แชร์

บทที่ 1265

ผู้เขียน: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-20 18:00:00
ขณะที่พวกเขาเดิน ก็มองสำรวจไปรอบๆ เพื่อดูว่ามีทางลับเชื่อมต่อกับสถานที่อื่นหรือไม่

ทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียงแส้ที่กำลังเฆี่ยนอยู่ข้างหน้า ตามด้วยเสียงร้องโอดโอย

จากนั้นก็ได้ยินเสียงหัวหน้าคำรามว่า “ลืมกฎไปแล้วรึ? ห้ามเหลียวซ้ายแลขวา เดินตรงไปข้างหน้าเท่านั้น”

คนที่ถูกเฆี่ยนตีคือชายถือคบเพลิงที่กำลังเดินอยู่ข้างหน้าหัวหน้า จู่ๆ ก็มีรอยเลือดปรากฏบนหลังของเขา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแส้นั้นเฆี่ยนรุนแรงมาก

คนที่ถูกเฆี่ยนไม่กล้าร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด เขามองไปข้างหน้าทันที ชูคบเพลิงไว้ในมือให้สูง แล้วเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

เซี่ยหลูโม่กับจางต้าจ้วงมองหน้ากัน “ปกครองแบบกองทัพ” ค่อนข้างเข้มงวดพอสมควร

ส่วนทางด้านนี้ ซ่งซีซีและคนอื่นๆ ก็ลากเซี่ยทิงหลานเดินเข้าไปในเส้นทางลับ ข้างหน้าที่อยู่ไม่ไกลพวกเขานั้น มีชายรูปร่างกำยำหลายสิบคนกำลังขนย้ายเสบียงอาหาร ทางเส้นนี้ไม่สามารถเข็นรถผ่านได้ จึงทำได้เพียงให้คนหนึ่งแบกถุงใบใหญ่ เดินไปอย่างยากลำบาก

มีเสบียงอาหารมากมาย ดังนั้นเย็นนี้พวกเขาอาจจะต้องเดินไปกลับหลายครั้ง หรืออาจต้องใช้เวลาหลายคืนติดต่อกันในการขนส่งอาหารจำนวนมากทั้งหมด

เมื่อเดินลึกเข้าไปเรื่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1266

    เซี่ยหลูโม่และจางต้าจ้วงตามกลุ่มส่งอาหารออกไป เนื่องจากคนที่นี่ไม่มีการปิดบังใบหน้า จู่ๆ มีคนสองคนที่ไม่รู้จักเดินเข้ามา พวกเขารู้สึกแปลกใจ แต่ไม่ได้ถามอะไรบางที อาจเป็นคนมาใหม่ เมื่อครู่ก็อยู่ข้างหลังตลอดเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีในหมู่บ้านต้าสือแล้ว กลุ่มคนของเซี่ยทิงหลานนั้นไม่เป็นระเบียบจริงๆอูโซเว่ยกับซ่งซีซีก็กลับไปตามทางที่เข้ามา โดยรักษาระยะห่างไว้ เซี่ยหลูโม่รู้ส่าข้างหน้ามีคน แต่ถึงฝันละเมอก็ไม่กล้าคิดว่าคนเหล่านั้นจะเป็นซ่งซีซีและอาจารย์เขาคิดว่าคนที่นำกลุ่มเป็นหัวหน้า มีหน้าที่ตรวจตรา เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาแอบขโมยเสบียงอาหาร เพราะคนเหล่านี้ดูเหมือนคนที่มาทำงานหนักชั่วคราวซ่งซีซีมองย้อนกลับไปหลายครั้ง แต่นางไม่เห็นเซี่ยหลูโม่ เพราะมีคนมากเกินไป เห็นแต่หัวดำๆ เต็มไปหมด และระยะห่างระหว่างพวกเขาค่อนข้างไกลนางหันกลับไปมองตลอด เพราะได้ยินเพียงเสียงของจางต้าจ้วง ไม่ใช่เสียงของเขาเสิ่นว่านจือกระซิบข้างหูของนาง “วางใจเถอะ ตอนนั้นที่เกิดความวุ่นวาย มีคนสองคนแอบเข้ามาในกลุ่มของเรา แม้ว่าจะมองเห็นได้ไม่ชัดเจน แต่พวกเขาก็น่าจะเป็นท่านอ๋องกับจางต้าจ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-20
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1267

