공유

บทที่ 889

작가: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
หลังจากเขาสงบสติอารมณ์แล้ว ก็นึกคำถามหนึ่งขึ้นได้ ทำไมจู่ๆ เสด็จแม่ถึงส่งคนตรวจอาการป่วยให้กับเสด็จลุง เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ถามขึ้นว่า "วันนี้ได้ยินคนในวังพูดว่า เสด็จป้าฮุ่ยมาที่นี่ใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ? "

ไทเฮาหัวเราะออกมาทันที "อืม แม่เป็นคนเรียกนางเข้าวังมา ทางสำนักเครื่องประดับได้ส่งชุดเครื่องประดับชุดใหม่มา ในนั้นมีปิ่นระย้าเจ็ดสี ฮองเฮาอยากได้ สนมซูก็อยากได้ แม่ก็ไม่รู้ว่าจะมอบให้ใครดี ฮองเฮาเป็นแม่ของแผ่นดิน ตามหลักแล้วถ้านางชอบก็มอบให้นางไปก็ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้สนมซูกำลังตั้งท้องมีผลงาน แม่จะมอบให้ใครดี? ก็เลยตัดสินใจมอบให้เสด็จป้าของลูก ใครจะคิดว่าเสด็จป้าของลูกเป็นโจร ไม่เพียงเอาปิ่นระย้าเจ็ดสีไป แล้วยังเอาเครื่องประดับอื่นไปอีกเจ็ดแปดชิ้น แม่ก็เสียใจมากจริงๆ "

จักรพรรดิ์ซูชิงก็หัวเราะออกมา "เสด็จป้าชอบก็ดี เสด็จป้ามีความสุข เสด็จแม่ก็มีความสุข"

เขาไม่รู้สึกเสียใจกับทรัพย์สินเงินทองพวกนี้ สามารถทำให้เสด็จแม่มีความสุขก็เพียงพอแล้ว

หลังเสวยอาหารค่ำเสร็จแล้ว จักรพรรดิ์ซูชิงก็กราบทูลลา

ไทเฮาพายวี่ชุนยวี่เซี่ยออกไปเดินเล่น นิสัยนี้ก็รักษามานานหลายปี แม้อากาศจะหนาวแค่ไหน เมื่อเ
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 890

    เขาเรียกเถ้าแก่ร้านร้อยสมบัติมา ให้ลูกน้องของเขามาตรวจสอบราคาทีละชิ้นหลังจากตรวจนับออกมาทีละหีบๆ แล้ว เขาพบว่าที่แท้ท่านแม่ยังซ่อนแท่งทองคำ และเครื่องประดับล้ำค่าอีกมากมายไว้แม่นมบอกเขาว่า บางส่วนเป็นสินสอดของท่านแม่ของเขา และบางส่วนเป็นท่านย่าของเขาทิ้งไว้ เพราะไม่ได้แยกครอบครัว เลยไม่แบ่งให้กับฮูหยินผู้เฒ่าเรือนรอง และมีบางส่วนที่ซ่งซีซีมอบให้ ตอนที่ซ่งซีซีหย่า ของเหล่านี้ถูกซ่อนไว้ โชคดีที่ซ่งซีซีก็ไม่ถามจ้านเป่ยว่างให้แม่นมเลือกของที่เป็นของซ่งซีซีมอบให้ออกมา หลังจากเลือกออกมาแล้วก็คืนให้กับนางแม่นมถอนหายใจ "จริงๆ แล้วคืนให้กับนาง นางก็ไม่มีทางรับ ก็มอบให้กับฮูหยินผู้เฒ่ารองดีกว่า ยังไงแล้วนางกับฮูหยินผู้เฒ่ารองก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน""นางมอบให้กับอาสะใภ้รองก็เป็นเรื่องของนาง แต่เราไม่สามารถตัดสินใจแทนนาง" จ้านเป่ยว่างคิดแบบนี้เรื่องนี้หวังชิงหลูไม่เห็นด้วย ไม่ใช่เพราะนางโลภเงินหรือเครื่องประดับเหล่านั้น แต่เป็นเพราะนางไม่อยากเกี่ยวข้องกับใครในจวนอ๋องอีกแล้วจริง ๆยังไงแล้วซ่งซีซีก็ไม่ได้เอาไป ถ้าอย่างนั้นก็ขายทิ้งไม่ก็นำไปจำนำ ขายไปได้เงินมาเท่าไหร่ยังไงก็มอบให้กั

