ที่ปลายสายเสียงของไนเจลฟังดูสุภาพและเชื่อฟัง “เราค่อยคุยกันอีกทีตอนที่คุณแม่ว่างนะครับ!”จากนั้นเด็กน้อยก็วางสายไปลูน่าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากมุ่งหน้าไปเปิดประตูชายคนนั้นก้าวเข้ามาทันทีที่ประตูเปิด และร่างกายของเขาก็มีกลิ่นแอลกอฮอล์ ในสภาพมึนเมาเขาล้มกองลงบนเตียงของลูน่า “ที่รัก ผมต้องการน้ำ…”คำเรียกแสดงความรักทำให้หญิงสาวที่จับลูกบิดประตูตัวแข็งทื่อ เขาไม่เคย…เรียกเธอว่าที่รักมาก่อนการได้ยินเขาเรียกเธอแบบนั้นเป็นหนึ่งในความฝันที่เธอจดไว้ในไดอารี่ของตัวเอง ทว่าความฝันนั้นเป็นจริงในหกปีต่อมาตอนที่เขาเมา“ผมต้องการน้ำ…” ขณะที่นอนอยู่บนเตียง ชายคนนั้นก็เปิดปากแล้วร้องขออีกครั้ง ลูน่าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปิดประตูแล้วเทน้ำหนึ่งแก้วให้เขาเธอถือแก้วใส่น้ำอุ่นอย่างระมัดระวังแล้วเดินเข้ามาหาเขาอย่างอ่อนโยน “นี่ค่ะ ดื่มสิ”เขาพยักหน้าพยายามยันตัวขึ้นอย่างเชื่อฟัง เขาพิงหัวเตียงแล้วดื่มน้ำจนหมด จากนั้นเขาก็นอนลงบนเตียงหลังใหญ่และดึงเนคไทอย่างงุ่มง่ามลูน่าขมวดคิ้วงานเลี้ยงในคืนนั้นเป็นงานที่ค่อนข้างเป็นทางการ เขาสวมชุดสูทและผูกเน็คไทด้วยซ้ำ และในขณะนี้การผูกเน็คไทดูเหมือนจะทำให้
โจชัวกอดลูน่าไว้เป็นเวลานานเขาเกือบจะหลับไปบนเตียงเธอโดยมีเธออยู่ในอ้อมแขน แต่แล้วเขาก็นึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ได้อยู่ในห้องตัวเอง หลังจากนอนลงได้สักพักเขาก็ลุกขึ้นยืนตัวสั่นไปมาและตั้งใจจะกลับห้องลูน่าเหลือบมองเท้าที่ไม่มั่นคงของเขาและรู้สึกได้ว่าใจอ่อนลงเธอสูดหายใจเข้าลึกพยุงเขาไว้บนไหล่ของเธอแล้วเดินช้า ๆ ออกจากห้อง ประตูห้องข้าง ๆ เธอยังคงเปิดอยู่ลูน่าถอนหายใจ บางทีเขาคงจะลืมปิดตอนออกมาเธอช่วยพาเขาเข้าไปในห้อง ปิดประตู แล้วหันไปหยิบน้ำหนึ่งแก้วให้เขา จากอาการของเขา เขาคงเข้าไปในห้องของเธอเพราะเขาหาน้ำในห้องของตัวเองไม่เจอ เธอวางแก้วน้ำไว้บนโต๊ะ เธอห่มผ้าให้เขาแล้วหันหลังจะจากไปแต่ก่อนที่เธอจะไปได้ไกล เขาก็ดึงเธอกลับมาอีกครั้งชายคนนั้นหัวเราะเบา ๆ และกดเธอไว้ข้างใต้เขา “ที่รัก ตอนนี้คุณอยู่บ้านกับผมแล้ว คุณกำลังจะไปไหนอีกล่ะ?”ลูน่าตัวแข็งทื่อ แต่ก่อนที่เธอจะทันได้โต้ตอบ เขาก็พรมจูบลงมาบนใบหน้าของเธอเสียก่อน…หลังจากออกจากห้องควบคุมกล้องวงจรปิด อลิซก็รีบไปที่ห้องของลูน่าพร้อมกับลูกน้องของเธอ เธอเคาะประตูอย่างคนคลั่ง“ลูน่า ออกมา! ลูน่า! เธอไม่ได้พูดหรือไงว่าไม่อยากเป
