“คุณคะ! รับออร์เดอร์โต๊ะนี้ด้วยค่ะ”
เขาคนนั้นหันมายิ้มพร้อมกับก้มศีรษะให้กับกลุ่มของเธอ โดยแม่นุจรีตัวดีนั้นถึงกับกัดฟันกรี๊ดเพราะเป็นฝีมือของเธอเอง ก่อนทั้ง 4 สาวจะพยักหน้าให้กันและกันดูทิวลิปที่ยังคงจ้องมองเขาด้วยสายตาหวานเชื่อมอยู่อย่างนั้น
“สวัสดีครับ จะรับอะไรเพิ่มดีครับ”
‘ศิลากานต์’ ก้มศีรษะเล็กน้อยพร้อมกับอมยิ้ม เพราะ 5 สาวโต๊ะนี้เรียกเขามาแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำนอกจากยิ้ม ยิ้มและก็ยิ้มเท่านั้น โดยเฉพาะ ‘เธอ’ ที่นั่งจ้องมองเขาอยู่นานแล้ว ตั้งแต่เขาเดินเข้ามาในร้านจนถึงเวลานี้ ผู้หญิงหน้าตาสวยหวานแต่กลับแต่งแต้มใบหน้ามากมายเสียจนเขาคิดว่า หากวาดอายไลเนอร์แบบเส้นบางๆ ที่ขอบตาและปัดมาสคาร่าเพิ่มอีกนิด ใบหน้าสวยมากอยู่แล้วก็คงจะสวยมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่สวยแบบเฉี่ยวๆ ทำให้ผู้ชายอย่างเขารู้สึกกลัวกับสายตาคมกริบจ้องเขมิบของเธอแบบนี้
“ครับ... จะรับอะไรเพิ่มหรือเปล่าครับ กาแฟ โกโก้ หรือว่าอาหารดี”
“เอ่อ... ค่ะ อืม... ฉันเอา...”
ทั้ง 4 สาวแข่งกันสั่งอาหารจนเขาจดแทบไม่ทัน จนต้องทวนรายการซ้ำๆ พร้อมกับพูดโต้ตอบกับทั้ง 4 สาวไปมา แต่ก็ไม่วายจะก้มศีรษะให้เธอที่ยังคงจ้องเขาไม่วางตาอีกครั้ง ก่อนจะขอตัวนำออร์เดอร์เข้าไปในครัวด้านหลังเมื่อเห็นว่าไม่มีใครจะสั่งอะไรเพิ่มแล้ว แต่เธอล่ะ... ยังไม่ได้สั่งอะไรเลยนี่นา หรือจะเป็น ‘เมนูโปรด’ ของเธอ
“แล้วแกล่ะจะเอาอะไร” นุจรีหันไปถามทิวลิป เพราะอาการของเพื่อนเลิฟดูท่าจะเป็นเอามาก แต่ทิวลิปทำเหมือนไม่ได้ยินในสิ่งที่เธอพูด นุจรีจึงเปลี่ยนเป็นยิ้มแหยและหันไปแนะนำให้ศิลากานต์รู้จัก “เพื่อนค่ะชื่อทิวลิป ยังโสดและก็สดมาก... ทิวลิปน่ะเขาเป็นน้องรหัสของพี่ทิพย์นะคะ ซี้ปึ้กเลยล่ะ จริงมั้ยแก ว่าแต่แกจะสั่งอะไรล่ะ คุณเขาจะได้จดไปพร้อมกันเลย ทิวลิป...” ถามอีกครั้งแต่ทิวลิปก็ยังมองบริกรสุดหล่อตาแป๋ว
“คุณทิวลิปจะทานอะไรครับ ข้าวผัดปลาอินทรีดีมั้ย”
“อ๊าย... รู้ได้ไงคะ ว่าทิวลิปเขาชอบข้าวผัดปลาอินทรี น่ารักอ่ะ...”