    ในหมู่บ้านถูกคนของพวกเขายึดครองหมดแล้ว ต้องการน้ำอุ่นก็มีน้ำอุ่น ต้องการเสื้อผ้าก็มีเสื้อผ้า แต่เสื้อผ้าเหล่านี้ค่อนข้างสั้น อูโซเว่ยไม่ยอมให้เขาดูไม่ดี สั่งให้คนไปหาเสื้อผ้าชุดใหม่มา เลือกขนาดที่พอดีกับตัวเขาเซี่ยหลูโม่แช่ตัวในอ่าง ส่วนซ่งซีซีช่วยเช็ดสิ่งสกปรกออกจากร่างกายและสระผมที่ยุ่งเหยิงของเขาเซี่ยทิงหลานเป็นคนที่รู้จักเพลิดเพลินกับความสำราญ น้ำยาสระผมกลิ่นหอมที่เขาใช้สระผมนั้นดีเป็นพิเศษ หลังจากขัดและสระผมสักพักหนึ่ง ผมของเขาก็นุ่มขึ้นเพียงว่ามันสกปรกเกินไป เขาจึงต้องเปลี่ยนน้ำสามครั้ง ถึงอาบสะอาด ซ่งซีซีค่อยๆ ช่วยเขาโกนเครา เผยให้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาดังเดิมในทางกลับกัน เซี่ยหลูโม่รู้สึกใจสลายเมื่อมองดูใบหน้าที่ซูบเซียวของนาง หลายวันมานี้นางกลัวจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ถ้ารู้แต่แรกก็คงจะส่งจดหมายหานางสักฉบับ นางจะได้ไม่เป็นห่วงขนาดนี้ยังไม่ได้ซื้อเสื้อผ้ากลับมา จำต้องสวมเสื้อผ้าของเซี่ยทิงหลานก่อน มันสั้นเกินไปนิดหน่อย เมื่อสวมถุงเท้าจึงดูเรียบร้อยขึ้นสองสามีภรรยากอดกันแน่น น้ำเสียงของเขาก็แหบห้าว “ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะมา ไม่คิดว่าศิษย์พี่เสิ่นจะคิดว่าเกิดเรื่องขึ้นกับข้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-21
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1268

    ในหลูโจวมีร้านแห่งหนึ่งชื่อตึกหย่งเล่อ ตั้งตระหง่านริมแม่น้ำหลูโจว ผู้ที่มาใช้จ่ายที่ถนนหย่งเล่อล้วนมีแต่คนร่ำรวยหรือไม่ก็ผุ้สูงศักดิ์แต่มุมซ้ายของถนนหย่งเล่อ หันหน้าไปทางท่าเรือ มีสถานที่ว่างๆ รกๆ จะมีพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งแผงขายของทุกวันมีทั้งคนขายข้าว คนขายขนมงา และคนขายเกี๊ยว ของที่นี่ถูกและดี ที่มาหาอาหารที่นี่ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านธรรมดาและคนงานรับจ้างที่ท่าเรือด้านนอกแต่ละแผงมีโต๊ะเตี้ยๆ ตั้งอยู่ไม่กี่ตัว และมีม้านั่งเล็กๆ หลายตัวไว้ให้ผู้มารับประทานอาหารสามารถนั่งกินอาหารได้ที่นี่พลุกพล่านมาก ผู้คนพูดถึงทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องกิจการบ้านเมือง สำหรับคนธรรมดา สิ่งนั้นอยู่ไกลเกินไปในหมู่พวกเขามีสองคนนั่งอยู่หน้าแผงขายเกี๊ยว เสื้อผ้าของพวกเขาค่อนข้างเรียบง่ายและธรรมดา หนึ่งในนั้นสวมเสื้อบุผ้าฝ้ายสีเทาและหมวกสีขาวชายอีกคนหนึ่งอายุประมาณสี่สิบปี สวมเสื้อผ้าผ้าหยาบสีเขียว ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่หนาวเย็น เสื้อผ้าของเขาดูค่อนข้างบางเล็กน้อย แต่หลังจากกินเกี๊ยวไปหนึ่งชาม เหงื่อเม็ดเล็กๆ ก็ปรากฏขึ้นบนหน้าผากของเขาหลังจากกินอาหารเสร็จวางชามลง ชายในเสื้อบุผ้าฝ้ายสีเทาก็พูดว่า “แบบนี้ ไม่สน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-21
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1269

    การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ถูกประกาศว่าเป็นการปราบปรามโจรก่อนมีการเคลื่อนไหว พวกเขานั่งคุยกันหารือกัน การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ไม่เป็นอันตราย ภารกิจก็ไม่ยาก อย่างไรก็ตามสามารถมั่นใจได้ว่าคนจากหมู่บ้านต้าสือในหลูโจว ไม่ใช่อดีตทหารส่วนตัวของอำเภอหยงดังนั้น คนของอ๋องเยี่ยนย้ายไปอยู่ที่ไหน?เซียหรูหลิงกล่าวก่อนหน้านี้ว่ามีฐานที่มั่นแบบเดียวกันนี้ในหลายอำเภอหลายเมือง เขาคิดว่า มันน่าจะใหญ่เท่ากับหมู่บ้านต้าสือหลายพันคน จะบอกว่ามากก็ไม่มาก จะบอกว่าน้อยก็ไม่น้อยในสถานที่ที่ไม่มีกองทหารรักษาการณ์ อาศัยเพียงทางการท้องถิ่นเพียงลำพังไม่สามารถทำลายล้างคนห้าพันคนได้ ในทางกลับกัน กลับเป็นเรื่องง่ายที่จะถูกตอบโต้และเข้ายึดครองถ้าหลายแห่งเกิดเรื่องขึ้นพร้อมกัน จะทำให้เกิดความเสียหายใหญ่หลวงต่อประชาชน เมื่อกองทัพมาถึง ก็ไม่รู้ว่าถูกยึดครองไปกี่แห่งแล้วดังนั้นการทำลายล้างทหารส่วนตัวของหลูโจวในครั้งนี้จึงไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาใหญ่จะตามมาทีหลังในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากสงครามในเขตหนานเจียง อ๋องเยี่ยนยังคงขยายอำนาจตลอด ราชสำนักยังไม่ได้เตรียมการป้องกันเขาเลย แม้ว่าเขาจะถูกควบคุมได้หลังจากชัยช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-21
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1270

    ปฏิบัติการฉับพลัน คนกลุ่มหนึ่งตรงไปที่ถนนทางทิศเหนือของหมู่บ้านต้าสือ ซึ่งเป็นทางเข้าไปในหมู่บ้านแต่แน่นอนว่าก่อนที่กลุ่มนี้จะเคลื่อนไหว กลุ่มอื่นๆ ได้เข้าสู่ภูเขาแล้ว โดยโจมตีจากด้านหน้า ซ้ายและขวา ซึ่งได้วางแผนล้อมจับพวกเขาไว้ทุกด้านแล้วอย่างไรก็ตาม การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะต่อสู้เนื่องจากพท้นที่กว้างขวาง ศัตรูคุ้นเคยกับภูมิประเทศที่เป็นภูเขามากกว่า โชคดีที่อูโซเว่ยพาคนล่วงหน้ามาปิดกั้นทางเข้าเส้นทางลับในหมู่บ้านต้าสือ บังคับให้พวกเขาต่อสู้ต่อไปจางต้าจ้วงยังแวะช่วยสองคนก่อนหน้านี้ที่ถูกจับมัดด้วย ให้เขาช่วยตามหาคนเหล่านั้น และเกลี้ยกล่อมให้พวกเขาออกจากหมู่บ้านต้าสือโดยไม่มีอาวุธทั้งสองคนนั้นในที่สุดก็ได้รับการช่วยเหลือ พวกเขาทั้งหนาวทั้งหิว เมื่อรู้ว่ามีการต่อสู้กันข้างนอก พวกเขาจึงรีบลนลานไปพบคนที่อาศัยอยู่บนภูเขา พาพวกเขาอพยพออกไปแต่พวกที่ทำงานหนักเหล่านี้เป็นคนจำนวนน้อยเสมอ จริงๆ แล้วที่นี่มีทหารส่วนตัวถึงห้าพันคน ดังนั้นการต่อสู้จึงค่อนข้างยากไม่กี่ชั่วยามต่อมา กลุ่มที่สองได้ยึดครองหมู่บ้านต้าสือ ตัดเสบียงอาหาร บังคับพวกเขาขึ้นภูเขา ตราบใดที่ยึดอาหารได้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-22
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1271

    เมื่อข่าวไปถึงเยี่ยนโจว ทุกอย่างในจวนอ๋องเยี่ยนก็ล้มระเนระนาดอ๋องเยี่ยนโกรธมาก ทุบทุกอย่างจนในบ้านเต็มไปด้วยเศษกระเบื้องแตก “พวกสวะ ทหารส่วนตัวห้าพันคนถูกฆ่าตายในคราวเดียว แต่ไม่มีใครมารายงาน เซี่ยทิงหลานไปทำบ้าอะไร? คนมากมายไปถึงหลูโจว เขากลับไม่มีมาตรการป้องกันใดๆ เลย แถมไม่ได้ส่งใครมารายงานข่าวด้วยซ้ำ”ใบหน้าของเขาดุร้ายและน่าสะพรึงกลัวมาก แม้แต่อ๋องฮวยก็ยังยืนเฉยๆ ไม่กล้าพูดอะไรเหตุการณ์นี้ ทำให้พวกเขาไม่ทันระวังจริงๆความสนใจของพวกเขา อยู่ที่ทหารส่วนตัวที่ย้ายมาจากอำเภอหยงเท่านั้น ไม่คาดคิดเลยว่าจะเกิดปัญหาในหลูโจวหมู่บ้านต้าสือในหลูโจว ถูกซ่อนไว้อย่างดี จะถูกค้นพบได้อย่างไร?หลูโจวไม่ควรอยู่ในสายตาพวกเขาตั้งแต่แรกสิที่นั่นภูมิประเทศดีมาก นอกจากมีอุโมงค์อยู่หนาแน่นแล้ว ยังมีหมู่บ้านต้าสือ ที่มีภูเขาสามด้านโอบล้อม เขาคิดว่าถ้าล้มเหลวก็ถอยกลับไปที่หมู่บ้านต้าสือ สามารถอยู่รอดปลอดภัยได้หลายปี จากนั้นค่อยสำรวจอุโมงค์ลับภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ป้องกันง่าย แต่โจมตียาก แต่กลับถูกเลือกจัดการก่อนเช่นนี้อู๋เซียงดูเคร่งขรึม “ท่านอ๋อง โกรธไปก็เปล่าประโยชน์ ตัดสินใจตั้งแต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-22
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1272