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 891

    คนที่มาก็คือคุณชายอู๋เซี่ยงจากจวนอ๋องเยี่ยน เพียงแต่ว่าการแต่งกายของเขาไม่เหมือนกับตอนที่อยู่ในจวนอ๋อง แม้กระทั่งใบหน้ายังแตกต่างออกไปเขาก้าวไปข้างหน้า ทำการไหว้พลางกล่าวว่า "เรื่องท่านแม่และพี่สะใภ้ของใต้เท้าจ้าน ข้าก็ได้ยินมาบ้าง ขอแสดงความเสียใจด้วยขอรับ"ถึงยังไงก็เป็นแค่คนแปลกหน้า จ้านเป่ยว่างจึงยังคงรักษาระยะห่างเอาไว้ "ขอบคุณ ในเมื่อเจ้าไม่ยอมบอกตัวตน งั้นข้าขอตัวก่อนแล้วกัน"อู๋เซี่ยงกล่าวว่า "ใต้เท้าจ้าน ข้าแซ่ว่าน และเป็นผู้ดูแลจวนจากจวนอ๋องฮวย พระชายาอ๋องฮวยสั่งให้ข้ามาเยี่ยมท่าน แต่เนื่องจากท่านเคยมีเรื่องกับซ่งซีซี หลานสาวของพระชายาอ๋องฮวย ดังนั้นจึงไม่กล้าไปเยี่ยมที่บ้านอย่างกะทันหัน"จ้านเป่ยว่างไม่ค่อยได้พบผู้คนมากมายจากจวนอ๋องฮวย แต่เขาก็รู้ด้วยว่ามีพ่อบ้านแซ่ว่านอยู่ในจวนอ๋องฮวย ซึ่งอาจเป็นคนที่อยู่ตรงหน้านี้แล้วแต่เขามีท่าทางค่อนข้างสง่างาม ดูไม่เหมือนคนที่รับผิดกิจการต่างๆ ของจวน แต่เหมือนนักวิชาการมากกว่า ทว่าในเมื่อเป็นคนของจวนอ๋อง งั้นก็ย่อมเรียนหนังสือมาก่อนเขาไม่คาดคิดว่าพระชายาอ๋องฮวยจะส่งคนมาทักทายเขา และก็เกิดความรู้สึกซับซ้อน "ขอบคุณน้ำใจของพระชายา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 892

    จริงๆ แล้วจ้านเป่ยว่างไม่แปลกใจเลย แม้ว่าเขาเป็นผู้นำขององครักษ์รักษาพระองค์มาไม่นาน แต่ฝ่าบาทมีความตั้งใจที่จะแยกองครักษ์รักษาพระองค์ออกมาเป็นของตน เขารู้สึกถึงเรื่องนี้ เขาไม่ได้โง่ฝ่าบาทเกรงกลัวเป่ยหมิงอ๋อง แล้วเขาจะปล่อยให้ซ่งซีซีดูแลเรื่องความปลอดภัยต่อหน้าฮ่องเต้ทั้งหมดแม้กระทั่งความปลอดภัยของบริเวณโดยรอบพระองค์ได้อย่างไรเขายิ้มอย่างขมขื่น "งั้นก็ช่วยไม่ได้ ข้าเสียแม่ไปจริงๆ และต้องไว้ทุกข์ด้วย"อู๋เซี่ยงยิ้ม รินชาให้เขาด้วยตัวเอง และพูดเบาๆ ว่า "ท่านอ๋องสามารถช่วยท่านได้นะ"จ้านเป่ยว่างตกตะลึงเล็กน้อย อ๋องฮวยแทบจะไม่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใดเลยในเมืองหลวง แล้วจะช่วยเขาได้อย่างไร?อีกอย่างเพียงเพราะความรู้สึกผิดที่อาจไม่มีอยู่จริงงั้นเหรอ? แม้ว่าจะรู้สึกผิด แต่ก็เป็นความรู้สึกผิดที่มีต่อซ่งซีซี แล้วจะรู้สึกผิดต่อเขาได้อย่างไร?เขาไม่ได้โง่ยังไม่พูดถึงอ๋องฮวยมีความสามารถที่จะช่วยเขาได้หรือไม่ แม้ว่าเขาจะทำได้ สิ่งหนึ่งที่แน่ใจได้ก็คือ ถ้าเขาช่วยตนเองได้จริงๆ งั้นตนเองก็กลายเป็นคนที่รับคำสั่งจากเขาในอนาคต"พ่อบ้านว่าน สำหรับข้าต้องไว้ทุกข์เพราะข้าเสียแม่ไป นี่เป็นกฏระเบียบที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 893

