“เปล่า...ฉันต้องไปแล้ว เผอิญนัดเพื่อนไว้”“คุณจะอยู่ที่นี่อีกกี่วัน” ลายเจ้าชู้ไก่แจ้เริ่มทำงานอีกครั้ง คนอย่างเขตไทยไม่เคยมีวันไหนที่จะไม่บริหารเสน่ห์ หญิงสาวคนนี้ก็ถือว่าหน้าตาสวยแบบสาวหมวยตาชั้นเดียวแต่เก๋ตรงกรีดอายไลน์เนอร์ให้ดวงตาสวยคมขึ้นเป็นกอง รูปร่างอ้อนแอ้น ตัวเล็กดูบอบบาง ผิวก็ขาวเหมือนหยวก แต่ติดที่ไม่ค่อยแต่งตัวสักเท่าไหร่ ดูจะขอสวยแบบธรรมชาติเสียมากกว่า“ถามทำไมคะ” น้ำเสียงของต้องหทัยดูจะแข็งขึ้นเล็กน้อย ถึงจะหล่อแค่ไหนแต่เจ้าชู้ไก่แจ้เธอก็ไม่ขอเล่นด้วยหรอกนะ เพราะไม่อยากเป็นของเล่นของใครหรือตบตีเพื่อแย่งแค่ผู้ชายให้เสียเวลา“ผมแค่อยากเลี้ยงข้าวตอบแทนกับเรื่องที่คุณช่วยผมไว้”“ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย”“เอาเป็นว่าผมอยากเลี้ยงข้าวแล้วกัน คุณสะดวกวันไหน” เขตไทยรุกตามขั้นตอน ก่อนจะส่งสายตาพิฆาตอันมีเสน่ห์มัดใจสาวไปยังต้องทหัย หวังให้เธอใจอ่อนและแสดงท่าทางขัดเขินออกมา แต่ทุกอย่างกลับผิดคาดเมื่อหญิงสาวยังนั่งน
“คุณเขตทำงานอะไรคะ” ปิ่นแก้วเอ่ยถามขึ้น เพราะอยากรู้ข้อมูลส่วนตัวของชายหนุ่มนั่นเอง โชคดีหน่อยที่เธอนั่งติดกับเขา“ผมมีโรงงานเซรามิคที่ลำปางครับ นี่ก็มาติดต่อลูกค้า”“ว้าว...อย่างนั้นเหรอค่ะ” คนถามทำเสียงตื่นเต้น แต่อีกสามสาวเฉยๆ ปล่อยให้ทั้งคู่คุยกันไป ส่วนพวกเธอก็เลือกอาหารก่อนจะเรียกพนักงานมารับออเดอร์“แล้วนี่ทุกคนมาเที่ยวหรือเปล่าครับ” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น เขาสบตากับปิ่นแก้วแต่หางตานั้นกลับมองไปยังต้องหทัย“ใช่ค่ะ พวกเราเป็นสาวกเกาหลี มาที่นี่บ่อยมากเหมือนบ้านหลังที่สองก็ว่าได้” ปิ่นแก้วเอ่ยตอบ หญิงสาวขัดเขินกับแววตาของเขตไทยไม่น้อย ตีความเอาเองว่าชายหนุ่มก็สนใจเธอ มาคราวนี้สงสัยจะได้กิ๊กกลับไปเมืองไทยด้วยแน่ๆ เพราะเธอนั้นมีแฟนแล้วเป็นตัวเป็นตน แต่ถ้ากิ๊กน่าสนใจกว่าแฟนเธอก็ทิ้งแฟนแล้วมาคบกับกิ๊กได้แบบไม่ต้องคิดมาก“ถ้าอย่างนั้นก็รู้ทุกซอกทุกมุมของที่นี่แล้วสิครับ”“ถ้าเป็นเรื่อง
