เพื่อยืนยันว้าพลังของไส้เดือนฝอยเสน่ห์นี้ ชิงเชวี่ยสั่งคนนำไก่ตัวหนึ่งมา และให้ไก่ตัวนั้นกินเข้าไป จากนั้นรมยาเพื่อกระตุ้นพลังของไส้เดือนฝอย เมื่อทุกคนเห็นไก่ตัวนั้นดูเหมือนบ้าคลั่งขึ้นมา มันจะแค่จิกทุกคน และบินไปทั่วห้องโถง โหดร้ายเป็นพิเศษแม้แต่ไก่ชนท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงที่สุด เมื่อถูกนำมาต่อสู้กับมัน ก็โดนอีกฝ่ายจิกจนดวงตาข้างหนึ่งก็ถูกจิกออกไปในทันทีหลังจากที่ชิงเชวี่ยรมยาอีกครั้ง ไก่ตัวนั้นก็หยุดแล้วค่อยๆ อาเจียนไส้เดือนฝอยออกมานางพูดว่า "แมลงชนิดนี้เรียกว่าไส้เดือนฝอยเสน่ห์ และมันถูกควบคุมโดยคน เมื่อนางเหลียงกินมันเข้าไปนั้นเป็นเพียงไข่ ไข่แมลงนี้ไม่สามารถฆ่าได้ด้วยอุณหภูมิสูงและเมื่อเข้าไปในร่างกายแล้วก็ไหลตามเลือดจนขึ้นสมอง โดยปกติกระบวนการนี้จะใช้เวลาประมาณครึ่งปีซึ่งสอดคล้องกับคำสารภาพของหมอสวีพอดี ตอนนี้ไส้เดือนฝอยได้โตขึ้นแล้ว ไม่ว่าเข้าไปร่างของผู้ใด ตราบใดที่ได้กลิ่นยาหรือถูกควบคุมโดยใครสักคน ก็สามารถให้คนที่โดนพิษนั้นทำอะไรบ้าคลั่งเช่นกัน"เมื่อทุกคนตกตะลึงอยู่ เจ้ากรมหลี่ก็พูดขึ้นว่า "เพระางั้นมีคนจงใจทำร้ายครอบครัวของพวกเขา อีกอย่างคิดแผนมาด้วย นางเหลียงเป็นแค่
เซี่ยหลูโม่ถามถึงหลานเอ่อร์ "ตอนนี้นางเป็นยังไงบ้าง อารมณ์ดีขึ้นหรือเปล่า? หลังจากเหลียงเส้าถูกไล่ออกจากตำแหน่ง น่าจะสงบเสงี่ยมเจียมตัวบ้างสินะ"ซ่งซีซีส่ายหัว "คำก็รักแท้สองคำก็รักแท้ จะให้สงบเสงี่ยมเจียมตัวได้อย่างไร ไม่เพียงไม่เจียมตัว บัดนี้แม้แต่เรือนของหลานเอ่อร์ก็ไม่เข้าไปแล้วด้วยซ้ำฉั""รักแท้เหรอ?" เซี่ยหลูโม่ขมวดคิ้ว "มันไม่เท่ากับดูหมิ่นสองคำนี้หรือ ยังมีภรรยารองอีกคนมิใช่หรือ ลูกสาวของพ่อค้าคนนั้น สตรีที่ออกเงินไถ่ให้หญิงงามเมืองเพื่อเขา""ตั้งแต่ที่นางเหวินเข้าจวนมา ยังไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อนเลย" ซ่งซีซีหยุดงานปักด้วยสีหน้าบูดบึ้ง "นางเหวินอายุเพียงสิบเจ็ดปีในปีนี้ ด้วยความช่องโหว่ระหว่างจวนเฉิงเอินป๋อกับครอบครัวของนาง หากนางอยากหนีออกไปจากนรกนั้นคงเป็นไม่ได้ นางก็เป็นเหยื่อที่เพื่อผลประโยชน์ของพ่อและพี่ชายด้วย คิดว่านางเต็มใจแต่งงานกับเหลียงเส้าเป็นฮูหยินรองจริงๆ หรือ?""ข้างนอกต่างลือนางเช่นนั้นจริงๆ" แม่นมเหลียงนำแกงเข้ามาด้วยตนเองพลางพูดซ่งซีซีกล่าวว่า "ข้ารู้ โดยบอกว่านางเหวินเพื่อให้ฐานะครอบครัวเพิ่มขึ้น เกาะจวนป๋อเข้าเป็นอนุภรรยา นางทำด้วยสมัครใจ แต่ว่ามันทำด้
