หน้าหลัก / โรแมนติก / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 784 เขาอดกลั้นไม่ได้อีกแล้ว

แชร์

บทที่ 784 เขาอดกลั้นไม่ได้อีกแล้ว

ผู้แต่ง: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ทันใดนั้น อินชิงเสวียนก็ถามด้วยความประหลาดใจว่า “เช่นนั้นวิชาสะกดเส้นลมปราณของท่าน สามารถทำลายได้หรือไม่?”

เย่จิ่งอวี้เลิกดวงตาและถามว่า “เจ้าอยากช่วยฟางรั่วฟื้นฟูวรยุทธ์งั้นหรือ?”

“ข้ามีความคิดเช่นนั้นจริงๆ ในเมื่อนางยินยอมที่จะติดตามข้าอย่างสุดจิตสุดใจ ข้าก็ไม่อยากทำลายความหวังดีของนาง ข้าจะใช้วิธีการของตัวเองเพื่อปลูกฝังนาง”

ขณะที่อินชิงเสวียนกำลังพูดนั้น ดวงตาก็สดใสเป็นประกาย ความมั่นใจอันแข็งแกร่งก็เล็ดลอดออกมาจากใบหน้าเล็กๆ ที่สวยงามนั้น และยังเต็มไปด้วยพลัง

“เสวียนเอ๋อร์จะปลูกฝังนางให้เป็นอะไร? นักฆ่า เริ่มการเป็นสายลับงั้นหรือ?”

เย่จิ่งอวี้สงสัยเล็กน้อย

อินชิงเสวียนเอียงศีรษะแล้วพูดว่า “ความลับเพคะ ข้ายังไม่บอกท่านในตอนนี้ ข้าไปเตรียมอาหารค่ำก่อนนะเพคะ!”

อินชิงเสวียนพูดจบก็ยกกระโปรงวิ่งออกไป

เย่จิ่งอวี้ยิ้มหวาน ยังเป็นแค่สาวน้อยจริงๆ ด้วย

แต่คำพูดนี้ออกมาจากปากของเย่จิ่งหลาน จึงดูแปลกไปหน่อย

จากนั้นก็หัวเราะอย่างไม่มีเสียง คงเป็นเพราะทั้งสองคนสนิทสนมกันมาก อาหลานมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ก็เป็นสิ่งที่เขายินดีจะเห็น

วันที่กลับเมืองหลวง เขาจะหาอาจารย์มาสอนเย
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 785 ไอ้เด็กนี่

    เจ้าสำนักเซี่ยวพูดออกมาหนึ่งประโยค จากนั้นก็ลอยตัวขึ้นไปบนหลังคาบ้านเขาถ่ายทอดความแข็งแกร่งภายในของเขาอย่างลับๆ และเสียงของเขาหนาทึบราวกับภูเขา เป็นเหมือนคลื่นยักษ์ที่สั่นไหวและไหลออกไปทุกทิศทาง“ไอ้สารเลวที่ปิดบังหน้าตา ตอนนี้ยังไม่กล้าแม้แต่จะปรากฏตัวใช่หรือไม่ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ยังไม่รีบไสหัวออกไปจากเป่ยไห่อีก หากเจ้ายังกล้าดื้อดึงหลงผิด ข้าจะหั่นร่างของเจ้าเป็นหมื่นชิ้นและบดให้เป็นผุยผง”กลางคืนที่เงียบสงบ ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับเจ้าสำนักเซี่ยวหรี่ตาลง เพิ่มประสาทสัมผัสของร่างกายให้มากที่สุดกลางดึก เขากระโดดเข้าไปในเรือน“กลับไปนอนเถอะ คนคนนั้นคงไม่อยู่แล้วล่ะ เขาเพียงต้องการใช้กลิ่นคาวเลือดในการกระตุ้นความคิดของเจ้า ตราบใดที่จิตใจของเจ้านิ่งสงบเหมือนน้ำ เขาก็สิงร่างของเจ้าไม่ได้หรอก”เย่จิ่งอวี้ยกมือขึ้นคารวะ และพูดเสียงเรียบว่า “เจ้าสำนักเซี่ยวก็รีบพักผ่อนเถอะขอรับ!”เจ้าสำนักเซี่ยวมองเขาแล้วพูดว่า “ไอ้เด็กนี่ ผ่านมานานขนาดนี้แล้วยังไม่เรียกข้าว่าท่านตาอีกหรือ?”เย่จิ่งอวี้ชะงักฝีเท้าในทันทีเมื่อย้อนนึกว่ามาเป่ยไห่หลายวันแล้ว เจ้าสำนักเซี่ยวดูแลเขาและอินชิงเส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 786 ความอับอายของต่งจื่ออวี๋

