แชร์

บทที่ 745 มารในใจ

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-05-21 16:00:00
“ชาวตงหลิว สมควรตาย!”

เสียงใสราวกับน้ำพุดังก้องออกมาจากริมฝีปากของสตรีคนนั้น ฝ่ามือก็ถูกซัดโดนร่างของอวี๋กงแล้ว

เมื่อเห็นใบหน้างดงามหยาดเยิ้มดวงนั้น ม่านตาของฉุยอวี้ก็หดลง ปล่อยมือของอวี๋กงโดยไม่รู้ตัว

ความปรารถนาในใจทำให้จิตใจของเขาว่างเปล่าครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็ได้ยินอวี๋กงตะโกน และร่างนั้นก็ล้มลงกับพื้น

ซึ่งคนที่ลงมือไม่ใช่ใครอื่นนอกจากอินชิงเสวียน

นางรู้ถึงข้อเสียของมิติ ด้วยความกระวนกระวายใจ นางทำได้เพียงแกล้งทำเป็นจัดการกับอวี๋กง แต่จริงๆ แล้ว นางเพียงแลกความเร็วของมิติเท่านั้น ซึ่งความแรงของฝ่ามือนั้น ไม่ต่างจากการตบของคนทั่วไป

หวังซุ่นซึ่งแต่งตัวเป็นอวี๋กงก็ตื่นตัวเช่นกัน ล้มตัวลงนอนบนพื้นเสียงดังตึง

เย่จิ่งหลานรีบใช้ความคิด พาหวังซุ่นเข้าไปในมิติ

อาซือหลานรู้สึกตัว หัวใจก็เต้นรัวเมื่อเห็นอวี๋กงหายตัวไปอย่างกะทันหัน

คนสามารถหายไปจากอากาศได้ นี่มันวิชายุทธ์อะไรกัน

เฮ่ออวิ๋นทงและคนอื่นๆ มองหน้ากันเลิ่กลั่ก ไม่มีใครเข้าใจว่า คนทั้งคนจะหายไปอย่างไร้ร่องรอยแบบนี้ ถึงกับมีคนมาดูตรงจุดที่หวังซุ่นเพิ่งหายตัวไป ใช้มือเคาะดูจนทั่ว

เสียงนั้นทุ้มหนัก ไม่สามารถซ่อนอะไรได้

เก่อหงย
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 746 เสียงกระพรวนแปลกๆ

    เย่จิ่งหลานเตะเขาทันที“ระวังคำพูดด้วย มีผู้หญิงอยู่ในห้อง”หวังซุ่นรีบตบปากตัวเองสองครั้งอย่างรวดเร็ว พูดด้วยรอยยิ้ม “นิสัยปากเสียของข้าน้อยกำเริบอีกแล้ว กุ้ยเฟยกับแม่นางฮวาอย่าใส่ใจ”อินชิงเสวียนกลอกตามองเขา“หยุดโม้ได้แล้ว เกิดอะไรขึ้นกันแน่”ครั้นแล้วหวังซุ่นก็เล่าทุกอย่าง ตั้งแต่เดินเข้าประตูไปจนถึงคุยกับฉุยอวี้ส่วนที่เหลือ ทุกคนก็ได้ยินผ่านเครื่องส่งรับวิทยุแล้ว ไม่มีความคลาดเคลื่อนจริงๆถ้าฉุยอวี้ไม่สังเกตเห็นว่าหวังซุ่นสวมหน้ากาก ก็สามารถใส่ร้ายเขาได้น่าเสียดาย...หวังซุ่นก็รู้ว่าทุกคนลงมืออย่างสูญเปล่าก็เพื่อปกป้องตัวเอง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็นึกไม่ถึงว่าคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขา จะไม่ใช่ใครอื่นนอกจากอาซือหลาน ที่เคยไปอยู่กับเขามาระยะหนึ่งแล้วเพียงแต่ทั้งตัวของเขาถูกคลุมไปด้วยผ้าสีดำ ไม่สามารถมองเห็นแขนขาได้ และไม่สามารถมองเห็นรูปลักษณ์และสีหน้าของเขาได้ เสียงของเขาถูกกดให้ต่ำลงและแหบแห้งอย่างจงใจ หวังซุ่นจะคาดคิดได้หรือว่าผ็ที่ตายไปแล้ว จะฟื้นชีวิตมาอยู่ที่นี่เย่จิ่งอวี้ก็คิดไม่ตกเช่นกัน นอกจากสายตาที่ดุร้ายของฉุยอวี้แล้ว ไม่มีคำอธิบายอื่นใดอีก“วันนี้ต้องโทษข้าน้อย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 747 หรือว่าแค่นี้ยังไม่ต้องการตอบแทนบุญคุณอีก

