Share

บทที่ 1177

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
หลังจากซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือออกจากวัง เสิ่นว่านจือไปโรงงาน ซ่งซีซีไปสถาบันการศึกษาสตรี

ก่อนหน้านี้ได้เตือนฉีซี่หลี่ ให้นางอย่าได้เล่นเล่ห์เหลี่ยมอีก มิฉะนั้นจะขับไล่นางออกจากสถาบันการศึกษาสตรี นึกไม่ถึงหยุดไปได้ไม่นาน ก็กลับมาอีกครั้งแล้ว

กั๋วไท่ฮูหยินพบซ่งซีซี รู้ว่านางจัดการปัญหาของฉีซี่หลี่ จึงกล่าว “นางไม่มีใจเรียนรู้ ไม่สู้เกลี่ยกล่อมนางให้ถอนตัวเถอะ นางถอนตัวเอง ก็ไม่ถึงขั้นก่อเรื่องจนไม่น่าดู ถึงเช่นไรก็เป็นแม่นางที่ต้องดูตัวแต่งงาน”

กั๋วไท่ฮูหยินไม่ได้หวาดกลัวตระกูลฉี แต่คิดเพื่อฉีซี่หลี่ด้วยความด้วยความจริงใจ หากถูกสถาบันการศึกษาหย่าจวินขับไล่ออกไป จะส่งผลกระทบไม่ดีต่อชื่อเสียงของนาง

กั๋วไท่ฮูหยินเห็นอกเห็นใจเด็กๆ รู้ว่าเด็กสาวต้องดูตัวแต่งงาน หากไม่ได้จับคู่กับคนดี นั่นเป็นเรื่องทั้งชีวิต

ซ่งซีซีกล่าว “กั๋วไท่ฮูหยินไม่ต้องรีบร้อน นางถามให้ชัดเจนว่านางทำสิ่งใด ค่อยไปคุยกับนาง”

กั๋วไท่ฮูหยินกล่าว “หากบอกว่าเป็นเรื่องใหญ่ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพียงแต่นางและเด็กสาวผู้นั้นก่อกวนห้องเรียนตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะตอนที่หรูอวี้ฮูหยินสอนบรรยาย นางส่งเสียงดังอยู่ด้านล่าง ทำให้ทุกคนคับ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Jusmine
ทำไมเปิดอ่านบทต่อไปไม่ได้ ต้องทำอย่างไร
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1178

    ซ่งซีซีก้าวขาเข้าไป กวาดมองด้วยสายตาเย็นชา พวกนางสามคนล้วนก้มศีรษะ ไม่กล้าสบตาซ่งซีซีหยานหรูอวี้เห็นนางมาแล้ว ถอนหายใจโล่งออกออกมาราวมกับเจอดาวช่วยชีวิตซ่งซีซีตะโกนสั่ง “ยังไม่ไปอีก? จะต้องให้เพิ่มขึ้นหรือว่าจะไปจากสถาบันการศึกษาสตรี? หากไม่เรียน ก็อย่าใช้อิทธิพลครอบครองพื้นที่ พวกเจ้าไม่เรียนก็มีคนที่อยากมาเรียน”เซี่ยงฮวยอวี้และจูช่างอวีตกใจ รีบร้อนดึงแขนเสื้อของฉีซี่หลี่ สายตาส่งสัญญานลับ ไปเถอะ รีบไปเดิมทียี่สิบครั้ง ตอนนี้ต้องตีสามสิบครั้งแล้ว หากยังไม่ไปคงเป็นสี่สิบห้าสิบครั้งแล้วฉีซี่หลี่เป็นคนอายุน้อยใจร้อน แล้วก็เป็นคุณหนูที่ถูกเอาอกเอาใจของตระกูลฉี ไหนเลยจะรับเรื่องเกินขอบเขตนี้ได้?นางใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่จึงสามารถเก็บสายตาคุกกรุ่นไม่ยอมแพ้ได้ ก่อนที่ซ่งซีซีจะกล่าวคำว่าสี่สิบครั้งออกมาจากปาก นางพาสองคนหมุนตัวเดินไปออกจากประตู นางโกรธจนหน้าแดงแล้ว หากไม่ใช่เพราะพี่สาวฮองเฮากำชับเอาไว้ นางก็ไม่อยากอยู่ในสถานที่ผีเช่นนี้ต่อไปสตรีรู้อักษรก็พอแล้ว เรียนเยอะแยะไปก็ไม่ได้ใช้ ไม่สู้เรียนรู้วิธีดูแลบ้านและดูแลคนดีกว่า วันหน้าแต่งออกไปจะได้ไม่เสียเปรียบหยานหรูอวี้ลุกขึ้น

