ดาริณีมาถึงเป็นคนสุดท้าย กว่าทีโอจะตามหาหญิงสาวเจอก็ใช้เวลาพอควร เพราะเป็นเพียงคนเดียวในหมู่บ้านที่มีพละกำลังมหาศาลจึงมักถูกไว้วานให้ทำนั่นทำนี่อยู่เสมอ เธอแทบทิ้งการก่อสร้างฝายชะลอน้ำเมื่อได้ยินข่าวว่าลูกชายล้มฟุบไปอย่างไรสาเหตุ อีกทั้งน้องปอนด์เพื่อนสนิทเองก็มีอาการเช่นเดียวกันเด็กทั้งสามมีไข้ขึ้นสูงตลอดคืน พิมพา แม่ของพลอยใสจึงขออยู่ดูลูกสาวที่บ้านหลังนี้ด้วย เพราะทั้งหมู่บ้านมีนิโคลัสเพียงคนเดียวที่เป็นหมอ แพทย์ประจำหมู่บ้านคนเก่านั้นได้กลายเป็นซอมบี้ไปตั้งแต่ช่วงวันแรก ดังนั้นเธอไม่วางใจพาลูกกลับไปดูแลเอง ให้อยู่ในมือหมอยังคลายใจได้มากกว่า“อาการแบบนี้…” ดาริณีหันไปมองเฉินเฟิง ใบหน้าสวยติดเป็นกังวล“ผมพยายามคิดว่าเด็ก ๆ เป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา แต่ก็... หลอกตัวเองไม่ได้” เจ้ากระต่ายก้มหน้า บอกเล่าสิ่งที่ตัวเองคาดเดา“คุณโจเซฟบอกว่าลูกแก้วซอมบี้หายไป 3 เม็ดใช่ไหมครับ” เจ้ากระต่ายกลั้นใจถาม“อืม ผมได้มาจากคุณทั้งหมด 15 เม็ด ตอนนี้ในกล่องมันเหลือ 12 เม็ด” พูดเพียงเท่านั้นทุกคนก็เหมือนจะเข้าใจว่าเฉินเฟิงต้องการจะอธิบายอะไร“เด็ก ๆ กินลูกแก้วซอมบี้เข้าไปเหรอคะ!” ดาริณีปิดปากหันขวับไปมองล
“ผมขอตัวไปดูเด็ก ๆ ก่อนนะครับ แล้วก็ขอบคุณมากสำหรับอาหารเช้า” เจ้ากระต่ายยกมือไหว้ผู้สูงอายุกว่า“จ้ะ ไปเถอะ ยังไงก็แจ้งข่าวด้วยนะ ทุกคนเป็นห่วงเจ้าสามแสบประจำหมู่บ้านมาก” เคยเห็นวิ่งเล่นกันตั้งแต่เช้ายันเย็น มานอนซมแบบนี้ใครล่ะจะไม่เป็นห่วง“ครับคุณยาย” เฉินเฟิงเดินถือกระทงใบตองที่มีข้าวสวยโปะหน้าด้วยไข่เจียวหอมกรุ่นเข้ามาในบ้าน เห็นนิโคลัสรีบวิ่งเข้าไปในห้องนอนใหญ่พร้อมกับเสียงเอะอะจากด้านใน ทำให้เจ้ากระต่ายรีบวางทุกอย่างไว้ในห้องรับแขกแล้วตรงไปที่ห้องของพ่อแม่ตนที่กลายเป็นห้องพักฟื้นของเด็กซนทั้งสามแทน“ฮือ ๆ” พิมพากอดลูกสาวที่ลืมตามองเพดาน ในที่สุดลูกของเธอก็ฟื้น“แม่ครับ” เด็กชายดลมองมารดาที่นอนซบหน้าลงข้างเตียง ไม่มีทั้งเสียงสะอื้นแต่น้ำตาไหลไม่หยุด ตั้งแต่มารดาฆ่าซอมบี้เป็นครั้งแรก นับจากวันนั้นเขาก็ไม่เคยเห็นแม่ร้องไห้อีกเลย “ขอโทษครับแม่” ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เด็กชายดลเลือกที่จะขอโทษออกไปก่อนความทรงจำสุดท้ายของเขาคือรสชาติลูกอมที่ขมยิ่งกว่าบอระเพ็ด และความเจ็บร้าวราวกับร่างกายถูกแยกออกเป็นเสี่ยง ๆ“ปอนด์” ดลหันไปมองเพื่อนที่นอนอยู่ตรงกลาง เด็กชายมองเพดานด้วยดวงตาเลื่อนลอ
