หน้าหลัก / โรแมนติก / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 61 กล้ากัดแม่ของเจ้ารึ

แชร์

บทที่ 61 กล้ากัดแม่ของเจ้ารึ

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2023-12-15 16:00:01
จู่ๆ ดวงตาของเย่จิ่งอวี้พลันเบิกกว้าง นัยน์ตาฉายแววเยียบเย็น

“ออกไปเถอะ”

ซูฉ่ายเวยตกใจ พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ฝ่าบาท หม่อมฉัน...หม่อมฉันยังนวดไม่เสร็จเลยเพคะ”

ใบหน้าของเย่จิ่งอวี้เปลี่ยนเป็นเย็นชา

“ถอยไป”

ครั้นเห็นใบหน้าหล่อเหลานั้นเย็นชาราวกับน้ำแข็ง ทันใดนั้นซูฉ่ายเวยก็ไม่กล้าพูดคำใดอีก นางรีบสวมเสื้อ แล้วก้มหน้าก้มตาถอยกลับไป

เมื่อออกไปข้างนอกก็ปั้นหน้ายิ้มแสร้งทำเป็นมีความสุข

เชิดหน้าขึ้นแล้วกล่าวว่า “หลี่กงกง ข้าจะกลับแล้ว ไว้วันหน้าค่อยมาเข้าเฝ้าฮ่องเต้ใหม่”

เมื่อเห็นอาภรณ์ที่ไม่เรียบร้อยของซูฉ่ายเวย หลี่เต๋อฝูก็ก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ว พูดด้วยความเคารพ “พระสนมเดินทางดีๆ”

ซูฉ่ายเวยตอบรับต้วยเสียงขึ้นจมูก วางมือบนแขนของเซียงหลาน แล้วเยื้องกรายออกจากห้องหนังสือไปอย่างเหิมใจ

หลังจากออกจากห้องหนังสือ ซูฉ่ายเวยก็กัดฟัน สีหน้าแดงก่ำ

นางเป็นฝ่ายเริ่มก่อนถึงเพียงนี้แล้ว เหตุใดฝ่าบาทถึงไม่ติดกับ ต้องเป็นเพราะชุดไม่สวย ถึงไม่สามารถดึงดูดความสนใจของฝ่าบาทได้

เมื่อกลับมาถึงหอฉงฮวา ซูฉ่ายเวยก็ถอดกระโปรงของนางออกทันที

ณ ห้องหนังสือ

แววตาของเย่จิ่งอวี้เย็นชา

เมื่อนึกถึงสตรีในวังหลั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 62 ข้าต้องการทั้งหมด

    ราวกับว่าเจ้าหมาน้อยกลัวว่าแม่จะจากไป เขายังคงจับคอเสื้อของนางไม่ปล่อย แล้วเริ่มพูดอ้อแอ้ไม่หยุด ขมวดคิ้วเล็กๆ จนเกือบจะผูกเป็นปมซึ่งท่วงท่าที่แสดงออกมานี้ช่างคล้ายคลึงกับเย่จิ่งอวี้มาก“สมกับเป็นลูกชายของพ่อสารเลวเจ้าจริงๆ”พอนึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่นี้เย่จิ่งอวี้กับซูฉ่ายเวยเกิดอะไรที่ไม่สามารถอธิบายได้ อินชิงเสวียนก็อดเบะปากเสียมิได้ พลอยรู้สึกไม่ชอบหน้าเจ้าหมาน้อยไปด้วย“เป็นเด็กดีรออยู่ตรงนี้ ห้ามร้องไห้งอแง ถ้าเจ้ากล้างอแง ข้าจะไม่สนใจเจ้าแล้ว”พูดจบก็ยัดเจ้าหมาน้อยไว้ในอ้อมแขนของยายหลี่ เจ้าหมาน้อยตกตะลึง ลืมตาโพลงจ้องมองอินชิงเสวียนเข้าไปในห้องผ่านไปหลายอึดใจ จึงยกมือเล็กๆ ขึ้นเพื่อประท้วง ในยามนี้เอง ไป๋เสวี่ยเห่าขึ้นครั้งหนึ่ง เจ้าหมาน้อยก็ถูกดึงดูดโดยเจ้าขนฟูทันที ชี้ไปที่ไป๋เสวี่ยแล้วพูดอ้อแอ้ๆยายหลี่ยังคงกลัวไป๋เสวี่ยอยู่ อุ้มเจ้าหมาน้อยไม่กล้าเข้าใกล้ ตอนที่อยู่ในจวนรัชทายาท สุนัขตัวนี้ก็กัดคนไปไม่น้อยเลยอินชิงเสวียนได้เข้าไปในมิติแล้ว สิ่งที่อยู่ข้างในนั้นเติบโตเต็มที่แล้ว อินชิงเสวียนใช้การเก็บเกี่ยวอัตโนมัติของมิติ ครั้นแล้วแป้งสาลีและข้าวสารก็ถูกจัดเก็บอย่าง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-15
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 63 ทำเงินมหาศาล

