วิวาห์(ไม่)ไร้รักWriter : Aile'Nบทนำ"เมื่อไหร่แกจะแต่งงานฮะเจ้าธันย์ จะให้ฉันต้องถามไปจนถึงเมื่อไหร่" ทันทีที่เห็นลูกชายเพียงคนเดียวเดินเข้าบ้านมาเสียงผู้นำครอบครัวก็ขัดจังหวะการก้าวเดินของร่างสูงนั้นให้หยุดชะงัก"แล้วเมื่อไหร่พ่อจะเลิกบังคับผมเรื่องแต่งงานสักทีครับ อยากแต่งเมื่อไหร่เดี๋ยวผมก็แต่งเองนั่นแหละ" ร่างแกร่งหยุดเผชิญหน้ากับบิดาอย่างจำใจ ใบหน้าคมที่เคยมีร่องรอยของอารมณ์สุนทรีย์เลือนหายไปตั้งแต่ได้ยินเสียงทัก เหลือไว้แต่เพียงความยุ่งเหยิง เพราะคนเป็นพ่อเอาแต่พูดเรื่องเดิมซ้ำๆ แทบจะทุกครั้งที่เห็นหน้าเขา"แล้วมันเมื่อไหร่? แม่แกจะตายวันตายพรุ่งเคยโผล่หัวไปดูบ้างมั้ย ฉันอุตส่าห์ปล่อยให้แกเลือกเมียได้ตามใจแล้วนะ อย่าให้ต้องบังคับ! ""ขู่ตลอดอ่ะ ก็ให้เวลาผมหน่อยดิ เมียดีๆ ใช่จะหาได้ง่ายๆ เสียเมื่อไหร่" วรธันย์ถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่ายเมื่อได้ยินคำขู่นับครั้งไม่ถ้วน เริ่มตั้งแต่เขาอายุย่างเข้าเลขสามจนตอนนี้สามสิบห้าปีเข้าไปแล้ว ก็นับว่าได้ยินมาตลอดห้าปี ตอนนี้เลยเบื่อที่จะฟังเต็มที"แกไม่หาเองมากกว่ามั้ง ฉันให้เวลาแกมามากพอแล้ว ภายในเดือนนี้ถ้ายังเอ้อระเหยอยู่แบบนี้ ฉันนี
วิวาห์(ไม่)ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 1"คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ แต่หมอต้องขอดูอาการอย่างใกล้ชิดอีกสักวันสองวัน ถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อนก็ย้ายไปห้องพักฟื้นปกติได้" เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง.. ในที่สุดคนรอก็ได้รับข่าวดีอย่างที่ใจหวัง ทำเอาเก็บอาการดีใจไว้ไม่อยู่รีบเข้าไปยกมือไหว้คนที่ช่วยชีวิตบุคคลอันเป็นที่รักของพวกเธอเสียยกใหญ่"ขอบคุณค่ะคุณหมอ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ""คนที่พวกคุณควรขอบคุณไม่ใช่หมอหรอกครับ ขอตัวก่อนนะครับ" คุณหมอบอกก่อนยกยิ้มบางๆ ขณะมองไปที่ชายอีกคนที่ยังไม่หนีไปไหน อยู่ติดตามอาการคนป่วยจนการผ่าตัดสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีเมื่อหมดหน้าที่บุรุษชุดกาวน์ก็ขอตัวออกไป สองแม่ลูกจึงตั้งสติและพากันเดินมาหาผู้มีพระคุณด้วยความตื้นตันใจ ทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้จักกัน ค่าผ่าตัดก็ไม่ใช่ถูกๆ แต่ใครคนนั้นก็ยังยอมช่วยเหลือทุกสิ่งอย่างจนไม่รู้จะตอบแทนยังไงหมดในชาตินี้"คุณคะ.. ฉันกับลูกขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ช่วยพวกเราไว้ ทั้งที่ไม่รู้จักกันเลยแท้ๆ แต่คุณช่วยพวกเราถึงขนาดนี้ ฉันกับลูกซาบซึ้งมากจนไม่รู้จะตอบแทนยังไง มีอะไรที่พวกเราจะตอบแทนได้บ้างมั้ยคะ พวกเรายินดี" อรนภาพูดขณะยกมือไหว้ร่างสูงนั้นทั้งน้ำตานองหน้