เป่าจูรีบวิ่งออกไปนำน้ำชามาให้ น้ำชาเต็มๆ ค่อยๆ เทให้นางลงในถ้วยนางดื่มไปอีกถ้วยหนึ่งก่อนจะพูดต่อว่า "ท่านหญิงตั้งหน้าตั้งตารอเขามาอยู่เลย ดังนั้นเมื่อเขามาเราเลยไม่ได้ห้าม โดยคิดว่าสามีภรรยากันมีความเข้าใจผิดกันย่อมอธิบายได้ พูดกันดีๆ อย่างน้อยก่อนที่เด็กจะคลอดออกมา ท่านหญิงจะมีอารมณ์ดีๆ อย่าเอาแต่ร้องไห้ตามลำพังในตอนกลางคืนตลอด"ซ่งซีซีเริ่มกังวล "เขาเข้าไปดุหลานเอ่อร์หรือ?""ดุเหรอ? หากแค่ดุข้าจะไม่ลงมือกับเขาหรอก เขาผลักท่านหญิง ผลักท่านหญิงให้ท้องของนางชนที่มุมโต๊ะ ท่านหญิงเจ็บปวดมากจนเหงื่อออก ข้าเลยเข้าไปซัดเขา""ผลักหลานเอ่อร์ สถานการณ์ของหลานเอ่อร์ในตอนนี้เป็นยังไงบ้าง" ซ่งซีซีรีบถามขึ้น"ตามหาหมอประจำจวนมาตรวจให้แล้ว เด็กในท้องอันตรายมาก ต้องพักฟื้นในเตียงหนึ่งเดือน" ศิษย์พี่ซือโซดื่มน้ำชาอีกถ้วย "เนื่องจากท่านหญิงเอาแต่เรียกหาท่านแม่ ข้าจึงไปที่จวนอ๋องฮวยก่อนเพื่อให้พวกเขาไปเยี่ยมท่านหญิงสักหน่อย"ศิษย์พี่ซือโซหยุดพูดอยู่นาน ซึ่งทำให้ทุกคนใจร้อนมาก ซ่งซีซีอดไม่ได้ที่จะถามอีกครั้งว่า "พวกเขาไปแล้วหรือยัง?""ไม่ไป!" ศิษย์พี่ซือโซดื่มน้ำชาอีกถ้วย "วันนี้ข้ากระหายน้ำมากจ
จิ้งซินอยู่กับไทเฟยมาโดยตลอด ดังนั้นในตอนแรกนางก็อยากจะไปด้วยกัน แต่ซ่งซีซี ให้นางอยู่ต่อโดยพูดว่า "ที่เรือนข้ายังขาดแคลนคนใช้ เจ้าคอยรับใช้ที่เรือนของข้าก่อน"จิ้งซินหรี่ตาลง "เจ้าค่ะ!"นางหยุดฝีเท้า และไม่ได้ตามไป แต่มีความตื่นตระหนกในดวงตาของนาง หรือว่าพระชายามองอะไรออกแล้วหรือ?เห็นแค่ซ่งซีซียิ้มสดใส "ข้าได้ยินจากเสด็จแม่ว่าเจ้าหวีผมได้ดี นับจากนี้ไปเจ้ามาหวีผมให้ข้าในเรือนของข้า"เมื่อเห็นรอยยิ้มอันอบอุ่นบนใบหน้าของพระชายา จิ้งซินจึงถามว่า "พระชายา ปกติเป็นเป่าจูหวีผมให้ท่านโดยตลอด หากข้าน้อยแย่งหน้าที่ของเป่าจูไปคงจะไม่ดีกระมัง"ซ่งซีซีกล่าวว่า "ข้ามีภารกิจอื่นให้เป่าจูทำ ไม่มีคำว่าแย่งชิง เจ้าไม่ต้องกังวล"จิ้งซินถึงกับโล่งใจได้เล็กน้อย "เจ้าค่ะ ตราบใดที่ไทเฟยเห็นด้วย ข้าน้อยจะไปที่เรือนดอกบ๊วยเพื่อรับใช้พระชายาเจ้าค่ะ"นางแอบมองท่านอ๋องอย่างลับๆ และเห็นว่า ท่านอ๋องไม่โต้ตอบอะไร สีหน้าของเขาไม่แยแส และเห็นๆ อยู่ว่าไม่เหมือนท่าทีที่เกิดความสงสัยอะไรเลยจวนเฉิงเอินป๋อสว่างไสวสองสามีภรรยาเฉิงเอินป๋อ นายท่านและฮูหยินอื่นๆ จากบ้านอื่นต่างก็ออกมาต้อนรับสนมฮุ่ยไทเฟยด้วยสนมฮ