“คุณโจเซฟ จะมีซอมบี้มาจริง ๆ เหรอครับ” ชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยถามเสียงสั่น“แค่คาดการณ์น่ะนะ แต่กันไว้ก่อนดีกว่าแก้” หัวหน้าทหารรับจ้างไม่รับปาก เฉินเฟิงบอกว่าเป็นคำพูดประโยคแรกของเด็กชายปอนด์เมื่ออีกฝ่ายลืมตาน่าเสียดายที่ลูกทีมอย่างหงส์ผู้มีลางสังหรณ์ที่แม่นยำกับตุ่นที่มีหูดีที่สุดไม่ได้อยู่ที่นี่ในเวลานี้ด้วย เขาจึงไม่อาจยืนยันได้ 100% ว่าจะมีซอมบี้บุกมาจริงมันอาจเป็นแค่ความกลัวที่ฝังรากลึกอยู่ในจิตใจของเด็กคนนั้นก็เป็นได้ ทำให้เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา ยังไม่ทันที่สมองจะประมวลสภาพความเป็นจริงได้ก็นึกถึงเรื่องราวเลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้วแทน“อะไรกัน แค่นี้ก็สั่นแล้วเหรอ” ชายวัยกลางคนที่มีร่างกายสูงใหญ่เดินมาตบบ่าเล็กของหนุ่มวัยรุ่น “พวกคนหนุ่ม ๆ น่ะ ไม่ต้องไปไกลนักหรอกนะ ให้คนแก่ ๆ อย่างน้าโดนก่อน”“ได้ไงล่ะครับ พวกเราต้องช่วยกันสิ” โจเซฟเอ่ยเตือน สิ่งที่เขาสอนในตอนนี้สำหรับคนธรรมดาที่ยังไม่เคยฆ่าซอมบี้คือต้องมี 2 คนช่วยกันรับมือกับซอมบี้ 1 ตัว ถ้าเกิดความคุ้นชินแล้วค่อยขยับเป็น 1 ต่อ 1 และที่ต้องให้รุมซอมบี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้คนใดคนหนึ่งเกิดพลาดท่าและถูกกัดไปอย่างน่าเสียดายจำน
เขาไม่เหมือนกับบ้านอื่นที่อยากจะพุ่งตัวเข้าเมือง ความรู้สึกลึก ๆ ของเขาร้องเตือนว่าในเมืองนั้นน่ากลัวกว่าชนบทมาก“ไอ้หนูเหม่ออะไร รีบฟันคอมันเร็วเข้า” เสียงตะโกนจากคู่หูปลุกให้เขาตื่นจากภวังค์ ใครว่าช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานคนจะไม่คิดอะไร เห็นได้ชัดว่าเขาคิดเป็นตุเป็นตะมากเด็กวัยรุ่นรีบยันตัวขึ้นจากพื้น กระชับมีดยาวในมือแน่น ก่อนอ้อมไปทางด้านหลังของซอมบี้แล้วใส่แรงทั้งหมดไปที่การเหวี่ยงตุบเสียงศีรษะตกกระทบพื้นดังก้องอยู่ในหู“ไม่ต้องไปมอง รีบมาช่วยจัดการตัวต่อไปได้แล้ว” ชายวัยกลางคนตบหลังให้กำลังใจ พอดีกับมีซอมบี้ที่โจเซฟจงใจปล่อยมาให้พวกเขาเก็บประสบการณ์วิ่งตรงมาทางนี้ อาการคลื่นเหียนจึงถูกกดข่มลงไป พวกเขาไม่มีเวลาอ่อนแอ มีแต่ต้องต่อสู้!ฝ่ามือที่กำมีดถูกบีบรัดแน่นขึ้นนี่น่ะเหรอวันสิ้นโลกเฮงซวย!โจเซฟคอยสกัดซอมบี้อยู่ด้านหน้า แม้ว่าจะมีเขาเพียงคนเดียวแต่ก็ยังสามารถหลบการพุ่งเข้าโจมตีของซอมบี้ได้โดยไม่มีส่วนไหนบุบสลาย ฟากทีโอก็คอยสนับสนุนอยู่ในแนวหลังเพื่อไม่ให้ชาวบ้านที่ยังอ่อนประสบการณ์ต้องกลายเป็นพวกมันไปด้วย มีบ้างที่ลูกศรจากหน้าไม้ของคนหลังกำแพงสามารถช่วยชีวิตกลุ่มที่อยู่แนวหน้าไ