วิวาห์(ไม่)ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 2ก่อนจะถึงหกโมงเย็นตามนัดที่เจ้าของบ้านบอกไว้รินลดาก็อาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดใหม่ที่ถูกซื้อมาแขวนไว้ให้ในตู้เสื้อผ้า ตอนแรกเธอไม่ได้คิดจะหยิบออกมาใส่เลยเพราะมองแค่เผินๆ ก็พอจะเดาราคาได้ว่าต้องแพงมากแน่ๆ เลยกะจะใส่เสื้อผ้าชุดเดิมของตนที่ขนมาจากบ้าน แต่ทว่าเสื้อผ้าของเธอมีแต่ชุดธรรมดาราคาถูก อย่าว่าแต่จะใส่ไปพบหน้าว่าที่สามีเลย ให้ใส่อยู่ในส่วนไหนของบ้านหลังนี้มันก็ดูไม่ได้ทั้งนั้นสุดท้ายรินลดาก็เลยต้องจำใจหยิบชุดใหม่ที่คุณนาฏยาซื้อให้มาใส่ และเฝ้ารอใครสักคนมาเรียกด้วยความตื่นเต้นชนิดที่ว่านั่งก้นไม่ติดพื้น เทียวลุกเดินไปส่องกระจกบานใหญ่ตรงห้องแต่งตัวซ้ำแล้วซ้ำแล้ว แต่ถึงภาพที่ปรากฏอยู่ในกระจกจะเป็นที่น่าพึงพอใจแค่ไหนเธอก็ยังรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองอยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ทำให้เป็นกังวลที่สุดก็คือว่าที่สามี.. ไม่รู้ว่าวรธันย์จะเป็นคนแบบไหน และเขาจะรับได้ไหมถ้ารู้ว่าเธอเป็นแค่ลูกสาวพ่อค้าแม่ค้าธรรมดาๆ เท่านั้นก๊อกๆ "คุณหญิงคะ คุณผู้หญิงให้มาตามค่ะ" เวลาหกโมงเย็นนิดๆ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นก่อนที่น้ำเสียงสุภาพอ่อนหวานของใครสักคนจะดังตามหลังมา คน
วิวาห์(ไม่)ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 3"เฮ้ยๆ ใจเย็นไอ้เสือ มึงจะเมาตั้งแต่สองทุ่มไม่ได้นะเว้ย"'ภาค' หนุ่มตำรวจจากกรมสืบสวนคดีพิเศษหรือที่เรียกสั้นๆ ว่าดีเอสไอทักขึ้นเสียงหลง เมื่อเห็นเพื่อนสนิทที่กอดคอถือหาง (?) กันมาตั้งแต่สมัยเรียน ม.ต้น ยกแก้วน้ำสีอำพันขึ้นดื่มเอาๆ ราวกับอดอยากปากแห้งมานมนานทั้งที่คนอย่าง 'วรธันย์ อินทรเกษมกุล' ทายาทจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง 'อินทรเกษมกุล กรุ๊ป' ผู้ผลิตและพัฒนาซอฟแวร์อันดับหนึ่งของประเทศไม่น่าจะห่างหายจากเรื่องพวกนี้ได้"เออ เป็นไรวะ มาถึงก็ดื่มเอาๆ หน้าบูดเหมือนตูดไอ้อ้วนเลยเนี่ย"'อาทิตย์' คู่หูรวมอาชีพของภาคผสมโรงมองงงใส่ร่างสูงอีกคน ต่างกันตรงที่เขาถูกเจ้าตัวตวัดตามองเคืองใส่หลังพูดจบเพราะดันไปเปรียบเทียบหน้าคนกับก้นหมาที่บ้านใส่กัน แต่เขาก็ได้ใส่ใจสายตาเชือดเฉือนคู่นั้น แถมยิ้มเย้ยกลับไปอีกต่างหาก"มึงก็พูดไป กูว่าตูดไอ้อ้วนยังดูดีกว่าหน้าไอ้ธันย์ตอนนี้เลยว่ะ ฮ่าๆ " ภาคแย้งขึ้น อดไม่ได้ต้องระเบิดหัวเราะร่าไปทีเพราะชอบอกชอบใจกับคำเปรียบเปรยของตนเอง ไม่ต่างจากอาทิตย์ที่รีบยกมือขึ้นแท็คทีมกันอย่างออกนอกหน้า แล้วก็พากันขำเอิ้กอ้ากต่อไป ฝ่ายจำเ
