แชร์

บทที่ 145

ผู้เขียน: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-04-30 18:54:53
อีกอย่าง หากซ่งซีซีตอบตกลงก็แล้วไป หากนางไม่ยอม นางจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

ดังนั้น หลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้ว "ให้ลูกสะใภ้รองไปก่อน หากนางไม่ตอบตกลงเราค่อยวางแผนใหม่"

นางไม่สามารถแบกหย้าไปทำเช่นนั้นได้ หากนางไปเอง ต่อให้ซ่งซีซียอมคืนดีกับเป่ยว่างจริงๆ นางก็กู้คืนภาพลักษณ์ที่เป็นแม่สามีของนางได้อีก

ที่จวนแม่ทัพมียี่ฝางที่น่าอับอายขายขี้หน้าคนเดียวก็มากพอแล้ว จะเพิ่มคนที่ทำยอมเชื่อฟังไม่ได้อีก

ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านกำลังจินตนาต่างๆ นาๆ ส่วนซ่งซีซีได้ไปตำหนักฉือหนิงเพื่อเข้าเฝ้าไทเฮาแล้ว

ไทเฮาอายุไม่ถึงห้าสิบปี และทรงดูแลตัวเองอย่างดี ยกเว้นรอยตีนกาที่หางตา พระองค์ไม่ทรงแสดงสภาพทรงชราแต่อย่างใด

ผมสีขาวสองสามเส้นปนกับผมดำ สังเกตได้ยาก

นางทั้งสง่างาม มีกิริยาท่าทางเพียบพร้อม เมื่ออยู่กับซ่งซีซียิ่งแสดงความอ่อนโยนออกมา

"เจ้าเด็กน้อยนี่ เจ้าวิ่งไปที่สนามรบอย่างเงียบๆ หากเป็นอะไรขึ้นมา จะให้ข้าอธิบายกับท่านแม่ของเจ้าได้อย่างไร"

ดวงตาของไทเฮาแดงก่ำเล็กน้อย นางชื่นชมซ่งซีซีแต่ก็เป็นห่วงใยด้วย บางทีอาจคิดถึงซ่งฮูหยิน นางก็รู้สึกอึดอัดใจมากขึ้น

"ทำให้ไทเฮาทรงเป็นห่วง หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ" ซ่งซี
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Rosie14
ลงตอนซ้ำ ลงสลับไปมา อ่านแล้ว งง และยังคงมีคำที่ผิดปะปนอยู่ ตั้งแต่ตอนแรกๆ มาจนถึง ตอนที่ 145
goodnovel comment avatar
Orachon Tiangyuttitham
สนุกน่าตืดตาม
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 146

    เสียงของไทเฮาสะอื้นเมื่อซ่งซีซียังเด็ก นางมักจะติดตามท่านแม่ของนางเข้าพระราชวัง ในเวลานั้น ไทเฮายังเป็นฮองเฮาหัวข้อที่นางและท่านแม่พูดถึงมากที่สุดคือ ถึงจะเป็นผู้หญิงก็ต้องสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองด้วย ย่อมไม่รับใช้ผู้ชายอย่างเดียว จะมีความคิดของตนเอง และใช้ชีวิตของตัวเองทุกครั้งที่นางพูดถึงเรื่องนี้ นางจะถอนหายใจ และบอกว่านางติดอยู่ใต้กำแพงสูงของวังหลัง ดูเหมือนว่านางจะกินดีอยู่ดี แต่ชีวิตอย่างสงบสุข ทว่าชีวิตนี้ใช้แต่ชีวิตอย่างนี้ไปตลอดกาลแล้วท่านแม่ก็พูดตามนางไปด้วย นางบอกว่าผู้หญิงไม่จำเป็นต้องแต่งงานและมีลูกก็ได้ สามารถออกไปผจญภัยกับโลกภายนอกได้นั่นเป็นเหตุผลที่นางออกจากบ้านเมื่ออายุเจ็ดแปดขวบ และไปสถาบันว่านซงเหมินที่ภูเขาเหม่ยชานเพื่อเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ หากมีความสามารถจริง เมื่อนางไปผจญภัยกับโลกภายนอก ไม่ถึงขั้นจะตกอยู่ในอันตรายครอบครัวธรรมดาๆ จะทำใจส่งลูกสาวที่เป็นแก้วตาดวงใจของตัวเองไปเรียนศิลปะการต่อสู้ได้อย่างไร? แต่ท่านแม่ของนางทำได้ นางยังบอกกับท่านพ่อว่า อาจไม่แน่สักวันหนึ่งลูกสาวของพวกเขาจะออกศึกได้ก็ได้แต่ต่อมาท่านพ่อและพี่ชายของนางก็เสียชีวิตในสนามรบ และ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 147

