แสงจันทร์สีซีดสะท้อนดวงตาสีเข้มของเย่จิ่งอวี้ให้เป็นประกายยิ่งขึ้น ราวกับว่าซ่อมทะเลแห่งดวงดาวไว้ด้านใน ทำให้ผู้คนมัวเมาอย่างอดไม่ได้อินชิงเสวียนหลงกลเล็กน้อย จึงพยักหน้าราวกับไก่จิกข้าวสารและพูดขึ้นว่า “เป็นความจริงแน่นอนเพคะ”เย่จิ่งอวี้มองนางและยิ้มออกมา พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่คลายลง “นั่นเป็นความรู้สึกที่ซับซ้อนมาก เมื่อก่อนข้าก็เคยคิดว่านั่นคือความโปรดปราน จู่ๆ ตอนนี้ก็รู้สึกว่าไม่ใช่ ความรักที่มีต่อเจ้า ไม่เหมือนที่มีต่อนางเลยสักนิด”อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะพูดแขวะในใจ ความรู้สึกของเย่จิ่งอวี้ก็เป็นเพียงแค่เด็กน้อย ทุกคนต่างก็พอๆ กัน อย่าได้มีใครหัวเราะเยาะกันเลย“หม่อมฉันยังนึกว่าฝ่าบาทตกหลุมรักแรกพบกับพระสนมสวีเสียอีก ไม่เช่นนั้นเหตุใดจึงรีบร้อนช่วยนางในวันนั้นเพคะ”“ข้าช่วยนาง เป็นเพราะข้าเห็นปานที่หัวไหล่ของนาง”เย่จิ่งอวี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดขึ้นว่า “ตอนที่ข้าอายุยังน้อย ข้าเคยแอบหนีออกนอกวังกับเสร็จอาสิบสาม จากนั้นก็เจอคนตามฆ่าและพลัดหลงกับเสด็จอา ตอนนั้นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งช่วยข้าไว้ และพาข้าไปซ่อนไว้ที่วัดร้างแห่งหนึ่ง และรอการช่วยเหลือจากทหารองครักษ์ ข้
วันต่อมาตอนที่อินชิงเสวียนตื่นขึ้นมา เย่จิ่งอวี้ก็ออกไปแล้วนางหาวและลุกขึ้นนั่งด้วยความงัวเงียอวิ๋นฉ่ายยกน้ำเข้ามาจากด้านนอกพอดี“พระสนม ตื่นแล้วหรือเพคะ?”“ใช่ ฝ่าบาทออกไปตอนไหนกัน?”อินชิงเสวียนบิดขี้เกียจ และลงจากเตียงอวิ๋นฉ่ายเม้มปากหัวเราะ “ออกไปได้หนึ่งชั่วยามแล้วเพคะ และยังกำชับพวกเราอีกว่า อย่ารบกวนการนอนของพระสนม ฝ่าบาทช่างดีต่อพระสนมจริงๆ”จู่ๆ อินชิงเสวียนก็นึกถึงคำพูดเมื่อคืนนี้ของเย่จิ่งอวี้ และหัวใจก็เต้นแรงขึ้นมานางรีบส่ายหัวในทันที ไม่จริง ไม่ใช่เรื่องจริงต้องเป็นเพราะบรรยากาศที่น่าหลงใหลยามค่ำคืน เขาจึงพูดคำเหล่านั้นออกมาเดินไปที่อ่างล้างหน้าและล้างหน้า ทันใดนั้นก็เห็นเงาสีขาวผ่านเข้ามาอวิ๋นฉ่ายร้องขึ้นมาในทันที “อ๊าย ไป๋เสวี่ย เจ้าเข้ามาได้อย่างไร?”ไป๋เสวี่ยยืนขึ้น ต้องการที่จะไปดื่มน้ำในอ่างล้างหน้า มันเข้าไปใกล้และสูดดม จากนั้นก็ถอยออกไปสุนัขตัวนี้จมูกดีเสียจริง คงรู้ว่านี่ไม่ใช่น้ำพุวิญญาณในระหว่างที่คิด ก็ได้ยินเสียงตะโกนของเสี่ยวอานจื่อ “เหนียงเหนียง คนของตำหนักเฉิงเทียนมาตามหาไป๋เสวี่ยพ่ะย่ะค่ะ”ไป๋เสวี่ยรีบไปซ่อนตัวอยู