เมื่อหลานเอ่อร์ได้ยินเสียงอันอ่อนโยนนี้ นางก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้อีกแม้ว่าศิษย์พี่ซือโซจะเล่าเรื่องที่ไปที่มาให้ฟังแล้ว แต่สาวใช้ข้างกายของหลานเอ่อร์ก็ยังคงร้องไห้พลางเล่าซ้ำอีกครั้ง"ตั้งแต่ท่านซื่อจื่อถูกไล่ออกจากตำแหน่ง นางก็ถูกขังบริเวณเช่นกัน แต่ท่านหญิงของเราก็ไม่ได้มีชีวิตที่สงบสุขเช่นกัน ท่านซื่อจื่อโยนความผิดทั้งหมดมาลงที่ท่านหญิงของเรา ตอนที่ไปคารวะฮูหยินผู้เฒ่าได้เจอมาสองครั้ง เอาแต่ชี้หน้าท่านหญิงของเราพลางด่าว่านางออกไปพูดไปเรื่อย เลยทำให้นางโดนอวี้ฉื่อไปร้องเรียน""ถึงแม้ว่าฮูหยินจะปกป้องท่านหญิง แต่ฮูหยินผู้เฒ่าปกป้องท่านซื่อจื่อ โดยบอกว่าถึงแม้คุณหนูของเราจะเป็นท่านหญิง แต่นางก็แต่งงานเข้าจวนเฉิงเอินป๋อแล้ว ดังนั้นทุกอย่างต้องให้สามีมาก่อน ไม่ควรพูดไม่ดีกับสามีของตนเองแม้แต่คำเดียวให้คนนอกรู้ ไม่งั้นก็ถือว่าละเลยต่อหน้าที่ที่เป็นภรรยาเอก""เช่นเดียวกับวันนี้ เห็นๆ อยู่ว่าอนุเยียนหลิวมายั่วก่อน ท่านหญิงของเราแค่ไปพบหน้านาง ยังไม่ทันจะพูดอะไร นางก็ล้มลงกับพื้น แล้วท่านซื่อจื่อก็มาเอาเรื่องด้วยความโกรธ ยังลงไม้ลงมือผลักท่านหญิงไปชนกับมุมโต๊ะ"หงเอ๋อร์ปาดน้ำตาพลางชี้ไป
ขณะอยู่บนรถม้า เสิ่นว่านจือได้บอกคำพูดของลูกสะใภ้ของนางโดยบอกให้นางให้ทำท่าสุภาพก่อนแล้วค่อยวางอำนาจหลังจากไปถึงจวนเฉิงเอินป๋อ หลังจากที่ได้เห็นสถานการณ์ที่น่าสังเวชของหลานเอ่อร์ นางจะต้องแสดงอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดออกมา เพื่อทำให้ทุกคนในนั้นหวาดกลัว รวามฮูหยินผู้เฒ่าของจวนเฉิงเอินป๋อด้วยเสิ่นว่านจือนำเยียนหลิวเข้ามา จากนั้นเตะนางล้มลงไปที่พื้น "นังตัวดีคนนี้แหละ กล้ามาเล่นลูกไม้ต่อหน้าท่านหญิง ทางจวนป๋อจะไม่มีผู้ใดยอมออกหน้าช่วยท่านหญิง ล้วนเข้าข้างนังตัวดีคนนี้ แล้วแต่พระสนมไทเฟยมาจัดการเองเจ้าค่ะ"ฮูหยินเฉิงเอินป๋อก็เกลียดผู้หญิงคนนี้มากเช่นกัน แต่นางรู้ว่านางเป็นสุดที่รักของบุตรชาย และบุตรชายก็เป็นสุดที่รักของฮูหยินผู้เฒ่าด้วย นี่ถึงเป็นเหตุผลที่ยอมเก็บนางไว้ในจวนตอนนี้เมื่อเห็นนางถูกเสิ่นว่านจือเตะลงกับพื้น มีสภาพไม่น่ามอง ต้องยอมรับว่าในใจก็ค่อนข้างสะใสสนมฮุ่ยไทเฟยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น นางแค่ถามเบาๆ ว่า "ไม่รู้ว่าจวนเฉิงเอินป๋อมีกฎอะไรบ้าง แต่หากอยู่ในวัง ถ้านางสนมคนใดกล้ารุกรานหวงโฮ่ว หรือใส่ร้ายหวงโฮ่ว หากไม่ฆ่าตัวตายด้วยด้ายสาวก็ใช้สุราพิษ จวนป๋อไม่มีพวกนี้หรือ หากไม่ด้