    อินชิงเสวียนและเย่จิ่งอวี้ลืมตาขึ้นพร้อมกัน ทั้งคู่ต่างก็ตกตะลึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งอินชิงเสวียน ความพรั่นพรึงในใจไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้อีกแล้วมิติคือการดำรงอยู่อย่างอิสระ หากไม่ได้รับอนุญาตจากนาง บุคคลภายนอกไม่สามารถเข้ามาได้แม้ว่านางจะอนุญาต แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถเข้ามาได้นางยังไม่ได้เปิดหน้าจอเพื่อสื่อสารกับโลกภายนอก ดังนั้นจึงไม่สามารถได้ยินเสียงจากภายนอกได้เย่จิ่งอวี้รวบเสื้อคลุมบนร่าง แล้วรีบรุดไปที่เตียง ขณะที่กำลังจะถาม เสียงกระพรวนก็ดังขึ้นอีกครั้งกริ๊ง กริ๊งจังหวะของกระพรวนนั้นช้ามาก แต่มีพลังเวทมนตร์ที่อธิบายไม่ได้ กระทบหัวใจของทั้งสองคนพร้อมกันอินชิงเสวียนผุดลุกขึ้นทันที ใช้ความเร็วของมิติเพื่อตรวจค้นภายในทั้งหมดอย่างรวดเร็วไม่มีบุคคลภายนอกจริงๆ“เป็นไปได้อย่างไร”ไม่ควรเป็นแบบนี้เลยเย่จิ่งอวี้ก็ขมวดคิ้วเช่นกัน“ข้าจะออกไปดู”“อย่า!”อินชิงเสวียนคว้าตัวเขาไว้ จากนั้นเปิดหน้าจอขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับโลกภายนอก และภาพของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดก็อยู่ในสายตากลางคืนมืด ไม่มีวี่แววใดๆ ในลานบ้านยกเว้นลูกศิษย์ไม่กี่คนที่เฝ้าเวรกลางคืน ก็ไม่มีอะไรผิด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 748 เชิญตัวเองเข้าคุก

    เนิ่นนานหลังจากนั้น เขาก็หยุดหัวเราะ หยิบกระพรวนสีดำออกมาจากอกเสื้อทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนพูดว่า “ดูเหมือนว่าจะมีเสียงอยู่ตรงนั้น”“เข้าไปดูเร็ว”เสียงฝีเท้าอันวุ่นวายดังขึ้นจากระยะไกล และคนผู้นั้นก็หายตัวไปทันทีลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว อดไม่ได้ที่จะกรีดร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นศพแขวนอยู่บนต้นไม้“เป็นศิษย์พี่หลิวจากสำนักหานเตา มีศิษย์พี่เจียงจากสำนักเทียนหยวนด้วย”อีกคนพูดว่า “ตรงนี้ดูเหมือนจะเป็นศิษย์ของสำนักเซียวเหยา”“เฮ้ย นี่คือศิษย์พี่หวังจากสำนักกระบี่สังหาร!”เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของทั้งสองคน คนอื่นๆ ก็วิ่งกรูไปอย่างรวดเร็ว และทั้งหมดก็ตกใจกับภาพที่อยู่ตรงหน้าทุกคนตกตะลึงเป็นเวลานาน ก่อนที่ศิษย์คนหนึ่งจะพูดราวกับว่าเพิ่งตื่นจากความฝัน “กลับไปรายงานต่อเจ้าสำนักด่วน”“ใช่ รีบไปเถอะ”ทั้งหมดใช้วิชาตัวเบาทันที แทบอยากจะยืมขาคู่หนึ่งจากกระต่ายมาช่วยกระโดดด้วยซ้ำ ต่างวิ่งล้มลุกคลุกคลานกลับไปยังสำนักตัวเองอินชิงเสวียนได้เปิดการเชื่อมต่อมิติ สามารถมองเห็นทุกสิ่งภายนอกได้“อาอวี้ เราต้องรีบกลับไป ถ้ามีใครมาเห็นเราที่นี่ อาจจะเกิดความเข้าใจผิดที่ไม่จำเป็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 749 คนเดินสวนทาง