    จ้านเป่ยว่างมองดูกลิ่นอายแห่งการสมรู้ร่วมคิดที่เปล่งออกมาจากดวงตาลึกๆ ของเขา และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าหนังศีรษะของเขาชาไปหมด คดีกบฏขององค์หญิงใหญ่ยังไม่ปิดคดี ก็กล้าที่จะปลูกฝังเส้นสายไปอยู่เคียงข้างฝ่าบาทงั้นเหรอ? อ๋องฮวยขี้ขลาดจริงหรือ? เขาต้องการทำอะไรกันแน่?เขารู้จักตนเองเป็นอย่างดี จะเป็นคนตีสองหน้าไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องเป็นคนตีสองหน้าต่อหน้าฮ่องเต้ แม้แต่มีชีวิตสิบชีวิตยังไม่มากพอให้ถูกลงโทษได้เขาลุกขึ้นยืนในทันที โค้งคำนับและยกมือขึ้น "พ่อบ้านว่าน ที่บ้านยังมีธุระ ข้าขอตัวก่อน"หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็หันหลังกลับจากไปอู๋เซี่ยงมองดูแผ่นหลังของเขาด้วยความประหลาดใจ และสีหน้าก็ค่อยๆ จริงจังขึ้น หรือว่าเขามองคนผิดไปแล้วเหรอ คนคนนี้ไม่มีความทะเยอทะยานแม้แต่น้อยเลยเหรอ? เขารู้ไหมว่าการดำรงตำแหน่งผู้นำองครักษ์รักษาพระองค์มันหมายความว่าอย่างไร? นั่นมันคนสนิทของฝ่าบาท ซึ่งมีประโยชน์มากกว่าขุนนางระดับชั้นสองเสียอีกเขาต้องมีความทะเยอทะยานแน่ๆ ก่อนที่จะมาหาเขาก็ได้สืบสวนข้อมูลของอีกฝ่ายมา เขาอยากจะให้จวนแม่ทัพกลับมาสู่จุดสูงสุดเป็นอย่างมาก นี่เกือบจะเป็นเป้าหมายของครอบครัวพวกเข

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 894

    สองวันต่อมา เสิ่นชิงเหอมาหาเซี่ยหลูโม่พร้อมกับจดหมายนกพิราบบินที่มาจากผิงหวูจูง ใบหน้าเคร่งขรึม "ฮ่องเต้เมืองซีจิงจะส่งทูตมายังแคว้นซาง อีกประเดี๋ยวพระราชสาส์นตราตั้งจะมาถึง"ใบหน้าของเซี่ยหลูโม่มืดทะมึน สิ่งที่จะมา จะช้าจะเร็วก็ต้องมาก่อนเดือนแรกของเดือนจันทรคติจะหมดไป จักรพรรดิ์ซูชิงประกาศว่าจะแยกองครักษ์รักษาพระองค์ออกมาจากกองทัพซวนเจีย และจะไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของซ่งซีซี ส่วนผู้นำขององครักษ์รักษาพระองค์ยังคงเป็นจ้านเป่ยว่างจ้านเป่ยว่างไม่อยากจะเชื่อเลย เขาจำการพบกับพ่อบ้านว่านจากจวนอ๋องฮวยในวันนั้นได้ และแอบสงสัยในใจว่าหรือว่าเป็นเพราะทางจวนอ๋องฮวยช่วยเขาจริงๆ เหรอแต่ถ้าเป็นจวนอ๋องฮวย งั้นเรื่องที่เขากลับคืนสู่ตำแหน่งเดิมกลับเต็มไปด้วยอันตรายเขาไม่มีผู้ใดให้ปรึกษาได้ ดังนั้นจึงกลับไปคุยกับหวังชิงหลู หวังชิงหลูกล่าวว่า "เจ้าจะไปสนใจเขาทำไม แค่ให้กลับไปดำรงตำแหน่งเดิมก็ดีแล้วนี่ อีกอย่างบัดนี้องครักษ์รักษาพระองค์ยังไม่ขึ้นอยู่กับซ่งซีซี เป็นเรื่องน่ายินดีทีเดียว"จ้านเป่ยว่างกลับขมวดคิ้ว "ไม่ได้การ ข้าเกรงว่าจะมีอุบายอะไรแฝงอยู่ในนี้ ข้าต้องไปสารภาพกับฝ่าบาทให้ชัดเจน"หว

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 895

    ปัจจุบันนี้มีเพียงสองทางเลือกให้กับจักรพรรดิ์ซูชิงและพวกขุนนางทุกคนทางเลือกแรกปฏิเสธอย่างเด็ดขาดว่าไม่เคยสังหารหมู่พลเรือนทางเลือกที่สองคือการแสร้งทำเป็นว่าก่อนหน้านี้ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น หลังจากได้รับพระราชสาส์นตราตั้งแล้ว อันดับแรกก็ให้ความร่วมมือกับการสอบสวนของเมืองซีจิง และควบคุมบุคคลที่สมควรถูกจับกุมไว้ มันยังไม่สายเกินไปที่จะแก้ไขปัญหา ยังสามารถกอบกู้ชื่อเสียงของประเทศได้ในพระราชสาส์นตราตั้งไม่ได้กล่าวถึงประเด็นเรื่องชายแดน จะมาจัดการเรื่องนี้เสร็จก่อนค่อยมาหารืออีกทีจักรพรรดิ์ซูชิงเรียกประชุมขุนนางเพื่อหารือกันเป็นเวลาสามวัน ทางเลือกแรกมันใช้ไม่ได้ ที่เมืองซีจิงจะออกพระราชสาส์นตราตั้งมาร้องเรียน พวกเขาย่อมมีหลักฐานเป็นที่ประจักษ์ชัดเจน บวกกับภายในเมืองซีจิงได้สร้างกระแสมานาน พรมแดนระหว่างทั้งสองประเทศได้ก่อเรื่องไว้แล้ว หากพูดปฏิเสธไป งั้นผลที่ตามมาก็คือการทำสงครามโดยตรงในเมื่อเป็นทางเลือกที่สอง บุคคลที่ควรจะต้องโดนลงโทษก็สมควรที่ได้รับมันแล้วหลังจากตัดสินใจแล้ว จักรพรรดิ์ซูชิงและเสนาบดีมู่ก็มองหน้ากันอยู่สักพัก คนๆ ก็นิ่งเงียบและไม่มีใครพูดอะไรเพราะหากต้องจัดก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 896

