การขอโทษที่ไม่มีความจริงใจนั้นทำให้ลูน่าหัวเราะออกมาหลังจากหายใจเข้าลึก เธอก็เงยหน้าขึ้นและมองไปที่พ่อบ้านวอลเตอร์ “งั้นคุณก็กำลังบอกว่าคุณรู้แค่ว่าคุณนายลินช์เคยเป็นที่รู้จักกันในชื่อลูน่า กิบสัน และไม่รู้เลยว่ามีผู้หญิงอีกคนที่ชื่อลูน่ามีอยู่บนโลกนี้ใช่ไหม?”พ่อบ้านขมวดคิ้วเล็กน้อยและนิ่งเงียบ“แน่นอนว่าเขาไม่รู้น่ะสิ!” เดนนิสหัวเราะอย่างเย็นชา “ถ้าเขารู้ว่าคุณลูน่าและลูน่า กิบสันเป็นคนละคนกันแล้วจงใจทำเรื่องนี้ นั่นหมายความว่าเขาตั้งใจจะสร้างปัญหาให้คุณน่ะสิ“คุณวอลเตอร์ทำงานเป็นพ่อบ้านของเรามานานกว่า 20 ปี อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าไม่ควรทำอะไรแบบนี้”“อ๋อค่ะ” ลูน่าสูดหายใจเข้าลึกแล้วแอบกดปุ่มบนสร้อยคอของเธอเงียบ ๆหลังจากได้ยินเสียงบี๊บเบา ๆ เธอก็หัวเราะเล็กน้อยและพูดต่อ “ตามที่ผู้อาวุโสวอลเตอร์กล่าวไว้เลยค่ะ ถ้าพ่อบ้านรู้ตั้งแต่แรกว่าฉันกับลูน่า กิบสันเป็นคนละคนกัน นั่นหมายความว่าเขาทำทั้งหมดนี้โดยตั้งใจ ใช่ไหมคะ?”คำพูดของหญิงสาวทำให้พ่อบ้านที่ยืนอยู่ด้านข้างหน้าซีดในทันที เขามองอลิซด้วยความกลัวอลิซหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนจะเดินไปหาลูน่าและจับแขนเธอเบา ๆ “คุณลูน่า คุณจริงจังกับเ
ลูน่าสูดลมหายใจเข้าลึกและดูอีเมลที่ไนเจลส่งมาให้ผ่านทางโทรศัพท์หลังจากที่เธอกดปุ่มบนสร้อยคอ ไนเจลก็ได้ยินบทสนทนาทั้งหมดจากฝั่งของเธอเด็กชายตัวน้อยได้ส่งหลักฐานให้เธอแล้วลูน่าเดินไปข้างหน้าอย่างสง่างามและยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน “คุณวอลเตอร์ ฉันขอยืมโปรเจ็กเตอร์คุณได้ไหมคะ?”ห้านาทีต่อมา ลูน่าเชื่อมต่อโทรศัพท์ของเธอเข้ากับโปรเจ็กเตอร์ และคลิกเปิดเอกสาร“นี่เป็นชุดสถิติของกลุ่มชาวเน็ตที่ทำให้ฉันเสื่อมเสียชื่อเสียงในเมืองบันยัน ตามที่อยู่ไอพีแอดเดรสและแหล่งที่มาของสัญญาณ ชาวเน็ตเหล่านั้นมาจากบริษัทอินเทอร์เน็ตที่จดทะเบียนในต่างประเทศ และเจ้าของตามกฎหมายของบริษัทนี้คือคุณพ่อบ้านคนนั้น”แล้วฝูงชนก็ระเบิดลงด้วยความโกลาหลในทันทีเดนนิสหันไปมองพ่อบ้านด้วยความประหลาดใจ ในทางกลับกันพ่อบ้านชี้ไปทางอลิซอย่างระมัดระวังและยังคงนิ่งเงียบเดนนิสซบหน้าลงกับฝ่ามืออย่างช่วยไม่ได้อลิซและพ่อบ้านทำทุกอย่างลับหลังโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากเขา ถ้าเขารู้ เขาคงไม่ทำตัวมั่นใจขนาดนี้!“แต่…” เฮลีย์ซึ่งนิ่งเงียบมาสักพักขมวดคิ้ว “บริษัทอยู่ภายใต้ชื่อของพ่อบ้าน สิ่งเดียวที่ทำคือรับงานมาทำและจ้างนักเขียนเงามา
