เช้าวันต่อมา
กลกันต์ยังคงตื่นในเวลาเดิมแต่เช้ามืด ร่างสูงพยายามลุกออกจากเตียงช้าๆเกรงว่าจะปลุกคนตัวเล็กที่กำลังหลับใหล ใบหน้าเล็กนอนซุกอยู่กับอกของเขาที่ตอนนี้แขนของเขากลายเป็นหมอนให้เธอ กว่ากิจกรรมเมื่อคืนจะจบลงก็ใช้เวลาเกือบครึ่งค่อนคืน
หืมม ร่างที่กำลังจะดันตัวออกชะงักทันทีที่รู้สึกถึงความร้อนจากคนข้างตัว จึงใช้ฝ่ามืออังที่ศีรษะเล็ก ที่ตอนนี้ตัวร้อนดังไฟ
โกรธตัวเองนัก เมื่อวานน้ำหวานถูกเขาเอาเปรียบไปแล้วหนึ่งหนจนหนีออกจากบ้าน ซ้ำยังตากฝนเปียกปอน กลับมาแทนที่เขาจะพาน้องอาบน้ำ ให้กินยาตั้งแต่เมื่อคืน กลับพาน้องออกแรงซะดึกดื่น
เห้อ ก็จังหวะนั้นใครจะห้ามใจตัวเองไหว ให้ย้อนเวลากลับไปเมื่อคืน เขายังเลือกที่จะทำแบบเธอ ทำให้เธอเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว
&nb
น้ำหวานเป็นคนผิวขาวใสและเกิดรอยช้ำที่ผิวได้ง่าย รอยแดงเป็นปื้นกระจายอยู่ทั่วเนื้อตัว ป้าน้อยใช้มือคลี่ชุดนอนนางส่วนก่อนมองลึกลงไป มองเห็นรอยที่กระจายทั่วตัว“โถ่ น้ำหวานลูก”แม้ไม่ใช่แม่หรือญาติของน้ำหวานโดยแท้ แต่ก็เลี้ยงสาวน้อยมาตั้งแต่เล็ก อดเสียใจกับภาพที่เห็นไม่ได้ ด้วยรู้จักนิสัยของน้ำหวานดี น้ำหวานไม่ใช่เด็กเหลวไหลที่จะปล่อยเนื้อตัว ไม่เคยทำให้คนที่บ้านต้องหนักใจ ใช้ชีวิตส่วนใหญ่จะอยู่กับการเรียนหนังสือเป็นหลักภาพที่เห็นทำให้นางอดคิดไปในทางไม่ดีไม่ได้เลย ด้วยอาบน้ำร้อนมาก่อนทำไมจะไม่รู้รอยแบบนี้เกิดได้จากอะไรเกิดความสงสัยและกังวล หรือน้ำหวานจะโดนคนไม่ดีใช้กำลังปลุกปล้ำไปทำมิดีมิร้ายเมื่อคืนนี้ยามฝนตกหนักโอ๊ยๆ ตายๆ ถ้าคุณกลเกียรติอยู่มีหวังไร่แตกแน่ป้าน้อยหยุดความคิดฟุ้งซ่านลงสักครู่ ลงมือเช็ดตัวให้น้ำหวานจึงได้เห็นรอยแดงทั่วทั้งตัวสาว แล้วคิดหนักไอ้คนทำรอย มันคงจะหื่นนักฝากรอยรักไว้ทั่วไม่เว้น อย่างกับตายอดตายอยากมาจากไหน ผิวบอบบางของน้ำหวานหรือจะทนรับกับความดิบเถื่อนได้ป้