    ซูลันจีน่านับถือจริงๆแต่หากองค์ชายรองของพวกเขาชนะบัลลังก์ และพบว่ารัชทายาทของเมืองซีจิงสิ้นพระชนม์ยังไง พวกเขาอาจไม่แน่ว่าจะไม่ส่งกองกำลังไปโจมตีชายแดนเฉิงหลิงอีกชายคนนี้ชอบทำสงคราม และซูลันจีก็ไม่สามารถควบคุมเขาได้หลังจากพูดสิ่งที่ทำให้น่าโมโหเสร็จแล้ว ก็มาพูดถึงซ่งซีซีและเพื่อนๆ ของนางกันต่อฮ่องเต้รู้สึกภูมิใจ และยกย่องซ่งซีซีอย่างมากเขามองไปที่เซี่ยหลูโม่ และพูดว่า "ข้าได้คุยกับฮองเฮาแล้ว จะให้ซ่งซีซีเข้ามาเป็นพระสนม"เซี่ยหลูโม่กำลังหมกมุ่นอยู่กับความกังวลเกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อชิงบัลลังก์ของเมืองซีจิง เมื่อได้ยินคำพูดของฮ่องเต้ เขาพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว "ได้... อ่า? อะไรนะ?"เขาลุกขึ้นยืน และสรุาที่เขาดื่มเข้าไปนั้นสร่างเมาทันที เบิกตากว้าง และมองดูฮ่องเต้ด้วยความประหลาดใจ "เสด็จพี่ เสด็จพี่บอกว่าจะให้ซ่งซีซีเข้าวังแต่งตั้งนางเป็นเพราะสนมงั้นเหรอ?""ทำไมคุณถึงตื่นเต้นนัก?" ฮ่องเต้กลอกตาใส่เขา "ยามนี้ นางสร้างผลงานทางทหาร เป็นบุตรีของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดีกั๋วกงด้วย นางเป็นผู้นำของทั้งจวนเสนาบดีกั๋วกง พวกแม่ทัพที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของท่านพ่อของนางสักวันหนึ่งจะติดตามนางไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 148

    เซี่ยหลูโม่เข้าใจประเด็นหนึ่งจากความคิดซับซ้อนนับพัน นั่นคือไม่ว่ายังไงจะให้เสด็จพี่รับซ่งซีซีเข้าวังเป็นพระสนมไม่ได้เด็ดขาดคนอย่างนาง แม้ว่าจะไม่ได้ต่อสู้อยู่ในสนามรบ แต่ก็ไม่ควรติดอยู่ในกำแพงสูงของวังหลัง"เสด็จพี่ นางเข้าวังไม่ได้ กระหม่อมไม่เห็นด้วยพะยะค่ะ นางเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของกระหม่อม ฝ่าบาทจะเอานางไปด้วยความบังคับไม่ได้ ทั้งๆ ที่ฝ่าบาทไม่ได้ถามความคิดเห็นจากนางด้วยซ้ำ""นั่นไม่ใช่เหตุผล""นางเพิ่งออกมาจากชีวิตการแต่งงานที่แย่ขนาดนั้น อย่างน้อยก็ให้เวลานางได้ปรับตัวสักหน่อย ให้สร้างความเชื่อใจกับผู้ชายอีกครั้ง ต้องคำนึงถึงความรู้สึกของนาง แทนที่จะใช้กำลังบังคับ…"ฮ่องเต้มองไปที่เซี่ยหลูโม่ ด้วยสายตาที่เคร่งครัด "เวลาทำสงครางเจ้าก็ทำเช่นนี้หรือ ปล่อยให้ศัตรูมีเวลาปรับตัว? คอยคำนึงถึงความรู้สึกของศัตรูหรือ?"เซี่ยหลูโม่ไม่ยอมอ่อนข้อให้แม้แต่นิดเดียว "นางไม่ใช่ศัตรูสักหน่อย"ความดุร้ายของเขาเมื่ออยู่ในสนามรบดูเหมือนกลับมาแล้ว เมื่อยืนอยู่ต่อหน้าพี่ชายของเขา เขาไม่ได้ปิดบังการป้องกันที่เขามีต่อซ่งซีซี "นอกจากนี้ ตระกูลซ่งก็ถูกสังหารหมู่แล้ว และตอนนี้ นางได้สร้างผลงานให้ก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 149