    ระหว่างคำพูดยังมีเสียงหยกกระทบกัน และหญิงงามผู้งดงามที่หน้าตาแตกต่างกันทั้งสี่คนก็เข้ามาจากข้างนอกทุกคนมาที่ห้องโถงและโค้งคำนับพร้อมกัน“น้อมคำนับหลิงผิน”ทันใดนั้นซูฉ่ายเวยก็แสดงสีหน้าภาคภูมิใจ โบกมือให้ทุกคน“ลุกขึ้น”“ขอบคุณพระสนมหลิงผิน”หนึ่งในนั้นเงยหน้าขึ้น อดไม่ได้ที่จะพูดด้วยความประหลาดใจ “ใบหน้าของพระสนมช่างงดงามนัก ขาวเนียนชุ่มชื้นราวกับฉ่ำน้ำ”อีกคนหนึ่งรีบพูดเสริมอย่างประจบ “มิน่าเล่าฝ่าบาทถึงได้โปรดปรานพระสนม พระสนมงดงามที่สุดในแผ่นดินจริงๆ”“ก็ใช่น่ะสิ พระสนมงดงามปานนี้ คาดว่าอีกไม่นานจะคงได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นสนมขั้นเฟย”ขณะที่คนเหล่านี้กำลังพูดคุยกัน แต่มีหญิงงามผู้หนึ่งยืนอยู่ข้างๆ กำผ้าเช็ดหน้าไว้แน่น โดยที่ทำอะไรไม่ถูกอินชิงเสวียนเหลือบมองนาง รู้สึกว่าหญิงงามผู้นี้หน้าตาสะสวย ดวงตาคู่งามฉายแววเฉลียวฉลาดเมื่อเห็นว่าอินชิงเสวียนกำลังมองตัวเอง ก็พยักหน้าและยิ้มให้นางเมื่อเทียบกับคนเหล่านี้ที่ได้แค่ประจบประแจง หญิงงามผู้นี้กลับดูพิเศษมากกว่าอินชิงเสวียนก็ส่งยิ้มให้นางเช่นกันหญิงงามที่พูดก่อนหน้านี้มองเห็นแผ่นพอกหน้าบนโต๊ะแล้ว อดไม่ได้ที่จะถามด้วยค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-15
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 64 ฟ้าร้อง

    เย่จิ่งเย่ายกยิ้มมุมปาก ทว่าดวงตาของเขากลับทำให้รู้สึกอึดอัดมากทันใดนั้นอินชิงเสวียนก็ขนลุกไปทั่วทั้งร่างกาย รีบก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็ว“กระหม่อมถวายพระพรอันผิงอ๋อง”“ตามสบาย”เย่จิ่งเย่ายืนนิ่งและโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่มีเพียงเขาและอินชิงเสวียนเท่านั้นที่ได้ยิน “เจ้าต้องรับใช้ฮ่องเต้ให้ดี!”อินชิงเสวียนสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อนางเงยหน้าขึ้นก็เห็นเย่จิ่งอวี้ยืนอยู่ที่ประตูแล้วเขาเอามือไพล่หลัง ดวงตาหงส์หรี่เล็กน้อย และเสื้อคลุมตัวยามสีเหลืองทองขับเน้นให้รูปร่างสูงโปร่งสง่างาม เผยให้เห็นถึงความน่าครั่นคร้ามของโอรสสวรรค์เมื่อสบตากัน หัวใจของอินชิงเสวียนก็สั่นสะท้านน้อยๆทันใดนั้นจึงเข้าใจได้ทันทีว่าคนสารเลวเย่จิ่งเย่าจงใจเข้ามาใกล้ชิด เพื่อใส่ร้ายตัวเองเย่จิ่งเย่าเหลือบมองจากมุมตา แล้วเดินจากไปพร้อมกับหัวเราะเบาๆ อินชิงเสวียนสาปแช่งในใจ เดรัจฉานผู้นี้เลวทรามจริงๆแล้วจึงรีบปล่อยไป๋เสวี่ยอย่างรวดเร็ว ดึงเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าต่อหน้าเย่จิ่งอวี้“กระหม่อมถวายบังคมฝ่าบาท”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาของเขาจับจ้องไปที่อินชิงเสวียน“ลุกขึ้น”“ขอบพร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-16
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 65 น้ำพุวิญญาณกลายเป็นสายฝน