เมื่อกลับมาถึงบ้านโจเซฟและทีโอก็ต้องพบกับความโกลาหล บ้านที่เคยสงบกลับมีเสียงร้องไห้ปานจะขาดใจและเสียงร้องโอดโอยของเด็ก ๆ เล็ดลอดออกมาเกิดอะไรขึ้น!!โจเซฟมองหน้าทีโอก่อนจะรีบพุ่งเข้าไปด้านใน หรือว่า… จะมีซอมบี้บุกเข้ามาในบ้าน!ปัง!หัวหน้าทหารรีบผลักประตูบ้านเข้าไปอย่างแรง แต่ภาพแรกที่พวกเขาเห็นคือดาริณีนั่งมองลูกชายที่ถูกพิมพาตีด้วยก้านมะยมในขณะที่ดวงตาแดงเรื่อและมีน้ำหยดลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนพิมพาผู้ลงมือคือผู้ที่ปล่อยเสียงร้องไห้ออกมาราวกับว่าก้านมะยมในมือนั้นคือของร้อนที่ไม่ควรแตะต้อง“พี่พิมกับพี่ดากำลังลงโทษเด็ก ๆ ที่ขโมยของของคนอื่นครับ” เฉินเฟิงอธิบาย เขาเป็นคนยื่นกิ่งมะยมให้หญิงสาวเองด้วยซ้ำ แน่นอนว่าลงทุนเร่งโตต้นมะยมหลังบ้านให้สูงใหญ่ เด็ดกิ่งมาลิดใบแล้วส่งให้เองกับมือ ส่วนดาริณีไม่กล้าลงมือด้วยตนเองเพราะกลัวจะทำให้ลูกกระดูกหักจากแรงของตน“แล้วทำไม…”“หัวอกคนเป็นแม่น่ะ” นิโคลัสที่เคยเรียนเกี่ยวกับจิตวิทยาแม่และเด็กมาพูดเสริม “ถึงจะทำโทษเด็กให้เจ็บเพื่อให้พวกเขาหลาบจำ แต่คนที่เจ็บเป็นคนต่อมาก็คือผู้ที่ลงมือ” ยิ่งดาริณีไม่ได้ลงมือเองเพราะกลัวยั้งพลังไม่ได้ยิ่งชอกช้ำการที่ต้
“ถ้าอย่างนั้นก็ให้เฉินเฟิงร่วมเดินทางไปด้วย ก่อนไปก็ไปรับหงส์ที่ภูเขา อย่างไรเราก็ต้องพึ่งพาลางสังหรณ์สุดยอดเพื่อคอยระวังภัย” โจเซฟกล่าวปิดท้ายการประชุมเพราะมัวแต่ประชุมกันมื้อเย็นวันนี้กลุ่มทหารรับจ้างและเฉินเฟิงจึงไม่ได้ออกไปกินอาหารร่วมกับคนในหมู่บ้าน ปกติแล้วกลุ่มแม่บ้านจะทำอาหารที่ลานหมู่บ้านแล้วแจกจ่ายให้ทุกคนได้กิน ใครที่ทำงานหนักจะตักมากหน่อยก็ไม่มีใครว่า ส่วนใครที่ทำน้อยก็ต้องพึงระลึกว่าตนเองทำไปแค่ไหน คุณยายร้านขายของชำเดินมาตามพวกเขาให้ไปรับอาหารมากินด้วยกัน“ขอบคุณมากครับคุณยาย วันนี้พวกผมจะทำอาหารกินกันเอง จริงสิ เดี๋ยวผมจะออกไปหาเสบียงข้างนอกเข้ามาเพิ่มสักหน่อย คุณยายมีอะไรที่อยากได้ไหมครับ” เฉินเฟิงจงใจบอกว่าจะไปด้านนอก แต่ไม่อธิบายเพิ่มว่าเขาจะไปถึงเมืองหลวงเพื่อไม่ให้ชาวบ้านแตกตื่นนึกว่าจะถูกพวกตนทิ้งไว้ข้างหลัง“โอ๊ย ยายจะยังต้องการอะไรล่ะ แค่กินอิ่มนอนหลับก็พอแล้ว ไปข้างนอกก็ระวังตัวกันด้วยนะ เดี๋ยวเอารถลูกชายยายออกไปใช้ก็ได้ ยังไงอาเฟิงก็ไม่มีรถใช่หรือเปล่า”“ครับ กำลังจะไปขอยืมอยู่พอดีเลย” เจ้ากระต่ายยิ้มกว้าง พอเห็นคุณยายเดินกลับไปแล้วก็หันหลังเข้าบ้าน“กลับไปแล
“จนกว่าพวกเขาจะโตและสู้กับซอมบี้ได้ครับ” โจเซฟพูดประโยคสุดท้ายจบก็กลั้นหายใจรอฟังคำตอบ“ขอปฏิเสธค่ะ” พิมพาตอบโดยไม่ต้องคิด เธอไม่อยากให้ลูกสาวออกไปสู้กับพวกสัตว์ประหลาดนั่นอยู่แล้ว ใครจะรับผิดชอบหากลูกของเธอพลาดพลั้งกลายเป็นพวกมัน เธอเหลือลูกสาวเพียงคนเดียวเป็นครอบครัวสุดท้ายที่ทำให้เธอยังมีกำลังใจในการมีชีวิต ถ้าต้องสูญเสียไปอีกครั้ง…เธอก็ไม่ขออยู่เช่นกัน“ไม่รู้ว่าน้องดลจะมีพลังไหม