เขาไม่ตอบแต่ยิ้มรับพร้อมกับจดออร์เดอร์ลงไปเพิ่ม เสียงโต้ตอบทุ้มๆ กับเสียงหัวเราะสดใสของเขา ยิ่งทำให้ทิวลิปไม่อาจละสายตาจากเขาไปได้ ทำได้ก็แค่มองอยู่อย่างนั้นจนเขาเดินลับหายเข้าไปด้านหลังร้าน หัวสมองอื้ออึงของเธอไม่รับรู้แม้เพื่อนๆ จะเอ่ยจะแซวอะไรอีก เพราะตอนนี้เสียงที่ได้ยินก็ยังคงเป็นเสียงทุ้มๆ ของเขาก้องกังวานไปมาอยู่ในหัว ทว่าเสียงหนึ่งแทรกเข้ามากลับทำให้โสตประสาทของเธอเต้นโผงตื่นตัวเต็มที่ ราวกับพบเจอเรื่องพิสดารจนเกินจะทนอยู่ตรงหน้า
“เสียดายคุณหินนะแก หล่อลากดินอย่างเนี่ย ไม่น่าเป็นเกย์เลยอ่ะ ฉันน่ะเสียด๊ายเสียดาย... เสียดายของอ่ะแก”
“ใช่ ฉันก็เสียดาย ไม่น่าเลย ทำไมนะสมัยนี้ผู้ชายถึงได้ชอบกินกันเอง ยิ่งน้อยๆ อยู่ด้วย”
ทิวลิปลุกพรวดขึ้นทันที โลกทั้งโลกเหมือนจะถล่มลงมาตรงหน้าทำให้เธอเอ๋อเสียจนทนนั่งอยู่ไม่ไหว ร่างสูงโปร่งแบบบางพาตัวเองออกไปในทันที โดยไม่ฟังแม้แต่เสียงเพื่อนสาวทั้ง 4 พากันเรียกให้หยุด ยุรนาในฐานะเจ้ามือรีบเรียกพนักงานมาเช็คบิลก่อนจะรีบตามให้ทันเพื่อนๆ จ้ำอ้าวตามทิวลิปออกไปก่อนแล้ว
.
.
“อ้าว! ปุ้ม ทำไมเหรอ”
ศิลากานต์ร้องทักเมื่อเห็นเด็กปุ้มถือถาดอาหารกลับเข้ามา มือกำลังจัดผักใส่จานข้าวผัดปลาอินทรีที่เขาตั้งใจทำสุดฝีมือนั้นชะงัก เมื่อเห็นว่าอาหารเหล่านั้นถูกส่งคืนมาจากโต๊ะไหน
“ลูกค้ากลับแล้วค่ะ เห็นว่ารีบ เช็คบิลไว้เรียบร้อยเลยนะคะ ของก็เลยเหลือ เสียดายนะคะ”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย เสียดายเราก็ทานเองสิ ลูกค้าคงรีบจริงๆ นั่นแหละ” เสียงทุ้มเอ่ยตอบขณะมือยังคงหยิบจับผักจัดเรียงใส่จาน
“ก็ปุ้มเสียดายนี่คะ คุณหินอุตส่าห์ลงทุนทำเองกับมือ คุณพวกนี้จะต้องเสียใจแน่ค่ะที่ไม่ได้ชิมฝีมือเชฟมือทอง”
“พูดเกินไปน่ะเรา เอาอาหารไปเก็บก่อนเถอะ”
“ค่ะ ว่าแต่คุณหินจะทำต่อทำไมคะ ลูกค้าก็กลับไปแล้ว”
“ก็ทำไว้ให้พวกเราทานกันเองไง ไปเหอะ เอาของไปเก็บได้แล้ว มัวแต่เม้าท์อยู่ เดี๋ยวพี่ทิพย์ดุเอานะ”
“ลืมไปเลยค่ะ คุณหินช่วยรับที ลูกค้าลืมไว้ที่โต๊ะน่ะค่ะ น่าจะเป็นของคุณทิวลิปเพราะปุ้มเห็นเธอหิ้วเข้ามา ปุ้มไม่กล้าเปิดดูไม่รู้ว่าข้างในมีอะไร”
“ขอบใจนะ ไปเถอะ เดี๋ยวพี่ดูเอง”
