ถึงอย่างนั้น ไม่ใช่แค่แชนน่อนจะไม่รู้สึกละอายกับเรื่องนี้ แต่เธอยังรู้สึกภาคภูมิใจกับมันอีกด้วยเหรอ?ในที่สุดลูน่าก็เข้าใจแล้วว่าทำไมข้อเสนอการออกแบบง่าย ๆ ถึงต้องแก้ไขไปมากกว่าห้าครั้งดูเหมือนว่านักออกแบบในแผนกออกแบบจะ...ไม่มีความตั้งใจในการออกแบบเลย“คุณเลิศมาก” เมื่อลูน่ากลับมาที่โต๊ะ บอนนี่ก็ยิ้มและส่งหมากฝรั่งให้“คุณเป็นคนเดียวในแผนกของเราเลยที่ไม่เคยโดนท่านประธานดุจนหัวหด แถมคุณยังนำกระดาษที่มีลายมือของท่านประธานกลับมาด้วย! ดูเหมือนคุณจะไม่ได้เป็นเด็กฝึกงานนานหรอกค่ะ!”ลูน่าไม่รู้ว่าต้องหัวเราะหรือร้องไห้ดี เธอยัดหมากฝรั่งเข้าปาก “ล้อกันเล่นแล้ว”“ไม่เลยนะคะ! ท่านประธานของเราขึ้นชื่อเรื่องเข้มงวดมาก ไม่มีใครกล้าเข้าหาเขา ท่านประธานบริษัทอื่นอาจจะมีโอกาสสานสัมพันธ์กับพนักงานผู้หญิง แต่ท่านประธานของเราน่ะ เขามีแต่ภรรยาเก่าเท่านั้น แล้วพวกเจ้าหน้าที่เอชอาร์ก็พยายามหาพนักงานที่ดูเหมือนภรรยาเก่าของเขามาเอาใจเขา”เมื่อได้ยินคำพูดของบอนนี่ลูน่าอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เธอนึกถึงคอร์ทนีย์ที่หน้าคล้ายลูน่า กิบสันในทันทีภาพของคอร์ทนีย์กับโจชัวที่อยู่ในห้องทำงานโผล่เข้ามาในความคิดของ
จู่ ๆ ลูน่าก็โดนขอให้คัดลอกข้อความกว่าหมื่นคำด้วยมือเธอตกใจไปเมื่อได้รับเอกสาร มันไม่ได้เกี่ยวกับการออกแบบเครื่องประดับหรือกฎของแผนกออกแบบเลยพวกมันคือกฎและนโยบายของบริษัท และมีจำนวนคำอย่างน้อยก็ 20,000 คำแชนน่อนวางเอกสารลงตรงหน้าเธอ สั่งงานเล็กน้อยแล้วจากไป“ส่งก่อนกลับบ้านวันนี้นะ”“โห” บอนนี่ดันแว่นแล้วคำนวณ “คุณต้องเขียนราว ๆ สองหมื่นคำเลยนะ นอกจากพักเที่ยงก็เหลือเวลาทำอีกห้าชั่วโมง อย่างน้อยก็ต้องเขียนหกสิบคำต่อนาที”นี่เป็นงานที่ไม่มีทางทำได้!บอนนี่เก็บมือถือของเธอลง“แปลกแฮะ วันนี้คุณไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วท่านประธานก็ไม่ได้ว่าอะไรคุณด้วย ทำไมหัวหน้าถึงมาหาเรื่องลำบากให้คุณอีกนะ?”ลูน่าหาปากกาและกระดาษและเริ่มเขียนอย่างใจเย็น “บางที่อาจจะเป็นท่านประธานที่ขอให้ฉันทำอะไรแบบนี้” เธอยิ้มเรียบ ๆตอนที่เธอออกมาจากห้องแชนน่อนก่อนหน้านี้ เธอยังได้รับความเคารพอยู่เลย แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปแบบฉับพลัน แชนน่อนไม่พูดอะไร แต่สั่งให้เธอคัดลอกกฎและนโยบายบริษัท ลูน่าไม่เชื่อหรอกว่าไม่มีใครสั่ง“จะคัดลอกทั้งหมดจริง ๆ เหรอ?” บอนนี่เม้มปาก “นั่นมันเยอะมากนะ!”“ไม่เป็นไร” ลูน่าจับปากกาแล
