เคลวินในชุดลำลองสีฟ้าครามยืนกอดอกอยู่ริมระเบียงไม้ชั้นสองของตัวเองบ้าน ดวงตาคมกริบจ้องมองยาวไปยังทิวเขาสูงเบื้องหน้าด้วยท่าทางสงบนิ่งแต่ภายในใจนั้นกลับกำลังฟุ้งซ่านสับสนจนยากจะควบคุมเอาไว้ได้เขาต้องสูดลมหายใจเข้าไปภายในปอดเฮือกแล้วเฮือกเล่าเพื่อควบคุมตนเอง และพยายามอย่างที่สุดที่จะสลัดความอ่อนไหวของหัวใจให้หลุดพ้น แต่ดูเหมือนว่าจะทำได้ยากขึ้นทุกวันเมื่อก่อนเขาขยันทำงาน ในหัวมีแต่เรื่องงาน ในขณะที่เรื่องความรัก เรื่องของหัวใจคืออันดับสอง และนั่นก็คือสาเหตุที่ทำให้คนรักที่คบหากันมายาวนานและคิดว่าจะเป็นรักครั้งสุดท้ายในชีวิตหลุดลอยไปจากมือจนกระทั่งตอนนี้ ในหัวของเขามีแต่ความแค้น ใช่... เขาสมควรจะแค้นณิชา เพราะหล่อนอกหักเขาอย่างเจ็บแสบ และก็อีกความรู้สึกหนึ่งที่ค่อยๆ แทรกซึมเข้ามาโดยที่เขาไม่ทันระวังตัวเฌอปราง...เคลวินจำต้องสูดลมหายใจเข้าปอดอีกเฮือก เมื่อนึกถึงต้นเหตุของความวุ่นวายใจทั้งหมดของตนเองขึ้นมาทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะว่าเฌอปรางคิดยังไงกับเขา แต่เขาไม่ต้องการความรัก ไม่ต้องการแบ่งความรู้สึกกับผู้หญิงคนใดอีกแล้ว เฌอปรางเป็นแค่เครื่องมือทำลายล้างรักเก่าเท่านั้น ผู้หญิงคนเคยรักที่ท
“พ่อเลี้ยง... หนูขอโทษนะคะ ที่ทำให้พ่อเลี้ยงไม่ได้ไปหัวหินตามกำหนดเวลาเดิม”พอได้สติขึ้นมา เฌอปรางก็ร้องไห้ และยกมือขึ้นไหว้เคลวินที่ยืนอยู่ข้างเตียงภายในห้องฉุกเฉินด้วยความรู้สึกผิดบาป“เลิกพูดบ้าๆ ได้แล้ว น่ารำคาญน่ะเฌอปราง”หล่อนช้อนตามองคนที่ยืนหน้าตาหงุดหงิดอยู่ข้างเตียงด้วยความเสียใจ“เดี๋ยวหนูทำแผลเสร็จแล้ว เรารีบไปหัวหินกันเลยนะคะ”“เฌอปราง”เขาเค้นเสียงเรียกชื่อของหล่อนผ่านไรฟันขาวสะอาดออกมาอย่างไม่พอใจ แต่เด็กสาวก็ยังไม่รู้เรื่อง ยังคงพูดต่อไป“เพราะป่านนี้คุณณิชาน่าจะถึงแล้ว... อ๊ะ...”ต้นแขนของหล่อนถูกมือใหญ่ขยุ้มแรงๆ จนเจ็บระบม หล่อนมองหน้าเจ้าของมืออย่างตกใจ“ฉันบอกให้เลิกพล่ามไง หูแตกหรือ!”“แต่พ่อเลี้ยง... ต้องไปหัวหิน...” หล่อนตอบน้ำตาไหล“จะไปได้ยังไง ดูสภาพเธอสิ เพิ่งซุ่มซ่ามตกบันไดมาไม่ใช่หรือ”“หนูไหวค่ะ หนูไปไหว แค่หัวแตกเอง ทำแผลเสร็จก็นั่งรถไปได้แล้วค่ะ หรือว่าพ่อเลี้ยงจะบินไปคะ”“หุบปากซะ และก็รู้เอาไว้ว่าฉันจะไม่ไปหัวหินแล้ว”“ตะ แต่ว่า... คุณณิชา...”“นี่เลิกพล่ามถึงณิชาสักนาทีหนึ่ง เธอจะตายหรือไง!”ทำไมเขาจะต้องแสดงท่าทางเกรี้ยวกราดแบบนี้ด้วย ทั้งๆ ที่หล่อน