แต่ดาก็ขอฝากให้คุณตุ่นช่วยดูแลแกด้วยนะคะ อย่างน้อยก็สอนพวกการต่อสู้ก็ยังดี” ต่างจากดาริณี หญิงสาวกลับค้อมศีรษะไปด้านหน้ายอมรับข้อเสนอ “ส่วนน้องปอนด์ ดาอยากให้แกตัดสินใจเองค่ะ ถึงตอนนี้ดาจะเป็นผู้ปกครองของเขาแล้ว แต่ก็อยากให้เขาเลือกเองว่าจะสู้อยู่แนวหน้าหรืออยากสนับสนุนอยู่ข้างหลัง”“น้องดา” พิมพามองหญิงสาวร่วมหมู่บ้านดวงตาเบิกกว้าง เท่าที่อีกฝ่ายเคยเล่าให้ฟัง น้องสาวคนนี้เจอเรื่องโหดร้ายมามาก ทำไมยังอยากจะที่จะเผชิญหน้ากับซอมบี้อีก ถึงเราไม่ทำก็ต้องมีคนที่พร้อมจะสู้อยู่แล้ว เป็นคนอ่อนแอคอยสนับสนุนพวกเขาอยู่ในรั้วก็ได้“เพราะดาไม่รู้ว่าจะอยู่ปกป้องลูกได้ถึงเมื่อไหร่ สักวันเขาก็ต้องมีชีวิตเป็นของตัวเอง จะเ
“สรุปว่าเด็กทั้ง 3 คนจะขึ้นไปฝึกซ้อมบนภูเขาใช่ไหมครับ” โจเซฟหันขอคำยืนยันจากผู้ปกครองอีกครั้ง“ไม่ใช่แค่เด็กค่ะ ดาจะไปซ้อมด้วย” ดาริณีก้าวขึ้นมาด้านหน้า “ดาเองก็เป็นคนที่มีพลังพิเศษ ถ้าสามารถทำให้สู้กับซอมบี้หรือสัตว์กลายพันธุ์ได้เก่งกว่านี้ ดาก็พร้อมจะทำ” หญิงสาวเผยสีหน้ามุ่งมั่น“ได้ครับ” หัวหน้าทหารหนุ่มนิ่งงันไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้ายอมรับการตัดสินใจ เขาเองก็เคยคิดอยากจะแนะนำให้หญิงสาวหัดฝึกซ้อมการต่อสู้เช่นกัน แต่ไม่กล้าเอ่ยปากถามสักที...“ถ้าอย่างนั้นใครที่จะขึ้นเขาก็ไปเตรียมเสื้อผ้าเลย บนนั้นมีบ้านที่พวกเราสร้างไว้สำหรับพักผ่อนอยู่ ส่วนใครที่จะเข้าเมืองก็ให้ไปเตรียมอุปกรณ์แค่ที่จำเป็น” โจเซฟปรบมือแจกแจงงานเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะปล่อยให้ทุกคนกลับไปนอนเพื่อเตรียมตัวสำหรับพรุ่งนี้เช้าวันต่อมาคนในหมู่บ้านจึงได้รู้ว่าเฉินเฟิงและคณะทหารรับจ้างบางส่วนจะออกจากหมู่บ้านเพื่อไปหาเสบียงและของใช้จำเป็น มีหลายคนคิดใช้โอกาสนี้ติดตามอีกฝ่ายเข้าเมือง“พวกเราไม่ได้เข้าไปในตัวเมืองจังหวัดหรอกนะครับ แต่จะไปแถบโรงงานอุตสาหกรรมจังหวัดข้าง ๆ” เจ้ากระต่ายตอบ “แถวนั้นมีซอมบี้เยอะ ถ้าพวกคุณจะไปด้วยผมข
“ไว้ทางเชื่อมเสร็จก็ทำระบบรถรางต่อดีไหมล่ะ จะได้แวะมาดูบ่อย ๆ” หงส์เสนอ“ก็น่าคิดนะ” โจเซฟเห็นด้วย ระหว่างนี้เขาค่อยหาโอกาสแวะมาดูคุณแม่ให้บ่อยขึ้นก็แล้วกันหาจักรยานเสือภูเขาสักคันก็น่าสนใจ“แวะร้านจักรยานตรงนั้นหน่อยสิ” พอดีกับที่ยังไม่ทันหลุดไปยังถนนเส้นนอกก็ปรากฏร้านขายจักรยานที่ถูกทิ้งร้างใกล้กับปั๊มน้ำมัน สภาพของร้านยังคงดูดีอยู่ คิดว่าคนผ่านไปผ่านมาน่าจะสนใจน้ำมันในปั๊มมากกว่าพาหนะที่ต้องใช้แรงตนเองใครจะขี่จักรยานหนีซอมบี้ทันกัน“...” เฉินเฟิงผู้มีประสบการณ์ขี่จักรยานหนีซอมบี้ระดับเริ่มต้นคิด“ฝุ่นเกาะเต็มไปหมด” หงส์กรีดนิ้วไปตามแฮนด์จักรยานได้ฝุ่นหนาเตอะติดขึ้นมาหลายชั้น“เอาไปกี่คันดี” มีที่ใช้ได้และสภาพดีอยู่เยอะทีเดียว“สัก 