จากนั้นแชนน่อนก็มองลูน่าด้วยรอยยิ้มหยิ่งผยอง “ฉันคิดว่าเรามีพนักงานที่เก่งกาจซึ่งสามารถทำให้ท่านประธานเขียนข้อเสนอแนะให้กับมือเองได้ แต่ปรากฏว่าเขาก็แค่ปั่นหัวคุณเล่น ด้วยการให้คุณได้ทำงานเต็มเวลาเลยนะ”แชนน่อนจิบชาแล้วกล่าว “ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันคงลาออกแล้วกลับบ้านไปตั้งแต่เที่ยงแล้ว เขาพยายามจับผิดคุณ คุณจะยังทนอยู่ได้ยังไงกัน คุณไม่มีศักดิ์ศรีเลยหรือไง รู้จักอายบ้างไหม?”ลูน่าอยากจะเดินจากไป แต่ก็ต้องหยุดเดินเธอหันมามองแชนน่อนอย่างเย็นชา “แค่เพราะมีคนทำเรื่องให้มันยุ่งยากกับฉันแล้วฉันก็แค่ตามน้ำไป ฉันถึงกับไม่รู้จักอายเลยเหรอคะ?”แชนน่อนขยับเปลี่ยนท่าที่สบายขึ้นขณะที่ควงปากกาในมือ เธอมองลูน่าอย่างเรียกได้ว่าเกียจคร้านและเย่อหยิ่ง “แล้วยังไง?”“คุณเป็นคนบอกเอง…” ลูน่าหยิบเอกสารที่เธอคัดลอกด้วยมือมาด้วยสายตาดุดัน “คุณลินช์ส่งข้อเสนอการออกแบบกลับมาถึงห้าครั้ง แล้วทำไมคุณยังต้องแก้ไขจนถึงครั้งที่หกคุณบอกว่าคุณมีศักดิ์ศรีมาก คุณก็น่าจะโยนข้อเสนอการออกแบบนั้นใส่หน้าโจชัวแล้วบอกเขาว่าฉันขอลาออกไปแล้วสิ”พูดจบลูน่าก็ออกไปพร้อมกับเอกสารในอ้อมแขนโดยทิ้งแชนน่อนที่มึนงงตื่นตะลึงไว้เมื่อเธอ
“ขอฉันดูหน่อยได้ไหมคะ?” คอร์ทนีย์ชี้เอกสารบนโต๊ะและขออนุญาตอย่างสุภาพลูน่าเงียบไป หลังจากนั้นเธอก็หยิบแก้วชาขึ้นมาจิบ “เชิญค่ะ” ลายมือของเธอไม่ได้สวย แต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่กฎของบริษัทและนโยบายไม่ใช่ข้อมูลลับอะไร ดังนั้นถ้าคอร์ทนีย์อยากดูก็ดูได้ “ขอบคุณค่ะ!” คอร์ทนีย์ยิ้ม หยิบเอกสารขึ้นมาและพลิกผ่านพวกมัน “ว้าว ลายมือคุณสวยมากเลยค่ะ!” คอร์ทนีย์พลิกผ่านพลางดึงเอกสารออกจากแฟ้มแสร้งทำเป็นว่ากำลังทึ่งกับลายมือของลูน่า ลูน่าขมวดคิ้วและมองคอร์ทนีย์โดยไม่พูดอะไร ตอนที่พนักงานทำความสะอาดเดินผ่านคอร์ทนีย์ มือของเธอก็ลั่นจนทำให้กระดาษทุกแผ่นที่เป็นลายมือของลูน่าร่วงลงไปในถังน้ำลายมือบนกระดาษสีขาวเปื้อนไปด้วยน้ำสกปรกทั้งพนักงานทำความสะอาดและคอร์ทนีย์ต่างก็สะดุ้งและพนักงานทำความสะอาดก็รีบหยิบกระดาษออกมา แต่ก็เห็นว่าสิ่งที่เขียนเปื้อนไปหมดแล้วคอร์ทนีย์รีบร้องออกมาเสียงดัง “ลูน่า ฉันขอโทษจริง ๆ! ฉันควรทำยังไงดี? ฉันควรช่วยคุณคุยกับท่านประธานลินช์และขอความเมตตาได้ไหมคะ?”คอร์ทนีย์มองลูน่าด้วยดวงตาแดงก่ำ “ฉันดูเหมือนภรรยาเก่าของเขา บางทีอาจช่วยขอให้เขายกโทษให้ได้” ลูน่าวางถ้วยชาลงอย่าง
ลูน่าจงใจทำเรื่องทั้งหมดนี้ โจชัวโกหกคำโต เขาเอาแต่บอกว่าอยากให้ลูน่า กิบสันกลับมา แต่เขาแค่ต้องการให้เธอหายไปตลอดกาลไม่ใช่หรอกเหรอ? สิ่งที่เธอพูดจะทำให้เขาใช้เป็นข้ออ้างอันสมบูรณ์แบบในการเลิกเสแสร้งได้ บรรยากาศในห้องทำงานเงียบไปหลายวินาที และหลังจากนั้นโจชัวก็ยิ้มเรียบ ๆ “เยี่ยมไปเลยนะ” ลูน่า กิบสันแค่โกรธเขา เธอไม่ได้ไม่รักเขา ถ้าเธอไม่อยากกลับมาเพราะเรื่องที่เขาทำ คำแนะนำของลูน่าก็ถือว่ายอดเยี่ยม ถ้าเขาต้องการผู้หญิงมาแสดงด้วยกัน อย่างน้อยลูน่าก็ไม่รังเกียจเขา ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องคืนนั้นเป็นความผิดพลาดจริง ๆ เขาทำกับลูน่าเหมือนเธอเป็นตัวแทนของลูน่า กิบสัน เขาไร้ความรับผิดชอบกับเธอในเมื่อเธอต้องการจะได้รับตัวตนนี้ต่อและอยากขโมยข้อมูลของบริษัท เขาก็น่าจะให้โอกาสเธอถือซะว่านี่เป็น…การตอบแทนเรื่องในคืนนั้นเมื่อคิดอย่างนั้น โจชัวก็ถอนหายใจ เขาเงยหน้าและมองลูน่าอย่างลึกซึ้ง “แต่ฉันมีข้อต่อรอง”ลูน่ายิ้ม แต่ดวงตาไม่ยิ้ม “ว่ามาสิคะคุณลินช์”“เราแค่ทำการแสดงกัน”สีหน้าของลูน่าจัดได้ว่าบิดเบี้ยว “แสดงงั้นเหรอ?”“อืม” โจชัวยังคงมองเธออย่างเรียบเฉย ดวงตาของเขาลึกจนยากจะหยั่ง
โจชัวพลิกเอกสารอย่างใจเย็น “หลังจากเปลี่ยนตัวแล้ว ไปตามหาบอดีการ์ดสองคนก่อนหน้านี้ ใครบางคนจะต้องช่วยออร่า แล้วจับตาดูคนที่สมัครและเช็คประวัติพวกเขาให้ละเอียด”ลูคัสเงียบไปครู่หนึ่ง เขาเข้าใจในสิ่งที่โจชัวพยายามจะทำ เขาสูดลมหายใจเข้าลึกและกำลังจะเดินกลับออกไป “เดี๋ยวก่อน” โจชัวชี้ไปยังเอกสารที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำผสมฝุ่น “ให้คนไปทำให้มันแห้ง แล้วส่งให้ผู้เชี่ยวชาญเปรียบเทียบอีกครั้ง”ลูคัสอึ้งไป “แต่มัน...เละไปแล้วนะครับ ผมว่าผู้เชี่ยวชาญเองก็คงทำอะไรไม่ได้แล้ว”โจชัวมองลูคัสเรียบ ๆ “พวกเขารู้ว่าจะต้องทำยังไง”ไม่ว่าจะเป็นภาพหลอนหรือคิดไปเอง โจชัวก็รู้สึกได้ผ่านตัวอักษรที่โดนรอยเปื้อนว่ามัน…ดูคล้ายกับลายมือของลูน่า กิบสัน …“คอร์ทนีย์ หยุดร้องไห้เถอะ”ในตอนที่ลูน่ากลับมาที่แผนกออกแบบและเดินเข้าไป เธอก็เห็นกลุ่มนักออกแบบที่นำโดยแชนน่อนล้อมรอบคอยปลอบคอร์ทนีย์อยู่ราวกับมีแสงสปอร์ตไลต์ส่องไปที่เธอ คอร์ทนีย์ดูราวกับเป็นเจ้าหญิงสะอึกสะอื้นพลางเช็ดน้ำตา “ฉันไม่ได้ตั้งใจทำแบบนั้นจริง ๆ นะ ท่านประธานอยากให้ฉันขอโทษลูน่า ฉันก็เลยมาที่นี่ แล้วเมื่อไหร่เธอจะกลับมาเหรอคะ?”แชนน่อนถอนหายใ
คำพูดของลูน่าทำให้ใบหน้าของแชนน่อนเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินคล้ำแชนน่อนไม่สามารถรักษาความสง่างามและความเย่อหยิ่งเอาไว้ได้อีกต่อไป เธอรีบด่าลูน่าในทันที “คุณคิดว่าตัวเองเป็นใคร? กล้าดียังไงมาสอนฉัน คุณรู้อะไรเกี่ยวกับเครื่องประดับหรือการออกแบบบ้างหรือเปล่า? กล้าดียังไงมาวิจารณ์แผนกออกแบบของเรา! คุณก็แค่พนักงานฝึกงานจะไปรู้อะไร คิดว่าตัวเองเป็นนักออกแบบจันทร์เจ้าผู้โด่งดังหรือยังไง? คิดว่าคำพูดของคุณมีน้ำหนักอะไรด้วยเหรอ?” ลูน่าย่นคิ้วเล็กน้อยและค่อนข้างประหลาดใจเมื่อได้ยินนามแฝงก่อนหน้านี้ของเธอที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึง “ลูน่า” คอร์ทนีย์สูดจมูกแล้วเดินมาหาด้วยท่าทางอ่อนน้อมจากไกล ๆ เธอกล่าวด้วยดวงตาแดงก่ำ “ยกโทษให้ฉันได้ไหม? ถ้าคุณไม่ยกโทษให้ ฉันก็คงตอบท่านประธานไม่ได้”“ได้สิ ฉัยจะยกโทษให้” ลูน่ากล่าวเย้ยและชี้ไปที่แชนน่อน “แต่คุณต้องให้เธอมาก้มกราบฉันสักสามร้อยครั้งก่อน”ดวงตาของแชนน่อนเบิกกว้างอย่างโกรธเคือง “ฝันไปเถอะ!”