แชร์

บทที่ 139

ผู้เขียน: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-04-30 18:54:53
วันรุ่งขึ้น มีข่าวกระจายไปทั่วกองทัพว่า จ้านเป่ยว่างจะรับการลงโทษแทนยี่ฝาง

นับตั้งแต่ยี่ฝางถูกจับ ข่าวเกี่ยวกับพวกเขาทั้งสองคนก็แพร่กระจายไปทั่วกองทัพ และเกือบทุกคนในเขตหนานเจียงต่างก็รู้เรื่องนี้

ในตอนแรก ยี่ฝางแสร้งทำเป็นไม่สนใจ และทำทุกอย่างที่นางต้องทำหลังจากบาดแผลหายดี ราวกับว่านางต้องการใช้ทัศนคตินี้เพื่อระงับคำวิจารณ์ทั้งหมด

แต่เมื่อคำวิจารณ์มีมากขึ้นเรื่อยๆ สายตาที่ทุกคนมองนางก็ยิ่งแปลกมากขึ้น นางทนไม่ไหวอีกต่อไป ดังนั้นจึงซ่อนตัวไว้โดยใช้ข้ออ้างว่าอาการบาดเจ็บของนางยังไม่หายดี

จ้านเป่ยว่างได้อดทนกับทุกเรื่องอย่างเงียบๆ ไม่ใช่ว่าคำวิจารณ์เหล่านั้นไม่ถึงหูของเขา เพียงแต่ว่าเขาไม่สามารถตอบหรืออธิบายใดๆ ได้

เพราะเขารู้ว่าเบื้องหลังของเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับสงครามชายแดนเฉิงหลิง เกี่ยวข้องกับชาวบ้านชาวเมืองของเมืองซีจิงที่ถูกยี่ฝางสังหารหมู่ และ...

สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถอธิบายได้ และการอธิบายมีแต่จะทำให้เรื่องยิ่งร้ายแรงมากขึ้นเท่านั้น

แต่พวกทหารไม่รู้เรื่อง พวกเขาแค่คิดว่า ที่แม่ทัพยี่ถูกศัตรูจับตัวไปเพราะนางไม่ทำตามคำสั่ง และออกจากกองกำลังหลักโดยไม่ได้รับอนุญาต

ยิ่งไปกว่า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 140

    เพลง "แม่ทัพ" ทำให้ทุกคนน่าตื่นเต้น เลือดเดือด และดวงตาก็เหมือนกับมีไฟจะลุกออกมาอย่างไรอย่างนั้นแม่ทัพรบนับเป็นร้อยครั้ง บางคนก็เสียชีวิตในนั้นเลย ได้กลับมาก็ครั้งหนึ่งก็ผ่านเวลาไปสิบปีแล้วในที่สุดกลองก็ถูกตีอย่างแรงเสียงนึง จากนั้นทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบเซี่ยหลูโม่ถื ป้ายวิญญาณของซ่งฮวยอันไว้ในอ้อมแขนของเขา เมื่อเขากำลังจะเข้าไปในเมือง เขาก็ยกป้ายวิญญาณขึ้น ซึ่งเทียบเท่ากับการปล่อยให้ซ่งฮวยอันเข้าไปในเมืองก่อนเมื่อยกป้ายวิญญาณขึ้น จากนั้นเขาค่อยก้าวเข้าไปในเมืองต่อ และคนอื่นๆ ก็เดินตามไป ทุกคนที่ถือป้ายวิญญาณอยู่ในมือก็เงียบและดูเคร่งขรึมหลังจากเข้าไปในเมืองแล้ว พวกเขาคุกเข่าต่อหน้าฮ่องเต้ เซี่ยหลูโม่พูดเสียงดังว่า "กระหม่อมเซี่ยหลูโม่ และซ่งฮวยอันได้นำกองทัพกลับบ้านอย่างมีชัยชนะ เพราะทรงได้รับการคุ้มรองจากบรรพบุรุษของแคว้นซางและทรงได้รับพรของฝ่าบาท กระหม่อมเซี่ยหลูโม่และซ่งฮวยอันกับพวกทหารทุกคนทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ได้ฟื้นฟูเขตหนานเจียงกลับคืนมาพะยะค่ะ"เสียงของเขาดังก้องไปทั่วประตูเมือง และลอยอยู่บนท้องฟ้าเหนือเมืองหลวงมีเสียงไชโยดังขึ้นราวกับระเบิด เสียงไชโยพร้อมกั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 141

