“ก่อนอื่นดิฉันต้องขอบคุณคณะกรรมการทุกท่านที่กรุณามอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้ให้แก่ดิฉันนะคะ ดิฉันรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างสูงสุดค่ะ และดิฉันก็ต้องขอขอบคุณคณะผู้จัดละครและทีมงานทุกท่าน ที่กรุณาให้ดิฉันได้มีโอกาสเขียนเพลงให้ละครเรื่องนี้ ขอบคุณพี่นกยูงที่ช่วยขับร้องเพลงนี้ได้อย่างไพเราะและงดงาม รางวัลนี้ไม่ได้เป็นของดิฉันเพียงคนเดียว แต่เป็นของทีมงานทุกๆ ท่านด้วยนะคะ เพราะถ้าไม่มีทุกท่านให้โอกาส ดิฉันก็คงไม่มีวันนี้ ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมากที่สุด”
เสียงปรบมือกึกก้องอีกครั้ง เพราะทุกคำพูดที่เธอถ่ายทอดได้สร้างความประทับใจให้แก่คนฟังได้ดีจริงๆ ใบหน้ายิ้มละไมทอดสายตามองลงไปเบื้องล่าง ก่อนเรือนร่างงามระหงดุจนางพญาเยื้องย่างจะเดินมาจนถึงโต๊ะรับรอง ท่ามกลางเสียงแสดงความยินดี การพูดคุยทักทาย และสายตาชื่นชมอย่างเปิดเผยของเหล่าบรรดาชายหนุ่ม ณ ที่นี้
พิธีการอันทรงเกียรติเทียบชั้นงานพรมแดงของต่างประเทศทำให้ในค่ำคืนนี้เป็นเสมือนสถานที่รวมของเหล่าดารานักร้อง ไฮโซ เซเลบ ผู้จัด ผู้กำกับ ตลอดจนผู้มั่งคั่งทางฐานะและชื่อเสียงของเมืองไทย แขกผู้มีเกียรติทุกท่านต่างแต่งกายกันด้วยชุดราตรีเริดหรูทั้งหญิงชายเพื่อให้ตนเองได้กลายเป็นจุดเด่น เรียกแสงแฟลชวูบวาบจากช่างภาพทุกสถาบันได้ เพราะงานในค่ำคืนนี้ก็ไม่ต่างจากงานแจ้งเกิดในวงการ หากจะมีใครที่โดดเด่น ก็ไม่พ้นที่จะได้รับโอกาสดีๆ ในวงการบันเทิงต่อไป
.
.
พิธีกรชายหญิงคู่ใหม่ขึ้นมารับช่วงพร้อมกับประกาศรางวัลอันทรงเกียรติอันดับต่อไปพร้อมนักร้องชายชื่อดังก้าวขึ้นสู่เวทีเพื่อขับกล่อมผู้ร่วมงานให้ได้รับความเพลิดเพลิน...เธอก็เช่นเดียวกัน
ดวงตากลมโตล้อมกรอบไปด้วยแพขนตาหนางอนงามรับกับแนวคิ้วโก่งไล้สีอย่างเป็นระเบียบก้มมองรางวัลแห่งเกียรติยศในมือ เพราะนี่ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เธอคว้ามาได้ด้วยความสามารถ นอกเหนือจากรางวัลภาพวาดที่ส่งไปประกวดยังต่างประเทศ จนทำให้เธอมีชื่อเสียง กลายเป็นศิลปินวาดภาพสีน้ำมันอันดับต้นๆ ของโลก