วิวาห์(ไม่)ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 4เมื่อทานอาหารเช้าร่วมกับคุณสุรศักดิ์และคุณนาฏยาแล้ว รินลดาก็กลับขึ้นห้องเพื่อแต่งตัวใหม่เป็นชุดนักศึกษาเนื่องจากมีเรียนตอนสิบโมง เมื่อเรียบร้อยก็กลับลงมาไหว้ลาคนทั้งสอง เธอเผื่อเวลาเดินทางไว้มากโขเพราะเมื่อวานได้สังเกตลู่ทางไว้แล้วพบว่าป้ายรอรถประจำทางอยู่ตรงหน้าปากซอย ต้องเดินเท้าออกไปค่อนข้างไกล เธอเตรียมตัวพร้อมทุกอย่างทั้งร่มแบบพกพาไว้กางกันแดดและสวมรองเท้าผ้าใบเพื่อที่จะได้เดินสบายเท้า แต่พอคุณสุรศักดิ์และคุณหญิงรู้เข้าก็พร้อมใจกันรีบเบรกความตั้งใจของเธอ และสั่งให้คนขับรถถอยรถยนต์คันหรูมารับถึงหน้าประตูบ้านร่างบางได้แต่ยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก ครั้นจะแย้งว่าเธอเดินทางไปเรียนเองได้ก็ถูกมือบางของว่าที่แม่สามีดันหลังให้ขึ้นไปนั่งแหมะอยู่บนรถและลุงคนขับรถก็รีบออกตัวอย่างว่องไวราวกับแท็กทีมกันมัดมือชกให้เธอต้องจำยอม..การเดินทางมามหาวิทยาลัยของรินลดาในวันนี้ดูจะกลายเป็นที่สนใจของผู้คนที่พบเห็นไม่ใช่น้อย เธอไม่ใช่คนดังแต่เพราะรถยนต์สัญชาติอังกฤษราคาแพงที่น้อยคนนักจะกล้าซื้อมาขับกำลังทำให้เธอกลายเป็นจุดเด่น ซ้ำ 'ลุงพร' คนขับรถของคุณท่านทั้งสองยังไม
วิวาห์(ไม่)ไร้รัก Writer : Aile'N ตอนที่ 5 "กลับมาแล้วหรอลูก"กว่าจะช่วยพ่อกับแม่ขายของรวมเก็บร้านจนเสร็จและเดินทางกลับมาถึงบ้านอินทรเกษมกุลก็ปาไปสามทุ่มกว่าจวนจะสี่ทุ่มในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า แต่คนที่กำลังเดินลากเท้าด้วยความเหนื่อยล้ากลับต้องแปลกใจที่ภายในบ้านอันเงียบสงบมีร่างหนึ่งของสตรีวัยกลางคนกำลังนั่งรอการกลับมาของเธออยู่ที่โซฟารับแขก"คุณหญิง...เอ่อ คุณแม่ทำไมยังไม่เข้านอนอีกล่ะคะ" เสียงหวานเอ่ยถามอย่างเป็นกังวล ไม่ทันที่อีกฝ่ายจะเดินเข้ามาหาคนถามก็รีบสาวเท้ายาวๆ เข้าไปหาอย่างรีบร้อนเสียเอง"ยังจ้ะ แม่แค่รู้สึก...เป็นห่วงหนูนิดหน่อยน่ะ กลับมืดค่ำ แล้วดูสิเนี่ย เหนื่อยมากเลยใช่มั้ยหื้ม? " คุณหญิงนาฏยายกยิ้มอ่อนพลางเอื้อมมือมาลูบแก้มใสแผ่วเบา ดวงตาคู่สวยมองสำรวจร่างกายบางๆ นั้นอย่างละเอียด ยิ่งเห็นเด็กสาวมีท่าทีเหนื่อยล้าเธอก็ยิ่งสงสารและเห็นใจ วันนี้อากาศดูจะร้อนกว่าทุกวันอีกฝ่ายเลยเหงื่อโทรมกายเสียขนาดนี้"นิดหน่อยค่ะ แต่หนูชินแล้ว" ร่างบางยกยิ้มอย่างภาคภูมิใจ เพราะถึงจะเหนื่อยก็เหนื่อยเพราะทำเพื่อพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด ซึ่งกว่าที่ท่านทั้งสองจะเลี้ยงดูให้เธอเติบโตมาได้ถึงยี่สิบก