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1179

    ฮูหยินสี่รีบปิดปากนาง “เจ้าอย่าเอะอะโวยวาย วัวแก่กินหญ้าอ่อนไม่น่าฟังก็พูดออกมาได้ หากกลับไปลอยเข้าหูของท่านลุงเจ้า คงสั่งสอนเจ้าสักรอบ”ตระกูลฉีกฎเกณฑ์เข้มงวด ลูกหลานในตระกลูต้องพูดีทำดีฉีซี่หลี่สะบัดศีรษะ สะบัดมือของท่านแม่ กล่าว “ท่านลุงร่างกายไม่ปกติ ยังกล้าว่าพวกเรา?” วันนี้ไม่กลัวเขา”“เอาล่ะ หุบปากซะ” ฮูหยินสี่ตำหนิ “นิสัยเด็กจริงๆ คนนอกกัดเรื่องนั้นของท่านลุงเจ้าไม่ปล่อย พวกเราทำการปิดบังอำพรางยังไม่ทัน ไม่ว่าเช่นไร เขายังควบคุมกรมขุนนาง ลูกเขยของเขาวันนี้เป็นฝ่าบาท อนาคตคนมากมายอยู่ในมือเขา”ฉีซี่หลี่สูดจมูก เบ้ปาก ไม่กล้าพูดถึงเรื่องของผู้ใหญ่ “ถึงเช่นไรข้าก็ไม่ชอบเจ้าสิบเอ็ดฝางคนนั้น ไร้ความสามารถ ขี้ขลาดตาขาว ภรรยาของตัวเองถูกคนอื่นขโมยไป เกิดเรื่องฉาวโฉ่ดังไปทั่ว แม้แต่พายลมเขายังไม่กล้าผาย”“นี่คือความต้องการของเหนียงเหนียง เจ้าฟังนางไม่ผิด” นางใส่ยาให้ลูกสาว ค่อยๆ วิเคราะห์ในนางฟัง ความแตกต่างระหว่างแต่งานกับเซี่ยงซานหลางและเจ้าสิบเอ็ดฝางฉีซี่หลี่เลื่อมใสฮองเฮาฉีเสมอมา แต่เรื่องนี้ นางไม่มีทางตกลง อีกทั้งวันนั้นเหนียงเหนียงเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ น

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1180

    ประโยคว่าลงโทษอย่างหนัก พวกเซี่ยงฮวยอวี้กลัวแล้ว พากันถอยไปด้านหลัง คิดจะดึงระยะห่างออกจากฉีซี่หลี่ฉีซี่หลี่ร้องได้อย่างน้อยเนื้อต่ำใจอย่างยิ่ง คิดว่าหวังจืออวี่ไม่ควรพูดเพื่อเจ้าสิบเอ็ดฝาง “ข้าไม่ได้ตั้งใจ ใครใช้ให้นางปากเสีย? ท่านป้านางทำเรื่องฉาวโฉ่นั่น นางยังร่วมวงช่วยเจ้าสิบเอ็ดฝางพูดจา นางไม่รู้สึกอับอายหรือ?”หวังจืออวี่ตอนที่ถูกตียังไม่ร้องไห้ เมื่อได้ฟังประโยคนี้ น้ำตานางไหลแหมะๆ ออกมา หันหน้าไป ซบไหล่เพื่อนร่วมชั้นอีกครั้งร้องไห้ออกมาเหล่าอาจารย์ถูกเชิญมาจัดการเรื่องนี้ แม้แต่ซ่งซีซีก็ถูกเชิญมาด้วยนักเรียนที่ร่วมทะเลาะเบาะแว้งต่างก็กังวล เป็นห่วงว่าตัวเองจะถูกลงโทษเพราะเหตุนี้ ทั้งหมดต่างก็ยืนอยู่ด้านข้างเงียบๆ ไม่ส่งเสียง สองคนที่สร้างสถานการณ์ตึงเครียดเมื่อครู่ ตอนนี้ไม่มีทิฐิแม้แต่น้อยเพื่อเข้าใจเหตุการณ์ก่อนหลังแล้ว บนใบหน้าหยานหรูอวี้ที่ใจเย็นเสมอมาเผยสีหน้าเย็นชา “ก่อนหน้านี้นางก่อเรื่องตลอดเวลา วันนี้นึกไม่ถึงว่าจะกล้าลงมือตีคน ดูท่าทางคงไม่ได้มาเพื่อเรียน ข้าแนะนำให้เขาไล่นางออกจากสถานบันการศึกษา เพื่อป้องกันไม่ใช้ทำลายชื่อเสียงของสถานบันการศึกษาพวกเรา”ฉีซี