เรือนกายสูงใหญ่กว่าคนงานผู้ชายทั้งไร่ของเคลวินสะดุดตาเสมอ แม้ว่ารอบกายเขาจะมีแต่บุรุษยืนอยู่หลายคน แต่เขาก็เป็นคนเดียวที่โดดเด่นและดึงดูดสายตาของหล่อนที่สุดเฌอปรางมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของเคลวินด้วยสายตาที่ยากจะถอนหายไปที่อื่น แม้จะไม่ได้อยู่ใกล้นัก แต่หล่อนก็มองเห็นหยาดเหงื่อที่ไหลจากหน้าผากลงมาสู่แก้มสากได้ไม่ยากเย็นหล่อนไม่ชอบตัวเองเลยที่หายใจเข้าออกเป็นเขาไปทุกลมหายใจ ทุกอย่างที่เป็นเคลวินมันล้วนแต่มีเสน่ห์น่าลุ่มหลงในสายตาของหล่อนเสมอเขาคือรักแรก รักเดียว และเป็นรักสุดท้ายของหล่อน แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยากเป็นอะไรสำหรับหล่อนเลยก็ตามหญิงสาวยิ้มเศร้าๆ ให้กับตัวเอง ก่อนจะสะดุ้งน้อยๆ หน้าตาซีดเผือด เมื่อสายตาคมกริบของคนที่หล่อนยืนแอบมองอยู่ตวัดมองจ้องมามือเล็กเย็นเฉียบ เม็ดเหงื่อผุดที่หน้าผาก ก่อนจะแข็งใจเดินเข้าไปหาเขา“ออกมาทำไม หายดีแล้วหรือ”“เอ่อ... หนูไม่เป็นไรแล้วค่ะ”“พอสบายดีก็เลยรีบออกมาเดินอวดให้คนงานผู้ชายในไร่ดูว่างั้น”หล่อนไม่เข้าใจเลยว่าทำให้เคลวินจะต้องทำเสียงเยาะหยัน และมองมาด้วยความไม่พอใจแบบนี้นี่หล่อนทำอะไรผิดไปอีกแล้วเหรอ...ดวงตากลมโตค่อยๆ ช้อนขึ้นมองเขา และก็
วันนี้เคลวินไม่ได้ตั้งใจจะทำงานจนมืดค่ำ แต่เพราะงานติดพันทำให้กว่าจะกลับถึงบ้านก็เกือบหกโมงเย็น พอมาถึงเขาก็ถามหาเฌอปรางทันที“จิต คุณเฌอปรางล่ะ”จิตที่ยืนถือแก้วน้ำเย็นให้กับเขายิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะตอบคำถามของเจ้านายหนุ่มหล่อออกมา“คุณเฌอปรางช่วยป้าอ้อยทำกับข้าวอยู่ในครัวน่ะค่ะ”คิ้วเข้มดกของเคลวินเลิกสูง สีหน้าไม่พอใจสักเท่าไหร่ “มันใช่หน้าที่ของเฌอปรางหรือนั่น”“เอ่อ... จิต... จะไปตามให้นะคะ”“อืม” เขาตอบรับเสียงหงุดหงิด “บอกให้ขึ้นไปหาฉันบนห้อง”“ค่ะ พ่อเลี้ยง”จิตกำลังจะเดินเลี่ยงออกไป แต่เคลวินเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ เขาเรียกสาวใช้เอาไว้“พรุ่งนี้เธอไม่ต้องมายืนคอยถือน้ำเย็นให้ฉันแล้วนะ”“อ้าว ทำไมล่ะคะ จิตทำหน้าที่นี้มาตั้งนาน” จิตแปลกใจเคลวินหรี่ตาแคบมองหน้าคนบ่นด้วยสายตาไม่พอใจ “ฉันมีเมียแล้ว ก็ต้องให้เมียฉันทำหน้าที่นี้สิ เธอไปบอกเฌอปรางด้วยว่าหน้าที่นี้เป็นของหล่อน”“เอ่อ... ค่ะพ่อเลี้ยง”“ไปได้แล้ว”“ค่ะ”จิตยืนรอจนคนทำหน้าหงุดหงิดเดินหายออกไป จึงเดินตรงไปยังห้องครัว แต่ระหว่างทางก็อดบ่นไม่ได้“พ่อเลี้ยงนี่ ให้อภิสิทธิ์น้องปรางมากขึ้นทุกวัน ไหนว่าเอามาทำเมียประชดคนรักเก่ายังไงล