ริมฝีปากอวบอิ่มแต่งแต้มด้วยลิปสติกเฉดชมพูกะปิอมยิ้มน้อยๆ สายตาชื่นชมไปยังตุ๊กตานางฟ้าโลหะที่อยู่ในท่วงท่าร่ายรำอ่อนช้อยในมือ...รางวัลอันทรงเกียรตินี้สร้างความสุขให้เธอมากมายเหลือเกิน นอกจากอาชีพหลักคือวาดภาพเพื่อส่งให้เอเจนซีที่ปารีสแล้ว งานแต่งเพลงก็ถือเป็นงานอดิเรกอีกหนึ่งที่เธอชื่นชอบ เพราะทุกครั้งที่เธอวาดภาพเธอมักจะเปิดเพลงคลอไปด้วยทุกครั้ง และในยามพักเธอก็มักจะคว้าเอาเครื่องสายติดมือมานั่งบรรเลงที่ริมน้ำข้างบ้านเสมอ การแต่งเพลงจึงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ผ่อนคลายอารมณ์ และเมื่อเธอลองส่งให้เพื่อนๆ ได้ทดลองฟัง ก็ปรากฏว่าได้รับความสนใจ
เพื่อนซึ่งอยู่ในแวดวงดนตรีจึงแนะนำให้เธอลองหัดแต่งเพลง โดยใส่ท่วงทำนองไปตามความรู้สึก และเธอก็พบว่างานแต่งเพลงก็เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่เธอชอบ และสามารถทำควบคู่ไปกับการวาดภาพได้เป็นอย่างดี
และเมื่อบทเพลงของเธอถูกคัดเลือกให้เป็นเพลงประกอบละครหลังข่าวเรื่องดัง ก็ทำให้ชื่อเสียงในด้านการแต่งเพลงของเธอเป็นที่รู้จักมากขึ้น และที่ต้องขอบคุณที่สุดก็คงจะเป็น ‘มยุเรศ หรือ นกยูง’ นักร้องสาวสวยของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่
มยุเรศเป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย และเป็นรูมเมตกับเธอเมื่อครั้งไปเรียนต่อที่ปารีส ซึ่งเธอนั้นสอบได้ทุนไปเรียนต่อและหาประสบการณ์ด้านการวาดภาพไปด้วยในตัว ส่วนมยุเรศนั้นเรียนเรื่องการออกแบบ ปารีสจึงเป็นจุดหมายเดียวกันของพวกเธอ ต่างกันก็เพียงที่ตัวเธอได้ทำงานไปตามความฝัน ส่วนมยุเรศนั้นก็ได้ดิบได้ดีกับงานร้องเพลงจนกลายเป็นหนึ่งใน ‘เจ้าแม่ดีวา’ แห่งวงการเพลงเมืองไทย
หลังงานประกาศรางวัลสิ้นสุด เพราโพยมได้รับเชิญจากคณะผู้จัดละครเพื่ออยู่ต่อให้นักข่าวได้ถ่ายรูปและสัมภาษณ์เล็กน้อย ซึ่งเนื้อหาของการสัมภาษณ์ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าประเด็นที่ว่า คนไทยจะได้มีโอกาสชื่นชมแกลอรีภาพวาดของเธอที่เมืองไทยบ้างหรือไม่ พร้อมคำถามยอดฮิตเรื่องหัวใจว่ามีวี่แววว่าจะมีใครมาจับจองบ้างแล้วหรือยัง เพราะตัวเธอนั้นก็จัดได้ว่าเป็นสาวโสดที่น่าจับตามองมากที่สุดในขณะนี้
“หึๆ...สงสัยเนื้อคู่ฟ้าคงไม่มาเกิดแล้วละค่ะ อยู่แบบนี้ก็ดีนะ เย็นสบายและมั่นคงดี” ศิลปินสาวคนสวยตอบยิ้มๆ อย่างติดตลกและอารมณ์ดี
“แต่แอบเห็นมีหนุ่มๆ มาขายขนมจีบซาลาเปานะครับ”
นักข่าวหนุ่มเอ่ยถามดวงตาเป็นประกาย เพราะศิลปินสาวคนนี้ถือได้ว่าเธอเป็นคนที่สร้างความสุขให้แก่ผู้ที่อยู่ใกล้ได้ดีจริงๆ ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มอยู่เสมอ รวมทั้งการตอบคำถามอย่างสุภาพและติดตลก ทำให้เธอยิ่งดูเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์มากๆ แต่ทำไมเธอถึงยังโสด เธอไม่มีใครจริงๆ หรือเพราะว่าเธอบกพร่องในด้านไหน เขาจึงไม่เคยได้ข่าวเรื่องความรักของเธอกับผู้ชายคนไหนเลยสักครั้ง
