แชร์

บทที่ 242 ตักเตือน

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-01-26 16:00:00
เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าลง

“สวีจือย่วนเป็นอะไร?”

เห็นได้ชัดว่าหานปิงไม่รู้ว่าฝ่าบาทอยู่ที่นี่ด้วย สีหน้าจึงเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“หม่อมฉันขอถวายบังคมฝ่าบาท พระสนมนาง... นางปวดท้องนิดหน่อยเพคะ”

เย่จิ่งอวี้ควบตาคมแน่น พูดขึ้นเสียงเรียบ “ในเมื่อไม่สบาย เจ้าก็ควรไปหาหมอหลวง เหตุใดจึงต้องมาหาเหยาเฟย?”

สายตาของฮ่องเต้เต็มไปด้วยความกดดัน หานปิงจึงมีเหงื่อไหลเต็มตัวในทันที

“พระสนมบอกว่าอยากพบเหยาเฟย หม่อมฉัน... หม่อมฉันจึงรีบมาแจ้งข่าวเพคะ”

อินชิงเสวียนเหลือบมองหานปิง จู่ๆ สวีจือย่วนจึงนึกขึ้นได้ว่านางเคยเชิญพี่ใหญ่ไปยังที่พักของนาง และวันนี้นางก็ได้พบกับพี่ใหญ่พอดี หรือว่า... เขามางั้นหรือ?

เมื่อคิดได้เช่นนั้นจึงรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา ค้อมตัวลงและพูดว่า “ฝ่าบาท หม่อมฉันไปดูดีกว่าเพคะ”

เย่จิ่งอวี้ครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ไปด้วยกันสิ เสี่ยวอานจื่อ ไปตามหมอหลวงมา”

สีหน้าของหานปิงผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งทำให้อินชิงเสวียนมั่นใจในความคิดของตัวเอง

“ฝ่าบาททรงเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว พักอยู่ที่ตำหนักจินหวูก่อนเถอะเพคะ หม่อมฉันไปเดี๋ยวเดียวก็จะกลับ”

อินชิงเสวียนคิดจะไป กลับถูกเย่จิ่งอ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
เห้ย พราย
ทำให้เขารักเร็วขึ้นไม่ได้หรอค่ะ......
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 243 ข้ายอมแหวกโค่นดงหนามเพื่อเจ้า

    แสงจันทร์สีซีดสะท้อนดวงตาสีเข้มของเย่จิ่งอวี้ให้เป็นประกายยิ่งขึ้น ราวกับว่าซ่อมทะเลแห่งดวงดาวไว้ด้านใน ทำให้ผู้คนมัวเมาอย่างอดไม่ได้อินชิงเสวียนหลงกลเล็กน้อย จึงพยักหน้าราวกับไก่จิกข้าวสารและพูดขึ้นว่า “เป็นความจริงแน่นอนเพคะ”เย่จิ่งอวี้มองนางและยิ้มออกมา พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่คลายลง “นั่นเป็นความรู้สึกที่ซับซ้อนมาก เมื่อก่อนข้าก็เคยคิดว่านั่นคือความโปรดปราน จู่ๆ ตอนนี้ก็รู้สึกว่าไม่ใช่ ความรักที่มีต่อเจ้า ไม่เหมือนที่มีต่อนางเลยสักนิด”อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะพูดแขวะในใจ ความรู้สึกของเย่จิ่งอวี้ก็เป็นเพียงแค่เด็กน้อย ทุกคนต่างก็พอๆ กัน อย่าได้มีใครหัวเราะเยาะกันเลย“หม่อมฉันยังนึกว่าฝ่าบาทตกหลุมรักแรกพบกับพระสนมสวีเสียอีก ไม่เช่นนั้นเหตุใดจึงรีบร้อนช่วยนางในวันนั้นเพคะ”“ข้าช่วยนาง เป็นเพราะข้าเห็นปานที่หัวไหล่ของนาง”เย่จิ่งอวี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดขึ้นว่า “ตอนที่ข้าอายุยังน้อย ข้าเคยแอบหนีออกนอกวังกับเสร็จอาสิบสาม จากนั้นก็เจอคนตามฆ่าและพลัดหลงกับเสด็จอา ตอนนั้นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งช่วยข้าไว้ และพาข้าไปซ่อนไว้ที่วัดร้างแห่งหนึ่ง และรอการช่วยเหลือจากทหารองครักษ์ ข้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-26
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 244 เหน็บแนม