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1181

    นางจีก็พาจินซิ่วมาถึงด้วย ได้ยินว่าบุตรสาวของตนเองถูกตี นางไปดูลูกสาวก่อน ใบหน้าบวมแล้ว แถมยังมีแผลเล็กละเอียดอีกเส้นหนึ่ง พอรู้ว่ากั๋วไท่ฮูหยินได้ทายาให้นางแล้ว หลังจากที่ปลอบใจลูกสาวตัวเองสองสามคำ ก็กลับเรือนซูหย่าเพื่อคำนับขอบคุณกั๋วไท่ฮูหยินฮูหยินทั้งสองนั่งลง ซ่งซีซีเป็นคนออกหน้าบอกเล่าเรื่องราวจนกระจ่างชัด หลังจากที่เล่าจนจบแล้ว จึงได้ส่งคนไปเรียกตัวฉีซี่หลี่และหวังจืออวี่มา และนำตัวนักเรียนหลายคนมาเป็นพยานด้วย เพื่อสะดวกต่อการให้ฮูหยินทั้งสองซักถามสีหน้าของฮูหยินฉีสี่ดูย่ำแย่เป็นอย่างมาก หนึ่งคือโกรธที่ลูกสาวไม่ได้เรื่อง ไม่รู้ความ ถึงขั้นนำเรื่องแบบนี้มาพูดกล่าวที่สถานบัน สองคือโกรธเกลียดหวังจืออวี่ปากพล่อย มาพูดว่าเจ้าสิบเอ็ดฝางไม่ชอบลูกสาวนาง คำพูดนี้แพร่ออกไป จะทำให้ลูกสาวนางเสื่อมเสียได้ทว่า เป็นฉีซี่หลี่ที่ลงมือตีคน เนื้อแท้นี้กับการทะเลาะเบาะแว้งนั้นต่างกัน นางไม่อาจไม่ก้มหัวได้ นางกล่าวขอโทษอย่างไร้รสไร้ชาติกับนางจี “แม้นจะบอกว่าเป็นพวกเด็กสาวไม่รู้ความมีปากมีเสียงกัน แต่เป็นลูกสาวข้าที่ลงมือทำร้ายผู้อื่นก่อนนั้นไม่ถูก ฮูหยินจีได้โปรดอย่าถือสาหาความกับนางเลย”นางจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1182

    สีหน้าของฮูหยินฉีสี่ย่ำแย่ขึ้นอีก นางไม่เชื่อว่านางจีฟังไม่ออกถึงนัยยะในคำพูดของนางท่าทีของนางแข็งขึ้นบ้าง “ไม่มีเหตุจำเป็นที่ต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่เช่นนี้ ให้ขอโทษนั้นได้ แต่จะให้ออกจากสถาบันนั้นรุนแรงเกินไปแล้ว นี่เป็นเพียงเรื่องที่เด็กๆ ทะเลาะเบาะแว้งกัน ให้ลาออกเพราะเรื่องเล็กแค่นี้ หากแพร่งพรายออกไปจะทำให้ผู้คนว่าเอาได้ว่านักเรียนของหย่าจวินนั้นทำให้เรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ ฮูหยินไม่คิดเผื่อลูกสาวของตนเอง ก็ควรจะเห็นแก่สถานบันหย่าจวินบ้าง อย่างไรเสีย หากลูกสาวของข้าต้องลาออกไปจริงๆ หากมีคำพูดต่างๆ ลือกันออกไป ที่เสียหายก็เป็นชื่อเสียงของสถาบันการศึกษาสตรีหย่าจวินแล้ว”เมื่อกี้ข่มขู่นางจี ตอนนี้ข่มขู่สถานบันการศึกษาสตรีหย่าจวินแล้วซีงซีซียิ้มเย็นเยียบ “ตีคนแล้วยังไม่ถูกลงโทษให้ออก หากแพร่งพรายออกไปแล้วจึงจะส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของสถาบันหย่าจวินอย่างแท้จริง พวกเราเชิญฮูหยินสี่มา ก็เพราะอยากทำให้ทุกคนไม่ต้องเสียหน้า ควรขอโทษก็ขอโทษ ควรรับผิดก็รับผิด พูดคุยกันให้กระจ่างชัดทั้งสองบ้านจะได้ไม่ต้องผูกความแค้นกันเพราะเด็กสองคน แต่การออกจากสถาบันนั้นอย่างไรก็ต้องออก หากว่าเจ้าไม่ยอมล

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1183

    ฉีซี่หลี่ดึงตัวเองออกจากมือของฮูหยินฉีสี่ แล้วตะคอกใส่นางจีว่า “ข้าไม่ขอโทษ เจ้าจะทำไมข้า หากมีปัญญาเจ้าก็ตีข้าคืนสิ”นางยื่นหน้าใบเล็กของนางไปตรงหน้านางจี ในดวงตามีน้ำตาคลอ ใบหน้าแดงจัด ราวกับว่ามีความไม่พอใจที่ยากจะกล่าวออกมาได้นางจีย่อมไม่ตีนางแน่นอน แต่จู่ๆ กลับแค่นเสียงเย็น “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะไปหาอาจารย์ฉีแห่งตระกูลฉีถามว่าตระกูลฉีพวกเจ้านั้นสอนกันมายังไง”นางหันกายกลับไปถามซ่งซีซี “เจ้าสำนักซ่ง ต้องรบกวนท่านให้เป็นพยานหม่อมฉันด้วย”ซ่งซีซีกล่าวว่า “หากว่าจะไปพบอาจารย์ฉี แน่นอนว่าข้าต้องกล่าวตามจริง”ฮูหยินฉีสี่รู้ว่าไม่อาจรบกวนคุณท่านใหญ่ได้ หากเดือดร้อนไปถึงผู้อาวุโส เรือนสี่ต้องโดนด่าตายแน่ๆเมื่อคิดถึงเช่นนี้ นางก็กัดฟันกรอดแล้วพูดกับฉีซี่หลี่ว่า “ขอโทษนาง”น้ำตาสองสายไหลพรากจากดวงตาของฉีซี่หลี่ กระทืบเท้า “ท่านแม่ ข้าไม่ขอโทษ เป็นพวกนางที่แกล้งข้า แถมยังจะขับไล่ข้าออกจากสถาบัน ควรเป็นพวกนางที่ต้องขอโทษข้า”ฮูหยินฉีสี่มองไปทางนางจีและซ่งซีซีที่สีหน้าเย็นชา จึงต้องทำหน้าจริงจังแล้วพูดอย่างเข้มงวดว่า “ในเมื่อทำผิดแล้ว ขอโทษนั้นเป็นเรื่องที่ควรทำ”ฉีซี่หลี่ก็คิดว่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1184