5 คันก็พอมั้งครับ เยอะกว่านี้จะไม่มีที่วาง” มองไปยังรถบรรทุกเล็กเห็นมังคุดต้องนั่งคุดคู้อยู่กับกล่องสมุนไพรก็น่าสงสารพอแล้ว ไหนจะบนหลังคารถบรรทุกยังมีแผงโซลาร์เซลล์กับแบตเตอรี่อีก ถ้าต้องเบียดกับจักรยานเพิ่มคงเป็นการทรมานสัตว์ใหญ่เกินไป“ร้านนี้มีแร็กจักรยานติดหลังคารถพอดีเลย” ตุ่นเดินเข้าไปสำรวจในร้านแล้วเจอกับแร็กสำหรับล็อกจักรยานไว้กับหลังคารถเข้าพอด
“จริงสิ ผมยังไม่ได้บอกคุณนี่นะ” เฉินเฟิงหันไปมองนิโคลัสคุณหมอพยักหน้าอนุญาตตอบ“มีวิธีได้พลังพิเศษมาแล้วนะครับ นอกเหนือจากการถูกซอมบี้ข่วนหรือกัดแต่ค่อนข้างเสี่ยงหน่อย” เฉินเฟิงอธิบายการใช้คริสตัลสีใสให้ฟังแล้วให้เจ้าตัวลองนำไปปรึกษากับคนในทีมเอาเอง ว่าความเสี่ยงถึงชีวิตนี้มีใครกล้าพอจะรับไว้ไหมวิทย์รับฟังแล้วขมวดคิ้วคิดหนัก“เสี่ยงน่าดูเลยนะครับ” แถมความเสี่ยงนั้นยังมีเฉพาะคนที่อายุเยอะแบบพวกเขาด้วย…และใครจะอยากให้น้อง ๆ ของเขาในบ้านครูเมตตาเป็นแนวหน้าต่อสู้กันล่ะ ถ้าพวกเขาอยากมีพลังก็ควรจะเติบโตและคิดถึงผลดีและผลเสียจากการมีพลังได้เองก่อนลองไปถามเด็ก ๆ ตอนนี้สิว่าใครอยากมีพลังพิเศษบ้าง คงยกมือกันให้พรึ่บ“ผมแค่ให้ข้อมูลที่ผมมี ส่วนคุณจะทำยังไงกับข้อมูลชุดนี้ต่อก็แล้วแต่คุณเลย แต่อยากให้มีสติก่อนจะเอามันเข้าปากด้วยนะครับ” เฉินเฟิงล้วงกระกล่องเหล็กออกมาจากกระเป๋า มอบคริสตัลสีใสให้กับวิทย์ไว้ทั้งหมด 5 เม็ด“นะ… นี่” ให้เขาจะดีหรือ“ผมยังมีอีกเยอะ คุณเก็บไว้เถอะ”“ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ” วิทย์ก้มศีรษะเอวโค้ง 90 องศา บุญคุณที่ได้รับจากกลุ่มนี้ไม่รู้ว่าจะชดใช้อย่างไรหมด“ไม่เป็นไรครั
“บนดาดฟ้ามีเนื้อตะโขงตากแห้งนะ” โจเซฟชี้ชวนให้ดุดาดฟ้าของร้านขายอาหารสัตว์“ก็ว่าได้กลิ่นเนื้อหากแห้งหอมเชียว” ตุ่นทำจมูกฟุดฟิด“พวกนายหลับกันไปนานจนลืมเนื้อที่แช่น้ำไว้ สองเดือนก่อนฉันเลยพามังคุดไปเอาเนื้อขึ้นมาจากน้ำ กว่าจะตัดเหล็กออกมาได้ก็ใช้เวลาไปนานโข แต่ไม่ได้ทำอะไรมากนะแค่ทาเกลือหมักไว้แล้วก็ตากเลย” โจเซฟยักไหล่ เขามีความสามารถด้านงานครัวแค่นี้แหละ เพราะมันเป็นความรู้พื้นฐานในการเอาชีวิตรอดหากต้องติดอยู่ในป่า เวลาต้องเดินทางไกลชายหนุ่มจะพกเกลือติดตัวเสมอ“ดีมากแล้วครับ” เฉินเฟิงสูดดมกลิ่นเค็มในอากาศบ้าง“ได้ยินเชฟพูดแบบนี้ก็โล่งใจ”กี๊ซ! (มังคุดก็ช่วยทำนะ)“เหรอ ๆ มังคุดก็ทำด้วยเหรอ” เฉินเฟิงหันไปสนใจมังคุดที่ยกมือข้างขวาขึ้น พร้อมกับใช้มือซ้ายตบอกตนเอง“ช่วยชิมน่ะสิ” เขากำลังทาเกลืออยู่แท้ ๆ หันไปอีกทีเนื้อที่ตากอยู่บนถาดไม้ก็อันตรธานหายไปทีละชิ้นสองชิ้นหงิง (ก็มันอร่อย)“แสดงว่าเจ้าแสบนี่คงติดใจรสมือของหัวหน้าแล้วล่ะ” เจ้ากระต่ายกลั้วหัวเราะ ไม่ได้โกรธเรื่องการกระทำของมันเลยสักนิด“ก็คงใช่ สองสามวันนี้เนื้อหายไปเกือบ 10 กิโลได้แล้วล่ะ” โจเซฟโยนระเบิดไปอีกลูก“มังคุด!” คราวน