อินชิงเสวียนยิ้มเบาๆ และพูดว่า “ซื้อขาย ซื้อขาย ถ้าไม่มีคนซื้อ จะมีคนขายได้อย่างไร สนมฉู่ก็เคยได้รับผลประโยชน์ด้วยไม่ใช่หรือ แค่ไม่กี่วันก็ลืมแล้วงั้นหรือ?”ฉู่หลิงอวี้กระแอมไอเสียงแห้งและพูดว่า “อย่างไรผู้อื่นก็ซื้อด้วยเช่นกัน เหตุใดข้าจะซื้อบ้างไม่ได้”น้ำเสียงของอินชิงเสวียนเย็นชา และพูดออกมาทีละคำ “ในเมื่อซื้อไปแล้ว ก็อย่าได้พูดจาไร้สาระเลย ข้าจะขายหรือไม่ขาย ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้าเลยสักนิดเดียว”ทว่าเมื่อฉู่หลิงอวี้พูดออกมาเช่นนี้ ทำให้นางนึกขึ้นได้เรื่องที่จะทำการขายผ้าอนามัยเสี่ยวอานจื่อหันหลังกลับมา และจ้องฉู่หลิงอวี้ด้วยสายตาที่โหดเหี้ยม พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสูงแหลม “เรื่องบ้าบอของท่านช่างมากมายเสียเหลือเกิน”“เจ้า...”ฉู่หลิงอวี้โมโหจนหน้าซีดขาวเสี่ยวอานจื่อเป็นคนของอินชิงเสวียน นางไม่กล้าสั่งสอนอย่างแน่นอน ทำได้เพียงจ้องท้ายทอยของเสี่ยวอานจื่อด้วยความโกรธเคือง หากมีสักวันที่ข้าได้รับความโปรดปราน แล้วเราจะได้เห็นดีกัน“เราไปกันเถอะ”อินชิงเสวียนกระตุกยิ้มขึ้นมาที่มุมปากนางมีตำแหน่งเป็นถึงเหยาเฟย จะต้องรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองไว้ บางคำพูดก็ไม่ควรพูดแรงเกิ
ไม่สนว่าจะได้ผลหรือไม่ ผูกสัมพันธ์ที่ดีไว้ก่อนจะดีกว่าอย่างไรเสียฝ่าบาทก็มาที่ตำหนักจินหวูทุกวัน อีกครู่หนึ่งก็จะออกจากราชสำนักแล้ว ซูฉ่ายเวยมาที่นี่ก็เพื่ออยากลองเสี่ยงดู“ไม่มีปัญหา ตามข้าเข้ามาในตำหนักสิ” อินชิงเสวียนตอบรับอย่างสบายๆหากเมินเฉยต่อการหาเงินถือเป็นคนโง่ หนึ่งหรือสองตำลึงก็นับเป็นเงินยายหลี่รีบเข้าไปรับตัวเสี่ยวหนานเฟิง เพราะว่ามีไป๋เสวี่ย วันนี้เจ้าเด็กดื้อตัวน้อยจึงไม่ค่อยร้องหาอินชิงเสวียนมากเท่าไรทั้งสองกำลังเดินเข้าตำหนัก กลับได้ยินเซียงหลานร้องตะโกนด้วยความตกใจ “เหนียงเหนียง กระโปรงของท่าน”“ทำไมงั้นหรือ?”ซูฉ่ายเวยขมวดคิ้ว จู่ๆ ก็นึกบางสิ่งขึ้นมาได้ และอดไม่ได้ที่จะทำสีหน้าตื่นตกใจ“มีอะไรไหลออกมาใช่หรือไม่?”เซียงหลานพยักหน้าซูฉ่ายเวยรีบถกกระโปรงผ้าแพรของตัวเองขึ้น และได้เห็นรอยเลือดอยู่บนนั้นทันที ใบหน้าก็แดงก่ำขึ้นมา“ข้าขอตัวกลับก่อน วันอื่นค่อยมาใหม่”อินชิงเสวียนกำลังอยากขายผ้าอนามัยพอดี จะปล่อยนางไปได้อย่างไร จึงรีบคว้าแขนของซูฉ่ายเวยเอาไว้“ไม่เป็นไร ข้าจะนำของดีมาให้เจ้า รับรองว่าเจ้าจะสบายตัวไปทั้งวัน และนอนหลับอย่างดีทั้ง
อินชิงเสวียนเรียกอวิ๋นฉ่ายเข้ามา ให้นางนำสาวใช้และแป้งมาด้วย ส่วนตัวเองก็เข้าไปในมิติและเก็บเงินให้ดีตอนนี้นางเก็บสะสมเงินได้ไม่น้อยแล้ว เพียงแต่ความปรารถนาของคนไม่มีที่สิ้นสุด ไม่เคยพึงพอใจกับความต้องการในเงินตรา ตอนที่มีร้อยตำลึงก็อยากได้พันตำลึง เมื่อมีพันตำลึงก็ขวนขวายจะเอาหมื่นตำลึง ตอนนี้อินชิงเสวียนก็ถือว่าเป็นผู้ที่มีทรัพย์สินนับหมื่นตำลึง แต่กลับอยากได้มากกว่านั้น