พ่อบ้านไม่ได้ไร้เดียงสา เขามีความคิดเรียบง่ายแบบคนแก่ทั่ว ๆ ไปใบหน้าของพ่อบ้านเศร้าหมองลงเมื่อเขาฟังคำพูดของอลิซ “คุณกิบสัน ผมไม่ได้ทำทั้งหมดนี้เพื่อคุณ ผมทำเพื่อลูกสาวของผม อีวอนน์ต่างหาก! เธอเป็นเพื่อนสนิทกับคุณ และหากคุณไม่มีความสุขเพราะผู้หญิงคนนี้ เธอก็จะไม่มีความสุขเช่นกัน“ในฐานะพ่อของเธอก็เป็นเรื่องปกติที่ผมไม่อยากให้ลูกสาวของผมเศร้าและคร่ำครวญไปทุกวันหรอก! นอกจากนั้น…”เขาจ้องมองไปที่ลูน่าอย่างชั่วร้ายจากนั้นรอยยิ้มเย็นชาก็ปรากฏบนริมฝีปากของเขา “ผู้หญิงคนนี้ใช้งานเป็นข้ออ้างที่จะอยู่ข้าง ๆ คุณลินช์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เธอมีเจตนาไม่ดีต่อเขา! ทำไมผมถึงไม่ควรเปิดเผยการกระทำของผู้หญิงที่จงใจล่อลวงชายที่แต่งงานแล้วเพื่อแสดงให้โลกเห็นว่าเธอชั่วร้ายและเจ้าเล่ห์ขนาดไหนล่ะ”ความเกลียดชังในดวงตาของเขาในขณะที่จ้องมองลูน่าและถ่มถุยคำพูดเหล่านั้นออกมาเกินกว่าความเกลียดชังที่จะมีต่อเมียน้อยลูน่าหรี่ตาลงเล็กน้อยครู่ต่อมา ริมฝีปากของเธอก็กระตุกเป็นรอยยิ้มขณะที่เธอหัวเราะอย่างเย็นชา “พ่อบ้านอาวุโสใส่ใจครอบครัววอลเตอร์มากเลยนะคะ! คนที่อยู่วงในรู้ว่าคุณนายลินช์เป็นเพื่อนของลูกสาวของคุ
โจชัวเลื่อนสายตาไปมองลูน่า “คนเดียวที่คุณควรขอโทษคือเธอ”พ่อบ้านชะงักไป จากนั้นเขาก็เดินไปหาลูน่าอย่างลังเล “คุณลูน่า ผม…”“ฉันไม่ต้องการคำขอโทษของคุณ” ลูน่าเชิดหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจในขณะที่ดวงตาเย็นชาของเธอกวาดไปทั่วใบหน้าสูงวัยและเหี่ยวเฉาของพ่อบ้าน “คุณกล้าพูดถึงข่าวลือที่คุณแพร่เกี่ยวกับฉัน เรื่องที่คุณทำให้ฉันเสื่อมเสียชื่อเสียง ดูถูกฉัน ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นมาจากความตั้งใจของคุณเองเหรอ?”“ครับ” พ่อบ้านเงยหน้าขึ้นมองลูน่า “นอกจากผมและลูกสาวแล้ว จะมีใครอีกเหรอครับ?”ลูน่าหัวเราะอย่างเย็นชาและไม่สนใจที่จะตอบคำถาม หรือยอมรับคำขอโทษของเขา เธอเงยหน้าขึ้นมองที่โจชัวซึ่งยืนอยู่ห่างออกไปโดยโอบอลิซไว้ “ถ้าคุณลินช์ตัดสินใจปล่อยเรื่องนี้ไป งั้นก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่ฉันจะวุ่นวายกับเรื่องนี้อีก“ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ เอาเป็นว่าฉันไม่เคยเข้าร่วมงานเลี้ยงนี้แล้วกันนะคะ”พูดจบเธอก็เมินเฉยต่อปฏิกิริยาของฝูงชนที่อยู่ข้างหลังตัวเอง แล้วยกกระโปรงขึ้นเดินออกจากห้องโถงลูน่าไม่รู้ว่าเธออารมณ์เสียเรื่องอะไร เธอเป็นเหยื่อและเป็นผู้ชนะคนสุดท้ายหลังจากข่าวลือถูกไขจนกระจ่างแล้ว แต่เธอก็รู้สึกเหม