    ในห้องหนังสือของจวนอ๋องเยี่ยน แสงไฟไม่ดับลงเลยตลอดทั้งคืนอ๋องเยี่ยนได้เรียกเหล่ากุนซือมาร่วมประชุมหารือกัน เขาหวังว่าจะมีใครสักคนเห็นด้วยกับเขาเพราะเขาเชื่อจริง ๆ ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม การเคลื่อนไหวใด ๆ จะมีแต่พาไปสู่ความตายเท่านั้นตราบใดที่สังหารเซี่ยทิงหลานได้ ก็จะไม่มีพยานหลักฐานที่จะกล่าวหาเขาในข้อหากบฏได้ทว่ากุนซือทั้งหมด รวมถึงขุนนางในเยี่ยนโจวที่ร่วมแผนการณ์กับเขา ต่างก็ไม่เห็นด้วยที่จะสังหาร เซี่ยทิงหลาน กองกำลังห้าพันที่ถูกกำราบจนพ่ายแพ้ และคุมตัวเซี่ยทิงหลานกลับเมืองหลวงนั้น จะสังหารพวกเขาได้อย่างไร? แทนที่จะเทกำลังทั้งหมดไปสังหารเซี่ยทิงหลาน พวกเขาควรลุกขึ้นก่อการโดยตรงจะดีกว่า เฮ้อซวงจื้อ…ผู้ว่าการเยี่ยนโจวกล่าว “ท่านอ๋อง หากพลาดโอกาสที่ดีที่สุดไปแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องรออีกต่อไป บัดนี้การเลี้ยงกองทัพก็สิ้นเปลืองทรัพย์สินไปมากมาย อีกทั้งไม่มีเงินจากเมืองหลวงมาสนับสนุน หากยังถ่วงเวลาไปอีก เกรงว่าคงจะไม่อาจคงอยู่ได้ และจิตใจผู้คนก็จะระส่ำระสายไปด้วย” เฮ้อซวงจื้อเคยเป็นอดีตรองเสนาบดีกรมคลัง แต่เพราะทำความผิดเล็กน้อยจนถูกจักรพรรดิองค์ก่อนเนรเทศไปยังเฉีย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-22
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1273

    เช้าวันต่อมา คนในจวนอ๋องเยี่ยนดูหนาแน่นขึ้น มีทั้งเหล่าขุนนางจากตระกูลขุนนางชั้นสูงแห่งเมืองเจียงหนานเข้ามาร่วมด้วย ตามหลักแล้ว ตระกูลขุนนางเหล่านี้เป็นกลุ่มที่ไม่ปรารถนาให้เกิดความวุ่นวาย เพราะในยามบ้านเมืองสงบสุขเท่านั้นที่พวกเขาจะได้เสวยสุขอย่างมั่งคั่ง อย่างไรก็ตาม ตระกูลขุนนางที่ผ่านไปหลายทศวรรษย่อมรู้สึกกังวล เมื่อยศฐาบรรดาศักดิ์จาก ‘กง’ ลดลงเป็น ‘ป๋อ’ หรือแม้แต่กำลังจะหมดสิทธิ์สืบทอดบรรดาศักดิ์ ความกังวลนั้นก็ยิ่งเพิ่มทวีคูณ เพราะอย่างไรพวกเขาก็เคยรุ่งโรจน์มาก่อนแน่นอนว่าไม่ใช่ทุกตระกูลจะเข้าร่วมกับอ๋องเยี่ยน ยังมีบางคนที่หวังจะอยู่สงบสุขในมุมเล็ก ๆ ของตนเอง คนเหล่านี้อาจรู้ถึงแผนการของอ๋องเยี่ยน แต่ด้วยวิถีการดำรงชีวิตที่ให้ความสำคัญกับการไม่สร้างศัตรู จึงเลือกทำเหมือนไม่รู้เรื่อง เนื่องจากวันนี้ผู้คนยังมารวมตัวกันไม่ครบ อ๋องเยี่ยนจึงเลื่อนการตัดสินใจออกไปอีกครั้ง กล่าวว่ารอให้ทุกคนมาพร้อมหน้าก่อน แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีการกระทำเช่นนี้ยิ่งทำให้คำพูดของอู๋เซี่ยงที่ว่าเขากำลังลังเลใจระหว่างการลุกขึ้นก่อกบฏกับการยอมจำนนดูมีน้ำหนักขึ้นทางด้านหลูโจว เซี่ยหลูโม่ได้ส่งม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-23