“แหม ตาไวนะคะ คงต้องขายกันจนเบื่อไปเลยละ เพราะฟ้าน่ะซื้อไม่เป็น”
เพราโพยมตอบคำถามยิ้มๆ นึกชื่นชมนักข่าวหนุ่มที่ตาไว เพราะมีคนมาขายขนมจีบให้เธอจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงหนุ่มใหญ่ หรือพระเอกยอดนิยมที่อายุอ่อนกว่าเธอเกินรอบ และนักร้องเจ้าเสน่ห์ที่ขยันส่งยิ้มให้เธอตาเป็นประกายเมื่อเขาร้องเพลงสื่อความหมายถึงเธออยู่บนเวที แต่ทั้งหมดนั้นก็ไม่ได้ทำให้เธอหวั่นไหว เพราะหัวใจดวงนี้ของเธอบรรจุไว้แต่เพียงคำว่า ‘ภาพวาด บทเพลงและก็ธรรมชาติ’ เท่านั้น ในชีวิตมีเพียงสามสิ่งนี้เธอก็มีความสุขดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีคนรักหรือหาใครมาร่วมแชร์พื้นที่หายใจของเธออีก
“ไงจ๊ะ หรือว่าเธอจะจีบเพื่อนพี่อีกคน” มยุเรศเข้ามาร่วมวงในทันทีที่ผละจากนักข่าวซึ่งตามสัมภาษณ์งานเพลงมาได้ สาวสวยวัย 38 ปีที่วันนี้แต่งดวงตาสวยเฉี่ยว ใบหน้าสวยเก๋รับกับผมซอยสั้นตามสไตล์สาวเปรี้ยวเชิดหน้าขึ้นรอฟังคำตอบ “ผมมิบังอาจหรอกครับพี่นกยูง แค่มาขอสัมภาษณ์เฉยๆ” ‘แทนคุณ’ เอ่ยตอบ แต่กลับรู้สึกร้อนวูบวาบที่แก้มขึ้นมาเสียอย่างนั้น ไม่ใช่ร้อนเพราะเขินอายเพราโพยม แต่ที่ร้อนผ่าวขึ้นมาก็เป็นเพราะดวงตาจิกกัดของสาวใหญ่วัยร้อนแรงผู้นี้ต่างหาก เขาเชื่อแล้วว่ารสนิยมคนเราไม่เหมือนกัน เพราะดูท่าเขาจะชื่นชอบอาหารรสชาติจัดจ้านที่กำลังยืนท้าทายอยู่ใกล้ตัวมากกว่าอาหารที่เลิศหรู และดูดีมีรสนิยม “แหม...อะไรจ๊ะนายแทน พี่แซวแค่นี้ก็อายเหรอ อายพี่อายเชื้อมันไม่ดีนะจ๊ะ เพราะพี่อาจคิดเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาได้” มยุเรศลอยหน้าลอยตาพูด พร้อมอมยิ้มที่ได้แกล้งนักข่าวหนุ่มสำเร็จ เพราะความคุ้นเคยเนื่องจากเจอกันตามงานหลายครั้ง บวกกับอัธยาศัยที่สุภาพของแทนคุณ ทำให้เธอเลือกที่จะให้สัมภาษณ์นิตยสารของเขามากกว่าที่อื่น และยิ่งเมื่อได้เห็นแววอายๆ จากดวงตาคมเข้มคู่นั้น