“ถ้างั้นก็เชิญพวกคุณฝันไปก่อนเหมือนกัน”ลูน่าก้มหน้ามองดูนาฬิกาก่อนจะเริ่มเก็บของ “วันนี้ฉันเลิกงานละ ไปก่อนล่ะ!”ลูน่าเดินกรีดกรายออกไปทิ้งให้กลุ่มนักออกแบบมองเ
ลูน่ารู้สึกเจ็บเล็กน้อยเมื่อตอนที่เธอต้องคัดลอกเอกสารระหว่างวัน “เมื่อวานคุณลินช์ลงโทษฉัน วันนี้คุณควินน์ก็ด่าฉันด้วยเหมือนกัน” ลิลลี่เงยหน้า “ฉันรู้ว่าตัวเองผิดค่ะ” ลูน่าเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตบไหล่ลิลลี่เบา ๆ “ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้คิดร้าย ฉันไม่ถือโทษโกรธอะไร ฉันเข้าใจ ฉันจะสนใจกับปัญหานี้ในอนาคตให้มากขึ้น แล้วฉันก็จะติดต่อกับมัลคอล์มให้บ่อยขึ้นนะ” ลิลลี่อึ้งไป เธอไม่คิดว่าลูน่าจะตอบสนองแบบแบบนี้ เธอจึงอึ้งจนพูดไม่ออกไปในทันที เนลลี่ถอนหายใจขณะที่หอมแก้มลูน่าอย่างอ่อนโยน จากนั้นเธอก็หันไปจับมือของลิลลี่ไว้ “ลิลลี่ เราไปกันเถอะ!” เมื่อเห็นลิลลี่พาเนลลี่ไปแล้ว นีลก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ทำไมแม่ต้องดีกับเธอด้วยล่ะครับ?” “ใครไม่เคยทำผิดบ้างละจ๊ะ?” ลูน่าถอนหายใจขณะที่จับมือนีลไว้ “เธอดูแลพวกลูกสามคนมาอย่างดีตั้งหลายปีตอนที่เราอยู่ต่างประเทศ เพราะฉะนั้นแม่ไม่ควรจะใจแคบกับเธอ”ลูน่าจับมือนีลขณะที่พวกเขาเดินไปยังป้ายรถเมล์และพูดคุยกันว่าวันนี้เป็นอย่างไรบ้างเหมือนที่ทำเป็นประจำ เธอเล่าถึงเรื่องแซคกับยูริ และเรื่องเพื่อนร่วมงานคนใหม่ที่ชื่อ บอนนี่ เลน “คุณแม่ คุณแม่ไว้ใจคนง่ายไปแล้วนะ
“งั้นคุณพ่อก็ควรรู้นะครับว่าลูน่าเลี้ยงพวกเขามาหกปี ผมแนะนำว่าคุณพ่อควรดีกับลูน่าให้มากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเด็ก ๆ อาจจะไม่ยอมรับคุณเป็นคุณปู่ของพวกเขาอีกต่อไปได้”ใบหน้าของเอเดรียนเปลี่ยนเป็นสีม่วงจากมุมนี้ ลูน่าเหลือบมองสีหน้าของเขาด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างามแต่ไร้อารมณ์ พร้อมกับยกยิ้มไม่ใส่ใจบนริมฝีปากของเธอ “คุณท่านลินช์ คุณบอกว่าฉันฆ่าเฮลีย์ คุณมีหลักฐานไหม? การตัดสินใจว่ามีคนฆ่าคนอื่นหรือไม่ คุณไม่จำเป็นต้องพูดตามหลักฐานที่มีอยู่หรอกเหรอคะ?” เธอวางข้อเท้าบนเข่า น้ำเสียงของเธอเย็นชาและห่างไกล “เฮลีย์ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงมาจากตึก ฉันไปชี้มีดใส่เธอแล้วบังคับให้เธอกระโดดหรือว่าฉันผลักเธอเหรอ? ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนที่เฮลีย์ฆ่าตัวตาย ฉันไปเยี่ยมสามีเก่าของเพื่อนที่โรงพยาบาลกับเพื่อนนะ มีกล้องวงจรปิดที่โถงทางเดินและลิฟต์ในโรงพยาบาลอยู่ ฉันมีหลักฐานชัดเจนสมบูรณ์”เอเดรียนเปล่งเสียงในจมูก “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ก่อนที่เฮลีย์จะกระโดดก็เป็นเพราะเธอ เฮลีย์ถูกบังคับให้ออกจากเมืองซีและย้ายไปอยู่ต่างประเทศ! เฮลีย์เติบโตมากับความมั่งคั่งและความฟุ่มเฟือยด้วยความกรุณาของพระเจ้า และเพราะผู้หญิงเช่นเธอ
“เพียะ!”ก่อนที่ทุกคนจะทันได้โต้ตอบ เสียงตบก็ดังก้องไปทั่วห้องนั่งเล่นศีรษะของลูน่าหันไปด้านข้างจากแรงกระแทก รสหวานราวกับเหล็กของเลือดเต็มปาก และเลือดก็หยดลงมาตามมุมปากของเธอ“คุณแม่!”“คุณแม่…!”เด็กสองคนที่นั่งอยู่ทั้งสองด้านของหญิงชรา กระโดดขึ้นจากโซฟาตามสัญชาตญาณแล้วพุ่งไปหาลูน่าทันทีหนึ่งในนั้นจับมือเธออย่างระมัดระวัง เขาก้าวไปข้างหน้าพยายามปกป้องเธอ ในขณะที่อีกคนหยิบกระดาษทิชชูจากโต๊ะข้าง ๆ อย่างใจเย็น แล้วยื่นให้ลูน่าการเห็นเด็กสองคนปกป้องเธอทำให้โจชัวขมวดคิ้ว ข้าง ๆ เขา อลิซส่งเสียงเย้ยหยันอยู่ในอก แต่ภายนอกนั้นเธอกำลังทำสีหน้ากังวล “นีล รีบพาน้องสาวของหนูมานี่เร็วเข้า” จากนั้นเธอก็ชำเลืองมองสุภาพบุรุษตัวน้อยที่กำลังยื่นทิชชู่ให้ลูน่า“นี่เป็นเรื่องระหว่างคุณปู่ของหนูกับน้าลูน่านะ มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ อย่ายื่นจมูกเข้าไปในที่ที่ไม่เกี่ยวกับเราสิ”นีลจ้องมองเธออย่างเย็นชา จากนั้นก็หันกลับมาดูแลแม่ของพวกเขาพร้อมกับเนลลี่ในทันทีจากนั้น อลิซก็แสดงท่าทีสงบนิ่งอย่างคนมีอารมณ์มั่นคงและพูดว่า “เอเดรียน คุณกำลังทำอะไรอยู่คะ คุณกำลังทำให้เด็ก ๆ กลัวนะ”เอเดรียนส่งเสียงเย
ในขณะเดียวกัน เขาก็คิดถึงพวกเขามาก ผ่านไปนานแล้วเหมือนกันหลังจากที่พวกเขาได้เจอกันครั้งสุดท้าย จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงเสนอให้พาทุกคนมารวมตัวกันที่บลูเบย์วิลล่าแต่ดูเหมือนว่า...เขาทำให้ทั้งเด็ก ๆ และลูน่าโกรธเขาได้สำเร็จเท่านั้นหรอกเหรอ?รถขับต่อไปไม่นานรถก็มาจอดหน้าบลูเบย์วิลล่า เมื่อลูน่าก้าวลงจากรถที่ยูริและแซคขนสัมภาระมา อลิซก็ก้าวลงมาเช่นกันขณะยืนอยู่นอกรถของโจชัว รอยยิ้มปลอม ๆ ก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอ “ เนลลี่มานี่เร็ว แม่จะอุ้มหนูเข้าบ้าน!”