หลังจากทำกายภาพบำบัดอยู่ 2 สัปดาห์ วันนี้จึงเป็นวันแรกที่จะได้ออกจากโรงพยาบาลเสียที ชายหนุ่มเคยเดินตลาดไปแล้วครั้งหนึ่ง ข้าวของที่ผู้คนนำออกมาซื้อขายไม่ได้มีอะไรน่าสนใจอีกเมื่อต้องเดินวนเป็นครั้งที่ 2 เดินได้ไม่นานก็ชวนทุกคนกลับ บนหลังรถกระบะมีแผงโซลาร์เซลล์ที่ได้มาอย่างยากลำบาก เจ้ากระต่ายเดินวนดูมันหลายต่อหลายครั้งพร้อมกับเมนูอาหารที่ผุดขึ้นมาเต็มไปหมดอ้อ เขาซื้อเมล็ดพืชที่ไม่มีอยู่ในหมู่บ้านมาได้จำนวนหนึ่งด้วย ไว้เพาะพันธุ์บนบ้านภูเขาเสร็จค่อยนำไปแจกจ่ายให้กับคนในหมู่บ้านต่อ“ไปหามังคุดกันเถอะครับ” หายไปร่วมสองเดือน มันต้องคิดถึงเขามากแน่“อืม” นิโคลัสไม่ขัดข้อง หงส์กับตุ่นบอกว่าหัวหน้าโจเซฟออกจากค่ายไปอยู่กับมังคุดตั้งแต่ช่วงที่เฉินเฟิงนอนหลับไป ชายหนุ่มก็ไม่ได้กลับเข้ามาในค่ายอีก ทั้งที่แจ้งไว้ว่าอีก 7 วันจะกลับมา ตุ่นที่เป็นห่วงจึงออกไปตามหาที่ร้านขายอาหารสัตว์ที่ให้มังคุดใช้หลับนอนเป็นการชั่วคราว‘ดูเหมือนพี่หัวหน้าจะไปเจอของน่าสนใจเข้าน่ะ ก็เลยพามังคุดตระเวนทั่วเลย’ ตุ่นว่าอย่างนั้น…ไปทำอะไรกันนะฟากสิงหาที่เพิ่งเสนอผลงานวิจัยใหม่ขึ้นที่ประชุมก็งานรัดตัวจนออกมาส่งทั้งสองคนที
ตอนแรกเฉินเฟิงไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตนเองมีความสามารถพิเศษเพิ่มขึ้นมา คิดว่าตนเองนั้นคงสามารถใช้พลังพฤกษาได้หลากหลายกว่าเมื่อก่อน การควบคุมที่เคยเชื่องช้าคงมีความเร็วเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแน่คราวนี้ล่ะ!เขาจะได้เป็นกระต่ายแนวหน้าเสียทีจะลอกวิธีการต่อสู้ของพวกพืชมหาภัยที่เคยเจอมากับตัวเองให้ดู!จุดเริ่มต้นนั้นมาจากไม้ประดับที่ใช้ตกแต่งในห้องพักผู้ป่วยของเขาเอง คาดว่าแต่เดิมห้องนี้อาจจะเป็นห้องที่คนรวยมีเงินในยุคก่อนซื้อไว้ ยามเจ็บไข้จะได้พักผ่อนได้ทันทีโดยไม่ต้องรอเตียงจากทางโรงพยาบาล เพราะที่นี่มีต้นฟิโลเดนดรอนถูกตั้งไว้อยู่ เขาก็จำชื่อไม่ค่อยได้ว่าชื่อเต็ม ๆ ของมันคือต้นอะไร เอาเป็นว่าตามหลักแล้วโรงพยาบาลคงไม่มีทางนำของเหล่านี้มาประดับห้องผู้ป่วยแน่นอนเพราะพืชชนิดนี้… มีพิษเฉินเฟิงมีเพื่อนร่วมงานที่ชอบซื้อต้นไม้ในกระแสมาปลูกมาก ต้นไหนที่ว่าแพงหรือต้นไหนที่เรียกทรัพย์ก็จะไปกวาดซื้อมาไว้ในครอบครองให้ได้ หนึ่งในนั้นก็คือฟิโลเดนดรอนที่เจ้าตัวดูจะชอบมากเป็นพิเศษครั้งหนึ่งเคยมีเด็กฝึกงานไปกินเลี้ยงที่บ้านนั้น พอเหล้าเข้าปากก็ก่อกวนกันเต็มที่ แม้เจ้าของบ้านจะแยกส่วนสถานที่กินเลี้ยงและ