งานเลี้ยงดำเนินไปจนดึกดื่นนี่ไม่ใช่ครั้งแรกของโจชัวในเมืองซี แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรพวกเขาถึงให้การต้อนรับและกระตือรือร้นเป็นพิเศษ ทุกคนต่อแถวเพื่อชนแก้วกับเขา และเขาก็ดื่มไปเรื่อย ๆ...ในที่สุดเขาก็เกือบจะหมดสติ และเอาแต่พูดชื่อของลูน่า กิบสันอย่างไม่หยุดหย่อนจนลูคัสมาลากเขากลับไปที่โรงแรม“ฉันจะดูแลเขาเองค่ะ” ลูคัสลากเขาเข้าไปในห้องโดยอลิซพูดเบา ๆ ตามหลังเขา “วันนี้คุณทำงานหนักมากเลย ขอบคุณนะคะ”ลูคัสวางโจชัวที่กำลังเมามายลงบนเตียงเบา ๆ ลูคัสขมวดคิ้ว “คุณผู้หญิง ทำไมไม่ให้ผมดูแลคุณลินช์แทนล่ะครับ หกปีที่คุณไม่อยู่ ผมเป็นคนดูแลเขาทุกครั้งที่เขาเมา คุณไม่ต้องห่วงและควรพักผ่อนด้วยเช่นกันนะครับ”เขายืนขึ้นและเข้าไปในห้องน้ำเพื่อเอาผ้าเช็ดตัวชุบน้ำและตั้งใจจะเช็ดตัวให้โจชัวทันทีที่เขาเปิดก๊อกน้ำ ก็มีมือมาคว้าแขนของเขาไว้อลิซยิ้มเบา ๆ แล้วมองเขา “ฉันทำเองค่ะ คุณไม่เห็นเรื่องคืนนี้เหรอคะ เขากับฉันเพิ่งคืนดีกัน และฉันต้องการทำหน้าที่ในฐานะภรรยาให้สำเร็จ นอกจากนั้น…”เธอบุ้ยหน้าไปทางประตู “คุณได้ยินเขาพูดแล้วนี่คะ เขาเอาแต่เรียกหาฉัน ด้วยชื่อเก่าของฉัน”ลูคัสนิ่งไป แต่ในที่สุดก็ถอนห
ที่ปลายสายเสียงของไนเจลฟังดูสุภาพและเชื่อฟัง “เราค่อยคุยกันอีกทีตอนที่คุณแม่ว่างนะครับ!”จากนั้นเด็กน้อยก็วางสายไปลูน่าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากมุ่งหน้าไปเปิดประตูชายคนนั้นก้าวเข้ามาทันทีที่ประตูเปิด และร่างกายของเขาก็มีกลิ่นแอลกอฮอล์ ในสภาพมึนเมาเขาล้มกองลงบนเตียงของลูน่า “ที่รัก ผมต้องการน้ำ…”คำเรียกแสดงความรักทำให้หญิงสาวที่จับลูกบิดประตูตัวแข็งทื่อ เขาไม่เคย…เรียกเธอว่าที่รักมาก่อนการได้ยินเขาเรียกเธอแบบนั้นเป็นหนึ่งในความฝันที่เธอจดไว้ในไดอารี่ของตัวเอง ทว่าความฝันนั้นเป็นจริงในหกปีต่อมาตอนที่เขาเมา“ผมต้องการน้ำ…” ขณะที่นอนอยู่บนเตียง ชายคนนั้นก็เปิดปากแล้วร้องขออีกครั้ง ลูน่าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปิดประตูแล้วเทน้ำหนึ่งแก้วให้เขาเธอถือแก้วใส่น้ำอุ่นอย่างระมัดระวังแล้วเดินเข้ามาหาเขาอย่างอ่อนโยน “นี่ค่ะ ดื่มสิ”เขาพยักหน้าพยายามยันตัวขึ้นอย่างเชื่อฟัง เขาพิงหัวเตียงแล้วดื่มน้ำจนหมด จากนั้นเขาก็นอนลงบนเตียงหลังใหญ่และดึงเนคไทอย่างงุ่มง่ามลูน่าขมวดคิ้วงานเลี้ยงในคืนนั้นเป็นงานที่ค่อนข้างเป็นทางการ เขาสวมชุดสูทและผูกเน็คไทด้วยซ้ำ และในขณะนี้การผูกเน็คไทดูเหมือนจะทำให้
โจชัวกอดลูน่าไว้เป็นเวลานานเขาเกือบจะหลับไปบนเตียงเธอโดยมีเธออยู่ในอ้อมแขน แต่แล้วเขาก็นึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ได้อยู่ในห้องตัวเอง หลังจากนอนลงได้สักพักเขาก็ลุกขึ้นยืนตัวสั่นไปมาและตั้งใจจะกลับห้องลูน่าเหลือบมองเท้าที่ไม่มั่นคงของเขาและรู้สึกได้ว่าใจอ่อนลงเธอสูดหายใจเข้าลึกพยุงเขาไว้บนไหล่ของเธอแล้วเดินช้า ๆ ออกจากห้อง ประตูห้องข้าง ๆ เธอยังคงเปิดอยู่ลูน่าถอนหายใจ บางทีเขาคงจะลืมปิดตอนออกมาเธอช่วยพาเขาเข้าไปในห้อง