เนลลี่กลอกตา เดินผ่านเธอ และมุ่งหน้าไปที่ประตูด้วยขาที่สั้นและแข็งแรงของเธอในทางกลับกัน นีลกลับรีบวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเธอพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า “ถ้าเนลลี่ไม่ต้องการให้คุณอุ้ม ก็อุ้มผมแทนสิครับ! ผมก็ไม่ได้หนักมากเหมือนกัน แค่หนักกว่าเนลลี่นิดหน่อยเอง”อลิซอุ้มเขาไว้ในอ้อมแขนของเธอ สีหน้าของเธอดูน่าเกลียด และก้าวไปข้างหน้าด้วยความพยายามสุด ๆ นีลเอาแขนของเขาคล้องคอเธอตามสะดวก “คุณอลิซ เร็วสิครับ ผมเป็นเด็กน้อยสุดที่รักของคุณไงครับ มันคงจะแย่ถ้าเราล้มกันทั้งคู่แล้วได้รับบาดเจ็บนะ!”สีหน้าของอลิซดูน่าเกลียดและยิ่งน่าเกลียดมากขึ้น
โจชัวเลิกคิ้วเขาไม่คาดคิดเลยว่านี่จะเป็นคำถามแรกที่ลูกชายของเขาถามหลังจากที่แยกจากกันหลายวันเขามองลูกชายของเขาจากหางตา “นายดูไม่เต็มใจที่จะเห็นแม่นายกับฉันคืนดีกันนะ”นีลหยุดนิ่งไป เขาหันไปมองโจชัวอย่างเคร่งขรึมแล้วยกสองนิ้ว“อย่างแรกนะครับ ผมไม่เคยยอมรับคุณอลิซ กิบสันเลย สำหรับผมแล้ว เธอไม่เคยเป็นแม่ของผมเลย แม่ของผมคือลูน่า อย่างที่สอง ความชอบหรือไม่ชอบของผม มันสำคัญสำหรับคุณหรือเปล่าครับ คุณลินช์ ถ้าคุณพิจารณาถึงความคิดและความรู้สึกของเราจริง ๆ คุณก็คงไม่บังคับน้องสาวของผมและผมให้ทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำ เช่น การพาเรากลับไปที่บลูเบย์วิลล่าตอนนี้ สุดท้ายนะครับ ผมไม่สนใจคุณและอลิซเลย ผมแค่อยากจะรู้ว่าทำไมท่าทีของคุณที่มีต่อเธอถึงเปลี่ยนไปแบบ 180 องศา หลังจากกลับมาจากเมืองซีก็เท่านั้น”ก่อนที่พวกเขาจะจากไป พวกเขาก็ได้แยกทางกันไปแล้ว และยังประกาศว่าพวกเขาจะกำหนดวันเซ็นใบหย่าด้วยซ้ำ แต่ไม่นานหลังจากที่พวกเขาไปถึงเมืองซี พวกเขาก็กลับมาคืนดีและรักกันเหมือนเดิม และเมื่อดูจากภายนอกแล้ว พวกเขาดูยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าเดิมด้วยโจชัวหรี่ตาลงเล็กน้อย อะไรทำให้ท่าทีของเขาที่มีต่ออลิซเปลี
“คุณแม่คะ! หนูคิดถึงคุณแม่มากเลย!” เนลลี่กล่าวเธอหยิบกุญแจออกมาและทันทีที่เธอเปิดประตูอพาร์ตเมนต์ เด็กทั้งสองก็รีบวิ่งออกมาราวกับพายุทอร์นาโดลูกเล็กสองลูกนีลและเนลลี่ต่างกอดขาข้างหนึ่งของเธอไว้ และพูดด้วยความตื่นเต้น“คุณแม่ หนูรู้ว่าคุณแม่จะกลับมาในเวลานี้ แต่นีลเอาแต่ยืนกรานว่าแม่จะกลับมาทีหลัง!”“คุณแม่ครับ เมื่อหลายวันที่คุณแม่ไม่อยู่บ้าน ผมขอให้ลิลลี่สอนวิธีชงกาแฟด้วยล่ะ! ผมทำกาแฟอาราบิก้าแก้วโปรดของคุณแม่ด้วย!”“คุณแม่คะ หนูวางแผนไว้หมดแล้ว บ่ายวันนี้คุณแม่จะไปไหนไม่ได้เลยนะ คุณแม่ต้องอยู่บ้าน อ่านนิทานให้หนูฟังและต่อเลโก้กับนีลด้วย!”“แม่…”ลูน่าลดสายตาลงมองดูหัวเล็ก ๆ สีดำสองหัวที่อยู่ตรงหน้าเธอ คำพูดติดอยู่ที่ปลายลิ้นของเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถคายมันออกมาได้ข้างหลังเธอ ลิลลี่ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่น มองเธอด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “คุณ ลูน่า พวกเขาตั้งใจหยุดเรียนหนึ่งวันเพื่อรอคุณเลยนะคะ ตั้งแต่เช้านี้พวกเขาตื่นเต้นเป็นพิเศษแล้วก็ตกแต่งบ้านราวกับว่าเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดด้วย”ตอนนั้นเองที่ลูน่าสังเกตเห็นของประดับตกแต่งที่แขวนอยู่ในห้องนั่งเล่น ป้ายหลากสีสันแขวนอยู่ตามผนัง ความค
บรรยากาศในรถเปลี่ยนเป็นเงียบเชียบร่างกายของลูน่าแข็งทื่อไปหมดเธอไม่ได้เจอทั้งนีลและเนลลี่มาหลายวันแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดที่เธอเคยห่างจากพวกเขานับตั้งแต่ที่เธอให้กำเนิดพวกเขามาเมื่อหกปีที่แล้วเธอคิดถึงพวกเขาอย่างสุดซึ้งจากการโทรหาและคุยกับพวกเขาเมื่อเช้านี้และเมื่อวานตอนบ่าย เธอก็รู้ว่าเด็ก ๆ เองก็คิดถึงเธออย่างสุดซึ้งเช่นกันไฟในใจเธอที่ลุกโชนด้วยความตื่นเต้นเมื่อนึกถึงการพบปะกับลูก ๆ ของเธอถูกดับลงอย่างโหดร้ายด้วยคำพูดเย็นชาของอลิซ และได้กลับกลายเป็นความหนาวเย็นจนจับไปถึงขั้วหัวใจอลิซจงใจทำแบบนี้ เธอไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ ต่อนีลและเนลลี่ เธอแค่พยายามจะก่อกวนเธอและลูก ๆ ให้อารมณ์เสีย“โจชัวคะ” เมื่อสังเกตเห็นความเงียบอย่างต่อเนื่องของโจชัว อลิซถึงกับร้องเรียกเขาเบา ๆจากนั้นเขาก็กะพริบตาและฟื้นคืนสติของตัวเอง เขากระแอมไอเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมองลูน่าจากด้านหลังขณะที่เธอนั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสาร “เราจะทำตามที่อลิซบอก”ไม่ว่ายังไงก็ตาม อลิซยังคงเป็นแม่ของพวกเขา แม้ว่าเธอจะไม่ได้อาศัยอยู่กับเด็กๆ ตลอดหกปีของชีวิต แต่ท้ายที่สุดแล้วเลือดก็ข้นกว่าน้ำ นอกจากนี้ อล
วิทยุยังคงเล่นซ้ำข่าวเรื่องที่เกิดกับตระกูลวอลเตอร์ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา “ก่อนที่การกล่าวหาคุณเดนนิส วอลเตอร์จะถูกหยิบยกมาพูดถึง ทายาทคนเดียวของวอลเตอร์กรุ๊ป เฮลีย์ วอลเตอร์ได้กระโดดตึกฆ่าตัวตายไปแล้ว ตอนนี้วอลเตอร์กรุ๊ปกลายเป็นอาณาจักรที่กำลังขาดกษัตริย์และกำลังจะล่มสลาย...”ลูน่าหลับตาลง เธอสงสัยว่าเกว็นจะได้ยินข่าวนี้หรือยัง ถ้าเธอได้ยิน อย่างน้อยเธอก็จะรู้สึกสบายใจเล็กน้อยใช่ไหม?เมื่อคิดเช่นนี้ เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อจะตรวจสอบว่าเกว็นส่งข้อความใหม่ให้เธอหรือไม่ แต่กลับเห็นการอัปเดตสถานะใหม่ที่โพสต์โดยเบ็นแทน'ตรวจสอบอาการบาดเจ็บของฉันที่สถานีตำรวจ ตระกูลลาร์สัน ระวังตัวไว้! ฉันจะเรียกร้องค่าเสียหาย!'รูปภาพประกอบเป็นแขนที่ได้รับบาดเจ็บและแก้มบวมฉึ่งอันเป็นผลมาจากการทะเลาะกันเมื่อวันก่อนลูน่ารู้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาต้องเป็นฝีมือของแซคและยูริ เธอจ้องโทรศัพท์อยู่นาน ในที่สุดเธอก็กดไลค์สองภาพที่เบ็นโพสต์“ลูคัส ปิดวิทยุที” ทันใดนั้นเสียงอันแผ่วเบาอ่อนแอของอลิซก็ดังมาจากเบาะหลัง “ฉันอยากนอนพัก”จากนั้น โจชัวก็มีสีหน้ากังวลขณะพูดว่า “ทำไมหน้าคุณดูซีดจัง ไม่สบายเหรอ?”ลูน
มือของโจชัวที่กำช้อนและส้อมไว้หยุดชะงักไปเล็กน้อย สุดท้ายเขาก็หัวเราะเบา ๆ “เพราะว่าเธอเคยหย่าและสามีเก่าเธอมันนิสัยไม่ดี เธอก็เลยแอบลักพาตัวนีลกับเนลลี่ไปแล้วเลี้ยงเหมือนเป็นลูกตัวเองเหรอ?”ลูน่ายกแก้วขึ้นแล้วกลืนน้ำอุ่นในปากลงคออย่างแรง จากนั้นเธอจึงมองไปทางโจชัว “คุณจะพูดแบบนั้นก็ได้”โจชัวยกแก้วของเขาขึ้นเช่นกัน “ทำไมเธอถึงไม่มีลูกกับสามีเก่าล่ะ?”“เขาไม่สมควรมีลูก” ลูน่าวางแก้วลงแล้วยกช้อนส้อมเพื่อกินต่อ “เขามีชู้ในตอนที่ฉันต้องการเขามากที่สุด และถึงกับอยากจะฆ่าฉันเพื่อเอาใจอีกฝ่ายด้วยซ้ำ คุณคิดว่าเขาสมควรมีลูกไหม?”ถ้าตอนนั้นเธอยังไม่ท้อง เธอก็ไม่อยากมีลูกของเขาจริง ๆเขาไม่สมควรได้รับพวกเขาแม้ว่าเธอจะให้กำเนิดพวกเขาแล้ว แต่ลูน่าก็ยังเชื่อเช่นเดิมว่าเด็กทั้งสามคนเป็นของเธอและเป็นของเธอเพียงคนเดียวพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโจชัวเมื่อพูดคำเหล่านี้ ดวงตาของเธอก็จับจ้องไปที่โจชัวการจ้องมองของเธอทำให้เขารู้สึกสับสน ราวกับว่าเขาเป็นคนที่ทิ้งและทำร้ายเธอเองเขาขมวดคิ้วและหันหน้าหนีจากเธอ “แล้ว เธอก็ปล่อยเขาไปทั้งอย่างนั้นเหรอ?”ลูน่าคลี่ยิ้มเย็นชา “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปล่อ
“คุณหย่ากับฉันเมื่อเช้านี้ พอตอนบ่าย คุณก็หาแฟนได้ แล้วตอนนี้พอตกกลางคืนคุณก็พาแฟนใหม่ของคุณมาบ้านเก่าของคุณ เบ็น เซลเลอร์ คุณมันไม่คู่ควรกับเวลาที่ฉันตกหลุมรักไปเลย”จากนั้นเธอก็สูดลมหายใจเข้าลึก และหันกลับไปมองลุคที่กำลังถือไฟแช็กไว้สำหรับเตรียมจุดบุหรี่ให้ตัวเองขณะดูการแสดง “ฉันขอยืมไฟแช็กหน่อยได้ไหม?”ลุคยักไหล่ เขาเดินเข้ามาและก้มลงขณะถือไฟแช็คของเขา เขาฉีกภาพเดี่ยวที่สวยที่สุดของเกว็นออกมา จากนั้นก็จุดไฟเผาภาพถ่ายที่เหลือไปสุดท้ายเขาก็ส่งรูปถ่ายที่เขาฉีกออกมาให้เกว็น “เอาไว้นึกถึง”เกว็นส่ายหน้า “เผาไปเถอะค่ะ”เธอไม่จำเป็นต้องนึกถึงอะไรแบบนี้ลุคยกยิ้มจาง ๆ เขามองไปที่เกว็นด้วยความสนใจเล็กน้อยที่ปรากฏในดวงตาแล้วสอดรูปถ่ายใบนั้นใส่กระเป๋าเสื้อของตัวเองภาพถ่ายทั้งหมดถูกจุดไฟเผาท่ามกลางแสงไฟโหมกระหน่ำ เบ็นหัวเราะอย่างเย็นชา “ถึงคุณจะไม่เผามัน ผมก็จะเป็นคนเผาอยู่ดี”เกว็นหลับตาแน่น แต่ยังคงเงียบเมื่อรูปถ่ายไม่เหลืออะไรนอกจากกลายเป็นกองขี้เถ้า เธอก็จับมือของลูน่าไว้ “ไปกันเถอะ”ลูน่าพยักหน้าและช่วยพยุงเธอนั่งบนที่นั่งโดยมีลุคช่วยอีกแรง ส่วนข้าง ๆ พวกเขา เบ็นพ่นเสียงฮึ เ