ศิลากานต์รับถุงผ้าขนาดใหญ่จากปุ้มก่อนจะนำมาวางไว้บนเคาน์เตอร์ด้านหน้าทำทีไม่สนใจ ทั้งที่อยากรู้อยู่เหมือนกันว่าอะไรที่เธอลืมไว้ และอะไรทำให้เธอรีบรุดกลับไปโดยที่ยังไม่ทันได้ชิมฝีมือของเขา ดวงตาคมหวานสวยเกินผู้หญิงมองข้าวผัดสีสวยที่เขาตั้งใจทำเพื่อเธอโดยเฉพาะอย่างเสียดาย
เมล็ดข้าวเรียงตัวสวยถูกเคลือบไว้ด้วยน้ำมันพืชเพียงนิด คลุกเคล้ากับปลาอินทรีเค็มยีไว้พอละเอียดพร้อมประดับไว้ด้วยพริกขี้หนูเม็ดแดงซอยหยาบ สลับกับก้านคะน้าสีเขียวตัดกัน อาหารที่เขาทำด้วยใจแค่อยากรู้ว่าเธอจะรับไว้ด้วยใจได้ไหมเท่านั้น
ทิพยุพาเดินเข้ามาในครัว เมื่อออกมาทันเห็นว่า 5 สาวรุ่นน้องพากันพรวดพราดออกไปจากร้าน โดยไม่รอเมนูใหม่ที่เพิ่งสั่งมากับศิลากานต์หมาดๆ ด้วยซ้ำ “ว่าไงอ่ะหิน ลูกค้าพี่ทนความหล่อของหินไม่ไหวถึงกับเช็คบิลหนีกันเลยเหรอ” ทิพยุพาเย้าถามน้องชาย ก่อนจะก้มมองของที่ ศิลากานต์ถืออยู่ในมือ “โธ่! แรงนะครับพี่ แต่สงสัยจะจริงอย่างที่พี่ทิพย์ว่านั่นแหละ พวกเธอหนีกันไปหมดเลยครับ” “สรุปแล้ว... ถูกใจคนที่พี่แนะนำมั้ย” “อืม... ก็โอนะครับ แต่เธอชิ่งหนีไปเสียก่อนสิ ทิ้งแต่นี่ไว้ดูต่างหน้า อะ! พี่ทิพย์ดูไม่ได้นะ” ทิพยุพาทำท่าจะคว้าถุงผ้าใบโตที่เขายกขึ้น แต่ศิลากานต์ไวกว่าจึงเบี่ยงตัวหลบไม่ให้พี่สาวจับได้ “อ้าว! ขอดูหน่อยไม่ได้เหรอหิน อะไรอยู่ในนั้นอ่ะ” “เป็นสิ่งที่พี่ทิพย์ยังไม่สมควรใช้ครับ เพราะ... เอ่อ... ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องใช้” หัวคิ้วขมวดเข้าหากันของพี่สาวทำให้เขาต้องอธิบาย แต่ก็ได้เพียงแค่นั้นเพราะให้พูดมากกว่านี้ก็คงจะไม่เหมาะสมสักเท่าไร แม้ว่าทิพยุพาจะเป็นพี่สาวที่เขาสนิทสนมมากก็ตาม เพราะเป็นลูกคนสุดท้องกับรองส
สวนสาธารณะขนาดย่อมใจกลางกรุง กลับกลายเป็นปอดธรรมชาติทำหน้าที่ฟอกควันพิษของคนกรุงไปโดยปริยาย ด้วยทิวไม้ใหญ่หลากหลายต้นขึ้นเป็นแนวตลอดสองฝั่งข้างทาง ช่วยทำหน้าที่ฟอกอากาศให้สดชื่นและให้ร่มเงาแก่ผู้สัญจรไปมา รวมทั้งยังเป็นแหล่งรวมของร้านอาหารขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ไปด้วย ร้านอาหารหลากแนวต่างมีธีมตกแต่งตามสไตล์แตกต่างกันไป บ้างดูวินเทจและบ้างก็ดูอินดี้ เหมาะกับมนุษย์เงินเดือนทั้งหญิงชายที่มีออฟฟิศอยู่ใกล้กับสวนสาธารณะแห่งนี้ และร้านที่ดูจะเข้ากับบรรยากาศร่มรื่นของพันธุ์ไม้สีเขียวมากสุดก็คงไม่พ้นเป็นร้านที่ตกแต่งด้วยธีมสีชมพูนมสดตัดกับสีน้ำตาลช็อกโกแลต จึงไม่แปลกหากในยามเที่ยงวันอย่างนี้ ภายในร้านจึงมีลูกค้าอยู่หนาแน่น แต่ทุกอย่างต้องดีกว่านี้แน่ ถ้าจะไม่มีเสียงแปดหลอดของใครคนหนึ่งดังขึ้นมาซะก่อน “ทิวลิป! แกคิดดู วันๆ มันก็เอาแต่กินเหล้าเที่ยวผู้หญิง มันไม่เคยเห็นใจฉันเลย! ฉันน่ะต้องเลี้ยงลูก ต้องทำงานทั้งนอกบ้านทั้งในบ้าน ไหนจะเรื่องบนเตียง ใต้เตียง หรือว่าขอบเตียงมันก็ให้ฉันทำหมดทุกอย่าง แล้วแกดูมัน! มันก็ยังไปเอานังนั่น มันไม่เคยเห็นคุณค่าของฉั
ทิวลิปจึงต้องปรับอารมณ์เป็นยิ้มหวานรับกล้องอย่างช่วยไม่ได้ที่เกิดมา ‘สวย เก๋ ดูดี’ แต่ว่าจะจริงเหรอ? หัวคิ้วเรียวสวยขมวดขึ้นครุ่นคิดเพราะคานทองนิเวศดูเหมือนกำลังเปิดประตูรอรับเธออยู่แล้ว ก็นี่น่ะ 30 ฝนแล้วนี่นา... รถไฟขบวนไหนๆ ก็ไม่ผ่านมาให้เห็น แม้แต่เสียงหวูดเธอก็ยังไม่ได้ยิน “ว่าไง... จะแนะนำเป็นครั้งสุดท้าย ต่อไปนี้ไม่ต้องมาถามอีก พวกแกทั้งสี่คนนั่นแหละ ที่ต้องปรึกษากันเอาเอง เคยๆ กันแล้วทั้งนั้นนี่ ถามอยู่ได้คนไม่เคย” ทิวลิปบ่นงุบ ดวงตาคมจัดจากการแต่งแต้มเครื่องสำอางกวาดมองใบหน้าเพื่อนรักแต่คนละอย่างเอาเรื่อง ซึ่งทุกคนก็ยิ้มแหยราวกับสำนึกผิด แต่เธอรู้ว่านั่นน่ะภาพลวงตาชัดๆ เพราะแค่จิกกัดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ นังพวกนี้ไม่สลดหรอก “โธ่... ทิวลิป พวกฉันขอโทษ ก็เห็นทุกครั้งถามไปแกก็ตอบได้ ฉันก็เลยคิดว่าแกเป็นกูรูผู้รู้จริง ก็ดันตอบได้ทุกครั้งหนิ” ลดาพูดให้สถานการณ์คลายลง เพราะเมื่อสักครู่นั้นเธอยังไม่ได้ทันได้อ้าปาก ทิวลิปก็ปรี๊ดแตกขึ้นมาเสียก่อน “ก็ใครล่ะที่ทำให้ฉันต้องตอบน่ะ สารพัดปัญหาช่างไม่ซ้ำกันเลยจริงจริ๊ง...”หนังสือปกขาวหลายเล่มถูกหยิบออกม
“ฮะ! ว่าไงนะ” เมื่อตื่นจากภวังค์ก็หันมาสนใจเพื่อนตามเดิม และคำถามต่อมาของลดาก็ทำให้ทิวลิปยิ้มๆ เย้ยๆ ให้ตัวเอง“ฉันถามว่าแกไม่คิดจะมีผอสระอัวจริงๆ น่ะเหรอ”“ไม่อ่ะ สงสัยเนื้อคู่ฉันยังไม่เกิดมั้งแก”“เสียดายความสวยของแกว่ะ แกจะปล่อยให้มันร่วงโรยเหี่ยวแห้งไปจริงๆ เหรอ นี่ก็สามสิบฝนแล้วนะแก ลองเปิดใจคบใครดูบ้างมั้ย เผื่อบางทีชีวิตมันจะได้ชุ่มชื่นกว่านี้”“อื้อ! จะกี่ฝนกี่หนาวฉันก็ไม่ว่ะ ฉันถือคติ ‘จะอยู่ให้ผู้ชายมันเสียดายเล่น’ เป็นไงแก วลีฉันเด็ดมั้ย”“ดะ... เด็ดมากอ่ะแก โอว... ว้าว... หล่ออ่ะ ว้าว...”