    เป่าจูอย่างมีความสุขที่สุด แต่ก็ร้องไห้หนักที่สุดด้วย นางไล่ตามออกไปด้วยความเร็วมาก แล้วตะโกนว่า "คุณหนู คุณหนู..."ซ่งซีซีเหลือบมองนางอย่างจนใจ เด็กหญิงคนนี้ทั้งหัวเราะและร้องไห้ ไม่รู้จักควบคุมตนเองจริงๆเซี่ยหลูโม่นั่งกับซ่งซีซี เขาเหลือบมองที่เป่าจูแวบนึง และคิดอยู่ครู่หนึ่งว่า "นางชื่อเป่าจูใช่ไหม?""ท่านอ๋องยังจำนางได้หรือ" ซ่งซีซีรู้สึกประหลาดใจมาก"จำได้" เซี่ยหลูโม่ยกยิ้ม "ข้าจำได้ว่ามีอยู่ปีนึงที่ไปสถาบันว่านซงเหมิน เด็กหญิงคนนี้กำลังตีอินทผลัมบนต้นไม้ เมื่อนางเห็นข้าและศิษย์พี่ของเจ้า นางตกใจจนล้มลงจากต้นไม้"ซ่งซีซีดูประหลาดใจมากยิ่งขึ้น "ท่านอ๋องเคยไปสถาบันว่านซงเหมินมาก่อนหรือ?""อืม ก่อนที่ข้าจะไปเขตหนานเจียง ข้าจะไปที่นั่นปีละครั้ง" เขาพูดอย่างไม่ค่อยใส่ใจ แสงแดดในเดือนมิถุนายนส่องประกายเจิดจ้าในดวงตาของเขา และในไม่ช้าก็มืดลง "ต่อมาก็ไม่ได้ไปเลย""ข้ากลับไม่รู้ และไม่เคยพบกับท่านอ๋องมาก่อนเลย" ซ่งซีซีมองเขาด้วยความประหลาดใจ "ทำไมท่านอ๋องถึงไปสถาบันว่านซงเหมินทุกปีล่ะ?""เที่ยวเล่น แวะให้อาจารย์และศิษย์อาของเจ้าช่วยสอนศิลปะการต่อสู้ด้วย ไม่น่าแปลกใจที่เจ้าไม่ได้พ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 142

    ตลอดทางที่ยี่ฝางกลับเมืองหลวงนางดูหดหู่ตลอดจ้านเป่ยว่างรักษาระยะห่างจากนาง แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บทางร่างกายแต่ก็ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากนาง เขาต้านทานที่จะอยู่ใกล้ชิดกับนางมากแม้แต่คนที่ถูกจับพร้อมกับนางพวกนั้น ก็ยังมองดูนางอย่างเกลียดชังพวกเขารู้อยู่แก่ใจว่าทำไมตนเองถึงถูกตอน หัวหน้าทหารที่ถูกทรมานในเมืองลู่เปินเอ่อร์ เป็นยี่ฝางที่ออกคำสั่งให้ตอนและทำให้เขาอับอายดังนั้น ตอนนี้ชาวซีจิงเลยปฏิบัติกับพวกเขาโดยใช้วิธีแบบเดียวกัน พวกเขาไม่สามารถบ่นเรื่องทุกข์ใจเช่นนี้ได้และก็ไม่กล้าบ่น เพราะงั้น พวกเขาจึงเกลียดชังยี่ฝางจนเข้ากระดูกดำระหว่างทาง ไม่แม้แต่ไม่อยากคุยกับนาง แค่มองเห็นนางก็อยากหลบหนีไปไกลๆยี่ฝางนึกถึงขาไปมีจิตใจเบิกบานมาก โดยคิดว่าจะสามารถสร้างผลงานแน่ๆ แต่ไม่คาดคิดเมื่อกลับมา ไม่เพียงถูกทำลายใบหน้าไปครึ่งหนึ่ง และถึงขั้นถูกทุกคนเกลียดชังด้วยเรื่องดังกล่าวนั้นนางยังพอทนได้ ทว่าที่นางทนไม่ไหวที่สุดก็คือ ซ่งซีซีกลับได้รับการยกย่องนับถือจากทหาร มีพวกแม่ทัพคอยปกป้อง และแม้แต่เป่ยหมิงอ๋องก็ชื่นชมกับนางอย่างสูงโดยเฉพาะหลังจากกลับมาถึงเมืองหลวง ซ่งซีซียังนั่งในรถม้าห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 143