    นางจีและลูกสาวหวังจืออวี่นั่งอยู่บนเก้าอี้หินอ่อนในส่วน ภายในสวนเต็มไปด้วยต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์ แต่ยังเติบโตได้ไม่ดีมากนัก อีกอย่างตอนนี้เป็นฤดูหนาว ทำให้ดูรกร้างเหี่ยวเฉา “เหตุใดเจ้าถึงได้พูดแทนอา...แม่ทัพฝางเล่า?” นางจีใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเบาๆ รอบๆ แผลบนใบหน้าของลูกสาว ลองกดๆ ดู ไม่มีเลือดไหลออกมา โชคดีที่บาดแผลไม่ได้ลึกมาก มิเช่นหน้าต้องเสียโฉมแล้วแต่รอยฝ่ามือนั้นชัดเจนเป็นอย่างมาก พอเห็นแล้วในใจนางจีรู้สึกบีบรัดแน่นนางเองก็แปลกใจว่าเหตุใดลูกสาวจึงได้พูดแทนเจ้าสิบเอ็ดฝาง เวลาที่ในจวนพูดคุยเรื่องราวเหล่านั้นก็จะปิดบังพวกเด็กๆ ไว้นางถามตัวเองแล้วว่านางปกปิดเรื่องฉาวโฉ่ไม่เป็นเรื่องพวกนี้ไว้อย่างดีแล้ว หรืออาจเป็นเพราะในเร็วๆ นี้คำพูดเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อพวกเขา นางอยากรู้ว่าพวกเด็กๆ เข้าใจหรือรู้เรื่องราวเหล่านี้ดีมากน้อยเพียงใดหวังจืออวี่เอยหน้าที่บวมแดง เห็นได้ชัดว่าแววตานั้นไร้มุ่งมั่น มักจะทำให้คนที่เห็นรู้สึกว่านางเป็นผู้ใหญ่เกินวัยที่แท้จริงของนาง“ท่านแม่ ยังจำได้หรือไม่ว่าตอนที่ท่านอาเขยพาท่านอากลับมานั้นได้ให้อะไรแก่ข้า?”นางจีย้อนความจำ “แม่จำได้ว่าป้าที่อยู่ข้างกา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1185

    ซ่งซีซีและนางจีกลับไปด้วยกัน นางไม่ได้ขี่ม้าของตัวเองแล้ว สั่งให้คนจูงไว้ นางนั่งอยู่ในรถม้าของนางจีซ่งซีซีมีสองเรื่องที่จะคุยกับนาง “ศิษย์พี่ห้าเลือกบางส่วนที่ไม่ค่อยดีแล้วขายออกไป ดังนั้นเงินที่ขายได้นั้นไม่ได้เปลี่ยนเป็นตั๋วเงิน ล้วนถูกเก็บไว้ที่ห้องใต้ดินของตึกว่างจิง”นางจีพูดเสียงเบา “เดิมทีก็เป็นจวนป๋อผิงซีที่ติดค้างเขา เงินพวกนั้น หากเขาอยากใช้ก็ใช้เถอะ ข้าเองก็ได้เก็บแล้วบางส่วนเช่นกัน”“เขาไม่ใช้หรอก เขาไม่ขาดเงิน” ซ่งซีซีพูดเรื่องที่สอง “สถานะของกู้ชิงหวู่นั้น ฮ่องเต้ได้ตรวจสอบแล้ว และได้รู้แล้วว่านางได้รับฮูหยินท่านหนึ่งในหลูโจวเป็นแม่บุญธรรม ส่วนเรื่องสกุลเสิ่นนั้น เมาจากสาขาหนึ่งของตระกูลเสิ่นในเมืองเจียงหนาน ทำการค้าอยู่ที่หลูโจวเช่นกัน ตอนแรกที่เจ้าตรวจพบว่านางไปมาหาสู่กับคนที่คิดก่อกบฏ คนผู้นั้นเห็นทีจะเป็นคนของตระกูลเสิ่น หากฮ่องเต้ลงมือกับเขาในตอนนี้ก็ยังดี แต่หากไม่แตะต้องเขา เช่นนั้น ก็เป็นไปได้ที่ผิงซีป๋อจะติดหล่มจมโคลน”ซ่งซีซีไม่ได้บอกเรื่องสำคัญแก่นาง เช่น จะตรวจสอบเรื่องทหารส่วนตัวในหลูโจว นี่เป็นเรื่องที่บอกไม่ได้เด็ดขาดบอกนางเท่านี้ เพื่อให้นางเตรียมต