    วันต่อมาตอนที่อินชิงเสวียนตื่นขึ้นมา เย่จิ่งอวี้ก็ออกไปแล้วนางหาวและลุกขึ้นนั่งด้วยความงัวเงียอวิ๋นฉ่ายยกน้ำเข้ามาจากด้านนอกพอดี“พระสนม ตื่นแล้วหรือเพคะ?”“ใช่ ฝ่าบาทออกไปตอนไหนกัน?”อินชิงเสวียนบิดขี้เกียจ และลงจากเตียงอวิ๋นฉ่ายเม้มปากหัวเราะ “ออกไปได้หนึ่งชั่วยามแล้วเพคะ และยังกำชับพวกเราอีกว่า อย่ารบกวนการนอนของพระสนม ฝ่าบาทช่างดีต่อพระสนมจริงๆ”จู่ๆ อินชิงเสวียนก็นึกถึงคำพูดเมื่อคืนนี้ของเย่จิ่งอวี้ และหัวใจก็เต้นแรงขึ้นมานางรีบส่ายหัวในทันที ไม่จริง ไม่ใช่เรื่องจริงต้องเป็นเพราะบรรยากาศที่น่าหลงใหลยามค่ำคืน เขาจึงพูดคำเหล่านั้นออกมาเดินไปที่อ่างล้างหน้าและล้างหน้า ทันใดนั้นก็เห็นเงาสีขาวผ่านเข้ามาอวิ๋นฉ่ายร้องขึ้นมาในทันที “อ๊าย ไป๋เสวี่ย เจ้าเข้ามาได้อย่างไร?”ไป๋เสวี่ยยืนขึ้น ต้องการที่จะไปดื่มน้ำในอ่างล้างหน้า มันเข้าไปใกล้และสูดดม จากนั้นก็ถอยออกไปสุนัขตัวนี้จมูกดีเสียจริง คงรู้ว่านี่ไม่ใช่น้ำพุวิญญาณในระหว่างที่คิด ก็ได้ยินเสียงตะโกนของเสี่ยวอานจื่อ “เหนียงเหนียง คนของตำหนักเฉิงเทียนมาตามหาไป๋เสวี่ยพ่ะย่ะค่ะ”ไป๋เสวี่ยรีบไปซ่อนตัวอยู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-26
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 245 รักคนคนหนึ่ง

    อินชิงเสวียนยิ้มเบาๆ และพูดว่า “ซื้อขาย ซื้อขาย ถ้าไม่มีคนซื้อ จะมีคนขายได้อย่างไร สนมฉู่ก็เคยได้รับผลประโยชน์ด้วยไม่ใช่หรือ แค่ไม่กี่วันก็ลืมแล้วงั้นหรือ?”ฉู่หลิงอวี้กระแอมไอเสียงแห้งและพูดว่า “อย่างไรผู้อื่นก็ซื้อด้วยเช่นกัน เหตุใดข้าจะซื้อบ้างไม่ได้”น้ำเสียงของอินชิงเสวียนเย็นชา และพูดออกมาทีละคำ “ในเมื่อซื้อไปแล้ว ก็อย่าได้พูดจาไร้สาระเลย ข้าจะขายหรือไม่ขาย ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้าเลยสักนิดเดียว”ทว่าเมื่อฉู่หลิงอวี้พูดออกมาเช่นนี้ ทำให้นางนึกขึ้นได้เรื่องที่จะทำการขายผ้าอนามัยเสี่ยวอานจื่อหันหลังกลับมา และจ้องฉู่หลิงอวี้ด้วยสายตาที่โหดเหี้ยม พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสูงแหลม “เรื่องบ้าบอของท่านช่างมากมายเสียเหลือเกิน”“เจ้า...”ฉู่หลิงอวี้โมโหจนหน้าซีดขาวเสี่ยวอานจื่อเป็นคนของอินชิงเสวียน นางไม่กล้าสั่งสอนอย่างแน่นอน ทำได้เพียงจ้องท้ายทอยของเสี่ยวอานจื่อด้วยความโกรธเคือง หากมีสักวันที่ข้าได้รับความโปรดปราน แล้วเราจะได้เห็นดีกัน“เราไปกันเถอะ”อินชิงเสวียนกระตุกยิ้มขึ้นมาที่มุมปากนางมีตำแหน่งเป็นถึงเหยาเฟย จะต้องรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองไว้ บางคำพูดก็ไม่ควรพูดแรงเกิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-26
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 246 เจ้าต้องช่วยข้าป่าวประกาศ