ปิดประตู แล้วหันไปหยิบน้ำหนึ่งแก้วให้เขา จากอาการของเขา เขาคงเข้าไปในห้องของเธอเพราะเขาหาน้ำในห้องของตัวเองไม่เจอ เธอวางแก้วน้ำไว้บนโต๊ะ เธอห่มผ้าให้เขาแล้วหันหลังจะจากไปแต่ก่อนที่เธอจะไปได้ไกล เขาก็ดึงเธอกลับมาอีกครั้งชายคนนั้นหัวเราะเบา ๆ และกดเธอไว้ข้างใต้เขา “ที่รัก ตอนนี้คุณอยู่บ้านกับผมแล้ว คุณกำลังจะไปไหนอีกล่ะ?”ลูน่าตัวแข็งทื่อ แต่ก่อนที่เธอจะทันได้โต้ตอบ เขาก็พรมจูบลงมาบนใบหน้าของเธอเสียก่อน…หลังจากออกจากห้องควบคุมกล้องวงจรปิด อลิซก็รีบไปที่ห้องของลูน่าพร้อมกับลูกน้องของเธอ เธอเคาะประตูอย่างคนคลั่ง“ลูน่า ออกมา! ลูน่า! เธอไม่ได้พูดหรือไงว่าไม่อยากเป
...คืนนั้น โจชัวมีความฝันที่ยาวนานและสมจริงมาก เขาฝันว่าลูน่า กิบสันกลับมาหาเขา เธอป้อนน้ำให้เขาและฟังขณะที่เขาเรียกเธอว่าที่รักพวกเขายัง...ในความฝันเขาเรียกเธอว่าลูน่า กิบสันและเธอก็ตอบเขาทุกครั้งไม่ใช่การร้องตอบที่น่าอึดอัดใจและผิดธรรมชาติของอลิซ แต่เป็นการตอบที่เป็นธรรมชาติและราบรื่นอย่างเหลือเชื่อชายคนนั้นหลับตาและนึกถึงชั่วขณะนั้นเป็นเวลานานหากเพียง…ความฝันนี้จะกลายเป็นความจริงก็คงดีครู่ต่อมาเขาลืมตาขึ้นและเห็นการตกแต่งอันหรูหราของห้องพักในโรงแรม แต่เขาไม่ได้นอนอยู่บนเตียงนุ่ม ๆ อันใหญ่โตนี้คนเดียว นอกเขาแล้วยังมี…อลิซที่ไม่ได้สวมเสื้อผ้าอะไรเลย นอกจากชุดชั้นในของเธอเธอนอนหลับอยู่ในอ้อมแขนของเขาเหมือนลูกแมวตัวน้อยบนพื้นข้างเตียงมีกระดาษทิชชู่ที่ถูกทิ้งและเสื้อผ้าของพวกเขากองอยู่โจชัวลูบช่องว่างระหว่างคิ้วของเขา เมื่อเห็นภาพที่ตรงหน้านี้ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ?“คุณตื่นแล้วเหรอคะ?” จากการเคลื่อนไหวของเขา อลิซที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาก็ลืมตาขึ้นและเงยหน้ามองเขา เธอกะพริบตา ดวงตาของเธอยังคงง่วง
“งั้นคุณพ่อก็ควรรู้นะครับว่าลูน่าเลี้ยงพวกเขามาหกปี ผมแนะนำว่าคุณพ่อควรดีกับลูน่าให้มากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเด็ก ๆ อาจจะไม่ยอมรับคุณเป็นคุณปู่ของพวกเขาอีกต่อไปได้”ใบหน้าของเอเดรียนเปลี่ยนเป็นสีม่วงจากมุมนี้ ลูน่าเหลือบมองสีหน้าของเขาด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างามแต่ไร้อารมณ์ พร้อมกับยกยิ้มไม่ใส่ใจบนริมฝีปากของเธอ “คุณท่านลินช์ คุณบอกว่าฉันฆ่าเฮลีย์ คุณมีหลักฐานไหม? การตัดสินใจว่ามีคนฆ่าคนอื่นหรือไม่ คุณไม่จำเป็นต้องพูดตามหลักฐานที่มีอยู่หรอกเหรอคะ?” เธอวางข้อเท้าบนเข่า น้ำเสียงของเธอเย็นชาและห่างไกล “เฮลีย์ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงมาจากตึก ฉันไปชี้มีดใส่เธอแล้วบังคับให้เธอกระโดดหรือว่าฉันผลักเธอเหรอ? ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนที่เฮลีย์ฆ่าตัวตาย ฉันไปเยี่ยมสามีเก่าของเพื่อนที่โรงพยาบาลกับเพื่อนนะ มีกล้องวงจรปิดที่โถงทางเดินและลิฟต์ในโรงพยาบาลอยู่ ฉันมีหลักฐานชัดเจนสมบูรณ์”เอเดรียนเปล่งเสียงในจมูก “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ก่อนที่เฮลีย์จะกระโดดก็เป็นเพราะเธอ เฮลีย์ถูกบังคับให้ออกจากเมืองซีและย้ายไปอยู่ต่างประเทศ! เฮลีย์เติบโตมากับความมั่งคั่งและความฟุ่มเฟือยด้วยความกรุณาของพระเจ้า และเพราะผู้หญิงเช่นเธอ
“เพียะ!”ก่อนที่ทุกคนจะทันได้โต้ตอบ เสียงตบก็ดังก้องไปทั่วห้องนั่งเล่นศีรษะของลูน่าหันไปด้านข้างจากแรงกระแทก รสหวานราวกับเหล็กของเลือดเต็มปาก และเลือดก็หยดลงมาตามมุมปากของเธอ“คุณแม่!”“คุณแม่…!”เด็กสองคนที่นั่งอยู่ทั้งสองด้านของหญิงชรา กระโดดขึ้นจากโซฟาตามสัญชาตญาณแล้วพุ่งไปหาลูน่าทันทีหนึ่งในนั้นจับมือเธออย่างระมัดระวัง เขาก้าวไปข้างหน้าพยายามปกป้องเธอ ในขณะที่อีกคนหยิบกระดาษทิชชูจากโต๊ะข้าง ๆ อย่างใจเย็น แล้วยื่นให้ลูน่าการเห็นเด็กสองคนปกป้องเธอทำให้โจชัวขมวดคิ้ว ข้าง ๆ เขา อลิซส่งเสียงเย้ยหยันอยู่ในอก แต่ภายนอกนั้นเธอกำลังทำสีหน้ากังวล “นีล รีบพาน้องสาวของหนูมานี่เร็วเข้า” จากนั้นเธอก็ชำเลืองมองสุภาพบุรุษตัวน้อยที่กำลังยื่นทิชชู่ให้ลูน่า“นี่เป็นเรื่องระหว่างคุณปู่ของหนูกับน้าลูน่านะ มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ อย่ายื่นจมูกเข้าไปในที่ที่ไม่เกี่ยวกับเราสิ”นีลจ้องมองเธออย่างเย็นชา จากนั้นก็หันกลับมาดูแลแม่ของพวกเขาพร้อมกับเนลลี่ในทันทีจากนั้น อลิซก็แสดงท่าทีสงบนิ่งอย่างคนมีอารมณ์มั่นคงและพูดว่า “เอเดรียน คุณกำลังทำอะไรอยู่คะ คุณกำลังทำให้เด็ก ๆ กลัวนะ”เอเดรียนส่งเสียงเย
ในขณะเดียวกัน เขาก็คิดถึงพวกเขามาก ผ่านไปนานแล้วเหมือนกันหลังจากที่พวกเขาได้เจอกันครั้งสุดท้าย จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงเสนอให้พาทุกคนมารวมตัวกันที่บลูเบย์วิลล่าแต่ดูเหมือนว่า...เขาทำให้ทั้งเด็ก ๆ และลูน่าโกรธเขาได้สำเร็จเท่านั้นหรอกเหรอ?รถขับต่อไปไม่นานรถก็มาจอดหน้าบลูเบย์วิลล่า เมื่อลูน่าก้าวลงจากรถที่ยูริและแซคขนสัมภาระมา อลิซก็ก้าวลงมาเช่นกันขณะยืนอยู่นอกรถของโจชัว รอยยิ้มปลอม ๆ ก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอ “ เนลลี่มานี่เร็ว แม่จะอุ้มหนูเข้าบ้าน!”