นั่นสิ... ใครจะเดือดร้อนกัน ถ้าไม่ใช่หล่อน แต่ว่าเขาจำเป็นต้องมาแสดงทีท่าหงุดหงิดเพราะหล่อนเข้าไปวุ่นวายในห้องครัวเนี่ยนะ มันใช่เหรอ“เอ่อ... แผลไม่ใหญ่ คงไม่เป็นไรหรอกค่ะ”“อย่าเถียงฉัน และห้ามดื้อ”“เอ่อ”“ถ้าอยู่เฉยๆ ไม่เป็น บอกฉันสิ ฉันมีงานให้เธอทำเสมอ”ดวงตากลมโตมองเขาด้วยความแคลงใจ “งาน... อะไรเหรอคะพ่อเลี้ยง”หล่อนเห็นมุมปากหยักสวยของเขากระตุกเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนที่เขาจะรั้งร่างเล็กเข้าไปกอด“อ๊ะ... พ่อเลี้ยง... จะทำอะไรคะ”“อ้าว ก็เธออยากมีงานทำนี่ ฉันก็กำลังจะให้เธอทำงานยังไงล่ะ”หล่อนรู้ความหมายของคนตัวโตทันที พวงแก้มนวลจึงแดงก่ำ บางส่วนของกายสาวร้อนผะผ่าว“เอ่อ... หนูตัวเหม็นค่ะ ยังไม่ได้อาบน้ำเลยทั้งวัน พ่อเลี้ยงปล่อยหนูก่อนนะคะ อุ๊ยยย”ปลายจมูกโด่งฉกลงบนแก้มนวลอย่างไม่ยอมฟังคำทัดทานแม้แต่น้อย“เหม็นไม่เยอะ ฉันพอฝืนใจทนได้”“พะ... พ่อเลี้ยงคะ แต่หนู... ควรจะอาบน้ำก่อนนะคะ อ๊ะ... ว้ายยย”ร่างของหล่อนถูกผลักให้ล้มลงนอนหงายบนเตียง โดยมีเขาก้าวเข้ามาประชิด“กลิ่นตัวเธอจะตอนอาบน้ำหรือยังไม่อาบ มันก็ไม่ได้ต่างกันนักหรอก เหม็นพอๆ กันนั่นแหละ”คำพูดของคนที่เพิ่งสลัดผ้าขนหนูอ
ห้าวันต่อมา ความสุขของเฌอปรางก็เพิ่มปริมาณขึ้นจากวันแรกที่จดลายเซ็นบนสัญญาจ้างแต่งงานของเคลวินมากหลายเท่าตัว ชายหนุ่มใจดีกับหล่อนมากขึ้น แต่เขาก็ใช้งานหล่อนบนเตียงมากขึ้นตามไปด้วยพวงแก้มนวลแดงระเรื่อเมื่อนึกถึงความหิวกระหายของเคลวินที่ถูกถ่ายเทมายังหล่อนทุกค่ำคืน ไม่สิ... ทุกเวลาที่เคลวินต้องการปลดปล่อยต่างหากแม้จะรู้ดีว่าเป็นได้แค่เครื่องบำบัดความใคร่ชั่วคราวสำหรับเขา แต่หัวใจไม่รักดีก็ไม่อาจจะต่อต้านความสุขน้อยนิดที่เคลวินหยิบยื่นให้ได้ หล่อนเฝ้ารอ และรอคอยสัมผัสสวาทของเขาราวกับเสพติดทุกวันหล่อนจะมองตามแผ่นหลังกว้างของเขาที่เดินหายเข้าไปในไร่ด้วยสายตาโหยหา เฝ้ารอกระวนกระวาย เมื่อเขาไม่กลับมากินข้าวเที่ยงตามที่สัญญาเอาไว้ หรือแม้แต่ตอนเย็น หล่อนก็มักจะใจจดใจจ่ออยู่กับการกลับมาของเขาทุกอย่างในชีวิตของหล่อนเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อย แต่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะเคลวินเพียงคนเดียวจากแอบรัก กลายเป็นได้รัก และรักมาก แม้จะไม่มีสิทธิ์ในตัวของเขาเลยก็ตาม“มานั่งทำอะไรมืดๆ ตรงนี้ ยุงกัดตายกันพอดี”หล่อนที่นั่งเหม่อสะดุ้งเมื่อเสียงตำหนิเข้มๆ ของเคลวินดังขึ้น หล่อนรีบหันไปมองเขา และเมื่อเห็นว่าเป
สั่งคนใช้เสร็จ เขาก็เดินกลับขึ้นมาหาเพื่อน และก็ไม่คิดเลยว่าจะเห็นเฌอปรางในชุดนอนอนุบาลหมีน้อยยืนคุยอยู่กับเพื่อนหัวงูสองคนของเขา แถมยังยิ้มหวาน เหมือนกับที่ยิ้มให้เขาอีกความหงุดหงิดระเบิดขึ้นในอก แต่ก็ต้องพยายามที่จะสะกดกลั้นมันเอาไว้ และเดินเข้าไปสมทบ“ฉันต้องการความเป็นส่วนตัวกับเพื่อน เธอกลับเข้าห้องไปได้แล้วเฌอปราง และก็ไม่ต้องเสนอหน้าออกมาวุ่นวายแถวนี้อีก”เฌอปรางสะดุ้งน้อยๆ และเมื่อเห็นใบหน้าดุดันของเคลวิน หน้านวลก็ซีดไร้สีเลือด“ค่ะ พ่อเลี้ยง”เฌอปรางรีบเดินจากไปทั้งน้ำตา แต่กระนั้นสองหูก็ยังได้ยินคำสนทนาของผู้ชายเหล่านั้น“นี่ถ้าฉันเป็นน้องเฌอปรางนะ ฉันเผ่นไปแล้ว ไม่อยู่ให้ผู้ชายอย่างนายโขกสับหรอก” ชาร์ลีบ่นเพื่อน และก็อดสงสารเฌอปรางไม่ได้อเล็กซิสทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ไม้ ตัวตรงกันข้ามกับเคลวิน “ฉันรู้ว่านายไม่ได้ให้ค่าอะไรกับเด็กคนนี้ แต่ระหว่างที่อยู่ด้วยกันก็ใจดีกับเด็กมันบ้าง เด็กมันน่าสงสารออก”“ไม่จำเป็น” เคลวินเค้นเสียงกระด้างออกมา“เมื่อกี้เท่าที่คุย เด็กคนนี้เทิดทูนนายมากเลยนะเคลวิน น่าสงสารถ้านายจะใจร้ายกับเธอแบบนี้น่ะ”“เลิกพูดถึงคนไร้ค่าอย่างเฌอปรางได้แล้วไอ้อเล
คนตัวเล็กที่สอดตัวนอนอยู่ใต้ผ้าห่มสีเข้มหน้าซีดเผือด เมื่อเห็นเขาก้าวเข้ามาภายในห้อง ดวงตากลมโตมีร่องรอยความหวาดหวั่นอย่างเห็นได้ชัดโทสะร้ายเบาบางลงเพียงแค่เห็นความตื่นกลัวในดวงตากลมโตของเฌอปรางชายหนุ่มเดินเข้ามาหยุดที่ข้างเตียง ในขณะที่คนตัวเล็กขยับกายลุกขึ้นนั่ง และพนมมือขึ้นไหว้เขา“หนู... ขอโทษพ่อเลี้ยงค่ะ”ก่อนเข้ามานี่ เขาวาดภาพเลวร้ายของหล่อนสารภาพ แต่ทันทีที่ได้สบประสานสายตากับเจ้าหล่อน ลูกตาสีดำกลมโตที่มีหยาดน้ำใสๆ คลอมันทำให้หัวใจกระด้างของเขาอ่อนโยนลงอย่างน่าอัศจรรย์“ไม่มีอะไรต้องขอโทษหรอก”เขาสลัดเสื้อผ้าออกจากตัว จนเหลือแต่กางเกงในบ็อกเซอร์ เขาเห็นแก้มนวลแดงระเรื่อ และเสมองไปทางอื่น เขาอดที่จะอมยิ้มกับความน่าเอ็นดูของเฌอปรางไม่ได้“ก็หนู... ไปคุยกับเพื่อนของพ่อเลี้ยง...”“ฉันไม่ได้อยากห้ามอะไรหรอก แต่ไอ้เพื่อนสองคนของฉันน่ะมันหล่อแค่หน้าตาเท่านั้นแหละ แต่หัวใจมันไม่หล่อหรอก มันเจ้าชู้ เป็นเสือผู้หญิง ฉันเกรงว่าเธอจะตกเป็นเหยื่อของพวกมันน่ะ ก็เลยไม่ชอบให้ไปยุ่งด้วย”“เอ่อ... หนู... มีพ่อเลี้ยงแล้ว ไม่มีทางคิดอะไรกับเพื่อนของพ่อเลี้ยงได้หรอกค่ะ”หล่อนตอบพาซื่อ พูดไปตามคว
“กำลังคิดถึงฉันอยู่ใช่หรือเปล่า”เสียงนุ่มคุ้นหูดังขึ้นพร้อมๆ กับอ้อมกอดอบอุ่นที่สอดมาทางด้านหลังเฌอปรางอมยิ้มอย่างมีความสุข ละสายตาจากดวงจันทร์กลมโตหมุนกลับมามองใบหน้าหล่อเหลาของเคลวินแทน มองเขาด้วยความรักหมดหัวใจ“หนูคิดถึงพ่อเลี้ยงทุกวินาทีนั่นแหละค่ะ”เขาหัวเราะร่วน ยกมือขึ้นลูบศีรษะของหล่อนไปมา “งั้นก็เหมือนฉันเลยน่ะสิ ที่คิดถึงเธอตลอดเวลา ทุกวินาทีเลยรู้ไหม...”