    “ต่งจื่ออวี๋ เจ้ากลับมาแล้วหรือ?”อินชิงเสวียนก็มีสีหน้าตื่นตระหนกใจและดีใจเช่นกันต่งจื่ออวี๋พยักหน้าพูดว่า “กลับมาแล้ว”ระหว่างที่พูดคุยกัน ทั้งสองก็เดินเข้ามาในเรือนแขนของเก่อหงยวนยังพันด้วยผ้าพันแผลอยู่“ข้ามาขอบคุณน้องเขยของท่าน”นางยกคางขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับแววตาที่เย่อหยิ่ง จากนั้นจึงชูปูที่อยู่ในมือขึ้นมา“ได้ยินว่าเขาชอบกินสิ่งนี้มาก จึงให้เหล่าศิษย์พี่ศิษย์น้องช่วยกันจับมาจำนวนหนึ่ง”อินชิงเสวียนไม่เคยมองเพียงสิ่งผิวเผินเหล่านี้ ไม่ว่าเก่อหงยวนจะทะนงตนมากเพียงใด แต่การช่วยชีวิตนางไว้คือเรื่องจริงนางเดินหน้าเข้าไปรับปู ยิ้มและพูดว่า “แม่นางเก่อเกรงใจแล้ว ข้ายังไม่ได้ขอบคุณแม่นางที่ช่วยชีวิตข้าในวันนั้น ข้าได้เตรียมสิ่งของเล็กน้อยมาให้แม่นางได้ใช้ด้วย แม่นางเก่อและจื่ออวี๋นั่งรอสักครู่นะ ข้าจะไปเรียกเย่จิ่งหลานมาเดี๋ยวนี้”“ไม่ต้องเกรงใจ ครั้งนี้แค่ออกมาสูดอากาศเท่านั้น บังเอิญเจอกับต่งจื่ออวี๋ จึงเดินมาด้วยกัน”เก่อหงยวนเอามือไพล่หลังข้างหนึ่ง ถือพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของยอดหญิงไว้แน่นอินชิงเสวียนเม้มปากหัวเราะ และมองไปที่ต่งจื่ออวี๋“ได้ข่าวของผู้อาว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 787 ยากจะเข้าใจ

    “หมายความว่าอย่างไร?”อินชิงเสวียนขมวดคิ้วถามต่งจื่ออวี๋พูดด้วยน้ำเสียงซื่อๆ ว่า “ในจดหมายบอกว่าเขาสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่เร้นลับและรู้จักกันไปทั่วยุทธจักร แต่ข้าสงสัยว่าเป็นเรื่องที่ปั้นขึ้นมา ข้าไปยังภูเขาหั่วเฟิงตามในจดหมาย ข้าเดินจนทั่วภูเขาแต่ก็ไม่พบร่องรอยของใครเลยสักคน”“หา? เช่นนั้นเจ้ารู้ข่าวมาจากที่ใด?”อินชิงเสวียนถามอีกครั้ง“มีคนทิ้งจดหมายของท่านอาจารย์ข้าไว้ แต่กลับไม่ใช่ลายมือของอาจารย์อาของข้า อาจเป็นเพียงแค่การกลั่นแกล้ง”เมื่อได้ฟังคำอธิบายของต่งจื่ออวี๋ อินชิงเสวียนก็รู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย“เจ้าสำนักเฮ่อมีความเห็นอย่างไรต่อเรื่องนี้?”ต่งจื่ออวี๋พูดว่า “นี่ก็คือความเห็นของท่านอาจารย์ข้า นับตั้งแต่ผู้อาวุโสหลี่ตายไป อาจารย์อาก็บ้าๆ บอๆ มาตลอด บางทีเขาอาจจะไปที่ไหนสักแห่งเพื่อรำลึกถึงอดีต”เมื่อคิดถึงวิธีการจัดการเรื่องต่างๆ ของลิ่นเซียว อินชิงเสวียนก็ไร้ซึ่งคำจะพูดเดิมทีคิดว่าหาตัวลิ่นเซียวพบแล้ว บางทีอาจได้ข่าวคราวของอินหลีบ้าง แต่ตอนนี้ก็ต้องดีใจเก้ออีกครั้งจู่ๆ นางก็หมดอารมณ์ที่จะถามต่อไป ในขณะนั้นเอง เย่จิ่งอวี้ก็อุ้มลูกเดินมาจากด้