หลังจากเช็ดตัวให้น้ำหวานเสร็จป้าน้อยจึงนำอุปกรณ์ลงมาเก็บด้านล่าง และนั่งรอป้าแก้ว หากอยู่ห้องนั้นนานเกรงว่าน้ำหวานตื่นขึ้นมาเธอจะอดใจถามเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ รอป้าแก้วเข้ามายืนยันอีกคนก่อนระหว่างที่รอ จะให้นั่งเฉยๆก็กะไร ป้าน้อยจึงลงมือทำความสะอาดบ้านโดยเริ่มจากเก็บครัว ล้างจานชามที่ค้างอยู่ในอ่าง แล้วค่อยเริ่มปัดกวาดเช็ดถูโถงตัวบ้าน กว่าป้าแก้วจะมาถึงป้าน้อยก็เก็บบ้านจนเสร็จแล้ว“ไหน น้ำหวานอยู่ไหน” เป็นป้าแก้วที่จอดรถไว้หน้าบ้านแล้วเดินเข้ามาร้องทักขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรน“อยู่บนห้องนั่นแหละ ไปๆ ขึ้นไปหานังหนูกันก่อน”สองผู้มากวัยเดินเคียงกันไปยังห้องปีกซ้าย เมื่อเข้าไปพบน้ำหวานที่ตอนนี้ตื่นขึ้นมา กำลังกินผลไม้ที่ป้าน้อยเตรียมให้น้ำหวานที่ตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์ และเดาได้ว่าน่าจะเป็นป้าแก้ว เธอจึงเข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ให้เป็นเสื้อแขนยาว และกางเกงขายาวแทน ส่วนรอยที่คอเธอจะใช้ผมปิดแทน แค่นี้ป้าแก้วก็ไม่รู้แล้วโชคดีที่ก่อนป้าเสียได้สอนเธอเกี่ยวกับการดูและตนเอง และสอนให้เธอรู้จักยาคุม รวมถึงยาคุมกำเนิด ตอนนั้นเธอยังเด็กและคิดว่าคงไม่ได้ใช้ แต่ต้องขอบคุณป้าอย่า
“ไม่ต้องรบกวนคุณกันต์หรอกนังแก้ว ช่วงนี้งานในไร่ยิ่งมีปัญหาเยอะแยะเต็มไปหมดจะเอาเวลาไหนมาจัดการ ฉันว่าเรื่องนี้คนร้ายมันหาไม่ยากหรอก คนเราหรือทำอะไรมันมีหลักฐานมัดตัวอยู่แล้วล่ะ”“พูดอะไรของแกนังน้อย เรื่องเกิดขึ้นในไร่ แล้วเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเล็ก คงมีแต่คุณกันต์ที่ช่วยพวกเราได้” ป้าแก้วหันไปพูดกับป้าน้อย เพราะสำหรับเธอแล้วที่พอจะพึ่งพาได้ตอนนี้เธอมองเห็นแค่กลกันต์“เอาไว้ให้น้ำหวานหายดี เราค่อยคุยเรื่องนี้กันนะครับ” เพราะอยากคุยกับน้ำหวานและจัดการสถานะตนเองให้ชัดเจนก่อน เขาขอเวลาสักนิด“ไปแก้ว ไปส่งกูที่บ้านด้วย” ป้าน้อยบอกป้าแก้ว ก่อนหันมามองกลกันต์อีกครั้ง แล้วสะบัดหน้าหนีอะไรวะป้าน้อยทำยังกะงอนเขา“ไปอิน้อย เดี๋ยวกูไปส่ง”“งั้นป้าไปก่อนนะคะ คุณกันต์ ยังไงป้าฝากเรื่องนี้ด้วยครับ”“ครับ ผมสัญญาว่าจะจัดการให้แน่นอน”ป้าน้อยที่หลังจากสะบัดหน้าใส่กลกันต์หนึ่งหนก่อนเดินนำหน้าป้าแก้วออกประตูไป“งั้นป้าไปก่อนนะคะ คุณกันต์”“ครับ”“อะไรของมึงนังแก้ว อยู่ดีๆก็ทำท่างอนคุณกันต์ ผีวัยทองเข้าสิงหรือไง”“ฮึ คนเรามันก็รู้หน้าไม่รู้ใจไงมึง!”“อะไรของมึง”“ถึงบ้านกูค่อยเล่า”ป้าน้อยข่มเก็บควา
“เฮ้ยยยยยยยยยยย”ร่างสูงดีดตัวขึ้นด้วยความตกใจ รีบก้าวลงจากเตรียม พุ่งตัวไปกดสวิตช์ไฟที่อยู่บริเวณประตูห้องพรึบแสงไฟที่ส่องไสวเผยให้เห็นผู้หญิงร่างท้วมที่กำลังนอนหันหลังให้เขา ก่อนจะค่อยๆเริ่มขยับตัวเพราะได้รับการรบกวนจากเสียงของกลกันต์ และแสงไฟที่สาดส่อง“ป้าแก้ว!” กลกันต์พึมพำออกมาด้วยความตกใจทันทีที่ป้าแก้วหันพลิกตัวกลับมาทางฝั่งที่เขายืนอยู่“ป้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” เอ่ยถามเสียงไม่เบานัก“คุณกันต์เหรอคะ ป้าคงเผลอหลับไป” มือเหี่ยวยกขึ้นขยี้ตาเบาๆ ใช้เวลาปรับโฟกัสสายตาอยู่เกือบหนึ่งนาทีเผลอหลับอย่างงั้นเหรอ แล้วเมียเขาหายไปไหน“แล้วน้ำหวานไปไหนครับป้า”“หนูหวานเหรอคะ ตอนนี้กี่โมงแล้ว”ไม่รู้ว่าป้ากำลังกวนเขาอยู่ หรือยังไม่ตื่นเต็มที่กันแน่จึงตอบไม่ตรงกับคำถาม หรือเขาเองที่ถามไม่ตรงคำตอบ“จะสี่ทุ่มแล้วป้า”“ตายจริง ป้าเผลอหลับยาวเลย”“แล้วน้ำหวานไปไหนครับ ป้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” เมื่อเห็นว่าป้าแก้วเริ่มตื่นดีจึงถามย้ำอีกครั้ง“ใช่ ป้ามาที่นี่เพราะจะมาคุยกับคุณกันต์”“ผม” กลกันต์ขี้มือเข้าหาตัวเอง“ค่ะ และขอร้องให้ตอบความจริงถ้ายังมีความเคารพให้ป้าคนนี้อยู่ และคุณกันต์ต้องตอบป้าม
เช้าวันต่อมากลกันต์เดินทางมาถึงบ้านป้าน้อยในเวลาหกโมงตรง ตามที่แจ้งกับน้ำหวาน เมื่อเขาเดินเข้าไปพบว่าตอนนี้ภายในบ้านมีป้าน้อยและน้ำหวาน ทั้งสองกำลังทานอาหารเช้าอยู่ที่โต๊ะกลางบ้าน“คุณกันต์มาพอดีเลย มากินข้าวต้มกัน ป้าทำไว้เยอะ”ป้าน้อยเป็นฝ่ายที่เอ่ยขึ้นก่อน เช้านี้ป้าแก้วมาหาเธอตั้งแต่ไก่โห่และเล่าเรื่องราวเมื่อคืนให้เธอฟังแล้วก่อนออกไปเฝ้าหลานที่โรงพยาบาลในเมืองต่อ และตกลงกันว่าจะดูห่างๆ หวังว่าทั้งกลกันต์และน้ำหวานจะลงเอยกันด้วยดี คนแก่อย่างพวกเธอก็จะเอาใจช่วย ส่วนเรื่องหัวใจก็ให้ทั้งสองค่อยๆเรียนรู้กันไป กลายเป็นว่าตอนนี้จึงเหลือเพียงน้ำหวาน ป้าน้อย และกลกันต์ที่มาใหม่“ขอบคุณครับ” กลกันต์เดินไปนั่งลงตำแหน่ที่ว่างซึ่งอยู่ข้างน้ำหวาน“โอ๊ยตายจริง ป้าก็ลืมว่าคุณกันต์ไม่ชอบกินข้าวต้ม ป้ามีข้าวที่หุงไว้กับอาหารเมื่อวานเดี๋ยวป้าเข้าไปอุ่นให้ประเดี๋ยวเดียวค่ะ” ป้าน้อยว่าจบจึงลุกออกไป กลกันต์พยายามจะค้านแต่ก็ไม่ทันคนแก่ที่ยังคล่องแคล่วอย่างป้าน้อย“ป้าน้อย กับป้าแก้ว รู้เรื่องของเราแล้วนะคะ” น้ำหวานเอ่ยขึ้นเมื่ออยู่ตามลำพัง“รู้ก็รู้สิ ไม่ใช่ความลับสักหน่อย”“คุณกันต์ช่วยเก็บเป็นความลับ
ผ่านไปหลายวันน้ำหวานและกลกันต์ยังคงใช้ชีวิตด้วยกันราวกับเป็นคู่สามีภรรยาซึ่งรับรู้เพียงป้าแก้วและป้าน้อย เหตุผลเพราะน้ำหวานยังไม่พร้อมและเธออยากให้เรียนจนจบก่อนและวันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ทั้งสองต้องทำตัวให้เป็นดังเดิมเพราะพรุ่งนี้เป็นวันที่จะมีการเปิดพินัยกรรมของกลเกียรติโดยมีทนายเดชา แม่ของกลกันต์ ป้าสาผู้มีศักดิ์เป็นพี่สาวของกลเกียรติ น้าสร้อยผู้เป็นน้องสาวของกลเกียรติ น้ำหวาน รวมถึงป้าแก้วและป้าน้อยวันนี้จึงกลายเป็นวันรวมญาติเพราะไร่เกียรติอรุณอยู่ห่างจากตัวเมืองพอสมควร เหล่าญาติพี่น้องจึงรวมตัวก่อนหนึ่งวันซึ่งรวมถึงลูกหลานของผู้เป็นป้าและน้าของกลกันต์ ห้องที่จัดไว้ให้ทุกคนจึงอยู่ที่ชั้นสองและชั้นหนึ่ง มีเพียงแม่ของกลกันต์ที่เลือกจะนอนกับน้ำหวานที่ชั้นสาม“หนูหวานเหงาไหมลูก กลัวไหม อยู่บ้านกับพี่เขาสองคนแบบนี้ ตากันต์ยังชอบดุเราบ่อยๆอยู่หรือเปล่า” อรุณแม่ของกลกันต์เอ่ยขึ้นขณะที่กำลังจัดเก็บสัมภาระที่เตรียมมา“กะ ก็ ไม่ค่อยดุแล้วค่ะ”“จริงนะ ไม่ใช่ว่าเกรงใจที่ตากันต์อยู่ในห้องแล้วไม่กล้าบอกแม่”อรุณที่เห็นน้ำหวานมาตั้งแต่เล็ก ถึงแม้เธอจะไม่ได้สนิทสนมกับน้ำหวานนักแต่เธอรู้ว่าชีวิตน
เมื่อคืนหลังจากทานอาหารเย็นเสร็จกลกันต์และน้ำหวานไม่ได้คุยกันอีกเลย พอกินข้าวเสร็จกลกันต์ถูกดึงตัวไว้ด้านล่างโดยป้าสาและนิด ส่วนคนอื่นๆแยกย้ายกันไปนอน กว่ากลกันต์จะขอตัวแยกออกมาก็เป็นเวลาดึกเสียแล้วเขาจึงไม่อยากรบกวนน้ำหวาน ให้เธอได้พักผ่อน หากเข้าไปหากลางดึกหรือเรียกเธออกมากลางดึกอาจจะเป็นที่สงสัยได้เป็นครั้งแรกที่ได้กลับมานอนห้องตนเอง ตั้งแต่มีความสัมพันธ์กันเขาก็ย้ายตัวไปอยู่ห้องปีกซ้าย จะกลับมาห้องแค่ตอนที่เข้ามาแต่งตัวก่อนไปทำงาน คิดถึงกลิ่นหอมๆร่างนุ่มที่นอนกอดมาหลายคืน