โดยเฉพาะไข่มุกที่ส่องประกายเหล่านั้น เพียงแค่มองก็หาได้ยากยิ่งอินชิงเสวียนกอดไข่มุกเม็ดโตของนางแล้วจูบมันสองครั้ง จากนั้นก็เก็บเกี่ยวพืชผลเป็นชุด เนื่องจากนางต้องการขายเมล็ดพันธุ์ อินชิงเสวียนไม่ได้แปรรูปสินค้าในรอบนี้ จากนั้นก็ได้ค้นพบข้อดี การเก็บเกี่ยวที่ดินหลังจากที่ได้อัพเกรด จะได้คะแนนสะสมถึงห้าร้อยแต้มหากอัพเกรดอีกสองสามครั้ง คะแนนสะสมก็จะเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อย ดูเหมือนว่าความต้องการที่จะซื้อปืนก็มีความเป็นไปได้บ้างแล้ว บางทีอาจจะสามารถเอารถถังขับออกไปได้เดิมทีนางปล่อยให้มิติทำงานตามอิสระ จู่ๆ ตอนนี้นางกลับมีความหวังขึ้นมาใหม่อีกครั้งอินชิงเสวียนปลูกพืชผลด้วยความดีใจ หลังจากรดน้ำด้วยน้ำพุวิญญาณแล้ว
อินชิงเสวียนประสานมือคำนับ ยิ้มและพูดขึ้นว่า “แม่นางช่างมีสายตาแหลมคมทีเดียว เพียงมองปราดเดียวก็จำข้าได้”วันนั้นนางปลอมตัวเป็นผู้ชายไปที่เรือนจุ้ยหงเพื่อตามหากวนเซี่ยว จึงได้พบกับฟางรั่ว“เรื่องที่แม่นางอยากซื้อเมล็ดพันธุ์ ไม่ทราบว่าต้องการมากเท่าไรขอรับ?”ฟางรั่วหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ข้าอยากปลูกไว้ในลานบ้านของข้า ต้องการไม่มากนักหรอก”หลิวเหล่าไท่ไท่ถามขึ้นอยากแปลกใจ “ครั้งก่อนแม่นางบอกว่า มีเท่าไรก็เอาเท่านั้นไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”ฟางรั่วพูดขึ้นด้วยความกระอักกระอ่วนใจ “ตอนนั้นข้าอยากซื้อลานบ้านไว้ในเมืองหลวงสักแห่ง จึงอยากปลูกเป็นจำนวนมาก ตอนนี้กลับซื้อลานบ้านไม่สำเร็จ จึงซื้อเมล็ดพันธุ์ได้ไม่มากนัก”อินชิงเสวียนอดที่จะผิดหวังไม่ได้“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง ทว่าของแบบนี้ไม่เหมาะสมที่จะปลูกไว้ในลานบ้าน แม้จะปลูกไปแล้วก็จะได้ผลผลิตไม่มาก แม้นางปลูกผักสดหรือผลแตงจะเหมาะสมมากกว่า”ฟางรั่วทำเสียงอ๋อ น้อมตัวลงและพูดว่า “ข้ามีคันนาเพียงสองแถวเท่านั้น หากทำไม่ได้ก็คงต้องปลูกอย่างอื่นแล้วล่ะ ต้องขอโทษที่รบกวนด้วย เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน”เมื่อมองเงาหลังของฟางรั่ว หลิวเหล่าไท่ไ
อินชิงเสวียนหันม้ากลับในทันที“เชิญท่านอ๋อง!”“เชิญ”เย่จั้นกำปั้นกำไว้ที่หน้าอก ยืดเอวนั่งหลังตรง ท่าทางราวกับต้นไผ่ สูงตระหง่านไม่ธรรมดาท่าทีของพลทหารเช่นนี้ ทำให้อินชิงเสวียนเกิดความเลื่อมใสศรัทธา อีกประเดี๋ยวจะเข้าไปแลกสุราดีในมิติ ให้เขาลองชิมเสียหน่อยในระหว่างที่ครุ่นคิด เย่จั้นก็ควบม้าของเขาไป“ที่นี่เป็นอย่างไร?”อินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้นมอง ทันใดนั้นก็เห็นป้ายขนาดใหญ่แขวนอยู่ด้านบน โดยมีตัวอักษรสี่ตัวว่าโรงเตี๊ยมจวี้เสียนเขียนอยู่บนนั้น ซึ่งมีเสน่ห์แบบโบราณเป็นอย่างมากยิ้มเบาๆ และพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋องชอบก็พอแล้วขอรับ”ทั้งสองลงจากม้าพร้อมกัน เย่จั้นสังเกตเห็นสิ่งที่อินชิงเสวียนเหยียบ จึงถามขึ้นอย่างประหลาดใจ “นี่คือโกลนม้าที่ฝ่าบาททรงว่าไว้ใช่หรือไม่?”อินชิงเสวียนพยักหน้าและพูดว่า “ขอรับ ของสิ่งนี้จะช่วยให้คนอยู่บนหลังม้าได้อย่างมั่นคง ท่านอ๋องนำกลับไปด้วยได้นะขอรับ”เย่จั้นขี่ม้าเป็นประจำ จึงรู้ถึงประโยชน์ของมันเป็นอย่างดี อดไม่ได้ที่จะพูดชื่นชมออกมาจากใจ “เป็นของดีจริงๆ เช่นนั้นข้าไม่เกรงใจล่ะ”อินชิงเสวียนยิ้มแล้วพูดว่า “ท่านอ๋องไม่จำเป็นต้องเกรงใจก
อินชิงเสวียนตกใจเล็กน้อยเย่จิ่งอวี้และเย่จั้นเคยไปตามหาตัวเองที่หอสวดมนต์ด้วยงั้นหรือ?หรือว่าคนสวมหน้ากากที่นางพบในมิติวันนั้น ก็คือพวกเขาสองคน?เมื่อก่อนเคยบ่นว่าเย่จิ่งอวี้ไม่สนใจนาง รู้สึกผิดต่อเขาเสียแล้วเย่จั้นพูดต่อว่า “จิ่งอวี้นิสัยเย็นชา ไม่ค่อยสนิทสนมกับใคร โดยเฉพาะผู้หญิง เขาตีต่อเจ้าเช่นนี้นับเป็นเรื่องที่หาได้ยาก”อินชิงเสวียนกัดริมฝีปากของตัวเอง และกล่าวคำนับ “ขอบพระทัยท่านอ๋องที่บอกเรื่องนี้กับข้า”เย่จั้นพยักหน้าและพูดอีกว่า “บางครั้งการได้รับความโปรดปรานก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไป การทะเลาะกันในวังหลังก็ไม่น้อยไปกว่าสมัยราชวงศ์ก่อน ก่อนที่ท่านพ่อของเจ้าจะกลับเมืองหลวง เจ้าต้องถ่อมตัวให้มาก และอย่าให้ใครมาจับผิดเอาได้ หากใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของเจ้า คงทำให้เกิดเรื่องใหญ่ในราชวงศ์ก่อนอย่างแน่นอน”เย่จั้นน้ำเสียงราบเรียบ แต่ด้านในแฝงไปด้วยความเป็นห่วง ทำให้อินชิงเสวียนรู้สึกซาบซึ้งขึ้นมาคารวะและพูดขึ้น “ขอบพระทัยท่านอ๋องที่ทรงแนะนำ ข้าจะอยู่ในวังหลังอย่างระมัดระวัง เพื่อรอท่านพ่อกลับมา”“เช่นนั้นข้าก็วางใจ”เย่จั้นอ้าปากราวกับจะพูดบางสิ่ง สุดท้ายก็เงียบ
ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างเย็นชา “แม้แต่เป็นฮ่องเต้ข้ายังไม่สนใจด้วยซ้ำ จะสนใจพระชายาอ๋องได้อย่างไร”“พูดมาก็มีเหตุผล งั้นข้ายังมีที่อื่นที่อยากไป”เย่จิ่งหลานค่อยๆ หยัดกายขึ้นนั่ง หยิบแผนที่ออกมาจากอกเสื้อ“ตอนที่ข้ากำลังเดินทางไปตงหลิว พบว่ามีหลายแคว้นอยู่ใกล้เคียง ทำไมเจ้ากับข้าไม่พยายามพิชิตพวกเขาทั้งหมดล่ะ”ลั่วสุ่ยชิงสาดน้ำเย็นใส่เขาทันที“ตอนนี้เจ้ายังมีความสามารถนั้นอยู่รึ?”“หากเจ้าเต็มใจที่จะบ่มเพาะร่างกายและจิตวิญญาณกับข้า บางทีวรยุทธ์ของข้าอาจจะกลับคืน”ลั่วสุ่ยชิงถูกเขาทำให้โกรธจนกำลังภายในพุ่งสูงขึ้น กระทั่งจุดที่ถูกจี้สกัดได้คลายออก นางตบศีรษะเย่จิ่งหลานทันที“ไร้ยางอาย”“เจ้าหายแล้ว?”