...คืนนั้น โจชัวมีความฝันที่ยาวนานและสมจริงมาก เขาฝันว่าลูน่า กิบสันกลับมาหาเขา เธอป้อนน้ำให้เขาและฟังขณะที่เขาเรียกเธอว่าที่รักพวกเขายัง...ในความฝันเขาเรียกเธอว่าลูน่า กิบสันและเธอก็ตอบเขาทุกครั้งไม่ใช่การร้องตอบที่น่าอึดอัดใจและผิดธรรมชาติของอลิซ แต่เป็นการตอบที่เป็นธรรมชาติและราบรื่นอย่างเหลือเชื่อชายคนนั้นหลับตาและนึกถึงชั่วขณะนั้นเป็นเวลานานหากเพียง…ความฝันนี้จะกลายเป็นความจริงก็คงดีครู่ต่อมาเขาลืมตาขึ้นและเห็นการตกแต่งอันหรูหราของห้องพักในโรงแรม แต่เขาไม่ได้นอนอยู่บนเตียงนุ่ม ๆ อันใหญ่โตนี้คนเดียว นอกเขาแล้วยังมี…อลิซที่ไม่ได้สวมเสื้อผ้าอะไรเลย นอกจากชุดชั้นในของเธอเธอนอนหลับอยู่ในอ้อมแขนของเขาเหมือนลูกแมวตัวน้อยบนพื้นข้างเตียงมีกระดาษทิชชู่ที่ถูกทิ้งและเสื้อผ้าของพวกเขากองอยู่โจชัวลูบช่องว่างระหว่างคิ้วของเขา เมื่อเห็นภาพที่ตรงหน้านี้ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ?“คุณตื่นแล้วเหรอคะ?” จากการเคลื่อนไหวของเขา อลิซที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาก็ลืมตาขึ้นและเงยหน้ามองเขา เธอกะพริบตา ดวงตาของเธอยังคงง่วง
แต่เดิมแผนการวันนี้ของลูน่าและโจชัวคือการไปเยี่ยมบริษัทเครื่องประดับหลาย ๆ แห่งเพื่อทำการสำรวจเวลาที่ตกลงกันไว้คือ 9 โมงเช้า แต่จนเลยเวลา 10 โมงไปแล้ว ก็ยังไม่มีสัญญาณความเคลื่อนไหวจากโจชัวขณะที่นั่งอยู่ในห้องของเธอ ลูน่าลังเลอยู่ครู่หนึ่งและสงสัยว่าเธอควรเข้าไปถามเขาหรือเปล่า ถ้าพวกเขาจะไม่ออกไปเธอก็จะได้ไม่ต้องรออีกต่อไป“โจชัว ขอบคุณนะคะที่วันนี้อยู่เป็นเพื่อนฉัน แต่ตอนนี้ไม่เจ็บมากแล้วค่ะ” ขณะที่เธอเดินไปที่ประตูห้องของพวกเขาและก่อนที่เธอจะได้เคาะประตู เสียงคร่ำครวญอันแผ่วเบาของอลิซก็ลอยออกมาจากในห้อง “คุณไม่ได้มาทำธุระที่เมืองซีหรอกเหรอคะ คุณควรจะไปได้แล้วนะ”“ไม่ ผมยกเลิกแล้ว” เสียงทุ้มลึกของชายคนนั้นฟังดูอ่อนโยนอย่างยิ่ง “เจ็บตรงไหนอีกไหม ผมจะนวดให้คุณ”“ตรงนี้ค่ะ จุดนี้ยังปวดอยู่เลย ทั้งหมดเป็นความผิดของคุณเลย…”“โอเค ผมจะนวดให้คุณนะ”...เสียงหนึ่งฟังดูนุ่มนวล อ่อนโยนและคร่ำครวญเล็กน้อยราวกับเรียกร้องความสนใจ ส่วนอีกเสียงหนึ่งมีความลึกซึ้งและเอาใจใส่พร้อมด้วยความรักและความเสน่หาที่ดังก้องอยู่ในน้ำเสียงของเขามือของลูน่าที่กำลังจะเคาะประตูหยุดชะงักกลางอากาศ ไม่นานเธอ
“อลิซรู้ว่าฉันมาหาเธอ”ลูน่ายิ้มเยาะและปิดประตู “เมื่อไม่นานมานี้ คุณนายลินช์เรียกฉันว่าเมียน้อยของคุณอยู่หยก ๆ เธอกลายเป็นคนให้อภัยง่ายได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”โจชัวขมวดคิ้ว แต่ไม่ตอบเขาบอกให้เธอนั่งลงบนโซฟา “เนื่องจากเหตุผลบางประการ กำหนดการเยี่ยมชมเลยเปลี่ยนใหม่เป็นวันพรุ่งนี้”เขายื่นเอกสารให้เธอ “นี่เป็นโรงงานหลักสองสามแห่ง เธอต้องเข้าใจการออกแบบและวัตถุดิบที่จำเป็น พรุ่งนี้คอยจับตาดูวัสดุที่โรงงานจัดเตรียมไว้ให้นะ แล้วก็…”เขายื่นเอกสารอื่นให้เธอ “สังเกตรูปแบบการออกแบบและกลุ่มเป้าหมายของบริษัทเหล่านี้ด้วย”เมื่อเห็นว่าเขาทุ่มเทแค่ไหนในการหารือเรื่องธุรกิจ ลูน่าจึงตัดสินใจไม่นำเรื่องส่วนตัวของพวกเขามาคุยต่อ เธออ่านเอกสารอย่างละเอียด จากนั้นทำเครื่องหมายส่วนที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ “ฉันรับทราบแล้วค่ะ”“เราจะออกเดินทางเวลาเก้าโมงเช้าพรุ่งนี้ เราจำเป็นต้องไปเยี่ยมชมบริษัทเหล่านี้ทุกแห่งภายในวันเดียว” น้ำเสียงของโจชัวฟังดูเป็นการเป็นงานและไร้อารมณ์ “แล้วตอนกลางคืน เราจะไปทานอาหารเย็นกับลูกค้าคนหนึ่งของเราในเมืองซี ดังนั้นอย่าลืมเตรียมยาแก้แฮ้งค์ด้วยล่ะ”“ได้ค่ะ”ลูน่าก้มหน้า
ลูน่าตัวแข็งทื่อ เธอไม่เคยคิดเลยว่าโจชัวจะสังเกตเห็นสร้อยของเธอ เธอระมัดระวังและงดเว้นการคุยผ่านสร้อยตอนที่เขาอยู่ใกล้ ๆ มาเสมอเมื่อคืนเธอเปิดไมโครโฟนที่สร้อยคอก็เพื่อให้ไนเจลได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างงานเลี้ยงต้อนรับ เธอไม่เคยคิดเลยว่าโจชัวจะเห็นการกระทำของเธอและปิดบังความสงสัยที่มีต่อสร้อยคอของเธอไว้โจชัวรู้ว่าเขาเดาถูกในตอนที่สังเกตเห็นสีหน้าประหลาดใจของลูน่า เขาหรี่ตามองเธอเมื่อคืนเขาจับตาดูลูน่าทุกการเคลื่อนไหวของเธอ เธอไม่ได้แตะมือถือเลยทั้งคืน ถ้าอย่างนั้นแล้วเธอยังติดต่อกับแฮ็คเกอร์ได้ยังไง?โจชัวรู้สึกทึ่งกับเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงเช็กกล้องวงจรปิดในงานทุกตัว คลิปวิดีโอแสดงว่า ในช่วงเวลาสั้น ๆ ลูน่าได้แตะสร้อยคอ และไม่ได้แสดงพฤติกรรมน่าสงสัยอื่นใดอีก นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงสงสัยว่าสร้อยคอนี้ไม่ธรรมดาเมื่อเห็นว่าเธอนิ่งไป โจชัวก็เอื้อมมือไปจับสร้อยของเธอไว้ ทว่าลูน่ายกมือทั้งสองข้างขึ้นมาทับหน้าอกของตัวเองไว้ “อย่ามาแตะตัวฉันนะ!”เธอกระโดดออกจากโซฟาและเดินหนีจากเขาขณะที่มือทั้งสองข้างก็ยังคงอยู่บนหน้าอกของเธอ “สร้อยนี้เป็นของฉัน นีลและเนลลี่ อย่าคิดว่าจะเอามันไ
ลูน่าหลับตาลงและหัวเราะเบา ๆ ถ้าเธอไม่คุ้นเคยกับเขา เธอคงโดนหลอกให้คิดว่าเขาเป็นสามีผู้ซื่อสัตย์และทุ่มเทสุดตัว น่าเสียดายที่เธอรู้จักเขาดีเกินไปเธอคงไม่ประสบอุบัติเหตุครั้งนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะเขาถ้าไม่ใช่เพราะเขา ออร่าคงไม่ตั้งท้องลูกของเขาและอยู่กับเขาไปอีกหลายปีถ้าเขาทุ่มเทให้กับการเป็นสามีจริง ๆ ทำไมเขาถึงประกาศต่อสาธารณชนว่ามีความตั้งใจที่จะหย่ากับอลิซ แต่แล้วจู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนใจและพยายามหาเหตุผลให้กับการกระทำของตัวเองด้วยการหยิบยกเรื่องราวทุกอย่างที่ลูน่า กิบสัน ภรรยาของเขาต้องเผชิญมาอ้างชายสองหน้าเจ้าเล่ห์คนนี้รังเกียจลูน่าเข้ากระดูก!