ต้องทหัยนั้นสั่งตัวเองให้ใจแข็งเข้าไว้ ไม่ยอมเผลอใจไปกับท่าทีหมาหยอกไก่ของชายหนุ่มง่ายๆ ถึงลึกๆ จะชอบเขาเป็นทุนเดิม แต่ใช่ว่าเขาจะชอบเธอตอบเสียหน่อย และดูท่าว่าชายหนุ่มเองก็เสน่ห์แรงไม่เบา เพราะบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ทั้งเกาหลีและต่างชาติ ต่างจับจ้องมาที่ชายหนุ่มที่นั่งกับเธอคนนี้เป็นระยะๆ และดูท่าเขาจะชอบเป็นเป้าสายตาของบรรดาสาวๆ เสียด้วย ยังไม่ทันจะได้เริ่มหญิงสาวก็ถอดใจเสียแล้ว คู่แข่งเยอะแบบนี้ สู้เธอชอบกับผู้ชายธรรมดาๆ มองเธอเพียงคนเดียวจะดีเสียกว่าแต่สำหรับเขตไทย คืนนี้เขาไม่ได้จงใจหว่านเสน่ห์ให้ผู้หญิงอื่นนอกเสียจากผู้หญิงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเขาในเวลานี้ ชายหนุ่มพยายามงัดเสน่ห์ที่มีทุกอย่างมาใช้กับเธอ ทั้งการพูดคุย หยอกล้อ แต่กลับไม่เป็นผล เพราะต้องทหัยยังนิ่ง คล้ายไม่สนใจเขาเสียด้วยซ้ำ ชายหนุ่มจึงรู้สึกเสียหน้านิดๆ ถ้าคณินรู้ว่าเขาจงใจจีบหญิง แต่จีบไม่ติดเพราะหญิงคนนั้นไม่สนใจ ได้หัวเราะดังไปสามบ้านแปดบ้านแน่นอน“นี่ก็ดึกแล้ว ฉันขอตัวก่อนดีกว่า”“ผมขึ้นไปส่ง” ชายหนุ่มเอ่ยอาสา แต่ต้องทหัยกลับเลี่ยงเพราะไ
“เลือกน้ำหอมให้ผมด้วยนะครับ”“อ้อ...จะเอาไปฝากแฟนเหรอคะ” ความปากไวทำให้ต้องหทัยถามแบบไม่ได้คิดอะไรมาก แต่กลับรู้สึกจี๊ดขึ้นมาเมื่อได้ยินคำตอบจากชายหนุ่ม“ก็คงประมาณนั้น”“อืม...กลิ่นนี้แล้วกันค่ะ” หญิงสาวเลือกกลิ่นน้ำหอมแบบส่งๆ เพราะไม่ได้ใส่ใจ แต่ลึกๆ แล้วเธอกำลังหมั่นไส้ชายหนุ่มอยู่ต่างหาก มีแฟนอยู่ทั้งคนก็ยังหว่านเสน่ห์ไปทั่ว ผู้ชายนะผู้ชาย“ผมว่าแรงไป ขอกลิ่นคล้ายๆ กับที่คุณหมวยใช้อยู่ตอนนี้จะดีกว่า ชื่นใจดี” พูดจบก็ยื่นใบหน้ามาใกล้หญิงสาว ก่อนจะทำท่าสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ ทำเอาต้องทหัยรีบห่อไหล่หลบ“แต่แฟนคุณคงไม่ชอบ”“ช่างสิ...คนดมอย่างผมชอบซะอย่าง”“ตามใจ” หญิงสาวเอ่ยรับก่อนจะเดินเลี่ยงไปเลือกน้ำหอมให้คล้ายกับกลิ่นที่เธอใช้อยู่ตอนนี้ เมื่อได้ก็หยิบใส่ตระกร้าส่วนเขตไทยนั้นได้แต่อมยิ้มเดิมตามเธออย่างเดียว พร้อมทั้งพยายามสังเกตท่าทางของหญิงสาวไปด้วยว่ารู้ส
หญิงสาวหายไปนานมาก นานจนเขตไทยเป็นห่วง กลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรไม่ดีขึ้นกับเธออีก เขานั่งรอในห้องเฉยๆ อีกต่อไปไม่ไหว ถึงจะเจ็บตามเนื้อตามตัวแต่ก็กัดฟันลงไปตามหาต้องหทัย พอก้าวพ้นประตูโรงแรมออกมา เขตไทยก็พบหญิงสาวเข้าพอดี เขาปรี่เข้าไปหาเธอก่อนจะสวมกอดไว้แน่น ต้องหทัยถึงกับตาโต ถุงยาในมือแทบร่วงลงพื้น“คุณหายไปไหนมา ผมเป็นห่วงแทบบ้า” เขตไทยเป็นห่วงหญิงสาวจริงๆ เขาไม่ได้พูดเล่น“ฉันไปซื้อยาไง”“ทำไมถึงได้ไปนานแบบนี้ ผมนึกว่าเกิดเรื่องไม่ดีกับคุณเข้าเสียอีก”“เผอิญเจอตำรวจพอดี เขาสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ก็เลยอยู่คุยด้วย ขอโทษที่ทำให้คุณห่วง” ต้องหทัยยิ้มออกมา เขาเป็นห่วงเธอจนต้องลงมาตามเลยเหรอ“รู้ตัวก็ดีแล้ว”“ปะ...