    เย่จิ่งอวี้วางพู่กันลงแล้วรีบไปที่ประตูกลิ่นสดชื่นของพืชพรรณผสมกับดินลอยเข้ามาในจมูกของเขา ทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกสดชื่นทันทีเสี่ยวอานจื่อและผู้อื่นที่ยืนอยู่ที่กลางลานเรือน เมื่อพวกเขาเห็นฝน พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะกระโดดขึ้นมาด้วยความดีใจ“ฝนตกแล้ว ฝนตกแล้ว”“สดชื่นจริงๆ!”หลายคนเสียกิริยาของตัวเองไปชั่วขณะหนึ่งเมื่อพวกเขาหันกลับมาและเห็นฮ่องเต้ก็ต่างก็ปิดปากแต่เย่จิ่งอวี้กลับไม่ได้ต่อว่าต่อขานพวกเขา ฝนไม่ตกมาเป็นเวลานาน ในใจของเขาก็มีความสุขไม่แพ้กันในตอนนี้ หลี่เต๋อฝูก็พาคนขนน้ำแข็งยักษ์กลับมา ขณะที่วิ่งเขาก็พูดว่า “ฝ่าบาท ฝนกำลังตกลงมาจากท้องฟ้า นี่เป็นลางดี ต้องเป็นเพราะฝ่าบาทอุทิศตนเพื่อประชาชน ทำให้สวรรค์ซาบซึ้ง ฝนจึงตกมาเช่นนี้”อินชิงเสวียนยืนอยู่ข้างหลังเย่จิ่งอวี้ เมื่อได้ยินเช่นนี้ก็เบะปาก ตาแก่นี่ประจบสอพลอเก่งจจริงๆสีหน้าของเย่จิ่งอวี้ราบเรียบ ดวงตาของเขายังคงมองดูเม็ดฝนที่ตกลงมาจากท้องฟ้าการประชุมเช้าวันนี้ เขาได้ถามเรื่องฝนฟ้าอากาศกับโหราจารย์โดยเฉพาะ โหราจารย์ตอบว่าระยะนี้ยังไม่มีฝนตก แต่เพิ่งผ่านไปไม่ถึงสองชั่วยาม ฝนก็ตกลงมาจากฟ้าแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-16
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 66 เสียไปหนึ่งร้อยคะแนน

    หรือว่าที่ฝนตกเมื่อครู่เป็นนางที่ใช้คะแนนสะสมแลกมาบ้าเอ้ย!นี่เรื่องบ้าอะไรเนี่ยจู่ๆ อินชิงเสวียนก็นึกขึ้นได้ว่าตอนที่นางใช้คะแนนแลกนมผงให้เจ้าหมาน้อย ป้ายที่อยู่ถัดจากร้านค้าคะแนนสะสมได้อัปเดตคำบางคำ และดูเหมือนจะเขียนไว้ว่าน้ำพุวิญญาณอะไรสักอย่าง ตอนนั้นนางรีบมาก จึงไม่ได้อ่านอะไรมากนักหรือว่าน้ำพุวิญญาณได้อัพเกรดฟังก์ชั่นบางอย่างยิ่งอินชิงเสวียนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าใด นางก็ยิ่งกังวลมากขึ้นเท่านั้น แล้วก็พูดกับทุกคนตรงนั้นทันที “ข้าอยากไปปลดทุกข์หน่อย พวกเจ้ารออยู่ที่นี่”ขันทีน้อยยิ้มแล้วพูดว่า “ไปเถอะ ถ้าฮ่องเต้ถามถึงเจ้า พวกเราจะช่วยแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าให้เจ้า”“ขอบใจนะ”อินชิงเสวียนเดินออกจากห้องหนังสือ ห่างออกไปสองร้อยเมตรมีห้องน้ำสำหรับนางกำนัลและขันทีที่รับใช้ฮ่องเต้อยู่เมื่อนึกได้ดังนี้ อินชิงเสวียนก็ค้นพบบางสิ่งบางอย่างผู้คนที่รับใช้เย่จิ่งอวี้ดูเหมือนจะเป็นขันทีทั้งหมด ไม่มีนางกำนัลเลยช่างเถอะ อยากใช้งานผู้ใดก็ใช้เถอะ ตอนนี้นางแค่อยากกลับไปดูที่มิติแล้วอินชิงเสวียนมาที่ประตูห้องน้ำ มองไปรอบๆ ไม่เห็นผู้ใด จึงรีบเข้าไปในมิติทันทีเมื่อตรวจสอบคะแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-16
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 67 ความเข้าใจผิดของหลี่เต๋อฝู

    เย่จิ่งอวี้กดข้อมือของอินชิงเสวียนด้วยเข่าข้างหนึ่ง ใช้มือขวารัดคอของนาง ดวงตาของเขามืดมนและคมกริบ คมราวกับใบมีดเมื่อมองเห็นเงาดำใหญ่เหนือศีรษะ หัวใจของอินชิงเสวียนก็เต้นรัวราวกับเสียงกลอง“ฝ่าบาท กระหม่อมเอง...”อินชิงเสวียนพยายามอย่างเต็มที่ที่ส่งเสียงแหบแห้งเหมือนเป็ดที่ตายแล้วในความมืด ริมฝีปากสีชมพูของอินชิงเสวียนเผยอออกเล็กน้อย ออกแรงคว้ามือที่เหมือนเหล็กขนาดใหญ่ของเย่จิ่งอวี้ด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดของนางดวงตาของเย่จิ่งอวี้เยียบเย็น แล้วจึงค่อยๆ ปล่อยมือออกเขาถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่”“วันนี้กระหม่อมกับเสี่ยวอานจื่อมาเฝ้ารับใช้ฝ่าบาท พอได้ยินเสียงของพระองค์ จึงคิดว่าฝ่าบาทประชวร จึงเข้ามาดู”อินชิงเสวียนลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และไอหลายครั้งติดๆ กันดวงตาของเย่จิ่งอวี้หรี่ลงเล็กน้อย แววตาไหวระริกอินชิงเสวียนคุกเข่าลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว“ฝ่าบาท กระหม่อมได้ยินเสียงจึงเข้ามาจริงๆ กระหม่อมไม่มีวันกล้ามีเจตนาชั่วร้ายต่อฝ่าบาท กระหม่อมไม่มีอาวุธติดตัวมาด้วยซ้ำ”อินชิงเสวียนตบหน้าอกตัวเอง เกิดเสียงแสกสากเย่จิ่งอวี้เลิกคิ้วขึ้น “แล้วเจ้ามีอะไรติดตัวรึ”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-17
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 68 กระหม่อมเต็มใจอย่างยิ่ง

