“คุณจะทำอะไร” น้ำหวานที่เริ่มกลัวถามขึ้น ตอนนี้กลกันต์ดันร่างเธอเข้ามาในห้องพร้อมตัวเองแล้วปิดประตู ก่อนลากร่างบางมายังเตียงนอนนุ่ม ออกแรงผลักจนเธอล้มลงนอนราบไปบนที่นอน
ร่างสูงไม่ตอบแต่ใช้ลำตัวนอนลงทาบทับบนคนตัวเล็กจนรู้สึกอึดอัด มือซ้ายของคนตัวโตกว่าจับข้อมือเล็กทั้งสองข้างรวบวางไว้เหนือหัว ขาเรียวเล็กที่พยายามจะดิ้นหนีไม่เป็นผลเพราะโดนคนตัวโตล็อกไว้
ร่างบางที่ดีดดิ้นไปมาจึงสัมผัสกับร่างสูงที่มีเพียงเสื้อผ้าขวางกั้น
มือขวาที่ยังว่างของกลกันต์ปัดป่ายไปทั่วร่างบาง พยายามจะฉีกทึ้งเสื้อผ้าของคนตัวเล็กออกจากตัว ก่อนเลื้อยเข้าไปกอบกุมบีบเค้นดอกบัวคู่งาม
ด้วยความตกใจ ริมฝีปากอิ่มที่กำลังจะผรุสวาจาออกมา จึงโดนริมฝีปากหนาเข้าประกบจูบอย่างดุดัน เร่งเร้า น้ำหวานเบิกตากว้าง นอนแน่นิ่ง ตัวแข็งทื่อ ไม่คิดว่ากลกันต์จะทำเช่นนี้ ปลายลิ้นร้อนของกลกันต์พยายามจะสอดเข้าไปควานหาความหวานของคนตัวเล็ก
“อื้อออ” เสียงต่อต้านเบาๆดังมาจากร่างบางเพราะโดนช่วงชิงลมหายจนจนรู้สึกหายใจไม่ออก
กลกันต์จึงหยุดปล่อยให้อีกคนพักหายใจก่อนประกบจูบลงไปอีกครั้ง
“อ้ออ” เสียงเล็กหายเข้าไปในริมฝีปากเพราะริมฝีปากหนาที่ประกบลงมา กลกันต์ค่อยละเลียดชิมปากอิ่มอีกครั้งก่อนขบเม้มเบาๆ ก่อนจูบเลื้อยไปตามผิวอ่อนนุ่มลำคอจนถึงเนินอกอวบนิ่ม จนเกิดเป็นรอยแดงเพราะหนวดเคราที่ล้อมรอบริมฝีปากหนา ที่ตอนนี้เสื้อตัวสวยที่สวมใส่ถูกกลกนต์ถอดออกจดหมดโดยที่น้ำหวานไม่รู้ตัว
มือข้างที่ยังว่างอยู่ลูบไล้ไปทั่วร่างคนตัวเล็ก เลื้อยเข้าไปกอบกุมหยอกเย้ายอดปทุมทัน จนน้ำหวานรู้สึกอ่อนระทวย ไร้แรงต่อต้าน กลกันต์จึงปล่อยทั้งสองข้างของน้ำหวานให้เป็นอิสระ แล้วใช้มือตนทำประโยชน์อื่น
แม้จะเริ่มมีอารมณ์ร่วมไปกับกลกันต์ การสัมผัสกันของชายหญิงเป็นเช่นนี้เอง แต่สมองน้อยๆยังสั่งการออกมาว่าไม่ได้ ทำแบบนี้ไม่ได้ น้ำหวานไม่เคยคิดฝันว่าเขาจะอยากทำแบบนี้กับเธอ จึงใช้มือทั้งสองข้างผลักอกเขา
“ยะ อย่า! ทำแบบนี้ไม่ได้นะ”
“ทำไมจะไม่ได้”
น้ำหวานใจวูบอีกครั้ง เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว กลกันต์จับมือน้ำหวานที่พยายามจะดันอกเขากางออกสองฝั่ง ใช้มือใหญ่กดทับไว้ ก้มหน้าลงดูดดึงยอดปทุมทัน ที่แข็งขืนสู้ทั้งสองข้าง
“อ่ะ อื้อออ อืมมมมมม”
เสียงที่กำลังจะร้องห้ามกลายเป็นเสียงครางเบาๆจากน้ำหวานเมื่อไม่อาจฝืนธรรมชาติได้
ดูดดึงจนพอใจแล้ว กลกันต์จึงละริมฝีปากออกมาเพื่อเปลี่ยนเป้าหมาย ริมปีฝากค่อยๆจูบละเลียดลงมาตั้งแต่ใต้หน้าอก วนลงมาแล้ววนจูบรอบสะดือน้อย จนน้ำหวานเสียวท้องน้อยวูบโหวงแปลก ไม่เคยเจอความรู้สึกนี้มาก่อน
“อ๊า คุณกันต์ อย่าทำนะ” เสียงประท้วงที่แหบพร่าดังกระเส่าขึ้น
“อื๊อออ” น้ำหวานร้องเบาๆเมื่อแพนตี้ตัวบาง เครื่องแต่งกายชิ้นสุดท้ายที่สวมอยู่หลุดออกไปตามเรียวขางาม
ส่วนสุดท้ายในร่างกายที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน ถูกเปิดเผยให้กลกันต์เห็นจนเต็มตา มือหนาจับแยกเรียวขางามออกจากกันเพื่อเชยชมความงามอย่างชัดเจน
“น้ำหวานสวยมาก” กลกันต์เอ่ยชมจากใจด้วยความรู้สึกที่เอ่อล้มภายในใจมายาวนาน กดจูบไปตามแนวเรียวขางามอย่างไม่ให้เธอได้เตรียมใจ ก่อนจะฉกเข้าที่ใจกลางดอกไม้งามที่จะมีเขาเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว ตวัดปลายลิ้นลงออกแรงถี่จนน้ำหวานบิดเร้าไปทั้งตัวด้วยความเสียวซ่านกับสัมผัสใหม่