“พ่อเลี้ยงปากหวานอีกแล้วนะคะ”เขาโน้มหน้าต่ำลงมาหา รัดรึงร่างอวบอัดของเมียรักแนบแน่นยิ่งขึ้น“ฉันไม่เคยปากหวาน พูดหวานๆ ก็ไม่เป็น ที่เธอได้ยินทุกอย่างนี่ก็คือความจริงจากใจล้วนๆ”“หนูไม่เชื่อหรอกค่ะว่าพ่อเลี้ยงไม่เคยพูดหวานๆ อย่างน้อยๆ ตอนจีบผู้หญิงก็ต้องพูด ไม่งั้นพ่อเลี้ยงจะมีคนรักเหรอคะ” หล่อนได้ทีย่นจมูกใส่เขาอย่างมันเขี้ยวบ้าง“ด้วยความสัตย์จริงนะ ฉันไม่เคยจีบผู้หญิงมาก่อนเลย”คนฟังเบิกตากว้าง เหลือเชื่อ “อ้าว ถ้าไม่ได้จีบแล้วคุณณิชามาเป็นแฟนพ่อเลี้ยงได้ยังไงคะ”“ณิชาเป็นฝ่ายจีบฉันน่ะ”“ฮะ?” เฌอปรางเหลือเชื่อมากๆ“จริงๆ นะ เห็นฉันหน้าตาดีแบบนี้ แต่ฉันไม่เคยจีบผู้หญิงมาก่อนเลย ตอนเรียนก็เอาแต่เรียน ตอนทำงานก็ทำแต่งาน
เฌอปรางหัวเราะคิกคักเมื่อเคลวินออกคำสั่งเผด็จการแบบนั้นออกไป“พ่อเลี้ยงน่ะ ดูทำเข้าสิคะ”“ทำไมอะไรมิทราบเมียจ๋า” ใบหน้าหล่อจัดโน้มต่ำเข้ามาหาเรื่อยๆ“ก็... สั่งคนงานแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะคะ น่าเกลียดจัง”“ไม่มีอะไรน่าเกลียดหรอกน่า มานี่เลย...”มือใหญ่ช้อนใต้ท้ายทอยเล็กอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ประกบปากลงไปหา“อุ๊บบบ...”เขาบดขยี้จูบแล้วจูบอีก จูบจนเมียรักหายใจหายคอไม่ทัน จึงถอนปาก แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยออกจากอ้อมแขน“หวานจัง...”“พ่อเลี้ยงน่ะ” คนเป็นเมียเอียงอายม้วนต้วน“ก็จริงนี่ ปากเธอหวานมาก แต่ก็ยังมีที่อื่นหวานกว่านะ อยากรู้ไหมว่าตรงไหน”ดวงตาคมกริบของเคลวินเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ร้าย ขณะเลื่อนต่ำลงมองที่กลางลำตัวสาวเฌอปรางเนื้อตัวอุ่นวาบ เลือดสาวเดือดพล่านขึ้นมาในทันที ดวงหน้างามเต็มไปด้วยรอยยิ้มเอียงอาย“พ่อเลี้ยงน่ะ... ลามก”เขาดึงหล่อนเข้ามากอดแนบอก ยกมือขึ้นลูบศีรษะทุยสวยเอาอย่างแสนรัก“ฉันก็เป็นแบบนี้กับเธอคนเดียวนั่นแหละเฌอปราง... และหวังว่าเธอจะชอบ...”หล่อนยิ้มหวานกับหน้าอกกว้างของสามี “หนูชอบทุกอย่างที่เป็นพ่อเลี้ยงค่ะ”“เมียใครนะปากหวานเจี๊ยบเลย”นิ้วแข็งแรงตรึงปลายคางมน และช
เคลวินถูกส่งตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้ทันเวลา แต่เพราะเสียเลือดไปมาก ทำให้เขาต้องได้รับการให้เลือดอยู่หลายถุง เฌอปรางเฝ้าสามีอยู่หน้าห้องผ่าตัดไม่ยอมห่าง แม้ว่าตัวหล่อนเองจะบาดเจ็บที่ศีรษะเช่นกันก็ตาม“หนูปราง... ไปให้พยาบาลทำแผลก่อนนะคะ เดี๋ยวป้าเฝ้าหน้าห้องให้ค่ะ ถ้าพ่อเลี้ยงออกมาแล้ว ป้าจะรีบไปบอกค่ะ” ป้าปราณีพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง แต่เฌอปรางส่ายหน้าปฏิเสธ“หนูไม่เป็นไรหรอกค่ะป้า แต่พ่อเลี้ยงบาดเจ็บ เลือดพ่อเลี้ยงออกมาเยอะมาก หนู... หนูกลัวว่าพ่อเลี้ยงจะตาย...” เด็กสาวร้องไห้สะอึกสะอื้น“พ่อเลี้ยงเข้มแข็งมาแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ ไม่มีทางยอมตายกะอีแค่มีดแทงหรอกค่ะ เชื่อป้านะคะ ไปทำแผลที่หัวก่อน ถ้าพ่อเลี้ยงรู้เข้าว่าหนูปรางไม่ยอมดูแลตัวเอง พ่อเลี้ยงจะโกรธเอานะคะ”“แต่หนูเป็นห่วงพ่อเลี้ยง... หนูอยากรอดูให้มั่นใจก่อนว่าพ่อเลี้ยงจะปลอดภัย...”“ทำแผลที่หัวนิดเดียวค่ะ และก็แป๊บเดียวด้วย ยังไงก็เสร็จก่อนที่พ่อเลี้ยงจะผ่าตัดเสร็จอยู่แล้วค่ะ”เฌอปรางลังเลอยู่เล็กน้อย“นะคะ เชื่อป้าเถอะ ถ้าหนูปรางไม่สบายไปจะทำยังไงคะ อย่าลืมสิคะว่าตอนนี้ในท้องหนูปรางมีลูกของพ่อเลี้ยงอยู่ด้วยนะคะ”“ลูก...”มือเล