อยากนอนกอดเมียโว๊ยยยไม่ว่าจะขัดใจเพียงไรสิ่งที่ทำได้คืออดทน ข่มตาให้หลับ เมื่อน้ำหวานยังไม่พร้อมเขาจะกลับขัดใจเธอด้วยการเดินเขาไปบอกแม่ได้ยังไง ท่องเอาไว้ อีกไม่กี่วันก็ได้เมียคืน เช้ามืดวันต่อมาน้ำหวานที่ตื่นเช้าเป็นปกติมีป้าแก้วและป้าน้อยที่มาแต่เช้าจัดเตรียมอาหารสำหรับใส่บาตรในเช้านี้และสำหรับทุกคนรับประทาน พื้นที่ที่จะทำการใส่บาตรนั้นจะอยู่บริเวณด้านหน้าไร่ ดังนั้นเมื่อจัดเตรียมอาหารเสร็จจึงจัดอาหารเป็นชุดเตรียมไว้ให้น้ำหวาน“วันนี้หวานไปคนเดียวได้
กว่าคนเอาแต่ใจจะยอมหยุดฉลองการเป็นแฟนกันลงในเวลาเกือบเจ็ดโมงเช้า น้ำหวานก็แทบหมดแรง ทั้งสองจึงแต่งตัวเดินทางกลับไปบ้านพัก“อ้าวตากันต์ น้ำหวาน ไปไหนกันมาแต่เช้า” ป้าสาที่กำลังนั่งทานข้าวเช้าเอ่ยทัก เมื่อเห็นทั้งสองซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซด์กลับมาด้วยกัน“หวานไปใส่บาตรมาค่ะ”“ใส่บาตร นี่จนจะเจ็ดโมง”“พอดีผมเข้าไปในไร่ต่อครับ เลยกลับมาช้าหน่อย” กลกันต์ช่วยตอบเพราะรู้ดีว่าป้าตนนั้นเป็นคนชอบไล่บี้ขนาดไหน มีเพียงป้าแก้วและป้าน้อยที่มองตามกันอย่างสงสัยและพอจะรู้ว่าทั้งสองหายไปไหนมา“พี่กันต์มาทานข้าวกันค่ะ หวานด้วยนะ” นิดที่นั่งอยู่ข้างป้าสาเอ่ยขึ้นก่อนเจ้าตัวจะเดินเข้าหากลกันต์แล้วคล้องแขนให้เดินตามตนไป โดยที่กลกันต์ไม่ลืมที่จะเอื้อมมืออีกฝั่งฉุดน้ำหวานให้เดินตามนั่งข้างตนอีกทีจนกระทั่งวันเดียวกันเวลาตามที่ได้นัดหมายทนายเดชาเดินทางมาพร้อมเลขาคู่ใจอีกหนึ่งคนเพื่อทำเรื่องสำคัญตามหน้าที่“ตามที่ทราบนะครับวันนี้จะมีการเปิดพินัยกรรมของคุณกลเกียรติ เมื่อ
พลั๊ก ร่างสูงที่เดินตามเข้ามาจับแขนเรียวทั้งสองข้าง หมุนเมียรักให้หันหน้าเข้าหาเขา ดันร่างบางให้ถอยหลังด้วยความระวังจนแผ่นหลังเนียนแบบติดกำแพง ภายในห้องน้ำมีเพียงเทียนหอมให้ความสว่าง และกลิ่นอโรมาอบอวลให้ความผ่อนคลาย “พี่กันต์ขา หวานอยากสระผม” พร้อมกับมือเรียวขืนออกจากข้อมือใหญ่ จับตัวหนีผมบีบให้คลายออกจากเส้นผมยาวสวยจนเส้นผมค่อยๆตกลงปิดไหล่เนียน เชิดใบหน้าขึ้น สะบัดหน้าสองสามทีให้เส้นทิ้งตัวลง นิ้วชี้เรียวยกขึ้นเกี่ยวเอาเส้นผม ก่อนใช้นิ้ววนรอบ ปากบอกอยากสระผมแต่สายตาเมียรักที่ส่งมาน่าจะอยากอย่างอื่นมากกว่า จึงโน้มตัวลงเข้าไปสูดดมผมงามที่โดนนิ้วเรียวเกี่ยวเอาไว้ “ผมหอมขนาดนี้ พี่ว่าค่อยสระก็ได้” เอ่ยบอกคนตัวเล็ก แล้วงับนิ้วเธอเบาๆ ใบหน้าคมค่อยเคลื่อนลงดมกลิ่นหอมจากเมียรัก ไล้ไปตามไหปลาร้า ขบเข้าที่คอสวยจนเกิดรอย มือหนาสองข้างเคลื่อนเข้าไปกอบกุมยอดอกงามที่ใหญ่ขยายตัวขึ้นนับตั้งแต่มีลูก “อื้อ พี่กันต์อย่าทำรอยข้างนอกนะคะ” จบคำ มือใหญ่ปล่อยจากยอดปทุมที่กำลังกอบกุมเอาไว้ให้เป็นอิสระ ก้มลงใช้ปากหยักครอบงับเข้าไปแทนที่
และแน่นอนว่าลูกของเธอหนีไม่พ้นชื่อว่าน้องน้ำผึ้ง เป็นลูกสาวสมใจอยาก ที่กลกันต์ประคบประหงมอย่าดี โดยมีทั้งคุณตา คุณย่า และบรรดาคุณอาแวะเวียนมาช่วยเลี้ยง กลกันต์เป็นพ่อสมบูรณ์แบบไม่มีที่ติ และยังเป็นสามีที่ดี ไม่มีเรื่องผู้หญิงมากวนใจ เขาทำให้เธอโตขึ้นและมีเป้าหมายในชีวิตแบบที่ไม่เคยคิดมากก่อน ช่วงนี้เธอยังคงเข้าไปเรียนรู้งานในไร่ ส่วนต่างๆ และยังเป็นเลขาส่วนตัวให้กับกลกันต์ที่ไม่ว่าที่ไหนมีเขา ที่นั่นต้องมีเธอ หลังจากที่คลอดลูกคนแรกกลกันต์เป็นฝ่ายเอ่ยกับเธอว่ามีลูกคนเดียวก็พอ เพราะไม่อยากเห็นเธอเจ็บปวดแบบนั้นอีก ยอมรับว่านับตั้งแต่ตั้งท้องและมีลูก คำว่าส่วนตัว และคำว่าสบายไม่มีอยู่จริง แต่เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขไม่สามารถหาสิ่งอื่นมาทดแทนได้ ท้ายที่สุดจึงเลือกที่จะคุมกำเนิดไว้ก่อนเพื่อรอเวลาที่เหมาะสม และวันนี้ก็เป็นวันที่เธอคิดว่าพร้อมแล้วที่จะมีลูกอีกคน เมื่อตอนนี้น้องน้ำผึ้งมีอายุสิบแปดเดือน น้องน้ำผึ้งเดินได้แล้ว และสามารถทานอาหารเองได้บ้าง ถือเป็นพัฒนาการที่ดี นอกจากนี้แล้วช่วงนี้ลูกสาวของเธอเริ่มจดจำสิ่งต่างๆรอบตัว ทำให้ต้องระมัดระวังคำพูดและกา
“แกแน่ใจนะว่าครบแล้ว” เสียงของพลพลเอ่ยท้วงมาแต่ไกลเมื่อเห็นเพื่อนสาวที่ตอนนี้อายุครรภ์ 37 สัปดาห์เข้าไปแล้ว หน้าท้องที่เคยแบนราบเริ่มโตขึ้นมาเล็กน้อยเท่านั้น “ครบแล้วแก นี่ฉันตรวจเช็คมาสามรอบแล้ว ของพวกนี้พี่กันต์ก็ช่วยเตรียม” หันไปตอบเพื่อนที่ดูจะเห่อกว่าเธอเสียอีก พร้อมหันไปรับแก้วน้ำผึ้งมะนาวจากกลกันต์ที่ทำหน้าที่ดูแลเธอ ตั้งแต่ที่รู้ว่าตั้งครรภ์สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือน้ำผึ้งมะนาว ถ้าไม่ได้กินจะรู้สึกเหมือนขาดบางอย่างไป จนกลกันต์กลัวว่าเธอจะกินมากไปและขอให้ลดลงกินเพียงสัปดาห์ละสองครั้ง ซึ่งเธอก็เข้าใจความห่วงใยของสามีดี ที่บอกว่าเป็นสามีนั้นก็เพราะว่าเธอและกลกันต์ได้จดทะเบียนสมรสกันไปเมื่อเดือนก่อน ดังนั้นทรัพย์สินที่ถูกจัดแบ่งตามพินัยกรรมของคุณลุงเป็นอันสมบูรณ์ และเพราะคำขอของคุณย่าและคุณตาที่อยากให้เธอและกลกันต์เป็นสามีอย่างถูกต้องตามกฎหมายถึงได้จูงมือกันไปจดทะเบียน ส่วนงานแต่งคงต้องเอาไว้ก่อน เธอไม่ได้ให้ความสำคัญกับการจัดการมาก ถึงอย่างไรก็อยู่ด้วยกันแถมยังมีลูกอีกหนึ่ง เพียงแต่กลกันต์ที่อยากจัดงานให้ถูกต้อง โดยให้เหตุผลว่าอยากป่าวประกาศเรื่
สองร่างที่กำลังกอดพูดคุยให้กำลังใจผละออกจากกันเมื่อได้ยินเสียงดังอึกกระทึกครึกโครมดังมาจากอีกด้านซึ่งอยู่หลังเวที ในตอนนี้ผู้คนในงานต่างหันไปมองทิศทางของเสียง ก่อนที่สักพักจะได้ยินเสียงโห่ร้องตามมา เสียงเพลงบนเวลาถูกปิดลงจนรอบตัวมีแต่ความเงียบ นิคที่นั่งอยู่บริเวณหน้าเวทีหันไปมองด้วยความสนใจเมื่อเห็นผู้ที่เดินขึ้นมาไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นโก๋ ย่างก้าวขึ้นบนเวทีขณะที่มือข้างหนึ่งถือไมโครโฟนและมืออีกข้างกุมอยู่ที่ข้อมือของหญิงสาวที่เขาไม่เคยพบ เจ้าของร่างกำยำอาศัยพละกำลังที่มากกว่าใช้มือกุมข้อมือน้อยๆบังคับให้นิดที่พยายามขัดขืนเดินตามแรงของเขา ไม่ว่าจะทั้งข่วนทั้งขู่ก็ไม่มีทีท่าจะโก๋จะหยุด จนสุดท้ายการฉุดกระชากจึงจบลงที่กลางเวที นิดส่ายหน้าขอร้องให้เขาหยุดการกระทำแต่โก๋ไม่สนใจเมื่อสิ่งที่จะทำต่อจากนี้เขาคิดมาแล้ว “ขอโทษที่เข้ามาขัดจังหวะความสนุกทุกคนนะครับ” เสียงเข้มว่าออกไปโดยมีทุกคนสายตากำลังจับจ้องมาที่เขา ต่างรอลุ้นว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ ผู้จัดการศูนย์อาหารที่หายไปตั้งแต่หัวค่ำ ปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมกับนิดนักบัญชีสาวโสดของไร่