เมื่อเห็นสีหน้าของท่านแม่เปลี่ยนไปอย่างมาก เฉิงเอินป๋อจึงเกลี้ยกล่อมทันทีว่า "ท่านแม่ พูดดีๆ...""หุบปาก! เจ้าที่ไม่เอาไหน คนอื่นมารังแกถึงที่แล้ว ยังทำท่าอย่างว่าง่ายอีกหรือ?" ฮูหยินผู้เฒ่าตะโกนด้วยความโกรธ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความเดือดดาล "ออกไปจากที่นี่"นางเดินไปนั่งลง หายใจเข้าลึกๆ และมองเข้าไปในดวงตาของสนมฮุ่ยไทเฟย "ที่ต่ำที่สูง ที่ต่ำที่สูงอะไรกัน ท่านหญิงอย่างนางแต่งเข้าจวนเฉิงเอินป๋อของข้า งั้นก็คือสะใภ้ของจวนป๋อของเรา สตรีอยู่บ้านก็ต้องเชื่อฟังคำสั่งพ่อ พอออกเรือนไปก็ต้องเชื่อฟังคำสั่งสามี นางจงใจก่อกวนเรื่อง ยุยงให้พระชายาเป่ยหมิงอ๋องไปร้องเรียนสามีของตนเอง แค่เพื่อเรื่องเล็กน้อยฝ่ายในนี่ มีครอบครัวไหนบ้างที่ไม่แต่งอนุภรรยา เรียนอะไรไม่เรียน กลับเรียนการกระทำที่ไม่ดีมา เรียนเป็นคนขี้อิจฉาริษยาและใจแคบได้อย่างดีมากทีเดียว"สนมฮุ่ยไทเฟยจ้องมองด้วยดวงตากลมๆ หอชืม? ด่าซ่งซีซีงั้นเหรอ? หาว่าลูกสะใภ้ของนางงั้นเหรอ? หาว่าลูกสะใภ้ที่ยังไม่ได้แต่งงานเข้าจวนก็ปกป้องนางตลอดงั้นเหรอ?ด้วยเสียง "ปัง" ถ้วยของสนมฮุ่ยไทเฟยก็กระแทกพื้น ถ้วยสีขาวกระเด็นไปทุกที่ และนางก็ตะโกนด้วยความโกรธ
ฮูหยินผู้เฒ่าเหลียงตาพร่ามัว และนางเกือบจะสติแตกแล้ ร่างกายของนางสั่นเล็กน้อย และต้องใช้เวลาสักพักกว่านางจะสงบอารมณ์ลง นางชี้ไปที่สนมฮุ่ยไทเฟย และตัวสั่นอยู่พักหนึ่ง "ข้า...ข้าจะฟ้องให้ไทเฮาทราบแน่นอน สนมฮุ่ยไทเฟยรังแกคนมากเกินไป""ไปฟ้องเลย แม่มด!" สนมฮุ่ยไทเฟยเงยหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง "ไทเฮาเป็นท่านพี่ของข้า แต่นางเป็นคนมีเหตุผล ถ้านางรู้ว่าครอบครัวของเจ้ารังแกหลานเอ่อร์ ด้วยความโกรธ เกรงว่ายศถาบรรดาศักดิ์ที่ของจวนป๋อก็จะถูกยกเลิกได้น่ะ นับประสาฮูหยินที่มียศ ไปเป็นคนสามัญชนได้เลย"“ยศถาบรรดาศักดิ์ของข้าเจ้ามีสิทธิ์มาตัดสินอะไรกัน เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร”ฮูหยินผู้เฒ่าเหลียงรู้สึกหงุดหงิดถึงที่สุด จนนางโยนไม้ค้ำยันออกแล้วยื่นมือออกไปผลัก สนมฮุ่ยไทเฟยก็ทำท่าล้มลงกับพื้นแล้วตะโกนว่า "เจ้ากล้าดียังไงมาลงมือกับข้า คนของจวนป๋อกล้าไม่เคารพผู้มียศมากกว่า กล้าลงมือกับข้า"ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ทุกคนในจวนป๋อต่างก็ตกตะลึง สนมฮุ่ยไทเฟยที่เมื่อกี้ยังดุผู้คนไปเรื่อย ตอนนี้กลายเหมือนลูกสะใภ้ตัวน้อยที่ถูกรังแก และถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยเมื่อครึ่งชั่วยามที่แล้ว ซ่งซีซีและเซี่ยหลูโม่ได้ขึ้น