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1480

    ฉีฮูหยินใหญ่เข้าเฝ้าในวัง ครานี้นางมาโดยได้รับคำสั่งจากเจ้ากรมฉี เพื่อแสดงจุดยืนให้ชัดเจน เมื่อฮองเฮาทรงได้ยินว่าบิดาทรงตัดสินใจจะวางตัวเป็นกลาง ก็มิอาจระงับโทสะได้ ตรัสเย็นชา “แต่ก่อนให้ข้าช่วยสนับสนุนตระกูลฉี ข้าก็มิเคยปฏิเสธ บัดนี้เมื่อข้าต้องการให้พวกท่านช่วยบ้าง กลับถอยหนีไปหมดสิ้น ข้าช่างไม่เข้าใจเลยจริงๆ หากองค์ชายใหญ่ขึ้นครองบัลลังก์ ตระกูลฉีจะไม่ได้รับผลดีเลยหรือ? หรือบิดามั่นใจว่าต่อจากนี้ตระกูลฉีจะราบรื่นไร้ปัญหา?” ฉีฮูหยินใหญ่กล่าวอย่างใจเย็น “ความหมายของบิดา คือเพียงอยากเป็นขุนนางผู้ภักดี มิอาจข้องเกี่ยวเรื่องนี้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพระประสงค์ของฮ่องเต้” “ช่างน่าขันนัก!” ฮองเฮาทรงหัวร่อเยาะ “เปรอะเปื้อนมลทินไปทั้งตัว บัดนี้ยังมีหน้ามาอ้างตนว่าเป็นขุนนางผู้ซื่อสัตย์? เหตุใดจึงไม่พูดเช่นนี้ให้เร็วกว่านี้เล่า? เช่นนั้นข้าจะได้ไม่ต้องแต่งเข้าวังมา ปล่อยให้ข้าดิ้นรนต่อสู้เพียงลำพัง” ฉีฮูหยินใหญ่กล่าว “แม้บิดาจะมีความผิดพลาดในเรื่องส่วนตัว แต่ตลอดเวลาที่อยู่ในกรมขุนนาง ก็รับใช้แผ่นดินและฮ่องเต้โดยซื่อสัตย์ ไม่เคยขายตำแหน่งขุนนางหรือรับสินบน” ฮองเฮาทรงแค่นเสียง “ทำหรือไม

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1479

    ฮองเฮาเคยได้รับความอัปยศเช่นนี้เสียเมื่อไร? แม้แต่ฮ่องเต้ทรงกริ้วพระนางอย่างที่สุด ก็เพียงแค่ทรงตำหนิเล็กน้อย หรือไม่ก็ทรงมีรับสั่งกักบริเวณพระนางเท่านั้น “เซี่ยหลูโม่เป็นตัวอะไร? เขาถึงได้กล้าถึงเพียงนี้! บังอาจมาทำอวดดีต่อหน้าข้า! ข้าเห็นว่าเขาสร้างผลงานไว้ จึงเป็นห่วงเรื่องเชื้อสายของเขา เขาคิดว่าข้าไม่มีเรื่องใดให้ทำ นอกจากยุ่งเรื่องของเขารึ? เขาไม่ชอบก็แล้วไป ยังมีคนที่ชอบอีกมาก!” ฮองเฮาทรงกริ้วจนปวดพระเศียร ไม่เคยพบผู้ใดที่ไม่รู้คุณคนเช่นนี้มาก่อน ความน้อยพระทัยของพระนางทำให้หลานเจี่ยนกูกูงุนงงนัก เดิมทีเรื่องนี้ก็แค่หาข้ออ้างเพื่อบีบให้พระชายาอ๋องต้องยอมเข้าวังมิใช่หรือ? เหตุใดถึงกลายเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเชื้อสายของจวนอ๋องจริงๆ แล้วล่ะ? หลานเจี่ยนกูกูคิดว่าฮองเฮาทรงหาข้อแก้ตัวให้พระองค์เองเพราะทรงโกรธ แต่ข้อแก้ตัวเช่นนี้ดูจะไร้ความจำเป็นไปมาก เพียงทำให้พระองค์เองขุ่นเคืองยิ่งขึ้นเท่านั้น นางจึงเอ่ยปลอบ “พระนางอย่าได้กริ้วไปเพคะ เดิมทีเรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นการหาพระชายารองให้เขาจริงๆ นี่เพคะ” ฮองเฮาทรงตวัดพระเนตรมองนางด้วยความไม่พอพระทัย ก่อนตรัสด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1478