    ผู้ช่วยกรมราชทัณฑ์นำคนไปจวนแม่ทัพด้วยตนเอง เพื่อป้องกันไม่ให้ยี่ฝางหลบหนี เขาได้ปิดล้อมจวนแม่ทัพก่อนการกระทำนี้ทำให้หวังชิงหลูขวัญหนีดีฝ่อ นางซ่อนตัวอยู่ในเรือนเหวินซีไม่กล้าออกไปข้างนอก จนกระทั่งรู้ว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อจับกุมยี่ฝางถึงเดินออกมาทันทีที่ได้ยินเสียงดังโวยวาย ยี่ฝางก็พอจะคาดเดาได้คร่าวๆ แล้วนางยืนอยู่หน้าทางเดินของเรืองมงคล ลมหนาวพัดเข้าไปใบหน้าที่เสียโฉมไปครึ่งหนึ่งของนาง มันนิ่งเงียบไร้อารมณ์ใดๆนางมองดูเจ้าหน้าที่ที่บุกเข้าไปในเรืองมงคล นางยกดาบขึ้นแล้วฟาดฟันในกลางอากาศ จากนั้นชี้ไปที่เจ้าหน้าที่ที่นำทาง"ยี่ฝาง รีบยอมแพ้ซะ" โจวชาง ผู้ช่วยกรมราชทัณฑ์ซึ่งยืนอยู่นอกประตูเรืองมงคลนั้นก็ตะโกนด้วยความโกรธ"จ้านเป่ยว่างอยู่ไหน" ยี่ฝางถามอย่างเย็นชาที่จ้านเป่ยว่างกลับไปดำรงตำแหน่งเดิมนางรู้เรื่องนี้ เขาทำงานข้างกายฝ่าบาท ย่อมรู้ทุกอย่างดี แต่ไม่เคยกลับมาบอกนางเลยโจวชางไม่ตอบคำถามของนาง แค่พูดอย่างเคร่งขรึมว่า "ทางที่ดีอย่าขัดขืนดีกว่า ยังไงก็ขัดขืนไม่ได้อยู่ดี จวนแม่ทัพถูกปิดล้อมอย่างแน่นหนาแล้ว"แต่ยี่ฝางกลับวางดาบไว้ที่คอของตนเองพร้อมเยาะเย้ยอย่างน่ากลัว "ตามห

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 897

    จ้านเป่ยว่างกลับมาที่จวนแม่ทัพอย่างเร่งรีบ ตแนที่โจวชางส่งคนไปแจ้งนั้น เขาก็รู้สึกขวัญกระเจิง ยี่ฝางมียิสัยยังไงเขารู้ดีมาก ขัดแย้งกันมาก ไม่ยอมใครแต่ก็กลัวความตาย หากเกิดเหตุการณ์จนตรอก นางย่อมพยายามดิ้นรนสักหน่อยเกรงว่าคราวนี้นางคงไม่ยอมให้ง่ายๆยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เขากับยี่ฝางไม่มีความรู้สึกต่อกันแล้ว เพื่ออยู่รอด เขาไม่รู้จริงๆ ว่ายี่ฝางจะทำอะไรได้บ้างจริงๆ แล้วในช่วงเวลานี้นางอยากออกจากเมืองหลวง แต่ก็กลัวว่าจะมีนักฆ่าถ้านางออกจากเรืองมงคล การลอบสังหารครั้งนั้นทำให้นางเข็ดหลาบจริงๆนางคงคิดดีแล้วว่าหากเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ จะจัดการอย่างไรนั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่บอกนางเรื่องการมาของนักการทูตจากเมืองซีจิง เพียงเพื่อป้องกันไม่ให้นางเตรียมตัวล่วงหน้าเมื่อเขามาถึงเรืองมงคล และเห็นยี่ฝางถือดาบชี้ไปที่คอของตนเอง จากนั้นก็ใจเต้นแรง "ยี่ฝาง วางดาบลง!"มีความเย็นชาเกิดจากดวงตาของยี่ฝาง และสายตากวาดมองมาหาเขา มันคมแหลมราวหับมีดคม นางแทบจะกัดฟัน "จ้านเป่ยว่าง!"จากนั้นหวังเจิงก็มาถึงพร้อมกับทหารรักษาพระราชวังสองคน เขาหยุดจ้านเป่ยว่างไว้ก่อน "อย่าเข้าไปใกล้เกินไป"จ้านเป่ยว่างเหลือ