ขณะที่คิดถึงเรื่องนั้น เธอก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดเล็กน้อยที่บริเวณคอของตัวเอง สิ่งต่อมาที่เธอเห็นคือโจชัวแกว่งสร้อยคอไว้ตรงหน้าเธอพร้อมรอยยิ้มแห่งชัยชนะ“เป็นอย่างที่ฉันคิดไว้” มีไมโครชิปฝังอยู่ในสร้อยคอ พร้อมด้วยสวิตช์เล็ก ๆ โจชัวใช้ปลายนิ้วหมุนสร้อยคอไปมาแล้วพูดกับลูน่าด้วยรอยยิ้มว่า “นี่เป็นวิธีที่เธอใช้ติดต่อกับแฮ็คเกอร์ลึกลับคนนั้นเหรอ? นีลและเนลลี่เองก็มีสร้อยคอนี้เหมือนกัน พวกเธอทั้งสี่คนติดต่อกันผ่านทางนี้ใช่ไหม?”โจชัวหรี่ตา เข
“โจชัว ลินช์!” ลูน่าจ้องเขา “อย่าทำให้ฉันต้องเกลียดคุณ!”มือของโจชัวแข็งทื่อความทุกข์และความขุ่นเคืองในดวงตาของเธอทำให้เขาหยุดชะงัก แต่ความลังเลนี้กินเวลาเพียงชั่วครู่เท่านั้น ไม่กี่วินาทีต่อมาโจชัวก็ยิ้มเยาะเขาแค่อยากรู้ว่าแฮ็คเกอร์ที่ช่วยลูน่ามาโดยตลอดคนนี้เป็นใคร เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะทำอะไรไม่ดีกับแฮ็คเกอร์ลึกลับคนนั้นเลย แล้วทำไมเธอถึงจะเกลียดเขาเพราะเรื่องนี้ล่ะ?โจชัวกดปุ่ม แต่มีเสียงเด็ก ๆ ดังออกมาจากสร้อยคอ “คุณแม่! ถ้าคุณแม่เจอปัญหาอะไร อย่าเศร้านะ! เนลลี่จะอยู่กับคุณแม่ตลอดไป นีลบอกว่าเราควรบันทึกเสียงของเราเก็บไว้ในสร้อยคอเส้นนี้ เพื่อคุณแม่จะได้รู้สึกเหมือนมีเราอยู่ข้าง ๆ เสมอ”ทันใดนั้น เสียงของนีลก็ดังขึ้น “แม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่กับคุณแม่ แต่คุณแม่ก็ยังต้องดูแลตัวเอง คุณแม่เป็นคนที่ไว้ใจได้และผมก็กลัวมาตลอดเลยว่าคุณแม่จะถูกรังแก อย่าลืมทานอาหารและเข้านอนให้ตรงเวลาด้วยนะ เพียงเพราะเราไม่ได้อยู่กับคุณแม่แล้วก็ไม่ได้หมายความว่าคุณแม่จะไม่สนใจสุขภาพของตัวเองได้นะ”สิ่งสุดท้ายที่พวกเขาได้ยินคือเสียงที่นีลและเนลลี่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “คุณแม่ เรารักคุณแม่นะ”ทั้งห้องต
“งั้นคุณพ่อก็ควรรู้นะครับว่าลูน่าเลี้ยงพวกเขามาหกปี ผมแนะนำว่าคุณพ่อควรดีกับลูน่าให้มากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเด็ก ๆ อาจจะไม่ยอมรับคุณเป็นคุณปู่ของพวกเขาอีกต่อไปได้”ใบหน้าของเอเดรียนเปลี่ยนเป็นสีม่วงจากมุมนี้ ลูน่าเหลือบมองสีหน้าของเขาด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างามแต่ไร้อารมณ์ พร้อมกับยกยิ้มไม่ใส่ใจบนริมฝีปากของเธอ “คุณท่านลินช์ คุณบอกว่าฉันฆ่าเฮลีย์ คุณมีหลักฐานไหม? การตัดสินใจว่ามีคนฆ่าคนอื่นหรือไม่ คุณไม่จำเป็นต้องพูดตามหลักฐานที่มีอยู่หรอกเหรอคะ?” เธอวางข้อเท้าบนเข่า น้ำเสียงของเธอเย็นชาและห่างไกล “เฮลีย์ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงมาจากตึก ฉันไปชี้มีดใส่เธอแล้วบังคับให้เธอกระโดดหรือว่าฉันผลักเธอเหรอ? ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนที่เฮลีย์ฆ่าตัวตาย ฉันไปเยี่ยมสามีเก่าของเพื่อนที่โรงพยาบาลกับเพื่อนนะ มีกล้องวงจรปิดที่โถงทางเดินและลิฟต์ในโรงพยาบาลอยู่ ฉันมีหลักฐานชัดเจนสมบูรณ์”เอเดรียนเปล่งเสียงในจมูก “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ก่อนที่เฮลีย์จะกระโดดก็เป็นเพราะเธอ เฮลีย์ถูกบังคับให้ออกจากเมืองซีและย้ายไปอยู่ต่างประเทศ! เฮลีย์เติบโตมากับความมั่งคั่งและความฟุ่มเฟือยด้วยความกรุณาของพระเจ้า และเพราะผู้หญิงเช่นเธอ
“เพียะ!”ก่อนที่ทุกคนจะทันได้โต้ตอบ เสียงตบก็ดังก้องไปทั่วห้องนั่งเล่นศีรษะของลูน่าหันไปด้านข้างจากแรงกระแทก รสหวานราวกับเหล็กของเลือดเต็มปาก และเลือดก็หยดลงมาตามมุมปากของเธอ“คุณแม่!”“คุณแม่…!”เด็กสองคนที่นั่งอยู่ทั้งสองด้านของหญิงชรา กระโดดขึ้นจากโซฟาตามสัญชาตญาณแล้วพุ่งไปหาลูน่าทันทีหนึ่งในนั้นจับมือเธออย่างระมัดระวัง เขาก้าวไปข้างหน้าพยายามปกป้องเธอ ในขณะที่อีกคนหยิบกระดาษทิชชูจากโต๊ะข้าง ๆ อย่างใจเย็น แล้วยื่นให้ลูน่าการเห็นเด็กสองคนปกป้องเธอทำให้โจชัวขมวดคิ้ว ข้าง ๆ เขา อลิซส่งเสียงเย้ยหยันอยู่ในอก แต่ภายนอกนั้นเธอกำลังทำสีหน้ากังวล “นีล รีบพาน้องสาวของหนูมานี่เร็วเข้า” จากนั้นเธอก็ชำเลืองมองสุภาพบุรุษตัวน้อยที่กำลังยื่นทิชชู่ให้ลูน่า“นี่เป็นเรื่องระหว่างคุณปู่ของหนูกับน้าลูน่านะ มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ อย่ายื่นจมูกเข้าไปในที่ที่ไม่เกี่ยวกับเราสิ”นีลจ้องมองเธออย่างเย็นชา จากนั้นก็หันกลับมาดูแลแม่ของพวกเขาพร้อมกับเนลลี่ในทันทีจากนั้น อลิซก็แสดงท่าทีสงบนิ่งอย่างคนมีอารมณ์มั่นคงและพูดว่า “เอเดรียน คุณกำลังทำอะไรอยู่คะ คุณกำลังทำให้เด็ก ๆ กลัวนะ”เอเดรียนส่งเสียงเย
ในขณะเดียวกัน เขาก็คิดถึงพวกเขามาก ผ่านไปนานแล้วเหมือนกันหลังจากที่พวกเขาได้เจอกันครั้งสุดท้าย จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงเสนอให้พาทุกคนมารวมตัวกันที่บลูเบย์วิลล่าแต่ดูเหมือนว่า...เขาทำให้ทั้งเด็ก ๆ และลูน่าโกรธเขาได้สำเร็จเท่านั้นหรอกเหรอ?รถขับต่อไปไม่นานรถก็มาจอดหน้าบลูเบย์วิลล่า เมื่อลูน่าก้าวลงจากรถที่ยูริและแซคขนสัมภาระมา อลิซก็ก้าวลงมาเช่นกันขณะยืนอยู่นอกรถของโจชัว รอยยิ้มปลอม ๆ ก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอ “ เนลลี่มานี่เร็ว แม่จะอุ้มหนูเข้าบ้าน!”