Share

บทที่ 418 พิษกู่กำเริบ

Author: ม่อเยี่ยน
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
ในขณะที่อาซือหลานต้องการกลับไปที่เจียงวู เย่จั้นก็กำลังควบม้าพาทหารศึกไปยังเมืองซุ่ยหาน

เมื่อเดินทางมาถึงปากแม่น้ำไป๋เจียง จู่ๆ ก็รู้สึกเจ็บหน้าอกขึ้นมา จึงผ่อนฝีเท้าให้ช้าลง

ทหารที่อยู่ข้างกายรีบถามขึ้นว่า “ท่านอ๋อง มีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่?”

เย่จั้นส่ายหน้า

“ไม่มีอะไร เตรียมข้ามแม่น้ำ”

เขาพลิกตัวลงจากหลังม้า แต่กลับรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งกัดที่หัวใจ เขาเจ็บปวดจนหน้ามืด เมื่อฝีเท้าไม่มั่นคงก็คุกเข่าลงที่พื้นในทันที

เหล่าทหารพากันตกใจยกใหญ่ รีบเข้าไปช่วยพยุงเขาไว้

“ท่านอ๋อง เป็นอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

เย่จั้นจับข้อมือขององครักษ์เอาไว้ บอกว่าตัวเองไม่เป็นอะไร แต่ทว่ากลับรู้สึกปวดบิดที่หัวใจ

“หัวใจของข้า...”

เหงื่อเม็ดละเอียดผุดขึ้นเต็มหน้าผากของเย่จั้น

หรือว่าพิษสะกดจิตที่อาซือหลานพูดจะเป็นเรื่องจริง?

เมื่อเห็นว่าเย่จั้นสีหน้าซีดขาว พูดจาลำบาก เหล่าทหารต่างสีหน้าเปลี่ยนในทันที

“แพทย์ทหาร รีบมานี่สิ”

ผู้เฒ่าคนหนึ่งสะพายหีบยาวิ่งขึ้นมาด้านหน้า เมื่อจับชีพจรของเย่จั้นได้ กลับสัมผัสไม่พบสิ่งผิดปกติใด จึงร้อนใจเล็กน้อย

“ท่านอ๋องรู้สึกไม่สบายที่ใดพ่ะย่ะค่ะ?”

เย่จั้นพยายามอ้าปาก แต่ยัง
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 419 ออกรบ

    ณ เมืองหลวงวันนี้ต้องออกรบ สองพ่อลูกตระกูลอินมายังสนามฝึกแต่เช้าตรู่อินจ้งก็เหมือนกับกวนฮั่นหลิน ได้รับความเคารพและศรัทธาอย่างสูงในกองทัพเหล่าทหารรู้ว่าแม่ทัพในการเดินทางครั้งนี้คืออินจ้ง พวกเขาต่างยืนตัวตรง และแสดงความนับถือผ่านสายตากวนเซี่ยวในชุดเครื่องแบบทหารยืนอยู่ข้างๆ ใบหน้าที่หล่อเหลาเย็นชาขึ้นมากตอนนี้เขาได้รับตำแหน่งนายกองทหารติดตามทัพชั่วคราว นับว่ามีตำแหน่งทางทหาร เมื่อมองดูเหล่านายทหารที่เกรียงไกร จิตใจของกวนเซี่ยวก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาก่อนหน้านี้เขาถูกอาซือหลานหลอกลวง และเข้าวังไปลอบแทงฝ่าบาท ฝ่าบาทปล่อยผ่านเรื่องนี้ให้แล้วกันไป และยังรักษาท่านปู่ของเขาอย่างสุดความสามารถกวนเซี่ยวได้เห็นความใจแคบของตัวเองอย่างชัดเจน ตอนนี้หวังเพียงสร้างคุณงามความดีจากการชนะสงคราม เพื่อแก้ไขในสิ่งที่ทำผิดพลาด และยิ่งต้องการฆ่าศัตรูในสนามรบอย่างห้าวหาญ เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของตระกูลกวนกลองทหารดังขึ้นสามครั้ง อินจ้งเดินขึ้นไปบนแท่นแม่ทัพอินปู้อวี่และกวนเซี่ยวแบ่งกันยืนซ้ายและขวาด้วยความกระปรี้กระเปร่าอินจ้งมองไปรอบๆ กองทหารแล้วพูดด้วยจิตวิญญาณที่เต็มเปี่ยม“กลุ่มเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 420 ความกังวล

