ขันทีเฒ่ารีบวางอาหารลงบนโต๊ะด้วยมือที่สั่นเทา เขาไม่กล้ามองภาพตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย ชายชรารีบปิดประตูลงกลอนอย่างแน่นหนาด้วยกลัวว่าจะถูกฮ่องเต้ผู้ซึ่งอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ สั่งทำโทษเขา เขาไม่อยากต้องตกตายอย่างน่าอนาถเช่นนี้
เฟิ่งฟางเซียนใบหน้าร้อนผ่าวด้วยความเขินอาย ให้ตายสิ!!! นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน
นางก้มลงไปมองสวีหลงเยียน ก่อนจะสะดุ้งตกใจไม่น้อย เมื่อพบว่าเขาเองก็กำลังมองนางอยู่เช่นกัน ริมฝีปากหนาใหญ่กัดหัวไก่เอาไว้แน่น สายตาเย็นชาจ้องมองมาที่นางด้วยความอำมหิต
เฟิ่งฟางเซียนรีบถอยหลังหนีสวีหลงเยียน แต่เขากลับใช้ท่อนแขนแกร่งกอดรัดเอวบางเล็กของนางเอาไว้อย่างถือวิสาสะ
"พระองค์จะทำสิ่งใดเพคะ หม่อมฉันหายใจไม่ออกเพคะ!!! โอ๊ะ!!!"
เขากดร่างของนางให้นั่งลงบนเก้าอี้ ก่อนจะถอดเสื้อผ้าอาภรณ์ของตนเองออกจนหมด เฟิ่งฟางเซียนจ้องมองแผงอกล่ำสันของเขาด้วยแววตาเป็นประกาย ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สวีหลงเยียนนั้นมีเสน่ห์ที่ดึงดูดใจต่อนางเป็นอย่างยิ่ง
เฟิ่งฟางเซียนพยายามเบือนหน้าหนีไม่อยากมองลำแท่งมังกรขนาดใหญ่ของเขา ใจนางเต้นถี่ระรัวจนแทบจะกระเด็นออกมาที่นอกอก
สวีหลงเยียนยกยิ้มมุมปาก สตรีต่ำช้าผู้นี้คิดยั่วยวนเขา นางจะต้องได้รับบทเรียนที่สาสม!!!
"หันหน้ามา!!!"
"ไม่เพคะ อื้อ!!!"
สวีหลงเยียนใช้ฝ่ามือหนาใหญ่บีบคางเล็กของนางให้หันมาหาเขา แล้วจึงบดเบียดลำแท่งเอ็นอุ่นร้อนเข้าไปในโพรงปากสวยของนางจนมิดลำ เฟิ่งฟางเซียนเบิกตาโพลงด้วยความตกใจที่ถูกเขาจู่โจมเช่นนี้
ป่าเถื่อนที่สุด!!!
แต่ใหญ่คับปากมาก!!!
"ซี้ดดดดด!!!"
สวีหลงเยียนขยับลำแท่งแก่นกายขนาดใหญ่ยักษ์เข้าออกที่ริมฝีปากบางสวยของนางอย่างหนักหน่วง จนเกิดเสียงดัง อ๊อก อ๊อก
เขาใช้มือกดศีรษะของนางเอาไว้แน่น จนนางขยับหนีไปไหนไม่ได้ เฟิ่งฟางเซียนจำต้องยอมรับความเสียวซ่านที่เขายัดเยียดให้อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงไปได้
ในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ดูดให้เน้น ๆ ไปเลยสิอย่าไปยอม!!!
เฟิ่งฟางเซียนยื่นฝ่ามือเรียวงามไปบีบขยำที่บั้นท้ายของสวีหลงเยียนอย่างเอาแต่ใจ พร้อมกับเพิ่มแรงดูดที่ลำแท่งเอ็นร้อนให้มากยิ่งขึ้น จนร่างของสวีหลงเยียนกระตุกเบา ๆ น้ำรักสีขาวขุ่นที่มีกลิ่นคาวนิด ๆ ก็ไหลล้นทะลักเข้าไปในลำคอของนางจนมันไหลเยิ้มออกมาตามมุมปาก เฟิ่งฟางเซียนแลบลิ้นเลียชิมรสชาติที่เอร็ดอร่อยนั้นอย่างพึงพอใจ
สวีหลงเยียนยกยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาช้อนอุ้มร่างบางราวกับกิ่งหลิวของนางให้ขึ้นมานั่งบนโต๊ะอาหาร แล้วจึงโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้เฟิ่งฟางเซียน ริมฝีปากหนาใหญ่ทาบทับลงไปบนริมฝีปากบางสวยของนางอย่างดุดันและเร่าร้อน ลิ้นอุ่นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากสีหวาน เกี่ยวกระหวัดกับลิ้นชื้นแฉะของนางอย่างดูดดื่ม จนเฟิ่งฟางเซียนรู้สึกหายใจติดขัดกับรสจูบที่เขามอบให้
แต่มันช่างเผ็ดร้อนเสียจนมิอาจพร่ำบอกให้เขาหยุดการกระทำที่แสนสุขสม นางจึงกัดลงไปที่มุมปากของเขาเล็กน้อย แล้วเร่งสูดหายใจเข้าไปเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะเม้มจูบกับเขาต่อไปอย่างมิให้ขาดช่วง
สวีหลงเยียนรู้สึกว่าร่างกายของเขาเร่าร้อนจนแทบจะทนไม่ไหว ตั้งแต่เมื่อใดกันที่เขาเริ่มรู้สึกว่านางช่างเย้ายวนต่อสายตาของเขาเช่นนี้
แควก!!!
"ฝ่าบาทเพคะ"
"อยู่นิ่ง ๆ เจ้าไม่มีสิทธิ์มาขัดใจข้า"
เฟิ่งฟางเซียนเม้มริมฝีปากแน่น ยอมให้สวีหลงเยียนฉีกทึ้งเสื้อผ้าอาภรณ์บนร่างของนางออกจนหมด
สวีหลงเยียนเพ่งสายตาพิจารณาเรือนร่างของนางอย่างชัดเจนในคืนนี้ มันช่างงดงามราวกับภาพวาด งดงามเสียจนเขาแทบจะทนไม่ไหวแล้ว
เขาโน้มใบหน้าลงไปจูบไซ้ที่ซอกคอขาวนวลเนียนของนางด้วยความหื่นกระหาย กลิ่นหอมของสตรีที่เขาไม่เคยสัมผัส มันหอมราวกับกลิ่นมวลดอกไม้ที่ให้ความสดชื่นและเร่าร้อนในคราเดียวกัน
จ๊วบ จ๊วบ
"อื้ออ!!! ฝ่าบาทเพคะ!!!"
เฟิ่งฟางเซียนใช้มือทั้งสองเท้าเอาไว้บนโต๊ะอาหาร นางปล่อยตัวปล่อยใจให้สวีหลงเยียนเชยชมได้ตามใจชอบ สองมือหนาใหญ่กอบกุมบีบขยำเคล้นคลึงสองเต้าอวบอิ่มของนางจนเป็นรอยแดง แล้วจึงครอบริมฝีปากกลืนกินจุกดอกบัวสีหวานของนางด้วยความหลงใหล เขาทั้งดูดดึงและขบเม้มถี่เร่า จนเฟิ่งฟางเซียนแอ่นเนินอกอวบสวยเข้าหา เพื่อให้เขาได้ลิ้มรสความงามที่นางจงใจมอบให้
สวีหลงเยียนใช้มือกวาดถาดอาหารให้ร่วงลงจากโต๊ะไปจนหมด แล้วจึงผลักร่างของสนมรักให้นอนหงายไปบนโต๊ะอาหาร เขาทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ จับขาเรียวงามของนางให้อ้าออกจนกว้าง สายตาเร่าร้อนจับจ้องมองดูเนินสวาทที่ไร้ขนและกลีบดอกไม้สีชมพูที่อวบอูมด้วยความปรารถนา
"อื้ออ อ๊าส์!!! เสียวเพคะ อื้ออ!!!"
สวีหลงเยียนใช้ลิ้นสากร้อนแลบเลียขึ้นลงที่ร่องหลืบสีหวานจนฉ่ำน้ำ แล้วจึงใช้นิ้วมือหนาใหญ่แบะกลีบบุปผางามให้แยกออกจากกัน เม็ดเกสรสีหวานที่ดึงดูดสายตากำลังรอให้เขาเข้าไปเชยชม
ชายหนุ่มครอบริมฝีปากลงไปดูดดึงขบเม้มเม็ดเกสรสีสวยอย่างเอาแต่ใจ แล้วค่อย ๆ สอดแทรกนิ้วอุ่นร้อนทั้งสี่นิ้วเข้าไปในรูสวรรค์ของนาง เขาขยับนิ้วเข้าออกอย่างช้า ๆ ก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วแรงมากยิ่งขึ้น พร้อมกับใช้ลิ้นร้อนกระดกแลบเลียซอกหลืบสวาทจนฉ่ำแฉะ
เฟิ่งฟางเซียนที่ถูกเล้าโลมเร่งเร้า ก็รู้สึกเสียวกระสันเป็นอย่างยิ่ง จนนางถึงกับยกกระดกบั้นท้ายงอนงามขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
"อะ อ๊าส์!!! หม่อมฉันไม่ไหวแล้วเพคะ!!!"
ร่างของเฟิ่งฟางเซียนกระตุกอย่างรุนแรง น้ำหวานสีใสไหลเยิ้มออกมาจนเปียกชุ่มที่กลีบดอกบัวทั้งสองกลีบของนาง สวีหลงเยียนไม่นึกรังเกียจตรงกันข้ามเขากลับหลงใหลมันเป็นอย่างมาก น้ำหวานจากรูสวยของนางช่างรสชาติดีไม่น้อย
เขาอุ้มร่างของนางให้ไปนอนบนเตียงนอน แม้เตียงจะไม่นุ่มเบาสบายเช่นตำหนักของเขาแต่มันก็ใช้การได้ดีไม่น้อย
สวีหลงเยียนไม่เอ่ยสิ่งใดให้มากความ เขาบดเบียดลำแท่งไผ่ใหญ่ยาวเข้าไปในรูสวาทของนางจนมิดลำทันที เฟิ่งฟางเซียนถึงกับต้องซู้ดปากด้วยความจุกแน่นที่ท้องน้อย
"อูยยยย!!! เจ็บเพคะ!!!"
"เจ้าได้เจ็บทั้งคืนแน่!!! วันนี้ข้าจะลงโทษเจ้า ซี้ดดด!!!"
ตับตับตับ
เขายื่นฝ่ามือหนาใหญ่สองข้างไปจับรั้งที่เอวบางสวยของนางให้ยกขึ้นมาเล็กน้อย แล้วจึงขยับสะโพกกระแทกกระทั้นลำแท่งเอ็นร้อนเข้าออกที่รูเสียวของนางอย่างหนักหน่วงและถี่เร่า
"อ๊าส์!!! ฝ่าบาท หม่อมฉันจุกเพคะ อื้อออ!!!"
"ซี้ดดดด!!! ข้าเสียวยิ่งนัก!!!"
เขาเร่งจังหวะให้เร็วแรงมากยิ่งขึ้น เฟิ่งฟางเซียนใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเสียวซ่านและเจ็บปวด มันปะปนผสมผสานกันจนนางแทบจะตัวลอยอยู่แล้ว
เขาจับตัวเฟิ่งฟางเซียนให้พลิกนอนตะแคง จากนั้นก็เอาตัวเข้าไปซ้อนกายอยู่ที่ด้านหลังของนาง พร้อมกับสอดท่อนแขนแกร่งเข้าไปที่ใต้ศีรษะมนสวยให้นางหนุน แล้วจึงใช้มือใหญ่ข้างเดียวกันจับสองมือเรียวสวยเอาไว้เพื่อมิให้นางขัดขืน
จากนั้นก็ค่อย ๆ บดเบียดลำแท่งมังกรเข้าไปในรูสวาทของนางอีกครั้งจนลึกสุด ก่อนจะจับเรียวขางามข้างขวาให้ยกขึ้นสูง แล้วสอดวางท่อนขาแกร่งพาดลงไปทาบทับกับขาข้างซ้ายเพื่อกักรั้งเอาไว้ไม่ให้นางขยับดิ้นหนี
ตับตับตับ
"อ๊าส์!!! หม่อมฉันเสียวเพคะ อื้อออ!!!"
"เจ้าชอบไม่ใช่หรือ โอว์!!! แน่นยิ่งนัก!!!"
สวีหลงเยียนแลบลิ้นเลียที่ใบหูขาวนวลเนียนของนางอย่างหื่นกระหาย จนเฟิ่งฟางเซียนรู้สึกขนลุกขนชันไปหมด เหตุใดจึงเร่าร้อนเช่นนี้!!! เขาช่างเร้าใจนางเหลือเกิน
สวีหลงเยียนขยับลำแท่งเอ็นอุ่นร้อนให้ถี่เร่ามากยิ่งขึ้น เขารู้สึกเสียวซ่านยิ่งนัก ราวกับว่ายิ่งได้สัมผัสร่างกายของนางอารมณ์ของเขาก็ยิ่งกระเจิดกระเจิงไปหมด
"ขึ้นมาทำให้ข้าบ้าง"
สวีหลงเยียนกระซิบที่ข้างใบหูของนางด้วยน้ำเสียงกระเส่าแหบพร่า เฟิ่งฟางเซียนพยักหน้าน้อย ๆ แล้วจึงขึ้นมานั่งคร่อมบนร่างใหญ่ของเขา มือเรียวเล็กกอบกุมลำแท่งมังกรใหญ่ยาวให้แทรกซึมเข้ามาในรูสวยของนางจนมิดลำ
"อูยย!!! มันแน่นมากเลยเพคะ"
"ขยับแรง ๆ เข้า ข้าชอบ ซี้ดด!!! "
เฟิ่งฟางเซียนขยับสะโพกขึ้นลงที่ลำแท่งเนื้อขนาดใหญ่ของเขาอย่างสนุกสนาน สะโพกสวยส่ายร่อนร่ายรำราวกับหงส์เหิน สวีหลงเยียนจับรั้งเอวบางสวยของนางกดเอาไว้แล้วจึงเด้งเอวสวนกระแทกกระทั้นลำแท่งแก่นกายขนาดใหญ่เข้าออกที่รูสวาทของนางอย่างหนักหน่วงและถี่เร่า
"อื้ออ!!! หม่อมฉันไม่ไหวแล้วเพคะ!!!"
"ขยับ ซี้ดดด!!! อย่าหยุด ข้าใกล้แล้ว!!!"
"อ๊าส์!!!"
"โอว์!!!"
น้ำสวาทสีขาวขุ่นไหลล้นทะลักเข้าไปในรูสวยของนางจนเต็มไปหมด เฟิ่งฟางเซียนรีบผละออกจากร่างของสวีหลงเยียนก่อนจะหาผ้ามาเช็ดคราบน้ำรักของเขา สวีหลงเยียนขมวดคิ้วมุ่นจ้องมองนางด้วยสายตาไม่พอใจ
"เจ้าจะเช็ดทำไมกัน?"
"มันเลอะนี่เพคะ?"
"ข้าไม่ได้สั่ง!!! ห้ามเช็ด!!! นี่เจ้ารังเกียจข้ารึ?"
เฟิ่งฟางเซียนถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างเอือมระอา โรคประสาทกำเริบอีกแล้วสินะ!!!
สวีหลงเยียนดึงร่างของนางให้นั่งลงบนเตียง เฟิ่งฟางเซียนหยิบผ้าห่มผืนบางขึ้นมาห่อหุ้มร่างกายของตนเองเอาไว้ อากาศในตำหนักเย็นค่อนข้างหนาวไม่น้อย แต่เมื่อครู่ตอนที่นางร่วมรักกับเขาเหตุใดมันจึงรู้สึกอบอุ่นไม่รู้สึกหนาวเลยเล่า?
สวีหลงเยียนปรายตามองเฟิ่งฟางเซียนอย่างดูแคลน
"ไม่ต้องมาแอบมองข้าด้วยสายตายั่วยวนเช่นนี้ ข้าไม่ได้รู้สึกหลงใหลเจ้าแม้แต่น้อย ข้าเพียงลงโทษเจ้าเท่านั้น!!! อย่าได้หลงตนเอง!!!"
เฟิ่งฟางเซียนลอบเบ้ปากอย่างรำคาญใจ ช่างปากร้ายไม่ตรงกับใจเสียจริง ๆ เห็น ๆ อยู่ว่าเป็นเขาที่เริ่มกินนางก่อนด้วยซ้ำ
"นอนลง!!!"
"นอนทำไมเพคะ?
"ข้าจะทำอีก ต่อไปเป็นการลงโทษที่เจ้าขัดขืนคำสั่งข้า"
เฟิ่งฟางเซียน "..."
เสียงครางกระเส่าสลับกับเสียงเหนื่อยหอบดังแว่วออกมาจากตำหนักเย็นตลอดทั้งคืน เฟิ่งฟางเซียนรู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งร่าง เขากระทำการย่ามใจต่อนางตลอดทั้งคืน นางเตือนว่าขาเตียงมันไม่ทนทานเพราะเป็นเพียงเสาไม้ค้ำเตียงธรรมดาและใกล้ผุเต็มทนแต่เขาก็ไม่ยอมฟังนาง จนใกล้รุ่งสางขาเตียงข้างหนึ่งจึงหักลงทันที
สวีหลงเยียนสั่งให้คนนำเตียงใหม่มามอบให้นาง มันดูสวยงามและทนทานกว่าเตียงอันเก่าเป็นอย่างมาก
"พระสนม ฝ่าบาทตรัสว่าคืนนี้จะมาทำโทษพระองค์อีกพ่ะย่ะค่ะ"
ขันทีชราเข้ามารายงานเฟิ่งฟางเซียนด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม นางกระทืบเท้าด้วยความขุ่นเคือง สามคืนติดแล้วที่เขามาหานาง และทำโทษนางอย่างหื่นกระหายเช่นนี้
อย่ามาอ้างว่าทำโทษเลย เขาติดใจเรื่องอย่างว่าต่างหาก!!!
สนมรัก คืนนี้ข้าจะไปหาเจ้า "ฝ่าบาท!!! หม่อมฉันกลัวแล้วเพคะ หม่อมฉันไม่อยากเห็นแล้วเพคะ ฮือ" "มานี่!!! อย่าคิดจะหนีข้า พี่สาวเจ้ามาหลอกให้ข้าไว้ใจ สุดท้ายนางก็แต่งไปกับชายอื่น เจ้าจะต้องชดใช้แทนพี่สาวของเจ้า!!!""ไม่เพคะ ฮือ อย่าเพคะอย่าควักมันมาใส่หน้าหม่อมฉัน!!!"เฟิ่งฟางเซียนยกมือขึ้นปัดป่ายไปมาเพื่อหลบเลี่ยงการคุกคามจากสวีหลงเยียน ที่ตอนนี้เขากำลังควักแท่งเอ็นร้อนขนาดใหญ่ยักษ์มาที่ใบหน้าสวยของนาง นางคือคุณหนูรองแห่งจวนตระกูลเฟิ่ง ถูกส่งตัวมาเป็นสนมแทน เฟิ่งชิงฮวา พี่สาวต่างมารดาของนาง เพราะเฟิ่งชิงฮวาได้แอบไปมีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับบุตรชายของพ่อค้าต่างเมืองจนเกิดตั้งครรภ์ ทั้งที่นางได้ถูกคัดเลือกให้เป็นไท่จื่อเฟยพระชายาเอกของไท่จื่อสวีหลงเยียน ด้วยความโกรธแค้นหลังจากที่สวีหลงเยียนขึ้นเป็นฮ่องเต้เขาจึงมีราชโองการให้ส่งบุตรสาวคนรองก็คือนางให้เข้าวังไปเป็นสนมแทน มิเช่นนั้นจะสั่งประหารตระกูลเฟิ่งเก้าชั่วโคตร ทำให้เฟิ่งฟางเซียนต้องมาทนรองรับอารมณ์ที่ดุดันและเกลียดชังจากสวีหลงเยียน เพราะรักเฟิ่งชิงฮวามาก ในเมื่อนางหักหลังเขา คนในตระกูลเฟิ่งก็ต้องรับผิดชอบ!!!"อ๊าส์!!! หนอนยักษ์ อ๊าส์
รุ่งเช้าวันต่อมา ราชโองการสั่งกักบริเวณเฟิ่งฟางเซียนให้อยู่ในตำหนักเย็นก็ส่งมาถึง เนื้อความมีดังนี้ เฟิ่งผินกระทำการต่ำช้า หวังทำลายพระวรกายฝ่าบาท มีโทษประหารชีวิต แต่เพราะความเมตตาจากฮ่องเต้ จึงสั่งกักบริเวณนางไม่มีกำหนด จบราชโองการ เฟิ่งฟางเซียนเบ้ปากด้วยความดูแคลน นางยื่นมือไปรับราชโองการฉบับนั้นมาเก็บเอาไว้ หึ!!! ไล่ปากเปล่าก็เข้าใจแล้ว จะประกาศทำไมกัน อยากให้นางขายหน้าหรือไร? "เฟิ่งผิน โทษอมของสูง มีโทษถึงประหารชีวิตนะพ่ะย่ะค่ะ อย่าคิดทำอีก"เฟิ่งฟางเซียนขมวดคิ้วมุ่น จ้องมองขันทีด้วยสายตาที่งุนงง "อมของสูง โทษอะไรข้าไม่เคยได้ยิน""กระหม่อมก็มิทราบ ฝ่าบาททรงฝากกระหม่อมให้มาเตือนพระองค์เพียงเท่านี้พ่ะย่ะค่ะ เชิญเสด็จที่ตำหนักเย็นเถิดพ่ะย่ะค่ะ"เฟิ่งฟางเซียนคร้านที่จะใส่ใจมากนัก นางรีบเก็บข้าวของและไปที่ตำหนักเย็นทันที มีนางกำนัลสูงวัยนามว่าหลิวหลง ที่เรียกกันติดปากว่าหลิวหมัวหมัว นางเป็นนางกำนัลข้างกายของเฟิ่งฟางเซียนที่ถูกส่งมาดูแล และจะคอยติดตามรับใช้เฟิ่งฟางเซียนที่ตำหนักเย็นด้วยเพราะร่างนี้คือจินตนาการที่นางเป็นคนสร้างขึ้นมา จึงไม่มีความหลังฝังใจหรือสิ่งใดที่อยากแก้แค้นในค
เฟิ่งฟางเซียนสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะถูกหลิวหมัวหมัวปลุก นางมองดูชุดคลุมมังกรสีทองของสวีหลงเยียนที่คลุมร่างของนางเอาไว้ ใบหน้าเรียวสวยค่อย ๆ แดงระเรื่อขึ้นมา จนหลิวหมัวหมัวที่ได้เห็นอดจะหยอกล้อนางไม่ได้ "ฝ่าบาททรงเปลือยกายท่อนบนเดินออกจากตำหนักไป บ่าวจึงรีบเข้ามาดูพระสนม โธ่ หมดแรงเชียวหรือเพคะ"เฟิ่งฟางเซียนเหลือบไปเห็นคราบเลือดติดอยู่ที่บริเวณชายเสื้อคลุมก็รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง นางนึกถึงตอนที่นางขึ้นขย่มอยู่บนกายของสวีหลงเยียนเมื่อครู่ก็ยิ่งทำให้ใจของนางสั่นระรัว นี่ข้าหลับนอนกับพระเอกนิยายที่เขียนขึ้นมาหรือ? "พระสนมรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถิดเพคะ อากาศเริ่มเย็นแล้ว"เฟิ่งฟางเซียนพยักหน้า แต่พอนางกำลังจะลุกก็รู้สึกปวดร้าวที่สะโพกและเรียวขาเป็นอย่างยิ่ง หลิวหมัวหมัวที่เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่รีบเดินเข้ามาช่วยประคองนางอย่างหน้าชื่นตาบาน รุ่งเช้าสวีหลงเยียนมาประชุมกับเหล่าขุนนางด้วยขอบตาที่ดำคล้ำ เขาแทบจะไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะเวลาที่เขาหลับตาก็จะนึกถึงภาพที่เฟิ่งฟางเซียนขึ้นขย่มสะโพกอยู่บนร่างกายของเขา บัดซบ!!! นางปลุกปล้ำข้า!!!"ฝ่าบาท อีกสองวันจะถึงวันคัดเลือกนา
สวีหลงเยียนใบหน้าเขียวคล้ำจ้องมองเฟิ่งฟางเซียนด้วยสายตาชิงชัง นางถึงกับกล้าทำให้เขาอับอายต่อหน้าบ่าวไพร่ถึงขนาดนี้เชียวหรือเฟิ่งฟางเซียนเริ่มสัมผัสได้ถึงความแข็งชูชันของแท่งเอ็นอุ่นร้อนในใต้ร่มผ้าของเขา นางรีบปล่อยมือออกทันที ในหัวนึกถึงแต่ภาพที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับนางเมื่อคืน ไข่ใหญ่มาก!!!ให้ตายสิ!!! นี่ข้าคิดอะไรเช่นนี้ทุเรศสิ้นดี!!!เฟิ่งฟางเซียนถอยห่างออกมาจากสวีหลงเยียน นางไม่อยากจะพบเจอหน้าเขาด้วยซ้ำ เขาเป็นฮ่องเต้ที่จิตไม่ปกติ น่ากลัวเกินไปแล้ว สวีหลงเยียนยกยิ้มมุมปาก เขาก้าวเท้าเข้าไปหาเฟิ่งฟางเซียน ยิ่งนางถอยหนีเขาก็ยิ่งเดินเข้าไปใกล้นางเรื่อย ๆ"จะเดินตามหม่อมฉันมาทำไมเพคะ?""ที่นี่เป็นวังหลวงของข้า ข้าจะเดินไปไหนก็เรื่องของข้า""ถอยไปเพคะ หม่อมฉันจะกลับไปถางหญ้าต่อ""เจ้ากล้า!!!""หากคิดทุบตีหม่อมฉันอีก หม่อมฉันบีบอีกแน่!!! ครั้งนี้รับรองจะดึงให้ไข่ขาดเลยเพคะ!!!"สวีหลงเยียนกัดฟันกรอด คิดในใจว่าฝากไว้ก่อนเถอะ!!! ก่อนจะเดินกลับตำหนักใหญ่ด้วยความหงุดหงิดใจ ตั้งแต่เมื่อใดกันที่นางคิดกล้าเหิมเกริมกับเขา!!!สวีหลงเยียนกลับมานั่งอ่านฎีกาที่เหล่าขุนนางถวายให้เขาด้วยสีหน้าเคร
ขันทีเฒ่ารีบวางอาหารลงบนโต๊ะด้วยมือที่สั่นเทา เขาไม่กล้ามองภาพตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย ชายชรารีบปิดประตูลงกลอนอย่างแน่นหนาด้วยกลัวว่าจะถูกฮ่องเต้ผู้ซึ่งอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ สั่งทำโทษเขา เขาไม่อยากต้องตกตายอย่างน่าอนาถเช่นนี้ เฟิ่งฟางเซียนใบหน้าร้อนผ่าวด้วยความเขินอาย ให้ตายสิ!!! นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน นางก้มลงไปมองสวีหลงเยียน ก่อนจะสะดุ้งตกใจไม่น้อย เมื่อพบว่าเขาเองก็กำลังมองนางอยู่เช่นกัน ริมฝีปากหนาใหญ่กัดหัวไก่เอาไว้แน่น สายตาเย็นชาจ้องมองมาที่นางด้วยความอำมหิต เฟิ่งฟางเซียนรีบถอยหลังหนีสวีหลงเยียน แต่เขากลับใช้ท่อนแขนแกร่งกอดรัดเอวบางเล็กของนางเอาไว้อย่างถือวิสาสะ"พระองค์จะทำสิ่งใดเพคะ หม่อมฉันหายใจไม่ออกเพคะ!!! โอ๊ะ!!!"เขากดร่างของนางให้นั่งลงบนเก้าอี้ ก่อนจะถอดเสื้อผ้าอาภรณ์ของตนเองออกจนหมด เฟิ่งฟางเซียนจ้องมองแผงอกล่ำสันของเขาด้วยแววตาเป็นประกาย ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สวีหลงเยียนนั้นมีเสน่ห์ที่ดึงดูดใจต่อนางเป็นอย่างยิ่ง เฟิ่งฟางเซียนพยายามเบือนหน้าหนีไม่อยากมองลำแท่งมังกรขนาดใหญ่ของเขา ใจนางเต้นถี่ระรัวจนแทบจะกระเด็นออกมาที่นอกอก สวีหลงเยียนยกยิ้มมุมปาก สตรีต่ำช้าผู้นี้คิดยั่วยว
สวีหลงเยียนใบหน้าเขียวคล้ำจ้องมองเฟิ่งฟางเซียนด้วยสายตาชิงชัง นางถึงกับกล้าทำให้เขาอับอายต่อหน้าบ่าวไพร่ถึงขนาดนี้เชียวหรือเฟิ่งฟางเซียนเริ่มสัมผัสได้ถึงความแข็งชูชันของแท่งเอ็นอุ่นร้อนในใต้ร่มผ้าของเขา นางรีบปล่อยมือออกทันที ในหัวนึกถึงแต่ภาพที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับนางเมื่อคืน ไข่ใหญ่มาก!!!ให้ตายสิ!!! นี่ข้าคิดอะไรเช่นนี้ทุเรศสิ้นดี!!!เฟิ่งฟางเซียนถอยห่างออกมาจากสวีหลงเยียน นางไม่อยากจะพบเจอหน้าเขาด้วยซ้ำ เขาเป็นฮ่องเต้ที่จิตไม่ปกติ น่ากลัวเกินไปแล้ว สวีหลงเยียนยกยิ้มมุมปาก เขาก้าวเท้าเข้าไปหาเฟิ่งฟางเซียน ยิ่งนางถอยหนีเขาก็ยิ่งเดินเข้าไปใกล้นางเรื่อย ๆ"จะเดินตามหม่อมฉันมาทำไมเพคะ?""ที่นี่เป็นวังหลวงของข้า ข้าจะเดินไปไหนก็เรื่องของข้า""ถอยไปเพคะ หม่อมฉันจะกลับไปถางหญ้าต่อ""เจ้ากล้า!!!""หากคิดทุบตีหม่อมฉันอีก หม่อมฉันบีบอีกแน่!!! ครั้งนี้รับรองจะดึงให้ไข่ขาดเลยเพคะ!!!"สวีหลงเยียนกัดฟันกรอด คิดในใจว่าฝากไว้ก่อนเถอะ!!! ก่อนจะเดินกลับตำหนักใหญ่ด้วยความหงุดหงิดใจ ตั้งแต่เมื่อใดกันที่นางคิดกล้าเหิมเกริมกับเขา!!!สวีหลงเยียนกลับมานั่งอ่านฎีกาที่เหล่าขุนนางถวายให้เขาด้วยสีหน้าเคร
เฟิ่งฟางเซียนสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะถูกหลิวหมัวหมัวปลุก นางมองดูชุดคลุมมังกรสีทองของสวีหลงเยียนที่คลุมร่างของนางเอาไว้ ใบหน้าเรียวสวยค่อย ๆ แดงระเรื่อขึ้นมา จนหลิวหมัวหมัวที่ได้เห็นอดจะหยอกล้อนางไม่ได้ "ฝ่าบาททรงเปลือยกายท่อนบนเดินออกจากตำหนักไป บ่าวจึงรีบเข้ามาดูพระสนม โธ่ หมดแรงเชียวหรือเพคะ"เฟิ่งฟางเซียนเหลือบไปเห็นคราบเลือดติดอยู่ที่บริเวณชายเสื้อคลุมก็รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง นางนึกถึงตอนที่นางขึ้นขย่มอยู่บนกายของสวีหลงเยียนเมื่อครู่ก็ยิ่งทำให้ใจของนางสั่นระรัว นี่ข้าหลับนอนกับพระเอกนิยายที่เขียนขึ้นมาหรือ? "พระสนมรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถิดเพคะ อากาศเริ่มเย็นแล้ว"เฟิ่งฟางเซียนพยักหน้า แต่พอนางกำลังจะลุกก็รู้สึกปวดร้าวที่สะโพกและเรียวขาเป็นอย่างยิ่ง หลิวหมัวหมัวที่เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่รีบเดินเข้ามาช่วยประคองนางอย่างหน้าชื่นตาบาน รุ่งเช้าสวีหลงเยียนมาประชุมกับเหล่าขุนนางด้วยขอบตาที่ดำคล้ำ เขาแทบจะไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะเวลาที่เขาหลับตาก็จะนึกถึงภาพที่เฟิ่งฟางเซียนขึ้นขย่มสะโพกอยู่บนร่างกายของเขา บัดซบ!!! นางปลุกปล้ำข้า!!!"ฝ่าบาท อีกสองวันจะถึงวันคัดเลือกนา