    เซี่ยหลูโม่เห็นเขามีท่าทางอิดโรย ประกอบกับอู๋ต้าปั้นก็ได้นำฎีกากลับไปแล้ว จึงกล่าวว่า “น้องมีเรื่องหนึ่งขอให้ฝ่าบาททรงอนุญาตพ่ะย่ะค่ะ” จักรพรรดิ์ซูชิงตรัสถาม “เรื่องอันใด?” เซี่ยหลูโม่ดวงตาสงบนิ่งเย็นชา “น้องอยากไปตำหนักฉางชุนสักคราพ่ะย่ะค่ะ” จักรพรรดิ์ซูชิงทรงเข้าใจทันทีว่าเป็นเรื่องอันใด เรื่องนี้ก่อให้เกิดผลกระทบใหญ่หลวง ถึงขั้นเกือบทำให้ผู้ตรวจการสวี่ต้องสิ้นชีพ จักรพรรดิ์ซูชิงไม่ต้องการเผชิญหน้า จึงรับสั่งให้เขาไปตามต้องการ เซี่ยหลูโม่ถวายบังคมลา มุ่งหน้าสู่ตำหนักฉางชุนทันที ฮองเฮาทรงทราบถึงเจตนาของเขา จึงให้คนไปเชิญเข้ามา นางเห็นว่าซ่งซีซีปฏิเสธการแต่งตั้งพระชายารองให้เซี่ยหลูโม่ เป็นเพราะซ่งซีซีขี้หึงและเห็นแก่ตัว ทว่าชายใดเล่าจะคิดเช่นนั้น แม้จะกล่าวคำโตเพียงใด ก็ไม่อาจกลบซ่อนสันดานดิบของบุรุษได้ แม้ฮ่องเต้จะทรงอุทิศพระองค์เพื่อราชกิจ ไม่เสด็จเยือนฝ่ายในบ่อยนัก แต่ก็ยังมีสนมมากมายถึงสามวังหกตำหนัก เมื่อเจอคนถูกพระทัย ก็ยังทรงพลิกป้ายให้เข้าพบเดือนละสามสี่ครั้ง ฉีฮองเฮาทรงเห็นว่าไม่มีแมวตัวใดไม่ชอบกินปลา รวมถึงเซี่ยหลูโม่เองก็เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น นางยัง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1477

    เซี่ยหลูโม่เอ่ยขึ้น "แล้วเสด็จพี่มีแผนการอย่างไร?" จักรพรรดิ์ซูชิงตรัสตอบ "เดิมที หากข้ามีชีวิตอยู่ได้เพียงสามเดือน ข้าจะตั้งองค์ชายใหญ่เป็นรัชทายาท และให้เจ้าเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน พร้อมตั้งขุนนางที่ไว้ใจได้อีกสองสามคนเป็นผู้ช่วยว่าราชการ ส่วนองค์ชายรอง จะถูกส่งไปประจำอยู่ที่หนานเจียง และปลดฮองเฮาออกจากตำแหน่ง เช่นนี้จะช่วยลดอำนาจของตระกูลฉีลงได้" เซี่ยหลูโม่เอ่ยเสียงเรียบ “เกรงว่าน้องจะไม่อาจรับตำแหน่งสำคัญนี้" เขาเข้าใจดีว่า หากเขาเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ย่อมต้องแลกเปลี่ยนบางสิ่งกับจักรพรรดิ์ซูชิง และสิ่งที่เขาคิดถึงเป็นอย่างแรกก็คือ คำสั่งห้ามให้เขามีทายาท เช่นนั้น แม้เขาจะขึ้นครองบัลลังก์ สุดท้ายก็ต้องคืนตำแหน่งจักรพรรดิ์ให้กับราชวงศ์ จักรพรรดิ์ซูชิงมองลึกเข้าไปในแววตาของเขาแล้วถอนพระปัสสาสะเบาๆ "เรื่องมากมายก็มิอาจปิดบังไปจากเจ้าได้ ข้าเคยคิดจะให้เจ้าสาบานว่า เจ้าจะไม่มีบุตร ไม่มีทายาท ข้าเห็นแก่ตัว แต่ข้าทำได้เพียงเท่านี้" เซี่ยหลูโม่เข้าใจความหมายของจักรพรรดิ์ซูชิง แต่เขาไม่อาจยอมรับได้ การมีหรือไม่มีบุตร ไม่ใช่เรื่องที่เขาตัดสินใจเพียงลำพัง ซีซีมีสิทธิ์ที่จะ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1476