ปล่อยฉันได้แล้วมั่งค่ะ คนมองใหญ่แล้ว” หญิงสาวดันอกชายหนุ่มให้ปล่อยเธอ เพราะตอนนี้สายตาคนที่เดินผ่านไปผ่านมาดูจะมองมายังเธอและเขาเป็นตาเดียว คนก็เขินเป็นเหมือนกันนะ เขตไทยจำต้องปล่
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวออกไปแล้วชายหนุ่มก็ปิดประตูลงกลอนคล้ายมีความลับ เสร็จแล้วจึงเดินไปนั่งบนเก้าอี้ตัวที่ปิติญาดานั่งเมื่อครู่ เว็บไซต์ของหญิงสาวยังเปิดค้างอยู่ที่หน้าจอ เว็บไซต์ที่เธอบอกว่าเพื่อนช่วยทำให้ ก็ทำออกมาได้ดีและน่าดึงดูดไม่น้อย รูปสินค้าก็จัดวางได้ลงตัวชัดเจน ดีหน่อยที่เธอใช้รูปที่เขาถ่ายให้เกือบหมดคณินก็อบปี้ลิ้งเว็บไซต์นั่นไว้ ก่อนจะส่งไปให้เพื่อนซึ่งทำงานเกี่ยวกับสื่อโฆษณาช่วยโปรโมทให้เธออีกแรง ช่วยกันหลายๆ ทางจะได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มาก แม้งานนี้ไม่รู้จะรุ่งหรือร่วง แต่ถ้าปิติญาดาได้ลงมือทำแล้ว ชายหนุ่มก็คิดว่าต้องรุ่งเพราะเธอทุ่มสุดตัวแบบนั้น แต่เหมือนเขาจะมีแผนการบางอย่างไว้ในใจเพื่อช่วยเธอทางอ้อมความสัมพันธ์ระหว่างคณินและปิติญาดานั้นค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นท่ามกลางความเฉยเมยเสียมากกว่า ทั้งคู่เหมือนจะไม่สนใจกันสักเท่าไหร่ แต่ก็ยังแอบห่วงหากันอยู่ตลอด คณินเองนั้นห่วงแบบไม่แสดงออก ฝากป้าชื่นไปบอกแทนว่าให้ปิติญาดาพักสายตาบ้าง ไม่ต้องนั่งจ้องหน้าคอมพิวเตอร์ทุกนาทีหรอก เดี๋ยวจอประสาทตาจะเสียเอาเปล่าๆ คนกลางก็ทำตามแบบไม่ขัด&n
คืนสุดท้ายก่อนที่เขตไทยตัดสินใจจะกลับเมืองไทย หลังจากอยู่ด้วยกันมาหลายวันจนสนิมสนมมากขึ้นตามลำดับ ยิ่งมีเหตุการณ์ให้ประทับใจด้วยแล้ว ความสัมพันธ์ของเขากับต้องหทัยก็ยิ่งพัฒนาเร็วยิ่งขึ้น เขตไทยชวนหญิงสาวมาทานอาหารอย่างเช่นที่ได้ทำตอนอยู่ด้วยกัน แต่มื้อนี้ชายหนุ่มดูเจาะจงจะอยู่กับหญิงสาวตามลำพัง โดยได้สกัดบรรดาเพื่อนๆ เธอให้ออกห่างด้วยบัตรคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดังซึ่งคู่ค้าเขาให้มานั่นเอง