ณิชาหัวเราะราวกับคนบ้า จากนั้นก็จิกหัวของเฌอปรางแรงๆ ลากลงมาจากรถ ซึ่งก็ทำให้คนที่สลบไสลอยู่ได้สติ“มึงฟื้นแล้วเหรอ อีเด็กบ้า”“คุณณิชา...” เฌอปรางตกใจมาก หน้าตาซีดเผือด และก็พยายามลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหล่อนกับเคลวินกำลังขับรถกลับไร่ แต่จู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนนั้นวิ่งตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด ทำให้รถเสียหลักชนเข้ากับต้นไม้ และหล่อนก็สลบไปหล่อนไม่ตาย แล้วเคลวินล่ะ...?“พ่อเลี้ยง... พ่อเลี้ยงอยู่ไหนคะ พ่อเลี้ยงไม่เป็นอะไรใช่ไหม พ่อเลี้ยง”“ฉันอยู่นี่เฌอปราง”เฌอปรางหันไปเห็นว่าเคลวินปลอดภัยหล่อนก็ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา“หนูดีใจที่พ่อเลี้ยงปลอดภัย”เคลวินได้ยินได้เห็นความห่วงใยที่เฌอปรางมีให้ตนเอง เขาก็ยิ่งรู้สึกละอายใจยิ่งนัก ที่ปกป้องหล่อนไม่ได้“ณิชา... ปล่อยเฌอปรางไป แล้วคุณมาจัดการผมนี่ ผมจะไม่ต่อสู้คุณเด็ดขาด ผมสัญญา...”“ไม่นะคะพ่อเลี้ยง... อย่าพูดแบบนี้นะคะ” เฌอปรางร้องไห้ออกมา และพยายามวิงวอนคนที่เอามีดจี้คอของตนเองอยู่ “คุณณิชา... หนูผิดเองค่ะ ผิดเองทุกอย่าง หนูรักพ่อเลี้ยง แอบรักพ่อเลี้ยงมานาน ก็เลย... ใช้โอกาสที่พ่อเลี้ยงเลิกกับคุณณิชา เข้าหาพ่อเลี้ยงค่ะ ดังนั้นถ้าเรื่องนี้จะมีคนผ
หลังจากเลือกซื้อข้าวของเด็กอ่อนเสร็จแล้ว เคลวินก็พาหล่อนเข้าร้านเพชรร้านเดิม แต่หนนี้ทุกอย่างแตกต่างไปจากเดิม เพราะเขาบังคับให้หล่อนรับแหวนเพชรเม็ดโต พอหล่อนอึกอักปฏิเสธ เขาก็ดึงนิ้วนางข้างซ้ายขึ้นมาและสวมแหวนให้ทันที“ห้ามถอดออกเด็ดขาดนะเด็กน้อย” เขาพูดเสียงนุ่มแต่เต็มไปด้วยความเผด็จการหล่อนอมยิ้มหวาน และก็ตอบรับเขาด้วยการผงกศีรษะขึ้นลงเล็กน้อยหลังจากนั้นเขาก็พาหล่อนกินข้าวกลางวัน สั่งให้หล่อนกินยาบำรุงครรภ์ที่หมอจ่ายมาให้ และก่อนกลับบ้านก็แวะร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้ออาหารบำรุงสำหรับคนท้องมาจนเต็มรถ“ทีนี้ก็กลับบ้านได้แล้ว”เขาอมยิ้ม ดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดทับลำตัว จากนั้นก็เคลื่อนรถกลับขึ้นไปวิ่งบนท้องถนนอีกครั้งเฌอปรางนั่งอยู่ในแอ่งแห่งความสุข แต่กระนั้นก็ยังมีคำถามค้างคาใจติดอยู่“พ่อเลี้ยงคะ”“ว่าไง” คนที่ขับรถอยู่เอ่ยถาม“คือ...”“มีอะไรก็ว่ามาสิ” เขาเห็นหล่อนอึกอักก็เร่งเร้าให้พูด“หนู... หนูอยากรู้ว่า...”“อยากรู้อะไรก็ถามมาสิ”“พ่อเลี้ยงรู้ใช่ไหมคะว่าหนู... เอ่อ... รักพ่อเลี้ยง”หล่อนเห็นเขาอมยิ้ม และก็หันมามองหล่อนเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปจ้องถนนเช่นเดิม“รู้สิ ฉันไม่ได้ตาบอดสั