เนลลี่กลอกตา เดินผ่านเธอ และมุ่งหน้าไปที่ประตูด้วยขาที่สั้นและแข็งแรงของเธอในทางกลับกัน นีลกลับรีบวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเธอพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า “ถ้าเนลลี่ไม่ต้องการให้คุณอุ้ม ก็อุ้มผมแทนสิครับ! ผมก็ไม่ได้หนักมากเหมือนกัน แค่หนักกว่าเนลลี่นิดหน่อยเอง”อลิซอุ้มเขาไว้ในอ้อมแขนของเธอ สีหน้าของเธอดูน่าเกลียด และก้าวไปข้างหน้าด้วยความพยายามสุด ๆ นีลเอาแขนของเขาคล้องคอเธอตามสะดวก “คุณอลิซ เร็วสิครับ ผมเป็นเด็กน้อยสุดที่รักของคุณไงครับ มันคงจะแย่ถ้าเราล้มกันทั้งคู่แล้วได้รับบาดเจ็บนะ!”สีหน้าของอลิซดูน่าเกลียดและยิ่งน่าเกลียดมากขึ้น
โจชัวเลิกคิ้วเขาไม่คาดคิดเลยว่านี่จะเป็นคำถามแรกที่ลูกชายของเขาถามหลังจากที่แยกจากกันหลายวันเขามองลูกชายของเขาจากหางตา “นายดูไม่เต็มใจที่จะเห็นแม่นายกับฉันคืนดีกันนะ”นีลหยุดนิ่งไป เขาหันไปมองโจชัวอย่างเคร่งขรึมแล้วยกสองนิ้ว“อย่างแรกนะครับ ผมไม่เคยยอมรับคุณอลิซ กิบสันเลย สำหรับผมแล้ว เธอไม่เคยเป็นแม่ของผมเลย แม่ของผมคือลูน่า อย่างที่สอง ความชอบหรือไม่ชอบของผม มันสำคัญสำหรับคุณหรือเปล่าครับ คุณลินช์ ถ้าคุณพิจารณาถึงความคิดและความรู้สึกของเราจริง ๆ คุณก็คงไม่บังคับน้องสาวของผมและผมให้ทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำ เช่น การพาเรากลับไปที่บลูเบย์วิลล่าตอนนี้ สุดท้ายนะครับ ผมไม่สนใจคุณและอลิซเลย ผมแค่อยากจะรู้ว่าทำไมท่าทีของคุณที่มีต่อเธอถึงเปลี่ยนไปแบบ 180 องศา หลังจากกลับมาจากเมืองซีก็เท่านั้น”ก่อนที่พวกเขาจะจากไป พวกเขาก็ได้แยกทางกันไปแล้ว และยังประกาศว่าพวกเขาจะกำหนดวันเซ็นใบหย่าด้วยซ้ำ แต่ไม่นานหลังจากที่พวกเขาไปถึงเมืองซี พวกเขาก็กลับมาคืนดีและรักกันเหมือนเดิม และเมื่อดูจากภายนอกแล้ว พวกเขาดูยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าเดิมด้วยโจชัวหรี่ตาลงเล็กน้อย อะไรทำให้ท่าทีของเขาที่มีต่ออลิซเปลี
“คุณแม่คะ! หนูคิดถึงคุณแม่มากเลย!” เนลลี่กล่าวเธอหยิบกุญแจออกมาและทันทีที่เธอเปิดประตูอพาร์ตเมนต์ เด็กทั้งสองก็รีบวิ่งออกมาราวกับพายุทอร์นาโดลูกเล็กสองลูกนีลและเนลลี่ต่างกอดขาข้างหนึ่งของเธอไว้ และพูดด้วยความตื่นเต้น“คุณแม่ หนูรู้ว่าคุณแม่จะกลับมาในเวลานี้ แต่นีลเอาแต่ยืนกรานว่าแม่จะกลับมาทีหลัง!”“คุณแม่ครับ เมื่อหลายวันที่คุณแม่ไม่อยู่บ้าน ผมขอให้ลิลลี่สอนวิธีชงกาแฟด้วยล่ะ! ผมทำกาแฟอาราบิก้าแก้วโปรดของคุณแม่ด้วย!”“คุณแม่คะ หนูวางแผนไว้หมดแล้ว บ่ายวันนี้คุณแม่จะไปไหนไม่ได้เลยนะ คุณแม่ต้องอยู่บ้าน อ่านนิทานให้หนูฟังและต่อเลโก้กับนีลด้วย!”“แม่…”ลูน่าลดสายตาลงมองดูหัวเล็ก ๆ สีดำสองหัวที่อยู่ตรงหน้าเธอ คำพูดติดอยู่ที่ปลายลิ้นของเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถคายมันออกมาได้ข้างหลังเธอ ลิลลี่ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่น มองเธอด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “คุณ ลูน่า พวกเขาตั้งใจหยุดเรียนหนึ่งวันเพื่อรอคุณเลยนะคะ ตั้งแต่เช้านี้พวกเขาตื่นเต้นเป็นพิเศษแล้วก็ตกแต่งบ้านราวกับว่าเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดด้วย”ตอนนั้นเองที่ลูน่าสังเกตเห็นของประดับตกแต่งที่แขวนอยู่ในห้องนั่งเล่น ป้ายหลากสีสันแขวนอยู่ตามผนัง ความค