บทล่าสุด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1340

    ซ่งซีซีนั่งกลับลงบนเก้าอี้ กล่าวว่า “เรื่องที่พวกเจ้าทุจริตนั้น ฝ่าบาททรงทราบดีแล้ว ตอนนี้ที่ทรงให้ข้าสอบสวนเป็นการส่วนตัว ก็เพื่อมอบโอกาสให้พวกเจ้า หากพูดความจริง หัวของเจ้าจะยังปลอดภัย หากให้ข้อมูลที่มีค่าเพิ่มเติม อย่างมากก็แค่ถูกเนรเทศไปทำงานนอกเมือง ยังสามารถโลดแล่นในวงราชการได้”เกาหมิงอวี้ที่มีประสบการณ์ในราชสำนักมานานย่อมรู้ดีว่าให้ข้อมูลที่มีค่ามากขึ้น หมายถึงการขายเจ้านายและผู้ใต้บังคับบัญชาเขาไม่มีข้อสงสัยในคำพูดของซ่งซีซีด้วยสองเหตุผล หนึ่งคือ ช่วงนี้อู๋เยว่และคนของเขาตรวจสอบทางน้ำอยู่เสมอ สองคือ ซ่งซีซีออกหน้ามาสอบสวนด้วยตัวเอง หากไม่มีพระราชโองการจากฝ่าบาท นางไม่จำเป็นต้องลงมือเอง จะส่งใครมาทรมานเขาก็ได้แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าซ่งซีซีวิเคราะห์เขาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง และคาดการณ์ความคิดของเขาไปก่อนแล้ว“พวกเจ้าทุจริตทั้งระบบ ท่าทีของจินชางหมิงเป็นอย่างไร?”เกาหมิงอวี้ครุ่นคิดก่อนตอบว่า “จะว่าไปจริงๆ แล้ว เขาเป็นคนเริ่มเปิดทางให้เราทุจริต โดยอ้างว่าเป็นค่าเหนื่อยของเรา เมื่อเริ่มต้นแล้ว เราลองเบิกเงินเกินมาเล็กน้อย เขาก็ไม่ว่าอะไร จากนั้นเรากล้าขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาเขาเตือนเ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1339

    หลังจากเฝ้าสังเกตอยู่สองวัน ซ่งซีซีตัดสินใจลงมือกับเกาหมิงอวี้ รองหัวหน้ากรมจัดการแม่น้ำเกาหมิงอวี้อายุสามสิบห้าปี รับราชการในกรมโยธามาแล้วห้าปี เขามีพื้นเพมาจากครอบครัวชาวไร่ชาวนา เมื่อยังเยาว์วัยพ่อแม่เสียชีวิต เพื่อให้เขาได้เรียนในสำนักที่ดีที่สุด เขาดูดทรัพย์สมบัติของพี่น้องจนหมดสิ้นหลังสอบจอหงวนได้ เขาเข้ารับราชการ และกลายเป็นคนโลภเงินอย่างที่สุด ขี้เหนียวอย่างยิ่งยวด ทอดทิ้งพี่น้องที่เคยเลี้ยงดูเขาไปเหมือนของไร้ค่า และไม่ติดต่อพวกเขาอีกเลยยังไม่หมดแค่นั้น เขาอ้างความหึงหวงเป็นเหตุผลในการหย่ากับภรรยาคนแรก แล้วแต่งงานกับบุตรสาวของอาจารย์ผู้มีพระคุณอาจารย์ผู้มีพระคุณของเขาคืออธิการสำนักไป๋หยุน ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว ลูกสาวคนเดียวของอาจารย์แต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างดีเขาคือคนไร้ค่าและทรยศทว่าคนไร้ค่าเช่นนี้กลับใช้งานได้ดี เพราะความโลภ โกรธ หลง และความเห็นแก่ตัวของเขา มีจุดอ่อนที่สามารถกดดันจนยอมพูดทุกอย่างคืนนั้น ซ่งซีซีสั่งให้กุ้นเอ๋อร์จับตัวเขามายังเรือนทางตะวันตกของเมือง ขังเขาไว้หนึ่งคืน ให้เขาหวาดกลัวและหิวโหย จากนั้นค่อยสอบสวนในวันถัดไปเกาห