    เฮ่ออวิ๋นทงส่ายหัวอย่างจนปัญญา พูดกับเหล่าลูกศิษย์ว่า “พาเจ้าสำนักเซี่ยวไปที่คุกใต้ดิน ส่วนที่เหลือพาศิษย์กลับสำนัก เฝ้าระวังอย่างเข้มงวด”เมื่อเห็นเจ้าสำนักเซี่ยวออกไป ซื่อเมี่ยวอินก็กำนิ้วแน่น อย่างไรนี่เป็นคำสั่งของเจ้าสำนัก พวกนางทำอะไรไม่ได้พอกลับถึงหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ เป็นเวลารุ่งเช้าแล้วทุกคนไม่มีใครง่วงนอน บรรยากาศก็ค่อนข้างอึมครึมเย่จิ่งหลานรู้เรื่องราวทั้งหมดจากอินชิงเสวียนแล้ว จึงทำได้แค่แสดงความเห็นอกเห็นใจ แม้แต่ยอดฝีมืออย่างเย่จิ่งอวี้ก็ไม่สามารถยับยั้งได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตัวเขาเองเลยไปตีสนิทหาเจ้าโง่น้อยดีกว่า บรรยากาศในสำนักช่างหดหู่เหลือเกินหลังจากแจ้งอินชิงเสวียนแล้ว เย่จิ่งหลานก็พาหวังซุ่นออกจากเรือน มุ่งหน้าไปยังโรงเตี๊ยมที่โมริตะคาวาสึบาเมะพักอยู่โมริตะคาวาสึบาเมะกำลังนั่งอยู่ในเหลาสุราเพื่อฟังเรื่องซุบซิบ ชายฝั่งทะเลเป่ยไห่เต็มไปด้วยผู้คนจากยุทธภพ ข่าวแพร่กระจายเร็วกว่าคนทั่วไป ทั้งเหลาสุราต่างก็พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้เมื่อทราบว่าเจ้าสำนักเซี่ยวถูกจำคุกเหล็กชั้นดีซึ่งสร้างขึ้นจากการร่วมมือกันของสำนักต่างๆ ริมฝีปากของโมริตะคาวาสึบาเมะก็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 750 เป็นเขา อาซือหลาน