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 788 หลักการอันยิ่งใหญ่เริ่มจากสิ่งเรียบง่ายที่สุด

    เย่จิ่งอวี้พูดปลอบใจว่า “วางใจเถอะนะ เสด็จอาไม่ใช่คนที่ไร้ซึ่งเหตุผล อีกทั้งนางหายตัวไปนานขนาดนั้น หากต้องการตามหาก็ไม่ต่างจากงมเข็มในมหาสมุทร ไม่ใช่เรื่องที่สามารถสืบหาได้ชั่วข้ามคืน”อินชิงเสวียนยิ้มอย่างทำอะไรไม่ได้“เป็นเช่นนั้นอย่างแท้จริงเพคะ ช่างเถอะ ไม่ต้องคิดเรื่องเหล่านี้แล้ว ข้าจะให้ฟางรั่วไปตามหาชางบ้านมาต่อเรือ อาอวี้ยังไม่บอกข้าเลยนะ ท่านสามารถปลดวิชาสะกดเส้นลมปราณได้หรือไม่?”การใช้ชีวิตในโลกยุทธภพ การสามารถอยู่ได้โดยไร้วิทยายุทธ์ แม้ฟางรั่วยินยอมที่จะติดตามนาง อินชิงเสวียนก็ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อนางเย่จิ่งอวี้รู้สึกเสียใจเล็กน้อย“ข้าปลดไม่เป็นหรอก ข้าจะช่วยถามท่านตาให้เสวียนเอ๋อร์นะ วิชาสะกดเส้นลมปราณก็เป็นหนึ่งในวิชาที่เลิศล้ำที่สุดของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ท่านตาเป็นเจ้าสำนัก เขาต้องเข้าใจมากกว่าข้าแน่นอน”อินชิงเสวียนเลิกดวงตาที่สดใสราวสายน้ำ และมองไปที่เย่จิ่งอวี้ด้วยใบหน้าที่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม“ข้าไม่ได้ฟังผิดไปใช่หรือไม่ อาอวี้เรียกว่าท่านตางั้นหรือ?”เย่จิ่งอวี้กระแอมไอแล้วพูดว่า “เจ้าสำนักเป็นผู้มีบุญคุณต่อท่านแม่ของ ยิ่งมีบุญคุณที่เลี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 789 การสร้างความสุขเพื่อไพร่ฟ้า ข้ายินดีที่จะทำ

    ฟางรั่วรับน้ำพุวิญญาณมาอย่างไม่ลังเล และดื่มหมดในครั้งเดียวจากนั้นก็ลุกขึ้นพูดว่า “ข้าน้อยจะไปปฏิบัติภารกิจเดี๋ยวนี้”นางเปิดประตูด้วยฝีเท้าที่โซเซ เดินออกไปอย่างล้มลุกคลุกคลานเย่จิ่งอวี้เหลือบมองอินชิงเสวียนและถามว่า “ท่าทางของนางจะไหวหรือไม่?”อินชิงเสวียนพูดอย่างราบเรียบว่า “นี่คือทางที่นางเลือกด้วยตัวเอง แม้ต้องร้องไห้ก็เดินให้ถึง”นี่ถือเป็นการฝึกฝนฟางรั่วในอีกรูปแบบหนึ่ง ผู้ที่กระทำการใหญ่ต้องเริ่มจากลำบากกายาเคี่ยวเข็ญถึงเอ็นกระดูก ให้อดทนอดอยากอาหาร นี่คือคำพูดที่โด่งดังชั่วกาลเส้นทางเมื่อวัยเยาว์ ฟางรั่วไม่มีสิทธิ์ได้เลือก วันนี้นางเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว นางควรจะรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตัวเองเย่จิ่งอวี้เลิกคิ้ว รู้สึกราวกับว่าภาวะจิตใจของเด็กสาวคนนี้เปลี่ยนไปอีกแล้ว นางมีพลังอำนาจมากยิ่งขึ้น ดวงตาที่เหมือนพระจันทร์เสี้ยวนั้นมั่นคงและกล้าหาญ ถือเป็นสตรีผู้ไม่ยอมเป็นรองบุรุษอย่างแท้จริงอินชิงเสวียนหันหน้ามา เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งอวี้ยิ้มตาหยีและมองมาที่ตัวเอง ก็ถามขึ้นด้วยรอยยิ้มอย่างอดไม่ได้ “เหตุใดท่านจึงมองข้าเช่นนี้?”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความจริงใจว่า “ข้า