“แล้วถ้าพ่อเลี้ยงรักหนูไม่ได้ล่ะคะ”“มันไม่มีวันนั้นหรอก”“ทำไมพ่อเลี้ยงถึงมั่นใจนักล่ะคะว่าจะรักหนูได้”เคลวินอยากจะกระชากแม่เด็กสาวช่างถามเข้ามาจูบปิดปากเสียให้รู้แล้วรู้รอด นี่หล่อนต้องการให้เขาสารภาพออกไปเลยหรือไงว่าตอนนี้เขารักหล่อนเรียบร้อยแล้วบ้าจริง...เขาไม่กล้าสารภาพออกไปหรอก ให้เฌอปรางรับรู้ถึงความรักของเขาผ่านการกระทำดีกว่า“เป็นเด็กเป็นเล็กอย่ามาซักไซ้ผู้ใหญ่นักเลย นั่งอยู่ตรงนี้ห้ามไปไหนนะ ฉันไปจ่ายเงินก่อน” คนตัวโตได้จังหวะหลบเลี่ยงในที่สุด“ถึงพ่อเลี้ยงจะใจดีกับหนูมากกว่าเมื่อก่อน แต่หนูก็ยังต้องการให้พ่อเลี้ยงรักหนู... เหมือนที่หนูรักพ่อเลี้ยง...” เฌอปรางมองตามร่างสูงใหญ่ของเคลวินที่เดินไปยังเคาน์เตอร์คิดเงินด้วยสายตาตัดพ้อน้อยใจหล่อนนั่งเศร้าอยู่สักพักเคลวินก็เดินกลับมา พร้อมกับถุงใส่ยาที่คุณหมอจ่ายให้สำหรับหญิงตั้งครรภ์“กลับกันเถอะ”รอยยิ้มอบอุ่นของเขาทำให้หล่อนตัดสินใจวางมือเล็กลงในอุ้งมือใหญ่ที่ยื่นมาตรงหน้าอุ้งมือของเขาอบอุ่นเหลือเกิน และมันก็ทำให้หล่อนรู้สึกปลอดภัยยิ่งนัก“ค่อยๆ เดินนะ มาฉันประคอง”“หนูเดินได้ค่ะพ่อเลี้ยง”“ก็บอกแล้วไงอย่าดื้อ... เดินดีๆ ค่อ
“เสียใจไหมที่เรายังจดทะเบียนสมรสกันไม่ได้”คนตัวโตหยุดเดิน ยืนข้างรถ และดึงมือเล็กของหล่อนมากุมเอาไว้ ดวงตาคมเข้มจ้องมองดวงหน้าของหล่อน บอกให้รู้ว่าไม่ค่อยสบายใจนัก“ไม่เสียใจหรอกค่ะ”“ดีมาก” เขายกมือขึ้นลูบศีรษะของหล่อนแผ่วเบา ก่อนจะดึงเข้าไปกอดแนบอก เสียงหัวใจของเขาเต้นอยู่ใต้ใบหูของหล่อน เฌอปรางระบายยิ้มออกมาอย่างมีความสุข“ฉันสัญญาว่าถ้าเธออายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์เมื่อไหร่ ฉันจะรีบพาเธอมาจดทะเบียนสมรสทันที” เขาหยุดพูดเล็กน้อย ก่อนจะดันร่างของหล่อนออกห่าง จ้องลึกเข้ามาในดวงตาของหล่อน “ว่าแต่เมื่อไหร่จะครบยี่สิบปีเต็มกันล่ะ หนึ่งปีกับกี่เดือนหรือ”“เอ่อ... หนึ่งปีกับอีกสิบเดือนค่ะ”“เฮ้อ นานจัง นี่ฉันมีเมียเด็กมากจริงๆ สินะ” ว่าแล้วเขาก็อมยิ้ม และดึงหล่อนเข้าไปกอดอีกครั้ง “แล้วฉันก็แก่ว่าเธอมากเสียด้วย หวังว่าเธอจะไม่นอกใจฉันไปหาเด็กหนุ่มๆ รุ่นราวคราวเดียวกันหรอกนะ เฌอปราง”“พ่อเลี้ยงต่างหากล่ะคะ พอเบื่อหนูแล้วก็จะทิ้งหนู ไล่หนูออกจากไร่เหมือนเดิม”เขาขยับตัวออกห่าง ก้มลงมามองดวงหน้านวลของเฌอปราง ก่อนจะจูบปากอิ่มเบาๆ“ไม่มีทางมีวันนั้นหรอก ฉันหลงเธอจะตายไป”ก็แค่หลง...เฌอปรางต่อคำพู