บรรยากาศในรถเปลี่ยนเป็นเงียบเชียบร่างกายของลูน่าแข็งทื่อไปหมดเธอไม่ได้เจอทั้งนีลและเนลลี่มาหลายวันแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดที่เธอเคยห่างจากพวกเขานับตั้งแต่ที่เธอให้กำเนิดพวกเขามาเมื่อหกปีที่แล้วเธอคิดถึงพวกเขาอย่างสุดซึ้งจากการโทรหาและคุยกับพวกเขาเมื่อเช้านี้และเมื่อวานตอนบ่าย เธอก็รู้ว่าเด็ก ๆ เองก็คิดถึงเธออย่างสุดซึ้งเช่นกันไฟในใจเธอที่ลุกโชนด้วยความตื่นเต้นเมื่อนึกถึงการพบปะกับลูก ๆ ของเธอถูกดับลงอย่างโหดร้ายด้วยคำพูดเย็นชาของอลิซ และได้กลับกลายเป็นความหนาวเย็นจนจับไปถึงขั้วหัวใจอลิซจงใจทำแบบนี้ เธอไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ ต่อนีลและเนลลี่ เธอแค่พยายามจะก่อกวนเธอและลูก ๆ ให้อารมณ์เสีย“โจชัวคะ” เมื่อสังเกตเห็นความเงียบอย่างต่อเนื่องของโจชัว อลิซถึงกับร้องเรียกเขาเบา ๆจากนั้นเขาก็กะพริบตาและฟื้นคืนสติของตัวเอง เขากระแอมไอเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมองลูน่าจากด้านหลังขณะที่เธอนั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสาร “เราจะทำตามที่อลิซบอก”ไม่ว่ายังไงก็ตาม อลิซยังคงเป็นแม่ของพวกเขา แม้ว่าเธอจะไม่ได้อาศัยอยู่กับเด็กๆ ตลอดหกปีของชีวิต แต่ท้ายที่สุดแล้วเลือดก็ข้นกว่าน้ำ นอกจากนี้ อล
วิทยุยังคงเล่นซ้ำข่าวเรื่องที่เกิดกับตระกูลวอลเตอร์ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา “ก่อนที่การกล่าวหาคุณเดนนิส วอลเตอร์จะถูกหยิบยกมาพูดถึง ทายาทคนเดียวของวอลเตอร์กรุ๊ป เฮลีย์ วอลเตอร์ได้กระโดดตึกฆ่าตัวตายไปแล้ว ตอนนี้วอลเตอร์กรุ๊ปกลายเป็นอาณาจักรที่กำลังขาดกษัตริย์และกำลังจะล่มสลาย...”ลูน่าหลับตาลง เธอสงสัยว่าเกว็นจะได้ยินข่าวนี้หรือยัง ถ้าเธอได้ยิน อย่างน้อยเธอก็จะรู้สึกสบายใจเล็กน้อยใช่ไหม?เมื่อคิดเช่นนี้ เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อจะตรวจสอบว่าเกว็นส่งข้อความใหม่ให้เธอหรือไม่ แต่กลับเห็นการอัปเดตสถานะใหม่ที่โพสต์โดยเบ็นแทน'ตรวจสอบอาการบาดเจ็บของฉันที่สถานีตำรวจ ตระกูลลาร์สัน ระวังตัวไว้! ฉันจะเรียกร้องค่าเสียหาย!'รูปภาพประกอบเป็นแขนที่ได้รับบาดเจ็บและแก้มบวมฉึ่งอันเป็นผลมาจากการทะเลาะกันเมื่อวันก่อนลูน่ารู้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาต้องเป็นฝีมือของแซคและยูริ เธอจ้องโทรศัพท์อยู่นาน ในที่สุดเธอก็กดไลค์สองภาพที่เบ็นโพสต์“ลูคัส ปิดวิทยุที” ทันใดนั้นเสียงอันแผ่วเบาอ่อนแอของอลิซก็ดังมาจากเบาะหลัง “ฉันอยากนอนพัก”จากนั้น โจชัวก็มีสีหน้ากังวลขณะพูดว่า “ทำไมหน้าคุณดูซีดจัง ไม่สบายเหรอ?”ลูน