วิวาห์(ไม่)ไร้รัก Writer : Aile'N ตอนที่ 6"หลีกไป ฉันจะเข้า! "ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่เกวลินมา 'พิมผกา' ผู้เป็นเลขาของท่านประธานก็ไม่สามารถรั้งหล่อนให้หยุดรอหน้าห้องได้เลยสักครั้ง เช่นเดียวกับวันนี้ที่เจ้าหล่อนไม่รู้ไปกินรังแตนมาจากไหนถึงได้เดินหน้าบึ้งมาแต่ไกล มาถึงก็ใช้แรงไม่น้อยผลักเธอออกไปให้พ้นทางจนเสียหลักล้มลุกคลุกคลานไปกับพื้นด้วยตั้งตัวไม่ทัน ไม่แม้แต่จะชายตามองให้เสียเวลาร่างเพรียวนั้นก็กระชากประตูห้องท่านประธานเปิดออกและปิดเสียงดังจนเจ้าของห้องที่นั่งทำงานอยู่ยังสะดุ้งด้วยความตกใจ นัยน์ตาคมปราดมองผู้บุกรุกอย่างไม่พอใจ กำลังจะเอ่ยปากตักเตือนก็เป็นอันต้องเงียบไปเมื่อได้เห็นสีหน้าท่าทางของอีกฝ่าย"นี่มันหมายความว่ายังไงคะธันย์! ? " น้ำเสียงเล็กแหลมตะคอกถามพร้อมกับยื่นโทรศัพท์เครื่องหรูที่กำแน่นมาตลอดทางไปให้ร่างสูงดูจนเกือบจะกระแทกหน้า"คุณไปแอบมีคู่หมั้นตั้งแต่เมื่อไรคะ แล้วเกวล่ะ คุณเห็นเกวเป็นอะไร! " ร่างเพรียวเอ่ยตัดพ้อเสียงเครือแสร้งน้ำตาคลอในขณะที่ดวงตาคมยังคงไล่อ่านเนื้อหาที่อยู่บนหน้าจอโดยไม่พูดอะไร เมื่ออ่านจบก็พลันนิ่งไปนิด..ปกติข่าวพวกซุบซิบนินทาดาราคนดังเทือกนี้วรธ
วิวาห์(ไม่)ไร้รัก Writer : Aile'N ตอนที่ 7'หนูหญิงคือคู่หมั้นและว่าที่สะใภ้บ้านเราในอนาคตอันใกล้ ส่วนคนอื่นไม่รู้ค่ะ อาจจะเป็นแค่คู่ควงหรือคู่ขาที่มีไว้แก้เหงา...ทำนองนั้น เพราะถ้ารักกันจริงลูกชายดิฉันคงพาเข้าบ้านมาไหว้พ่อแม่นานแล้ว...'เมื่อคลิปสัมภาษณ์ที่สามสาวนำมายัดเยียดให้ดูรันจนจบ ประโยคหนึ่งที่คนในคลิปพูดกับรินลดาไว้เมื่อวานก็ผุดขึ้นมาในหัวแทบจะทันที...'ถ้าหนูคิดมากเรื่องข่าวที่ผู้หญิงคนนั้นจงใจสร้างขึ้นล่ะก็ ไม่ต้องคิดหรอกจ้ะ พรุ่งนี้ก็เงียบ..'แบบนี้นี่เอง...เพราะคุณหญิงนาฏยารู้ว่างานสังคมที่กำลังจะไปร่วมในตอนหัวค่ำจะต้องถูกสื่อทุกสำนักรุมถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เธอจึงพูดเป็นนัยแบบนั้นออกมา ทั้งคุณหญิงและคุณสุรศักดิ์ต่างให้สัมภาษณ์เอนเอียงมาทางเธออย่างไม่ไว้หน้าใคร ตอบชัดตอบตรงทุกประเด็นจนบรรดานักข่าวหมดข้อสงสัยไปอย่างรวดเร็วเช้าวันนี้บรรยากาศของผู้รอบข้างจึงเปลี่ยนไปอีกหน กระแสตีกลับไปกลับมาจนตามไม่ทัน เธออุตส่าห์ทำเฉยไม่อยากยุ่งให้วุ่นวาย แต่แม่สามสาว ฟิล์ม บี ต้นอ้อ ก็ช่างหวังดีหรืออยากรู้อยากเห็นก็ไม่แน่ใจ ชอบเอาข่าวมาให้ดูและซักไซ้ไล่เรียงถามราวกับซ้อมเป็นรักข่าวก็ไ
วิวาห์(ไม่)ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 16ตากลมเหล่มองผู้ร่วมโดยสารลิฟต์หลายต่อหลายครั้งอย่างไม่เข้าใจ อีกฝ่ายเอาแต่ยืนนิ่งทำหน้าทะมึนเหมือนจะไปฆ่าใครตาย ไอเย็นที่แผ่ออกมาสร้างความกดดันในพื้นที่คับแคบอย่างห้องโดยสารลิฟต์อย่างมหาศาลจนร่างบางแทบจะหายใจไม่ออก เขากำลังโกรธอันนี้เธอแน่ใจ แต่โกรธเรื่องอะไร?...เรื่องที่เธอไปเพ่นพ่านชั้นอื่น? เธอไปเพราะเรื่องงานนะ ไม่ได้หนีเที่ยวเล่นสักหน่อยหรือจะโกรธเรื่องอื่น?แล้ว...มันเรื่องอะไรกันเล่า"คุณ...โกรธฉันหรอคะ" จนแล้วจนเล่ารินลดาก็นึกไม่ออกว่าจริงๆ แล้ววรธันย์โกรธเธอเรื่องอะไรกันแน่ เมื่อคิดไม่ออกก็เลยตัดสินใจถามออกไปเสียเลย"ฉันไปเพราะเรื่องงานนะคะ ไม่ได้หนีเที่ยว" เสียงหวานพยายามแก้ต่างเมื่อร่างสูงไม่ยอมตอบคำถามก่อนหน้า ทำเพียงปรายตามองด้วยสายตาเรียบนิ่ง ให้ตาย...เธอเคยเจอแต่ตอนที่เขาโกรธแล้วโวยวาย ไม่เคยเจอโกรธแล้วเงียบแบบนี้มาก่อน"เอ่อ...ขอโทษด้วยนะคะ ถ้าเกิดว่าทำให้คุณไม่พอใจ" พออีกฝ่ายเอาแต่นิ่งเงียบ เธอก็จนปัญญาที่จะเซ้าซี้เอาคำตอบ สุดท้ายก็เลือกที่จะเอ่ยขอโทษทั้งที่ไม่รู้ว่าผิดอะไรออกไปแทน"พี่! " "คะ? " คำแรกที่ร่างสูงกระแทกเสีย
วิวาห์(ไม่)ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 15ในตอนนี้...รินลดากำลังยืนเคว้งอยู่กลางห้องชุดสุดหรูของว่าที่สามีอย่างคนไม่รู้จะทำยังไงต่อไป คอนโดของท่านประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ดูเบาไม่ได้เลยจริงๆ นอกจากความกว้างขวางหรูหราแล้วยังแบ่งแยกสัดส่วนได้เหมือนกับยกบ้านทั้งหลังมาไว้ที่นี่ ความอลังการนี้ทำให้ทั้งชั้นมีเพียงสองห้องเท่านั้น อีกห้องหนึ่งเป็นของอดีตท่านประธานซึ่งก็คือคุณสุรศักดิ์ที่ทุ่มเงินซื้อเอาไว้ตั้งแต่สำนักงานขายยังไม่ทันเปิดให้จอง นานๆ ทีท่านจะมาพักบ้างเป็นบางครั้ง ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครอยู่ ชั้นนี้จึงมีความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวสูงมากๆ"เดี๋ยวพาไปดูห้องนอน" คนเหม่อได้สติในตอนที่เจ้าของห้องเดินมาบอก ก่อนที่เขาจะเดินนำไปที่ห้องนอนสองห้องที่อยู่ติดกันและเดินไปหยุดอยู่ที่ประตูห้องฝั่งซ้ายมือ"เธอพักห้องนี้ ส่วนข้างๆ นั่นห้องฉัน ขาดเหลืออะไรก็บอก ไม่ต้องเกรงใจ" วรธันย์ทำตัวเป็นเจ้าของบ้านที่ดี แม้จะมีผู้มาอาศัยร่วมกันทั้งที่ไม่เคยมีมาก่อนเขาก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด"ไปอาบน้ำเถอะ แล้วออกมาทานข้าว" ร่างบางพยักหน้ารับคำ ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกย้ายกันเข้าห้อง ระหว่างนั้นเจ้าบ้านก็โทรสั่งอาหารไว
วิวาห์(ไม่)ไร้รัก Writer : Aile'N ตอนที่ 14"หื้ม? เป็นอะไรหรือเปล่าลูก ไม่สบายหรอคะ หน้าแดงๆ " คุณหญิงนาฏยาเอ่ยถามว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยน้ำเสียงอาทรห่วงใย นึกสงสัยว่าก่อนหน้านี้ยังเห็นอีกฝ่ายดีๆ อยู่เลย แต่หลังกลับจากไปตักอาหารกับเจ้าลูกชายไหงนั่งเงียบแก้มแดงปลั่งขนาดนี้ไปเสียได้"อะ เอ่อ หนู...ร้อนน่ะค่ะ" พอถูกทักกะทันหัน ใครคนนั้นก็ลนลานเลิกลั่ก กอปรกับยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่ไม่มีอยู่จริงอย่างมีพิรุธคนฟังหรี่ตาจับผิดตามสัญชาตญาณแต่ไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อ เพียงเหลือบตามองลูกชายที่ดูจะมีบรรยากาศรอบๆ ตัวเปลี่ยนไปเล็กน้อย ริมฝีปากหยักคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มแปลกๆ หรือว่า...