ตั้งใจไว้ว่าวันนี้จะต้องเป็นดินเนอร์สุดแสนจะโรแมนติก ท่ามกลางไฟสลัวและเพลงเพราะๆร่องรอยฟกช้ำดำเขียวบนใบหน้าของชายหนุ่มลดลงไปมากแล้ว ขณะนั่งทานอาหารอยู่นั้น เขตไทยก็มองใบหน้าต้องหทัยตรงๆ อย่างเปิดเผยว่าเขานั้นคิดยังไงกับเธอ ถึงคนอื่นจะมองว่าชายหนุ่มเจ้าชู้ แต่คนอย่างเขาถ้าชอบใครก็จะบอกว่าชอบ พอสบสายตาแบบนั้นของเขตไทยเข้าบ่อยๆ หญิงสาวก็ออกอาการขัดเขิน ก่อนจะพูดแก้ขัด“นี่คุณเลิกมองฉันแบบนั้นสักทีได้ไหมคะ” น้ำเสียงตึงๆ ของต้องหทัยดังขึ้นเป็นการปรามให้เขาเลิกมองเธอเหมือนจะกินแบบนั้นเสียที ใช่ว่าเธอจะชอบสายตาแบบนี้สักหน่อย&l
รถยุโรปคันสวย แล่นไปตามถนนยามค่ำคืนของกรุงเทพมหานคร ความที่บรรยากาศรอบข้างช่างเงียบเชียบจนน่าวังเวงชวนขนหัวลุก มือน้อยๆ ซึ่งตอนนี้ทำหน้าที่จับพวงมาลัยรถอยู่นั้นจึงเอื้อมไปเปิดวิทยุ นิ้วเรียวสวยจิ้มเลือกสถานีมาสักหนึ่งสถานีเพื่อฟังเพลงไปเรื่อยเปื่อยอย่างไม่เจาะจง สายตาก็ไม่ได้ละไปจากท้องถนนตรงหน้า ก่อนที่หูจะสะดุดกับเพลงที่กำลังดังขึ้น จนหัวทุยๆ ที่จัดแต่งทรงผมมาอย่างสวยงาม แทบจะทิ่มไปกับพวงมาลัยรถ ‘งานแต่งที่ใด เป็นได้แค่แขกรับเชิญ อยากแต่งกับเขาเหลือเกิน ขัดเขินที่ยังไร้คู่…’ ปิติญาดาอยากจะหักพวงมาลัยในมือชนต้นไม้ข้างทางให้รู้แล้วรู้รอด เพลงอะไรช่างเปิดได้ประจวบเหมาะกับชีวิตเธอตอนนี้เสียเหลือเกิน หญิงสาวละมือจากวิทยุมากำพวงมาลัยทั้งสองข้าง ไม่ได้เปลี่ยนสถานีหนีเพลงที่ดังขึ้นแต่เสียดแทงใจดำคนโสดแต่อย่างใด นั่งฟังไปอย่างนั้น ตอกย้ำคนโสดไร้คู่อย่างเธอให้ถึงที่สุดกันไปข้าง อายุอานามก็จะแตะเลขสามเข้าไปทุกขณะ ก็ยิ่งกลัวว่าคานทองนิเวศที่ไม่ต้องการจะหล่นตุ๊บลงมาบนตัก “เฮ้อ!!” เสียงถอนหายใจของคนโสดดังออกมาอย่างอ่อนใจ ก่อนจะสำรวจตัวเองผ่านกระจกมองหลัง เธอไม่ใช่ผู้หญิงหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่เสี
คืนสุดท้ายก่อนที่เขตไทยตัดสินใจจะกลับเมืองไทย หลังจากอยู่ด้วยกันมาหลายวันจนสนิมสนมมากขึ้นตามลำดับ ยิ่งมีเหตุการณ์ให้ประทับใจด้วยแล้ว ความสัมพันธ์ของเขากับต้องหทัยก็ยิ่งพัฒนาเร็วยิ่งขึ้น เขตไทยชวนหญิงสาวมาทานอาหารอย่างเช่นที่ได้ทำตอนอยู่ด้วยกัน แต่มื้อนี้ชายหนุ่มดูเจาะจงจะอยู่กับหญิงสาวตามลำพัง โดยได้สกัดบรรดาเพื่อนๆ เธอให้ออกห่างด้วยบัตรคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดังซึ่งคู่ค้าเขาให้มานั่นเอง