최신 챕터

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1606

    ผู้ใต้บัญชาทำงานรวดเร็วยิ่งนัก ตอนที่เขาลืมตาตื่น เครื่องทรมานก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเตาถ่านถูกตั้งขึ้น คีมเหล็กถูกเผาจนแดง แส้ที่เปื้อนเลือดฟาดกลางอากาศสองสามครั้ง เพี้ยะ เพี้ยะ ดังสะท้านใจหลิวเซิ่งถึงอย่างไรก็เคยฆ่าคนมาก่อน ใจคอจึงหนักแน่นแม้ยามเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ มิแม้แต่กระพริบตา กล่าวว่า “พวกเจ้าตั้งศาลเถื่อนเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง พวกเจ้ายังมีขื่อมีแปหรือไม่?”คนบางประเภทก็มักเป็นเช่นนี้ คิดว่ากฎหมายใช้บังคับกับใครก็ได้ ยกเว้นตนเองตนกระทำผิด แต่กลับคิดใช้กฎหมายปกป้องตนกับคนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง การโต้แย้งมีแต่จะยิ่งเปิดช่องให้เขาพูดจาไร้สาระมากขึ้นข้าหยิบคีมเหล็กที่ถูกเผาจนแดงก่ำหนีบเข้าที่แขนเขาทันที พอกดแน่นลงไป เสื้อก็ละลายจนเป็นรู เสียงเนื้อถูกไหม้ดัง ซี่ๆๆ…เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นไม่เป็นไร ที่นี่เป็นห้องใต้ดินลับ ต่อให้ร้องจนเสียงขาดหาย ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินแม้กระดูกจะแข็งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องทรมาน ก็ไร้ซึ่งพลังต่อต้านข้ายังมิทันได้เริ่มถอนเล็บ เขาก็สารภาพทุกสิ่งอย่างละเอียดทั้งสองครอบครัวสนิทกันจริง พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายร

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1605

    ข้ามองดูหลิวเซิ่งพูดยั่วยุนางไม่หยุด คล้ายจะจงใจยั่วยุให้นางคิดสั้น ไม่ได้มีเจตนาจะลงมือฆ่าเอง“ครอบครัวเจ้าตายหมดแล้ว เจ้ายังจะอยู่ต่อไปอย่างครึ่งคนครึ่งผี บ้าๆ บอๆ เช่นนี้อีกหรือ? เจ้าก็แค่สวะ ครอบครัวเจ้าก็เป็นสวะ! ยังจะกล้ามาหัวเราะเยาะข้าว่าสอบไม่ติดอีกหรือ? พวกเจ้ามันสมควรตายทั้งบ้าน เจ้าดูเชือกที่ห้องเก็บฟืนสิ ใช้มันแขวนคอตัวเองเสีย แล้วจะได้ไปอยู่กับครอบครัวเจ้า”“หากเจ้ายังไม่ตาย พวกเขาจะต้องตกนรกสิบแปดชั้น ถูกไฟเผาทุกวัน ถูกควักหัวใจ ถอนลิ้น เพราะพวกเจ้ามันใจดำอำมหิต ชอบใส่ร้ายป้ายสี นี่คือกรรมสนองที่สวรรค์ประทานให้ พวกทำชั่วไม่สมควรมีชีวิตอยู่”ข้ายิ่งฟังยิ่งโกรธจนแทบระเบิด คนทำชั่วคือเขาชัดๆ แต่กลับพลิกกลับความหมายเสียอย่างหน้าด้านๆแม่นางสุ่ยในยามนี้ก็บ้าเสียแล้ว หากถูกเขายั่วยุหนักเข้า ก็อาจคิดฆ่าตัวตายได้จริงๆข้าเปิดประตูพุ่งออกไป ห้องข้ากับห้องแม่นางสุ่ยอยู่ติดกัน พอข้าไปถึง หลิวเซิ่งยังไม่ทันตั้งตัว ยังปิดปากแม่นางสุ่ยอยู่เมื่อเห็นข้า แววตาเขาก็สั่นไหว รีบปล่อยมือทันทีแม่นางสุ่ยตกใจจนน้ำตาร่วง แต่นางไม่ได้ส่งเสียงร้อง แม้แต่เสียงสะอื้นก็ไม่มีข้าจ้องหน้าเขาแ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1604