ระหว่างที่หายไปด้วยกันจะมีอะไรเกิดขึ้น?"แม่ว่าแอร์ก็เย็นอยู่นะ เอ...หรือว่าเป็นอาการคนเขิน พี่ธันย์ทำหรือพูดอะไรให้เขินหรือเปล่าจ๊ะเนี่ย" คำถามลอยๆ เหมือนคนรู้ทันทำคนฟังลมหายใจสะดุด คล้ายคนทำผิดกำลังจะถูกจับได้ เพียงแต่เธอไม่ได้ทำอะไรไม่ดีเสียหน่อย ก็แค่รู้สึกหน้าร้อนแปลกๆ ตอนได้ยินร่างสูงแทนตัวเองว่า 'พี่' ก็เท่านั้น...คนถูกไล่ต้อนมัวแต่อ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบอะไร กระทั่งมีคนรู้จักมาชวนว่าที่แม่สามีไปทักทายเพื่อนๆ กลุ่มใหม่แล้ว
วิวาห์(ไม่)ไร้รัก Writer : Aile'N ตอนที่ 13ตั้งแต่แยกกันที่ร้านอาหารเมื่อวานรินลดาก็ไม่ได้เจอกับวรธันย์อีกเลยจนถึงตอนนี้ เขาไม่ได้กลับมานอนบ้านและเธอก็ได้ลุงพรเป็นสารถีขับรถรับส่งในวันนี้ เธอไม่คิดถามใครและก็ไม่มีใครบอกว่าเขาไปไหน ติดธุระอะไร ได้แต่เก็บความสงสัยและไม่พอใจลึกๆ เอาไว้ในใจ..."พี่ธันย์เขามีประชุมตั้งแต่เช้าตลอดทั้งวัน แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะจ๊ะ พี่เขากลับมาทันแน่นอน" คล้ายว่าแม่สามีจะรู้อะไรแม้กระทั่งความคิดตน จู่ๆ ท่านก็พูดขึ้นมาในตอนที่กำลังนั่งเฉิดฉายให้ช่างแต่งหน้าส่วนตัวสะบัดแปรงไปมาทั่วใบหน้า คนฟังเงยหน้าขึ้นสบตาอีกฝ่ายผ่านกระจกบานใหญ่ ไม่ได้ตอบอะไร เพียงยิ้มบางและพยักหน้ารับรู้เท่านั้นใช้เวลาร่วมชั่วโมงคุณหญิงก็แต่งหน้าทำผมเสร็จ ลุคสวยเปรี้ยวไม่เกรงใจอายุทำร่างบางจ้องมองอย่างตื่นเต้น ดูท่างานที่ไปจะไม่ธรรมดาจริงๆ เธอถึงมีโอกาสได้เห็นแม่สามีในลุคที่ฉีกจากเดิมออกไปไกลเสียขนาดนี้"จินนี่...เอาให้สวยที่สุดในงาน! " คำสั่งเฉียบขาดที่ถ่ายทอดไปยังช่างประจำตัวทำรินลดารู้สึกเสียวสันหลังพิกล..."ไม่มีปัญหาค่ะคุณแม่ จินนี่เอาประสบการณ์กว่ายี่สิบปีเป็นประกัน! น้องหญิงจะต้องสว
วิวาห์(ไม่)ไร้รัก Writer : Aile'N ตอนที่ 12"นี่มันหมายความว่ายังไงคะธันย์ ไหนบอกจะช่วยกันกำจัดนังนั่นไงคะ คุณไปทำดีกับมันทำไม! ? " ความสัมพันธ์ของวรธันย์และรินลดาเริ่มเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น และคนที่คอยจับตามองความเคลื่อนไหวของคนทั้งคู่มีหรือที่จะไม่รู้ว่าเมื่อวานเกิดอะไรขึ้นบ้าง วันนี้ถึงได้บุกมาหาเขาที่บริษัทตั้งแต่เช้า และใช่...เลขาเขาหยุดพายุลูกนี้ไม่ได้อีกครั้ง"ผมมีวิธีของผม การรวมหัวกันรุมรังแกอีกฝ่ายแบบนั้นไม่ใช่เรื่องดี" ปากกายี่ห้อดังยังคงถูกมือแกร่งจับตวัดไปมาบนเอกสารสำคัญ เช่นเดียวกับดวงตาคมกริบที่ยังคงเพ่งสมาธิไปที่มันมากกว่าคู่สนทนา นั่นยิ่งทำให้เกวลินเดือดดาลกว่าที่เป็น"วิธีอะไรของคุณ เกวไม่เห็นว่าคุณจะทำอะไรตรงไหน ตรงข้าม! คุณพามันไปกินข้าวซื้อแหวน ไม่ใช่ว่าหลงมารยามันแล้วหรือไงคะ! ? " เกวลินนับเป็นผู้หญิงที่น่ารำคาญน้อยเมื่อเทียบกับคนอื่นที่เขาเคยมีสัมพันธ์มา แต่วันนี้หล่อนทำให้เขารู้แล้วว่าหล่อนไม่ได้ต่างไปจากคนอื่นเลยสักนิด"เกวลิน...คุณมีสิทธิ์ก้าวก่ายเรื่องของผมมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ถ้ายังพูดไม่รู้เรื่องอยู่แบบนี้ก็เชิญที่ประตู ผมจะทำงาน" ด้วยเป็นคนใจร้อน