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 790 ลูกของพี่สาวคนโต

    “พ่ะย่ะค่ะ”ท่านอ๋องโมริตะหมอบกราบลงบนพื้นทันที ร่างกายที่อวบอ้วนราวกับลูกบอลหนังขนาดใหญ่ น่าขันเป็นอย่างมากจักรพรรดิลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าอึมครึม และพูดเสียงเยือกเย็นว่า “นี่เป็นโอกาสครั้งสุดท้าย หากพวกเรายังทำได้ไม่ดี ข้าจะสังหารชาวตงหลิวกลุ่มแรกก่อน เพื่อลดแรงกดดันด้านอาหารที่น้อยลง ข้าจะเริ่มจากขุนนางอย่างพวกเจ้าก่อน และปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน!”เมื่อพูดจบ จักรพรรดิก็เดินเข้าไปในห้องโมริตะและคนอื่นๆ ต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน ทำได้เพียงเดินออกไปจากวังหลวงเมื่อมาถึงด้านนอก ทั้งสามก็พูดเรื่องน่าเบื่อหน่าย“ไม่ใช่ว่าใช้ทางอ้อมไม่ได้ แต่การเดินทางทางทะเลในระยะไกล จำเป็นต้องใช้กำลังทหารจำนวนมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”“แต่ยังดีกว่าการที่พวกเราถูกเชือด”ท่านอ๋องโมริตะลูบเคราบางของเขา และพูดเสียงโหดเหี้ยมว่า “ครั้งนี้ไมจำเป็นต้องใช้กองทหารขนาดใหญ่ ตามหาทหารที่เชี่ยวชาญทางน้ำ และคัดเลือกชาวตงหลิวที่มีรูปร่างคล้ายชาวดินแดนจงหยวนเพื่อลักลอบเข้าไป เป้าหมายของพวกเราคือพิณการเวก ตราบใดที่สามารถทำลายพิณนี้ได้ สงครามครั้งนี้ก็มีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะได้รับชัยชนะ”ขณะนั

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 791 ภาวะแท้ง

    ในขณะที่เฟิงเอ้อร์เหนียงจากไป อินสิงอวิ๋นก็พาหัวหน้าหมอหลวงเหลียงเร่งรุดกลับมายังจวนแม่ทัพสิบห้านาทีก่อนหน้า จู่ๆ เป่าเล่อเอ่อร์ก็ปวดท้องอย่างรุนแรง อินปู้อวี่ไปตามหมอถึงสองคน และทั้งสองก็บอกว่ามีภาวะแท้งคุกคาม ทำให้ซูหมิงหลานลนลานจนมือไม้พันกันไปหมดนี่เป็นหลานคนแรกของตระกูลอิน ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามเป็นอะไรเด็ดขาด จึงให้อินสิงอวิ๋นไปหาหมอหลวงเหลียงโดยรวดเร็วเมื่อเห็นใบหน้าของเป่าเล่อเอ่อร์ที่ซีดลงด้วยความเจ็บปวด อินสิงอวิ๋นก็เร่งร้อนขี่ม้าเข้าไปในวังหลวงทันทีหลังจากที่เย่จั้นทราบเรื่อง ก็ให้หมอหลวงเหลียงออกจากวังไปตรวจรักษาทันที ทั้งสองจึงเร่งรุดจนมาถึงตระกูลอิน ในขณะที่เป่าเล่อเอ่อร์ก็เกือบจะเป็นลมหมดสติหมอหลวงเหลียงรีบหยิบกล่องยาออกมา แล้วตรวจชีพจรมีภาวะแท้งคุกคามจริงๆ แต่กลับดูไม่เหมือนภาวะแท้งธรรมดาชีพจรของเป่าเล่อเอ่อร์ไม่ลอย อีกทั้งเลือดและลมปราณยังไม่ทรุดโทรม ร่างกายแข็งแรงมาก ภายใต้ถานการณ์เช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีอาการแท้ง นี่เป็นเพราะสาเหตุใดกันแน่“หมอหลวงเหลียง เป่าเล่อเอ่อร์เป็นอย่างไรบ้าง”อินสิงอวิ๋นถามอย่างเร่งร้อนก่อนหน้านี้ยังปกติดี ไม่มีสัญญาณใดๆ มา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 792 ถูกกู่