    ยี่ฝางชะงักไป แล้วพูดด้วยความโกรธทันที "ใคร ใครบอกว่าข้าถูกเสียบริสุทธิ์ไป?""แค่ตอบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่" ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านโกรธมากจนหน้าซีด "ข้างนอกลือกันหมดแล้ว ยังถามว่าใคร ใครๆ ทั้งนั้นก็ลือแบบนี้"ยี่ฝางไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์ในเขตหนานเจียงจะแพร่กระจายถึงเมืองหลวง ราวกับสมองระเบิดออกในทันทีทันใด นางพูดเสียงดังด้วยความเสียใจ "ข้าเปล่า ข้าถูกจับก็จริง แต่ข้าแค่เจ็บปวดภายนอก ไม่เสียบริสุทธิ์ไป"จ้านจี้กล่าวว่า "ถ้าอย่างนั้นก็หาใครสักคนมาเป็นพยานให้สิ มีคนถูกจับไปพร้อมกับเจ้าไม่ใช่เหรอ พวกเขาสามารถเป็นพยานให้เจ้าได้"พอนึกถึงลูกพี่ลูกน้องและทหารเหล่านั้น ยี่ฝางก็รู้สึกกราดเกรี้ยว หาใช่ว่าพี่จ้านไม่ได้ไปถามพวกเขา แต่พวกเขาทั้งหมดบอกว่าไม่รู้เรื่องไม่รู้เรื่อง ไม่รู้เรื่อง ถูกขังอยู่ในบ้านไม้เดียวหัน จะไม่รู้ได้ยังไง?แต่คำว่าไม่รู้เรื่องของพวกเขา ทำให้พี่จ้านและคนอื่นๆ เชื่อมั่นว่า นางเสียบริสุทธิ์ไปแล้วดังนั้นนางจึงไม่สามารถหาใครมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนางได้ เมื่อต้องเผชิญกับคำพูดของพ่อสามี นางทำได้เพียงพูดอย่างเย็นชาว่า "ผู้บริสุทธิ์ย่อมบริสุทธิ์เลย และปากแยู่กับคนอื่น จะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 144

    หลังจากได้ยินคำพูดนี้ ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านก็ครุ่นคิด และนางหวั่นไหวใจจริงๆบัดนี้ ซ่งซีซีเป็นคุณหนูผู้สูงส่งของจวนเสนาบดีเจิ้นกั๋วกง ตราบใดที่เป่ยว่างแต่งงานกับนาง งั้นก็จะได้สืบทอดยศทันที หาใช่ว่านางไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน แต่ในเวลานั้นนางรู้สึกว่ายี่ฝางและเป่ยว่างสามารถประสบความสำเร็จแน่นอน ไม่เห็นจำเป็นต้องให้ลูกชายของตนเองถูกวิพากษ์วิจารณ์แต่ตอนนี้ คำวิพากษ์วิจารณ์ข้างนอกยังน้อยหรือ ผู้หญิงหากไม่มีบริสุทธิ์ ไม่เพียงแต่ทำให้ชื่อเสียงของครอบครัวต้องเสียหาย แต่ยังส่งผลกระทบต่อการแต่งงานของน้องๆ ในบ้านด้วย หากเป่ยว่างได้สืบทอดตำแหน่งยศมา อย่างน้อยเห็นแก่สถานะครอบครัวของจวนเสนาบดีกั๋วกง เป่ยเซินและเส้าฮวนยังสามารถเลือกคู่แต่งงานดีๆ ได้และถ้าซ่งซีซีกลับมา งั้นทรัพย์สินสมบัตอันมหาศาลนั้นก็กลับมาพร้อมกัน ช่วงนี้จวนแม่ทัพใช้ชีวิตอย่างยากลำบากจนทนไม่ไหวแล้ว ขนาดนางไม่มีปัญญาซื้อยาได้อีกเลยซ่งซีซีเป็นคนกตัญญู ดังนั้นนางจะดูแลทุกอย่างอย่างเรียบร้อยโดยไม่ต้องให้นางเป็นห่วงนอกจากนี้ ซ่งซีซีไม่เคยบอกพวกเขามาก่อนว่าไทเฮาทรงเอ็นดูนางมากขนาดนี้ หากนางบอกพวกเขาตั้งแต่แรก อาจไม่แน่คุณท่านกับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 145

    อีกอย่าง หากซ่งซีซีตอบตกลงก็แล้วไป หากนางไม่ยอม นางจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?ดังนั้น หลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้ว "ให้ลูกสะใภ้รองไปก่อน หากนางไม่ตอบตกลงเราค่อยวางแผนใหม่"นางไม่สามารถแบกหย้าไปทำเช่นนั้นได้ หากนางไปเอง ต่อให้ซ่งซีซียอมคืนดีกับเป่ยว่างจริงๆ นางก็กู้คืนภาพลักษณ์ที่เป็นแม่สามีของนางได้อีกที่จวนแม่ทัพมียี่ฝางที่น่าอับอายขายขี้หน้าคนเดียวก็มากพอแล้ว จะเพิ่มคนที่ทำยอมเชื่อฟังไม่ได้อีกฮูหยินผู้เฒ่าจ้านกำลังจินตนาต่างๆ นาๆ ส่วนซ่งซีซีได้ไปตำหนักฉือหนิงเพื่อเข้าเฝ้าไทเฮาแล้วไทเฮาอายุไม่ถึงห้าสิบปี และทรงดูแลตัวเองอย่างดี ยกเว้นรอยตีนกาที่หางตา พระองค์ไม่ทรงแสดงสภาพทรงชราแต่อย่างใดผมสีขาวสองสามเส้นปนกับผมดำ สังเกตได้ยากนางทั้งสง่างาม มีกิริยาท่าทางเพียบพร้อม เมื่ออยู่กับซ่งซีซียิ่งแสดงความอ่อนโยนออกมา"เจ้าเด็กน้อยนี่ เจ้าวิ่งไปที่สนามรบอย่างเงียบๆ หากเป็นอะไรขึ้นมา จะให้ข้าอธิบายกับท่านแม่ของเจ้าได้อย่างไร"ดวงตาของไทเฮาแดงก่ำเล็กน้อย นางชื่นชมซ่งซีซีแต่ก็เป็นห่วงใยด้วย บางทีอาจคิดถึงซ่งฮูหยิน นางก็รู้สึกอึดอัดใจมากขึ้น"ทำให้ไทเฮาทรงเป็นห่วง หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ" ซ่งซี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 146