“ยะ อย่า มอง”
“อ๊า... ”
“อื้อ อืมมมม หวานรู้สึกแปลก แปลก ”
เสียงหวานที่เอ่ยมากระตุ้นให้กลกันต์ตวัดปลายลิ้นถี่ขึ้นก่อนซุกไซร้เข้าไปในกลีบดอกไม้งาม
รู้สึกเหมือนทนไม่ไหว
“อื้อออ คุณกันต์ น้ำหวานจะไม่ไหวว”
“อ๊ะ อ๊ะ อร๊ายยยยยยยยยย อา~~~”
น้ำหวานที่ปลดปล่อยอารมณ์ออกมาครั้งแรกในชีวิตหวีดร้องออกมาในตอนสุดท้ายด้วยสมองที่ขาวโพลน นอนหอบหายใจถี่อย่างหมดแรง
แฮก แฮก
กลกันต์ยิ้มก่อนคลานตัวเข้าไปจนอยู่ในระดับเดียวกันมองดวงหน้าหวานที่หมดแรง
“เก่งมาก เด็กดี”
กลกันต์ใช้ฝามือหนาลูบเบาๆ บนดวงหน้าของน้ำหวาน กดจูบลงบนหน้าฝากอิ่ม ด้วยส่งสายตาที่ทอดมองเธอด้วยความหลงใหล
เขาไม่อยากให้ครั้งแรกของเธอเกิดจากการทะเลาะกันเช่นวันนี้ แต่เพราะอารมณ์หึงและหวงที่เห็นเธอออกไปกับชายอื่นจึงทำให้ขาดสติ
ร่างสูงที่อารมณ์กำลังปะทุ พยายามปรับอารมณ์ความต้องการตนเองอยู่หากเกินเลยไปมากกว่านี้กลัวคนตัวเล็กจะรับไม่ไหว อยากทะนุถนอม ให้เธอยินยอมเป็นของเขาด้วยความเต็มใจ
น้ำหวานที่เหนื่อยและอายจนไม่รู้จะพูดอะไร จึงหันหน้าหนีกลกันต์ที่กำลังมองสบตา แล้วพลิกตัวหันหน้าหนี
กลกันต์ที่เห็นคนแก้มแดงหันหน้าหนีจึงเข้าไปแนบแผ่นหลังเนียนกอดกระชับแล้วกระซิบที่ข้างหู
“อายทำไม พี่เห็นของหวานหมดแล้ว”
“อื้อออ” ด้วยความอายหนักกว่าเก่าร่างเล็กจึงดิ้นขลุกขลักออกจากอกแกร่ง จนไม่ทันสังเกตคำพูดของกลกันต์ที่มีคำสรรพนามใหม่ระหว่างเขาและเธอ
“ปล่อยค่ะ หวานจะไปล้างตัว”
“ไม่ปล่อยค่ะ หวานต้องบอกพี่มาก่อน คนที่ออกไปด้วยวันนี้คือใคร”
น้ำเสียงที่หวานหูผิดปกติของกลกันต์ทำให้น้ำหวานรู้สึกอยากหายตัวไปจากตรงนี้ และรู้สึกแปลกกับความสัมพันธ์ใหม่ระหว่างทั้งสอง
“ถ้าคนที่มาส่งเป็นแฟนหวานล่ะคะ” น้ำหวานพูดอย่างท้าทาย
“อย่ามาประชด พี่รู้ว่าไม่ใช่แฟน” กอดกระชับให้แน่นขึ้น กระซิบที่ใบหู ก่อนไล่ละเลียดไปตามใบหูน้อยๆ ขบเม้มเบาๆ
“อื้อ อย่านะ ทำแบบนี้กับหวานทำไมคะ หรือเห็นว่าหวานไม่มีที่ไปคิดจะทำอะไรก็ได้” ถึงจะหลงใหลไปกับเขาเหตุการณ์ก่อนหน้านี้แต่เธอก็รู้ว่าอะไรคืออะไร ไม่รักไม่ชอบจะมาทำแบบนี้กับเธอไม่ได้
หลายปีมานี้ที่เขาทำตัวเหินห่าง ราวกับไม่อยากหายใจร่วมโลกกับเธอ มาวันนี้กลับหลอกล่อให้เธอหลงใหลไปกับเขา แล้วยังพูดน้ำเสียงหวานใส่อีก
“ไม่มีที่ไปอะไร ก็อยู่ที่นี่ด้วยกัน อยู่กับพี่” อยู่ในฐานะอะไร อยากจะถามออกไป แต่กลัวคำตอบ
“ปล่อย ” น้ำหวานรวบรวมแรงฮึดที่มีดันตัวเองลุกขึ้นจนหลุดพ้นจากอ้อมกอดกลกันต์ ข่มความอายที่ตอนนี้เปลือยเปล่าต่อหน้าชายหนุ่ม เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว เดินเข้าห้องน้ำด้วยความไว
ปึง
เสียงปิดประตูตามด้วยเสียงน้ำไหลจากฝักบัว
เห็นดังนั้นกลกันต์จึงปล่อยให้น้ำหวานได้มีเวลาส่วนตัว กำจัดคราบใคร ส่วนเขาเดินกลับห้องตนเองที่อยู่ปีกขวา อารมณ์ที่คิดว่าสงบลงแล้วกลับปะทุอีกครั้งเมื่อได้มองร่างเปลือยเปล่าของน้ำหวาน
ตอนนี้เขาก็ต้องการเวลาส่วนตัวเช่นกัน