    ไม่สนว่าจะได้ผลหรือไม่ ผูกสัมพันธ์ที่ดีไว้ก่อนจะดีกว่าอย่างไรเสียฝ่าบาทก็มาที่ตำหนักจินหวูทุกวัน อีกครู่หนึ่งก็จะออกจากราชสำนักแล้ว ซูฉ่ายเวยมาที่นี่ก็เพื่ออยากลองเสี่ยงดู“ไม่มีปัญหา ตามข้าเข้ามาในตำหนักสิ” อินชิงเสวียนตอบรับอย่างสบายๆหากเมินเฉยต่อการหาเงินถือเป็นคนโง่ หนึ่งหรือสองตำลึงก็นับเป็นเงินยายหลี่รีบเข้าไปรับตัวเสี่ยวหนานเฟิง เพราะว่ามีไป๋เสวี่ย วันนี้เจ้าเด็กดื้อตัวน้อยจึงไม่ค่อยร้องหาอินชิงเสวียนมากเท่าไรทั้งสองกำลังเดินเข้าตำหนัก กลับได้ยินเซียงหลานร้องตะโกนด้วยความตกใจ “เหนียงเหนียง กระโปรงของท่าน”“ทำไมงั้นหรือ?”ซูฉ่ายเวยขมวดคิ้ว จู่ๆ ก็นึกบางสิ่งขึ้นมาได้ และอดไม่ได้ที่จะทำสีหน้าตื่นตกใจ“มีอะไรไหลออกมาใช่หรือไม่?”เซียงหลานพยักหน้าซูฉ่ายเวยรีบถกกระโปรงผ้าแพรของตัวเองขึ้น และได้เห็นรอยเลือดอยู่บนนั้นทันที ใบหน้าก็แดงก่ำขึ้นมา“ข้าขอตัวกลับก่อน วันอื่นค่อยมาใหม่”อินชิงเสวียนกำลังอยากขายผ้าอนามัยพอดี จะปล่อยนางไปได้อย่างไร จึงรีบคว้าแขนของซูฉ่ายเวยเอาไว้“ไม่เป็นไร ข้าจะนำของดีมาให้เจ้า รับรองว่าเจ้าจะสบายตัวไปทั้งวัน และนอนหลับอย่างดีทั้ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-27
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 247 เจ้าเห็นเงินดีกว่าข้าเสียอีก

    อินชิงเสวียนเรียกอวิ๋นฉ่ายเข้ามา ให้นางนำสาวใช้และแป้งมาด้วย ส่วนตัวเองก็เข้าไปในมิติและเก็บเงินให้ดีตอนนี้นางเก็บสะสมเงินได้ไม่น้อยแล้ว เพียงแต่ความปรารถนาของคนไม่มีที่สิ้นสุด ไม่เคยพึงพอใจกับความต้องการในเงินตรา ตอนที่มีร้อยตำลึงก็อยากได้พันตำลึง เมื่อมีพันตำลึงก็ขวนขวายจะเอาหมื่นตำลึง ตอนนี้อินชิงเสวียนก็ถือว่าเป็นผู้ที่มีทรัพย์สินนับหมื่นตำลึง แต่กลับอยากได้มากกว่านั้น โดยเฉพาะไข่มุกที่ส่องประกายเหล่านั้น เพียงแค่มองก็หาได้ยากยิ่งอินชิงเสวียนกอดไข่มุกเม็ดโตของนางแล้วจูบมันสองครั้ง จากนั้นก็เก็บเกี่ยวพืชผลเป็นชุด เนื่องจากนางต้องการขายเมล็ดพันธุ์ อินชิงเสวียนไม่ได้แปรรูปสินค้าในรอบนี้ จากนั้นก็ได้ค้นพบข้อดี การเก็บเกี่ยวที่ดินหลังจากที่ได้อัพเกรด จะได้คะแนนสะสมถึงห้าร้อยแต้มหากอัพเกรดอีกสองสามครั้ง คะแนนสะสมก็จะเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อย ดูเหมือนว่าความต้องการที่จะซื้อปืนก็มีความเป็นไปได้บ้างแล้ว บางทีอาจจะสามารถเอารถถังขับออกไปได้เดิมทีนางปล่อยให้มิติทำงานตามอิสระ จู่ๆ ตอนนี้นางกลับมีความหวังขึ้นมาใหม่อีกครั้งอินชิงเสวียนปลูกพืชผลด้วยความดีใจ หลังจากรดน้ำด้วยน้ำพุวิญญาณแล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-27
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 248 คิดร้าย

    อินชิงเสวียนประสานมือคำนับ ยิ้มและพูดขึ้นว่า “แม่นางช่างมีสายตาแหลมคมทีเดียว เพียงมองปราดเดียวก็จำข้าได้”วันนั้นนางปลอมตัวเป็นผู้ชายไปที่เรือนจุ้ยหงเพื่อตามหากวนเซี่ยว จึงได้พบกับฟางรั่ว“เรื่องที่แม่นางอยากซื้อเมล็ดพันธุ์ ไม่ทราบว่าต้องการมากเท่าไรขอรับ?”ฟางรั่วหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ข้าอยากปลูกไว้ในลานบ้านของข้า ต้องการไม่มากนักหรอก”หลิวเหล่าไท่ไท่ถามขึ้นอยากแปลกใจ “ครั้งก่อนแม่นางบอกว่า มีเท่าไรก็เอาเท่านั้นไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”ฟางรั่วพูดขึ้นด้วยความกระอักกระอ่วนใจ “ตอนนั้นข้าอยากซื้อลานบ้านไว้ในเมืองหลวงสักแห่ง จึงอยากปลูกเป็นจำนวนมาก ตอนนี้กลับซื้อลานบ้านไม่สำเร็จ จึงซื้อเมล็ดพันธุ์ได้ไม่มากนัก”อินชิงเสวียนอดที่จะผิดหวังไม่ได้“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง ทว่าของแบบนี้ไม่เหมาะสมที่จะปลูกไว้ในลานบ้าน แม้จะปลูกไปแล้วก็จะได้ผลผลิตไม่มาก แม้นางปลูกผักสดหรือผลแตงจะเหมาะสมมากกว่า”ฟางรั่วทำเสียงอ๋อ น้อมตัวลงและพูดว่า “ข้ามีคันนาเพียงสองแถวเท่านั้น หากทำไม่ได้ก็คงต้องปลูกอย่างอื่นแล้วล่ะ ต้องขอโทษที่รบกวนด้วย เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน”เมื่อมองเงาหลังของฟางรั่ว หลิวเหล่าไท่ไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-27
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 249 สุราดี