    กวนเซี่ยววิ่งออกจากโรงเตี๊ยม พูดอย่างตื่นเต้น “ยังมีห้องว่างอยู่ สามารถเข้าพักได้”แต่เห็นว่าฟางรั่วตัวสั่นไปทั้งร่าง เหมือนจะยืนโงนเงนเขารีบถามว่า “เกิดอะไรขึ้น”“ข้าเริ่มเหนื่อยแล้ว เข้าไปพักก่อนเถอะ!”ฝ่ามือของฟางรั่วเต็มไปด้วยเหงื่อกวนเซี่ยวไม่กล้าชักช้า รีบประคองนางเข้าไปในห้องพัก“เจ้านอนพักสักครู่ ข้าจะไปตามหมอมา”“ไม่ต้อง ข้าอยากนอนสักพัก เจ้าออกไปก่อน!”ฟางรั่วพูดจบก็หลับตากวนเซี่ยวไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปิดประตู ปล่อยให้นางพักผ่อนอยู่ในห้องฟางรั่วรออยู่ครู่หนึ่งแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งนางติดตามอาซือหลานมาตั้งแต่อายุไม่กี่ขวบ ทุกอย่างเกี่ยวกับเขา นางคุ้นเคยดีที่สุดทุกอากัปกิริยาการเคลื่อนไหวของเขา เหมือนจะประทับอยู่ในหัวใจของฟางรั่วแม้ว่าเขาจะเปลี่ยนกลิ่นอายของตัวเองด้วยเครื่องเทศพิเศษ แต่ฟางรั่วก็ยังคงจำการก้าวย่างของเขาได้นางสามารถเอาหัวเป็นประกันได้ ว่าชายที่สวมหมวกสานใบใหญ่ คืออาซือหลานแน่ๆความตื่นเต้นและความโกรธค่อยๆ จางหายไป ฟางรั่วก็ค่อยๆ กลับคืนสู่ความสงบก่อนหน้านี้แน่นอนว่าการเดาของนางนั้นถูกต้อง ไม่เพียงแต่อาซือหลานจะยังไม่ตาย แต่เขายังเปลี่ยนต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 751 ความกังวลของอินชิงเสวียน

    เย่จิ่งหลานชำเลืองมองแวบหนึ่ง ร่องรอยแห่งความสนุกสนานพลับแวบขึ้นในดวงตาในเมื่อคุณชายคาวาสึบาเมะรนหาที่ตายเอง งั้นก็มาโทษเขาไม่ได้ เดิมทีต้องการตีสนิท ค้นหาที่ซ่องสุมของพวกตงหลิว กำจัดพวกเขาในคราวเดียว แล้วตัวเองก็กลายเป็นเจ้าเกาะเล่นๆเมื่อเห็นความพยายามในการพูดจาของคาวาสึบาเมะ เย่จิ่งหลานก็เปลี่ยนใจตัดกำลังให้คนเหล่านี้อ่อนแอลงก่อน เหมือนจะเป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลยแน่นอนว่าสิ่งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของอินชิงเสวียน ไม่รู้ว่านางจะแสดงอานุภาพของพิณการเวกได้มากน้อยเพียงใดขณะที่ความคิดกำลังโลดแล่น โมริตะคาวาสึบาเมะก็ชวนชนจอกสุราอีกเย่จิ่งหลานรู้สึกว่าเขาพูดมากพอสมควรแล้ว จึงแสร้งทำเป็นเมามาย แล้วออกจากเหลาสุราก่อนครั้นกลับถึงหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ เย่จิ่งหลานก็ไปหาอินชิงเสวียนทันที และเล่าเรื่องเกี่ยวกับโมริตะคาวาสึบาเมะให้นางฟังอินชิงเสวียนเอื้อมมือไปดึงหูของเย่จิ่งหลาน“เรื่องใหญ่ขนาดนี้ เจ้ากลับไม่บอกข้า ถ้าเกิดเจ้าตกอยู่ในอันตรายล่ะ จะทำอย่างไร”เย่จิ่งหลานร้องโอดโอยอย่างเจ็บปวดเกินจริง พูดว่า “พวกเราต่างก็เป็นคนที่มีมิติ จะกลัวอะไร”อินชิงเสวียนพูดด้วยความเดือดดาล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 752 วางกำลัง

    อินชิงเสวียนเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว อุ้มเสี่ยวหนานเฟิงขึ้นเจ้าเด็กอ้วนเหมือนจะตัวหนักขึ้น มีกลิ่นน้ำนมอ่อนๆ หอมกรุ่นติดตัวเสี่ยวหนานเฟิงยื่นมือเล็กๆ ออก กอดคอของอินชิงเสวียน แล้ววางแก้มนุ่มนิ่มซบบนคอของอินชิงเสวียน พูดเบาๆ ว่า “ไม่โกรธๆ”เซี่ยวอิ๋นหวนยิ้มด้วยความรักใคร่“จ้าวเอ๋อร์เชื่อฟังมาก มีข่าวจากเจ้าสำนักเซี่ยวหรือไม่”“ท่านแม่ไม่ต้องกังวล มีเจ้าสำนักเฮ่ออยู่ ไม่มีใครกล้าแอบทำอันตรายกับเจ้าสำนัก แม้ว่าใครบางคนจะมีเจตนาชั่วร้าย แต่ใช่ว่าจะประมือกับเจ้าสำนักเซี่ยวได้”อินชิงเสวียนหอมแก้มน้อยๆ ของเสี่ยวหนานเฟิง อุ้มเขานั่งบนเก้าอี้ข้างๆเจ้าสำนักเซี่ยวเคยแช่ตัวในน้ำพุวิญญาณ หายจากอาการบาดเจ็บภายในแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงทักษะวรยุทธ์ที่แข็งแกร่งของเขา อินชิงเสวียนจึงไม่กังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเขามากนักความกังวลในดวงตาของเซี่ยวอิ๋นหวนยังไม่ลดลงในช่วงสองวันที่ผ่านมาได้ศึกษาค้นคว้าเพลงพิณอยู่ในหอ ในเวลาว่างก็ไปอยู่เล่นกับหลานชาย ไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับทุกสิ่ง แต่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ นางล้วนมองเห็นอยู่ในสายตาเช้าวันนี้ได้ทราบจากฮวาเชียนว่าสองคนผัว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 753 เขายังไม่ตาย

    อินชิงเสวียนหันขวับ ด้านหลังสิบเมตรมีหญิงวัยกลางคนสวมกระโปรงคาดอกผ้าหยาบๆ ยืนอยู่หญิงคนนั้นมีรูปร่างหน้าตาธรรมดา อายุราวๆ สามสิบปี มีผ้าลายดอกไม้ผูกอยู่บนศีรษะ ดูไม่ต่างจากหญิงชาวนาทั่วไปอินชิงเสวียนยังคงจำเสียงที่คุ้นเคยของเจ้าของที่แท้จริงเบื้องหลังหน้ากากได้“เป็นเจ้า ฟางรั่ว?”ฟางรั่วถอดหน้ากากออก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสงบ “ใช่ ข้าเอง”ซื่อเมี่ยวอินรีบเข้ามาขวางอยู่เบื้องหน้าของหน้าอินชิงเสวียนทันที มองไปที่ฟางรั่วอย่างระมัดระวังนัยน์ตาของฟางรั่วฉายแววเย้ยหยัน“สมแล้วที่เป็นกุ้ยเฟย ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็มีความเอิกเกริกยิ่งใหญ่เช่นนี้”อินชิงเสวียนอุ้มเสี่ยวหนานเฟิงขึ้น แม้ว่าวรยุทธ์ของฟางรั่วจะถูกทำลาย แต่ก็จะชะล่าใจไม่ได้ ท้ายที่สุดแล้ว กระต่ายจนมุมก็กัดคน“ไม่จำเป็นต้องพูดคำประชดพวกนี้หรอก เจ้ากับข้าวิถีทางไม่ตรงกันอย่ามาร่วมทางกัน ไม่จำเป็นต้องเจอกัน”ฟางรั่วไม่ขยับ ดวงตายังคงมองจับไปที่อินชิงเสวียน“อินชิงเสวียน เจ้าไม่อยากร่วมมือกับข้าจริงๆ หรือ”“ไม่จำเป็น พวกเราไปกันเถอะ”อินชิงเสวียนไม่ต้องการพูดไร้สาระกับฟางรั่วอีก จึงอุ้มเสี่ยวหนานเฟิงหันหลังเดินกลับ จากนั้นก็ได

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-21

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status