เย่จิ่งหลานมีความสุขมาก เขาพยายามคุกเข่า ฝืนยืนขึ้น ร่างกายโงนเงน ล้มลงตรงหน้าลั่วสุ่ยชิง ฉวยโอกาสกอดเอวของนาง“จอมยุทธ์หญิงลั่ว ข้ายืนไม่ไหว โปรดช่วยพยุงข้าด้วย”ใบหน้าของลั่วสุ่ยชิงเปลี่ยนเป็นสีแดง ยกมือขึ้นผลักเขาลงไปที่พื้น เย่จิ่งหลานล้มหงายหลัง เหมือนกับเต่าที่นอนหงายลั่วสุ่ยชิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะงอหาย เมื่อนางหัวเราะมากพอแล้ว ก็ทรุดตัวนั่งลงบนพื้นอย่างเงียบๆ และบ่นว่า “เสด็จ
อินชิงเสวียนเหลือบมองเย่จิ่งหลานแวบหนึ่ง“แน่นอนว่ามีคนไม่อยากให้เจ้าไป”เมื่อเห็นเย่จิ่งหลานมองมาทางนี้ ลั่วสุ่ยชิงก็เริ่มวิตกกังวล“ปล่อยข้านะ!”อินชิงเสวียนกระตุกมุมปากยิ้มๆ“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องถามก่อนว่าเขาเห็นด้วยหรือไม่”เย่จิ่งหลานลุกขึ้นยืนโดยมีพี่ชายช่วยพยุงขึ้นอินชิงเสวียนเดินเข้าไปถาม“เจ้าสบายดีไหม มิติของเจ้า พังจริงๆ หรือ”เย่จิ่งหลานพูดอย่างอ่อนแรง “ยังไงตอนนี้ก็ยังมีลมหายใจอยู่ ถ้ามันไม่พัง ชิงผิงกับชิงอานก็คงไม่ได้ออกมา”อินชิงเสวียนมองเขาด้วยความเห็นอกเห็นใจ“นี่เป็นเรื่องที่ร้ายแรง”เย่จิ่งหลานถามอย่างไร้ยางอาย “เฮ้ นี่เจ้าไม่คิดจะดูแลข้าแล้วรึ”อินชิงเสวียนกระตุกริมฝีปากยิ้มๆ“ก็มีคนรอดูแลเจ้าอยู่ไม่ใช่หรือ เจ้าไปเองสิ อาอวี้ เรากลับไปดื่มสุรากันต่อเถอะ”เย่จิ่งอวี้พยักหน้าและตบไหล่เย่จิ่งหลาน“พวกเราช่วยเจ้าได้แค่นี้”เมื่อเห็นว่าหมู่เมฆหายไป ชาวยุทธ์หลายคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เฮ่อยวนแอบโคจรกำลังภายใน พูดเสียงดัง “ตอนนี้เมื่อวิกฤติคลี่คลายแล้ว เฮ่อยวนจึงจัดงานเลี้ยงอีกครั้ง จัดเลี้ยงส่งเพื่อคลายความกังวลให้แก่เพื่อนพ้องในยุทธภพ!”คราวนี้เป็นกา
ทันทีที่เขาพูดจบ ร่างในชุดสีดำก็เหาะมาจากระยะไกล ลอยอยู่บนอากาศคนผู้นี้รูปร่างโปร่ง ชุดผ้าโปร่งสีดำปลิวไปตามสายลม เรือนผมดำขลับสยายออก ในชั่วพริบตา ร่างนั้นก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนาสีดำเมื่อเห็นคนผู้นี้ เย่จิ่งหลานก็พยายามลุกขึ้นยืน“ลั่วสุ่ยชิง เจ้าบ้าไปแล้วหรือ หนีไป!”ลั่วสุ่ยชิงยกมือขวาขึ้นสู่ท้องฟ้า เผชิญหน้ากับเสียงฟ้าคำรน พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เย่จิ่งหลาน เจ้าฆ่าพ่อของข้า ถ้าเจ้าตายแบบนี้ จะไม่ดูถูกเจ้าเกินไปหรือ เจ้าควรจะอยู่ในโลกนี้ต่อไป ทนทุกข์ต่อความเจ็บปวดทีละน้อย!”เย่จิ่งหลานจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าทุกคำที่นางพูดล้วนเป็นพูดด้วยอารมณ์โกรธ ถ้านางไม่มีใจต่อเขา นางจะกลับมาได้อย่างไรอย่างไรก็ตาม ร่างกายของเขาเหมือนกับเส้นบะหมี่ ที่ไม่สามารถยืนตรงได้ จึงไม่สามารถหยุดยั้งลั่วสุ่ยชิงได้เลยเมื่อมองดูร่างเพรียวบางที่ต่อสู้กับฟ้าผ่า พลันรู้สึกเจ็บปวดกระบอกตา หยาดน้ำตาสองหยดร่วงหล่นกลืนหายไปในสายลมในเวลานี้ มีร่างเพรียวอีกร่างหนึ่งลอยออกมา โดยถือวัตถุที่มีลักษณะคล้ายแท่งไม้ขนาดใหญ่อยู่ในมือ มีปลายโค้งยาวมากซึ่งดูแปลกตา“ลั่วสุ่ยชิง ข้าจะใช้สายล่อฟ้าช่วยเจ้า!”ของสิ่งนั้นห