รุ่งเช้าวันต่อมา ราชโองการสั่งกักบริเวณเฟิ่งฟางเซียนให้อยู่ในตำหนักเย็นก็ส่งมาถึง เนื้อความมีดังนี้ เฟิ่งผินกระทำการต่ำช้า หวังทำลายพระวรกายฝ่าบาท มีโทษประหารชีวิต แต่เพราะความเมตตาจากฮ่องเต้ จึงสั่งกักบริเวณนางไม่มีกำหนด จบราชโองการ เฟิ่งฟางเซียนเบ้ปากด้วยความดูแคลน นางยื่นมือไปรับราชโองการฉบับนั้นมาเก็บเอาไว้ หึ!!! ไล่ปากเปล่าก็เข้าใจแล้ว จะประกาศทำไมกัน อยากให้นางขายหน้าหรือไร? "เฟิ่งผิน โทษอมของสูง มีโทษถึงประหารชีวิตนะพ่ะย่ะค่ะ อย่าคิดทำอีก"เฟิ่งฟางเซียนขมวดคิ้วมุ่น จ้องมองขันทีด้วยสายตาที่งุนงง "อมของสูง โทษอะไรข้าไม่เคยได้ยิน""กระหม่อมก็มิทราบ ฝ่าบาททรงฝากกระหม่อมให้มาเตือนพระองค์เพียงเท่านี้พ่ะย่ะค่ะ เชิญเสด็จที่ตำหนักเย็นเถิดพ่ะย่ะค่ะ"เฟิ่งฟางเซียนคร้านที่จะใส่ใจมากนัก นางรีบเก็บข้าวของและไปที่ตำหนักเย็นทันที มีนางกำนัลสูงวัยนามว่าหลิวหลง ที่เรียกกันติดปากว่าหลิวหมัวหมัว นางเป็นนางกำนัลข้างกายของเฟิ่งฟางเซียนที่ถูกส่งมาดูแล และจะคอยติดตามรับใช้เฟิ่งฟางเซียนที่ตำหนักเย็นด้วยเพราะร่างนี้คือจินตนาการที่นางเป็นคนสร้างขึ้นมา จึงไม่มีความหลังฝังใจหรือสิ่งใดที่อยากแก้แค้นในค
สนมรัก คืนนี้ข้าจะไปหาเจ้า "ฝ่าบาท!!! หม่อมฉันกลัวแล้วเพคะ หม่อมฉันไม่อยากเห็นแล้วเพคะ ฮือ" "มานี่!!! อย่าคิดจะหนีข้า พี่สาวเจ้ามาหลอกให้ข้าไว้ใจ สุดท้ายนางก็แต่งไปกับชายอื่น เจ้าจะต้องชดใช้แทนพี่สาวของเจ้า!!!""ไม่เพคะ ฮือ อย่าเพคะอย่าควักมันมาใส่หน้าหม่อมฉัน!!!"เฟิ่งฟางเซียนยกมือขึ้นปัดป่ายไปมาเพื่อหลบเลี่ยงการคุกคามจากสวีหลงเยียน ที่ตอนนี้เขากำลังควักแท่งเอ็นร้อนขนาดใหญ่ยักษ์มาที่ใบหน้าสวยของนาง นางคือคุณหนูรองแห่งจวนตระกูลเฟิ่ง ถูกส่งตัวมาเป็นสนมแทน เฟิ่งชิงฮวา พี่สาวต่างมารดาของนาง เพราะเฟิ่งชิงฮวาได้แอบไปมีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับบุตรชายของพ่อค้าต่างเมืองจนเกิดตั้งครรภ์ ทั้งที่นางได้ถูกคัดเลือกให้เป็นไท่จื่อเฟยพระชายาเอกของไท่จื่อสวีหลงเยียน ด้วยความโกรธแค้นหลังจากที่สวีหลงเยียนขึ้นเป็นฮ่องเต้เขาจึงมีราชโองการให้ส่งบุตรสาวคนรองก็คือนางให้เข้าวังไปเป็นสนมแทน มิเช่นนั้นจะสั่งประหารตระกูลเฟิ่งเก้าชั่วโคตร ทำให้เฟิ่งฟางเซียนต้องมาทนรองรับอารมณ์ที่ดุดันและเกลียดชังจากสวีหลงเยียน เพราะรักเฟิ่งชิงฮวามาก ในเมื่อนางหักหลังเขา คนในตระกูลเฟิ่งก็ต้องรับผิดชอบ!!!"อ๊าส์!!! หนอนยักษ์ อ๊าส์