    จักรพรรดิ์ซูชิงทรงนิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนสีพระพักตร์จะค่อยๆ เคร่งขรึมขึ้น "หมอมหัศจรรย์ดันบอกว่า ข้ายังมีชีวิตอยู่ได้อีกสามปี แต่ก่อนหน้านี้ หมอหลวงเคยบอกว่า ข้าน่าจะอยู่ได้หนึ่งปี ทว่าผ่านไปไม่นาน กลับเหลือเพียงแค่หกเดือน ข้าคิดว่า คำของหมอทั้งหลาย เมื่อมาถึงตัวข้า ก็ควรจะต้องลดลงครึ่งหนึ่งเสมอ เช่นนั้น หนึ่งปีครึ่งที่เหลือ อาจจะไม่ได้มีจริงด้วยซ้ำ" "เสด็จพี่ อย่าทรงคิดในแง่ร้าย..." จักรพรรดิ์ซูชิงยกพระหัตถ์ขึ้นปราม "เจ้าฟังข้าก่อน บัดนี้ ข้ามีสติแจ่มชัด มิได้เลอะเลือน เรื่องแต่งตั้งรัชทายาท ต้องรีบจัดการ แต่ปัญหาคือ ข้าไม่กล้าตั้งใคร ยังเหลือเวลาอีกหลายปีกว่าพระจักรพรรดิ์องค์ใหม่จะเติบโตขึ้นปกครองแผ่นดิน มหาเสนาบดีแก่ชราลงแล้ว ข้าไม่รู้ว่าจะฝากบ้านเมืองไว้ในมือใครได้ นอกจากเจ้า" เซี่ยหลูโม่มิได้เอ่ยสิ่งใด เพราะเขารู้ดีว่า ความไว้วางใจและความระแวงของเสด็จพี่ล้วนเกิดขึ้นโดยไร้หลักการ มันมักมาเป็นระยะๆ "ข้า มีพระโอรสสามองค์ เดิมทีมีองค์ชายใหญ่เป็นรัชทายาทโดยธรรมชาติ ตำแหน่งรัชทายาทจึงไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่องค์ชายใหญ่ เขาธรรมดาเกินไป ธรรมดาก็ไม่เป็นไรนัก แต่เขา ขี้เกียจ หยิ่งยะโส

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1475

    ขณะที่ทุกคนกำลังตื่นเต้นกลับต้องพบว่า ดูหรือไม่ดู ก็ไม่ต่างกันเลย เพียงเห็นว่าหมอมหัศจรรย์ดันคีบเข็มไว้ในซอกนิ้วทั้งห้า แล้วในพริบตาเดียว เข็มสี่เล่ม ก็ปักลงจุดได้อย่างแม่นยำ พวกเขาแทบมองเห็นเพียงแค่ภาพลวงตาของมือหนึ่งข้างเท่านั้น แต่ผลลัพธ์กลับแม่นยำและมั่นคง ราวกับว่าทุกอย่างจบลงในพริบตาเดียว ทั้งสี่จุด แม้จะอยู่ไม่ไกลกันนัก แต่การจะหา จุดฝังเข็ม ให้ถูกต้อง และปักเข็มลงไปอย่างแม่นยำโดยไม่ลังเลนั้น ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญ ก็ต้องใช้เวลาไม่น้อย แต่หมอมหัศจรรย์ดันกลับทำได้ในพริบตาเดียว หลังจากฝังเข็มแล้ว เขาจึงให้จักรพรรดิ์ซูชิงเสวยซูซื่อตันเพื่อบรรเทาอาการปวด ผลของยาระงับปวดชัดเจนมาก สีพระพักตร์ของจักรพรรดิ์ซูชิงดีขึ้นทันตา ไม่ซีดเผือดเหมือนก่อนหน้านี้ หมอมหัศจรรย์ดันถอนเข็มออก ก่อนจะเขียนตำรับยา จากนั้นจึงหยิบยาดันเสวี่ยออกมาจากหีบยา แล้วกล่าวว่า "ทุกคนต่างคิดว่ายาดันเสวี่ย ใช้เพียงเพื่อบำรุงชีพจร แต่แท้จริงแล้ว มันช่วยฟื้นฟูร่างกายและบำรุงอวัยวะทั้งห้า ได้ด้วย ต่อไป ฮ่องเต้ต้องใช้ยาที่แรงขึ้น ยานี้จึงจำเป็นต้องช่วยคุ้มครอง ตับและไต โดยปกติ ควรเสวยทุกเจ็ดวันหนึ่งเม็ด แต่บัดน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1474

    จักรพรรดิ์ซูชิง ทรงเงียบอยู่ชั่วขณะ ก่อนมีพระบัญชาให้จัดเตรียมห้องพักในตำหนักข้างเคียงของตำหนักเฉียนหยาง พร้อมทั้งส่งแพทย์จากสำนักหมอหลวงมาคอยดูแลหมอมหัศจรรย์ดัน พร้อมกันนั้น ทรงมีพระบัญชาให้จางฉีเหวินและฉีกุ้ยเป็นองครักษ์ส่วนตัวของหมอมหัศจรรย์ดัน คอยติดตามดูแลเขาตลอดเวลา พระองค์ทรงทราบดีว่าจางฉีเหวินเป็นศิษย์ของเสิ่นว่านจือ การให้เขาคุ้มครองหมอมหัศจรรย์ดัน ก็เพื่อให้หมอมหัศจรรย์ดันรู้สึกวางใจ แต่เพื่อให้พระองค์เองก็วางใจได้เช่นกัน จึงทรงส่งฉีกุ้ยไปด้วยอีกคน ยิ่งไปกว่านั้น พระองค์ยังมีพระบัญชาให้สำนักหมอหลวงปฏิบัติตามคำสั่งของหมอมหัศจรรย์ดันเป็นอันดับแรก อำนาจนี้ยิ่งใหญ่ไม่น้อย แต่แท้จริงแล้ว พระองค์หวังให้สำนักหมอหลวงเป็นฝ่ายจัดหายา หมอมหัศจรรย์ดันมิได้ใส่ใจเรื่องนี้ ขอเพียงมีคนทำตามคำสั่งก็เพียงพอแล้ว แต่จากการที่จักรพรรดิ์ซูชิงทรงส่งจางฉีเหวินและฉีกุ้ยไป อาจมองออกได้ว่า พระองค์มิได้ไว้วางพระทัยผู้คนจากฝ่ายใน บัดนี้ พระองค์และหมอมหัศจรรย์ดัน มีชะตาเดียวกัน หากหมอมหัศจรรย์ดันตาย พระองค์ก็ตาย หากหมอมหัศจรรย์ดันมีชีวิตอยู่ พระองค์ก็อาจอยู่ได้อีกอย่างน้อยสามปี สามปีไม่ยาว