    “ทำไมหรือเพคะ?”อินชิงเสวียนถามขึ้นอย่างว่องไว“ไม่มีอะไร”เย่จิ่งอวี้จึงเดินขึ้นรถม้าไปอินชิงเสวียนขานตอบรับ และอุ้มเสี่ยวหนานเฟิงไว้แน่นการจากลามักทำให้ผู้คนรู้สึกเศร้าโศก อินชิงเสวียนอารมณ์ไม่ดีมากนัก นางจึงไม่พูดสิ่งใดตลอดทั้งทางนางเห็นคนในตระกูลอินเป็นญาติสนิทของตัวเองไปแล้ว ตอนนี้ท่านพ่อและลูกๆ ได้ออกจากเมืองหลวงแล้ว ในใจของนางเหมือนมีบางสิ่งขาดหายไป รู้สึกถึงความโหวงเหวงเสี่ยวหนานเฟิงราวกับรับรู้ได้ว่าท่านแม่ไม่ค่อยมีความสุข เขาจึงพยายามเอาใบหน้าเล็กๆ ไปแนบกับนาง มือน้อยๆ ของเขาลูบใบหน้าของอินชิงเสวียน ราวกับกำลังปลอบใจนาง ปากเล็กๆ กำลังพูดพึมพำเมื่อเห็นลูกชายที่น่ารักและรู้ความเช่นนี้ อินชิงเสวียนถอนหายใจเฮือกยาว ไม่ควรเอาอารมณ์ของตัวเองมาลงกับลูกเช่นนี้ เพราะมันไม่ยุติธรรมสำหรับลูกเลยนางตั้งสติขึ้นมาใหม่อีกครั้ง หอมลงบนใบหน้าของเสี่ยวหนานเฟิง และอุ้มเขาเข้าไปในตำหนักจินหวูเมื่อเข้ามาในประตูตำหนัก เสี่ยวหนานเฟิงก็ขมวดคิ้วสีอ่อนของเขาในทันที มือน้อยๆ พยายามชี้ออกไปด้านนอก“ออก บิน~”เมื่ออยู่กับลูกมาเป็นเวลาที่ค่อนข้างนาน อินชิงเสวียนจึงพอเข้าใจความต้องการของเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 421 พรอันล้นหลาม

    “เช่นนั้นก็ดีเพคะ หวังว่าครั้งนี้ดินปืนจะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ถูกต้อง”อินชิงเสวียนรินชาให้เย่จิ่งอวี้หนึ่งแก้ว และนั่งลงบนเบาะนุ่มเสี่ยวหนานเฟิงเอื้อมมือไปที่แก้วชาในทันทีทำปากจู๋และพูดว่า “ดื่มๆ…”อินชิงเสวียนสัมผัสแก้วชาเล็กน้อย และแกล้งดึงมือกลับด้วยความกลัว“ร้อน ดื่มไม่ได้ เจ้าหิวแล้วใช่หรือไม่ แม่จะไปชงนมให้เจ้าดื่มนะ”เสี่ยวหนานเฟิงประสานมือน้อยสองข้างไว้ด้วยกัน เลียนแบบท่าทางของไป๋เสวี่ย เพื่อทำความเคารพอินชิงเสวียนด้วยการประสานมือทั้งสองขึ้นในระดับหน้าอก ปากน้อยๆ ยังคงพูดพึมพำในสิ่งที่อินชิงเสวียนฟังไม่เข้าใจอีกมากมายอินชิงเสวียนหัวเราะในท่าทางใสซื่อของลูกชายทันที และลูบที่ศีรษะเล็กๆ ของเขาอย่างเบามือ“เด็กดี รอก่อนนะ”เมื่อเห็นเงาหลังที่อรชรอ้อนแอ้นของอินชิงเสวียน เย่จิ่งอวี้เม้มริมฝีปากแล้วยิ้มนี่คือชีวิตในแบบที่เขาต้องการ สงบสุขและสุขใจไม่มีเรื่องแก่งแย่งชิงดีกันในวังหลัง และไม่ต้องกังวลใจกับแผนการห้ำหั่นกันของนางสนมนางกำนัล เชื่อว่านางสนมเหล่านั้นเข้าใจความคิดของเขาแล้วช่วงนี้ไม่มีใครวิ่งไปที่ห้องหนังสืออีกแล้ว สบายหูมากขึ้นไม่น้อยในระหว่างที่คิด อิ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 422 เนื้อเสียบไม้ย่าง