อัมราอ้าปากค้างแต่สายตาส่งตรงไปด้านหลังซึ่งเป็นทางเข้าของร้าน รวมทั้งเพื่อนสาวคนอื่นๆ ก็มีอาการอึ้งๆ ไม่แพ้กัน ทำให้ทิวลิปต้องหันมองตาม“อะไรของแกวะนังอัม พวกแกด้วย ผัวมีเมียน้อยจนเพี้ยนแล้วมั้งเนี่ย”และความอึ้งทึ่งเสียวก็มาเยือนเธอเข้าจนได้ เพราะชายหนุ่มที่เดินเข้ามาใหม่นั้นสะกดทุกสายตาของคนในร้านได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะหากคนมองนั้นเป็นผู้หญิงก็คงจะอยู่ในอาการไม่ต่างจากที่เธอกำลังเป็นอยู่นี้มนุษย์ผู้ชายสูงกว่า 180 เซนติเมตร ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตากับกางเกงยีนส์สีซีดๆ ชุดธรรมดากลับดูไม
ทิพยุพาเดินเข้ามาในครัว เมื่อออกมาทันเห็นว่า 5 สาวรุ่นน้องพากันพรวดพราดออกไปจากร้าน โดยไม่รอเมนูใหม่ที่เพิ่งสั่งมากับศิลากานต์หมาดๆ ด้วยซ้ำ “ว่าไงอ่ะหิน ลูกค้าพี่ทนความหล่อของหินไม่ไหวถึงกับเช็คบิลหนีกันเลยเหรอ” ทิพยุพาเย้าถามน้องชาย ก่อนจะก้มมองของที่ ศิลากานต์ถืออยู่ในมือ “โธ่! แรงนะครับพี่ แต่สงสัยจะจริงอย่างที่พี่ทิพย์ว่านั่นแหละ พวกเธอหนีกันไปหมดเลยครับ” “สรุปแล้ว... ถูกใจคนที่พี่แนะนำมั้ย” “อืม... ก็โอนะครับ แต่เธอชิ่งหนีไปเสียก่อนสิ ทิ้งแต่นี่ไว้ดูต่างหน้า อะ! พี่ทิพย์ดูไม่ได้นะ” ทิพยุพาทำท่าจะคว้าถุงผ้าใบโตที่เขายกขึ้น แต่ศิลากานต์ไวกว่าจึงเบี่ยงตัวหลบไม่ให้พี่สาวจับได้ “อ้าว! ขอดูหน่อยไม่ได้เหรอหิน อะไรอยู่ในนั้นอ่ะ” “เป็นสิ่งที่พี่ทิพย์ยังไม่สมควรใช้ครับ เพราะ... เอ่อ... ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องใช้” หัวคิ้วขมวดเข้าหากันของพี่สาวทำให้เขาต้องอธิบาย แต่ก็ได้เพียงแค่นั้นเพราะให้พูดมากกว่านี้ก็คงจะไม่เหมาะสมสักเท่าไร แม้ว่าทิพยุพาจะเป็นพี่สาวที่เขาสนิทสนมมากก็ตาม เพราะเป็นลูกคนสุดท้องกับรองส