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1473

    ณ ตำหนักเฉียนหยาง อู๋ย่วนเจิ้งและหมอหลวงหลินยืนอยู่ด้านข้างเซี่ยหลูโม่กับอู๋ต้าปั้นก็อยู่ข้างเตียง ต่างเฝ้ารอให้หมอมหัศจรรย์ดันตรวจชีพจร หลังจากตรวจชีพจรแล้วหมอมหัศจรรย์ดันถามถึงบันทึกชีพจรในอดีตและสูตรยาที่ใช้รักษาก่อนหน้านี้ หมอหลวงหลิน นำบันทึกมาให้เขา พลางกล่าวด้วยท่าทีเคารพ “หมอดัน โปรดตรวจดูเถิด” ในวังหลวงแห่งนี้ ไม่มีผู้ใดกล้าเรียกเขาว่าหมอมหัศจรรย์อีกแล้ว เพราะสำนักหมอหลวงก็เคยผ่านการกวาดล้างครั้งใหญ่เช่นกัน หมอมหัศจรรย์ดันรับบันทึกมา เปิดดูทีละหน้า ภายในตำหนักเงียบสนิท มีเพียงเสียงกระดาษที่เขาพลิกเท่านั้นที่ดังขึ้น ทุกคนกลั้นหายใจ นี่คือความหวังสุดท้าย หากหมอมหัศจรรย์ดันบอกว่าพระอาการมีเวลาเพียงสามเดือน เช่นนั้นก็เหลือเวลาเพียงสามเดือนจริงๆ จักรพรรดิ์ซูชิงดูเหมือนสงบนิ่ง แต่ดวงตาหดเล็กลง ฝ่าพระหัตถ์ชื้นไปด้วยเหงื่อ พระองค์กำลังรอคอยคำพิพากษาครั้งสุดท้าย หมอมหัศจรรย์ดัน ไม่พลาดแม้แต่คำเดียว อ่านจนครบทุกหน้า จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นเอ่ยถาม “บันทึกชีพจรระบุว่ามีอาการปวดต่อเนื่องกว่าหนึ่งเดือน กลางคืนมิอาจข่มพระเนตร และแทบไม่อาจเสวยได้เลย” นี่เป็นเพียงการกล่าวยืนย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1472

    ซ่งซีซีกล่าว “หากหมอมหัศจรรย์ดันยอมเข้าวังมา ก็ย่อมจะทำเต็มกำลังแน่นอนเพคะ” ไทเฮาทรงนิ่งไปชั่วขณะ จากนั้นน้ำพระเนตรก็ร่วงเงียบๆ “แม้จะทำสุดความสามารถ แต่ก็ยากจะรักษาชีวิตไว้ได้ ขอเพียงสามารถยืดเวลาออกไปอีกหน่อย ให้จัดการเรื่องรากฐานแผ่นดินให้เรียบร้อย” เห็นพระนางหลั่งน้ำตาซ่งซีซีก็พลอยรู้สึกหดหู่ไปด้วย ก่อนหน้านี้เคยได้ยินเสด็จแม่กล่าวว่า ไทเฮาเป็นสตรีที่มีจิตใจเข้มแข็งนัก หยาดน้ำตาของพระองค์มีค่ามาก ต่อให้เป็นเรื่องใหญ่เพียงใด ก็ไม่เคยยอมหลั่งน้ำตาแม้แต่หยดเดียว นางไม่รู้ว่าควรปลอบพระทัยอย่างไร และก็นึกได้ว่า สิ่งที่ไทเฮาต้องการตอนนี้ คงไม่ใช่คำปลอบโยน นางจึงทำได้เพียงเฝ้าอยู่เคียงข้างอย่างเงียบๆ เซี่ยหลูโม่เดินทางไปยังร้านขายยาเย่าหวัง และได้พบกับหมอมหัศจรรย์ดัน วันนี้หลังจากมีพระบัญชาเรียกเข้าวัง อาจารย์หยูก็มาที่ร้านขายยาเย่าหวังเพื่อแจ้งข่าว ดังนั้นหมอมหัศจรรย์ดันจึงเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าแล้ว ครั้งนี้ เขาไม่ได้พาศิษย์ไปด้วย แต่เดินทางกับเซี่ยหลูโม่เพียงลำพัง ชิงเชวี่ยและหงเชวี่ยอยากตามไปด้วย แต่ถูกเขาดุไล่ให้กลับไป บนรถม้าเซี่ยหลูโม่รับปากกับเขาว่าจะปกป้องท่านให้ปลอด

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status