    อินชิงเสวียนหันม้ากลับในทันที“เชิญท่านอ๋อง!”“เชิญ”เย่จั้นกำปั้นกำไว้ที่หน้าอก ยืดเอวนั่งหลังตรง ท่าทางราวกับต้นไผ่ สูงตระหง่านไม่ธรรมดาท่าทีของพลทหารเช่นนี้ ทำให้อินชิงเสวียนเกิดความเลื่อมใสศรัทธา อีกประเดี๋ยวจะเข้าไปแลกสุราดีในมิติ ให้เขาลองชิมเสียหน่อยในระหว่างที่ครุ่นคิด เย่จั้นก็ควบม้าของเขาไป“ที่นี่เป็นอย่างไร?”อินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้นมอง ทันใดนั้นก็เห็นป้ายขนาดใหญ่แขวนอยู่ด้านบน โดยมีตัวอักษรสี่ตัวว่าโรงเตี๊ยมจวี้เสียนเขียนอยู่บนนั้น ซึ่งมีเสน่ห์แบบโบราณเป็นอย่างมากยิ้มเบาๆ และพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋องชอบก็พอแล้วขอรับ”ทั้งสองลงจากม้าพร้อมกัน เย่จั้นสังเกตเห็นสิ่งที่อินชิงเสวียนเหยียบ จึงถามขึ้นอย่างประหลาดใจ “นี่คือโกลนม้าที่ฝ่าบาททรงว่าไว้ใช่หรือไม่?”อินชิงเสวียนพยักหน้าและพูดว่า “ขอรับ ของสิ่งนี้จะช่วยให้คนอยู่บนหลังม้าได้อย่างมั่นคง ท่านอ๋องนำกลับไปด้วยได้นะขอรับ”เย่จั้นขี่ม้าเป็นประจำ จึงรู้ถึงประโยชน์ของมันเป็นอย่างดี อดไม่ได้ที่จะพูดชื่นชมออกมาจากใจ “เป็นของดีจริงๆ เช่นนั้นข้าไม่เกรงใจล่ะ”อินชิงเสวียนยิ้มแล้วพูดว่า “ท่านอ๋องไม่จำเป็นต้องเกรงใจก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-27
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 250 หากเขาไม่ใช่ฮ่องเต้ก็คงจะดีไม่น้อย

    อินชิงเสวียนตกใจเล็กน้อยเย่จิ่งอวี้และเย่จั้นเคยไปตามหาตัวเองที่หอสวดมนต์ด้วยงั้นหรือ?หรือว่าคนสวมหน้ากากที่นางพบในมิติวันนั้น ก็คือพวกเขาสองคน?เมื่อก่อนเคยบ่นว่าเย่จิ่งอวี้ไม่สนใจนาง รู้สึกผิดต่อเขาเสียแล้วเย่จั้นพูดต่อว่า “จิ่งอวี้นิสัยเย็นชา ไม่ค่อยสนิทสนมกับใคร โดยเฉพาะผู้หญิง เขาตีต่อเจ้าเช่นนี้นับเป็นเรื่องที่หาได้ยาก”อินชิงเสวียนกัดริมฝีปากของตัวเอง และกล่าวคำนับ “ขอบพระทัยท่านอ๋องที่บอกเรื่องนี้กับข้า”เย่จั้นพยักหน้าและพูดอีกว่า “บางครั้งการได้รับความโปรดปรานก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไป การทะเลาะกันในวังหลังก็ไม่น้อยไปกว่าสมัยราชวงศ์ก่อน ก่อนที่ท่านพ่อของเจ้าจะกลับเมืองหลวง เจ้าต้องถ่อมตัวให้มาก และอย่าให้ใครมาจับผิดเอาได้ หากใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของเจ้า คงทำให้เกิดเรื่องใหญ่ในราชวงศ์ก่อนอย่างแน่นอน”เย่จั้นน้ำเสียงราบเรียบ แต่ด้านในแฝงไปด้วยความเป็นห่วง ทำให้อินชิงเสวียนรู้สึกซาบซึ้งขึ้นมาคารวะและพูดขึ้น “ขอบพระทัยท่านอ๋องที่ทรงแนะนำ ข้าจะอยู่ในวังหลังอย่างระมัดระวัง เพื่อรอท่านพ่อกลับมา”“เช่นนั้นข้าก็วางใจ”เย่จั้นอ้าปากราวกับจะพูดบางสิ่ง สุดท้ายก็เงียบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-28