…“อื้อ…” เสียงร้องจากริมฝีปากบางซีดพาให้คนที่กำลังฟุบหน้านอนอยู่ข้างเตียงรู้สึกตัว ใบหูกลมสีน้ำตาลกระดิกไปมาราวกับจะหาต้นตอของเสียง วันนี้เขาอยู่เฝ้าคนรักเพียงคนเดียว สามคนที่เหลือนัดแนะกันว่าจะไปเดินเล่นที่ตลาดนัดกลางคืนแล้วกลับไปนอนที่บ้านเช่า“อือ”“อาเฟิง!” นิโคลัสรีบเงยหน้ามองคนรักในความมืด แสงจันทร์จากหน้าต่างส่องให้เห็นเรียวคิ้วของเจ้ากระต่ายที่กำลังผูกกันเป็นโบหรือว่าจะไข้ขึ้น?คุณหมอหมีใช้หลังมือตนเอง แตะหน้าผาก แก้ม และลำคอ… ก็ไม่มีไข้หรือว่า!!“ที่รัก คุณตื่นแล้วใช่ไหม อาเฟิง อาเฟิง” ชายหนุ่มจ้องมองดวงตาที่ปิดสนิทคู่นั้นอย่างตั้งใจ จินตนาการถึงนัยน์ตาสีทับทิมเปล่งประกายที่เขาชอบจ้องมอง และหวังว่าวันนี้จะได้เห็นมันอีกเพียงแค่เปลือกตาของคนที่นอนอยู่ขยับขึ้นเท่านั้นและดูเหมือนว่าคำภาวนานั้นจะเป็นจริงเฉินเฟิงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นท่ามกลางความมืด ทั้งที่รู้สึกว่ากำลังลืมตา แต่ภาพด้านหน้าก็ยังคงดำมืด…หรือว่าเขายังคงฝันอยู่?“อาเฟิง” เสียง…เจ้ากระต่ายหันเหสายตาไปมองด้านข้าง มือของตนถูกบางสิ่งบางอย่างกอบกุมอยู่ ฝ่ามือหนาอุ่นนี้เขาคุ้นชินนัก“พี่... นิค” เสียงที่ถูกเปล่งออกมาทั้งแห
นักวิทย์ฯ อัจฉริยะมองทรัพยากรต่าง ๆ ที่ถูกใช้ไปแล้วก็ครุ่นคิดต่อ การจะให้คนคนหนึ่งเลื่อนขึ้นเป็นระดับ 2 จะต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่อย่างนั้นจะประสบปัญหาเดียวกับทีโอ ทั้งที่เลื่อนเป็นระดับ 2 แล้วแต่ร่างกายที่ไม่ได้รับสารอาหารเลยตลอด 1 เดือนย่อมไม่มีเรี่ยวแรงมากพอจะไปหาอาหารมาบำรุงส่วนที่สูญเสียไปได้ หากปล่อยทิ้งไว้อีก 1 สัปดาห์คงเสียชีวิตไปอย่างน่าเสียดายเป็นจริงอย่างที่สิงหาคาดเดา กลุ่มผู้รอดชีวิตด้านนอกที่เจอสถานการณ์การเลื่อนเป็นระดับ 2 เพียงลำพังล้วนตายจากไปโดยที่ไม่มีใครรู้ บางคนเห็นเพื่อนถูกซอมบี้กัดก็ปลิดชีวิตกันก่อนจะได้พิจารณาอาการเบื้องต้นด้วยซ้ำ พลอยทำให้มนุษย์ยังคงติดอยู่ในระดับ 1 ไปอีกหลายเดือนกว่าสิงหาจะประกาศผลการทดลองนี้“อาหารเช้ามาแล้วครับ” ทีโอถือกล่องใส่อาหารเดินเข้ามาในห้อง ดีนะที่เขาเป็นผู้มีพลังพิเศษระดับ 2 และมีร่างกายแข็งแรง เปลี่ยนเป็นให้คนธรรมดาเดินขึ้นบันได 10 ชั้นทุกวันก็ไม่ไหวหรือเปล่า แถมยังต้องไปเช้า กลางวัน เย็นด้วย “ผมเจอหลานท่านนายพลที่โรงอาหารอีกละ ทักถามหาพี่ทุกวัน”“ช่างหมอนั่นเถอะ” และนี่ก็เป็นคำตอบที่นิโคลัสตอบกลับไปเช่นเดิม“ผมก็ไม่ได้อ
“วันนี้ก็ครบวันที่ 7 แล้วนะครับ มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะอีกไหมครับ” สิงหาหยิบชาร์ตคนไข้เดินเข้ามาในห้องพัก VVVIP บนเตียงขนาดใหญ่มีนิโคลัสนอนให้น้ำเกลืออยู่ หลังจากฉีดเข็มแรกเข้าไปคนที่น็อกร่วงกลางอากาศเป็นคนแรกกลับไม่ใช่เฉินเฟิงที่น่าเป็นห่วงที่สุด“ดีขึ้นมากแล้วครับ สองวันนี้ไม่มีอาการอะไรเลยนอกจากอ่อนเพลียเล็กน้อย” นิโคลัสนอนสำรวจตัวเองครู่หนึ่ง อาการหัวใจเต้นแรงที่ปรากฏขึ้นเป็นบางครั้งเหมือนว่าจะหายเป็นปลิดทิ้งแล้ว“ผมลองสแกนกับตรวจคลื่นหัวใจแล้วไม่มีอะไรผิดปกตินะครับ” สิงหาแปลกใจกับอาการของคุณหมอหนุ่มมาก อาการที่เกิดขึ้นกับอีกฝ่ายเป็นนิมิตหมายอันดีของโรคภัยไข้เจ็บ แต่ผลตรวจร่างกายกลับไม่พบอะไรเลย อ้อ มีค่าความเข้มข้นของเลือดที่สูงขึ้น จด ๆ“คิดว่าคงไม่เกี่ยวกัน เชื้อซอมบี้อาจจะไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันแล้วส่งผลให้ร่างกายเกิดการ… @%^&%@” เฉินเฟิงกับทีโอนั่งมองหมอสองคนที่เริ่มคุยเรื่องการแพทย์กัน คำศัพท์ที่ไม่เคยได้ยินบินว่อนเต็มห้องพักไปหมด แต่ก็ไม่มีใครเข้าไปแทรกบทสนทนาเพราะรู้ว่าเป็นเรื่องสำคัญ“แล้วอย่างนี้ผมจะเริ่มกินคริสตัลเม็ดนี้ได้หรือยังครับ” เฉินเฟิงหยิบคริสตัลสีเหลืองอ่อนออกม
การจะฉีดวัคซีนได้นั้นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดก็คือความพร้อมของร่างกาย วันนี้หมีกระต่ายจึงถูกไล่กลับไปกินอาหารและพักผ่อนก่อนหนึ่งวัน พรุ่งนี้ค่อยมาพบสิงหาที่โรงพยาบาลแห่งนี้อีกครั้งนิโคลัสเล่าเรื่องที่ตนจะเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสซอมบี้ในวันพรุ่งนี้ให้กับสมาชิกในทีมฟัง โจเซฟไม่ได้ว่าอะไรเขายอมรับการตัดสินใจของลูกทีมเสมอ โดยมีทีโอที่พยายามโน้มน้าวให้พวกเขารอให้ผลการทดลองนิ่งกว่านี้ก่อนจะดีกว่า“เกิดฉีดไปแล้วหัวใจวายเฉียบพลันขึ้นมาเหมือนหนูทดลองล่ะครับ” ขนาดวัคซีนก่อนวันสิ้นโลกเองก็ยังพัฒนาไปไม่ถึงไหน ยิ่งเวลานี้มีข้อจำกัดในทุกด้านไม่สมบูรณ์พร้อมสักอย่างย่อมสุ่มเสี่ยงมากกว่าแน่ ๆ“นั่นมันตอนที่ร่างกายเราไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง เซลล์ทุกอย่างยังคงเป็นมนุษย์ธรรมดาอยู่ แต่ตอนนี้เวลานี้ร่างกายที่เป็นของเราล้วนไม่มีใครรู้จักดีแม้แต่ตัวเราเอง” นิโคลัสส่ายศีรษะ ตัดสินใจแล้วว่าจะรับวัคซีนพร้อมคนรัก หากต้องเห็นคนรักกลายเป็นซอมบี้หรือหัวใจวายเฉียบพลันขึ้นมา เขาก็พร้อมจะตามไป…ชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ล้วนไร้ความหมายหากไม่มีเจ้ากระต่ายเคียงคู่เขาจะกินอาหารอีกต่อไปได้ยังไง… เมื่อคนทำอาหารไ