    กระพรวนทองเก็บไว้ในหน้าอกเข้ามาตลอด เพื่อไม่ให้รบกวนเสี่ยวหนานเฟิง เย่จิ่งอวี้หนีบผ้าขนไว้แน่น และหยิบกระพรวนทองออกมาด้วยความระวังไม่มีเสียงใดดังออกมาจากกระพรวน เย่จิ่งอวี้ถอนหายใจช้า และเปิดผ้าขนออกอินชิงเสวียนห่มผ้าให้เสี่ยวหนานเฟิง และนั่งลงที่ข้างโต๊ะ“ฝ่าบาทเห็นสิ่งใดแล้วหรือไม่เพคะ?”เย่จิ่งอวี้ส่ายหน้า“ข้าเห็นเพียงอักษรยันต์กองทัพสวรรค์ลิงไฟที่อยู่ด้านบน เดาไม่ออกว่ามีสิ่งใดเกี่ยวข้องกับข้า”อินชิงเสวียนเคยได้ยินต่งจื่ออวี๋บอกว่า กระพรวนเส้นนี้เกิดจากการก่อตัวของสวรรค์ โลกและมนุษย์ ซึ่งสลักกองทัพสวรรค์ไว้สองกลุ่ม อีกทั้งกระพรวนทั้งสิบลูกส่งผลกระทบต่อเนื่องกันเป็นทอดๆ ภายหลังยังหายไปอีกหนึ่งเส้นกระพรวนทองที่หายไปน่าจะถูกครอบครองไว้โดยผู้ที่ขโมยพิณไป และจะส่งผลต่อเย่จิ่งอวี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งหมายความว่า กระพรวนทั้งหมดต่างส่งกระทบต่อเขา จึงควรหาวิธีในการแก้ไขเพียงแต่อินชิงเสวียนไม่เข้าใจวิชาอาคม จึงไม่สามารถช่วยอะไรได้นางครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วถามขึ้น“ตอนฝ่าบาททรงพระเยาว์เคยเห็นกระพรวนเส้นนี้หรือไม่เพคะ?”“ไม่เคย”เย่จิ่งอวี้พูดอย่างมุ่งมั่นเด็ดขาดในความทรงจำของเขา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 423 ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน

    เสี่ยวหนานเฟิงทำราวกับฟังรู้เรื่อง เขาเบ้ปากด้วยความน้อยใจในทันที และมองอินชิงเสวียนด้วยดวงตาที่แดงก่ำ“กิน กิน!”เขาใช้มือเล็กๆ ชี้ไปที่เนื้อเสียบไม้ ริมฝีปากน้อยขมุบขมิบแจ๊บๆ อย่างอดไม่ได้ พร้อมกับน้ำไหลที่ไหลย้อยลงมาเมื่อมองลูกชายที่น่าสงสารเช่นนี้ เย่จิ่งอวี้ก็ไม่อาจทำใจได้ เขาเดินเข้าไปอ้อนวอน “ให้พวกเรากินสักคำเถอะนะ!”อินชิงเสวียนเวยหน้าขึ้น จึงเห็นเสี่ยวหนานเฟิงน้ำตาคลอเบ้าอยู่ นางก็รู้สึกสงสารเช่นกันทว่าต่อให้สงสารมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถเอาให้เขากินได้ เด็กน้อยอายุเพียงเท่านี้ยังไม่ถึงเวลากินอาหารเลย“ตอนนี้จ้าวเอ๋อร์ยังไม่มีฟัน ไม่มีทางเคี้ยวเนื้อได้แน่เพคะ หม่อมฉันจะไปทำข้าวบดต้มให้เขาสักหน่อย”“อะไรก็ย่อมได้ทั้งนั้น ขอเพียงมีอาหารให้เขาได้กินก็พอ ไม่เช่นนั้นคงน่าสงสารเหลือเกิน”เย่จิ่งอวี้พูดไป สายตาก็เหลือบมองไปที่เนื้อเสียบไม้มันช่างหอมจริงๆ ไม่แปลกที่ลูกชายจะอยากอาหารแบบนี้เด็กอายุหกเดือนกว่า สามารถกินอาหารเสริมได้ในปริมาณที่เหมาะสม ด้านในร้านค้าสะสมคะแนนของอินชิงเสวียนมีครบทุกอย่าง นางแลกอาหารเสริมเด็กที่ดีที่สุดหนึ่งกล่อง เมื่ออ่านรายละเอียดด้านข้างเขียนว่า