ป้าปราณีอมยิ้มเมื่อเห็นหล่อนเดินเคียงคู่มากับเคลวิน ซึ่งก็ทำให้หล่อนอดที่จะเสหลบสายตาด้วยความขัดเขินไม่ได้“ตั้งโต๊ะเลยครับป้า”“วันนี้พ่อเลี้ยงยิ้มแย้มต่างไปจากทุกวันเลยนะคะ” ป้าปราณีหันไปสั่งจิตกับแจ่มให้ตั้งโต๊ะแล้วก็อดที่จะแซวเคลวินที่เพิ่งจะเลื่อนเก้าอี้ให้เฌอปรางนั่งไม่ได้เคลวินหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะดึงมือเล็กบนตักมากุมเอาไว้“ผู้ชายเวลามีเมียเด็กก็อารมณ์ดีประมาณผมทุกคนแหละครับ”หล่อนได้ยินคำตอบของเคลวินก็ยิ่งเอียงอาย แต่ทันทีที่จิตกับแจ่มยกอาหารมาตั้งบนโต๊ะ และกลิ่นอาหารหน้าตาดีโชยเข้ามาในจมูกเท่านั้น ความวิงเวียนพะอืดพะอมก็ตีตื้นขึ้นมากระจุกรออยู่ที่ลำคอ มือเล็กยกขึ้นปิดปาก“เป็นอะไรไปเฌอปราง ไม่สบายหรือ”หล่อนไม่อาจจะตอบความสงสัยของเคลวินได้ เพราะต้องรีบพุ่งตัวไปห้องน้ำให้ทันเวลาเสียงโอ้กอ้ากของเด็กสาวดังมาเข้าหูเคลวิน เขาลุกขึ้นยืนจะเดินเข้าไปดู แต่ป้าปราณีห้ามเอาไว้เสียก่อน จากนั้นก็สั่งให้จิตเข้าไปดูเฌอปรางแทน“จิต เอ็งเข้าไปดูหนูปรางหน่อย”“จ้ะ ป้า”“ส่วนเอ็งก็ไปยกน้ำส้มมาให้หนูปราง นังแจ่ม”“จ้ะป้า”สองสาวใช้หายกันไปคนละทิศละทางแล้ว ป้าปราณีก็มองหน้าเคลวินและ
เฌอปรางกำลังจะเลี้ยวเข้าเรือนพักคนงาน แต่ก็ต้องชะงักกึก เมื่อเคลวินปรากฏตัวตรงหน้าเสียก่อน เรือนกายล่ำสันในชุดทำงานและสวมหมวกปีกกว้างเดินเข้ามาหา“เอ่อ...”“เมื่อคืนฉันก็ทำโทษเธอทั้งคืนแล้ว ยังไม่เข็ดอีกหรือเฌอปราง”“หนู... แค่มาเอากระเป๋าค่ะ”“ไม่ต้อง เดี๋ยวให้คนงานยกไปให้” เขาก้าวเข้ามาใกล้จนหล่อนขยับถอยหลังหนีไม่ทัน ดวงตาของเขาที่จ้องมองมา มันทำให้หล่อนอดนึกถึงเรื่องร้อนฉ่าเมื่อคืนนี้ไม่ได้“กลับเข้าบ้านด้วยกัน ฉันหิวแล้ว”“หิว...?”เขาอมยิ้มเมื่อเห็นเด็กสาวตีความหมายของคำพูดไปไกลกว่าที่เป็นจริง“ฉันยังไม่ได้กินมื้อเช้าเลย” เขาจ้องหน้าหล่อน “เพราะรอเด็กขี้เซาคนหนึ่งตื่นน่ะ”“เอ่อ... หนูเหรอคะ”เขายกมือขึ้นยีเส้นผมนุ่มให้ยุ่งมากกว่าเดิม จากนั้นก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ดอมดมกลิ่นหอมละมุนด้วยปลายจมูกอย่างอดใจไม่ไหว เฌอปรางหน้าแดงระเรื่อ“พ่อ... พ่อเลี้ยงคะ เดี๋ยวใครมาเห็นค่ะ”เขาจำต้องตัดใจเงยหน้าออกห่างร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่น จากนั้นก็กุมข้อมือเล็กให้เดินเคียงข้างไปด้วยกันเฌอปรางอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองเขา มองคนตัวโตที่มีพลังทางเพศสูงลิบอย่างเคลวินด้วยความรักหล่อนจะได้เดินเคียงข้างเขาอ