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1503 เรื่องราวจบลง

    ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างเย็นชา “แม้แต่เป็นฮ่องเต้ข้ายังไม่สนใจด้วยซ้ำ จะสนใจพระชายาอ๋องได้อย่างไร”“พูดมาก็มีเหตุผล งั้นข้ายังมีที่อื่นที่อยากไป”เย่จิ่งหลานค่อยๆ หยัดกายขึ้นนั่ง หยิบแผนที่ออกมาจากอกเสื้อ“ตอนที่ข้ากำลังเดินทางไปตงหลิว พบว่ามีหลายแคว้นอยู่ใกล้เคียง ทำไมเจ้ากับข้าไม่พยายามพิชิตพวกเขาทั้งหมดล่ะ”ลั่วสุ่ยชิงสาดน้ำเย็นใส่เขาทันที“ตอนนี้เจ้ายังมีความสามารถนั้นอยู่รึ?”“หากเจ้าเต็มใจที่จะบ่มเพาะร่างกายและจิตวิญญาณกับข้า บางทีวรยุทธ์ของข้าอาจจะกลับคืน”ลั่วสุ่ยชิงถูกเขาทำให้โกรธจนกำลังภายในพุ่งสูงขึ้น กระทั่งจุดที่ถูกจี้สกัดได้คลายออก นางตบศีรษะเย่จิ่งหลานทันที“ไร้ยางอาย”“เจ้าหายแล้ว?”เย่จิ่งหลานมีความสุขมาก เขาพยายามคุกเข่า ฝืนยืนขึ้น ร่างกายโงนเงน ล้มลงตรงหน้าลั่วสุ่ยชิง ฉวยโอกาสกอดเอวของนาง“จอมยุทธ์หญิงลั่ว ข้ายืนไม่ไหว โปรดช่วยพยุงข้าด้วย”ใบหน้าของลั่วสุ่ยชิงเปลี่ยนเป็นสีแดง ยกมือขึ้นผลักเขาลงไปที่พื้น เย่จิ่งหลานล้มหงายหลัง เหมือนกับเต่าที่นอนหงายลั่วสุ่ยชิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะงอหาย เมื่อนางหัวเราะมากพอแล้ว ก็ทรุดตัวนั่งลงบนพื้นอย่างเงียบๆ และบ่นว่า “เสด็จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1502 หน้าด้านหน้าทน

    อินชิงเสวียนเหลือบมองเย่จิ่งหลานแวบหนึ่ง“แน่นอนว่ามีคนไม่อยากให้เจ้าไป”เมื่อเห็นเย่จิ่งหลานมองมาทางนี้ ลั่วสุ่ยชิงก็เริ่มวิตกกังวล“ปล่อยข้านะ!”อินชิงเสวียนกระตุกมุมปากยิ้มๆ“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องถามก่อนว่าเขาเห็นด้วยหรือไม่”เย่จิ่งหลานลุกขึ้นยืนโดยมีพี่ชายช่วยพยุงขึ้นอินชิงเสวียนเดินเข้าไปถาม“เจ้าสบายดีไหม มิติของเจ้า พังจริงๆ หรือ”เย่จิ่งหลานพูดอย่างอ่อนแรง “ยังไงตอนนี้ก็ยังมีลมหายใจอยู่ ถ้ามันไม่พัง ชิงผิงกับชิงอานก็คงไม่ได้ออกมา”อินชิงเสวียนมองเขาด้วยความเห็นอกเห็นใจ“นี่เป็นเรื่องที่ร้ายแรง”เย่จิ่งหลานถามอย่างไร้ยางอาย “เฮ้ นี่เจ้าไม่คิดจะดูแลข้าแล้วรึ”อินชิงเสวียนกระตุกริมฝีปากยิ้มๆ“ก็มีคนรอดูแลเจ้าอยู่ไม่ใช่หรือ เจ้าไปเองสิ อาอวี้ เรากลับไปดื่มสุรากันต่อเถอะ”เย่จิ่งอวี้พยักหน้าและตบไหล่เย่จิ่งหลาน“พวกเราช่วยเจ้าได้แค่นี้”เมื่อเห็นว่าหมู่เมฆหายไป ชาวยุทธ์หลายคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เฮ่อยวนแอบโคจรกำลังภายใน พูดเสียงดัง “ตอนนี้เมื่อวิกฤติคลี่คลายแล้ว เฮ่อยวนจึงจัดงานเลี้ยงอีกครั้ง จัดเลี้ยงส่งเพื่อคลายความกังวลให้แก่เพื่อนพ้องในยุทธภพ!”คราวนี้เป็นกา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1501 สายล่อฟ้าปรากฏ

    ทันทีที่เขาพูดจบ ร่างในชุดสีดำก็เหาะมาจากระยะไกล ลอยอยู่บนอากาศคนผู้นี้รูปร่างโปร่ง ชุดผ้าโปร่งสีดำปลิวไปตามสายลม เรือนผมดำขลับสยายออก ในชั่วพริบตา ร่างนั้นก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนาสีดำเมื่อเห็นคนผู้นี้ เย่จิ่งหลานก็พยายามลุกขึ้นยืน“ลั่วสุ่ยชิง เจ้าบ้าไปแล้วหรือ หนีไป!”ลั่วสุ่ยชิงยกมือขวาขึ้นสู่ท้องฟ้า เผชิญหน้ากับเสียงฟ้าคำรน พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เย่จิ่งหลาน เจ้าฆ่าพ่อของข้า ถ้าเจ้าตายแบบนี้ จะไม่ดูถูกเจ้าเกินไปหรือ เจ้าควรจะอยู่ในโลกนี้ต่อไป ทนทุกข์ต่อความเจ็บปวดทีละน้อย!”เย่จิ่งหลานจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าทุกคำที่นางพูดล้วนเป็นพูดด้วยอารมณ์โกรธ ถ้านางไม่มีใจต่อเขา นางจะกลับมาได้อย่างไรอย่างไรก็ตาม ร่างกายของเขาเหมือนกับเส้นบะหมี่ ที่ไม่สามารถยืนตรงได้ จึงไม่สามารถหยุดยั้งลั่วสุ่ยชิงได้เลยเมื่อมองดูร่างเพรียวบางที่ต่อสู้กับฟ้าผ่า พลันรู้สึกเจ็บปวดกระบอกตา หยาดน้ำตาสองหยดร่วงหล่นกลืนหายไปในสายลมในเวลานี้ มีร่างเพรียวอีกร่างหนึ่งลอยออกมา โดยถือวัตถุที่มีลักษณะคล้ายแท่งไม้ขนาดใหญ่อยู่ในมือ มีปลายโค้งยาวมากซึ่งดูแปลกตา“ลั่วสุ่ยชิง ข้าจะใช้สายล่อฟ้าช่วยเจ้า!”ของสิ่งนั้นห

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1500 มิติพังแล้ว

    “จิ่งหลาน!”เย่จิ่งอวี้คว้าคอเสื้อของเขารวดเร็ว หลบหลีกการโจมตีได้อย่างหวุดหวิดตูม!อสุนีบาตฟาดเปรี้ยง บนพื้นมีหลุมลึกเกิดขึ้น ทุกคนล้วนหวาดกลัวกับฟ้าที่ผ่าลงมา ต่างใช้วิชาตัวเบาหนีไปทุกทิศทางอินชิงเสวียนถามด้วยความตกใจ “นักพรตเทียนชิง มันเกิดขึ้นได้อย่างไร”นักพรตเทียนชิงขมวดคิ้วกล่าวว่า “ชิงฮุยมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ เย่จิ่งหลานฆ่าเขา ศิลาตอบสวรรค์อาจมองว่าเขาเป็นคนชั่วร้ายมาก และออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยตัวเอง”เมื่อเห็นว่ายังมีฟ้าผ่าลงมา อินชิงเสวียนพูดอย่างกังวล “ศิลาตอบสวรรค์ไม่แยกแยะผิดถูกเช่นนี้ได้อย่างไร คนที่เย่จิ่งหลานฆ่านั้นคือคนชั่วร้ายจริงๆ ท่านนักพรตสามารถสื่อสารกับศิลาตอบสวรรค์ได้หรือไม่”นักพรตเทียนชิงส่ายศีรษะ“ไม่ได้ ศิลาตอบสวรรค์มีวิธีการตัดสินใจของตัวเอง”“แล้วต้องทำอย่างไรดี”อินชิงเสวียนเป็นกังวล และทันใดนั้นดวงตาก็พลันสว่างขึ้น“เย่จิ่งหลาน เจ้ารีบหลบเข้าไปในมิติเร็ว”เย่จิ่งอวี้พูดอย่างวิตกกังวล “เสวียนเอ๋อร์พูดถูก จิ่งหลาน เจ้าเข้าไปหลบในมิติก่อน”เมื่อเห็นด้วยตาตัวเองว่ามีฟ้าแลบฟ้าผ่าเปล่งแสงแปลบปลาบ เย่จิ่งหลานก็รู้สึกชาดิกไปทั้งหนังศีรษะ หากถูกโ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1499 เคราะห์ตอบสวรรค์