น้ำหวานใช้เวลาในห้องน้ำหนึ่งชั่วโมงเต็ม เวลาส่วนใหญ่ถูกใช้ไปกับการนั่งเหม่อลอย ครุ่นคิด และสับสน ปากอิ่มขบเม้มเข้าหากันเมื่อนึกถึงจูบของกลกันต์มือบางที่ถือใยบวมขัดตัว ขัดวนทั่วตัวหวังลบสัมผัสของเขาออกให้หมด แรงถูที่ค่อยๆเพิ่มความแรงขึ้นแต่กลับไม่ทำให้รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย จนตัวนี้ทั่วทั้งตัวของร่างบางแดงราวกับมีใครเอาน้ำแดงมาสาดดวงตาหวานบวมและแดงก่ำ น้ำใสเอ่อคลอรอบดวงตาค่อยๆไหลรินลงมาเธอไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วอยากหนีไปให้ไกลอยากหนีไปตอนนี้เลยยิ่งดีคิดได้ดังนั้นจึงเอื้อมมือปิดสายน้ำที่กำลังไหลรดตัว หยิบผ้าเช็ดตัวจากราวกดซับน้ำออกจากลำตัวเบาๆ เพราะเริ่มรู้สึกแสบจากรอยครูดของใยบวบ แล้วใช้ผ้าผืนเดิมพันรอบลำตัวเอื้อมหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กซับน้ำจากเส้นผมพอหมาดๆ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ กลืนก้อนสะอึกที่จุกอยู่ที่ลำคอลงไป แล้วก้าวออกจากห้องน้ำน้ำหวานเลือกแต่งกายง่ายๆด้วยเสื้อยืดสีดำและกางเกงผ้านิ่มขายาว ยัดเสื้อผ้าและของใช้ที่พอจะนึกออกในยามคับขันลงในกระเป๋าเป้สะพายหลังด้วยความเร่งรีบ เกรงว่ากลกันต์จะมาเจอเข้าร่างบ
กว่าฝนจะหยุดตกก็เป็นเวลากว่าสามทุ่ม ร่างเล็กที่ตอนนี้หลับไปด้วยความเหนื่อย เปลี่ยนจากท่านั่งคุดคู้กอดเข่าเป็นนั่งอยู่บนตักกลกันต์ หลังบางซบลงกับอกหนาเอนหลังพิง ปล่อยตัวตามสบายที่มีกลกันต์โอบกอดอยู่ด้านหลัง เมื่อเห็นว่าถึงเวลาต้องกลับบ้านแล้วจึงสะกิดปลุกหญิงสาว“น้ำหวาน กลับบ้านเรากันนะ” “อื้ออออออ” เสียงหวานเอ่ยประท้วง ที่โดนรบกวนการนอนหลังสบาย “มา พี่ช่วยพยุงขึ้น” ว่าแล้วค่อยประคองร่างเล็กขึ้น “กี่โมงแล้ว” “สามทุ่มแล้ว หิวข้าวไหม” จ๊อกก เสียงท้องร้องเป็นคำตอบแทนเธอ กลกันต์ยิ้มบางๆส่งให้เด็กน้อย แล้วลงไปยืนด้านล่างปลายกระท่
“คะ คุณกันต์”เขาพูดอะไร เธอหูฝาดไปหรือเปล่า ไม่มีเวลาคิดนาน ตอนนี้เธอรู้สึกแปลกๆ อีกแล้ว ร่างสูงจูบไล้ลงต่ำเรื่อยๆ จนถึงใจกลางดอกไม้งาม ฉกวูบไปยังใจกลาง ตลัดเลียไปที่ตุ่มน้อย“อ๊ะ อ๊ะ”เดจาวู ความรู้สึกแบบนี้มาอีกแล้ว ร่างเล็กเอื้อมมือเกาะไหล่ร่างสูง ปลายเล็กจิกเข้าเนื้อไหล่ชายหนุ่ม อย่างต้องการระบาย ในขณะที่อีกมือท้าวอยู่กับเคาน์เตอร์เขายังไม่พอใจแม้จะเจ็บจี๊ดกับปลายเล็บขอเธอ กลกันต์กลับไม่สนใจ ชายหนุ่มละจากตุ่มน้อย ฉกเข้าใจกลางรอยแยกดอกไม้งาม ดูดดื่ม และตวัดเลีย ค่อยๆ เพิ่มระดับความถี่“อ่ะ อื้มมม”“อ๊ะ ซี๊ดดดดดด”“อร๊ายยยยยยย” พร้อมกับร่างเล็กกระตุกปล่อยน้ำหวานออกมามากมาย เสียงหายใจถี่ๆ พร้อมร่างคนตัวเล็กที่โถมลงมาบนคนตัวโตด้วยความเหนื่อยกลกันต์ ตวัดกวาดชิมน้ำหวานจนพอใจ แล้วจูบซับต้นขาด้านในทั้งสองข้าง หมั่นเขี้ยวคนตัวเล็กนัก“หวานจ๋า นี่พึ่งเริ่มต้นเองนะ”“หื้อออออ”“ไปที่เตียงกันนะ&rdqu
เช้าวันต่อมา กลกันต์ยังคงตื่นในเวลาเดิมแต่เช้ามืด ร่างสูงพยายามลุกออกจากเตียงช้าๆเกรงว่าจะปลุกคนตัวเล็กที่กำลังหลับใหล ใบหน้าเล็กนอนซุกอยู่กับอกของเขาที่ตอนนี้แขนของเขากลายเป็นหมอนให้เธอ กว่ากิจกรรมเมื่อคืนจะจบลงก็ใช้เวลาเกือบครึ่งค่อนคืน หืมม ร่างที่กำลังจะดันตัวออกชะงักทันทีที่รู้สึกถึงความร้อนจากคนข้างตัว จึงใช้ฝ่ามืออังที่ศีรษะเล็ก ที่ตอนนี้ตัวร้อนดังไฟ โกรธตัวเองนัก เมื่อวานน้ำหวานถูกเขาเอาเปรียบไปแล้วหนึ่งหนจนหนีออกจากบ้าน ซ้ำยังตากฝนเปียกปอน กลับมาแทนที่เขาจะพาน้องอาบน้ำ ให้กินยาตั้งแต่เมื่อคืน กลับพาน้องออกแรงซะดึกดื่น เห้อ ก็จังหวะนั้นใครจะห้ามใจตัวเองไหว ให้ย้อนเวลากลับไปเมื่อคืน เขายังเลือกที่จะทำแบบเธอ ทำให้เธอเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว&nb