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1338

    จักรพรรดิซูชิงมีราชโองการให้อู๋เยว่พาคนไปควบคุมงานโดยตรง ทว่า จินชางหมิงรับมือได้อย่างคล่องแคล่ว พาอู๋เยว่ไปตรวจสอบผลสำเร็จด้วยตนเองหลังจากเริ่มงานมาเป็นเวลานาน อ่างเก็บน้ำก็ใกล้เสร็จสมบูรณ์คุณภาพของอ่างเก็บน้ำนั้นยอดเยี่ยม เขื่อนที่สร้างขึ้นมั่นคงดั่งกำแพงทองหลังจากตรวจสอบอ่างเก็บน้ำแล้ว ก็ไปตรวจสอบทางน้ำ ทุกพื้นที่ได้ขุดลอกเสร็จเรียบร้อย ส่วนเขื่อนที่เสียหายก่อนหน้านี้ก็ได้รับการซ่อมแซมและเสริมความแข็งแรงแล้วอู๋เยว่ยังส่งคนไปพูดคุยกับคนงานก่อสร้างทางน้ำ ชายฉกรรจ์แต่ละคนที่ผิวคล้ำแดด ดูซื่อๆ ขัดเขินเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าขุนนางส่วนใหญ่ถามอะไรก็ตอบสิ่งนั้น หากให้พวกเขาบอกความไม่พอใจอะไร พวกเขามักลังเลครู่หนึ่งก่อนที่จะถามว่าอาหารสามารถปรับปรุงได้ไหม โดยเฉพาะเพิ่มหมูติดมันให้หน่อยอู๋เยว่คิดว่าคนเหล่านี้เป็นคนเรียบง่าย ไม่มีปัญหาอะไร และไม่มีความเคียดแค้นในแววตาเขายังพาคนไปดูที่พักชั่วคราวของคนงานก่อสร้างเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกระท่อมไม้และกระท่อมหญ้าแฝก ภายในมีเพียงที่นอนใหญ่ที่รองรับคนได้เจ็ดแปดคน ดูรกเล็กน้อยในกระท่อมไม่มีอาวุธ เครื่องมือที่ต้องใช้ทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1337

    ซ่งซีซีแทบจะหัวเสียจนอกแตกตาย นางรู้สึกว่าเส้นผมสีขาวกำลังจะงอกออกมาบนหน้าผาก ไม่แปลกใจเลยที่ขุนนางในราชสำนักแต่ละคนดูแก่ก่อนวัย หรือแม้แต่เสนาบดีมู่ที่อายุเพียงหกสิบกว่า ผมก็หงอกไปกว่าครึ่งนางไปหาเสนาบดีมู่ด้วยความขุ่นเคือง หวังว่าเขาจะช่วยอะไรได้บ้างและกล่าวบางคำสนับสนุนนางต่อหน้าฮ่องเต้เสนาบดีมู่ยิ้มพลางมองนาง "แค่นี้ก็ถึงกับโกรธเลยหรือ?"ซ่งซีซีตอบ "มิกล้าโกรธเจ้าค่ะ แต่เรื่องนี้ชะลอความคืบหน้า และข้ากลัวว่าจะทำให้ผู้ต้องสงสัยตื่นตัว จนถูกชิงโอกาสไป ฝ่าบาทไม่ไว้ใจข้าเลย"เสนาบดีมู่ย้อนถาม "เขาไม่เชื่อเจ้าอย่างสมบูรณ์ก็เป็นเรื่องปกติ ต่อให้เป็นเจ้า หากคนใต้บัญชาไม่ได้ยกหลักฐานมาสนับสนุนคำพูด เจ้าจะเชื่อพวกเขาโดยไม่ตรวจสอบหรือ?"ซ่งซีซีกล่าว "แต่เขาไม่มีหลักฐานว่าท่านอ๋องมีความทะเยอทะยานใดๆ แต่เขาก็ยังระแวงทุกทางมิใช่หรือ?""ก็เพราะไม่มีหลักฐาน เขาจึงระแวง หากมีหลักฐาน เขาคงลงมือไปนานแล้ว" เสนาบดีมู่ถอนหายใจเบาๆ "ความจริงแล้ว หลายเรื่องไม่ได้ง่ายดายอย่างที่เจ้าคิด โดยเฉพาะการตัดสินใจสำคัญในราชสำนัก ต้องผ่านการหารือและอภิปรายหลายครั้ง บางเรื่องใช้เวลาเป็นปีจึงจะเดินหน้าได้ อีก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1336