“คุณคะ! รับออร์เดอร์โต๊ะนี้ด้วยค่ะ” เขาคนนั้นหันมายิ้มพร้อมกับก้มศีรษะให้กับกลุ่มของเธอ โดยแม่นุจรีตัวดีนั้นถึงกับกัดฟันกรี๊ดเพราะเป็นฝีมือของเธอเอง ก่อนทั้ง 4 สาวจะพยักหน้าให้กันและกันดูทิวลิปที่ยังคงจ้องมองเขาด้วยสายตาหวานเชื่อมอยู่อย่างนั้น “สวัสดีครับ จะรับอะไรเพิ่มดีครับ” ‘ศิลากานต์’ ก้มศีรษะเล็กน้อยพร้อมกับอมยิ้ม เพราะ 5 สาวโต๊ะนี้เรียกเขามาแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำนอกจากยิ้ม ยิ้มและก็ยิ้มเท่านั้น โดยเฉพาะ ‘เธอ’ ที่นั่งจ้องมองเขาอยู่นานแล้ว ตั้งแต่เขาเดินเข้ามาในร้านจนถึงเวลานี้ ผู้หญิงหน้าตาสวยหวานแต่กลับแต่งแต้มใบหน้ามากมายเสียจนเขาคิดว่า หากวาดอายไลเนอร์แบบเส้นบางๆ ที่ขอบตาและปัดมาสคาร่าเพิ่มอีกนิด ใบหน้าสวยมากอยู่แล้วก็คงจะสวยมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่สวยแบบเฉี่ยวๆ ทำให้ผู้ชายอย่างเขารู้สึกกลัวกับสายตาคมกริบจ้องเขมิบของเธอแบบนี้ “ครับ... จะรับอะไรเพิ่มหรือเปล่าครับ กาแฟ โกโก้ หรือว่าอาหารดี” “เอ่อ... ค่ะ อืม... ฉันเอา...” ทั้ง 4 สาวแข่งกันสั่งอาหารจนเขาจดแทบไม่ทัน จนต้องทวนรายการซ้ำๆ พร้อมกับพูดโต้ตอบกับทั้ง 4 สาวไปมา แต่
“ฮะ! ว่าไงนะ” เมื่อตื่นจากภวังค์ก็หันมาสนใจเพื่อนตามเดิม และคำถามต่อมาของลดาก็ทำให้ทิวลิปยิ้มๆ เย้ยๆ ให้ตัวเอง“ฉันถามว่าแกไม่คิดจะมีผอสระอัวจริงๆ น่ะเหรอ”“ไม่อ่ะ สงสัยเนื้อคู่ฉันยังไม่เกิดมั้งแก”“เสียดายความสวยของแกว่ะ แกจะปล่อยให้มันร่วงโรยเหี่ยวแห้งไปจริงๆ เหรอ นี่ก็สามสิบฝนแล้วนะแก ลองเปิดใจคบใครดูบ้างมั้ย เผื่อบางทีชีวิตมันจะได้ชุ่มชื่นกว่านี้”“อื้อ! จะกี่ฝนกี่หนาวฉันก็ไม่ว่ะ ฉันถือคติ ‘จะอยู่ให้ผู้ชายมันเสียดายเล่น’ เป็นไงแก วลีฉันเด็ดมั้ย”“ดะ... เด็ดมากอ่ะแก โอว... ว้าว... หล่ออ่ะ ว้าว...”อัมราอ้าปากค้างแต่สายตาส่งตรงไปด้านหลังซึ่งเป็นทางเข้าของร้าน รวมทั้งเพื่อนสาวคนอื่นๆ ก็มีอาการอึ้งๆ ไม่แพ้กัน ทำให้ทิวลิปต้องหันมองตาม“อะไรของแกวะนังอัม พวกแกด้วย ผัวมีเมียน้อยจนเพี้ยนแล้วมั้งเนี่ย”และความอึ้งทึ่งเสียวก็มาเยือนเธอเข้าจนได้ เพราะชายหนุ่มที่เดินเข้ามาใหม่นั้นสะกดทุกสายตาของคนในร้านได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะหากคนมองนั้นเป็นผู้หญิงก็คงจะอยู่ในอาการไม่ต่างจากที่เธอกำลังเป็นอยู่นี้มนุษย์ผู้ชายสูงกว่า 180 เซนติเมตร ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตากับกางเกงยีนส์สีซีดๆ ชุดธรรมดากลับดูไม
ทิวลิปจึงต้องปรับอารมณ์เป็นยิ้มหวานรับกล้องอย่างช่วยไม่ได้ที่เกิดมา ‘สวย เก๋ ดูดี’ แต่ว่าจะจริงเหรอ? หัวคิ้วเรียวสวยขมวดขึ้นครุ่นคิดเพราะคานทองนิเวศดูเหมือนกำลังเปิดประตูรอรับเธออยู่แล้ว ก็นี่น่ะ 30 ฝนแล้วนี่นา... รถไฟขบวนไหนๆ ก็ไม่ผ่านมาให้เห็น แม้แต่เสียงหวูดเธอก็ยังไม่ได้ยิน “ว่าไง... จะแนะนำเป็นครั้งสุดท้าย ต่อไปนี้ไม่ต้องมาถามอีก พวกแกทั้งสี่คนนั่นแหละ ที่ต้องปรึกษากันเอาเอง เคยๆ กันแล้วทั้งนั้นนี่ ถามอยู่ได้คนไม่เคย” ทิวลิปบ่นงุบ ดวงตาคมจัดจากการแต่งแต้มเครื่องสำอางกวาดมองใบหน้าเพื่อนรักแต่คนละอย่างเอาเรื่อง ซึ่งทุกคนก็ยิ้มแหยราวกับสำนึกผิด แต่เธอรู้ว่านั่นน่ะภาพลวงตาชัดๆ เพราะแค่จิกกัดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ นังพวกนี้ไม่สลดหรอก “โธ่... ทิวลิป พวกฉันขอโทษ ก็เห็นทุกครั้งถามไปแกก็ตอบได้ ฉันก็เลยคิดว่าแกเป็นกูรูผู้รู้จริง ก็ดันตอบได้ทุกครั้งหนิ” ลดาพูดให้สถานการณ์คลายลง เพราะเมื่อสักครู่นั้นเธอยังไม่ได้ทันได้อ้าปาก ทิวลิปก็ปรี๊ดแตกขึ้นมาเสียก่อน “ก็ใครล่ะที่ทำให้ฉันต้องตอบน่ะ สารพัดปัญหาช่างไม่ซ้ำกันเลยจริงจริ๊ง...”หนังสือปกขาวหลายเล่มถูกหยิบออกม
สวนสาธารณะขนาดย่อมใจกลางกรุง กลับกลายเป็นปอดธรรมชาติทำหน้าที่ฟอกควันพิษของคนกรุงไปโดยปริยาย ด้วยทิวไม้ใหญ่หลากหลายต้นขึ้นเป็นแนวตลอดสองฝั่งข้างทาง ช่วยทำหน้าที่ฟอกอากาศให้สดชื่นและให้ร่มเงาแก่ผู้สัญจรไปมา รวมทั้งยังเป็นแหล่งรวมของร้านอาหารขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ไปด้วย ร้านอาหารหลากแนวต่างมีธีมตกแต่งตามสไตล์แตกต่างกันไป บ้างดูวินเทจและบ้างก็ดูอินดี้ เหมาะกับมนุษย์เงินเดือนทั้งหญิงชายที่มีออฟฟิศอยู่ใกล้กับสวนสาธารณะแห่งนี้ และร้านที่ดูจะเข้ากับบรรยากาศร่มรื่นของพันธุ์ไม้สีเขียวมากสุดก็คงไม่พ้นเป็นร้านที่ตกแต่งด้วยธีมสีชมพูนมสดตัดกับสีน้ำตาลช็อกโกแลต จึงไม่แปลกหากในยามเที่ยงวันอย่างนี้ ภายในร้านจึงมีลูกค้าอยู่หนาแน่น แต่ทุกอย่างต้องดีกว่านี้แน่ ถ้าจะไม่มีเสียงแปดหลอดของใครคนหนึ่งดังขึ้นมาซะก่อน “ทิวลิป! แกคิดดู วันๆ มันก็เอาแต่กินเหล้าเที่ยวผู้หญิง มันไม่เคยเห็นใจฉันเลย! ฉันน่ะต้องเลี้ยงลูก ต้องทำงานทั้งนอกบ้านทั้งในบ้าน ไหนจะเรื่องบนเตียง ใต้เตียง หรือว่าขอบเตียงมันก็ให้ฉันทำหมดทุกอย่าง แล้วแกดูมัน! มันก็ยังไปเอานังนั่น มันไม่เคยเห็นคุณค่าของฉั