น้ำหวานเป็นคนผิวขาวใสและเกิดรอยช้ำที่ผิวได้ง่าย รอยแดงเป็นปื้นกระจายอยู่ทั่วเนื้อตัว ป้าน้อยใช้มือคลี่ชุดนอนนางส่วนก่อนมองลึกลงไป มองเห็นรอยที่กระจายทั่วตัว“โถ่ น้ำหวานลูก”แม้ไม่ใช่แม่หรือญาติของน้ำหวานโดยแท้ แต่ก็เลี้ยงสาวน้อยมาตั้งแต่เล็ก อดเสียใจกับภาพที่เห็นไม่ได้ ด้วยรู้จักนิสัยของน้ำหวานดี น้ำหวานไม่ใช่เด็กเหลวไหลที่จะปล่อยเนื้อตัว ไม่เคยทำให้คนที่บ้านต้องหนักใจ ใช้ชีวิตส่วนใหญ่จะอยู่กับการเรียนหนังสือเป็นหลักภาพที่เห็นทำให้นางอดคิดไปในทางไม่ดีไม่ได้เลย ด้วยอาบน้ำร้อนมาก่อนทำไมจะไม่รู้รอยแบบนี้เกิดได้จากอะไรเกิดความสงสัยและกังวล หรือน้ำหวานจะโดนคนไม่ดีใช้กำลังปลุกปล้ำไปทำมิดีมิร้ายเมื่อคืนนี้ยามฝนตกหนักโอ๊ยๆ ตายๆ ถ้าคุณกลเกียรติอยู่มีหวังไร่แตกแน่ป้าน้อยหยุดความคิดฟุ้งซ่านลงสักครู่ ลงมือเช็ดตัวให้น้ำหวานจึงได้เห็นรอยแดงทั่วทั้งตัวสาว แล้วคิดหนักไอ้คนทำรอย มันคงจะหื่นนักฝากรอยรักไว้ทั่วไม่เว้น อย่างกับตายอดตายอยากมาจากไหน ผิวบอบบางของน้ำหวานหรือจะทนรับกับความดิบเถื่อนได้ป้
หลังจากเช็ดตัวให้น้ำหวานเสร็จป้าน้อยจึงนำอุปกรณ์ลงมาเก็บด้านล่าง และนั่งรอป้าแก้ว หากอยู่ห้องนั้นนานเกรงว่าน้ำหวานตื่นขึ้นมาเธอจะอดใจถามเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ รอป้าแก้วเข้ามายืนยันอีกคนก่อนระหว่างที่รอ จะให้นั่งเฉยๆก็กะไร ป้าน้อยจึงลงมือทำความสะอาดบ้านโดยเริ่มจากเก็บครัว ล้างจานชามที่ค้างอยู่ในอ่าง แล้วค่อยเริ่มปัดกวาดเช็ดถูโถงตัวบ้าน กว่าป้าแก้วจะมาถึงป้าน้อยก็เก็บบ้านจนเสร็จแล้ว“ไหน น้ำหวานอยู่ไหน” เป็นป้าแก้วที่จอดรถไว้หน้าบ้านแล้วเดินเข้ามาร้องทักขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรน“อยู่บนห้องนั่นแหละ ไปๆ ขึ้นไปหานังหนูกันก่อน”สองผู้มากวัยเดินเคียงกันไปยังห้องปีกซ้าย เมื่อเข้าไปพบน้ำหวานที่ตอนนี้ตื่นขึ้นมา กำลังกินผลไม้ที่ป้าน้อยเตรียมให้น้ำหวานที่ตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์ และเดาได้ว่าน่าจะเป็นป้าแก้ว เธอจึงเข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ให้เป็นเสื้อแขนยาว และกางเกงขายาวแทน ส่วนรอยที่คอเธอจะใช้ผมปิดแทน แค่นี้ป้าแก้วก็ไม่รู้แล้วโชคดีที่ก่อนป้าเสียได้สอนเธอเกี่ยวกับการดูและตนเอง และสอนให้เธอรู้จักยาคุม รวมถึงยาคุมกำเนิด ตอนนั้นเธอยังเด็กและคิดว่าคงไม่ได้ใช้ แต่ต้องขอบคุณป้าอย่า
“ไม่ต้องรบกวนคุณกันต์หรอกนังแก้ว ช่วงนี้งานในไร่ยิ่งมีปัญหาเยอะแยะเต็มไปหมดจะเอาเวลาไหนมาจัดการ ฉันว่าเรื่องนี้คนร้ายมันหาไม่ยากหรอก คนเราหรือทำอะไรมันมีหลักฐานมัดตัวอยู่แล้วล่ะ”“พูดอะไรของแกนังน้อย เรื่องเกิดขึ้นในไร่ แล้วเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเล็ก คงมีแต่คุณกันต์ที่ช่วยพวกเราได้” ป้าแก้วหันไปพูดกับป้าน้อย เพราะสำหรับเธอแล้วที่พอจะพึ่งพาได้ตอนนี้เธอมองเห็นแค่กลกันต์“เอาไว้ให้น้ำหวานหายดี เราค่อยคุยเรื่องนี้กันนะครับ” เพราะอยากคุยกับน้ำหวานและจัดการสถานะตนเองให้ชัดเจนก่อน เขาขอเวลาสักนิด“ไปแก้ว