“จิ่งหลาน!”เย่จิ่งอวี้คว้าคอเสื้อของเขารวดเร็ว หลบหลีกการโจมตีได้อย่างหวุดหวิดตูม!อสุนีบาตฟาดเปรี้ยง บนพื้นมีหลุมลึกเกิดขึ้น ทุกคนล้วนหวาดกลัวกับฟ้าที่ผ่าลงมา ต่างใช้วิชาตัวเบาหนีไปทุกทิศทางอินชิงเสวียนถามด้วยความตกใจ “นักพรตเทียนชิง มันเกิดขึ้นได้อย่างไร”นักพรตเทียนชิงขมวดคิ้วกล่าวว่า “ชิงฮุยมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ เย่จิ่งหลานฆ่าเขา ศิลาตอบสวรรค์อาจมองว่าเขาเป็นคนชั่วร้ายมาก และออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยตัวเอง”เมื่อเห็นว่ายังมีฟ้าผ่าลงมา อินชิงเสวียนพูดอย่างกังวล “ศิลาตอบสวรรค์ไม่แยกแยะผิดถูกเช่นนี้ได้อย่างไร คนที่เย่จิ่งหลานฆ่านั้นคือคนชั่วร้ายจริงๆ ท่านนักพรตสามารถสื่อสารกับศิลาตอบสวรรค์ได้หรือไม่”นักพรตเทียนชิงส่ายศีรษะ“ไม่ได้ ศิลาตอบสวรรค์มีวิธีการตัดสินใจของตัวเอง”“แล้วต้องทำอย่างไรดี”อินชิงเสวียนเป็นกังวล และทันใดนั้นดวงตาก็พลันสว่างขึ้น“เย่จิ่งหลาน เจ้ารีบหลบเข้าไปในมิติเร็ว”เย่จิ่งอวี้พูดอย่างวิตกกังวล “เสวียนเอ๋อร์พูดถูก จิ่งหลาน เจ้าเข้าไปหลบในมิติก่อน”เมื่อเห็นด้วยตาตัวเองว่ามีฟ้าแลบฟ้าผ่าเปล่งแสงแปลบปลาบ เย่จิ่งหลานก็รู้สึกชาดิกไปทั้งหนังศีรษะ หากถูกโ
นอกห้วงทะเลแห่งจิต อินชิงเสวียนมองไปยังลิ่นเซียวที่ประทับฝ่ามืออยู่บนหลังของเย่จิ่งหลานอย่างประหม่า“อาจารย์ ท่านสัมผัสถึงแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานได้แล้วหรือยัง ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง”“คงจะสำเร็จแล้ว”ลิ่นเซียวถอนมือออก และแน่นอนว่าเพียงครู่หนึ่ง เย่จิ่งอวี้และคนอื่นๆ ก็รู้สึกตัวขึ้นมาพร้อมกัน“ชิงเสวียน ผู้อาวุโสลิ่น นี่คือ...”“ศิษย์น้อง ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่”เฮ่ออวิ๋นทงก็ดูประหลาดใจเช่นกัน“ทำไมพวกเจ้าถึงมาที่นี่กันหมดล่ะ เกิดอะไรขึ้น”ทุกคนสูญเสียความทรงจำในช่วงเวลานั้นไป ต่างเพ่งมองไปยังอินชิงเสวียน“ผู้อาวุโสทุกท่านตกอยู่ภายใต้อาคมของชิงฮุย...”อินชิงเสวียนเล่าสั้นๆ อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ทุกคนตกใจเมื่อรู้ว่าชิงฮุยได้ช่วงงชิงร่างของลั่วสุ่ยชิงไปเมื่อได้ยินว่าเย่จิ่งหลานกลับมาที่เพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงแล้ว และแก่นวิญญาณก็อยู่ในห้วงทะเลแห่งจิตของลั่วสุ่ยชิง ทุกคนก็เป็นกังวลอีกครั้งทุกคนเบิกตากว้าง มองไปยังเย่จิ่งหลานและลั่วสุ่ยชิงที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างในหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม ในที่สุดลั่วสุ่ยชิงก็ลืมตาขึ้น ดวงตาหรี่ลง