    อินสิงอวิ๋นควบม้าเร็วเข้าวังหลวงอีกครั้งหมอหลวงเหลียงกำลังเดินเตร่อยู่ในสำนักหมอหลวงเขาชอบที่จะศึกษาค้นคว้าทักษะทางการแพทย์มากที่สุดในชีวิต เมื่อใดก็ตามที่เขาเผชิญกับโรคที่ยากและซับซ้อน ก็ต้องการที่จะศึกษาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้และความเจ็บป่วยขององค์หญิงน้อยเจียงวูคนนี้พบได้ยากมากหลังจากคิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับชีพจรในขณะนั้น พบว่าค่อนข้างคล้ายกับชีพจรของฮ่องเต้เมื่อเดือนที่แล้วราวกับว่ามีบางอย่างซ่อนอยู่ในร่างกาย ที่กำลังผลักทารกในครรภ์ขององค์หญิงน้อยเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ หมอหลวงเหลียงก็รีบพลิกตำราโบราณทันทีจำได้ว่าอาจารย์เคยกล่าวไว้ว่า มีชีพจรกู่ชนิดหนึ่งที่เป็นแบบนี้ หรือว่าทั้งฝ่าบาทและองค์หญิงน้อยมีหนอนกู่อยู่ในร่างกาย?หมอหลวงเหลียงรีบปีนขึ้นไปบนชั้นหนังสือ แล้วหยิบม้วนตำราที่อาจารย์ทิ้งไว้ออกมาเปิดดู เมื่อเห็นแวบแรก พบว่าดูคล้ายกันมากจริงๆโดยไม่ต้องให้เสียเหงื่อ เขารีบถือกล่องยาแล้ววิ่งไปที่ห้องหนังสือในเวลาเดียวกัน อินสิงอวิ๋นก็มาที่ห้องหนังสือด้วย เขามาที่นี่เพื่อขอน้ำพุวิญญาณ เพื่อรักษาชีวิตของเป่าเล่อเอ่อร์น้องหญิงใหญ่และฮ่องเต้น้อยพำนักอยู่ในตำหนัก ไม่แน่ว่าอา

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1468 อย่าได้คืบจะเอาศอก

    “สามวันติดแล้ว ที่ข้าสัมผัสลมปราณของชิงฮุยไม่ได้ หรือว่าเขาจะ...”ที่ด้านบนยอดเขา อินชิงเสวียนหยิบโต๊ะพกพาขนาดเล็กและเบาะที่นั่งสองที่นั่งออกมา ซึ่งบนโต๊ะเต็มไปด้วยน้ำผลไม้และอาหารอร่อยแม้จะบอกว่าออกมาตามหาคน แต่ในเมื่อมีปัจจัยที่อุดมสมบูรณ์เช่นนี้ ทำไมต้องไปทนทุกข์ทรมานโดยไม่จำเป็นล่ะนางหยิบนมพุทราจีนหนึ่งแก้วขึ้นมา แล้วยื่นให้ลั่วสุ่ยชิง“ว่ากันว่าถ้ากินพุทราจีนประจำ จะไม่แก่เร็ว มาลองกัน”ลั่วสุ่ยชิงหยิบขวดโยเกิร์ตขึ้นมาจิบ มันมีรสหวานอมเปรี้ยวและรสชาติค่อนข้างดี ในช่วงไม่กี่วันที่ออกมาข้างนอกกับอินชิงเสวียน สรรหาของมาให้นางกินจนเคยปากหมดแล้ว“เจ้าเป็นผู้หญิงที่แปลกจริงๆ จนป่านนี้แล้ว ยังมีรสนิยมสูงแบบนี้ได้อีก”อินชิงเสวียนเม้มปากเป็นรอยยิ้ม“คนก็เหมือนเหล็ก อาหารก็เหมือนเหล็ก ถ้าไม่กินข้าวสักมื้อจะหิวโหย เมื่อมีปัจจัยที่เพียบพร้อมเช่นนี้แล้ว ย่อมไม่ควรทำให้ตัวเองลำบาก”“ในมิติของเจ้า มีทุกอย่างจริงๆ หรือ”ลั่วสุ่ยชิงรู้แล้วว่าอินชิงเสวียนมีมิติมาด้วย จึงอดไม่ได้ที่จะสนใจใคร่รู้อยู่บ้าง“ประมาณนั้น แต่น่าเสียดายที่คนนอกเข้ามาในมิติของข้าไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะได้ให้เจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1467 ฉันอยากกลับไป