    “เจ้าก็ลุกขึ้นเถอะ”เสียงของเย่จิ่งอวี้แผ่วเบาและสิ้นหวังอย่างอธิบายไม่ถูก“ขอบพระทัยฝ่าบาท”อินชิงเสวียนยืนขึ้นจากพื้น สายตายังคงเหลือบมองตั๋วเงิน อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายอึกใหญ่หลี่เต๋อฝูเข้ามาจากด้านนอกห้องโถง และบังเอิญเห็นอินชิงเสวียนกลืนน้ำลายพอดี หูของเขาพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงเถือกเมื่อเห็นหลี่เต๋อฝูจ้องมองนางด้วยสีหน้าแปลกๆ อินชิงเสวียนก็ประหลาดใจ และขยับเข้าไปใกล้โต๊ะมากขึ้นหลี่เต๋อฝูไม่กล้าเปิดเผยมากเกินไป รีบเข้าไปเปลี่ยนชุดให้เย่จิ่งอวี้อย่างรวดเร็วเมื่อเห็นเย่จิ่งอวี้หันหลังให้ตัวเอง อินชิงเสวียนก็รีบดึงตั๋วเงินสองใบออกมาอย่างรวดเร็ว พับและยัดกลับเข้าไปในแขนเสื้อแม้สองร้อยตำลึงก็ทำให้นางรู้สึกสบายใจขึ้นมากหลังจากนั้นไม่นาน เย่จิ่งอวี้ก็แต่งกายเต็มยศมงกุฎฮ่องเต้ที่ประดับด้วยหินโมราสีแดง เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจสูงสุดของฮ่องเต้ มังกรทองห้าเล็บบนหน้าอกมีความสง่างามและทรงพลังเมื่อเย่จิ่งอวี้สวมฉลองพระองค์เสร็จ จู่ๆ ก็มีกลิ่นอายดุดันและทรงพลัง อากัปกิริยาของเขาทำให้ผู้คนรู้สึกราวกับว่าถูกภูเขาไท่ซานกดทับ แสดงถึงความสง่างามของเขาอินชิงเสวียนถูกกดไว้ด้วยกลิ่นอายนี้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-17
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 69 แตงโม

    ทันทีที่คำสั่งทั้งสองนี้ออกมา ขุนนางทุกคนก็ไม่กล้าพูดอะไรอีกเย่จิ่งอวี้เหลือบมองทุกคนด้วยความพึงพอใจ กล่าวอย่างสงบ “หากมีสิ่งใดจะรายงานก็เชิญ หากไม่มีก็เลิกประชุมได้”พวกขุนนางก็ก้มศีรษะแล้วพูดว่า “กระหม่อมไม่มีสิ่งใดรายงาน”“เลิกประชุม”เย่จิ่งอวี้ลุกขึ้นอย่างสง่างาม คร้านแล้วผู้คนก็ทยอยเดินออกจากตำหนักจินหลวนอินชิงเสวียนตามเสี่ยวอานจื่อมารอที่ห้องหนังสือแล้วเมื่อคิดถึงเงินมากกว่าสองพันตำลึง ก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก และเมื่อคิดถึงเรื่องการเสียคะแนน 100 แต้มไปอย่างแปลกๆ ยิ่งทำให้หดหู่ใจมากขึ้นเมื่อเห็นว่านางดูไม่มีความสุข เสี่ยวอานจื่อก็ถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เสี่ยวเสวียนจื่อ เจ้าเป็นอะไรไป มีเรื่องกังวลใจหรือ”อินชิงเสวียนส่ายศีรษะ“ไม่เป็นไร จู่ๆ ข้าก็คิดถึงท่านแม่และลูกๆ จึงรู้สึกเศร้าเล็กน้อย”เสี่ยวอานจื่อถอนหายใจและพูดว่า “น่าเห็นใจนัก เป็นเหมือนข้าดีกว่า ข้าไม่ต้องกังวลใจอะไร กินผู้เดียวอิ่มผู้เดียว”เมื่อคิดว่าเสี่ยวอานจื่อไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อแม่ของเขาคือผู้ใด อินชิงเสวียนก็รู้สึกว่าเงินนับพันตำลึงของตนนั้นไม่สำคัญเลยจริงๆเมื่อสะสมคะแนนเพียงพอแล้ว จะแลกของสิ่ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-17