    นอกห้วงทะเลแห่งจิต อินชิงเสวียนมองไปยังลิ่นเซียวที่ประทับฝ่ามืออยู่บนหลังของเย่จิ่งหลานอย่างประหม่า“อาจารย์ ท่านสัมผัสถึงแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานได้แล้วหรือยัง ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง”“คงจะสำเร็จแล้ว”ลิ่นเซียวถอนมือออก และแน่นอนว่าเพียงครู่หนึ่ง เย่จิ่งอวี้และคนอื่นๆ ก็รู้สึกตัวขึ้นมาพร้อมกัน“ชิงเสวียน ผู้อาวุโสลิ่น นี่คือ...”“ศิษย์น้อง ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่”เฮ่ออวิ๋นทงก็ดูประหลาดใจเช่นกัน“ทำไมพวกเจ้าถึงมาที่นี่กันหมดล่ะ เกิดอะไรขึ้น”ทุกคนสูญเสียความทรงจำในช่วงเวลานั้นไป ต่างเพ่งมองไปยังอินชิงเสวียน“ผู้อาวุโสทุกท่านตกอยู่ภายใต้อาคมของชิงฮุย...”อินชิงเสวียนเล่าสั้นๆ อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ทุกคนตกใจเมื่อรู้ว่าชิงฮุยได้ช่วงงชิงร่างของลั่วสุ่ยชิงไปเมื่อได้ยินว่าเย่จิ่งหลานกลับมาที่เพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงแล้ว และแก่นวิญญาณก็อยู่ในห้วงทะเลแห่งจิตของลั่วสุ่ยชิง ทุกคนก็เป็นกังวลอีกครั้งทุกคนเบิกตากว้าง มองไปยังเย่จิ่งหลานและลั่วสุ่ยชิงที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างในหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม ในที่สุดลั่วสุ่ยชิงก็ลืมตาขึ้น ดวงตาหรี่ลง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1498 ชิงฮุยตาย

    เย่จิ่งหลานขบกรามแน่น“ข้าสามารถให้ร่างกายแก่เจ้าได้ แต่เจ้าต้องสาบานอย่างจริงจัง ว่าจะไม่ทำร้ายต้าโจว หากผิดคำสาบาน ลูกหลานชาวเฟยเหยาทั้งหมดรวมทั้งตัวเจ้าเอง จะถูกสวรรค์ลงโทษ ไม่ได้ผุดได้เกิดอีกเลย!”ในชีวิตนี้ของเขา เขาได้เป็นหมอที่ตัวเองชอบ ได้ข้ามภพ แถมยังได้ข้ามภพมาเป็นท่านอ๋องที่มีสถานะสูง ได้เดินทางจากการต่อสู้แย่งชิงในวังสู่ยุทธภพ และจากการไร้ชื่อเสียงเรียงนาม มาเป็นยอดฝีมือชั้นหนึ่งในยุทธจักร ยังได้สัมผัสประสบการณ์การปล่อยให้ความคิดไหลไปในทางที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังอีกครั้งหนึ่ง พอใคร่ครวญดูแล้ว มันก็คุ้มค่าจริงๆหากเขาสามารถยุติสงครามนี้ด้วยชีวิตของตัวเองได้ เย่จิ่งหลานก็ยินดีที่จะทำเช่นนั้นแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่รักตัวกลัวตาย แต่เมื่อเผชิญกับความชอบธรรม เขาก็มีความตระหนักรู้ ในฐานะคนสมัยใหม่ เขาจะต้องไม่แย่กว่าอินชิงเสวียนอย่างแน่นอนยิ่งไปกว่านั้น ยังมีชาดแห่งบาปในร่างกายของเขาที่ยังไม่ถูกกำจัด หากชิงฮุยกล้าใช้ร่างกายของเขาเพื่อฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจ มันจะดึงดูดฟ้าผ่า ผ่าเขาให้เป็นเถ้าถ่านอย่างแน่นอนหลังจากฟังคำพูดของเย่จิ่งหลานแล้ว ชิงฮุยก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1497 ตัดสินใจไม่ได้

    “ไม่นะ เขาเป็นผู้บริสุทธิ์”ลั่วสุ่ยชิงเหยียดแขนทั้งสองข้างออก และมาขวางอยู่เบื้องหน้าของเย่จิ่งหลานอีกครั้งเสียงดังปัง ลั่วสุ่ยชิงถูกกระแทกห่างออกไปหลายจั้ง และในไม่ช้าก็จมลงไปในหมอกสีดำหนาทึบ“ลั่วสุ่ยชิง ลั่วสุ่ยชิง!”เย่จิ่งหลานเหาะเข้าไปในหมอกสีดำอย่างกระวนกระวายใจ คลำหาลั่วสุ่ยชิง และช่วยพยุงนางลุกขึ้นชิงฮุยเคลื่อนฝีเท้า และมาปรากฏตัวต่อหน้าทั้งสองอีกครั้ง“ลั่วสุ่ยชิง นังสารเลว วันนี้ข้าขอถามเจ้า ต้องการพ่อ หรือผู้ชายคนนี้?”แก่นวิญญาณของลั่วสุ่ยชิงก็ยังสั่นเทา นางกำเสื้อคลุมไว้แน่น มีเส้นเลือดปรากฏขึ้นที่หลังมือนี่เป็นสิ่งที่เลือกยากมากจริงๆไม่อาจปฏิเสธได้ว่า นางตกหลุมรักเย่จิ่งหลานจริงๆไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มาจากไหน แต่มันค่อยๆ ฝังแน่นอยู่ในใจแล้วอาจเป็นเพราะการเข้าฝัน อาจเป็นเพราะตัวเองเคยเดินทางไปกับเขา หรืออาจเป็นเพราะความใกล้ชิดของแก่นวิญญาณของเขา ลั่วสุ่ยชิงไม่สามารถค้นหาติดตามได้อีกแล้วแม้ว่านางจะเป็นสตรีงดงามแห่งสวรรค์ แต่ก็ไม่มีใครที่เข้าตาของนาง แต่ดันเป็นเย่จิ่งหลานผู้ที่พูดเรื่องไร้สาระทั้งวัน ผู้ที่ไม่มีท่าทีจริงจัง กลับกลายเป็นคนที่อยู่ในใจนาง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1496 ความยึดติดที่ฝังลึกอยู่ในใจ