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โครงการก่อสร้างแม่น้ำได้เกณฑ์แรงงานจากในและรอบๆ เมืองหลวง โดยเป็นกลุ่มคนงานและแรงงานหนักกลุ่มเดียวกันหน่วยงานด้านแม่น้ำทั้งหมดอยู่ภายใต้การนำของจินชางหมิง เขาใช้ข้ออ้างเรื่องการซ่อมแซมแม่น้ำและโครงการระบายน้ำเข้ายึดครองภูเขาและที่ดินจำนวนไม่น้อยบ้านเรือนถูกสร้างขึ้นอย่างกระจัดกระจายในพื้นที่เหล่านี้ โดยไม่ได้จัดเป็นชุมชนที่มีขนาดใหญ่ คนงานแม่น้ำและแรงงานบางส่วนอาศัยอยู่ในบริเวณนี้เส้นทางแม่น้ำที่พวกเขาครอบครองกระจัดกระจายไปในทุกทิศ เมื่ออาจารย์หยูทำเครื่องหมายและเชื่อมจุดบนแผนที่ พบว่าพื้นที่เหล่านี้โอบล้อมพระราชวังหลวงไว้เหมือนตาข่ายที่กางปิดหากพวกเขาเป็นทหารลับของนกต่อ การเฝ้าประตูเมืองจะไร้ประโยชน์ เพราะพวกเขาอยู่ในเมืองหลวงมาตลอด และเมื่อไม่มีงานทำ พวกเขาก็สำรวจภูมิประเทศจนคุ้นเคย แม้แต่ค่ายลาดตระเวนหรือทหารรักษาการณ์อาจยังไม่รู้จักเส้นทางในเมืองหลวงดีเท่าพวกเขาซ่งซีซีมองดูแผนที่ด้วยความตระหนก แต่ก็ยังตั้งคำถามว่า "พวกเขาได้รับที่ดินเหล่านี้ ต้องได้รับการอนุมัติจากกรมโยธาธิการและฝ่าบาทใช่หรือไม่?""ถูกต้อง แต่ถ้าใช้เพื่อการซ่อมแซมแม่น้ำและระบายน้ำ ก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1335

    กล่องผ้าไหมสีแดงเข้มชิ้นนั้นเต็มไปด้วยฝุ่น ว่านกงกงเป่าฝุ่นออกก่อนจะใช้แขนเสื้อเช็ด แล้วเปิดกลไกอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหยิบหยกชิ้นหนึ่งออกมาเขาส่งสัญญาณให้มอบหยกชิ้นนั้นแก่เสนาบดีมู่เสนาบดีมู่รับมาด้วยความสงสัย เมื่อมองดู เห็นว่าหยกทรงวงแหวนชิ้นนี้แกะสลักลวดลายมังกร ชัดเจนว่าเป็นของจักรพรรดิ์องค์ก่อน"ท่านเสนาบดีลองดูด้านหลัง" ว่านกงกงกล่าวเมื่อเสนาบดีมู่พลิกดูด้านหลัง เขาถึงกับตะลึงจนเหมือนร่างแข็งทื่อด้านหลังยังคงมีลวดลายมังกร แต่ลวดลายนี้ห่อหุ้มใบเมเปิลหนึ่งใบ และข้างใบเมเปิลนั้นยังมีอักษร "สือ" เล็กๆ แกะสลักไว้ใบเมเปิลและตัวอักษรแบ่งพื้นที่คนละด้าน ใบหนึ่งใหญ่ ใบหนึ่งเล็กซ่งซีซีก็เห็นเช่นกัน แต่ไม่เข้าใจความหมายเสนาบดีมู่ถอนหายใจและอธิบายเบาๆ "สือจิ้ง เป็นนามอักษรของจักรพรรดิ์องค์ก่อน ส่วนชิวเหมิงเคยเดินทางในยุทธภพช่วงหนึ่ง และได้รับสมญานามว่า 'คุณชายเหล็กแห่งใบเมเปิล'""หยกชิ้นนี้จักรพรรดิ์องค์ก่อนประทานให้แม่ทัพชิว ด้านหลังเดิมมีเพียงลวดลายมังกร แต่ใบเมเปิลและอักษร 'สือ' นั้น แม่ทัพชิวแกะสลักเพิ่มเอง หยกนี้เขาพกติดตัวตลอด ใส่ไว้ในถุงผ้าไหม แต่ไม่รู้อย่างไรถูกจักรพรรดิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1334

    อย่างไรเสีย หัวข้อสนทนานี้เป็นเรื่องที่พูดยาก เสนาบดีมู่จึงดื่มชาสองสามอึกก่อนจะกล่าวว่า "ความจริงเรื่องนี้ข้าเองก็ไม่แน่ใจ ในตอนนั้นมีการประกาศว่าชิวเหมิงกระทำการหมิ่นพระเกียรติ จักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงกริ้วและปลดเขาออกจากตำแหน่ง ก่อนจะพระราชทานยศเจวี๋ยให้แทน มีข่าวลือเล็กๆ น้อยๆ หลุดออกมาจากในวังว่าเขาและอาจารย์ฉีมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือบางอย่าง เมื่อจักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงทราบ ก็ไม่อาจยอมรับเรื่องนี้ได้ ด้วยความโกรธจึงตรัสคำดูหมิ่นเขาอย่างรุนแรง รวมถึงการลดตำแหน่ง ทำให้ชิวเหมิงรู้สึกหมดกำลังใจจนตัดสินใจออกจากเมืองหลวงไป"สำหรับเหตุผลนี้ ซ่งซีซีเคยคาดเดาไว้บ้าง แต่คิดว่าในฐานะคนที่ทำงานใกล้ชิดราชวงศ์ ไม่น่าจะกล้าแสดงความคิดหรือความรู้สึกเช่นนั้นออกมา อีกทั้งนางก็รู้จักอุปนิสัยของจักรพรรดิ์องค์ก่อนดี จึงยิ่งไม่น่าจะไม่ระมัดระวังตัวและหากการลดตำแหน่งเกิดจากเรื่องนี้ ก็ดูเหมือนจะเป็นการทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่แต่จากที่ได้ฟัง บางทีชิวเหมิงอาจมองจักรพรรดิ์องค์ก่อนเป็นเพื่อนจริงๆ จึงไม่ได้ปิดบังตัวเองมากนัก หรืออาจเพราะเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้จักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงไม

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1333

    อาจารย์ฉีมอบหมายให้ซ่งซีซีตามหาบุคคลหนึ่งชื่อชิวเหมิงบรรพบุรุษของตระกูลชิวเคยร่วมรบสร้างแคว้นกับจักรพรรดิ์ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นขุนนางตลอดกาลในฐานติ้งปังโหว แต่ต่อมาชิวเหมิงกลับล่วงเกินจักรพรรดิ์องค์ก่อน และถูกลดตำแหน่งลงเป็นผิงอันป๋อเขาจึงย้ายออกจากเมืองหลวงไปปลีกวิเวกที่แถบเจียงหนาน และดูเหมือนว่าคนในเมืองหลวงที่จำเขาได้คงเหลือน้อยเต็มที"เขาไม่เคยแต่งงานเลยตลอดชีวิต และห้างชิวเจียก็เป็นของเขา"ซ่งซีซีประหลาดใจ "เขาคือเจ้าของเบื้องหลังของห้างชิวเจียอย่างนั้นหรือ?"ห้างชิวเจียในแถบเจียงหนานถือเป็นกิจการใหญ่โต แม้ทรัพย์สินจะไม่เทียบเท่าตระกูลเสิ่น แต่ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรมและมีเครือข่ายความสัมพันธ์กว้างขวางในแคว้นซางมีคนแซ่ชิวอยู่ไม่น้อย ประกอบกับชิวเหมิงที่ซ่อนตัวและไม่พบปะใครเลย ทำให้ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะเป็นเจ้าของห้างชิวเจียแต่ห้างชิวเจียมีอายุเกินร้อยปี เป็นป้ายเก่าแก่ ก่อนที่ชิวเหมิงจะออกจากเมืองหลวง ก็ไม่เคยมีข่าวว่าครอบครัวเขาทำธุรกิจหงเซียวรีบอธิบาย "เดิมทีห้างชิวเจียไม่ได้เป็นของชิวเหมิง แต่ภายหลังเมื่อเขาไปถึงเจียงหนาน ห้างชิวเจียประส

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1332

    ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับจินชางหมิงถูกส่งมาถึงมืออาจารย์หยูจินชางหมิง เป็นชาวเยี่ยนโจว อายุ 47 ปี สอบได้ตำแหน่งซิ่วไฉตอนอายุ 13 ปี และจวี่เหรินตอนอายุ 18 ปี ในตอนนั้นเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะในเยี่ยนโจวแต่หลังสอบจวี่เหรินได้ เขาถูกชะลอไม่ให้เดินทางไปสอบในเมืองหลวงเพราะมารดาป่วย เขาจึงหางานทำในสำนักอำเภอที่เยี่ยนโจว และได้ตำแหน่งเลขานุการเส้นทางการเลื่อนตำแหน่งของเขาไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งเยี่ยนโจวและกรมโยธาธิการต่างให้คะแนนว่าเขาเป็นคนมีวิสัยทัศน์และลงมือทำจริงในการประเมินผลสามปีครั้งของกรมการปกครอง เขาได้คะแนนดีเยี่ยมว่ากันว่าการเป็นหัวหน้ากรมแม่น้ำเพียงอย่างเดียวเป็นการฝังพรสวรรค์ของเขา บ้างก็ว่าเขาไม่มีสายสัมพันธ์ที่ดี มิฉะนั้นเขาคงได้รับการเลื่อนตำแหน่งไปเป็นรองเสนาบดีกรมโยธาธิการแล้วแคว้นต้าซางมีข้าราชการแบบเขาอยู่มากมาย ตำแหน่งไม่สูงนัก แต่ทำงานทุกอย่างราบรื่น ไม่มีความทะเยอทะยานมาก และทำงานเงียบๆ อย่างมีประสิทธิภาพเขาไม่ได้โดดเด่น ไม่มีเรื่องให้พูดถึง มีภรรยาหลวงหนึ่งคน ภรรยาน้อยหนึ่งคน ลูกชายหนึ่งคน ลูกสาวหนึ่งคน และคนรับใช้สามคน บ้านที่เขาอยู่เดิมเป็นบ้านเช่า เพิ

DMCA.com Protection Status