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1497 ตัดสินใจไม่ได้

    “ไม่นะ เขาเป็นผู้บริสุทธิ์”ลั่วสุ่ยชิงเหยียดแขนทั้งสองข้างออก และมาขวางอยู่เบื้องหน้าของเย่จิ่งหลานอีกครั้งเสียงดังปัง ลั่วสุ่ยชิงถูกกระแทกห่างออกไปหลายจั้ง และในไม่ช้าก็จมลงไปในหมอกสีดำหนาทึบ“ลั่วสุ่ยชิง ลั่วสุ่ยชิง!”เย่จิ่งหลานเหาะเข้าไปในหมอกสีดำอย่างกระวนกระวายใจ คลำหาลั่วสุ่ยชิง และช่วยพยุงนางลุกขึ้นชิงฮุยเคลื่อนฝีเท้า และมาปรากฏตัวต่อหน้าทั้งสองอีกครั้ง“ลั่วสุ่ยชิง นังสารเลว วันนี้ข้าขอถามเจ้า ต้องการพ่อ หรือผู้ชายคนนี้?”แก่นวิญญาณของลั่วสุ่ยชิงก็ยังสั่นเทา นางกำเสื้อคลุมไว้แน่น มีเส้นเลือดปรากฏขึ้นที่หลังมือนี่เป็นสิ่งที่เลือกยากมากจริงๆไม่อาจปฏิเสธได้ว่า นางตกหลุมรักเย่จิ่งหลานจริงๆไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มาจากไหน แต่มันค่อยๆ ฝังแน่นอยู่ในใจแล้วอาจเป็นเพราะการเข้าฝัน อาจเป็นเพราะตัวเองเคยเดินทางไปกับเขา หรืออาจเป็นเพราะความใกล้ชิดของแก่นวิญญาณของเขา ลั่วสุ่ยชิงไม่สามารถค้นหาติดตามได้อีกแล้วแม้ว่านางจะเป็นสตรีงดงามแห่งสวรรค์ แต่ก็ไม่มีใครที่เข้าตาของนาง แต่ดันเป็นเย่จิ่งหลานผู้ที่พูดเรื่องไร้สาระทั้งวัน ผู้ที่ไม่มีท่าทีจริงจัง กลับกลายเป็นคนที่อยู่ในใจนาง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1496 ความยึดติดที่ฝังลึกอยู่ในใจ

    ชิงฮุยได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังมีลั่วสุ่ยชิงที่กำลังต่อสู้กับแก่นวิญญาณของเขา จึงเคลื่อนไหวช้าลิ่นเซียวแทงกระบี่สวน โจมตีจุดถันจงที่อยู่กลางอกของนาง พลังของลั่วสุ่ยชิงถูกยับยั้ง ก้าวหยุดนิ่ง ในเวลาเดียวกัน แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานก็เข้าสู่ห้วงทะเลแห่งจิตของลั่วสุ่ยชิงในหมอกสีดำ ชายและหญิงกำลังต่อสู้กัน เย่จิ่งหลานหลบเข้าไปในวงการต่อสู้ และช่วยลั่วสุ่ยชิงต่อสู้กับชิงฮุย ชิงฮุยตกตะลึง“เป็นเจ้า!”“ใช่ ข้าเอง!”ขณะที่พูด เย่จิ่งหลานได้ซัดฝ่ามือใส่เขาหลายครั้งแล้วการเข้าร่วมวงการต่อสู้ของเขาทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปทันที ชิงฮุยก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธตะโกนด้วยความเดือดดาล “ลั่วสุ่ยชิง เจ้าคิดจะช่วยคนนอกจัดการกับข้าจริงๆ อกตัญญู!”ลั่วสุ่ยชิงตกใจเล็กน้อย วิชาฝ่ามือช้าลงครู่หนึ่ง“เจ้าเป็นใครกันแน่”ชิงฮุยคำรามด้วยความโกรธ“เจ้ารู้คำตอบแล้ว ยังต้องการจะถามอีกรึ”ลั่วสุ่ยชิงตัวสั่นเล็กน้อย“จริงหรือ...เป็นท่าน?”เย่จิ่งหลานไม่รู้ว่าทั้งสองกำลังเล่นปริศนาทายคำอะไรอยู่ แค่อยากจะจัดการกับปีศาจชั่วร้ายนี้โดยเร็ว เขาลงมือรวดเร็ว ล้วนหมายไปยังจุดตายของชิงฮุยชิงฮุยบังคับเย่จิ่งหลานใ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1495 อินชิงเสวียนข้าขอร้องเจ้า