“มองตาละห้อยเลยนะ เนี่ยไม่ใช่แค่หมามองเครื่องบินหรือหมาเห็นปลากระป๋องนะโว้ย! แต่เอ็งอะเหมือนหมาที่มองปลากระป๋องอยู่บนเครื่องบินเลยว่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” “หลบไปเลย เอ็งก็ไม่ต่างกันหรอก” ปราณรต์ปัดใบหน้ายียวนหัวเราะร่าของแทนคุณให้พ้นไปจากเลนส์กล้องของเขา เพราะแม้แต่ภาพเบื้องหลังของเธอ เขาก็อยากจะบันทึกไว้ให้ครบ ทุกความประทับใจของเขาที่มีต่อเธอคนนี้ แม้ว่ามันจะรางเลือน แต่เขาก็มีความสุขที่ได้ทำ “ไม่ต่างกันยังไงวะ ไหนพูดมาดิ๊” คิ้วเข้มของแทนคุณขมวดเข้าหากัน สังหรณ์ใจว่าความลับคงจะไม่เป็นความลับอีกต่อไป “ไอ้แทน ข้าเพื่อนเอ็งนะโว้ย! เอ็งคิดว่าข้าไม่รู้รึไงว่าเอ็งน่ะชอบแม่ม่าย หึหึ...ม่ายเรือพ่วงสองลำซะด้วย” “ไอ้ปราณรต์ ไอ้เพื่อนบ้า เดี๋ยวเถอะ รอบหน้าข้าจะไม่ให้เอ็งถ่าย” “ไอ้แทน” ปราณรต์หุบยิ้มเยาะเย้ยในทันทีที่สายตารู้ทันปนรอยยิ้มเป็นต่อของแทนคุณตอบกลับมา จึงตอบโต้ได้เพียงเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน และยืนมองแทนคุณเดินล้อเลียนจากไป.. หญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งใบหน้าสะสวยในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนที่กำลังนั่งดูตาชั่งพร้อมจดบันทึกน้ำหนักของท
เสียงคลื่นที่ครวญตามแรงลมสาดซัดเข้าหาชายฝั่ง สลับกับเสียงนกทะเลกู่ร้องแว่วมาให้ได้ยิน เป็นสัญญาณเตือนว่าวันใหม่กำลังจะเริ่มต้น ส่งผลให้คนซึ่งนั่งนิ่งซบใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาลงกับหัวเข่า ต้องพยายามแหงนขึ้นมองความเปลี่ยนแปลงรอบตัว ยามเมื่อฝ่าเท้าก้าวลงจากรถ ก่อนจะเหยียบย่ำลงบนผืนทรายแห่งนี้ ความมืดดำยังคงอยู่รอบกาย แต่ว่าในขณะนี้กลับกลายเป็นว่ามีแสงสว่างจางๆ ปรากฏขึ้นอยู่ ณ เส้นขอบฟ้า ทำให้สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ รอบตัวได้มากขึ้น คราบน้ำตาที่ทอดตัวลงเป็นสายขนาบสองข้างแก้ม เธอจำต้องปล่อยให้มันไหลออกมาอีกครั้ง เมื่อความทุกข์ระทมนั้นเข้าโหมกระหน่ำซัดเข้าใส่ จนไม่อาจต้านทานหยาดน้ำแห่งความเจ็บช้ำไว้ได้ไหว เพื่อช่วยชะล้างหัวใจที่กลัดทุกข์ให้ผ่อนคลายลงบ้าง หัวใจที่ครั้งหนึ่งเธอเคยคิดว่ามันแหลกสลายจนไม่มีชิ้นดี น่าแปลกที่มันก็ยังคงเต้นอยู่ทุกขณะ แม้ในขณะนี้ก็เช่นกัน ทว่าค่ำคืนที่ผ่านมา ความทุกข์นั้นไม่เพียงยังคงอยู่ แต่มันกลับทำให้เธอยิ่งตอกย้ำถึงความผิดพลาดและความล้มเหลวในชีวิตมากขึ้น และมีบ้างบางเสี้ยวเวลาที่เธอแอบคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด
เสียงปรบมือจากแขกผู้มีเกียรติดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราวกับผู้ที่กำลังถูกจับตามองอยู่ในขณะนี้เป็นบุคคลสำคัญ และเหมาะสมแล้วสำหรับรางวัลอันทรงเกียรติที่ได้รับ ตลอดทั่วทั้งงานประดับประดาไปด้วยไฟและแสงสีเสียงอันยิ่งใหญ่อลังการ ภายในงานประกอบไปด้วย ดารานักร้อง ดีเจ วีเจ พิธีกร ผู้จัดละคร ผู้กำกับ ผู้จัดรายการโทรทัศน์ ผู้จัดรายการวิทยุ เจ้าของสถานี นักประพันธ์ดนตรี นักประพันธ์เพลง บรรดาแขกผู้มีเกียรติที่มีรายชื่อเสนอเข้าชิงรางวัล ตลอดจนทีมงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากนี่คืองานมอบรางวัลอันทรงเกียรติแก่ผู้ที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนให้วงการวิทยุและโทรทัศน์ไทยได้ก้าวไกลและผลิตผลงานดีที่มีคุณค่าออกมาให้ประชาชนคนไทยได้ชื่นชมอย่างต่อเนื่อง ได้รับความเพลิดเพลินเจริญใจ และให้ประโยชน์แก่สังคมไทยอย่างไม่ขาดสาย แสงไฟที่สาดส่องมา รวมทั้งตากล้องและช่างภาพของงานเหมือนจะพุ่งความสนใจมายังเธอเป็นจุดเดียว รวมทั้งเสียงประกาศจากพิธีกรหญิงชายที่ดังซ้ำบนเวทีพร้อมเอ่ยแซวที่เธอมัวแต่ดูจินตลีลาประกอบเพลงจนเพลิน จึงไม่ได้ยินประกาศว่า ผู้ที่ได้รับรางวัลประเภทเพลงประกอบละครยอดเยี่ยมแห่ง
“มองตาละห้อยเลยนะ เนี่ยไม่ใช่แค่หมามองเครื่องบินหรือหมาเห็นปลากระป๋องนะโว้ย! แต่เอ็งอะเหมือนหมาที่มองปลากระป๋องอยู่บนเครื่องบินเลยว่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” “หลบไปเลย เอ็งก็ไม่ต่างกันหรอก” ปราณรต์ปัดใบหน้ายียวนหัวเราะร่าของแทนคุณให้พ้นไปจากเลนส์กล้องของเขา เพราะแม้แต่ภาพเบื้องหลังของเธอ เขาก็อยากจะบันทึกไว้ให้ครบ ทุกความประทับใจของเขาที่มีต่อเธอคนนี้ แม้ว่ามันจะรางเลือน แต่เขาก็มีความสุขที่ได้ทำ “ไม่ต่างกันยังไงวะ ไหนพูดมาดิ๊” คิ้วเข้มของแทนคุณขมวดเข้าหากัน สังหรณ์ใจว่าความลับคงจะไม่เป็นความลับอีกต่อไป “ไอ้แทน ข้าเพื่อนเอ็งนะโว้ย! เอ็งคิดว่าข้าไม่รู้รึไงว่าเอ็งน่ะชอบแม่ม่าย หึหึ...ม่ายเรือพ่วงสองลำซะด้วย” “ไอ้ปราณรต์ ไอ้เพื่อนบ้า เดี๋ยวเถอะ รอบหน้าข้าจะไม่ให้เอ็งถ่าย” “ไอ้แทน” ปราณรต์หุบยิ้มเยาะเย้ยในทันทีที่สายตารู้ทันปนรอยยิ้มเป็นต่อของแทนคุณตอบกลับมา จึงตอบโต้ได้เพียงเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน และยืนมองแทนคุณเดินล้อเลียนจากไป.. หญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งใบหน้าสะสวยในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนที่กำลังนั่งดูตาชั่งพร้อมจดบันทึกน้ำหนักของท