    เสียงของไทเฮาสะอื้นเมื่อซ่งซีซียังเด็ก นางมักจะติดตามท่านแม่ของนางเข้าพระราชวัง ในเวลานั้น ไทเฮายังเป็นฮองเฮาหัวข้อที่นางและท่านแม่พูดถึงมากที่สุดคือ ถึงจะเป็นผู้หญิงก็ต้องสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองด้วย ย่อมไม่รับใช้ผู้ชายอย่างเดียว จะมีความคิดของตนเอง และใช้ชีวิตของตัวเองทุกครั้งที่นางพูดถึงเรื่องนี้ นางจะถอนหายใจ และบอกว่านางติดอยู่ใต้กำแพงสูงของวังหลัง ดูเหมือนว่านางจะกินดีอยู่ดี แต่ชีวิตอย่างสงบสุข ทว่าชีวิตนี้ใช้แต่ชีวิตอย่างนี้ไปตลอดกาลแล้วท่านแม่ก็พูดตามนางไปด้วย นางบอกว่าผู้หญิงไม่จำเป็นต้องแต่งงานและมีลูกก็ได้ สามารถออกไปผจญภัยกับโลกภายนอกได้นั่นเป็นเหตุผลที่นางออกจากบ้านเมื่ออายุเจ็ดแปดขวบ และไปสถาบันว่านซงเหมินที่ภูเขาเหม่ยชานเพื่อเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ หากมีความสามารถจริง เมื่อนางไปผจญภัยกับโลกภายนอก ไม่ถึงขั้นจะตกอยู่ในอันตรายครอบครัวธรรมดาๆ จะทำใจส่งลูกสาวที่เป็นแก้วตาดวงใจของตัวเองไปเรียนศิลปะการต่อสู้ได้อย่างไร? แต่ท่านแม่ของนางทำได้ นางยังบอกกับท่านพ่อว่า อาจไม่แน่สักวันหนึ่งลูกสาวของพวกเขาจะออกศึกได้ก็ได้แต่ต่อมาท่านพ่อและพี่ชายของนางก็เสียชีวิตในสนามรบ และ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 147

    ซูลันจีน่านับถือจริงๆแต่หากองค์ชายรองของพวกเขาชนะบัลลังก์ และพบว่ารัชทายาทของเมืองซีจิงสิ้นพระชนม์ยังไง พวกเขาอาจไม่แน่ว่าจะไม่ส่งกองกำลังไปโจมตีชายแดนเฉิงหลิงอีกชายคนนี้ชอบทำสงคราม และซูลันจีก็ไม่สามารถควบคุมเขาได้หลังจากพูดสิ่งที่ทำให้น่าโมโหเสร็จแล้ว ก็มาพูดถึงซ่งซีซีและเพื่อนๆ ของนางกันต่อฮ่องเต้รู้สึกภูมิใจ และยกย่องซ่งซีซีอย่างมากเขามองไปที่เซี่ยหลูโม่ และพูดว่า "ข้าได้คุยกับฮองเฮาแล้ว จะให้ซ่งซีซีเข้ามาเป็นพระสนม"เซี่ยหลูโม่กำลังหมกมุ่นอยู่กับความกังวลเกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อชิงบัลลังก์ของเมืองซีจิง เมื่อได้ยินคำพูดของฮ่องเต้ เขาพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว "ได้... อ่า? อะไรนะ?"เขาลุกขึ้นยืน และสรุาที่เขาดื่มเข้าไปนั้นสร่างเมาทันที เบิกตากว้าง และมองดูฮ่องเต้ด้วยความประหลาดใจ "เสด็จพี่ เสด็จพี่บอกว่าจะให้ซ่งซีซีเข้าวังแต่งตั้งนางเป็นเพราะสนมงั้นเหรอ?""ทำไมคุณถึงตื่นเต้นนัก?" ฮ่องเต้กลอกตาใส่เขา "ยามนี้ นางสร้างผลงานทางทหาร เป็นบุตรีของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดีกั๋วกงด้วย นางเป็นผู้นำของทั้งจวนเสนาบดีกั๋วกง พวกแม่ทัพที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของท่านพ่อของนางสักวันหนึ่งจะติดตามนางไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-30

บทล่าสุด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1340

    ซ่งซีซีนั่งกลับลงบนเก้าอี้ กล่าวว่า “เรื่องที่พวกเจ้าทุจริตนั้น ฝ่าบาททรงทราบดีแล้ว ตอนนี้ที่ทรงให้ข้าสอบสวนเป็นการส่วนตัว ก็เพื่อมอบโอกาสให้พวกเจ้า หากพูดความจริง หัวของเจ้าจะยังปลอดภัย หากให้ข้อมูลที่มีค่าเพิ่มเติม อย่างมากก็แค่ถูกเนรเทศไปทำงานนอกเมือง ยังสามารถโลดแล่นในวงราชการได้”เกาหมิงอวี้ที่มีประสบการณ์ในราชสำนักมานานย่อมรู้ดีว่าให้ข้อมูลที่มีค่ามากขึ้น หมายถึงการขายเจ้านายและผู้ใต้บังคับบัญชาเขาไม่มีข้อสงสัยในคำพูดของซ่งซีซีด้วยสองเหตุผล หนึ่งคือ ช่วงนี้อู๋เยว่และคนของเขาตรวจสอบทางน้ำอยู่เสมอ สองคือ ซ่งซีซีออกหน้ามาสอบสวนด้วยตัวเอง หากไม่มีพระราชโองการจากฝ่าบาท นางไม่จำเป็นต้องลงมือเอง จะส่งใครมาทรมานเขาก็ได้แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าซ่งซีซีวิเคราะห์เขาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง และคาดการณ์ความคิดของเขาไปก่อนแล้ว“พวกเจ้าทุจริตทั้งระบบ ท่าทีของจินชางหมิงเป็นอย่างไร?”เกาหมิงอวี้ครุ่นคิดก่อนตอบว่า “จะว่าไปจริงๆ แล้ว เขาเป็นคนเริ่มเปิดทางให้เราทุจริต โดยอ้างว่าเป็นค่าเหนื่อยของเรา เมื่อเริ่มต้นแล้ว เราลองเบิกเงินเกินมาเล็กน้อย เขาก็ไม่ว่าอะไร จากนั้นเรากล้าขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาเขาเตือนเ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1339

    หลังจากเฝ้าสังเกตอยู่สองวัน ซ่งซีซีตัดสินใจลงมือกับเกาหมิงอวี้ รองหัวหน้ากรมจัดการแม่น้ำเกาหมิงอวี้อายุสามสิบห้าปี รับราชการในกรมโยธามาแล้วห้าปี เขามีพื้นเพมาจากครอบครัวชาวไร่ชาวนา เมื่อยังเยาว์วัยพ่อแม่เสียชีวิต เพื่อให้เขาได้เรียนในสำนักที่ดีที่สุด เขาดูดทรัพย์สมบัติของพี่น้องจนหมดสิ้นหลังสอบจอหงวนได้ เขาเข้ารับราชการ และกลายเป็นคนโลภเงินอย่างที่สุด ขี้เหนียวอย่างยิ่งยวด ทอดทิ้งพี่น้องที่เคยเลี้ยงดูเขาไปเหมือนของไร้ค่า และไม่ติดต่อพวกเขาอีกเลยยังไม่หมดแค่นั้น เขาอ้างความหึงหวงเป็นเหตุผลในการหย่ากับภรรยาคนแรก แล้วแต่งงานกับบุตรสาวของอาจารย์ผู้มีพระคุณอาจารย์ผู้มีพระคุณของเขาคืออธิการสำนักไป๋หยุน ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว ลูกสาวคนเดียวของอาจารย์แต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างดีเขาคือคนไร้ค่าและทรยศทว่าคนไร้ค่าเช่นนี้กลับใช้งานได้ดี เพราะความโลภ โกรธ หลง และความเห็นแก่ตัวของเขา มีจุดอ่อนที่สามารถกดดันจนยอมพูดทุกอย่างคืนนั้น ซ่งซีซีสั่งให้กุ้นเอ๋อร์จับตัวเขามายังเรือนทางตะวันตกของเมือง ขังเขาไว้หนึ่งคืน ให้เขาหวาดกลัวและหิวโหย จากนั้นค่อยสอบสวนในวันถัดไปเกาห

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1338

    จักรพรรดิซูชิงมีราชโองการให้อู๋เยว่พาคนไปควบคุมงานโดยตรง ทว่า จินชางหมิงรับมือได้อย่างคล่องแคล่ว พาอู๋เยว่ไปตรวจสอบผลสำเร็จด้วยตนเองหลังจากเริ่มงานมาเป็นเวลานาน อ่างเก็บน้ำก็ใกล้เสร็จสมบูรณ์คุณภาพของอ่างเก็บน้ำนั้นยอดเยี่ยม เขื่อนที่สร้างขึ้นมั่นคงดั่งกำแพงทองหลังจากตรวจสอบอ่างเก็บน้ำแล้ว ก็ไปตรวจสอบทางน้ำ ทุกพื้นที่ได้ขุดลอกเสร็จเรียบร้อย ส่วนเขื่อนที่เสียหายก่อนหน้านี้ก็ได้รับการซ่อมแซมและเสริมความแข็งแรงแล้วอู๋เยว่ยังส่งคนไปพูดคุยกับคนงานก่อสร้างทางน้ำ ชายฉกรรจ์แต่ละคนที่ผิวคล้ำแดด ดูซื่อๆ ขัดเขินเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าขุนนางส่วนใหญ่ถามอะไรก็ตอบสิ่งนั้น หากให้พวกเขาบอกความไม่พอใจอะไร พวกเขามักลังเลครู่หนึ่งก่อนที่จะถามว่าอาหารสามารถปรับปรุงได้ไหม โดยเฉพาะเพิ่มหมูติดมันให้หน่อยอู๋เยว่คิดว่าคนเหล่านี้เป็นคนเรียบง่าย ไม่มีปัญหาอะไร และไม่มีความเคียดแค้นในแววตาเขายังพาคนไปดูที่พักชั่วคราวของคนงานก่อสร้างเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกระท่อมไม้และกระท่อมหญ้าแฝก ภายในมีเพียงที่นอนใหญ่ที่รองรับคนได้เจ็ดแปดคน ดูรกเล็กน้อยในกระท่อมไม่มีอาวุธ เครื่องมือที่ต้องใช้ทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1337

    ซ่งซีซีแทบจะหัวเสียจนอกแตกตาย นางรู้สึกว่าเส้นผมสีขาวกำลังจะงอกออกมาบนหน้าผาก ไม่แปลกใจเลยที่ขุนนางในราชสำนักแต่ละคนดูแก่ก่อนวัย หรือแม้แต่เสนาบดีมู่ที่อายุเพียงหกสิบกว่า ผมก็หงอกไปกว่าครึ่งนางไปหาเสนาบดีมู่ด้วยความขุ่นเคือง หวังว่าเขาจะช่วยอะไรได้บ้างและกล่าวบางคำสนับสนุนนางต่อหน้าฮ่องเต้เสนาบดีมู่ยิ้มพลางมองนาง "แค่นี้ก็ถึงกับโกรธเลยหรือ?"ซ่งซีซีตอบ "มิกล้าโกรธเจ้าค่ะ แต่เรื่องนี้ชะลอความคืบหน้า และข้ากลัวว่าจะทำให้ผู้ต้องสงสัยตื่นตัว จนถูกชิงโอกาสไป ฝ่าบาทไม่ไว้ใจข้าเลย"เสนาบดีมู่ย้อนถาม "เขาไม่เชื่อเจ้าอย่างสมบูรณ์ก็เป็นเรื่องปกติ ต่อให้เป็นเจ้า หากคนใต้บัญชาไม่ได้ยกหลักฐานมาสนับสนุนคำพูด เจ้าจะเชื่อพวกเขาโดยไม่ตรวจสอบหรือ?"ซ่งซีซีกล่าว "แต่เขาไม่มีหลักฐานว่าท่านอ๋องมีความทะเยอทะยานใดๆ แต่เขาก็ยังระแวงทุกทางมิใช่หรือ?""ก็เพราะไม่มีหลักฐาน เขาจึงระแวง หากมีหลักฐาน เขาคงลงมือไปนานแล้ว" เสนาบดีมู่ถอนหายใจเบาๆ "ความจริงแล้ว หลายเรื่องไม่ได้ง่ายดายอย่างที่เจ้าคิด โดยเฉพาะการตัดสินใจสำคัญในราชสำนัก ต้องผ่านการหารือและอภิปรายหลายครั้ง บางเรื่องใช้เวลาเป็นปีจึงจะเดินหน้าได้ อีก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1336

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โครงการก่อสร้างแม่น้ำได้เกณฑ์แรงงานจากในและรอบๆ เมืองหลวง โดยเป็นกลุ่มคนงานและแรงงานหนักกลุ่มเดียวกันหน่วยงานด้านแม่น้ำทั้งหมดอยู่ภายใต้การนำของจินชางหมิง เขาใช้ข้ออ้างเรื่องการซ่อมแซมแม่น้ำและโครงการระบายน้ำเข้ายึดครองภูเขาและที่ดินจำนวนไม่น้อยบ้านเรือนถูกสร้างขึ้นอย่างกระจัดกระจายในพื้นที่เหล่านี้ โดยไม่ได้จัดเป็นชุมชนที่มีขนาดใหญ่ คนงานแม่น้ำและแรงงานบางส่วนอาศัยอยู่ในบริเวณนี้เส้นทางแม่น้ำที่พวกเขาครอบครองกระจัดกระจายไปในทุกทิศ เมื่ออาจารย์หยูทำเครื่องหมายและเชื่อมจุดบนแผนที่ พบว่าพื้นที่เหล่านี้โอบล้อมพระราชวังหลวงไว้เหมือนตาข่ายที่กางปิดหากพวกเขาเป็นทหารลับของนกต่อ การเฝ้าประตูเมืองจะไร้ประโยชน์ เพราะพวกเขาอยู่ในเมืองหลวงมาตลอด และเมื่อไม่มีงานทำ พวกเขาก็สำรวจภูมิประเทศจนคุ้นเคย แม้แต่ค่ายลาดตระเวนหรือทหารรักษาการณ์อาจยังไม่รู้จักเส้นทางในเมืองหลวงดีเท่าพวกเขาซ่งซีซีมองดูแผนที่ด้วยความตระหนก แต่ก็ยังตั้งคำถามว่า "พวกเขาได้รับที่ดินเหล่านี้ ต้องได้รับการอนุมัติจากกรมโยธาธิการและฝ่าบาทใช่หรือไม่?""ถูกต้อง แต่ถ้าใช้เพื่อการซ่อมแซมแม่น้ำและระบายน้ำ ก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1335

    กล่องผ้าไหมสีแดงเข้มชิ้นนั้นเต็มไปด้วยฝุ่น ว่านกงกงเป่าฝุ่นออกก่อนจะใช้แขนเสื้อเช็ด แล้วเปิดกลไกอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหยิบหยกชิ้นหนึ่งออกมาเขาส่งสัญญาณให้มอบหยกชิ้นนั้นแก่เสนาบดีมู่เสนาบดีมู่รับมาด้วยความสงสัย เมื่อมองดู เห็นว่าหยกทรงวงแหวนชิ้นนี้แกะสลักลวดลายมังกร ชัดเจนว่าเป็นของจักรพรรดิ์องค์ก่อน"ท่านเสนาบดีลองดูด้านหลัง" ว่านกงกงกล่าวเมื่อเสนาบดีมู่พลิกดูด้านหลัง เขาถึงกับตะลึงจนเหมือนร่างแข็งทื่อด้านหลังยังคงมีลวดลายมังกร แต่ลวดลายนี้ห่อหุ้มใบเมเปิลหนึ่งใบ และข้างใบเมเปิลนั้นยังมีอักษร "สือ" เล็กๆ แกะสลักไว้ใบเมเปิลและตัวอักษรแบ่งพื้นที่คนละด้าน ใบหนึ่งใหญ่ ใบหนึ่งเล็กซ่งซีซีก็เห็นเช่นกัน แต่ไม่เข้าใจความหมายเสนาบดีมู่ถอนหายใจและอธิบายเบาๆ "สือจิ้ง เป็นนามอักษรของจักรพรรดิ์องค์ก่อน ส่วนชิวเหมิงเคยเดินทางในยุทธภพช่วงหนึ่ง และได้รับสมญานามว่า 'คุณชายเหล็กแห่งใบเมเปิล'""หยกชิ้นนี้จักรพรรดิ์องค์ก่อนประทานให้แม่ทัพชิว ด้านหลังเดิมมีเพียงลวดลายมังกร แต่ใบเมเปิลและอักษร 'สือ' นั้น แม่ทัพชิวแกะสลักเพิ่มเอง หยกนี้เขาพกติดตัวตลอด ใส่ไว้ในถุงผ้าไหม แต่ไม่รู้อย่างไรถูกจักรพรรดิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1334

    อย่างไรเสีย หัวข้อสนทนานี้เป็นเรื่องที่พูดยาก เสนาบดีมู่จึงดื่มชาสองสามอึกก่อนจะกล่าวว่า "ความจริงเรื่องนี้ข้าเองก็ไม่แน่ใจ ในตอนนั้นมีการประกาศว่าชิวเหมิงกระทำการหมิ่นพระเกียรติ จักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงกริ้วและปลดเขาออกจากตำแหน่ง ก่อนจะพระราชทานยศเจวี๋ยให้แทน มีข่าวลือเล็กๆ น้อยๆ หลุดออกมาจากในวังว่าเขาและอาจารย์ฉีมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือบางอย่าง เมื่อจักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงทราบ ก็ไม่อาจยอมรับเรื่องนี้ได้ ด้วยความโกรธจึงตรัสคำดูหมิ่นเขาอย่างรุนแรง รวมถึงการลดตำแหน่ง ทำให้ชิวเหมิงรู้สึกหมดกำลังใจจนตัดสินใจออกจากเมืองหลวงไป"สำหรับเหตุผลนี้ ซ่งซีซีเคยคาดเดาไว้บ้าง แต่คิดว่าในฐานะคนที่ทำงานใกล้ชิดราชวงศ์ ไม่น่าจะกล้าแสดงความคิดหรือความรู้สึกเช่นนั้นออกมา อีกทั้งนางก็รู้จักอุปนิสัยของจักรพรรดิ์องค์ก่อนดี จึงยิ่งไม่น่าจะไม่ระมัดระวังตัวและหากการลดตำแหน่งเกิดจากเรื่องนี้ ก็ดูเหมือนจะเป็นการทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่แต่จากที่ได้ฟัง บางทีชิวเหมิงอาจมองจักรพรรดิ์องค์ก่อนเป็นเพื่อนจริงๆ จึงไม่ได้ปิดบังตัวเองมากนัก หรืออาจเพราะเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้จักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงไม

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1333

    อาจารย์ฉีมอบหมายให้ซ่งซีซีตามหาบุคคลหนึ่งชื่อชิวเหมิงบรรพบุรุษของตระกูลชิวเคยร่วมรบสร้างแคว้นกับจักรพรรดิ์ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นขุนนางตลอดกาลในฐานติ้งปังโหว แต่ต่อมาชิวเหมิงกลับล่วงเกินจักรพรรดิ์องค์ก่อน และถูกลดตำแหน่งลงเป็นผิงอันป๋อเขาจึงย้ายออกจากเมืองหลวงไปปลีกวิเวกที่แถบเจียงหนาน และดูเหมือนว่าคนในเมืองหลวงที่จำเขาได้คงเหลือน้อยเต็มที"เขาไม่เคยแต่งงานเลยตลอดชีวิต และห้างชิวเจียก็เป็นของเขา"ซ่งซีซีประหลาดใจ "เขาคือเจ้าของเบื้องหลังของห้างชิวเจียอย่างนั้นหรือ?"ห้างชิวเจียในแถบเจียงหนานถือเป็นกิจการใหญ่โต แม้ทรัพย์สินจะไม่เทียบเท่าตระกูลเสิ่น แต่ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรมและมีเครือข่ายความสัมพันธ์กว้างขวางในแคว้นซางมีคนแซ่ชิวอยู่ไม่น้อย ประกอบกับชิวเหมิงที่ซ่อนตัวและไม่พบปะใครเลย ทำให้ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะเป็นเจ้าของห้างชิวเจียแต่ห้างชิวเจียมีอายุเกินร้อยปี เป็นป้ายเก่าแก่ ก่อนที่ชิวเหมิงจะออกจากเมืองหลวง ก็ไม่เคยมีข่าวว่าครอบครัวเขาทำธุรกิจหงเซียวรีบอธิบาย "เดิมทีห้างชิวเจียไม่ได้เป็นของชิวเหมิง แต่ภายหลังเมื่อเขาไปถึงเจียงหนาน ห้างชิวเจียประส

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1332

    ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับจินชางหมิงถูกส่งมาถึงมืออาจารย์หยูจินชางหมิง เป็นชาวเยี่ยนโจว อายุ 47 ปี สอบได้ตำแหน่งซิ่วไฉตอนอายุ 13 ปี และจวี่เหรินตอนอายุ 18 ปี ในตอนนั้นเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะในเยี่ยนโจวแต่หลังสอบจวี่เหรินได้ เขาถูกชะลอไม่ให้เดินทางไปสอบในเมืองหลวงเพราะมารดาป่วย เขาจึงหางานทำในสำนักอำเภอที่เยี่ยนโจว และได้ตำแหน่งเลขานุการเส้นทางการเลื่อนตำแหน่งของเขาไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งเยี่ยนโจวและกรมโยธาธิการต่างให้คะแนนว่าเขาเป็นคนมีวิสัยทัศน์และลงมือทำจริงในการประเมินผลสามปีครั้งของกรมการปกครอง เขาได้คะแนนดีเยี่ยมว่ากันว่าการเป็นหัวหน้ากรมแม่น้ำเพียงอย่างเดียวเป็นการฝังพรสวรรค์ของเขา บ้างก็ว่าเขาไม่มีสายสัมพันธ์ที่ดี มิฉะนั้นเขาคงได้รับการเลื่อนตำแหน่งไปเป็นรองเสนาบดีกรมโยธาธิการแล้วแคว้นต้าซางมีข้าราชการแบบเขาอยู่มากมาย ตำแหน่งไม่สูงนัก แต่ทำงานทุกอย่างราบรื่น ไม่มีความทะเยอทะยานมาก และทำงานเงียบๆ อย่างมีประสิทธิภาพเขาไม่ได้โดดเด่น ไม่มีเรื่องให้พูดถึง มีภรรยาหลวงหนึ่งคน ภรรยาน้อยหนึ่งคน ลูกชายหนึ่งคน ลูกสาวหนึ่งคน และคนรับใช้สามคน บ้านที่เขาอยู่เดิมเป็นบ้านเช่า เพิ

DMCA.com Protection Status