วิวาห์(ไม่)ไร้รัก Writer : Aile'N ตอนที่ 11"พวกแก~ คุณธันนนนนย์!! " เสียงวีดว้ายของนักศึกษาหญิงกลุ่มที่เดินอยู่ข้างหน้าซึ่งก็ได้แก่สามสาว ฟิล์ม บีและต้นอ้อดังขึ้นเรียกความสนใจของนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจโดยเฉพาะสาขาการบัญชีที่เพิ่งได้เวลาเลิกเรียนพอดี ร่างบางที่เดินตามหลังมาหูผึ่งเล็กน้อยตอนได้ยินชื่อใครสักคนที่เหมือนกับว่าที่สามี ก่อนจะสะดุ้งเล็กๆ เมื่อสามสาวหันกลับมาจ้องหน้าด้วยแววตาอิจฉาระคนหมั่นไส้สาเหตุเป็นเพราะร่างสูงโปร่งของใครบางคนที่กำลังยืนทำเท่...สองมือล้วงกระเป๋ากางเกง เอนกายพิงสปอร์ตคาร์สุดหรูรออยู่หน้าตึกคณะฯ ดวงหน้าคมเข้มแม้เรียบนิ่งแต่หล่อเหลาจนคนเดินผ่านเหลียวหลังกลับมามองตามคอแทบเคล็ด ไม่ต้องเดาก็มองออกว่าคงมารอใครสักคน แต่ใครกันล่ะที่เป็นผู้โชคดีคนนั้น..."ไอ้หญิง! รีบๆ เดินเข้าสิ คุณเขามารอนานแล้วนะ! " สามสาวแหวกทางให้รินลดาเดินผ่านและพร้อมใจกันดันแผ่นหลังบางไปข้างหน้าอย่างเร่งเร้า อยากถามเหมือนกันว่ารู้ได้ยังไงว่าเขามารอนานแล้ว เขาอาจจะเพิ่งมาถึงก็ได้ไหม...แต่ก็ได้แค่คิด ไม่ได้พูดออกไปให้ถูกมองแรงใส่แต่อย่างใด...พอถูกสามสาวผลักดันให้เดินเข้าไปหาร่างสูงอย่างออก
วิวาห์(ไม่)ไร้รัก Writer : Aile'N ตอนที่ 10วรธันย์กลับเข้าบ้านมาในตอนสี่ทุ่มครึ่ง ร่างกายหนักอึ้งมีอาการมึนเมาเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับไร้สติ เวลานี้ภายในบ้านเงียบสงัดเนื่องจากทุกคนคงจะเข้านอนกันหมดแล้ว มีเพียงเขาที่จิตใจยังคงกระสับกระส่ายร้อนรุ่มจนยากจะข่มตาหลับ เป็นเหตุให้ฝืนอาการมึนๆ ขับรถจากคอนโดกลับมาบ้าน ไม่รู้เหมือนกันว่ามาในเวลานี้แล้วจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อทุกคนต่างเข้านอนกันหมด รู้เพียงว่าทนอยู่ไม่ได้...ความรู้สึกผิดและเสียใจมันอัดแน่นอยู่เต็มอก ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างไม่มีทางที่เขาจะข่มตาหลับได้แน่ตั้งใจจะกลับมาขอโทษมารดาแต่ก็ดึกเกินกว่าจะกล้าเคาะประตูเรียกเลยเอาแต่ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่หน้าประตูห้องนอนของอีกฝ่าย ถามว่าทำไมไม่รีบกลับมาตั้งแต่หัววัน ยืดอกสามศอกยอมรับตรงๆ เลยว่าไม่กล้า...ความผิดครั้งนี้ร้ายแรงจนเขาไม่อาจสู้หน้าบุพการี แม้จะระหองระแหงเรื่องแต่งงานกันมาตลอด แต่ไม่มีครั้งไหนที่เขากับพ่อแม่จะทะเลาะกันรุนแรงเท่าครั้งนี้มาก่อน เขาไม่เคยทำให้แม่ร้องไห้และไม่เคยทำให้พ่อโกรธถึงขั้นกล้าตัดความสัมพันธ์ ลูกชายเพียงคนเดียวที่เคยเป็นความหวังในทุกๆ เรื่องของพวกเขา มาวันนี้กลับถูกตั