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 424 จิ้งอ๋องกลับวัง

    อินชิงเสวียนตื่นตระหนก และรีบคลุมเสื้อผ้าทันทีจิตใจของเย่จิ่งอวี้ต่างจดจ่ออยู่กับเรือนร่างของหญิงตัวเล็กที่อยู่ด้านล่างตัวเขา จึงไม่ได้ยินว่าหลี่เต๋อฝูพูดอะไร?สายตาเย็นชาขึ้นทันที และถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “มีเรื่องอะไร?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ หลี่เต๋อฝูรู้ดีว่าตัวเองมารบกวนเวลาดีๆ ของฝ่าบาทอีกแล้วทว่าท่านอ๋องสิบสามก็สำคัญต่อฝ่าบาทเช่นกัน จึงทำได้เพียงดันทุรังพูดขึ้นอีกครั้งว่า “ท่านอ๋องสิบสามถูกทหารแบกกลับมาที่วังหลวง กระหม่อมไม่ทราบว่าท่านอ๋องได้รับบาดเจ็บอะไร แต่ตอนนี้ยังคงหมดสติและยังไม่ฟื้นขึ้นมาเลยพ่ะย่ะค่ะ”“อะไรนะ?”กามารมณ์ของเย่จิ่งอวี้มลายหายไปราวถูกคลื่นซัดเขาเดินลงพื้นด้วยเท้าเปล่า ทันทีที่เปิดประตูออก เขาก็ลากตัวหลี่เต๋อฝูเข้ามาเสื้อผ้าที่ถอดไว้ลากยาวมากับพื้น และมีรอยแดงจางๆ บนผิวขาวที่เย็นยะเยือก“เจ้าบอกว่าเสด็จอากลับมาแล้วงั้นหรือ?”หลี่เต๋อฝูก้มหน้าลง และพยักหน้าพูดเหมือนไก่จิกข้าวสาร “พ่ะย่ะค่ะ สำนักหมอหลวงเป็นผู้แจ้งกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ”ด้านในห้อง อินชิงเสวียนได้ยินอย่างชัดเจนนางรีบจัดการชุดของตัวเอง สวมรองเท้าและวิ่งออกมา“จิ้งอ๋องได

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 425 เรื่องในอดีต

    หมอหลวงเหลียงเรียบเรียงคำพูดและกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าท่านอ๋องจะถูกบางสิ่งทำลายหัวใจ แต่กลับถูกก้อนกระแสอากาศอุ่นปกป้องหัวใจเอาไว้พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้สีหน้าเคร่งขรึม“เจ้าหมายความว่าอะไร?”หมอหลวงเหลียงครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “อาการของท่านอ๋องแปลกประหลาดมากทีเดียว หัวใจถูกทำลาย เดิมทีควรถึงแก่ชีวิต แต่กลับมากระแสอากาศที่มองไม่เห็นปกป้องท่านอ๋องเอาไว้ อาการป่วยเช่นนี้กระหม่อมไม่เคยเห็นมาก่อน จึงไม่อาจตรวจรู้ได้ในทันท่วงที ฝ่าบาทได้โปรดให้เวลากระหม่อมสักหน่อยเถอะพ่ะย่ะค่ะ”อินชิงเสวียนขมวดคิ้ว หมอหลวงเหลียงพูดเช่นนี้ เกรงว่าต้องใช้เวลาค่อนข้างนานในการรักษา เมื่อลองใช้ความคิดดูแล้ว นางก็หยิบน้ำพุวิญญาณออกมาจากมิติหนึ่งถุง“ฝ่าบาท สามารถให้ท่านอ๋องดื่มน้ำสักหน่อยหรือไม่เพคะ”เย่จิ่งอวี้นึกถึงน้ำพุวิญญาณเหล่านั้นที่ตัวเองได้อาบ เขาไม่เคยถามอินชิงเสวียนมาก่อน แต่กลับรู้ว่าน้ำนั้นไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน หากเป็นเพียงน้ำธรรมดา นางคงไม่เอ่ยขึ้นมาเช่นนี้“ก็ดีนะ”เย่จิ่งอวี้รับถุงน้ำมา และพยุงเย่จั้นขึ้น พร้อมกับป้อนน้ำเขาอยู่หลายคำ ส่วนมากล้วนไหลออกมาจากมุมปากเช่นเดิมเมื่อสัมผัสร่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 426 นี่คงเป็นความรักสินะ

    ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เองอินชิงเสวียนจับมือของเย่จิ่งอวี้ และพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า “ตอนนี้ฝ่าบาทเป็นผู้ควบคุมทั่ว ราชโองการเพียงฉบับเดียวก็สามารถเรียกตัวจิ้งอ๋องกลับมาได้แล้วเพคะ ไม่จำเป็นต้องกังวลใจเพราะเรื่องนี้เลย”เย่จิ่งอวี้ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “ข้ารอคอยให้เสด็จอากลับเมืองหลวงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ในราชสำนักไม่มีผู้ใดมาแทนตำแหน่งของเสด็จอาได้ หากเขาออกจากเมืองซุ่ยหาน เป่ยมู่ต๋าต้องเกิดเรื่องไม่คาดฝันแน่นอน”“นับตั้งแต่เริ่มมีปฐมจักรพรรดิ ทุกพระองค์ล้วนแล้วแต่เน้นบุ๋นละบู๊ ใช้การปกครองอย่างมีเมตตาธรรมมาโดยตลอด ขุนนางฝ่ายบู๊จำนวนมากต้องผลัดเปลี่ยนไปเป็นขุนนางฝ่ายบุ๋น ตอนนี้แม่ทัพในราชสำนักมีระดับที่สูงต่ำแตกต่างกัน ต่างหมดยุคสมัยไปแล้วทั้งสิ้น จึงทำได้เพียงกินบำเหน็จรอความตายเท่านั้น หากไม่ใช่เพราะการถ่ายเทน้ำที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ข้าคงออกไปพิชิตเจียงวูกลุ่มน้อยด้วยตัวของข้าเอง”ขณะที่เย่จิ่งอวี้กล่าววาจาเช่นนี้ ออร่าของฮ่องเต้ก็แผ่กระจายออกมาจากด้านใน พลังอำนาจยิ่งใหญ่มหาศาลเมื่อมองใบหน้าที่อ่อนวัยและเข้มแข็งนี้ อินชิงเสวียนก็สามารถรับรู้ถึงความลำบากใจของเขาขุน

Latest chapter

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1466 ความปรารถนาในใจสำเร็จแล้ว

    ไม่ว่าซูเยี่ยจะจำอดีตกับเขาหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่สำคัญสำหรับเย่จิ่งหลานอีกต่อไปแล้วสวรรค์ทำให้เขาได้เจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง อาจเป็นเพราะต้องการให้เขาได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของซูเยี่ย ผู้หญิงประเภทนี้ จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องให้เขาเสียเวลาด้วยซ้ำเขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบแปดปี อนาคตยังอีกยาวไกล ซูเยี่ยเป็นเพียบใบไหม้ที่ร่วงไปจากชีวิตของเขา ไม่มีความสำคัญอะไรเลยเย่จิ่งหลานกระตุกมุมปากขึ้นยิ้ม ค่อยๆ รู้สึกปลอดโปร่งใจเขาเดินออกจากสวนสาธารณะอย่างช้าๆ และทันใดนั้นก็มีอีกคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาใบหน้านี้ไม่ใช่หน้าตาเดิมของเขา ใครเป็นคนทำศัลยกรรมให้เขา?พลังในร่างกาย มาจากไหนกันแน่แล้วผู้หญิงที่อยู่ในหัวของเขา เป็นใครกันแน่หรือว่าเขาฝึกฝนจนสำเร็จเคล็ดวิชาลับบางอย่าง และผู้หญิงคนนั้นคือแก่นวิญญาณของเขา?เย่จิ่งหลานดึงขอบเอวกางเกงของเขาโดยไม่รู้ตัว ไอ้นั่นยังคงอยู่ตรงนั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงคิดว่าตัวเองฝึกฝนวิชาจนกลายเป็นตงฟางปุ๊ป้ายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรแล้วแต่การมีสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร เอามาใช้กินใช้ดื่มไม่ได้ ตอนนี้ท้องของเขาร้องโครกคราก แต่ไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าเลยขณะที่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1459 เรื่องด่วน