ไปส่งกูที่บ้านด้วย” ป้าน้อยบอกป้าแก้ว ก่อนหันมามองกลกันต์อีกครั้ง แล้วสะบัดหน้าหนีอะไรวะป้าน้อยทำยังกะงอนเขา“ไปอิน้อย เดี๋ยวกูไปส่ง”“งั้นป้าไปก่อนนะคะ คุณกันต์ ยังไงป้าฝากเรื่องนี้ด้วยครับ”“ครับ ผมสัญญาว่าจะจัดการให้แน่นอน”ป้าน้อยที่หลังจากสะบัดหน้าใส่กลกันต์หนึ่งหนก่อนเดินนำหน้าป้าแก้วออกประตูไป“งั้นป้าไปก่อนนะคะ คุณกันต์”“ครับ”“อะไรของมึงนังแก้ว อยู่ดีๆก็ทำท่างอนคุณกันต์ ผีวัยทองเข้าสิงหรือไง”“ฮึ คนเรามันก็รู้หน้าไม่รู้ใจไงมึง!”“อะไรของมึง”“ถึงบ้านกูค่อยเล่า”ป้าน้อยข่มเก็บควา
“เฮ้ยยยยยยยยยยย”ร่างสูงดีดตัวขึ้นด้วยความตกใจ รีบก้าวลงจากเตรียม พุ่งตัวไปกดสวิตช์ไฟที่อยู่บริเวณประตูห้องพรึบแสงไฟที่ส่องไสวเผยให้เห็นผู้หญิงร่างท้วมที่กำลังนอนหันหลังให้เขา ก่อนจะค่อยๆเริ่มขยับตัวเพราะได้รับการรบกวนจากเสียงของกลกันต์ และแสงไฟที่สาดส่อง“ป้าแก้ว!” กลกันต์พึมพำออกมาด้วยความตกใจทันทีที่ป้าแก้วหันพลิกตัวกลับมาทางฝั่งที่เขายืนอยู่“ป้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” เอ่ยถามเสียงไม่เบานัก“คุณกันต์เหรอคะ ป้าคงเผลอหลับไป” มือเหี่ยวยกขึ้นขยี้ตาเบาๆ ใช้เวลาปรับโฟกัสสายตาอยู่เกือบหนึ่งนาทีเผลอหลับอย่างงั้นเหรอ แล้วเมียเขาหายไปไหน“แล้วน้ำหวานไปไหนครับป้า”“หนูหวานเหรอคะ ตอนนี้กี่โมงแล้ว”ไม่รู้ว่าป้ากำลังกวนเขาอยู่ หรือยังไม่ตื่นเต็มที่กันแน่จึงตอบไม่ตรงกับคำถาม หรือเขาเองที่ถามไม่ตรงคำตอบ“จะสี่ทุ่มแล้วป้า”“ตายจริง ป้าเผลอหลับยาวเลย”“แล้วน้ำหวานไปไหนครับ ป้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” เมื่อเห็นว่าป้าแก้วเริ่มตื่นดีจึงถามย้ำอีกครั้ง“ใช่ ป้ามาที่นี่เพราะจะมาคุยกับคุณกันต์”“ผม” กลกันต์ขี้มือเข้าหาตัวเอง“ค่ะ และขอร้องให้ตอบความจริงถ้ายังมีความเคารพให้ป้าคนนี้อยู่ และคุณกันต์ต้องตอบป้าม
พลั๊ก ร่างสูงที่เดินตามเข้ามาจับแขนเรียวทั้งสองข้าง หมุนเมียรักให้หันหน้าเข้าหาเขา ดันร่างบางให้ถอยหลังด้วยความระวังจนแผ่นหลังเนียนแบบติดกำแพง ภายในห้องน้ำมีเพียงเทียนหอมให้ความสว่าง และกลิ่นอโรมาอบอวลให้ความผ่อนคลาย “พี่กันต์ขา หวานอยากสระผม” พร้อมกับมือเรียวขืนออกจากข้อมือใหญ่ จับตัวหนีผมบีบให้คลายออกจากเส้นผมยาวสวยจนเส้นผมค่อยๆตกลงปิดไหล่เนียน เชิดใบหน้าขึ้น สะบัดหน้าสองสามทีให้เส้นทิ้งตัวลง นิ้วชี้เรียวยกขึ้นเกี่ยวเอาเส้นผม ก่อนใช้นิ้ววนรอบ ปากบอกอยากสระผมแต่สายตาเมียรักที่ส่งมาน่าจะอยากอย่างอื่นมากกว่า จึงโน้มตัวลงเข้าไปสูดดมผมงามที่โดนนิ้วเรียวเกี่ยวเอาไว้ “ผมหอมขนาดนี้ พี่ว่าค่อยสระก็ได้” เอ่ยบอกคนตัวเล็ก แล้วงับนิ้วเธอเบาๆ ใบหน้าคมค่อยเคลื่อนลงดมกลิ่นหอมจากเมียรัก ไล้ไปตามไหปลาร้า ขบเข้าที่คอสวยจนเกิดรอย มือหนาสองข้างเคลื่อนเข้าไปกอบกุมยอดอกงามที่ใหญ่ขยายตัวขึ้นนับตั้งแต่มีลูก “อื้อ พี่กันต์อย่าทำรอยข้างนอกนะคะ” จบคำ มือใหญ่ปล่อยจากยอดปทุมที่กำลังกอบกุมเอาไว้ให้เป็นอิสระ ก้มลงใช้ปากหยักครอบงับเข้าไปแทนที่
และแน่นอนว่าลูกของเธอหนีไม่พ้นชื่อว่าน้องน้ำผึ้ง เป็นลูกสาวสมใจอยาก ที่กลกันต์ประคบประหงมอย่าดี โดยมีทั้งคุณตา คุณย่า และบรรดาคุณอาแวะเวียนมาช่วยเลี้ยง กลกันต์เป็นพ่อสมบูรณ์แบบไม่มีที่ติ และยังเป็นสามีที่ดี ไม่มีเรื่องผู้หญิงมากวนใจ เขาทำให้เธอโตขึ้นและมีเป้าหมายในชีวิตแบบที่ไม่เคยคิดมากก่อน ช่วงนี้เธอยังคงเข้าไปเรียนรู้งานในไร่ ส่วนต่างๆ และยังเป็นเลขาส่วนตัวให้กับกลกันต์ที่ไม่ว่าที่ไหนมีเขา ที่นั่นต้องมีเธอ หลังจากที่คลอดลูกคนแรกกลกันต์เป็นฝ่ายเอ่ยกับเธอว่ามีลูกคนเดียวก็พอ เพราะไม่อยากเห็นเธอเจ็บปวดแบบนั้นอีก ยอมรับว่านับตั้งแต่ตั้งท้องและมีลูก คำว่าส่วนตัว และคำว่าสบายไม่มีอยู่จริง แต่เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขไม่สามารถหาสิ่งอื่นมาทดแทนได้ ท้ายที่สุดจึงเลือกที่จะคุมกำเนิดไว้ก่อนเพื่อรอเวลาที่เหมาะสม และวันนี้ก็เป็นวันที่เธอคิดว่าพร้อมแล้วที่จะมีลูกอีกคน เมื่อตอนนี้น้องน้ำผึ้งมีอายุสิบแปดเดือน น้องน้ำผึ้งเดินได้แล้ว และสามารถทานอาหารเองได้บ้าง ถือเป็นพัฒนาการที่ดี นอกจากนี้แล้วช่วงนี้ลูกสาวของเธอเริ่มจดจำสิ่งต่างๆรอบตัว ทำให้ต้องระมัดระวังคำพูดและกา
“แกแน่ใจนะว่าครบแล้ว” เสียงของพลพลเอ่ยท้วงมาแต่ไกลเมื่อเห็นเพื่อนสาวที่ตอนนี้อายุครรภ์ 37 สัปดาห์เข้าไปแล้ว หน้าท้องที่เคยแบนราบเริ่มโตขึ้นมาเล็กน้อยเท่านั้น “ครบแล้วแก นี่ฉันตรวจเช็คมาสามรอบแล้ว ของพวกนี้พี่กันต์ก็ช่วยเตรียม” หันไปตอบเพื่อนที่ดูจะเห่อกว่าเธอเสียอีก พร้อมหันไปรับแก้วน้ำผึ้งมะนาวจากกลกันต์ที่ทำหน้าที่ดูแลเธอ ตั้งแต่ที่รู้ว่าตั้งครรภ์สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือน้ำผึ้งมะนาว ถ้าไม่ได้กินจะรู้สึกเหมือนขาดบางอย่างไป จนกลกันต์กลัวว่าเธอจะกินมากไปและขอให้ลดลงกินเพียงสัปดาห์ละสองครั้ง ซึ่งเธอก็เข้าใจความห่วงใยของสามีดี ที่บอกว่าเป็นสามีนั้นก็เพราะว่าเธอและกลกันต์ได้จดทะเบียนสมรสกันไปเมื่อเดือนก่อน ดังนั้นทรัพย์สินที่ถูกจัดแบ่งตามพินัยกรรมของคุณลุงเป็นอันสมบูรณ์ และเพราะคำขอของคุณย่าและคุณตาที่อยากให้เธอและกลกันต์เป็นสามีอย่างถูกต้องตามกฎหมายถึงได้จูงมือกันไปจดทะเบียน ส่วนงานแต่งคงต้องเอาไว้ก่อน เธอไม่ได้ให้ความสำคัญกับการจัดการมาก ถึงอย่างไรก็อยู่ด้วยกันแถมยังมีลูกอีกหนึ่ง เพียงแต่กลกันต์ที่อยากจัดงานให้ถูกต้อง โดยให้เหตุผลว่าอยากป่าวประกาศเรื่
สองร่างที่กำลังกอดพูดคุยให้กำลังใจผละออกจากกันเมื่อได้ยินเสียงดังอึกกระทึกครึกโครมดังมาจากอีกด้านซึ่งอยู่หลังเวที ในตอนนี้ผู้คนในงานต่างหันไปมองทิศทางของเสียง ก่อนที่สักพักจะได้ยินเสียงโห่ร้องตามมา เสียงเพลงบนเวลาถูกปิดลงจนรอบตัวมีแต่ความเงียบ นิคที่นั่งอยู่บริเวณหน้าเวทีหันไปมองด้วยความสนใจเมื่อเห็นผู้ที่เดินขึ้นมาไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นโก๋ ย่างก้าวขึ้นบนเวทีขณะที่มือข้างหนึ่งถือไมโครโฟนและมืออีกข้างกุมอยู่ที่ข้อมือของหญิงสาวที่เขาไม่เคยพบ เจ้าของร่างกำยำอาศัยพละกำลังที่มากกว่าใช้มือกุมข้อมือน้อยๆบังคับให้นิดที่พยายามขัดขืนเดินตามแรงของเขา ไม่ว่าจะทั้งข่วนทั้งขู่ก็ไม่มีทีท่าจะโก๋จะหยุด จนสุดท้ายการฉุดกระชากจึงจบลงที่กลางเวที นิดส่ายหน้าขอร้องให้เขาหยุดการกระทำแต่โก๋ไม่สนใจเมื่อสิ่งที่จะทำต่อจากนี้เขาคิดมาแล้ว “ขอโทษที่เข้ามาขัดจังหวะความสนุกทุกคนนะครับ” เสียงเข้มว่าออกไปโดยมีทุกคนสายตากำลังจับจ้องมาที่เขา ต่างรอลุ้นว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ ผู้จัดการศูนย์อาหารที่หายไปตั้งแต่หัวค่ำ ปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมกับนิดนักบัญชีสาวโสดของไร่
พลพลที่กำลังเดินเข้าไปในครัวไม่ลืมที่จะหันกลับมามองนิคเป็นระยะ เมื่อเห็นว่านิคน่าจะอยู่คนเดียวได้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรจึงเดินเข้าห้องครัวไปชีวิตใหม่ของนิคกำลังจะเริ่มขึ้น ในฐานะแฟนแม้ไม่ใช่ความรักชายหญิงเหมือนทั่วไป แต่เขามั่นใจว่าความรักที่มีเป็นรักแท้และไม่เคยคิดที่จะทอดทิ้งตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ครั้งนั้นเขาคิดเสมอขอให้นิคกลับมา และสัญญาว่าไม่จะเกิดอะไรขึ้นเขาจะยืนข้างนิคไม่ปล่อยมือพลพลหยุดยืนหน้าห้องครัวที่ส่งกลิ่นหอมลอยโชยออกมาตามลม เมื่อเห็นว่าประตูห้องเปิดอยู่จึงก้าวเข้าไปแต่ภาพที่เห็นทำให้ต้องชะงักเท้าเอาไว้ การมาของเขาจะเป็นก้างขวางคอคนแถวนี้หรือเปล่า เมื่อเห็นคู่รักทำอาหารหวานจนมดแทบจะขนกันลงหม้อแล้วรู้สึกยินดีกับเพื่อนที่ได้เจอรักดีๆ ที่พร้อมจะดูแล แม้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะดูรวดเร็ว เร็วกับการพัฒนาแต่เชื่อว่าทั้งคู่ปรับตัวเข้าหากันได้ ก็รู้จักกันมาทั้งชีวิตแล้ว และนึกขอบคุณกลกันต์ที่ให้โอกาสเขาและนิค ตลอดเวลาที่นิครักษาตัวเขาให้ความช่วยเหลืออย่างดี ทำทุกอย่างที่เขาสามารถทำได้โดยที่พลพลและนิคไม่เคยได้เอ่ยขอ สงสัยเขาและนิคคงจะต้องอยู่เลี้ยงลูกให้น้ำหวานจริงๆ“ทำแบบนี้กับข้าว
ฝ่ามือหนาของโก๋ยังคงจับยึดที่ข้อเท้าสวย บรรจงจูบซ้ำๆ พร้อมส่งสายตาอ้อนวอนให้หญิงสาวที่ยังคงส่งสายตาปั้นปึ่งให้ เขาเข้าใจดีกับสิ่งที่เธอต้องการ แต่ในมุมของเขาก็ต้องการเวลาเช่นกัน ไม่ใช่อยากเก็บเป็นความลับ แต่คนใกล้กันยิ่งมีคนรู้มากหากไม่ใช่แล้วต้องแยกจากกันไปเธอจะเสียหาย ตัวเขาเองก็ไม่เป็นไรหรอก ไม่สนใจคำพูดอยู่แล้ว จนวันนี้ที่ถูกเธอเมินความสนใจ รู้สึกใจจะขาด ไม่พอใจ เหมือนหัวใจถูกบีบ กลัวเธอยอมแพ้แล้วตัดใจจากเขา“จะปล่อยดีๆไหม” ไม่เพียงแต่สายตาเท่านั้นแต่น้ำเสียงที่ส่งมายังเต็มไปด้วยความโมโห“ไม่” ว่าพร้อมกระตุกเรียวขาสวยที่พยายามขืนออกจากการเกาะกุม“ได้ แล้วอย่ามาเสียใจละกัน” ว่าแล้วจึงชักเรียวขาหดเข้าหาลำตัวก่อนออกแรงเหยียดจนสุดหรือจะเรียกว่าถีบสุดกำลังใส่ร่างล่ำหนา หากแต่ผิดคาดเธอประเมินเขาต่ำไปแรงเท่ามดของเธอไม่สามารถทำอะไรกับผู้ชายถึกทึนแบบเขาได้ จึงตลบหลังเธอด้วยการจับยึดเรียวขาออกแรงพลิกร่างเล็กให้คว่ำลง“อร๊ายยย ทำบ้าอะไรเนี่ย”“พี่คิดว่าจะสู้ผมได้จริงเหรอ” ถามอย่างท้ายทาย ตัวเท่านี้จะเอาอะไรมาสู้เขา“ทำแบบนี้ทำไม”“ขี้เกียจอธิบายแล้ว” โก๋ว่าอย่างมึนๆ พร้อมโน้มตัวลงทาบทับร่างเ
วันนี้เป็นอีกวันที่ไร่กลเกียรติมีการรวมตัวเพื่อจัดงานต้อนรับการออกจากโรงพยาบาลของนิค และเป็นการเริ่มชีวิตใหม่ของหลายๆคน บรรยากาศเป็นไปตามสไตล์บ้านไร่เสียงเพลงเพราะๆกับบรรยากาศเย็นสบายในตอนเย็นทำให้นิคระบายยิ้มออกมาขณะรับแก้วเครื่องดื่มจากพลพล“ทุกคนน่ารักมากนะ” นิคหันไปพูดกับแฟนหนุ่มก่อนยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบ“นิคอยากไปเต้นสักเพลงไหม” พลพลถามพลางยื่นมือออกไปหาคนรัก ซึ่งเอาแต่ส่ายหน้า“ไม่ดีกว่า พี่เห็นทุกคนสนุกก็พลอยสนุกไปด้วยแล้ว พลเข้าไปช่วยน้ำหวานในครัวก่อนก็ได้นะ”“พลไม่อยากทิ้งพี่นิคไว้คนเดียว”“คนเดียวที่ไหน คนเต็มงานเลย เดี๋ยวมีอะไรพี่เรียกพลเอง ไปเถอะ แล้วตักของอร่อยๆมาให้พี่ด้วย” นิค พยักหน้าอีกครั้งเพื่อยืนยันคำพูด เขาอยู่คนเดียวได้จริงๆ ตอนนี้ทั้งงานเต็มไปด้วยผู้คนในไร่ที่มาร่วมงาน ขณะที่รออาหารจากในครัวมาเสิร์ฟ ขาแดนซ์จึงเริ่มออกลวดลาย“พี่โก๋ก็ไม่อยู่ ไม่รู้หายไปไหนของเขา พี่นิคกลับมาทั้งทีกลับหายตัว ไม่ห่วงเพื่อนเลยหรือไง” พลพลบ่นไปตามประสา เพราะวันนี้เป็นวันแรกที่เขาและนิคเข้ามาที่ไร่แห่งนี้ ด้วยคำขอของกลกันต์ที่อยากให้นิคพักฟื้นที่ไร่ ตั้งแต่ที่กลับเข้ามาที่ไร่เมื่อ
เป็นเวลาเกือบสองเดือนแล้วที่โก๋ย้ายมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไร่เกียรติอรุณแห่งนี้ จากช่วงแรกที่เข้ามาขอเริ่มงานในไร่ที่ต้องใช้แรงพละกำลังตามแบบถนัด จนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาเขาได้ขอกลกันต์ย้ายเข้ามาช่วยงานศูนย์อาหารด้านหน้า ให้เหตุผลว่าอยากดูแลแม่ของเขาซึ่งอยู่เฉยๆไม่ได้จึงต้องออกมาช่วยงานที่นี่อยู่เรื่อยไปกลกันต์นั้นแสนจะยินดี เพราะภาระงานอันมากมายที่ต้องรับผิดชอบและอยากแบ่งเบา โดยเฉพาะกับผู้มีพระคุณของครอบครัว ครั้นเขาจะเอ่ยปากแต่แรกก็เกรงว่าจะทำให้โก๋ลำบากใจ จนกระทั่งโก๋เข้ามาขอทำงานในร้านอาหารเขาจึงอนุมัติทันที ผ่านมาเกือบเดือนที่โก๋ย้ายมาดูแลร้านอาหาร ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายที่บุคลิกดูโผงผางแบบโก๋จะทำให้ลูกค้าติดหนึบจนยอดขายเพิ่มขึ้นมาก แถมยังมีสาวๆเข้ามาติดพัน สงสัยจะได้สละโสดก็คราวนี้“พี่กันต์คิดอะไรอยู่คะ” น้ำหวานที่เดินเข้ามาใกล้ตัวกลกันต์ที่ยืนเท้าแขนอยู่ระเบียงห้อง“ก็คิดว่าคืนนี้จะให้หวานช่วยพี่ยังไงดี ท่าไหนดี” กระซิบริมใบหูของน้ำหวานเบาๆท้ายประโยค และเธอเข้าใจดีกับคำว่าช่วยของเขาจนดวงหน้าเริ่มแดงซ่าน แม้จะแนบชิดกันมาหลายครั้ง แต่เธอยังคงไม่ชินและเขินอายเสมอเมื่อโดนเขากลั่นแกล
สามวันต่อมา วันนี้เป็นวันที่โก๋และแม่เดินทางเข้ามาที่ไร่เป็นวันแรก จากที่ควรจะมาตั้งแต่เมื่อวานแต่เพราะยังจัดการข้าวของจากบ้านเก่าไม่แล้วเสร็จการเดินทางจึงถูกเลื่อนออกไปหนึ่งวันรถเก๋งคันเก่าคู่ใจเคลื่อนที่เข้ามาในไร่ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์อยู่ตรงศีรษะอันร้อนระอุ ป้าน้อยทำหน้าที่ต้อนรับทั้งสองและพาเข้าไปแนะนำบ้านพักซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับหลังของป้าน้อยเนื่องจากวันนี้น้ำหวานต้องเดินทางเข้าไปยังมหาวิทยาลัยเพื่อทำการสอบในรายวิชาที่เหลือและตัดสินใจทำเรื่องพักการเรียนเอาไว้ก่อนด้วย กลกันต์ที่ไม่อยากให้น้ำหวานต้องอยู่ห่างตัวจึงตามเธอไปด้วยอีกคน ทำให้ต้องฝากป้าแก้วและป้าน้อยช่วยดูแลโก๋และคุณยายณีแม่ของเขาโก๋หยุดรถลงที่หน้าบ้านหลังสีขาวเป็นบ้านชั้นเดียว ดูร่มรื่นโอบล้อมไปด้วยทิวทิศน์ธรรมชาติเขียวขจี และด้านข้างยังมีบ้านอีกหลายหลังที่อยู่ใกล้เคียงกัน ด้วยอากาศที่ร้อนจัดโก๋จึงละสายตาจากความงามของบรรยากาศรอบตัว รีบเข้าไปช่วยพยุงแม่เข้าไปพักในตัวบ้านที่ทำความสะอาดไว้เป็นอย่างดีเดินทางการมาเหนื่อยป้าน้อยจึงปล่อยให้ทั้งสองได้นอนพักเอาแรง ทางด้านยายณีหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าในขณะที่โก๋ยังคงตื่นเต้นกับส