    สุดท้ายข้าก็ทำได้เพียงลอบเฝ้าติดตามแม่นางสุ่ยในเงามืดข้าคิดว่า ฆาตกรที่ฆ่าล้างครอบครัวนาง ย่อมต้องมีแรงจูงใจเป็นแน่หากโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ไม่เพราะรัก ก็ต้องเพราะแค้น หรือไม่ก็เพราะเงินทอง อย่างไรเสียย่อมต้องมีสักอย่างแม่นางสุ่ยยังมีชีวิตอยู่ แล้วฆาตกรจะสามารถหลบหนีไปได้อย่างสงบเช่นนั้นหรือ?มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่า พอเรื่องราวเงียบไปแล้ว ฆาตกรจะย้อนกลับมาฆ่านางอีกครั้ง?การคาดคะเนนี้ดูจะมีเหตุผล แต่ประเด็นสำคัญคือ ข้าไม่อาจหาทิศทางอื่นได้อีกแล้วเถ้าแก่สวีเดิมทีจ้างแม่นมมาคอยดูแลแม่นางสุ่ย แต่แม่นางสุ่ยนั้นหวาดกลัวคนแปลกหน้าอย่างยิ่ง ดังนั้นเถ้าแก่สวีจึงได้แต่ขอร้องให้เพื่อนบ้านโดยรอบแวะเวียนมาดูบ้าง ส่งอาหารมาให้บ้างมารดาของหลิวเซิ่งจะมาทุกวันเว้นวัน เพื่ออาบน้ำล้างหน้าให้แม่นางสุ่ย คอยดูแลให้สะอาดเรียบร้อยข้าพบว่าตระกูลหลิวยังปฏิบัติต่อนางด้วยดี เพียงแต่หลิวเซิ่งผู้นั้นกลับไม่เคยมา หนึ่งคือเขาต้องกลับไปยังโรงเรียน สองคืออาจเพราะในใจก็ยังมีความคับแค้นอยู่บ้าง เพราะคำกล่าวหาของแม่นางสุ่ยที่ทำให้เขาต้องติดคุกอยู่ช่วงหนึ่งชายหนุ่มผู้เป็นบัณฑิตย่อมมีความเย่อหยิ่งในใจบ้าง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1603

    ก่อนจะไปยังหนานเจียง ข้าไม่เคยมีแผนการใดในชีวิต ไม่มีเป้าหมาย ไม่เคยมีสิ่งใดที่อยากทำเป็นพิเศษเมื่อยึดหนานเจียงกลับคืนมาแล้วเดินทางกลับสู่เมืองหลวง เสียงโห่ร้องยินดีจากราษฎรทำให้ข้ารู้สึกว่า หากมนุษย์ใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมายไปวันๆ เช่นนั้นจะไม่สูญเปล่าหรือ?ข้าจึงเริ่มครุ่นคิดถึงความหมายของชีวิตจากการติดตามย่างก้าวของซีซี ข้าก็ได้ทำสิ่งต่างๆ มากมาย ตั้งแต่โรงงานช่างไปจนถึงสถาบันการศึกษาหย่าจวินหญิงมากหลายล้วนประสบชะตาน่าเวทนา และข้ามีความสามารถที่จะช่วยพวกนางได้ ข้าคิดว่า นี่คงเป็นหนึ่งในความหมายของชีวิตว่าเป็น “หนึ่ง” ก็หมายความว่ายังอาจมี “สอง” และ “สาม” ตามมาได้มิใช่ข้าจะโอ้อวดตนเอง แต่เนื้อแท้ของข้าคือคนที่ชังความชั่วโดยสันดานดังนั้น เมื่อได้ยินว่ามีฆาตกรฆ่าคนจำนวนมาก แต่กลับลอยนวลเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ไม่อาจเอาผิดได้ ข้าย่อมโกรธเคืองนัก ข้าเห็นว่า คนฆ่าย่อมต้องชดใช้ด้วยชีวิตแรกเริ่ม ข้าไม่ได้กระทำการอันใดหุนหันพลันแล่น เพียงแต่เดินตามแนวทางของสำนักเขตจิงจ้าว สืบสาวเรื่องราวต่อไป และส่งมอบหลักฐานที่ได้มาให้แก่เจ้ากรมแห่งสำนักเขตจิงจ้าวจนกระทั่งข้าได้พบกับคดีหนึ่งที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1602

    ดอกเหมยบนภูเขาเหม่ยชานบานแล้ว ร่วงโรยแล้วเช่นกันในใจข้าย่อมอดเคืองนางไม่ได้ กลับบ้านไปแล้ว ก็จะทอดทิ้งพวกข้าด้วยหรือ? ไม่นึกถึงน้ำใจไมตรีที่มีต่อกันตลอดหลายปีมานี้เลยหรือ?เฉินเฉินก็ด่านางว่าไร้หัวใจ ไปก็แล้วไป ไยจึงไม่แม้แต่จะส่งจดหมายมาสักฉบับ?นานวันเข้าพวกข้าก็เลิกพูดถึงนางเสียเอง ราวกับว่าการไม่เอ่ยชื่อนางเลย คือการแก้แค้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อผู้ละทิ้งพวกข้าต่างก็ตกลงกันไว้ว่า หากนางกลับมายังภูเขาเหม่ยชานอีกครั้ง ไม่ว่าใครก็จะไม่ไปพบนาง ไม่พูดกับนางสักคำ แม้นางจะให้คนส่งจดหมายมา ข้าก็จะไม่ตอบกลับ แม้แต่จะอ่านยังไม่อ่านวันเวลาผ่านไปกลางดาบคมและเงาเย็น พวกข้าทุกคนต่างฝึกฝนวิชาให้แกร่งกล้า ราวกับได้ตกลงกันไว้แล้วว่า หากยังไม่ตาย ก็จะฝึกจนสุดกำลังแม้ไม่มีผู้ใดเอ่ยวาจา แต่ข้าย่อมรู้ว่าในใจของทุกคนคิดไม่ต่างกัน ย่อมไม่มีวันเป็น ‘นางที่ยิ้มแย้ม’ ได้อีกแล้ว เพราะเจ้าหวังห้าเล่าว่า ตั้งแต่นางจากเขาลงไป ท่านอาจารย์ก็ไม่เคยยิ้มอีกเลย มีแต่สีหน้าเคร่งเครียดทุกเมื่อเชื่อวันพวกข้าไม่รู้ว่านางประสบเรื่องราวใด แต่ข้าก็ฝึกฝนจนกล้าแข็ง เพียงรอวันที่นางต้องการข้า ดาบในมือย่อมพร้อมชักออกจา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1601

    เพียงแต่ ข้ากับซีซีพบกันแทบทุกวัน หากนางไม่มาหาข้าที่สถาบันชื่อเยียน ข้าก็จะไปหานางที่สำนักว่านซง ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงยังคงได้พบหวังเยว่จางอยู่เสมอทว่า ทุกคราที่เขาเห็นข้า ก็จะส่งสายตาเคียดแค้นมาให้ ราวกับข้าเป็นผู้ล่วงเกินเขากระนั้นครั้งหนึ่งข้าทนไม่ไหว เอ่ยถามเขาว่าจะมองเขม่นข้าไปถึงไหน เขากลับว่าข้าเป็นคนแพร่ข่าวลือ ว่าเขาไปเที่ยวหอนางโลมข้าก็โกรธแทบขาดใจ! เขาประพฤติเสียเอง ไม่รู้จักสำนึก กลับมาโทษคนที่บริสุทธิ์ ข้าไม่ได้แพร่ข่าวลือเสียหน่อย!ข้าแค่เล่าเรื่องนี้ให้สหายสนิทของข้าฟัง แล้วจะนับว่าแพร่ข่าวลือได้อย่างไร?ข้าโมโหจนต่อยเขาไปหนึ่งหมัด แล้วก็ประกาศตัดขาดกับเขาเสียเลยต่อมา ซีซีกลับบ้าน ข้าคิดว่าไม่นานนางก็คงกลับมาเช่นเคย แต่ครานี้ นางกลับหายไปเนิ่นนาน มิได้กลับสำนักภูเขาเหม่ยชานอีกเลยข้าไปที่สำนักว่านซงเพื่อถามหา แต่มิมีผู้ใดยอมปริปากแม้แต่คนเดียวด้วยความร้อนใจ ข้าคิดจะพาเฉินเฉินกับมันโถวออกเดินทางไปเมืองหลวงตามหานาง ก่อนออกเดินทาง หวังเยว่จางก็มาหาเราครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นเขามีสีหน้าเคร่งขรึม เขาบอกพวกเราว่า ซีซีมีเรื่องในบ้าน บิดาและพี่ชายล้วนเสียชีวิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1600

    แต่จะว่าไปแล้ว สตรีเช่นข้า ก็เป็นที่โปรดปรานของบุรุษไม่น้อยที่ภูเขาเหม่ยชาน มีบุรุษมากมายชื่นชอบข้า เด็กหนุ่มวัยกำลังขึ้นหนวดอ่อนส่งจดหมายรักให้ข้าเขินๆ อายๆ ส่งมาครั้งแล้วครั้งเล่าข้าก็ไม่เคยเปิดดู ต่อหน้าพวกเขาก็ฉีกมันทิ้งเสียเลยในเมื่อยามนั้น ข้ายังไม่ได้เข้าใจตรรกะของคำปฏิญาณที่ตนตั้งไว้ดีนัก ในใจก็ยังมีคำว่า "ไม่แต่ง" ขวางอยู่เต็มอกข้าฉีกจดหมายรักต่อหน้าพวกเขา ข้ารู้ว่าตนโหดร้าย แต่ขอโทษเถิด ในเมื่อข้าคือสตรีที่ตั้งใจว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องรักใคร่ชั่วชีวิต ข้าย่อมต้องใจแข็ง ไม่ปล่อยให้พวกเขามีแม้แต่นิดเดียวของความหวังร้องไห้เสียในตอนนี้ ยังดีกว่าติดบ่วงในวันหน้า จนเจ็บปวดปานฉีกหัวใจแม้พวกเขาจะบอกหน้าตาเศร้าว่าให้ข้าช่วยส่งจดหมายรักให้ซ่งซีซีก็ตาม ข้าก็ไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อยหึๆ ยังไม่ทันได้เป็นบุรุษเต็มตัว ก็รู้จักใช้เล่ห์กลยั่วยวนหญิงเสียแล้วที่ภูเขาเหม่ยชาน เพื่อนเล่นที่ดีที่สุดของข้าก็คือพวกซีซี หมั่นโถว เฉินเฉิน และกุ้นเอ๋อร์อ้อ เคยมีอยู่ช่วงหนึ่ง ศิษย์พี่ใหญ่ของเฉินเฉินก็มาเล่นกับพวกเราด้วย แต่น่าเสียดาย ต่อมาเขาก็ลงเขาไปผดุงคุณธรรมเสียแล้ว แต่เฉินเฉินบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1599

    ข้า...เสิ่นว่านจือคนดีคนเดิม ยังคงอยากจะบ่นอยู่ บ่นถึงบุรุษของข้าหวังเยว่จาง เจ้านี่ช่างสมกับเป็นบุตรของท่านฮูหยินผู้เฒ่าหวังเสียจริงก่อนแต่งงานเราก็ตกลงกันไว้ชัดเจนแล้วว่า ต่อแต่นี้ไปไม่ว่าข้าจะทำสิ่งใด เขาห้ามแทรกแซง ห้ามห้ามปราม และห้ามเข้าร่วมโดยเด็ดขาดผลสุดท้าย เพิ่งแต่งได้ปีเดียว เขาก็ฉีกสัญญาทิ้งหมดสิ้น จะทำด้วยทุกเรื่องตามข้าสิ่งที่ข้าทำนั้น เขาเกี่ยวข้องได้หรือ? ย่อมไม่ได้ สำนักว่านซงมีกฎเข้มงวด อีกทั้งยังมีอาจารย์อาผู้เหี้ยมโหดนั่งประจำอยู่ หากรู้ว่าข้าพาหวังเยว่จางไปตัดหัวคน เกรงว่าจะบดกระดูกข้าเป็นผุยผงไปแล้วแต่เขาว่า เดิมเขาก็เป็นคนในยุทธภพ คนในยุทธภพล้วนถือความสะใจเป็นใหญ่ ทั้งบุญคุณและความแค้น ไม่ว่าเป็นของผู้ใด ก็ล้วนต้องตอบแทนอีกทั้งเราทำอย่างลับๆ สถาบันว่านซงเหมินย่อมไม่รู้เรื่องแต่พี่ห้า ท่านเข้าสังกัดกรมกลาโหมไปแล้วนะ ท่านก็เป็นขุนนางแล้ว จะยังพูดเรื่องยุทธภพสะใจล้างแค้นอะไรอีกเล่า?สิ่งที่ข้าทำ แม้แต่ซ่งซีซีก็ยังไม่รู้ทั้งหมด หรือหากนางรู้ นางก็คงเลือกที่จะปิดหูปิดตาเสีย เพราะว่ามันขัดแย้งกับสถานะ เข้าใจหรือไม่?ข้า...เสิ่นว่านจือ ไม่ย่างกรายเข้าสู่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1598

    บางครั้งข้าก็สอนศิษย์ทั้งหลายให้กล้าเผชิญหน้ากับชีวิต กล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาด แต่ตัวข้าเองกลับมิอาจกระทำได้เช่นนั้นหลายปีมานี้ ข้าแทบไม่ได้พบหน้าเขาเลย หากรู้ว่าเขาจะไปที่ใด ข้าย่อมหลีกเลี่ยงไม่ไปเมื่อครั้งที่ข้ายังดื้อดึงอยู่ เคยถูกพี่สะใภ้ตำหนิว่าข้ายังติดหนี้เจ้าสิบเอ็ดฝางอยู่ แต่ในใจข้ากลับไม่ยอมรับนัก ยังรู้สึกน้อยใจอยู่บ้างแต่ตอนนี้เมื่อคิดย้อนกลับไป ข้าน้อยใจไปเพื่ออะไรเล่า? ใครเป็นคนที่ติดหนี้ข้ากัน? ฟ้าดินเมตตาข้าไม่มากพอแล้วหรือ? ทุกสิ่งล้วนเป็นผลจากการกระทำของข้าเองทั้งสิ้นหลายครา ข้าเปิดกระดาษเขียนจดหมาย ตั้งใจจะเขียนถึงเขาเพื่อขอขมาจากใจจริงแต่ยามจับพู่กันลงหมึก พอหมึกหยดลงกระดาษกลับเขียนไม่ออกแม้แต่คำเดียวข้ากลัวว่าจดหมายขอขมานั้นจะดูแปลกประหลาดเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาระแวง หรือแม้แต่ทำให้จ้านเป่ยว่างคิดมากแม้ว่าตอนนี้ ข้ากับจ้านเป่ยว่างจะมิได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ แล้วก็ตาม แต่ข้าก็ไม่ต้องการทำลายความสงบเช่นนี้ระหว่างนั้น จ้านเป่ยว่างเคยกลับมาสองสามครั้ง อาจเพราะเห็นกองกระดาษที่ถูกขยำทิ้งในห้องหนังสือของข้า เขาจึงสั่งให้เตรียมเหล้าหนึ่งเหยือก กับกับข้า

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status