เนลลี่กลอกตา เดินผ่านเธอ และมุ่งหน้าไปที่ประตูด้วยขาที่สั้นและแข็งแรงของเธอในทางกลับกัน นีลกลับรีบวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเธอพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า “ถ้าเนลลี่ไม่ต้องการให้คุณอุ้ม ก็อุ้มผมแทนสิครับ! ผมก็ไม่ได้หนักมากเหมือนกัน แค่หนักกว่าเนลลี่นิดหน่อยเอง”อลิซอุ้มเขาไว้ในอ้อมแขนของเธอ สีหน้าของเธอดูน่าเกลียด และก้าวไปข้างหน้าด้วยความพยายามสุด ๆ นีลเอาแขนของเขาคล้องคอเธอตามสะดวก “คุณอลิซ เร็วสิครับ ผมเป็นเด็กน้อยสุดที่รักของคุณไงครับ มันคงจะแย่ถ้าเราล้มกันทั้งคู่แล้วได้รับบาดเจ็บนะ!”สีหน้าของอลิซดูน่าเกลียดและยิ่งน่าเกลียดมากขึ้น
โจชัวเลิกคิ้วเขาไม่คาดคิดเลยว่านี่จะเป็นคำถามแรกที่ลูกชายของเขาถามหลังจากที่แยกจากกันหลายวันเขามองลูกชายของเขาจากหางตา “นายดูไม่เต็มใจที่จะเห็นแม่นายกับฉันคืนดีกันนะ”นีลหยุดนิ่งไป เขาหันไปมองโจชัวอย่างเคร่งขรึมแล้วยกสองนิ้ว“อย่างแรกนะครับ ผมไม่เคยยอมรับคุณอลิซ กิบสันเลย สำหรับผมแล้ว เธอไม่เคยเป็นแม่ของผมเลย แม่ของผมคือลูน่า อย่างที่สอง ความชอบหรือไม่ชอบของผม มันสำคัญสำหรับคุณหรือเปล่าครับ คุณลินช์ ถ้าคุณพิจารณาถึงความคิดและความรู้สึกของเราจริง ๆ คุณก็คงไม่บังคับน้องสาวของผมและผมให้ทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำ เช่น การพาเรากลับไปที่บลูเบย์วิลล่าตอนนี้ สุดท้ายนะครับ ผมไม่สนใจคุณและอลิซเลย ผมแค่อยากจะรู้ว่าทำไมท่าทีของคุณที่มีต่อเธอถึงเปลี่ยนไปแบบ 180 องศา หลังจากกลับมาจากเมืองซีก็เท่านั้น”ก่อนที่พวกเขาจะจากไป พวกเขาก็ได้แยกทางกันไปแล้ว และยังประกาศว่าพวกเขาจะกำหนดวันเซ็นใบหย่าด้วยซ้ำ แต่ไม่นานหลังจากที่พวกเขาไปถึงเมืองซี พวกเขาก็กลับมาคืนดีและรักกันเหมือนเดิม และเมื่อดูจากภายนอกแล้ว พวกเขาดูยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าเดิมด้วยโจชัวหรี่ตาลงเล็กน้อย อะไรทำให้ท่าทีของเขาที่มีต่ออลิซเปลี
“คุณแม่คะ! หนูคิดถึงคุณแม่มากเลย!” เนลลี่กล่าวเธอหยิบกุญแจออกมาและทันทีที่เธอเปิดประตูอพาร์ตเมนต์ เด็กทั้งสองก็รีบวิ่งออกมาราวกับพายุทอร์นาโดลูกเล็กสองลูกนีลและเนลลี่ต่างกอดขาข้างหนึ่งของเธอไว้ และพูดด้วยความตื่นเต้น“คุณแม่ หนูรู้ว่าคุณแม่จะกลับมาในเวลานี้ แต่นีลเอาแต่ยืนกรานว่าแม่จะกลับมาทีหลัง!”“คุณแม่ครับ เมื่อหลายวันที่คุณแม่ไม่อยู่บ้าน ผมขอให้ลิลลี่สอนวิธีชงกาแฟด้วยล่ะ! ผมทำกาแฟอาราบิก้าแก้วโปรดของคุณแม่ด้วย!”“คุณแม่คะ หนูวางแผนไว้หมดแล้ว บ่ายวันนี้คุณแม่จะไปไหนไม่ได้เลยนะ คุณแม่ต้องอยู่บ้าน อ่านนิทานให้หนูฟังและต่อเลโก้กับนีลด้วย!”“แม่…”ลูน่าลดสายตาลงมองดูหัวเล็ก ๆ สีดำสองหัวที่อยู่ตรงหน้าเธอ คำพูดติดอยู่ที่ปลายลิ้นของเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถคายมันออกมาได้ข้างหลังเธอ ลิลลี่ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่น มองเธอด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “คุณ ลูน่า พวกเขาตั้งใจหยุดเรียนหนึ่งวันเพื่อรอคุณเลยนะคะ ตั้งแต่เช้านี้พวกเขาตื่นเต้นเป็นพิเศษแล้วก็ตกแต่งบ้านราวกับว่าเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดด้วย”ตอนนั้นเองที่ลูน่าสังเกตเห็นของประดับตกแต่งที่แขวนอยู่ในห้องนั่งเล่น ป้ายหลากสีสันแขวนอยู่ตามผนัง ความค