มือของโจชัวที่กำช้อนและส้อมไว้หยุดชะงักไปเล็กน้อย สุดท้ายเขาก็หัวเราะเบา ๆ “เพราะว่าเธอเคยหย่าและสามีเก่าเธอมันนิสัยไม่ดี เธอก็เลยแอบลักพาตัวนีลกับเนลลี่ไปแล้วเลี้ยงเหมือนเป็นลูกตัวเองเหรอ?”ลูน่ายกแก้วขึ้นแล้วกลืนน้ำอุ่นในปากลงคออย่างแรง จากนั้นเธอจึงมองไปทางโจชัว “คุณจะพูดแบบนั้นก็ได้”โจชัวยกแก้วของเขาขึ้นเช่นกัน “ทำไมเธอถึงไม่มีลูกกับสามีเก่าล่ะ?”“เขาไม่สมควรมีลูก” ลูน่าวางแก้วลงแล้วยกช้อนส้อมเพื่อกินต่อ “เขามีชู้ในตอนที่ฉันต้องการเขามากที่สุด และถึงกับอยากจะฆ่าฉันเพื่อเอาใจอีกฝ่ายด้วยซ้ำ คุณคิดว่าเขาสมควรมีลูกไหม?”ถ้าตอนนั้นเธอยังไม่ท้อง เธอก็ไม่อยากมีลูกของเขาจริง ๆเขาไม่สมควรได้รับพวกเขาแม้ว่าเธอจะให้กำเนิดพวกเขาแล้ว แต่ลูน่าก็ยังเชื่อเช่นเดิมว่าเด็กทั้งสามคนเป็นของเธอและเป็นของเธอเพียงคนเดียวพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโจชัวเมื่อพูดคำเหล่านี้ ดวงตาของเธอก็จับจ้องไปที่โจชัวการจ้องมองของเธอทำให้เขารู้สึกสับสน ราวกับว่าเขาเป็นคนที่ทิ้งและทำร้ายเธอเองเขาขมวดคิ้วและหันหน้าหนีจากเธอ “แล้ว เธอก็ปล่อยเขาไปทั้งอย่างนั้นเหรอ?”ลูน่าคลี่ยิ้มเย็นชา “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปล่อ
“คุณหย่ากับฉันเมื่อเช้านี้ พอตอนบ่าย คุณก็หาแฟนได้ แล้วตอนนี้พอตกกลางคืนคุณก็พาแฟนใหม่ของคุณมาบ้านเก่าของคุณ เบ็น เซลเลอร์ คุณมันไม่คู่ควรกับเวลาที่ฉันตกหลุมรักไปเลย”จากนั้นเธอก็สูดลมหายใจเข้าลึก และหันกลับไปมองลุคที่กำลังถือไฟแช็กไว้สำหรับเตรียมจุดบุหรี่ให้ตัวเองขณะดูการแสดง “ฉันขอยืมไฟแช็กหน่อยได้ไหม?”ลุคยักไหล่ เขาเดินเข้ามาและก้มลงขณะถือไฟแช็คของเขา เขาฉีกภาพเดี่ยวที่สวยที่สุดของเกว็นออกมา จากนั้นก็จุดไฟเผาภาพถ่ายที่เหลือไปสุดท้ายเขาก็ส่งรูปถ่ายที่เขาฉีกออกมาให้เกว็น “เอาไว้นึกถึง”เกว็นส่ายหน้า “เผาไปเถอะค่ะ”เธอไม่จำเป็นต้องนึกถึงอะไรแบบนี้ลุคยกยิ้มจาง ๆ เขามองไปที่เกว็นด้วยความสนใจเล็กน้อยที่ปรากฏในดวงตาแล้วสอดรูปถ่ายใบนั้นใส่กระเป๋าเสื้อของตัวเองภาพถ่ายทั้งหมดถูกจุดไฟเผาท่ามกลางแสงไฟโหมกระหน่ำ เบ็นหัวเราะอย่างเย็นชา “ถึงคุณจะไม่เผามัน ผมก็จะเป็นคนเผาอยู่ดี”เกว็นหลับตาแน่น แต่ยังคงเงียบเมื่อรูปถ่ายไม่เหลืออะไรนอกจากกลายเป็นกองขี้เถ้า เธอก็จับมือของลูน่าไว้ “ไปกันเถอะ”ลูน่าพยักหน้าและช่วยพยุงเธอนั่งบนที่นั่งโดยมีลุคช่วยอีกแรง ส่วนข้าง ๆ พวกเขา เบ็นพ่นเสียงฮึ เ