    ขณะที่อินชิงเสวียนกำลังจะลงมือ ดวงตาของลั่วสุ่ยชิงก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง“เขากำลังกลืนกินแก่นวิญญาณของข้า ถ้าเจ้าไม่ลงมือ ข้าก็คงไม่รอดเช่นกัน อินชิงเสวียน เจ้าไม่อยากช่วยสามีและพ่อแม่ของเจ้าหรือ”เมื่อเห็นท่าทางอันเจ็บปวดของลั่วสุ่ยชิง อินชิงเสวียนก็ไม่สามารถตัดสินใจได้ครู่หนึ่งลั่วสุ่ยชิงสามารถทำเพื่อราษฎร ละทิ้งความคิดที่นางยืนหยัดมานับพันปี ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางควรค่าแก่การเคารพเพียงใด แต่ถ้านางไม่ตาย จะไม่มีใครรอดชีวิตได้เมื่อกวาดสายตามองไปยังร่างของทุกคนที่เหมือนถูกจี้สกัดจุด อินชิงเสวียนก็กัดฟันกรอด และพิณการเวกก็อยู่ในมือของนางแล้ว“ลั่วสุ่ยชิง ข้าขอสาบานในนามของฮองเฮาต้าโจวว่า หลังจากที่เจ้าเสียชีวิต จะจัดพิธีศพให้เจ้าอย่างสมเกียรติระดับแคว้น”ร่างของเย่จิ่งหลานหายวับ และยืนขวางอยู่ตรงหน้าอินชิงเสวียน“ยัยบ้า ข้าไม่เคยขอร้องอะไรเจ้าเลย คราวนี้ข้าขอร้องล่ะ ช่วยไว้ชีวิตลั่วสุ่ยชิงด้วย!”“เย่จิ่งหลาน เจ้า...”อินชิงเสวียนใช้นิ้วกดสายพิณ แต่ในใจกลับไม่เข้าใจว่า ทำไมจู่ๆ เย่จิ่งหลานถึงมีความรู้สึกลึกซึ้งต่อลั่วสุ่ยชิงขนาดนี้เสื้อยืดสีขาวของเย่จิ่งหลานเปื้อนเลือดแดงฉาน ดวง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1494 ฆ่าข้าซะ

    “โอ๊ย พ่องเอ๊ย ตกลงมาเกือบตาย”ชายคนหนึ่งสวมกางเกงยีน เสื้อยืดสีขาว กำลังนวดหลังตัวเองอยู่ จากนั้นก็คลานลุกขึ้นจากพื้นด้วยสีหน้าเจ็บปวด“เย่จิ่งหลาน...เจ้าจะกลับไปจริงๆ หรือ”เย่จิ่งหลานปีนขึ้นมาจากหลุม ตะโกนซ้ำแล้วซ้ำเล่า “อย่าเพิ่งฆ่าคน นางคือลั่วสุ่ยชิงจริงๆ”อินชิงเสวียนหยุดทันที นางไม่ไว้ใจคนอื่น แต่กลับไม่สงสัยในตัวเย่จิ่งหลานแม้แต่น้อย“เกิดอะไรขึ้นกันแน่”เย่จิ่งหลานก็เดินตามหลังลั่วสุ่ยชิง ช่วยนางรักษาอาการบาดเจ็บของนาง“เรื่องมันยาวนะ ยัยบ้า เจ้ายังมีน้ำอีกไหม รีบเอาน้ำมาให้จอมยุทธ์หญิงลั่วดื่มเร็ว”“อ้อ”อินชิงเสวียนหยิบขวดพุวิญญาณออกมาหนึ่งขวด เย่จิ่งหลานก็เอื้อมมือไปหยิบมัน และส่งให้ลั่วสุ่ยชิงดื่มลั่วสุ่ยชิงนั่งขัดสมาธิทันที ปรับลมปราณ หลังจากนั้นไม่นาน สีหน้าของนางก็ดีขึ้นลิ่นเซียวกางนิ้ว กิ่งไม้ก็กลับมาอยู่ในมือของเขาอีกครั้ง“แม่หนูน้อย ข้าให้เวลาเจ้าพักแล้ว มาสู้กันใหม่!”เมื่อเห็นกิ่งไม้หลอมรวมเป็นปราณกระบี่ในมือของเขา อินชิงเสวียนก็รีบคว้าเขาไว้“อาจารย์ นี่คือมิตร”ลิ่นเซียวส่ายผมสีขาว แล้วมองดูนาง “มิตร?”อินชิงเสวียนดึงเขาออกไป“ก็คือพวกเราเอง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1493 วิธีคิดของลิ่นเซียว

