะและขุนศึกทั้งสี่เอาไว้เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ท่านอ๋องโมริตะก็รู้สึกกลัวอย่างอดไม่ได้ สงครามครั้งนี้นอกจากคนชราเด็กและผู้หญิง ชาวตงหลิวก็ออกมาทำสงครามกันแทบทั้งหมด หากไม่สามารถยึดกุมเป่ยไห่ได้ เช่นนั

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 897 หากนางไม่อยู่ ทุกสิ่งคงไร้ซึ่งความหมาย

    เจ้าสำนักเซี่ยวเดินหน้าหนึ่งก้าว และจับชีพจรของเย่จิ่งอวี้ชายชุดดำที่กลับมาก่อนหน้าบอกเขาว่า เย่จิ่งอวี้มีอารมณ์ที่ตื่นเต้นมากเกินไป ทำให้การฝังโลหิตกำเริบขึ้นมา เขาได้สะกดจุดฝังเข็มของเขาไว้ หากฟื้นขึ้นมาก็จะไม่เป็นอะไรเด็กสาวอินกลับมีปัญหาเล็กน้อยเจ้าสำนักเซี่ยวตรวจชีพจรของเย่จิ่งอวี้อีกครั้ง การเต้นของชีพจรยังมีพลัง ลมปราณในร่างกายยังคงหมุนเวียนดี ซึ่งไม่มีสิ่งใดน่าเป็นเป็นห่วงแล้วจากนั้นก็ยื่นมือไปตรวจอินชิงเสวียนทันทีกำลังภายในเข้าไปในร่างกายของอินชิงเสวียนตามปลายนิ้ว ราวกับก้อนหินที่จมลงในทะเลโดยไม่มีคลื่นใดๆนี่มันคืออะไรกัน? อินชิงเสวียนได้ฝึกฝนกำลังภายในแล้ว ไม่ควรมีผลลัพธ์เช่นนี้เจ้าสำนักเซี่ยวพยายามเคลื่อนกำลังภายใน เพื่อส่งเข้าไปในร่างกายของอินชิงเสวียน ผมของทั้งคู่ถูกปลุกเร้าด้วยพลังอันแข็งแกร่ง เพียงครู่หนึ่ง ก็กลับสู่สภาวะนิ่งเงียบไม่ตอบสนองโลกภายนอกอีกครั้งเจ้าสำนักเซี่ยวชักมือกลับ คิ้วขาวโพลนขมวดเข้าด้วยกันผู้คุมตราเซี่ยวรีบถามว่า “ท่านพ่อ พวกเขาเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?” เจ้าสำนักเซี่ยวพูดเสียงเข้มว่า “อาอวี้ไม่เป็นไร เสวียนเอ๋อร์กลับมีควา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 898 นางคือใคร

    “อวี้เอ๋อร์!”ผู้คุมตราเซี่ยวตกใจมาก และกอดลูกชายไว้ในอ้อมอก“อาอวี้!”เจ้าสำนักเซี่ยวก็เดินไปที่เตียงด้วยความรวดเร็ว ยื่นนิ้วไปจิ้มจุดฝังเข็มสำคัญของเย่จิ่งอวี้อย่างนับไม่ถ้วนอินสิงอวิ๋นรีบถาม“เจ้าสำนักเซี่ยว คุณชายเย่และน้องใหญ่... เป็นอย่างไรบ้างขอรับ?” เจ้าสำนักเซี่ยววางเย่จิ่งอวี้ลงบนเตียง ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “อาอวี้ไม่เป็นอะไร ข้าจะหาหนทางอื่นในการรักษาเสวียนเอ๋อร์ พวกเจ้าไม่ต้องร้อนใจไป ออกไปก่อนเถอะ”ทันทีที่พูดจบ ประตูก็ถูกเปิดออกมาเสียงดังปัง เย่จิ่งหลานวิ่งหายใจหอบมาจากด้านนอก“ข้ายังพอมีน้ำพุยาอยู่บ้าง ให้พวกเขาทั้งสองดื่มอีกหน่อยเถอะ”ผู้คุมตราเซี่ยวรีบพยักหน้า“ได้สิ จิ่งหลาน เจ้าบาดเจ็บหรือไม่?” “ขอบพระทัยไท่เฟยที่เป็นห่วง จิ่งหลานสบายดี”เดิมทีเย่จิ่งหลานควรกลับมาพร้อมกับเจ้าสำนักเซี่ยว ระหว่างทางกลับพบกับพวกผีแคระที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เย่จิ่งหลานจัดการพวกเขาเหล่านั้นเสร็จก็รีบกลับมาด้วยความร้อนใจทันทีตอนแรกเขาคิดว่าจะเห็นภาพพวกเขาทั้งสองคนฟื้นขึ้นมาแล้ว ตอนนี้จึรู้สึกหดหู่ใจมากผู้คุมตราเซี่ยวสูดจมูกแล้วพูดว่า “อวี้เอ๋อร์ไม่เป็นอะไรมา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 899 ที่แท้ก็ไอ้เวรนั่น

    เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมา ก็ไม่อาจลบล้างได้ลงอินชิงเสวียนจ้องมองเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าด้วยความสงสัย เมื่อทั้งสองกินข้าวเสร็จ อินชิงเสวียนก็ตามสาวน้อยผมเปียหางม้ามายังป้ายรถเมล์ขณะนั้นเอง หนุ่มหล่อขี่รถมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้า สวมชุดคนส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองมาหยุดที่ป้ายรถเมล์และทักทายเธอด้วยรอยยิ้ม“จะไปทำงานใช่ไหม? ผมไปส่งคุณเอง”“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมาก”สาวน้อยปฏิเสธด้วยท่าทางเงียบสงบเมื่อมอเห็นใบหน้าของชายหนุ่มอย่างชัดเจน อินชิงเสวียนก็ต้องตกใจอีกครั้งนางรู้จักผู้ชายคนนี้ เขาคือเฉียวฉู่ฉือ คุณชายสามของบริษัทจงฮุ่ยประจำเมืองนี้ ตอนที่นางสัมภาษณ์งานครั้งแรก นางไปที่บริษัทนี้พอดีตอนนั้นผู้สัมภาษณ์คือเฉียวฉู่ฉือ อินชิงเสวียนไม่มีวันลืมชุดสูทและเนคไทของเขา ด้วยท่าทางที่เย็นชาและเคร่งขรึมบนใบหน้าของเขา ราวกับว่าการปรากฏตัวของเขา ทำให้ความกดอากาศรอบตัวเขาลดลงเล็กน้อยด้วยความคาดไม่ถึง เพราะอินชิงเสวียนที่ยังไม่มีประสบการณ์การทำงาน จึงถูกไล่ปัดทิ้งทันที ตอนที่ออกมายังพูดแขวะเฉียวฉู่ฉือว่าเขาหน้าตาเหมือนคนอมทุกข์ กล้ามเนื้อใบหน้าต้องเป็นเนื้อตายหมดแน่ๆวันนี้กลับเห็นเขาเผย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 900 ขอบคุณเธอที่ช่วยอาศัยอยู่ในยุคนี้แทนฉัน

    เมื่อเดินวนดูทีละห้อง ในที่สุดอินชิงเสวียนก็ได้รู้ว่าที่นี่คือฐานปฏิบัติการของนักไลฟ์ งานของสาวน้อยไม่ได้แย่ แต่ยังเคร่งขรึมและสง่างามมากเธอสวมชุดสไตล์โบราณสีชมพู เธอปัดคิ้วจางๆ มีลูกปัดเล็กๆ ปักบนมวยผมสวยของเธอ การเคลื่อนไหวของเธอเต็มไปด้วยเสน่ห์แบบโบราณเสียงเพลงพิณดังออกมาจากปลายนิ้วเรียว ของขวัญบนหน้าจอก็ขึ้นอยู่ทุกหนทุกแห่งในทันที และจรวดและเรือก็บินไปด้วยกัน มันบ้าไปแล้วจริงๆอินชิงเสวียนรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย แต่ก็ยิ่งมั่นใจขึ้นว่า วิญญาณที่อยู่ในร่างนี้ก็คือเจ้าของร่างเดิมเทวดาให้พวกเธอข้ามมิติสลับร่างกัน! เมื่อนึกถึงความเศร้าโศกของเจ้าของร่างเดิมท่ามกลางวังเย็น อินชิงเสวียนก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ การมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ บางทีอาจเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเธอเธอยังอายุไม่มาก หากตกใจกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อจริงๆ เช่นนั้นคงน่าเสียดายอย่างแท้จริงเพียงแต่จะสื่อสารกันอย่างไร? สัมผัสเธอก็ไม่ตอบสนอง เรียกเธอก็ไม่ได้ยิน เมื่อคิดอยู่นานสองนาน สุดท้ายก็ตัดสินใจกลับบ้านไปดูคุณย่านอนหลับไปแล้ว บนเก้าอี้มีกระโปรงดอกไม้แสนสวยวางอยู่ตัวหนึ่ง และยังมีป้ายใหม่แขวนอยู่ คงเป็นกระโปรงที่สาว