ตั้งใจไว้ว่าวันนี้จะต้องเป็นดินเนอร์สุดแสนจะโรแมนติก ท่ามกลางไฟสลัวและเพลงเพราะๆร่องรอยฟกช้ำดำเขียวบนใบหน้าของชายหนุ่มลดลงไปมากแล้ว ขณะนั่งทานอาหารอยู่นั้น เขตไทยก็มองใบหน้าต้องหทัยตรงๆ อย่างเปิดเผยว่าเขานั้นคิดยังไงกับเธอ ถึงคนอื่นจะมองว่าชายหนุ่มเจ้าชู้ แต่คนอย่างเขาถ้าชอบใครก็จะบอกว่าชอบ พอสบสายตาแบบนั้นของเขตไทยเข้าบ่อยๆ หญิงสาวก็ออกอาการขัดเขิน ก่อนจะพูดแก้ขัด“นี่คุณเลิกมองฉันแบบนั้นสักทีได้ไหมคะ” น้ำเสียงตึงๆ ของต้องหทัยดังขึ้นเป็นการปรามให้เขาเลิกมองเธอเหมือนจะกินแบบนั้นเสียที ใช่ว่าเธอจะชอบสายตาแบบนี้สักหน่อย&l
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวออกไปแล้วชายหนุ่มก็ปิดประตูลงกลอนคล้ายมีความลับ เสร็จแล้วจึงเดินไปนั่งบนเก้าอี้ตัวที่ปิติญาดานั่งเมื่อครู่ เว็บไซต์ของหญิงสาวยังเปิดค้างอยู่ที่หน้าจอ เว็บไซต์ที่เธอบอกว่าเพื่อนช่วยทำให้ ก็ทำออกมาได้ดีและน่าดึงดูดไม่น้อย รูปสินค้าก็จัดวางได้ลงตัวชัดเจน ดีหน่อยที่เธอใช้รูปที่เขาถ่ายให้เกือบหมดคณินก็อบปี้ลิ้งเว็บไซต์นั่นไว้ ก่อนจะส่งไปให้เพื่อนซึ่งทำงานเกี่ยวกับสื่อโฆษณาช่วยโปรโมทให้เธออีกแรง ช่วยกันหลายๆ ทางจะได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มาก แม้งานนี้ไม่รู้จะรุ่งหรือร่วง แต่ถ้าปิติญาดาได้ลงมือทำแล้ว ชายหนุ่มก็คิดว่าต้องรุ่งเพราะเธอทุ่มสุดตัวแบบนั้น แต่เหมือนเขาจะมีแผนการบางอย่างไว้ในใจเพื่อช่วยเธอทางอ้อมความสัมพันธ์ระหว่างคณินและปิติญาดานั้นค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นท่ามกลางความเฉยเมยเสียมากกว่า ทั้งคู่เหมือนจะไม่สนใจกันสักเท่าไหร่ แต่ก็ยังแอบห่วงหากันอยู่ตลอด คณินเองนั้นห่วงแบบไม่แสดงออก ฝากป้าชื่นไปบอกแทนว่าให้ปิติญาดาพักสายตาบ้าง ไม่ต้องนั่งจ้องหน้าคอมพิวเตอร์ทุกนาทีหรอก เดี๋ยวจอประสาทตาจะเสียเอาเปล่าๆ คนกลางก็ทำตามแบบไม่ขัด&n
หญิงสาวหายไปนานมาก นานจนเขตไทยเป็นห่วง กลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรไม่ดีขึ้นกับเธออีก เขานั่งรอในห้องเฉยๆ อีกต่อไปไม่ไหว ถึงจะเจ็บตามเนื้อตามตัวแต่ก็กัดฟันลงไปตามหาต้องหทัย พอก้าวพ้นประตูโรงแรมออกมา เขตไทยก็พบหญิงสาวเข้าพอดี เขาปรี่เข้าไปหาเธอก่อนจะสวมกอดไว้แน่น ต้องหทัยถึงกับตาโต