    ในช่วงที่เกิดวิกฤติในต้าโจว ฝ่ายของเย่จิ่งหลานก็ตกอยู่ในอันตรายเช่นกันหลังอาหารเย็น เขาได้พูดคุยกับชิงผิงชิงอาน แต่กลับไม่สามารถหาสาเหตุได้ จึงเข้าสู่สมาธิอีกครั้งเข้าสู่ห้วงทะเลแห่งจิต แต่ก็ต้องตกใจกับเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าทั่วทั้งห้วงทะเลแห่งจิตเต็มไปด้วยหมอกสีดำ ลั่วสุ่ยชิงร่างเปลือยเปล่า นั่งขัดสมาธิอยู่ในค่ายกล ขยับมืออยู่ตลอดเวลา ลมปราณแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่าในทันที!“แม่นาง เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?”เย่จิ่งหลานถามอย่างครอบงำมากลั่วสุ่ยชิงยังคงหลับตาแน่น มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นเต็มหน้าผาก“นี่ ลั่วสุ่ยชิง เจ้าไม่เป็นไรนะ?”เมื่อเห็นนางมีท่าทางแบบนี้ เย่จิ่งหลานก็ตื่นตระหนกเล็กน้อยในเวลานี้ เสียงสะท้อนที่ชัดเจนฟังดูเหมือนน้ำใสในห้วงทะเลแห่งจิตก็ตอบกลับมา“เย่จิ่งหลาน มาช่วยข้าที ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในต้าโจว แต่รู้สึกได้ว่าร่างกายของชิงฮุยอ่อนแอ แก่นวิญญาณของข้าได้กลับมาควบคุมร่างกายบางส่วนแล้ว เสี้ยววิญญาณนี้คือกุญแจสำคัญ ว่าเจ้าและข้าจะสามารถกลับไปได้หรือไม่”เย่จิ่งหลานได้ยินเสียงของลั่วสุ่ยชิงเป็นครั้งแรก จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น“เจ้าพูดได้แล้ว?”ลั่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1492 เขาเป็นคนบ้า

    ลิ่นเซียวตะโกนเสียงดัง ปราณกระบี่บนท้องฟ้าก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ปราณกระบี่นับพันรวมตัวกันในที่จุดเดียวอีก และปราณกระบี่สีทองก็เปล่งประกายด้วยแสงสีทองพร่างพราว เทียบเคียงกับความรุ่งโรจน์ของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ปราณกระบี่อันทรงพลังสามารถสะเทือนขุนเขา สะท้านสวรรค์!ช่างเป็นกระบี่ที่น่าตกใจจริงๆ!ใบหน้าของชิงฮุยแสดงสีหน้าเคร่งขรึมเป็นครั้งแรกคนผู้นี้สมแล้วที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขา!ปราณโคจรไปทั่วร่าง มีหมอกสีดำลอยขึ้นมาทั่วตัว ร่างนั้นปรากฏขึ้นในหมอกรางๆ ดวงตาทั้งคู่เกือบจะเสียตาขาวไปทั้งหมด ทั้งร่างถูกปกคลุมไปด้วยชั้นสีดำ ซึ่งทั้งแปลกและน่าสะพรึงกลัว!เพียงชั่วพริบตา กระบี่ก็ร่วงหล่นและหมอกก็หายไปอากาศเงียบสงบอย่างน่าขนลุก ไม่มีเสียงใดๆ แม้แต่เย่จิ่งอวี้และคนอื่นๆ ที่โจมตีอินชิงเสวียนก็ยืนนิ่งในเหตุการณ์ ชิงฮุยค่อยๆ ลุกขึ้นยืน มีเลือดไหลออกมาจากมุมปากลิ่นเซียววางมือข้างหนึ่งไพล่หลัง ยืนตระหง่านต้านสายลมอินชิงเสวียนดีใจ สำเร็จแล้ว!นางรีบวิ่งไปหาลิ่นเซียว“อา...”“อาจารย์!”วินาทีต่อมา ความประหลาดใจของอินชิงเสวียนกลายเป็นความตกใจหน้าอกของลิ่นเซียวกลายเป็นสีแดงเลือด มีเล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1491 เทพกระบี่ลิ่นเซียว

    “อย่างเจ้าน่ะรึ?”ชิงฮุยขยับมือทำท่ามุทรา ครั้นแล้วนักพรตเทียนชิง เฮ่อยวน และเหมยชิงเกอก็ตีล้อมลิ่นเซียวทันที“อาจารย์ ท่านระวังด้วย พวกเขาสูญเสียสติสัมปชัญญะไปแล้ว”ลิ่นเซียวแค่นเสียงอย่างเย็นชา ยกกิ่งไม้ในมือขึ้นสู่ท้องฟ้า มันได้กลายเป็นปราณกระบี่ขนาดใหญ่ ดูเหมือนว่าทั้งสามจะรู้ว่าสิ่งนั้นทรงพลังเพียงใด ท่าทางการโจมตีก็ช้าลงดวงตาทั้งคู่ของอินชิงเสวียนเบิกกว้าง ฉายแววปีติยินดีในใจ สมแล้วที่เป็นเทพกระบี่ ไม่ได้พบนานหลายเดือน ดูเหมือนทักษะกระบี่ของลิ่นเซียวจะก้าวหน้าขึ้นมากชิงฮุยเลิกคิ้วขึ้น“คิดไม่ถึงว่าในต้าโจวจะมีคนที่มีความสามารถเช่นนี้”เขาขยับนิ้วเล็กน้อย ทำท่ามุทราอีกครั้ง จากนั้นก็ส่งอีกหลายคนออกไปโจมตีลิ่นเซียว แรงกดดันของอินชิงเสวียนลดลงอย่างกะทันหัน ในใจรู้สึกเสียใจอย่างมากหากอดทนรออีกหน่อย คงไม่ต้องใช้รีบเรียกใบมีดทะมึนออกมา ตอนนี้ไม่สามารถเรียกมันออกมาได้แล้ว ได้แต่หวังว่าสหายชาวยุทธ์จะมาช่วยเหลือเขาในใจย่อมตระหนักดี ความคิดนี้เป็นไปไม่ได้ ชาวยุทธ์จำนวนมากมารวมตัวกันในเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง ยกเว้นลิ่นเซียวแล้ว จะหากำลังคนได้จากที่ไหนอีก จากนั้นก็เริ่มเป็นห่วง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1490 ผู้ช่วยที่คาดไม่ถึง