บรรยากาศในรถเปลี่ยนเป็นเงียบเชียบร่างกายของลูน่าแข็งทื่อไปหมดเธอไม่ได้เจอทั้งนีลและเนลลี่มาหลายวันแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดที่เธอเคยห่างจากพวกเขานับตั้งแต่ที่เธอให้กำเนิดพวกเขามาเมื่อหกปีที่แล้วเธอคิดถึงพวกเขาอย่างสุดซึ้งจากการโทรหาและคุยกับพวกเขาเมื่อเช้านี้และเมื่อวานตอนบ่าย เธอก็รู้ว่าเด็ก ๆ เองก็คิดถึงเธออย่างสุดซึ้งเช่นกันไฟในใจเธอที่ลุกโชนด้วยความตื่นเต้นเมื่อนึกถึงการพบปะกับลูก ๆ ของเธอถูกดับลงอย่างโหดร้ายด้วยคำพูดเย็นชาของอลิซ และได้กลับกลายเป็นความหนาวเย็นจนจับไปถึงขั้วหัวใจอลิซจงใจทำแบบนี้ เธอไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ ต่อนีลและเนลลี่ เธอแค่พยายามจะก่อกวนเธอและลูก ๆ ให้อารมณ์เสีย“โจชัวคะ” เมื่อสังเกตเห็นความเงียบอย่างต่อเนื่องของโจชัว อลิซถึงกับร้องเรียกเขาเบา ๆจากนั้นเขาก็กะพริบตาและฟื้นคืนสติของตัวเอง เขากระแอมไอเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมองลูน่าจากด้านหลังขณะที่เธอนั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสาร “เราจะทำตามที่อลิซบอก”ไม่ว่ายังไงก็ตาม อลิซยังคงเป็นแม่ของพวกเขา แม้ว่าเธอจะไม่ได้อาศัยอยู่กับเด็กๆ ตลอดหกปีของชีวิต แต่ท้ายที่สุดแล้วเลือดก็ข้นกว่าน้ำ นอกจากนี้ อล
วิทยุยังคงเล่นซ้ำข่าวเรื่องที่เกิดกับตระกูลวอลเตอร์ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา “ก่อนที่การกล่าวหาคุณเดนนิส วอลเตอร์จะถูกหยิบยกมาพูดถึง ทายาทคนเดียวของวอลเตอร์กรุ๊ป เฮลีย์ วอลเตอร์ได้กระโดดตึกฆ่าตัวตายไปแล้ว ตอนนี้วอลเตอร์กรุ๊ปกลายเป็นอาณาจักรที่กำลังขาดกษัตริย์และกำลังจะล่มสลาย...”ลูน่าหลับตาลง เธอสงสัยว่าเกว็นจะได้ยินข่าวนี้หรือยัง ถ้าเธอได้ยิน อย่างน้อยเธอก็จะรู้สึกสบายใจเล็กน้อยใช่ไหม?เมื่อคิดเช่นนี้ เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อจะตรวจสอบว่าเกว็นส่งข้อความใหม่ให้เธอหรือไม่ แต่กลับเห็นการอัปเดตสถานะใหม่ที่โพสต์โดยเบ็นแทน'ตรวจสอบอาการบาดเจ็บของฉันที่สถานีตำรวจ ตระกูลลาร์สัน ระวังตัวไว้! ฉันจะเรียกร้องค่าเสียหาย!'รูปภาพประกอบเป็นแขนที่ได้รับบาดเจ็บและแก้มบวมฉึ่งอันเป็นผลมาจากการทะเลาะกันเมื่อวันก่อนลูน่ารู้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาต้องเป็นฝีมือของแซคและยูริ เธอจ้องโทรศัพท์อยู่นาน ในที่สุดเธอก็กดไลค์สองภาพที่เบ็นโพสต์“ลูคัส ปิดวิทยุที” ทันใดนั้นเสียงอันแผ่วเบาอ่อนแอของอลิซก็ดังมาจากเบาะหลัง “ฉันอยากนอนพัก”จากนั้น โจชัวก็มีสีหน้ากังวลขณะพูดว่า “ทำไมหน้าคุณดูซีดจัง ไม่สบายเหรอ?”ลูน