    หลังจากกินยาแก้เมา นั่งพักผ่อนได้สักพักใหญ่ เมื่อสร่างเมาแล้ว อู๋ต้าปั้นก็พาเขาไปที่ตำหนักสังเวยมังกร เขาก้มลงเล็กน้อยและถามอย่างระมัดระวังว่า "ฝ่าบาทคงไม่ได้อยากแต่งแม่ทัพซ่งเข้าวังเป็นพระสนมจริงๆ หรือพะยะค่ะ"ฮ่องเต้เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง แล้วพูดว่า "คิดว่าข้าจะแย่งผู้หญิงกับน้องชายตนเองหรือ แม้ว่าจ้าจะมีแผนนี้จริงๆ ไทเฮาก็ไม่เห็นด้วยแน่ พระองค์กับซ่งฮูหยินเคยสนิทสนมกันเหมือนพี่น้องแท้ๆ จะยอมปล่อยให้ซีซีเข้าวังเป็นพระสนมได้ยังไง"อู๋ต้าปั้นยิ้มและพูดว่า "ข้าน้อยว่าแล้วเชียว ฝ่าบาทต้องการบีบบังคับพวกเขาสักหน่อย แล้วจะยอมให้แม่ทัพซ่งติดอยู่กับวังหลังได้อย่างไร"ขณะที่เขาพูด พลางแอบมองฮ่องเต้อย่างลับๆ ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า แต่รอยยิ้มนี้บ่งบอกถึงความกังวลฮ่องเต้ถอนหายใจ "วันที่ซ่งฮวยอันเสียชีวิต เขาออกศึกตามคำสั่ง ก่อนที่จะไปนับจำนวนกองทัพ เขาไปที่ตระกูลซ่ง เพื่อขอร้องให้ซ่งฮูหยินรอเขา หลังจากเขายึดเขตหนานเจียงกลับมา เขาก็มาสู่ขอ แต่สุดท้ายซ่งฮูหยินก็ให้ซ่งซีซีแต่งงานกับจ้านเป่ยว่าง ตอนแรกข้าไม่กล้าเขียนจดหมายถึงเขาไปบอกเรื่องนี้เพราะกลัวว่าเขาจะเสียสมาธิขณะอยู่สนามรบ แต่เสิ่นอันเขียนจด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 150

    เมื่อตื่นขึ้นมาอีกทีก็เป็นเวลาเที่ยงวันรุ่งขึ้นแล้วอันที่จริงซ่งซีซียังคงนอนต่อได้ แต่นางต้องตื่นขึ้นเพราะที่วังได้ส่งพระราชโองการให้ ว่าให้นางเข้าไปในพระราชวังขณะที่แต่งหน้าแต่งตานั้น นางยังหาวอยู่ "เป่าจู ว่านจือและคนอื่นๆ ตื่นหรือยัง?""ยังเลย ยังนอนอยู่" เมื่อคืนเป่าจูนอนบนที่ทั่งนุ่มๆ ในห้องนอนของซ่งซีซี คอยเฝ้าอยู่ข้างกายของคุณหนูตัวเองแล้ว นางรู้สึกสบายใจ"อย่าไปปลุกพวกเขา ปล่อยให้พวกเขานอนอย่างเต็มที่ แม้จะนอนเป็นเวลาสามวันสามคืนก็ไม่ต้องไปสนใจ" ซ่งซีซีรู้ว่าพวกเขาเหนื่อยมากจริงๆ และนางเองก็อยากจะนอนจนถึงวันพรุ่งนี้เสียอีกเป่าจูจัดทรงผมให้นางเรียบร้อย และหยิบปิ่นปักผมที่ประดับอัญมณีออกมาแล้วปักที่ผมของนาง เมื่อเห็นรอยคล้ำหนักของคุณหนู นางก็รู้สึกสงสารในใจ "รับทราบเจ้าคะ ลุงฟู่ก็สั่งไว้เช่นกัน ลุงฟู่บอกว่าเมื่อก่อนที่ท่านผู้บังคับบัญชาและคุณชายน้อยอื่นๆ กลับมาจากสนามรบก็เป็นเช่นนี้ ง่วงนอนมากทีเดียว และหลับได้สองสามวัน""อืม" ซ่งซีซีพยักหน้าและหลีกเลี่ยงหัวข้อนี้ "คนที่มาจากวังนั้นเป็นคนของไทเฮาหรือฮ่องเต้?"เป่าจูส่ายหัว "ไม่ใช่ทั้งนั้น พวกเขามาจากตำหนักของฮองเฮา"ซ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 151

    ซ่งซีซีและเป่าจูรอให้หวงโฮ่วนั่งลง จากนั้นก้าวไปข้างหน้าและคุกเข่าลงเพื่อทำความเคารพ "ซ่งซีซีพาสาวใช้เป่าจูมาคารวะหวงโฮ่วเพคะ"เสียงอันอ่อนโยนของหวงโฮ่วดังมาจากเหนือศีรษะ "คุณหนูซ่งไม่ต้องเกรงใจหรอก ลุกขึ้นเถิด""ขอบพระทัยหวงโฮ่วเพคะ" ซ่งซีซีและเป่าจูลุกขึ้นยืนสายตาหวงโฮ่วมองไปที่ซ่งซีซี นางเคยเห็นคุณหนูตระกูลซ่งคนนี้ครั้งหนึ่ง สวยจนน่าตกใจตอนนี้กลับมาจากสนามรบ สีผิวไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน แต่ไม่ว่าจะมองแวบเดียวหรือมองอย่างละเอียด ก็สามารถเอาชนะสายตาที่เรื่องมากได้ สมกับที่เป็นงหญิงงามล่มเมืองเมื่อนึกถึงฮ่องเต้ที่ขอให้นางถามซ่งซีซีว่าจะยอมเข้าวังหรือไม่ หวงโฮ่วก็รู้สึกขมขื่นในใจ หญิงสาวอย่างซ่งซีซีซึ่งมีทั้งความสามารถและความสวยเข้ามาในวัง กลัวว่าจะได้รับการโปรดปรานอยู่คนเดียว แม้ว่าตำแหน่งฐานะจะไม่สูงไปกว่าตนเองที่เป็นหวงโฮ่วแต่ได้หัวใจของฮ่องเต้ ตัวเองจะข่มลงได้อย่างไร?แต่นางก็เรียบร้อยและมีมารยาทมาโดยตลอด เมื่ออยู่ในตำแหน่งหวงโฮ่วต้องไม่มีความอิจฉาแม้แต่น้อยดังนั้นเพียงแค่ชื่นชมนางด้วยรอยยิ้มและยอมรับต่อความทุ่มเทของนางที่เขตหนานเจียง จึงกล่าวอย่างมีความหมายว่า "แม่ทัพจ้านไม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 152

    หลังจากออกจากตำหนักฉางชุน ขณะออกจากพระราชวังก็ได้พบกับเซี่ยหลูโม่เขาดูเหมือนจะเมาค้างและยังไม่ฟื้น สีหน้าแย่มาก เขายังสวมชุดออกรบที่กลับเมืองหลวงเมื่อวานนี้ เต็มไปด้วยเลือด จากระยะไกลก็ได้กลิ่นเหงื่อที่คุ้นเคยร่างเพรียวของเขาพิงประตูวังสีแดง ผมยุ่ง ๆ ของเขากลับเรียบร้อยขึ้นมาก สวมมงกุฎสีทองและปักหยก แต่ชุดออกรบที่ขึ้นสนิมนี้ไม่สามารถเข้ากันได้จริง ๆ คนนี้แต่งตัวแปลกจริงเขาเหลือบมองอย่างเกียจคร้าน และแสงแดดที่ส่องลงบนดวงตาสีเข้มของเขาก็ไม่ได้เพิ่มพลังให้กับเขาเลยซ่งซีซีก้าวไปข้างหน้าและยกมือขึ้น "ท่านผู้บังคับบัญชาเมื่อวานพักในวัง?""อืม!" เขาพยักหน้าและมองนางขึ้นลง "เจ้าแต่งตัวแบบนี้กลับดูสวยมาก ดูเหมือนผู้หญิงสูงศักดิ์ของเมืองหลวง"ซ่งซีซียิ้ม "เดิมข้าก็เป็นผู้หญิงสูงศักดิ์ของเมืองหลวงอยู่แล้ว"เขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและพยักหน้ามั่วซั่ว "หวงโฮ่วให้เจ้าเข้ามาทำไมกัน?"ซ่งซีซีเงยหน้าหยิบตามอง "ท่านผู้บังคับบัญชารู้ได้อย่างไรว่าเป็นหวงโฮ่วที่ให้ข้าเข้าวัง?"เขารู้?เซี่ยหลูโม่ถูขมับและดูเหมือนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเล็กน้อย "โอ้ แค่เดาไปเรื่อยน่ะ เมื่อคืนเจ้าได้พบกับไทเฮาแล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 153

    รอยยิ้มเซี่ยหลูโม่ค้างอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ผิด เป็นพี่ชายทั้งคู่ แต่ตราบใดที่นางไม่เข้าวัง ตนก็สามารถค่อย ๆ พัฒนาความสัมพันธ์กับนางได้เขายกมือทูลลาแล้วจากไปฮ่องเต้มองไปทางด้านหลังของเขา และหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ตะโกนว่า "อู๋ต้าปั้น!""ข้าน้อยอยู่นี่พะยะค่ะ!" อู๋ต้าปั้นเข้ามาอย่างรวดเร็วจากประตูตำหนักแล้วโค้งคำนับฮ่องเต้กล่าวว่า "ไปส่งคำสั่งข้า ถ้าซ่งซีซีไม่สามารถหาคู่ครองแต่งงานที่เหมาะสมได้ภายในสามเดือน ก็แต่งตั้งให้เป็นสนมซีกุ้ยเฟย"อู๋ต้าปั้นลดสายตาลงแล้วตอบว่า "พะยะค่ะ!""ถือโอกาสบอกคำสั่งของค่ากับเป่ยหมิงอ๋องด้วย คำพูดอื่นเจ้าอย่าพูดแม้แต่คําเดียว"ฮ่องเต้กล่าวอู๋ต้าปั้นกล่าวว่า "พะยะค่ะ ข้าน้อยรู้แล้ว ข้าน้อยจะไปจัดการเดี๋ยวนี้พะยะค่ะ""ไปเถอะ" ฮ่องเต้ลดสายตาลงและพูดเบา ๆไม่นานหลังจากที่อู๋ต้าปั้นจากไป ข้างนอกก็มีรายงานว่าหวงโฮ่วเสด็จมาฮ่องเต้คงรู้ว่านางมาทำไม ดังนั้นจึงกล่าวว่า "ให้เข้ามา!"หวงโฮ่วเข้ามาพร้อมกับแม่นมหลานเจี่ยน หลานเจี่ยนถือถาดอยู่ในมือ โดยมีหม้อซุปวางอยู่บนถาดอย่างปลอดภัยหลังจากที่ปัดตัวแสดงความเคารพ หวงโฮ่วก็กล่าวอย่างอ่อนโยน "ได้ยินมาว่าเมื่อวาน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-30

บทล่าสุด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1340

    ซ่งซีซีนั่งกลับลงบนเก้าอี้ กล่าวว่า “เรื่องที่พวกเจ้าทุจริตนั้น ฝ่าบาททรงทราบดีแล้ว ตอนนี้ที่ทรงให้ข้าสอบสวนเป็นการส่วนตัว ก็เพื่อมอบโอกาสให้พวกเจ้า หากพูดความจริง หัวของเจ้าจะยังปลอดภัย หากให้ข้อมูลที่มีค่าเพิ่มเติม อย่างมากก็แค่ถูกเนรเทศไปทำงานนอกเมือง ยังสามารถโลดแล่นในวงราชการได้”เกาหมิงอวี้ที่มีประสบการณ์ในราชสำนักมานานย่อมรู้ดีว่าให้ข้อมูลที่มีค่ามากขึ้น หมายถึงการขายเจ้านายและผู้ใต้บังคับบัญชาเขาไม่มีข้อสงสัยในคำพูดของซ่งซีซีด้วยสองเหตุผล หนึ่งคือ ช่วงนี้อู๋เยว่และคนของเขาตรวจสอบทางน้ำอยู่เสมอ สองคือ ซ่งซีซีออกหน้ามาสอบสวนด้วยตัวเอง หากไม่มีพระราชโองการจากฝ่าบาท นางไม่จำเป็นต้องลงมือเอง จะส่งใครมาทรมานเขาก็ได้แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าซ่งซีซีวิเคราะห์เขาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง และคาดการณ์ความคิดของเขาไปก่อนแล้ว“พวกเจ้าทุจริตทั้งระบบ ท่าทีของจินชางหมิงเป็นอย่างไร?”เกาหมิงอวี้ครุ่นคิดก่อนตอบว่า “จะว่าไปจริงๆ แล้ว เขาเป็นคนเริ่มเปิดทางให้เราทุจริต โดยอ้างว่าเป็นค่าเหนื่อยของเรา เมื่อเริ่มต้นแล้ว เราลองเบิกเงินเกินมาเล็กน้อย เขาก็ไม่ว่าอะไร จากนั้นเรากล้าขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาเขาเตือนเ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1339

    หลังจากเฝ้าสังเกตอยู่สองวัน ซ่งซีซีตัดสินใจลงมือกับเกาหมิงอวี้ รองหัวหน้ากรมจัดการแม่น้ำเกาหมิงอวี้อายุสามสิบห้าปี รับราชการในกรมโยธามาแล้วห้าปี เขามีพื้นเพมาจากครอบครัวชาวไร่ชาวนา เมื่อยังเยาว์วัยพ่อแม่เสียชีวิต เพื่อให้เขาได้เรียนในสำนักที่ดีที่สุด เขาดูดทรัพย์สมบัติของพี่น้องจนหมดสิ้นหลังสอบจอหงวนได้ เขาเข้ารับราชการ และกลายเป็นคนโลภเงินอย่างที่สุด ขี้เหนียวอย่างยิ่งยวด ทอดทิ้งพี่น้องที่เคยเลี้ยงดูเขาไปเหมือนของไร้ค่า และไม่ติดต่อพวกเขาอีกเลยยังไม่หมดแค่นั้น เขาอ้างความหึงหวงเป็นเหตุผลในการหย่ากับภรรยาคนแรก แล้วแต่งงานกับบุตรสาวของอาจารย์ผู้มีพระคุณอาจารย์ผู้มีพระคุณของเขาคืออธิการสำนักไป๋หยุน ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว ลูกสาวคนเดียวของอาจารย์แต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างดีเขาคือคนไร้ค่าและทรยศทว่าคนไร้ค่าเช่นนี้กลับใช้งานได้ดี เพราะความโลภ โกรธ หลง และความเห็นแก่ตัวของเขา มีจุดอ่อนที่สามารถกดดันจนยอมพูดทุกอย่างคืนนั้น ซ่งซีซีสั่งให้กุ้นเอ๋อร์จับตัวเขามายังเรือนทางตะวันตกของเมือง ขังเขาไว้หนึ่งคืน ให้เขาหวาดกลัวและหิวโหย จากนั้นค่อยสอบสวนในวันถัดไปเกาห

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1338

    จักรพรรดิซูชิงมีราชโองการให้อู๋เยว่พาคนไปควบคุมงานโดยตรง ทว่า จินชางหมิงรับมือได้อย่างคล่องแคล่ว พาอู๋เยว่ไปตรวจสอบผลสำเร็จด้วยตนเองหลังจากเริ่มงานมาเป็นเวลานาน อ่างเก็บน้ำก็ใกล้เสร็จสมบูรณ์คุณภาพของอ่างเก็บน้ำนั้นยอดเยี่ยม เขื่อนที่สร้างขึ้นมั่นคงดั่งกำแพงทองหลังจากตรวจสอบอ่างเก็บน้ำแล้ว ก็ไปตรวจสอบทางน้ำ ทุกพื้นที่ได้ขุดลอกเสร็จเรียบร้อย ส่วนเขื่อนที่เสียหายก่อนหน้านี้ก็ได้รับการซ่อมแซมและเสริมความแข็งแรงแล้วอู๋เยว่ยังส่งคนไปพูดคุยกับคนงานก่อสร้างทางน้ำ ชายฉกรรจ์แต่ละคนที่ผิวคล้ำแดด ดูซื่อๆ ขัดเขินเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าขุนนางส่วนใหญ่ถามอะไรก็ตอบสิ่งนั้น หากให้พวกเขาบอกความไม่พอใจอะไร พวกเขามักลังเลครู่หนึ่งก่อนที่จะถามว่าอาหารสามารถปรับปรุงได้ไหม โดยเฉพาะเพิ่มหมูติดมันให้หน่อยอู๋เยว่คิดว่าคนเหล่านี้เป็นคนเรียบง่าย ไม่มีปัญหาอะไร และไม่มีความเคียดแค้นในแววตาเขายังพาคนไปดูที่พักชั่วคราวของคนงานก่อสร้างเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกระท่อมไม้และกระท่อมหญ้าแฝก ภายในมีเพียงที่นอนใหญ่ที่รองรับคนได้เจ็ดแปดคน ดูรกเล็กน้อยในกระท่อมไม่มีอาวุธ เครื่องมือที่ต้องใช้ทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1337

    ซ่งซีซีแทบจะหัวเสียจนอกแตกตาย นางรู้สึกว่าเส้นผมสีขาวกำลังจะงอกออกมาบนหน้าผาก ไม่แปลกใจเลยที่ขุนนางในราชสำนักแต่ละคนดูแก่ก่อนวัย หรือแม้แต่เสนาบดีมู่ที่อายุเพียงหกสิบกว่า ผมก็หงอกไปกว่าครึ่งนางไปหาเสนาบดีมู่ด้วยความขุ่นเคือง หวังว่าเขาจะช่วยอะไรได้บ้างและกล่าวบางคำสนับสนุนนางต่อหน้าฮ่องเต้เสนาบดีมู่ยิ้มพลางมองนาง "แค่นี้ก็ถึงกับโกรธเลยหรือ?"ซ่งซีซีตอบ "มิกล้าโกรธเจ้าค่ะ แต่เรื่องนี้ชะลอความคืบหน้า และข้ากลัวว่าจะทำให้ผู้ต้องสงสัยตื่นตัว จนถูกชิงโอกาสไป ฝ่าบาทไม่ไว้ใจข้าเลย"เสนาบดีมู่ย้อนถาม "เขาไม่เชื่อเจ้าอย่างสมบูรณ์ก็เป็นเรื่องปกติ ต่อให้เป็นเจ้า หากคนใต้บัญชาไม่ได้ยกหลักฐานมาสนับสนุนคำพูด เจ้าจะเชื่อพวกเขาโดยไม่ตรวจสอบหรือ?"ซ่งซีซีกล่าว "แต่เขาไม่มีหลักฐานว่าท่านอ๋องมีความทะเยอทะยานใดๆ แต่เขาก็ยังระแวงทุกทางมิใช่หรือ?""ก็เพราะไม่มีหลักฐาน เขาจึงระแวง หากมีหลักฐาน เขาคงลงมือไปนานแล้ว" เสนาบดีมู่ถอนหายใจเบาๆ "ความจริงแล้ว หลายเรื่องไม่ได้ง่ายดายอย่างที่เจ้าคิด โดยเฉพาะการตัดสินใจสำคัญในราชสำนัก ต้องผ่านการหารือและอภิปรายหลายครั้ง บางเรื่องใช้เวลาเป็นปีจึงจะเดินหน้าได้ อีก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1336

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โครงการก่อสร้างแม่น้ำได้เกณฑ์แรงงานจากในและรอบๆ เมืองหลวง โดยเป็นกลุ่มคนงานและแรงงานหนักกลุ่มเดียวกันหน่วยงานด้านแม่น้ำทั้งหมดอยู่ภายใต้การนำของจินชางหมิง เขาใช้ข้ออ้างเรื่องการซ่อมแซมแม่น้ำและโครงการระบายน้ำเข้ายึดครองภูเขาและที่ดินจำนวนไม่น้อยบ้านเรือนถูกสร้างขึ้นอย่างกระจัดกระจายในพื้นที่เหล่านี้ โดยไม่ได้จัดเป็นชุมชนที่มีขนาดใหญ่ คนงานแม่น้ำและแรงงานบางส่วนอาศัยอยู่ในบริเวณนี้เส้นทางแม่น้ำที่พวกเขาครอบครองกระจัดกระจายไปในทุกทิศ เมื่ออาจารย์หยูทำเครื่องหมายและเชื่อมจุดบนแผนที่ พบว่าพื้นที่เหล่านี้โอบล้อมพระราชวังหลวงไว้เหมือนตาข่ายที่กางปิดหากพวกเขาเป็นทหารลับของนกต่อ การเฝ้าประตูเมืองจะไร้ประโยชน์ เพราะพวกเขาอยู่ในเมืองหลวงมาตลอด และเมื่อไม่มีงานทำ พวกเขาก็สำรวจภูมิประเทศจนคุ้นเคย แม้แต่ค่ายลาดตระเวนหรือทหารรักษาการณ์อาจยังไม่รู้จักเส้นทางในเมืองหลวงดีเท่าพวกเขาซ่งซีซีมองดูแผนที่ด้วยความตระหนก แต่ก็ยังตั้งคำถามว่า "พวกเขาได้รับที่ดินเหล่านี้ ต้องได้รับการอนุมัติจากกรมโยธาธิการและฝ่าบาทใช่หรือไม่?""ถูกต้อง แต่ถ้าใช้เพื่อการซ่อมแซมแม่น้ำและระบายน้ำ ก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1335

    กล่องผ้าไหมสีแดงเข้มชิ้นนั้นเต็มไปด้วยฝุ่น ว่านกงกงเป่าฝุ่นออกก่อนจะใช้แขนเสื้อเช็ด แล้วเปิดกลไกอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหยิบหยกชิ้นหนึ่งออกมาเขาส่งสัญญาณให้มอบหยกชิ้นนั้นแก่เสนาบดีมู่เสนาบดีมู่รับมาด้วยความสงสัย เมื่อมองดู เห็นว่าหยกทรงวงแหวนชิ้นนี้แกะสลักลวดลายมังกร ชัดเจนว่าเป็นของจักรพรรดิ์องค์ก่อน"ท่านเสนาบดีลองดูด้านหลัง" ว่านกงกงกล่าวเมื่อเสนาบดีมู่พลิกดูด้านหลัง เขาถึงกับตะลึงจนเหมือนร่างแข็งทื่อด้านหลังยังคงมีลวดลายมังกร แต่ลวดลายนี้ห่อหุ้มใบเมเปิลหนึ่งใบ และข้างใบเมเปิลนั้นยังมีอักษร "สือ" เล็กๆ แกะสลักไว้ใบเมเปิลและตัวอักษรแบ่งพื้นที่คนละด้าน ใบหนึ่งใหญ่ ใบหนึ่งเล็กซ่งซีซีก็เห็นเช่นกัน แต่ไม่เข้าใจความหมายเสนาบดีมู่ถอนหายใจและอธิบายเบาๆ "สือจิ้ง เป็นนามอักษรของจักรพรรดิ์องค์ก่อน ส่วนชิวเหมิงเคยเดินทางในยุทธภพช่วงหนึ่ง และได้รับสมญานามว่า 'คุณชายเหล็กแห่งใบเมเปิล'""หยกชิ้นนี้จักรพรรดิ์องค์ก่อนประทานให้แม่ทัพชิว ด้านหลังเดิมมีเพียงลวดลายมังกร แต่ใบเมเปิลและอักษร 'สือ' นั้น แม่ทัพชิวแกะสลักเพิ่มเอง หยกนี้เขาพกติดตัวตลอด ใส่ไว้ในถุงผ้าไหม แต่ไม่รู้อย่างไรถูกจักรพรรดิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1334

    อย่างไรเสีย หัวข้อสนทนานี้เป็นเรื่องที่พูดยาก เสนาบดีมู่จึงดื่มชาสองสามอึกก่อนจะกล่าวว่า "ความจริงเรื่องนี้ข้าเองก็ไม่แน่ใจ ในตอนนั้นมีการประกาศว่าชิวเหมิงกระทำการหมิ่นพระเกียรติ จักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงกริ้วและปลดเขาออกจากตำแหน่ง ก่อนจะพระราชทานยศเจวี๋ยให้แทน มีข่าวลือเล็กๆ น้อยๆ หลุดออกมาจากในวังว่าเขาและอาจารย์ฉีมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือบางอย่าง เมื่อจักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงทราบ ก็ไม่อาจยอมรับเรื่องนี้ได้ ด้วยความโกรธจึงตรัสคำดูหมิ่นเขาอย่างรุนแรง รวมถึงการลดตำแหน่ง ทำให้ชิวเหมิงรู้สึกหมดกำลังใจจนตัดสินใจออกจากเมืองหลวงไป"สำหรับเหตุผลนี้ ซ่งซีซีเคยคาดเดาไว้บ้าง แต่คิดว่าในฐานะคนที่ทำงานใกล้ชิดราชวงศ์ ไม่น่าจะกล้าแสดงความคิดหรือความรู้สึกเช่นนั้นออกมา อีกทั้งนางก็รู้จักอุปนิสัยของจักรพรรดิ์องค์ก่อนดี จึงยิ่งไม่น่าจะไม่ระมัดระวังตัวและหากการลดตำแหน่งเกิดจากเรื่องนี้ ก็ดูเหมือนจะเป็นการทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่แต่จากที่ได้ฟัง บางทีชิวเหมิงอาจมองจักรพรรดิ์องค์ก่อนเป็นเพื่อนจริงๆ จึงไม่ได้ปิดบังตัวเองมากนัก หรืออาจเพราะเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้จักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงไม

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1333

    อาจารย์ฉีมอบหมายให้ซ่งซีซีตามหาบุคคลหนึ่งชื่อชิวเหมิงบรรพบุรุษของตระกูลชิวเคยร่วมรบสร้างแคว้นกับจักรพรรดิ์ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นขุนนางตลอดกาลในฐานติ้งปังโหว แต่ต่อมาชิวเหมิงกลับล่วงเกินจักรพรรดิ์องค์ก่อน และถูกลดตำแหน่งลงเป็นผิงอันป๋อเขาจึงย้ายออกจากเมืองหลวงไปปลีกวิเวกที่แถบเจียงหนาน และดูเหมือนว่าคนในเมืองหลวงที่จำเขาได้คงเหลือน้อยเต็มที"เขาไม่เคยแต่งงานเลยตลอดชีวิต และห้างชิวเจียก็เป็นของเขา"ซ่งซีซีประหลาดใจ "เขาคือเจ้าของเบื้องหลังของห้างชิวเจียอย่างนั้นหรือ?"ห้างชิวเจียในแถบเจียงหนานถือเป็นกิจการใหญ่โต แม้ทรัพย์สินจะไม่เทียบเท่าตระกูลเสิ่น แต่ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรมและมีเครือข่ายความสัมพันธ์กว้างขวางในแคว้นซางมีคนแซ่ชิวอยู่ไม่น้อย ประกอบกับชิวเหมิงที่ซ่อนตัวและไม่พบปะใครเลย ทำให้ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะเป็นเจ้าของห้างชิวเจียแต่ห้างชิวเจียมีอายุเกินร้อยปี เป็นป้ายเก่าแก่ ก่อนที่ชิวเหมิงจะออกจากเมืองหลวง ก็ไม่เคยมีข่าวว่าครอบครัวเขาทำธุรกิจหงเซียวรีบอธิบาย "เดิมทีห้างชิวเจียไม่ได้เป็นของชิวเหมิง แต่ภายหลังเมื่อเขาไปถึงเจียงหนาน ห้างชิวเจียประส

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1332

    ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับจินชางหมิงถูกส่งมาถึงมืออาจารย์หยูจินชางหมิง เป็นชาวเยี่ยนโจว อายุ 47 ปี สอบได้ตำแหน่งซิ่วไฉตอนอายุ 13 ปี และจวี่เหรินตอนอายุ 18 ปี ในตอนนั้นเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะในเยี่ยนโจวแต่หลังสอบจวี่เหรินได้ เขาถูกชะลอไม่ให้เดินทางไปสอบในเมืองหลวงเพราะมารดาป่วย เขาจึงหางานทำในสำนักอำเภอที่เยี่ยนโจว และได้ตำแหน่งเลขานุการเส้นทางการเลื่อนตำแหน่งของเขาไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งเยี่ยนโจวและกรมโยธาธิการต่างให้คะแนนว่าเขาเป็นคนมีวิสัยทัศน์และลงมือทำจริงในการประเมินผลสามปีครั้งของกรมการปกครอง เขาได้คะแนนดีเยี่ยมว่ากันว่าการเป็นหัวหน้ากรมแม่น้ำเพียงอย่างเดียวเป็นการฝังพรสวรรค์ของเขา บ้างก็ว่าเขาไม่มีสายสัมพันธ์ที่ดี มิฉะนั้นเขาคงได้รับการเลื่อนตำแหน่งไปเป็นรองเสนาบดีกรมโยธาธิการแล้วแคว้นต้าซางมีข้าราชการแบบเขาอยู่มากมาย ตำแหน่งไม่สูงนัก แต่ทำงานทุกอย่างราบรื่น ไม่มีความทะเยอทะยานมาก และทำงานเงียบๆ อย่างมีประสิทธิภาพเขาไม่ได้โดดเด่น ไม่มีเรื่องให้พูดถึง มีภรรยาหลวงหนึ่งคน ภรรยาน้อยหนึ่งคน ลูกชายหนึ่งคน ลูกสาวหนึ่งคน และคนรับใช้สามคน บ้านที่เขาอยู่เดิมเป็นบ้านเช่า เพิ

DMCA.com Protection Status