เย่จิ่งหลานขบกรามแน่น“ข้าสามารถให้ร่างกายแก่เจ้าได้ แต่เจ้าต้องสาบานอย่างจริงจัง ว่าจะไม่ทำร้ายต้าโจว หากผิดคำสาบาน ลูกหลานชาวเฟยเหยาทั้งหมดรวมทั้งตัวเจ้าเอง จะถูกสวรรค์ลงโทษ ไม่ได้ผุดได้เกิดอีกเลย!”ในชีวิตนี้ของเขา เขาได้เป็นหมอที่ตัวเองชอบ ได้ข้ามภพ แถมยังได้ข้ามภพมาเป็นท่านอ๋องที่มีสถานะสูง ได้เดินทางจากการต่อสู้แย่งชิงในวังสู่ยุทธภพ และจากการไร้ชื่อเสียงเรียงนาม มาเป็นยอดฝีมือชั้นหนึ่งในยุทธจักร ยังได้สัมผัสประสบการณ์การปล่อยให้ความคิดไหลไปในทางที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังอีกครั้งหนึ่ง พอใคร่ครวญดูแล้ว มันก็คุ้มค่าจริงๆหากเขาสามารถยุติสงครามนี้ด้วยชีวิตของตัวเองได้ เย่จิ่งหลานก็ยินดีที่จะทำเช่นนั้นแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่รักตัวกลัวตาย แต่เมื่อเผชิญกับความชอบธรรม เขาก็มีความตระหนักรู้ ในฐานะคนสมัยใหม่ เขาจะต้องไม่แย่กว่าอินชิงเสวียนอย่างแน่นอนยิ่งไปกว่านั้น ยังมีชาดแห่งบาปในร่างกายของเขาที่ยังไม่ถูกกำจัด หากชิงฮุยกล้าใช้ร่างกายของเขาเพื่อฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจ มันจะดึงดูดฟ้าผ่า ผ่าเขาให้เป็นเถ้าถ่านอย่างแน่นอนหลังจากฟังคำพูดของเย่จิ่งหลานแล้ว ชิงฮุยก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสี
“ไม่นะ เขาเป็นผู้บริสุทธิ์”ลั่วสุ่ยชิงเหยียดแขนทั้งสองข้างออก และมาขวางอยู่เบื้องหน้าของเย่จิ่งหลานอีกครั้งเสียงดังปัง ลั่วสุ่ยชิงถูกกระแทกห่างออกไปหลายจั้ง และในไม่ช้าก็จมลงไปในหมอกสีดำหนาทึบ“ลั่วสุ่ยชิง ลั่วสุ่ยชิง!”เย่จิ่งหลานเหาะเข้าไปในหมอกสีดำอย่างกระวนกระวายใจ คลำหาลั่วสุ่ยชิง และช่วยพยุงนางลุกขึ้นชิงฮุยเคลื่อนฝีเท้า และมาปรากฏตัวต่อหน้าทั้งสองอีกครั้ง“ลั่วสุ่ยชิง นังสารเลว วันนี้ข้าขอถามเจ้า ต้องการพ่อ หรือผู้ชายคนนี้?”แก่นวิญญาณของลั่วสุ่ยชิงก็ยังสั่นเทา นางกำเสื้อคลุมไว้แน่น มีเส้นเลือดปรากฏขึ้นที่หลังมือนี่เป็นสิ่งที่เลือกยากมากจริงๆไม่อาจปฏิเสธได้ว่า นางตกหลุมรักเย่จิ่งหลานจริงๆไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มาจากไหน แต่มันค่อยๆ ฝังแน่นอยู่ในใจแล้วอาจเป็นเพราะการเข้าฝัน อาจเป็นเพราะตัวเองเคยเดินทางไปกับเขา หรืออาจเป็นเพราะความใกล้ชิดของแก่นวิญญาณของเขา ลั่วสุ่ยชิงไม่สามารถค้นหาติดตามได้อีกแล้วแม้ว่านางจะเป็นสตรีงดงามแห่งสวรรค์ แต่ก็ไม่มีใครที่เข้าตาของนาง แต่ดันเป็นเย่จิ่งหลานผู้ที่พูดเรื่องไร้สาระทั้งวัน ผู้ที่ไม่มีท่าทีจริงจัง กลับกลายเป็นคนที่อยู่ในใจนาง