“ไงจ๊ะ หรือว่าเธอจะจีบเพื่อนพี่อีกคน” มยุเรศเข้ามาร่วมวงในทันทีที่ผละจากนักข่าวซึ่งตามสัมภาษณ์งานเพลงมาได้ สาวสวยวัย 38 ปีที่วันนี้แต่งดวงตาสวยเฉี่ยว ใบหน้าสวยเก๋รับกับผมซอยสั้นตามสไตล์สาวเปรี้ยวเชิดหน้าขึ้นรอฟังคำตอบ “ผมมิบังอาจหรอกครับพี่นกยูง แค่มาขอสัมภาษณ์เฉยๆ” ‘แทนคุณ’ เอ่ยตอบ แต่กลับรู้สึกร้อนวูบวาบที่แก้มขึ้นมาเสียอย่างนั้น ไม่ใช่ร้อนเพราะเขินอายเพราโพยม แต่ที่ร้อนผ่าวขึ้นมาก็เป็นเพราะดวงตาจิกกัดของสาวใหญ่วัยร้อนแรงผู้นี้ต่างหาก เขาเชื่อแล้วว่ารสนิยมคนเราไม่เหมือนกัน เพราะดูท่าเขาจะชื่นชอบอาหารรสชาติจัดจ้านที่กำลังยืนท้าทายอยู่ใกล้ตัวมากกว่าอาหารที่เลิศหรู และดูดีมีรสนิยม “แหม...อะไรจ๊ะนายแทน พี่แซวแค่นี้ก็อายเหรอ อายพี่อายเชื้อมันไม่ดีนะจ๊ะ เพราะพี่อาจคิดเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาได้” มยุเรศลอยหน้าลอยตาพูด พร้อมอมยิ้มที่ได้แกล้งนักข่าวหนุ่มสำเร็จ เพราะความคุ้นเคยเนื่องจากเจอกันตามงานหลายครั้ง บวกกับอัธยาศัยที่สุภาพของแทนคุณ ทำให้เธอเลือกที่จะให้สัมภาษณ์นิตยสารของเขามากกว่าที่อื่น และยิ่งเมื่อได้เห็นแววอายๆ จากดวงตาคมเข้มคู่นั้น
“ก่อนอื่นดิฉันต้องขอบคุณคณะกรรมการทุกท่านที่กรุณามอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้ให้แก่ดิฉันนะคะ ดิฉันรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างสูงสุดค่ะ และดิฉันก็ต้องขอขอบคุณคณะผู้จัดละครและทีมงานทุกท่าน ที่กรุณาให้ดิฉันได้มีโอกาสเขียนเพลงให้ละครเรื่องนี้ ขอบคุณพี่นกยูงที่ช่วยขับร้องเพลงนี้ได้อย่างไพเราะและงดงาม รางวัลนี้ไม่ได้เป็นของดิฉันเพียงคนเดียว แต่เป็นของทีมงานทุกๆ ท่านด้วยนะคะ เพราะถ้าไม่มีทุกท่านให้โอกาส ดิฉันก็คงไม่มีวันนี้ ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมากที่สุด” เสียงปรบมือกึกก้องอีกครั้ง เพราะทุกคำพูดที่เธอถ่ายทอดได้สร้างความประทับใจให้แก่คนฟังได้ดีจริงๆ ใบหน้ายิ้มละไมทอดสายตามองลงไปเบื้องล่าง ก่อนเรือนร่างงามระหงดุจนางพญาเยื้องย่างจะเดินมาจนถึงโต๊ะรับรอง ท่ามกลางเสียงแสดงความยินดี การพูดคุยทักทาย และสายตาชื่นชมอย่างเปิดเผยของเหล่าบรรดาชายหนุ่ม ณ ที่นี้ พิธีการอันทรงเกียรติเทียบชั้นงานพรมแดงของต่างประเทศทำให้ในค่ำคืนนี้เป็นเสมือนสถานที่รวมของเหล่าดารานักร้อง ไฮโซ เซเลบ ผู้จัด ผู้กำกับ ตลอดจนผู้มั่งคั่งทางฐานะและชื่อเสียงของเมืองไทย แขกผู้มีเกียรติทุกท่านต่างแต่งกายกันด้วยช