    อินชิงเสวียนยื่นมือออกไปเรียกพิณการเวก ใช้คลื่นเสียงหยุดการโจมตีของยอดฝีมือทั้งหลาย ชิงฮุยไม่ได้ลงมือใดๆ แต่กลับนั่งมองดูอย่างสงบอินชิงเสวียนรู้สึกกังวลและหงุดหงิด แต่คนที่อยู่ตรงหน้าล้วนเป็นเพื่อนสนิทและญาติของตัวเอง จึงไม่สามารถลงมือรุนแรงได้ แม้ว่าการใช้งานทักษะห้าสิบห้าสิบจะขยายเวลาออกไป แต่อย่างไรก็มีขีดจำกัด เมื่อหมดเวลาใช้งาน นางก็จะได้รับผลสะท้อนกลับเช่นกันนางต้องทำลายสถานการณ์นี้โดยเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นยิ่งใช้เวลานานเท่าไหร่ ก็ยิ่งส่งผลเสียต่อตัวเองมากขึ้นเท่านั้นวินาทีถัดมา อินชิงเสวียนสิ้นหวังอย่างสิ้นเชิงนางเห็นเฮ่อยวน เหมยชิงเกอ และนักพรตเทียนชิงทะยานเข้ามาหาตัวเอง โดยใช้เคล็ดวิชาลับของแต่ละสำนักในการโจมตีแสงสีขาวและสีม่วงสองดวงเกาะเกี่ยวพันกัน อินชิงเสวียนก็ถูกโจมตีบนไหล่ทั้งสองข้าง กระอักเลือดออกมา หน้าซีดเผือดเหมือนคนตายนับตั้งแต่ที่ข้ามภพมาถึงตอนนี้ นางต้องเผชิญกับอันตรายมากมาย แต่ก็ไม่เคยมีสักครั้งที่นางไม่มีความหวังที่จะมีชีวิตรอดเหมือนตอนนี้แม้ว่าตอนนี้นางจะเข้าไปในมิติได้ แต่จะมีประโยชน์อะไรล่ะ คนรักและญาติของนางล้วนกลายเป็นหุ่นเชิดของชิงฮุย หากนางถู

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1489 ใช้ไพ่ตายทั้งหมด

    หลังจากที่ชิงฮุยพูดจบ ก็มีเสียงดังขึ้นจากด้านนอกลานบ้าน เจ้าสำนักเฮ่อ เซี่ยวอิ่นหวน ผู้อาวุโสสวี และเจ้าสำนักคนอื่นๆ ต่างก็ปรากฏตัวขึ้นที่ลานบ้าน“คารวะนายท่าน!”ภายใต้สายตาที่ตกตะลึงของอินชิงเสวียน ทุกคนโค้งคำนับ ซึ่งเป็นการคำนับที่ถ่อมตัวและให้ความเคารพสูงสุดชิงฮุยเป่าปากเป็นเสียงแหลมยาวอีกครั้ง ผู้ที่ปรากฏตัวขึ้นก็คือ เย่จิ่งอวี้ เฮ่อฉางเฟิง ต่งจื่ออวี๋ และศิษย์รุ่นเยาว์เหมือนกับเก่อหงยวนอินชิงเสวียนแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง เย่จิ่งอวี้สามีของนางกำลังโค้งคำนับให้ชิงฮุยแม้แต่อินชิงเสวียนเองก็รู้สึกเวียนหัว อยากจะคุกเข่าลงคำนับเขาเช่นกัน“ฮ่าฮ่าฮ่า!”ชิงฮุยหัวเราะร่วนอย่างดุเดือด นี่เป็นครั้งแรกที่ใบหน้าของเขาเสียการควบคุม“ทุกสิ่งที่ข้าต้องการ จะเป็นของข้าในที่สุด ผลลัพธ์นี้ แม่นางอินพอใจหรือไม่”อินชิงเสวียนทั้งตกใจและโกรธ“วิกลจริต เจ้าควบคุมพวกเขาเหมือนหุ่นเชิดไร้อารมณ์ บ้านเมืองเช่นนี้ เจ้าได้ไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร”ชิงฮุยยิ้มช้าๆ“ใครบอกเจ้าว่าข้าต้องการบ้านเมือง สิ่งที่ข้าต้องการนั้นมันสูงส่งและยิ่งใหญ่กว่านั้น”อินชิงเสวียนถามด้วยความตกใจ “เจ้าต้องการอะไร หรือว่

DMCA.com Protection Status