มือของโจชัวที่กำช้อนและส้อมไว้หยุดชะงักไปเล็กน้อย สุดท้ายเขาก็หัวเราะเบา ๆ “เพราะว่าเธอเคยหย่าและสามีเก่าเธอมันนิสัยไม่ดี เธอก็เลยแอบลักพาตัวนีลกับเนลลี่ไปแล้วเลี้ยงเหมือนเป็นลูกตัวเองเหรอ?”ลูน่ายกแก้วขึ้นแล้วกลืนน้ำอุ่นในปากลงคออย่างแรง จากนั้นเธอจึงมองไปทางโจชัว “คุณจะพูดแบบนั้นก็ได้”โจชัวยกแก้วของเขาขึ้นเช่นกัน “ทำไมเธอถึงไม่มีลูกกับสามีเก่าล่ะ?”“เขาไม่สมควรมีลูก” ลูน่าวางแก้วลงแล้วยกช้อนส้อมเพื่อกินต่อ “เขามีชู้ในตอนที่ฉันต้องการเขามากที่สุด และถึงกับอยากจะฆ่าฉันเพื่อเอาใจอีกฝ่ายด้วยซ้ำ คุณคิดว่าเขาสมควรมีลูกไหม?”ถ้าตอนนั้นเธอยังไม่ท้อง เธอก็ไม่อยากมีลูกของเขาจริง ๆเขาไม่สมควรได้รับพวกเขาแม้ว่าเธอจะให้กำเนิดพวกเขาแล้ว แต่ลูน่าก็ยังเชื่อเช่นเดิมว่าเด็กทั้งสามคนเป็นของเธอและเป็นของเธอเพียงคนเดียวพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโจชัวเมื่อพูดคำเหล่านี้ ดวงตาของเธอก็จับจ้องไปที่โจชัวการจ้องมองของเธอทำให้เขารู้สึกสับสน ราวกับว่าเขาเป็นคนที่ทิ้งและทำร้ายเธอเองเขาขมวดคิ้วและหันหน้าหนีจากเธอ “แล้ว เธอก็ปล่อยเขาไปทั้งอย่างนั้นเหรอ?”ลูน่าคลี่ยิ้มเย็นชา “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปล่อ
“คุณหย่ากับฉันเมื่อเช้านี้ พอตอนบ่าย คุณก็หาแฟนได้ แล้วตอนนี้พอตกกลางคืนคุณก็พาแฟนใหม่ของคุณมาบ้านเก่าของคุณ เบ็น เซลเลอร์ คุณมันไม่คู่ควรกับเวลาที่ฉันตกหลุมรักไปเลย”จากนั้นเธอก็สูดลมหายใจเข้าลึก และหันกลับไปมองลุคที่กำลังถือไฟแช็กไว้สำหรับเตรียมจุดบุหรี่ให้ตัวเองขณะดูการแสดง “ฉันขอยืมไฟแช็กหน่อยได้ไหม?”ลุคยักไหล่ เขาเดินเข้ามาและก้มลงขณะถือไฟแช็คของเขา เขาฉีกภาพเดี่ยวที่สวยที่สุดของเกว็นออกมา จากนั้นก็จุดไฟเผาภาพถ่ายที่เหลือไปสุดท้ายเขาก็ส่งรูปถ่ายที่เขาฉีกออกมาให้เกว็น “เอาไว้นึกถึง”เกว็นส่ายหน้า “เผาไปเถอะค่ะ”เธอไม่จำเป็นต้องนึกถึงอะไรแบบนี้ลุคยกยิ้มจาง ๆ เขามองไปที่เกว็นด้วยความสนใจเล็กน้อยที่ปรากฏในดวงตาแล้วสอดรูปถ่ายใบนั้นใส่กระเป๋าเสื้อของตัวเองภาพถ่ายทั้งหมดถูกจุดไฟเผาท่ามกลางแสงไฟโหมกระหน่ำ เบ็นหัวเราะอย่างเย็นชา “ถึงคุณจะไม่เผามัน ผมก็จะเป็นคนเผาอยู่ดี”เกว็นหลับตาแน่น แต่ยังคงเงียบเมื่อรูปถ่ายไม่เหลืออะไรนอกจากกลายเป็นกองขี้เถ้า เธอก็จับมือของลูน่าไว้ “ไปกันเถอะ”ลูน่าพยักหน้าและช่วยพยุงเธอนั่งบนที่นั่งโดยมีลุคช่วยอีกแรง ส่วนข้าง ๆ พวกเขา เบ็นพ่นเสียงฮึ เ