    “ไม่ ข้าไม่เคยสงสัยเจ้าเลย ข้าแค่คิดว่า เจ้าและชิงฮุยอาจไม่ได้เป็นแค่ราชาแคว้นกับขุนนางธรรมดาแบบนั้น”อินชิงเสวียนหยุดชั่วคราวและพูดว่า “แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจหลักการวิทยายุทธ์ของแคว้นเฟยเหยา แต่รู้ว่าวิทยายุทธ์แบบเดียวกันนั้นมักจะมีรากเหง้าเดียวกันที่สามารถใช้ค้นหาร่องรอยได้ หากเจ้าใช้ความพยายาม ก็ไม่น่าจะยากที่จะพบตัวชิงฮุย แต่ว่า ที่ข้ามาที่นี่ก็ไม่มามาถามเรื่องเขาทั้งหมด”“โอ้?”ลั่วสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังอินชิงเสวียน“ข้าอยากรู้ หากแก่นวิญญาณของเจ้าและแก่นวิญญาณของชิงฮุยมาพบกันในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน จะเกิดผลที่ตามมาอย่างไร”“ไม่แน่ใจ”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ข้ามีลางสังหรณ์ว่าชิงฮุยอาจทำลายแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลาน ยึดร่างกายของเขา ดังนั้นจึงซ่อนแก่นวิญญาณของตัวเองไว้ในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน โดยใช้วิธีเข้าฝัน...”ลั่วสุ่ยชิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ตามหลักการปกติทั่วไป แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานอาจได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้สมองสดใสน้อยลง แต่ไม่ต้องการให้เขาหายตัวไปโดยสิ้นเชิง เมื่อข้าลองใช้วิธีการเข้าฝันอีกครั้ง แต่ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงลมปราณของเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1458 ขายความน่ารัก

    เสี่ยวหนานเฟิงกางมือเล็กๆ ออก แล้วถามด้วยน้ำเสียงแหลมใสไร้เดียงสาว่า “ภารกิจอะไรอ่ะ”“ไปหาพี่สาวลั่ว”อินชิงเสวียนหยิบน้ำพุวิญญาณออกมาล้างมือที่สกปรกของเสี่ยวหนานเฟิง จากนั้นเช็ดด้วยผ้าเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อ“อีกประเดี๋ยวเจ้าต้องขายความน่ารัก แม่จะถือโอกาสถามอะไรบางอย่าง”เสี่ยวหนานเฟิงดูสับสน กะพริบตาโตแล้วถามว่า “ขายความน่ารักหมายความว่าอย่างไร ต้องขายให้ได้เงินมากไหม”อินชิงเสวียนหัวเราะเบาๆ“ท่าทางตอนนี้ของเจ้าก็น่ารักบ้องแบ๊วอยู่แล้ว ให้เป็นแบบนี้ต่อก็พอแล้ว”เสี่ยวหนานเฟิงตอบว่าอ้อ และทันใดนั้นก็พูดอย่างตื่นเต้น “พี่สาวลั่วทำหน้าอมทุกข์อยู่ตลอด เราเอาให้ลูกกวาดให้นางก็ได้นะ”อินชิงเสวียนพยักหน้าเห็นด้วย“อื้ม นี่เป็นความคิดที่ดี”นางโบกมือและหยิบถุงลูกกวาดมาจากมิติ“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็มอบให้พี่สาวลั่วนะ”“ตกลง”เสี่ยวหนานเฟิงยื่นมือเล็กๆ ออกมาเพื่อหยิบมัน แล้วถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนิ่ม “ลูกได้ยินจากเสด็จพ่อบอกว่าอาจิ่งหลานหายไป ท่านแม่หาลุงเจอไหม”อินชิงเสวียนถอนหายใจ “ไม่รู้ บางทีเขาอาจจะกลับไปยังที่ของตัวเองแล้ว สำหรับเขาแล้ว แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”เสี่ยวหนานเฟิงเอียง

DMCA.com Protection Status