วิวาห์(ไม่)ไร้รัก Writer : Aile'N ตอนที่ 9พอพ้นหน้าโรงแรมหรูออกมารินลดาก็ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา เมื่อพบว่ายังไม่ดึกเท่าไรก็คิดหาทางกลับบ้าน แท็กซี่นั้นเธอตัดทิ้งไปเป็นอย่างแรกเพราะมีประสบการณ์ไม่ค่อยจะดีด้วย แต่ชุดแบบนี้ให้ไปยืนโหนรถเมล์แบบแอร์ธรรมชาติร้อนๆ บวกควันรถก็ดูจะไม่เหมาะสักเท่าไร ถ้ารถเมล์แอร์เย็นๆ ก็คงพอได้อยู่ ถึงจะไม่ได้มีที่ให้นั่งในเวลารีบเร่งแบบนี้ก็ไม่เป็นไรคิดได้แบบนั้นดวงตาคู่กลมก็สอดส่องหาป้ายรถเมล์ แต่ก็ไม่พบในระยะสายตามองเห็นเลยตัดสินใจออกเดินไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพบ ซึ่งก็กินเวลาไปหลายนาทีและอากาศก็ร้อนจนเหงื่อซึม ยืนรอสักพักรถเมล์ปรับอากาศสายที่ต้องการขึ้นก็ผ่านมา แม้ผู้คนจะเบียดเสียดเนื่องจากเยื้อแย่งกันกลับบ้าน แต่ไม่เป็นปัญหาเลยสำหรับร่างบางที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะอยู่เป็นประจำใช้เวลาสักพักใหญ่ๆ เนื่องจากการจราจรติดขัด ในที่สุดรินลดาก็กลับมาถึงบ้านอินทรเกษมกุล ท่ามกลางความแปลกใจระคนตกใจของคุณหญิงนาฏยาที่ยังไม่เข้านอนเพราะรอติดตามสถานการณ์ของลูกชายกับว่าที่ลูกสะใภ้อยู่ทุกขณะ แต่นอกจากจะกลับไวและไม่ได้ยินเสียงรถยนต์ของเจ้าลูกชายแล้วยังเห็นแค่ลูกสะใภ้เดินเข้
วิวาห์(ไม่)ไร้รัก Writer : Aile'N ตอนที่ 8ตากลมมองตามแผ่นหลังของสามีในอนาคตอันใกล้ที่เดินไปสวมกอดผู้หญิงคนนั้นอย่างไม่ไว้หน้า ทั้งคู่ยิ้มให้กันหวานชื่นก่อนที่ฝ่ายหญิงนั้นจะเหยียดสายตามองมาที่เธออย่างผู้กำชัยชนะ รินลดาพยายามข่มอารมณ์ทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สากับอะไรทั้งนั้นก่อนจะเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับคนทั้งสองวรธันย์แสดงความเป็นสุภาพบุรุษด้วยการขยับเก้าอี้ให้ผู้หญิงคนนั้นนั่งในขณะที่ร่างบางต้องช่วยเหลือตัวเอง พวกเขาแสดงออกชัดว่าเธอเป็นเพียงส่วนเกิน เธอเข้าใจและไม่ถือสาแม้จะเห็นรอยยิ้มและสายตาเยาะเย้ยของผู้หญิงคนนั้นส่งมาอย่างออกนอกหน้าก็ตาม"นี่เกวลินเป็นคนรักของฉัน" ร่างสูงแนะนำคนข้างกายอย่างไม่ทุกข์ร้อน ดูจะจงใจเน้นย้ำสถานะของอีกฝ่ายให้เธอฟังเสียยิ่งกว่าอะไร"สวัสดีค่ะ" เสียงหวานเอ่ยทักทายเรียบๆ ไม่ได้แนะนำตัวเองเพราะคิดว่าอีกฝ่ายคงจะรู้จักเธอแล้วไม่มากก็น้อย ไม่อย่างนั้นวรธันย์คงแนะนำเธอกลับไปบ้างแล้ว"สวัสดีค่ะ คงไม่ว่าอะไรนะคะถ้าฉันจะขอนั่งด้วย" อีกฝ่ายแย้มยิ้มหวานหยด แกล้งถามด้วยความเกรงอกเกรงใจ ที่มองออกไม่ใช่ว่ารินลดามองคนเป็นแต่หล่อนไม่ได้ปกปิดตัวตนของตัวเองมาตั้งแรกแล้วต่างหา