    อินชิงเสวียนดึงมือออก“คุณจำคนผิดแล้ว ฉันไม่ใช่เพื่อนบ้านเดียวกันของคุณ แต่เป็นลูกสาวของแม่ทัพแห่งต้าโจว อินชิงเสวียน!”“คุณ คือเจ้าของร่างเดิมของอินชิงเสวียน?”เย่จิ่งหลานมองเธอขึ้นๆ ลงๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ รูปร่างเหมือนกันทุกประการ แต่หากสังเกตให้ดี จะเห็นได้ว่าเพื่อนบ้านเดียวกันของเขามีพลังความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ ส่วนผู้หญิงตรงหน้าเขาดูอ่อนโยนและอ่อนแอกว่ามากในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้ด้วยว่าทำไมเขาถึงดูคุ้นตากับเด็กน้อยคนนี้ ตอนที่ตัวเองเพิ่งข้ามภพไปยังต้าโจว เขาก็มีรูปร่างหน้าตาลักษณะเหมือนแบบนี้เลยความทรงจำก็เหมือนกับคลื่นทะเล เป็นคลื่นที่ซัดมาระลอกแล้วระลอกเล่า ในที่สุดเย่จิ่งหลานก็ค่อยๆ จำทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในต้าโจวได้ทุกคนช่วยกันต่อต้านชิงฮุยในหุบเขาเชื่อมเมฆา แต่แล้วเขาก็กลับมาในเวลานี้ และกลับมาโดยที่ร่างกายสมบูรณ์ครบถ้วนเมื่อนึกถึงความชั่วร้ายและความเจ้าเล่ห์เพทุบายของชิงฮุย เย่จิ่งหลานก็รู้สึกสับสนอย่างอธิบายไม่ถูก“หรือว่าผมข้ามภพมาได้เพราะป้ายตราคำสั่งนี้ ผมต้องรีบกลับไปโดยเร็วที่สุด”เมื่อเห็นท่าทางกังวลอย่างกะทันหันของเย่จิ่งหลาน อินชิงเสวียนก็ตระหนัก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1466 ความปรารถนาในใจสำเร็จแล้ว

    ไม่ว่าซูเยี่ยจะจำอดีตกับเขาหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่สำคัญสำหรับเย่จิ่งหลานอีกต่อไปแล้วสวรรค์ทำให้เขาได้เจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง อาจเป็นเพราะต้องการให้เขาได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของซูเยี่ย ผู้หญิงประเภทนี้ จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องให้เขาเสียเวลาด้วยซ้ำเขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบแปดปี อนาคตยังอีกยาวไกล ซูเยี่ยเป็นเพียบใบไหม้ที่ร่วงไปจากชีวิตของเขา ไม่มีความสำคัญอะไรเลยเย่จิ่งหลานกระตุกมุมปากขึ้นยิ้ม ค่อยๆ รู้สึกปลอดโปร่งใจเขาเดินออกจากสวนสาธารณะอย่างช้าๆ และทันใดนั้นก็มีอีกคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาใบหน้านี้ไม่ใช่หน้าตาเดิมของเขา ใครเป็นคนทำศัลยกรรมให้เขา?พลังในร่างกาย มาจากไหนกันแน่แล้วผู้หญิงที่อยู่ในหัวของเขา เป็นใครกันแน่หรือว่าเขาฝึกฝนจนสำเร็จเคล็ดวิชาลับบางอย่าง และผู้หญิงคนนั้นคือแก่นวิญญาณของเขา?เย่จิ่งหลานดึงขอบเอวกางเกงของเขาโดยไม่รู้ตัว ไอ้นั่นยังคงอยู่ตรงนั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงคิดว่าตัวเองฝึกฝนวิชาจนกลายเป็นตงฟางปุ๊ป้ายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรแล้วแต่การมีสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร เอามาใช้กินใช้ดื่มไม่ได้ ตอนนี้ท้องของเขาร้องโครกคราก แต่ไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าเลยขณะที่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

DMCA.com Protection Status