เสียงปรบมือจากแขกผู้มีเกียรติดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราวกับผู้ที่กำลังถูกจับตามองอยู่ในขณะนี้เป็นบุคคลสำคัญ และเหมาะสมแล้วสำหรับรางวัลอันทรงเกียรติที่ได้รับ ตลอดทั่วทั้งงานประดับประดาไปด้วยไฟและแสงสีเสียงอันยิ่งใหญ่อลังการ ภายในงานประกอบไปด้วย ดารานักร้อง ดีเจ วีเจ พิธีกร ผู้จัดละคร ผู้กำกับ ผู้จัดรายการโทรทัศน์ ผู้จัดรายการวิทยุ เจ้าของสถานี นักประพันธ์ดนตรี นักประพันธ์เพลง บรรดาแขกผู้มีเกียรติที่มีรายชื่อเสนอเข้าชิงรางวัล ตลอดจนทีมงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากนี่คืองานมอบรางวัลอันทรงเกียรติแก่ผู้ที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนให้วงการวิทยุและโทรทัศน์ไทยได้ก้าวไกลและผลิตผลงานดีที่มีคุณค่าออกมาให้ประชาชนคนไทยได้ชื่นชมอย่างต่อเนื่อง ได้รับความเพลิดเพลินเจริญใจ และให้ประโยชน์แก่สังคมไทยอย่างไม่ขาดสาย แสงไฟที่สาดส่องมา รวมทั้งตากล้องและช่างภาพของงานเหมือนจะพุ่งความสนใจมายังเธอเป็นจุดเดียว รวมทั้งเสียงประกาศจากพิธีกรหญิงชายที่ดังซ้ำบนเวทีพร้อมเอ่ยแซวที่เธอมัวแต่ดูจินตลีลาประกอบเพลงจนเพลิน จึงไม่ได้ยินประกาศว่า ผู้ที่ได้รับรางวัลประเภทเพลงประกอบละครยอดเยี่ยมแห่ง
เสียงคลื่นที่ครวญตามแรงลมสาดซัดเข้าหาชายฝั่ง สลับกับเสียงนกทะเลกู่ร้องแว่วมาให้ได้ยิน เป็นสัญญาณเตือนว่าวันใหม่กำลังจะเริ่มต้น ส่งผลให้คนซึ่งนั่งนิ่งซบใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาลงกับหัวเข่า ต้องพยายามแหงนขึ้นมองความเปลี่ยนแปลงรอบตัว ยามเมื่อฝ่าเท้าก้าวลงจากรถ ก่อนจะเหยียบย่ำลงบนผืนทรายแห่งนี้ ความมืดดำยังคงอยู่รอบกาย แต่ว่าในขณะนี้กลับกลายเป็นว่ามีแสงสว่างจางๆ ปรากฏขึ้นอยู่ ณ เส้นขอบฟ้า ทำให้สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ รอบตัวได้มากขึ้น คราบน้ำตาที่ทอดตัวลงเป็นสายขนาบสองข้างแก้ม เธอจำต้องปล่อยให้มันไหลออกมาอีกครั้ง เมื่อความทุกข์ระทมนั้นเข้าโหมกระหน่ำซัดเข้าใส่ จนไม่อาจต้านทานหยาดน้ำแห่งความเจ็บช้ำไว้ได้ไหว เพื่อช่วยชะล้างหัวใจที่กลัดทุกข์ให้ผ่อนคลายลงบ้าง หัวใจที่ครั้งหนึ่งเธอเคยคิดว่ามันแหลกสลายจนไม่มีชิ้นดี น่าแปลกที่มันก็ยังคงเต้นอยู่ทุกขณะ แม้ในขณะนี้ก็เช่นกัน ทว่าค่ำคืนที่ผ่านมา ความทุกข์นั้นไม่เพียงยังคงอยู่ แต่มันกลับทำให้เธอยิ่งตอกย้ำถึงความผิดพลาดและความล้มเหลวในชีวิตมากขึ้น และมีบ้างบางเสี้ยวเวลาที่เธอแอบคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด