โจชัวจ้องตอบลูน่าท่ามกลางความเงียบหลังจากนั้นพักหนึ่งเขาก็มองเธอและตอบอย่างไม่ยินดียินร้าย “ฉันมีแผนของฉัน”“คุณลินช์” ลูน่าถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ฉันรู้ว่าที่คุณเมตตาคุณกิบสันอาจเพราะคุณสนิทกับเธอ คุณรู้จักเธอมานาน และมันเป็นเรื่องเข้าใจได้ว่าคุณคงรู้สึกว่าการลงโทษในสิ่งที่เธอทำคงเป็นเรื่องยาก แต่เธอทำผิดจริง ๆ และต้องชดใช้ในสิ่งที่เธอทำ ถ้าคุณทำใจยากนัก คุณก็ส่งหลักฐานให้ตำรวจเขาไปดูแลสิ” สายตาของลูน่าไม่เคยหวั่นไหวไปจากโจชัวขณะที่เธอพยายามเก็บความโกรธไว้ในใจแล้วพูดต่อช้า ๆ “ข้อหาพยายามฆ่าไม่ได้มีโทษประหาร ถ้าเธอถูกตัดสินโทษก็คือเข้าคุกแค่ไม่กี่ปี บางทีตอนที่เธอถูกปล่อยตัวออกมา เนลลี่อาจจะโตแล้ว และสามารถปกป้องตัวเองได้ เธอคงไม่ต้องมาเจอกับอันตรายแบบที่เธอเจอในตอนนี้อีก”ลูน่าถอนหายใจและขมวดคิ้วมองโจชัว “ทำไมคุณถึงไม่เต็มใจจะทำแบบนั้นล่ะคะ?”โจชัวขมวดคิ้วมากขึ้นเมื่อเขาฟังลูน่า การทายาให้มือของเธอก็รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ลูน่าเจ็บจากท่าทีโกรธเคืองของเขา แต่เธอก็ยังพูดจนจบ “ทำไมคุณถึงเมตตาออร่ามากขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอไม่ควรได้รับมัน เป็นเพราะเธอสำคัญกับคุณมากกว่าลูกสาวของคุณเหรอ?”แก
ลูน่ายืนอยู่นอกร้านขายยาและมองผ่านประตูกระจกไปยังนีลพลางถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ บางครั้งก็เป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะเชื่อว่าเทวดานางฟ้าตัวน้อย ๆ ทั้งสามคนอย่างไนเจล นีลและเนลลี่ จะเป็นลูกของโจชัวจริง ๆ ผู้ชายคนนั้นไม่คู่ควรกับเด็กดีแบบนี้เลย“คุณแม่ครับ” ลูน่าที่เหม่ออยู่หลุดออกจากภวังค์ได้ในตอนที่นีลออกมาจากร้านขายยาพร้อมด้วยยาขี้ผึ้งในมือเขาจับมือลูน่าไว้ “กลับบ้านกันเถอะครับ ผมจะช่วยทายาเอง!” เขาเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้ามองเธอ “อย่าไปสนใจผู้ชายเฮงซวยคนนั้นเลยนะครับ เรายังมีโอกาสได้สิ่งที่ต้องการแม้จะไม่มีเขาก็ตาม!”ลูน่าถอนหายใจแล้วกุมมือเขาไว้แน่น “แม่เชื่อลูกจ้ะ” ตราบเท่าที่เด็ก ๆ อยู่กับเธอ เธอเชื่อว่าเธอจะเอาชนะทุกปัญหาที่ขวางหน้าได้ …บางทีวันนี้อาจจะเป็นวันที่เหนื่อยล้าไปหน่อย เพราะในทันทีที่เธอกลับถึงบ้านและทายาบนแผล ลูน่าก็หลับสนิทไปบนเตียงทันทีดวงจันทร์ส่องแสงสว่างอยู่ท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืนหลังจากมั่นใจว่าลูน่าหลับสนิทจริง ๆ นีลก็ค่อย ๆ ปีนลงจากเตียงเบา ๆ แล้วใช้ไฟฉายจากโทรศัพท์ส่องและค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลของลูน่าออกเขาทายาเพิ่มอีกชั้น เขารู้ว่าสิ
ตอนที่ลูน่าตื่นขึ้นในวันถัดมา นีลก็ไปโรงเรียนอนุบาลด้วยตัวเองแล้วเขาได้เตรียมอาหารเช้าไว้ให้เธอก่อนไป ทั้งยังทิ้งโน้ตเอาไว้ว่า [คุณแม่ครับ ตอนที่คุณแม่อ่าน ผมคงออกไปเรียนแล้ว อย่าลืมกินข้าวและอย่าให้แผลโดนน้ำนะครับ แล้วผมก็ทิ้งอันนี้เอาไว้ให้ด้วยครับ]ที่ใต้กระดาษโน้ตมีที่ตรวจครรภ์วางอยู่ลูน่านั่งอยู่ข้างเตียงในตอนที่อ่านกระดาษโน้ต เธอมองไปยังอาหารในจานและที่ตรวจครรภ์บนโต๊ะ น้ำตาของเธอเอ่อคลอ ความมีน้ำใจของลูก ๆ ของเธอทำให้เธอรู้สึกสะเทือนใจเธอลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนจะลุกจากเตียงและเข้าห้องน้ำไปเพื่อใช้ที่ตรวจครรภ์ขีดเดียว เธอไม่ได้ท้องลูน่ายิ้มแห้งและโยนที่ตรวจครรภ์ที่ใช้แล้วลงถังขยะ เธอน่าจะรู้ว่ามันไม่ง่ายอย่างนั้น ชีวิตของเธอไม่เคยง่ายอยู่แล้วหลังจากล้างหน้าเสร็จลูน่าก็นั่งลงที่โต๊ะอาหาร เธอทานมื้อเช้าในขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่ว่าจะทำอะไรต่อไปและเมื่อไหร่ดี ในทันใดนั้นเองเสียงกริ่งหน้าประตูก็ดังขึ้นเธอคิดว่าเป็นแอนน์จึงเปิดประตูด้วยสภาพที่คาบขนมปังปิ้งครึ่งชิ้นอยู่ในปาก“คุณลูน่า!” เสียงผู้ชายดังออกมาในทันทีที่เธอเปิดประตู ทำเอาลูน่าสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ“ขอให้เป็นวั
ชุดของลูน่าดูเหมือนชุดที่พนักงานฝึกงานแผนกออกแบบสวมกันจริง ๆเวสลีย์ตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นอย่างนั้น เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าเพียงไม่กี่วินาที ผู้หญิงตรงหน้าจะเป็นคนเดียวกับที่เปิดประตูให้เขาเมื่อไม่กี่นาทีก่อน“วันนี้เป็นวันทำงานวันแรกของฉันใช่ไหมคะ?” ลูน่าดูเหมือนจะไม่เห็นความสับสนของเขา เธอจึงเดินลงบันไดมาและคุยกับเขาโดยไม่สนใจ “ช่วยอธิบายเวลาการทำงานให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ? ฉันน่าจะต้องขอกลับไวหน่อยเพราะฉันจะต้องไปรับลูกชายที่โรงเรียน”ขณะเดินตามหลังเธอ เวสลีย์มีอาการช็อกจากสิ่งที่เธอพูดจนลิ้นพันกัน “คุณ...คุณมีลูกชายเหรอ?” ผู้หญิงคนนี้ดูอายุน่าจะราว ๆ 20 ปี แต่เธอมีลูกชายแล้วเหรอ?“ใช่ค่ะ” ลูน่าหัวเราะเบา ๆ “ลูกชายของฉันเป็นเพื่อนสนิทกับลูกสาวของคุณลินช์น่ะค่ะ”เวสลีย์ตระหนักขึ้นในทันใด ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในสถานที่ธรรมดาแบบนี้จึงเป็นเพื่อนกับคุณลินช์ได้ ทั้งหมดคงเป็นเพราะลูกชายของเธอพวกเขาสองคนออกมาจากตึกด้วยกันและขึ้นไปในรถของเวสลีย์ ตลอดทางเวสลีย์ก็พยายามอธิบายกฎและนโยบายของบริษัทให้ลูน่าฟังลูน่ามองออกไปนอกหน้าต่างและดูเหมือนไม่สนใจฟังมากจนทำให้เวสลีย์ไม่พอใจ “
“เรื่องมัน...ยาวครับ” แซคเกาหัวตัวเองอย่างเขินอาย “ผมรู้ว่านี่อาจจะเชื่อยากหน่อย แต่เราสองคนเป็นคนดีครับ เราเชื่อฟังคำสั่งของลูกพี่ตลอด เรารู้ว่าคุณมีความสำคัญกับลูกพี่ของพวกเรา ดังนั้นพวกเราจะพยายามดูแลคุณให้ดีที่สุดเลยครับ!”ลูน่าชะงักไปเพราะความประหลาดใจ เธอใช้เวลาสักพักจึงสามารถพูดออกมาได้ “ขอบคุณนะ...”เธอตามเวสลีย์เข้าไปในตึกและเกาหัวตัวเองเบา ๆ ‘นีลไปมี ‘พี่น้อง’ ตัวใหญ่อย่างแซคกับยูริตั้งแต่เมื่อไหร่?’“คุณลูน่านอกจากจะรู้จักกับเจ้านายของเราเป็นการส่วนตัวแล้ว ยังดูเหมือนว่าคุณจะสนิทกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเราอีกด้วยนะครับ” เวสลีย์จงใจกล่าวขึ้นในตอนที่พวกเขาเข้าไปในลิฟต์ เขากดปุ่มแล้วพูดเสริมว่า “คุณน่าจะมาเข้ามาบริษัทของเราให้ไวกว่านี้ แบบนั้นคุณคงจะได้เป็นพนักงานประจำไปแล้ว และไม่ต้องมาเป็นพนักงานฝึกหัดแบบนี้”มีความประชดประชันเจือในน้ำเสียงของเวสลีย์ ลูย่ายิ้มให้เขาจาง ๆ “ฉันมีความสุขกับการได้ทำงานเป็นพนักงานฝึกหัดค่ะ ฉันได้รับค่าจ้างเท่ากัน แต่งานเบากว่า สำหรับฉันมันฟังดูดีเลย”“ฉันมั่นใจว่างานของคุณฟิชเชอร์คงมีหลายอย่าง นอกจากมีงานของตัวเองแล้วยังต้องจัดการกับ
เวสลีย์กลอกตา “คุณลินช์บอกว่าภรรยาเก่าของเขายังไม่ตายและเขาก็ยังรอให้เธอกลับมา แต่นี่ก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ผมจะบอกว่าเธออาจจะไม่กลับมาแล้ว”เขาพูดต่อ “ถ้าในอีกสองปีข้างหน้าคุณลินช์เหนื่อยกับการรอเธอแล้วก็อยากแต่งงานใหม่ คอร์ทนีย์คงจะเป็นตัวเลือกแรกของเขาแน่!”ริมฝีปากของลูน่ากระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มและไม่กล่าวอะไรเป็นคำตอบ เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเวสลีย์ถึงมั่นใจในคำทำนายของตัวเองนัก แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ไม่ได้ไกลเกินเอื้อมเสียทีเดียวถึงโจชัวจะเปลี่ยนใจอยากแต่งงานใหม่กับคนที่หน้าเหมือนลูน่าคนเก่าก็ไม่ใช่เรื่องของเธออีกต่อไป สิ่งเดียวที่เธอคิดคือ ตั้งท้องและคลอดลูกของโจชัวเพื่อช่วยไนเจลในขณะที่ลูน่าครุ่นคิด ลิฟต์ก็มาถึงชั้น 18 แล้วเวสลีย์กระแอมและพาลูน่าไปที่แผนก “สวัสดีครับทุกคน ผมขอแนะนำพนักงานใหม่ของบริษัทเรา” เขาประกาศ“คนนี้คือลูน่า เธอเป็นคนที่ท่านประธานของเราคุณลินช์จ้างมาทำงานในตำแหน่งพนักงานฝึกงานและผู้ช่วยของแผนกออกแบบ ถ้าต้องการอะไร ขอความช่วยเหลือจากเธอได้เลยครับ!” เวสลีย์ลูบไหล่ลูน่าเบา ๆ “ทักทายเพื่อนร่วมงานสิ”พูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปทิ้งให้ลูน่าดูแลตัวเอง แชนน่อน
อาจเป็นเพราะการจ้องเขม็งของลูน่าโจชัวที่อยู่ในออฟฟิศจึงเงยหน้าขึ้นมาเห็นสายตาของเธอพวกเขาสบตากันสายตาของเธอเปลี่ยนจากงุนงงไปเป็นตกใจ ขณะที่เขาเปลี่ยนจากตกใจไปเป็นความเหินห่างพวกเขาจ้องมองกันอยู่นานก่อนที่คอร์ทนีย์จะรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติไปเธอเงยหน้าและเห็นลูน่า“นั่นลูน่าค่ะ” คอร์ทนีย์แนะนำให้โจชัวรู้จัก “ตอนที่ฉันอยู่ในลิฟต์เมื่อกี้ฉันเห็นว่าคุณฟิชเชอร์พาเธอเธอไปรายงานตัวที่แผนกออกแบบ”จากนั้นเธอก็ยิ้มอ่อนโยน “คุณลูน่าสวยมากเลยนะคะ ความสวยของคุณทำให้ฉันที่อยู่ในลิฟต์เมื่อกี้ตะลึงไปเลยค่ะ”คำพูดของคอร์ทนีย์ทำให้โจชัวขมวดคิ้ว เขาเบือนสายตาจากลูน่ามามองคอร์ทนีย์“คุณยังไม่อธิบายตัวเองเลยนะ ผมสั่งลูคัสว่าให้หาเลขาผู้ชายคนใหม่มาให้นี่”แล้วเลขาผู้ชายที่เขาขอไปทำไมกลายร่างเป็นเลขาผู้หญิงในเวลากลางวันได้ แถมยังดูไม่ต่างจากลูน่า กิบสันเลยคอร์ทนีย์รู้ดีเกี่ยวกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นใบหน้าของคอร์ทนีย์ซีดลงเล็กน้อย เธอก้มหน้าลง “คุณลินช์คะ ฉันจะทำหน้าที่เป็นเลขาให้คุณอย่างเต็มที่ที่สุด ฉัน...”“ใครส่งเธอมาที่นี่” โจชัวเลื่อนเก้าอี้ถอยหลังเล็กน้อยเพื่อเว้นระยะห่างจากคอร์ท
โจชัวรู้สึกว่านี่ช่างน่าขัน“ฉันคิดว่าเธอจะไม่อยากทำงานรับใช้ใครอีกในตอนที่ออกจากงานคนรับใช้ที่บลูเบย์วิลล่า แต่เธอกลับยอมมาเป็นพนักงานฝึกหัดในแผนออกแบบของบริษัทฉัน เธอคอยรับใช้พนักงานคนอื่นงั้นเหรอ?”ลูน่ายิ้มโดยไม่พูดอะไร “นี่เป็นคำสั่งของคุณลินช์ฉันก็ต้องเชื่อฟังสิคะ”“เธอจะทำตามที่ฉันบอกเหรอ?”“ใช่ค่ะ” ลูน่ายิ้ม เธอเงยหน้ามองโจชัวด้วยดวงตาที่จัดว่าเย้ายวน “ตอนที่คุณลินช์บอกฉันว่าอย่าขยับ ฉันก็ไม่ขยับเลยนี่คะ จำได้หรือเปล่าคะ?” เธอพูดเป็นนัยดวงตาของโจชัวหรี่ลงขณะมองเข้าไปในดวงตาล่อลวงของเธอดูเหมือนเขาจะต้านทานการล่อลวงของเธอไม่ได้เท่าไหร่ แต่กับคอร์ทนีย์ที่มีใบหน้าคล้ายกับลูน่า กิบสันมากกว่าลูน่า เขาแทบจะไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ กับเธอเลยเขาไม่สามารถละสายตาที่จ้องมองมาของลูน่าได้ เขาจึงก้มหน้าลงและเปิดข้อเสนอที่เธอนำมาส่งอย่างหงุดหงิด“เธอได้ตรวจสอบดูหรือยัง?” เขาถามขณะที่อ่านข้อเสนอผ่าน ๆ พลางขมวดคิ้วลูน่ารู้ว่าเธอทำให้เขานึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นได้เมื่อเธอเห็นว่าเขาดูหงุดหงิดแค่ไหน แต่ในเมื่อเขาพูดเรื่องงาน เธอก็ไม่ควรจะบ่ายเบี่ยง “ฉันตรวจสอบดูแล้วค่ะ”โจชัวขมวดคิ้วเล็กน้อย
“งั้นคุณพ่อก็ควรรู้นะครับว่าลูน่าเลี้ยงพวกเขามาหกปี ผมแนะนำว่าคุณพ่อควรดีกับลูน่าให้มากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเด็ก ๆ อาจจะไม่ยอมรับคุณเป็นคุณปู่ของพวกเขาอีกต่อไปได้”ใบหน้าของเอเดรียนเปลี่ยนเป็นสีม่วงจากมุมนี้ ลูน่าเหลือบมองสีหน้าของเขาด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างามแต่ไร้อารมณ์ พร้อมกับยกยิ้มไม่ใส่ใจบนริมฝีปากของเธอ “คุณท่านลินช์ คุณบอกว่าฉันฆ่าเฮลีย์ คุณมีหลักฐานไหม? การตัดสินใจว่ามีคนฆ่าคนอื่นหรือไม่ คุณไม่จำเป็นต้องพูดตามหลักฐานที่มีอยู่หรอกเหรอคะ?” เธอวางข้อเท้าบนเข่า น้ำเสียงของเธอเย็นชาและห่างไกล “เฮลีย์ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงมาจากตึก ฉันไปชี้มีดใส่เธอแล้วบังคับให้เธอกระโดดหรือว่าฉันผลักเธอเหรอ? ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนที่เฮลีย์ฆ่าตัวตาย ฉันไปเยี่ยมสามีเก่าของเพื่อนที่โรงพยาบาลกับเพื่อนนะ มีกล้องวงจรปิดที่โถงทางเดินและลิฟต์ในโรงพยาบาลอยู่ ฉันมีหลักฐานชัดเจนสมบูรณ์”เอเดรียนเปล่งเสียงในจมูก “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ก่อนที่เฮลีย์จะกระโดดก็เป็นเพราะเธอ เฮลีย์ถูกบังคับให้ออกจากเมืองซีและย้ายไปอยู่ต่างประเทศ! เฮลีย์เติบโตมากับความมั่งคั่งและความฟุ่มเฟือยด้วยความกรุณาของพระเจ้า และเพราะผู้หญิงเช่นเธอ
“เพียะ!”ก่อนที่ทุกคนจะทันได้โต้ตอบ เสียงตบก็ดังก้องไปทั่วห้องนั่งเล่นศีรษะของลูน่าหันไปด้านข้างจากแรงกระแทก รสหวานราวกับเหล็กของเลือดเต็มปาก และเลือดก็หยดลงมาตามมุมปากของเธอ“คุณแม่!”“คุณแม่…!”เด็กสองคนที่นั่งอยู่ทั้งสองด้านของหญิงชรา กระโดดขึ้นจากโซฟาตามสัญชาตญาณแล้วพุ่งไปหาลูน่าทันทีหนึ่งในนั้นจับมือเธออย่างระมัดระวัง เขาก้าวไปข้างหน้าพยายามปกป้องเธอ ในขณะที่อีกคนหยิบกระดาษทิชชูจากโต๊ะข้าง ๆ อย่างใจเย็น แล้วยื่นให้ลูน่าการเห็นเด็กสองคนปกป้องเธอทำให้โจชัวขมวดคิ้ว ข้าง ๆ เขา อลิซส่งเสียงเย้ยหยันอยู่ในอก แต่ภายนอกนั้นเธอกำลังทำสีหน้ากังวล “นีล รีบพาน้องสาวของหนูมานี่เร็วเข้า” จากนั้นเธอก็ชำเลืองมองสุภาพบุรุษตัวน้อยที่กำลังยื่นทิชชู่ให้ลูน่า“นี่เป็นเรื่องระหว่างคุณปู่ของหนูกับน้าลูน่านะ มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ อย่ายื่นจมูกเข้าไปในที่ที่ไม่เกี่ยวกับเราสิ”นีลจ้องมองเธออย่างเย็นชา จากนั้นก็หันกลับมาดูแลแม่ของพวกเขาพร้อมกับเนลลี่ในทันทีจากนั้น อลิซก็แสดงท่าทีสงบนิ่งอย่างคนมีอารมณ์มั่นคงและพูดว่า “เอเดรียน คุณกำลังทำอะไรอยู่คะ คุณกำลังทำให้เด็ก ๆ กลัวนะ”เอเดรียนส่งเสียงเย
ในขณะเดียวกัน เขาก็คิดถึงพวกเขามาก ผ่านไปนานแล้วเหมือนกันหลังจากที่พวกเขาได้เจอกันครั้งสุดท้าย จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงเสนอให้พาทุกคนมารวมตัวกันที่บลูเบย์วิลล่าแต่ดูเหมือนว่า...เขาทำให้ทั้งเด็ก ๆ และลูน่าโกรธเขาได้สำเร็จเท่านั้นหรอกเหรอ?รถขับต่อไปไม่นานรถก็มาจอดหน้าบลูเบย์วิลล่า เมื่อลูน่าก้าวลงจากรถที่ยูริและแซคขนสัมภาระมา อลิซก็ก้าวลงมาเช่นกันขณะยืนอยู่นอกรถของโจชัว รอยยิ้มปลอม ๆ ก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอ “ เนลลี่มานี่เร็ว แม่จะอุ้มหนูเข้าบ้าน!”เนลลี่กลอกตา เดินผ่านเธอ และมุ่งหน้าไปที่ประตูด้วยขาที่สั้นและแข็งแรงของเธอในทางกลับกัน นีลกลับรีบวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเธอพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า “ถ้าเนลลี่ไม่ต้องการให้คุณอุ้ม ก็อุ้มผมแทนสิครับ! ผมก็ไม่ได้หนักมากเหมือนกัน แค่หนักกว่าเนลลี่นิดหน่อยเอง”อลิซอุ้มเขาไว้ในอ้อมแขนของเธอ สีหน้าของเธอดูน่าเกลียด และก้าวไปข้างหน้าด้วยความพยายามสุด ๆ นีลเอาแขนของเขาคล้องคอเธอตามสะดวก “คุณอลิซ เร็วสิครับ ผมเป็นเด็กน้อยสุดที่รักของคุณไงครับ มันคงจะแย่ถ้าเราล้มกันทั้งคู่แล้วได้รับบาดเจ็บนะ!”สีหน้าของอลิซดูน่าเกลียดและยิ่งน่าเกลียดมากขึ้น
โจชัวเลิกคิ้วเขาไม่คาดคิดเลยว่านี่จะเป็นคำถามแรกที่ลูกชายของเขาถามหลังจากที่แยกจากกันหลายวันเขามองลูกชายของเขาจากหางตา “นายดูไม่เต็มใจที่จะเห็นแม่นายกับฉันคืนดีกันนะ”นีลหยุดนิ่งไป เขาหันไปมองโจชัวอย่างเคร่งขรึมแล้วยกสองนิ้ว“อย่างแรกนะครับ ผมไม่เคยยอมรับคุณอลิซ กิบสันเลย สำหรับผมแล้ว เธอไม่เคยเป็นแม่ของผมเลย แม่ของผมคือลูน่า อย่างที่สอง ความชอบหรือไม่ชอบของผม มันสำคัญสำหรับคุณหรือเปล่าครับ คุณลินช์ ถ้าคุณพิจารณาถึงความคิดและความรู้สึกของเราจริง ๆ คุณก็คงไม่บังคับน้องสาวของผมและผมให้ทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำ เช่น การพาเรากลับไปที่บลูเบย์วิลล่าตอนนี้ สุดท้ายนะครับ ผมไม่สนใจคุณและอลิซเลย ผมแค่อยากจะรู้ว่าทำไมท่าทีของคุณที่มีต่อเธอถึงเปลี่ยนไปแบบ 180 องศา หลังจากกลับมาจากเมืองซีก็เท่านั้น”ก่อนที่พวกเขาจะจากไป พวกเขาก็ได้แยกทางกันไปแล้ว และยังประกาศว่าพวกเขาจะกำหนดวันเซ็นใบหย่าด้วยซ้ำ แต่ไม่นานหลังจากที่พวกเขาไปถึงเมืองซี พวกเขาก็กลับมาคืนดีและรักกันเหมือนเดิม และเมื่อดูจากภายนอกแล้ว พวกเขาดูยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าเดิมด้วยโจชัวหรี่ตาลงเล็กน้อย อะไรทำให้ท่าทีของเขาที่มีต่ออลิซเปลี
“คุณแม่คะ! หนูคิดถึงคุณแม่มากเลย!” เนลลี่กล่าวเธอหยิบกุญแจออกมาและทันทีที่เธอเปิดประตูอพาร์ตเมนต์ เด็กทั้งสองก็รีบวิ่งออกมาราวกับพายุทอร์นาโดลูกเล็กสองลูกนีลและเนลลี่ต่างกอดขาข้างหนึ่งของเธอไว้ และพูดด้วยความตื่นเต้น“คุณแม่ หนูรู้ว่าคุณแม่จะกลับมาในเวลานี้ แต่นีลเอาแต่ยืนกรานว่าแม่จะกลับมาทีหลัง!”“คุณแม่ครับ เมื่อหลายวันที่คุณแม่ไม่อยู่บ้าน ผมขอให้ลิลลี่สอนวิธีชงกาแฟด้วยล่ะ! ผมทำกาแฟอาราบิก้าแก้วโปรดของคุณแม่ด้วย!”“คุณแม่คะ หนูวางแผนไว้หมดแล้ว บ่ายวันนี้คุณแม่จะไปไหนไม่ได้เลยนะ คุณแม่ต้องอยู่บ้าน อ่านนิทานให้หนูฟังและต่อเลโก้กับนีลด้วย!”“แม่…”ลูน่าลดสายตาลงมองดูหัวเล็ก ๆ สีดำสองหัวที่อยู่ตรงหน้าเธอ คำพูดติดอยู่ที่ปลายลิ้นของเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถคายมันออกมาได้ข้างหลังเธอ ลิลลี่ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่น มองเธอด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “คุณ ลูน่า พวกเขาตั้งใจหยุดเรียนหนึ่งวันเพื่อรอคุณเลยนะคะ ตั้งแต่เช้านี้พวกเขาตื่นเต้นเป็นพิเศษแล้วก็ตกแต่งบ้านราวกับว่าเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดด้วย”ตอนนั้นเองที่ลูน่าสังเกตเห็นของประดับตกแต่งที่แขวนอยู่ในห้องนั่งเล่น ป้ายหลากสีสันแขวนอยู่ตามผนัง ความค
บรรยากาศในรถเปลี่ยนเป็นเงียบเชียบร่างกายของลูน่าแข็งทื่อไปหมดเธอไม่ได้เจอทั้งนีลและเนลลี่มาหลายวันแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดที่เธอเคยห่างจากพวกเขานับตั้งแต่ที่เธอให้กำเนิดพวกเขามาเมื่อหกปีที่แล้วเธอคิดถึงพวกเขาอย่างสุดซึ้งจากการโทรหาและคุยกับพวกเขาเมื่อเช้านี้และเมื่อวานตอนบ่าย เธอก็รู้ว่าเด็ก ๆ เองก็คิดถึงเธออย่างสุดซึ้งเช่นกันไฟในใจเธอที่ลุกโชนด้วยความตื่นเต้นเมื่อนึกถึงการพบปะกับลูก ๆ ของเธอถูกดับลงอย่างโหดร้ายด้วยคำพูดเย็นชาของอลิซ และได้กลับกลายเป็นความหนาวเย็นจนจับไปถึงขั้วหัวใจอลิซจงใจทำแบบนี้ เธอไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ ต่อนีลและเนลลี่ เธอแค่พยายามจะก่อกวนเธอและลูก ๆ ให้อารมณ์เสีย“โจชัวคะ” เมื่อสังเกตเห็นความเงียบอย่างต่อเนื่องของโจชัว อลิซถึงกับร้องเรียกเขาเบา ๆจากนั้นเขาก็กะพริบตาและฟื้นคืนสติของตัวเอง เขากระแอมไอเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมองลูน่าจากด้านหลังขณะที่เธอนั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสาร “เราจะทำตามที่อลิซบอก”ไม่ว่ายังไงก็ตาม อลิซยังคงเป็นแม่ของพวกเขา แม้ว่าเธอจะไม่ได้อาศัยอยู่กับเด็กๆ ตลอดหกปีของชีวิต แต่ท้ายที่สุดแล้วเลือดก็ข้นกว่าน้ำ นอกจากนี้ อล
วิทยุยังคงเล่นซ้ำข่าวเรื่องที่เกิดกับตระกูลวอลเตอร์ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา “ก่อนที่การกล่าวหาคุณเดนนิส วอลเตอร์จะถูกหยิบยกมาพูดถึง ทายาทคนเดียวของวอลเตอร์กรุ๊ป เฮลีย์ วอลเตอร์ได้กระโดดตึกฆ่าตัวตายไปแล้ว ตอนนี้วอลเตอร์กรุ๊ปกลายเป็นอาณาจักรที่กำลังขาดกษัตริย์และกำลังจะล่มสลาย...”ลูน่าหลับตาลง เธอสงสัยว่าเกว็นจะได้ยินข่าวนี้หรือยัง ถ้าเธอได้ยิน อย่างน้อยเธอก็จะรู้สึกสบายใจเล็กน้อยใช่ไหม?เมื่อคิดเช่นนี้ เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อจะตรวจสอบว่าเกว็นส่งข้อความใหม่ให้เธอหรือไม่ แต่กลับเห็นการอัปเดตสถานะใหม่ที่โพสต์โดยเบ็นแทน'ตรวจสอบอาการบาดเจ็บของฉันที่สถานีตำรวจ ตระกูลลาร์สัน ระวังตัวไว้! ฉันจะเรียกร้องค่าเสียหาย!'รูปภาพประกอบเป็นแขนที่ได้รับบาดเจ็บและแก้มบวมฉึ่งอันเป็นผลมาจากการทะเลาะกันเมื่อวันก่อนลูน่ารู้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาต้องเป็นฝีมือของแซคและยูริ เธอจ้องโทรศัพท์อยู่นาน ในที่สุดเธอก็กดไลค์สองภาพที่เบ็นโพสต์“ลูคัส ปิดวิทยุที” ทันใดนั้นเสียงอันแผ่วเบาอ่อนแอของอลิซก็ดังมาจากเบาะหลัง “ฉันอยากนอนพัก”จากนั้น โจชัวก็มีสีหน้ากังวลขณะพูดว่า “ทำไมหน้าคุณดูซีดจัง ไม่สบายเหรอ?”ลูน
มือของโจชัวที่กำช้อนและส้อมไว้หยุดชะงักไปเล็กน้อย สุดท้ายเขาก็หัวเราะเบา ๆ “เพราะว่าเธอเคยหย่าและสามีเก่าเธอมันนิสัยไม่ดี เธอก็เลยแอบลักพาตัวนีลกับเนลลี่ไปแล้วเลี้ยงเหมือนเป็นลูกตัวเองเหรอ?”ลูน่ายกแก้วขึ้นแล้วกลืนน้ำอุ่นในปากลงคออย่างแรง จากนั้นเธอจึงมองไปทางโจชัว “คุณจะพูดแบบนั้นก็ได้”โจชัวยกแก้วของเขาขึ้นเช่นกัน “ทำไมเธอถึงไม่มีลูกกับสามีเก่าล่ะ?”“เขาไม่สมควรมีลูก” ลูน่าวางแก้วลงแล้วยกช้อนส้อมเพื่อกินต่อ “เขามีชู้ในตอนที่ฉันต้องการเขามากที่สุด และถึงกับอยากจะฆ่าฉันเพื่อเอาใจอีกฝ่ายด้วยซ้ำ คุณคิดว่าเขาสมควรมีลูกไหม?”ถ้าตอนนั้นเธอยังไม่ท้อง เธอก็ไม่อยากมีลูกของเขาจริง ๆเขาไม่สมควรได้รับพวกเขาแม้ว่าเธอจะให้กำเนิดพวกเขาแล้ว แต่ลูน่าก็ยังเชื่อเช่นเดิมว่าเด็กทั้งสามคนเป็นของเธอและเป็นของเธอเพียงคนเดียวพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโจชัวเมื่อพูดคำเหล่านี้ ดวงตาของเธอก็จับจ้องไปที่โจชัวการจ้องมองของเธอทำให้เขารู้สึกสับสน ราวกับว่าเขาเป็นคนที่ทิ้งและทำร้ายเธอเองเขาขมวดคิ้วและหันหน้าหนีจากเธอ “แล้ว เธอก็ปล่อยเขาไปทั้งอย่างนั้นเหรอ?”ลูน่าคลี่ยิ้มเย็นชา “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปล่อ
“คุณหย่ากับฉันเมื่อเช้านี้ พอตอนบ่าย คุณก็หาแฟนได้ แล้วตอนนี้พอตกกลางคืนคุณก็พาแฟนใหม่ของคุณมาบ้านเก่าของคุณ เบ็น เซลเลอร์ คุณมันไม่คู่ควรกับเวลาที่ฉันตกหลุมรักไปเลย”จากนั้นเธอก็สูดลมหายใจเข้าลึก และหันกลับไปมองลุคที่กำลังถือไฟแช็กไว้สำหรับเตรียมจุดบุหรี่ให้ตัวเองขณะดูการแสดง “ฉันขอยืมไฟแช็กหน่อยได้ไหม?”ลุคยักไหล่ เขาเดินเข้ามาและก้มลงขณะถือไฟแช็คของเขา เขาฉีกภาพเดี่ยวที่สวยที่สุดของเกว็นออกมา จากนั้นก็จุดไฟเผาภาพถ่ายที่เหลือไปสุดท้ายเขาก็ส่งรูปถ่ายที่เขาฉีกออกมาให้เกว็น “เอาไว้นึกถึง”เกว็นส่ายหน้า “เผาไปเถอะค่ะ”เธอไม่จำเป็นต้องนึกถึงอะไรแบบนี้ลุคยกยิ้มจาง ๆ เขามองไปที่เกว็นด้วยความสนใจเล็กน้อยที่ปรากฏในดวงตาแล้วสอดรูปถ่ายใบนั้นใส่กระเป๋าเสื้อของตัวเองภาพถ่ายทั้งหมดถูกจุดไฟเผาท่ามกลางแสงไฟโหมกระหน่ำ เบ็นหัวเราะอย่างเย็นชา “ถึงคุณจะไม่เผามัน ผมก็จะเป็นคนเผาอยู่ดี”เกว็นหลับตาแน่น แต่ยังคงเงียบเมื่อรูปถ่ายไม่เหลืออะไรนอกจากกลายเป็นกองขี้เถ้า เธอก็จับมือของลูน่าไว้ “ไปกันเถอะ”ลูน่าพยักหน้าและช่วยพยุงเธอนั่งบนที่นั่งโดยมีลุคช่วยอีกแรง ส่วนข้าง ๆ พวกเขา เบ็นพ่นเสียงฮึ เ