ชิงฮุยได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังมีลั่วสุ่ยชิงที่กำลังต่อสู้กับแก่นวิญญาณของเขา จึงเคลื่อนไหวช้าลิ่นเซียวแทงกระบี่สวน โจมตีจุดถันจงที่อยู่กลางอกของนาง พลังของลั่วสุ่ยชิงถูกยับยั้ง ก้าวหยุดนิ่ง ในเวลาเดียวกัน แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานก็เข้าสู่ห้วงทะเลแห่งจิตของลั่วสุ่ยชิงในหมอกสีดำ ชายและหญิงกำลังต่อสู้กัน เย่จิ่งหลานหลบเข้าไปในวงการต่อสู้ และช่วยลั่วสุ่ยชิงต่อสู้กับชิงฮุย ชิงฮุยตกตะลึง“เป็นเจ้า!”“ใช่ ข้าเอง!”ขณะที่พูด เย่จิ่งหลานได้ซัดฝ่ามือใส่เขาหลายครั้งแล้วการเข้าร่วมวงการต่อสู้ของเขาทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปทันที ชิงฮุยก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธตะโกนด้วยความเดือดดาล “ลั่วสุ่ยชิง เจ้าคิดจะช่วยคนนอกจัดการกับข้าจริงๆ อกตัญญู!”ลั่วสุ่ยชิงตกใจเล็กน้อย วิชาฝ่ามือช้าลงครู่หนึ่ง“เจ้าเป็นใครกันแน่”ชิงฮุยคำรามด้วยความโกรธ“เจ้ารู้คำตอบแล้ว ยังต้องการจะถามอีกรึ”ลั่วสุ่ยชิงตัวสั่นเล็กน้อย“จริงหรือ...เป็นท่าน?”เย่จิ่งหลานไม่รู้ว่าทั้งสองกำลังเล่นปริศนาทายคำอะไรอยู่ แค่อยากจะจัดการกับปีศาจชั่วร้ายนี้โดยเร็ว เขาลงมือรวดเร็ว ล้วนหมายไปยังจุดตายของชิงฮุยชิงฮุยบังคับเย่จิ่งหลานใ
ขณะที่อินชิงเสวียนกำลังจะลงมือ ดวงตาของลั่วสุ่ยชิงก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง“เขากำลังกลืนกินแก่นวิญญาณของข้า ถ้าเจ้าไม่ลงมือ ข้าก็คงไม่รอดเช่นกัน อินชิงเสวียน เจ้าไม่อยากช่วยสามีและพ่อแม่ของเจ้าหรือ”เมื่อเห็นท่าทางอันเจ็บปวดของลั่วสุ่ยชิง อินชิงเสวียนก็ไม่สามารถตัดสินใจได้ครู่หนึ่งลั่วสุ่ยชิงสามารถทำเพื่อราษฎร ละทิ้งความคิดที่นางยืนหยัดมานับพันปี ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางควรค่าแก่การเคารพเพียงใด แต่ถ้านางไม่ตาย จะไม่มีใครรอดชีวิตได้เมื่อกวาดสายตามองไปยังร่างของทุกคนที่เหมือนถูกจี้สกัดจุด อินชิงเสวียนก็กัดฟันกรอด และพิณการเวกก็อยู่ในมือของนางแล้ว“ลั่วสุ่ยชิง ข้าขอสาบานในนามของฮองเฮาต้าโจวว่า หลังจากที่เจ้าเสียชีวิต จะจัดพิธีศพให้เจ้าอย่างสมเกียรติระดับแคว้น”ร่างของเย่จิ่งหลานหายวับ และยืนขวางอยู่ตรงหน้าอินชิงเสวียน“ยัยบ้า ข้าไม่เคยขอร้องอะไรเจ้าเลย คราวนี้ข้าขอร้องล่ะ ช่วยไว้ชีวิตลั่วสุ่ยชิงด้วย!”“เย่จิ่งหลาน เจ้า...”อินชิงเสวียนใช้นิ้วกดสายพิณ แต่ในใจกลับไม่เข้าใจว่า ทำไมจู่ๆ เย่จิ่งหลานถึงมีความรู้สึกลึกซึ้งต่อลั่วสุ่ยชิงขนาดนี้เสื้อยืดสีขาวของเย่จิ่งหลานเปื้อนเลือดแดงฉาน ดวง