    ชิงฮุยได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังมีลั่วสุ่ยชิงที่กำลังต่อสู้กับแก่นวิญญาณของเขา จึงเคลื่อนไหวช้าลิ่นเซียวแทงกระบี่สวน โจมตีจุดถันจงที่อยู่กลางอกของนาง พลังของลั่วสุ่ยชิงถูกยับยั้ง ก้าวหยุดนิ่ง ในเวลาเดียวกัน แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานก็เข้าสู่ห้วงทะเลแห่งจิตของลั่วสุ่ยชิงในหมอกสีดำ ชายและหญิงกำลังต่อสู้กัน เย่จิ่งหลานหลบเข้าไปในวงการต่อสู้ และช่วยลั่วสุ่ยชิงต่อสู้กับชิงฮุย ชิงฮุยตกตะลึง“เป็นเจ้า!”“ใช่ ข้าเอง!”ขณะที่พูด เย่จิ่งหลานได้ซัดฝ่ามือใส่เขาหลายครั้งแล้วการเข้าร่วมวงการต่อสู้ของเขาทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปทันที ชิงฮุยก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธตะโกนด้วยความเดือดดาล “ลั่วสุ่ยชิง เจ้าคิดจะช่วยคนนอกจัดการกับข้าจริงๆ อกตัญญู!”ลั่วสุ่ยชิงตกใจเล็กน้อย วิชาฝ่ามือช้าลงครู่หนึ่ง“เจ้าเป็นใครกันแน่”ชิงฮุยคำรามด้วยความโกรธ“เจ้ารู้คำตอบแล้ว ยังต้องการจะถามอีกรึ”ลั่วสุ่ยชิงตัวสั่นเล็กน้อย“จริงหรือ...เป็นท่าน?”เย่จิ่งหลานไม่รู้ว่าทั้งสองกำลังเล่นปริศนาทายคำอะไรอยู่ แค่อยากจะจัดการกับปีศาจชั่วร้ายนี้โดยเร็ว เขาลงมือรวดเร็ว ล้วนหมายไปยังจุดตายของชิงฮุยชิงฮุยบังคับเย่จิ่งหลานใ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1495 อินชิงเสวียนข้าขอร้องเจ้า

    ขณะที่อินชิงเสวียนกำลังจะลงมือ ดวงตาของลั่วสุ่ยชิงก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง“เขากำลังกลืนกินแก่นวิญญาณของข้า ถ้าเจ้าไม่ลงมือ ข้าก็คงไม่รอดเช่นกัน อินชิงเสวียน เจ้าไม่อยากช่วยสามีและพ่อแม่ของเจ้าหรือ”เมื่อเห็นท่าทางอันเจ็บปวดของลั่วสุ่ยชิง อินชิงเสวียนก็ไม่สามารถตัดสินใจได้ครู่หนึ่งลั่วสุ่ยชิงสามารถทำเพื่อราษฎร ละทิ้งความคิดที่นางยืนหยัดมานับพันปี ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางควรค่าแก่การเคารพเพียงใด แต่ถ้านางไม่ตาย จะไม่มีใครรอดชีวิตได้เมื่อกวาดสายตามองไปยังร่างของทุกคนที่เหมือนถูกจี้สกัดจุด อินชิงเสวียนก็กัดฟันกรอด และพิณการเวกก็อยู่ในมือของนางแล้ว“ลั่วสุ่ยชิง ข้าขอสาบานในนามของฮองเฮาต้าโจวว่า หลังจากที่เจ้าเสียชีวิต จะจัดพิธีศพให้เจ้าอย่างสมเกียรติระดับแคว้น”ร่างของเย่จิ่งหลานหายวับ และยืนขวางอยู่ตรงหน้าอินชิงเสวียน“ยัยบ้า ข้าไม่เคยขอร้องอะไรเจ้าเลย คราวนี้ข้าขอร้องล่ะ ช่วยไว้ชีวิตลั่วสุ่ยชิงด้วย!”“เย่จิ่งหลาน เจ้า...”อินชิงเสวียนใช้นิ้วกดสายพิณ แต่ในใจกลับไม่เข้าใจว่า ทำไมจู่ๆ เย่จิ่งหลานถึงมีความรู้สึกลึกซึ้งต่อลั่วสุ่ยชิงขนาดนี้เสื้อยืดสีขาวของเย่จิ่งหลานเปื้อนเลือดแดงฉาน ดวง

DMCA.com Protection Status