ถุงยาในมือแทบร่วงลงพื้น“คุณหายไปไหนมา ผมเป็นห่วงแทบบ้า” เขตไทยเป็นห่วงหญิงสาวจริงๆ เขาไม่ได้พูดเล่น“ฉันไปซื้อยาไง”“ทำไมถึงได้ไปนานแบบนี้ ผมนึกว่าเกิดเรื่องไม่ดีกับคุณเข้าเสียอีก”“เผอิญเจอตำรวจพอดี เขาสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ก็เลยอยู่คุยด้วย ขอโทษที่ทำให้คุณห่วง” ต้องหทัยยิ้มออกมา เขาเป็นห่วงเธอจนต้องลงมาตามเลยเหรอ“รู้ตัวก็ดีแล้ว”“ปะ...ปล่อยฉันได้แล้วมั่งค่ะ คนมองใหญ่แล้ว” หญิงสาวดันอกชายหนุ่มให้ปล่อยเธอ เพราะตอนนี้สายตาคนที่เดินผ่านไปผ่านมาดูจะมองมายังเธอและเขาเป็นตาเดียว คนก็เขินเป็นเหมือนกันนะ เขตไทยจำต้องปล่
“เลือกน้ำหอมให้ผมด้วยนะครับ”“อ้อ...จะเอาไปฝากแฟนเหรอคะ” ความปากไวทำให้ต้องหทัยถามแบบไม่ได้คิดอะไรมาก แต่กลับรู้สึกจี๊ดขึ้นมาเมื่อได้ยินคำตอบจากชายหนุ่ม“ก็คงประมาณนั้น”“อืม...กลิ่นนี้แล้วกันค่ะ” หญิงสาวเลือกกลิ่นน้ำหอมแบบส่งๆ เพราะไม่ได้ใส่ใจ แต่ลึกๆ แล้วเธอกำลังหมั่นไส้ชายหนุ่มอยู่ต่างหาก มีแฟนอยู่ทั้งคนก็ยังหว่านเสน่ห์ไปทั่ว ผู้ชายนะผู้ชาย“ผมว่าแรงไป ขอกลิ่นคล้ายๆ กับที่คุณหมวยใช้อยู่ตอนนี้จะดีกว่า ชื่นใจดี” พูดจบก็ยื่นใบหน้ามาใกล้หญิงสาว ก่อนจะทำท่าสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ ทำเอาต้องทหัยรีบห่อไหล่หลบ“แต่แฟนคุณคงไม่ชอบ”“ช่างสิ...คนดมอย่างผมชอบซะอย่าง”“ตามใจ” หญิงสาวเอ่ยรับก่อนจะเดินเลี่ยงไปเลือกน้ำหอมให้คล้ายกับกลิ่นที่เธอใช้อยู่ตอนนี้ เมื่อได้ก็หยิบใส่ตระกร้าส่วนเขตไทยนั้นได้แต่อมยิ้มเดิมตามเธออย่างเดียว พร้อมทั้งพยายามสังเกตท่าทางของหญิงสาวไปด้วยว่ารู้ส
ต้องทหัยนั้นสั่งตัวเองให้ใจแข็งเข้าไว้ ไม่ยอมเผลอใจไปกับท่าทีหมาหยอกไก่ของชายหนุ่มง่ายๆ ถึงลึกๆ จะชอบเขาเป็นทุนเดิม แต่ใช่ว่าเขาจะชอบเธอตอบเสียหน่อย และดูท่าว่าชายหนุ่มเองก็เสน่ห์แรงไม่เบา เพราะบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ทั้งเกาหลีและต่างชาติ ต่างจับจ้องมาที่ชายหนุ่มที่นั่งกับเธอคนนี้เป็นระยะๆ และดูท่าเขาจะชอบเป็นเป้าสายตาของบรรดาสาวๆ เสียด้วย ยังไม่ทันจะได้เริ่มหญิงสาวก็ถอดใจเสียแล้ว คู่แข่งเยอะแบบนี้ สู้เธอชอบกับผู้ชายธรรมดาๆ มองเธอเพียงคนเดียวจะดีเสียกว่าแต่สำหรับเขตไทย คืนนี้เขาไม่ได้จงใจหว่านเสน่ห์ให้ผู้หญิงอื่นนอกเสียจากผู้หญิงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเขาในเวลานี้ ชายหนุ่มพยายามงัดเสน่ห์ที่มีทุกอย่างมาใช้กับเธอ ทั้งการพูดคุย หยอกล้อ แต่กลับไม่เป็นผล เพราะต้องทหัยยังนิ่ง คล้ายไม่สนใจเขาเสียด้วยซ้ำ ชายหนุ่มจึงรู้สึกเสียหน้านิดๆ ถ้าคณินรู้ว่าเขาจงใจจีบหญิง แต่จีบไม่ติดเพราะหญิงคนนั้นไม่สนใจ ได้หัวเราะดังไปสามบ้านแปดบ้านแน่นอน“นี่ก็ดึกแล้ว ฉันขอตัวก่อนดีกว่า”“ผมขึ้นไปส่ง” ชายหนุ่มเอ่ยอาสา แต่ต้องทหัยกลับเลี่ยงเพราะไ
“คุณเขตทำงานอะไรคะ” ปิ่นแก้วเอ่ยถามขึ้น เพราะอยากรู้ข้อมูลส่วนตัวของชายหนุ่มนั่นเอง โชคดีหน่อยที่เธอนั่งติดกับเขา“ผมมีโรงงานเซรามิคที่ลำปางครับ นี่ก็มาติดต่อลูกค้า”“ว้าว...อย่างนั้นเหรอค่ะ” คนถามทำเสียงตื่นเต้น แต่อีกสามสาวเฉยๆ ปล่อยให้ทั้งคู่คุยกันไป ส่วนพวกเธอก็เลือกอาหารก่อนจะเรียกพนักงานมารับออเดอร์“แล้วนี่ทุกคนมาเที่ยวหรือเปล่าครับ” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น เขาสบตากับปิ่นแก้วแต่หางตานั้นกลับมองไปยังต้องหทัย“ใช่ค่ะ พวกเราเป็นสาวกเกาหลี มาที่นี่บ่อยมากเหมือนบ้านหลังที่สองก็ว่าได้” ปิ่นแก้วเอ่ยตอบ หญิงสาวขัดเขินกับแววตาของเขตไทยไม่น้อย ตีความเอาเองว่าชายหนุ่มก็สนใจเธอ มาคราวนี้สงสัยจะได้กิ๊กกลับไปเมืองไทยด้วยแน่ๆ เพราะเธอนั้นมีแฟนแล้วเป็นตัวเป็นตน แต่ถ้ากิ๊กน่าสนใจกว่าแฟนเธอก็ทิ้งแฟนแล้วมาคบกับกิ๊กได้แบบไม่ต้องคิดมาก“ถ้าอย่างนั้นก็รู้ทุกซอกทุกมุมของที่นี่แล้วสิครับ”“ถ้าเป็นเรื่อง
“เปล่า...ฉันต้องไปแล้ว เผอิญนัดเพื่อนไว้”“คุณจะอยู่ที่นี่อีกกี่วัน” ลายเจ้าชู้ไก่แจ้เริ่มทำงานอีกครั้ง คนอย่างเขตไทยไม่เคยมีวันไหนที่จะไม่บริหารเสน่ห์ หญิงสาวคนนี้ก็ถือว่าหน้าตาสวยแบบสาวหมวยตาชั้นเดียวแต่เก๋ตรงกรีดอายไลน์เนอร์ให้ดวงตาสวยคมขึ้นเป็นกอง รูปร่างอ้อนแอ้น ตัวเล็กดูบอบบาง ผิวก็ขาวเหมือนหยวก แต่ติดที่ไม่ค่อยแต่งตัวสักเท่าไหร่ ดูจะขอสวยแบบธรรมชาติเสียมากกว่า“ถามทำไมคะ” น้ำเสียงของต้องหทัยดูจะแข็งขึ้นเล็กน้อย ถึงจะหล่อแค่ไหนแต่เจ้าชู้ไก่แจ้เธอก็ไม่ขอเล่นด้วยหรอกนะ เพราะไม่อยากเป็นของเล่นของใครหรือตบตีเพื่อแย่งแค่ผู้ชายให้เสียเวลา“ผมแค่อยากเลี้ยงข้าวตอบแทนกับเรื่องที่คุณช่วยผมไว้”“ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย”“เอาเป็นว่าผมอยากเลี้ยงข้าวแล้วกัน คุณสะดวกวันไหน” เขตไทยรุกตามขั้นตอน ก่อนจะส่งสายตาพิฆาตอันมีเสน่ห์มัดใจสาวไปยังต้องทหัย หวังให้เธอใจอ่อนและแสดงท่าทางขัดเขินออกมา แต่ทุกอย่างกลับผิดคาดเมื่อหญิงสาวยังนั่งน