Latest chapter

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1467 ฉันอยากกลับไป

    อินชิงเสวียนดึงมือออก“คุณจำคนผิดแล้ว ฉันไม่ใช่เพื่อนบ้านเดียวกันของคุณ แต่เป็นลูกสาวของแม่ทัพแห่งต้าโจว อินชิงเสวียน!”“คุณ คือเจ้าของร่างเดิมของอินชิงเสวียน?”เย่จิ่งหลานมองเธอขึ้นๆ ลงๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ รูปร่างเหมือนกันทุกประการ แต่หากสังเกตให้ดี จะเห็นได้ว่าเพื่อนบ้านเดียวกันของเขามีพลังความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ ส่วนผู้หญิงตรงหน้าเขาดูอ่อนโยนและอ่อนแอกว่ามากในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้ด้วยว่าทำไมเขาถึงดูคุ้นตากับเด็กน้อยคนนี้ ตอนที่ตัวเองเพิ่งข้ามภพไปยังต้าโจว เขาก็มีรูปร่างหน้าตาลักษณะเหมือนแบบนี้เลยความทรงจำก็เหมือนกับคลื่นทะเล เป็นคลื่นที่ซัดมาระลอกแล้วระลอกเล่า ในที่สุดเย่จิ่งหลานก็ค่อยๆ จำทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในต้าโจวได้ทุกคนช่วยกันต่อต้านชิงฮุยในหุบเขาเชื่อมเมฆา แต่แล้วเขาก็กลับมาในเวลานี้ และกลับมาโดยที่ร่างกายสมบูรณ์ครบถ้วนเมื่อนึกถึงความชั่วร้ายและความเจ้าเล่ห์เพทุบายของชิงฮุย เย่จิ่งหลานก็รู้สึกสับสนอย่างอธิบายไม่ถูก“หรือว่าผมข้ามภพมาได้เพราะป้ายตราคำสั่งนี้ ผมต้องรีบกลับไปโดยเร็วที่สุด”เมื่อเห็นท่าทางกังวลอย่างกะทันหันของเย่จิ่งหลาน อินชิงเสวียนก็ตระหนัก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1466 ความปรารถนาในใจสำเร็จแล้ว

    ไม่ว่าซูเยี่ยจะจำอดีตกับเขาหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่สำคัญสำหรับเย่จิ่งหลานอีกต่อไปแล้วสวรรค์ทำให้เขาได้เจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง อาจเป็นเพราะต้องการให้เขาได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของซูเยี่ย ผู้หญิงประเภทนี้ จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องให้เขาเสียเวลาด้วยซ้ำเขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบแปดปี อนาคตยังอีกยาวไกล ซูเยี่ยเป็นเพียบใบไหม้ที่ร่วงไปจากชีวิตของเขา ไม่มีความสำคัญอะไรเลยเย่จิ่งหลานกระตุกมุมปากขึ้นยิ้ม ค่อยๆ รู้สึกปลอดโปร่งใจเขาเดินออกจากสวนสาธารณะอย่างช้าๆ และทันใดนั้นก็มีอีกคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาใบหน้านี้ไม่ใช่หน้าตาเดิมของเขา ใครเป็นคนทำศัลยกรรมให้เขา?พลังในร่างกาย มาจากไหนกันแน่แล้วผู้หญิงที่อยู่ในหัวของเขา เป็นใครกันแน่หรือว่าเขาฝึกฝนจนสำเร็จเคล็ดวิชาลับบางอย่าง และผู้หญิงคนนั้นคือแก่นวิญญาณของเขา?เย่จิ่งหลานดึงขอบเอวกางเกงของเขาโดยไม่รู้ตัว ไอ้นั่นยังคงอยู่ตรงนั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงคิดว่าตัวเองฝึกฝนวิชาจนกลายเป็นตงฟางปุ๊ป้ายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรแล้วแต่การมีสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร เอามาใช้กินใช้ดื่มไม่ได้ ตอนนี้ท้องของเขาร้องโครกคราก แต่ไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าเลยขณะที่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1459 เรื่องด่วน

    “ไม่ ข้าไม่เคยสงสัยเจ้าเลย ข้าแค่คิดว่า เจ้าและชิงฮุยอาจไม่ได้เป็นแค่ราชาแคว้นกับขุนนางธรรมดาแบบนั้น”อินชิงเสวียนหยุดชั่วคราวและพูดว่า “แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจหลักการวิทยายุทธ์ของแคว้นเฟยเหยา แต่รู้ว่าวิทยายุทธ์แบบเดียวกันนั้นมักจะมีรากเหง้าเดียวกันที่สามารถใช้ค้นหาร่องรอยได้ หากเจ้าใช้ความพยายาม ก็ไม่น่าจะยากที่จะพบตัวชิงฮุย แต่ว่า ที่ข้ามาที่นี่ก็ไม่มามาถามเรื่องเขาทั้งหมด”“โอ้?”ลั่วสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังอินชิงเสวียน“ข้าอยากรู้ หากแก่นวิญญาณของเจ้าและแก่นวิญญาณของชิงฮุยมาพบกันในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน จะเกิดผลที่ตามมาอย่างไร”“ไม่แน่ใจ”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ข้ามีลางสังหรณ์ว่าชิงฮุยอาจทำลายแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลาน ยึดร่างกายของเขา ดังนั้นจึงซ่อนแก่นวิญญาณของตัวเองไว้ในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน โดยใช้วิธีเข้าฝัน...”ลั่วสุ่ยชิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ตามหลักการปกติทั่วไป แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานอาจได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้สมองสดใสน้อยลง แต่ไม่ต้องการให้เขาหายตัวไปโดยสิ้นเชิง เมื่อข้าลองใช้วิธีการเข้าฝันอีกครั้ง แต่ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงลมปราณของเ

DMCA.com Protection Status