ภายในร้านกาแฟที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม บรรยากาศรอบข้างกำลังเย็นสบาย เพราะที่เกาหลีตอนนี้ย่างเข้าหน้าหนาวแล้ว ใบไม้ทั่วเมืองกำลังเปลี่ยนสี โรแมนติกเสียยิ่งกระไร ขณะนั่งรอบรรดาเพื่อนๆ ซึ่งตอนนี้เป็นขาช้อปในตลาดเมียงดง ต้องหทัยก็สั่งโกโก้ร้อนมาดื่มฆ่าเวลา วันนี้หญิงสาวปวดท้องเพราะรอบเดือนเล่นงาน จึงขอนั่งพักไม่เดินช้อปปิ้งอย่างเช่นทุกครั้งที่มาที่นี่ในมือมีกล้องถ่ายรูปที่สามารถซูมได้ทั้งใกล้ ไกล ชัดแบบไม่เกรงใจใครอยู่หนึ่งตัว แม้จะตัวใหญ่ไปหน่อยก็ตามที แต่เธอมักจะพกติดตัวไว้ถ่ายสถานที่ท่องเที่ยวที่ชื่นชอบ พร้อมกันนั้นก็เอาไว้ถ่ายรูปหนุ่มๆ ที่หล่อเข้าตา เป้าหมายจะได้ไม่สงสัยว่าเธอกำลังมองอยู่นั่นเอง“เฮ้อ! บรรยากาศชวนให้อยากมีแฟน” คนโสดอีกคนถอนหายใจออกมา เพราะมองไปมุมไหนก็เห็นแต่หนุ่มสาวชาวเกาหลีหน้าตาสวยหล่อเดินจับมือจูงแขนกันทั้งนั้น บางคู่ก็แอบเก๋ด้วยการใส่เสื้อ กางเกง รองเท้าให้เหมือนกันบ้าง จะว่าไปในกลุ่มตอนนี้เหลือสาวโสดเพียงสองคนนั่นคือเธอกับปิติญาดา สงสัยงานนี้จะขึ้นคานเป็นแพคคู่ชัวว์!คิดเรื่องคนรักที่ไม่มีวี่แว
“แมวต่างหาก มองยังไงเป็นสัตว์ต่างดาว ชิชิ” ปิติญาดาหันมาย่นจมูกให้ชายหนุ่มอีกครั้ง เธอวาดออกจะเหมือน เหมือนที่สุดในสามโลกด้วย“แมว! มองมุมไหนก็ไม่เห็นจะเหมือนแมว เอเลี่ยนชัดๆ” คณินพยายามเพ่งมองสิ่งที่ปิติญาดาบอกว่าเป็นแมว หูยาว บนหน้ามีหนวดฝั่งละสามเส้น หน้าตาก็ประหลาด ตัวป้อมๆ ขาแทบมองไม่เห็น สิ่งนี้เรียกว่าแมวตรงไหน ปิติญาดาจึงอธิบายให้ชายหนุ่มเข้าใจ ถึงเธอจะตกวิชาศิลปะแต่เรื่องจินตนาการละก็ไม่มีทางแพ้ใคร“ก็นี่หู ตรงนี้หนวด ตรงนี้ก็แขนกับขาที่เห็นว่าขาสั้นๆ เพราะแมวตัวนี้นั่งอยู่” คนวาดแมวเอ่ยบอกตามที่เธอจินตนาการ แต่อีกคนกลับยิ้ม“เหรอ ไม่บอกไม่รู้” คนฟังส่ายหน้าให้ พยายามจะจินตนาการแมวตามภาพที่เห็น แต่ก็จินตนาการไม่ออกสงสัยเป็นแมวพันธุ์ใหม่“นายนี่ไม่มีความรู้เรื่องศิลปะเอาเสียเลย” คนสวยเชิดหน้าให้ ถึงคนอื่นจะมองไม่ออกว่านี่คือแมว แต่ปิติญาดามองออกมีอะไรไหม แต่อยู่ๆ เธอกลับนั่งตัวแข็งทื่อเมื่อคณินยื่นมือมาใกล้ ชายหนุ่มเช็ดคราบดินที