พลพลที่กำลังเดินเข้าไปในครัวไม่ลืมที่จะหันกลับมามองนิคเป็นระยะ เมื่อเห็นว่านิคน่าจะอยู่คนเดียวได้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรจึงเดินเข้าห้องครัวไปชีวิตใหม่ของนิคกำลังจะเริ่มขึ้น ในฐานะแฟนแม้ไม่ใช่ความรักชายหญิงเหมือนทั่วไป แต่เขามั่นใจว่าความรักที่มีเป็นรักแท้และไม่เคยคิดที่จะทอดทิ้งตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ครั้งนั้นเขาคิดเสมอขอให้นิคกลับมา และสัญญาว่าไม่จะเกิดอะไรขึ้นเขาจะยืนข้างนิคไม่ปล่อยมือพลพลหยุดยืนหน้าห้องครัวที่ส่งกลิ่นหอมลอยโชยออกมาตามลม เมื่อเห็นว่าประตูห้องเปิดอยู่จึงก้าวเข้าไปแต่ภาพที่เห็นทำให้ต้องชะงักเท้าเอาไว้ การมาของเขาจะเป็นก้างขวางคอคนแถวนี้หรือเปล่า เมื่อเห็นคู่รักทำอาหารหวานจนมดแทบจะขนกันลงหม้อแล้วรู้สึกยินดีกับเพื่อนที่ได้เจอรักดีๆ ที่พร้อมจะดูแล แม้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะดูรวดเร็ว เร็วกับการพัฒนาแต่เชื่อว่าทั้งคู่ปรับตัวเข้าหากันได้ ก็รู้จักกันมาทั้งชีวิตแล้ว และนึกขอบคุณกลกันต์ที่ให้โอกาสเขาและนิค ตลอดเวลาที่นิครักษาตัวเขาให้ความช่วยเหลืออย่างดี ทำทุกอย่างที่เขาสามารถทำได้โดยที่พลพลและนิคไม่เคยได้เอ่ยขอ สงสัยเขาและนิคคงจะต้องอยู่เลี้ยงลูกให้น้ำหวานจริงๆ“ทำแบบนี้กับข้าว
ฝ่ามือหนาของโก๋ยังคงจับยึดที่ข้อเท้าสวย บรรจงจูบซ้ำๆ พร้อมส่งสายตาอ้อนวอนให้หญิงสาวที่ยังคงส่งสายตาปั้นปึ่งให้ เขาเข้าใจดีกับสิ่งที่เธอต้องการ แต่ในมุมของเขาก็ต้องการเวลาเช่นกัน ไม่ใช่อยากเก็บเป็นความลับ แต่คนใกล้กันยิ่งมีคนรู้มากหากไม่ใช่แล้วต้องแยกจากกันไปเธอจะเสียหาย ตัวเขาเองก็ไม่เป็นไรหรอก ไม่สนใจคำพูดอยู่แล้ว จนวันนี้ที่ถูกเธอเมินความสนใจ รู้สึกใจจะขาด ไม่พอใจ เหมือนหัวใจถูกบีบ กลัวเธอยอมแพ้แล้วตัดใจจากเขา“จะปล่อยดีๆไหม” ไม่เพียงแต่สายตาเท่านั้นแต่น้ำเสียงที่ส่งมายังเต็มไปด้วยความโมโห“ไม่” ว่าพร้อมกระตุกเรียวขาสวยที่พยายามขืนออกจากการเกาะกุม“ได้ แล้วอย่ามาเสียใจละกัน” ว่าแล้วจึงชักเรียวขาหดเข้าหาลำตัวก่อนออกแรงเหยียดจนสุดหรือจะเรียกว่าถีบสุดกำลังใส่ร่างล่ำหนา หากแต่ผิดคาดเธอประเมินเขาต่ำไปแรงเท่ามดของเธอไม่สามารถทำอะไรกับผู้ชายถึกทึนแบบเขาได้ จึงตลบหลังเธอด้วยการจับยึดเรียวขาออกแรงพลิกร่างเล็กให้คว่ำลง“อร๊ายยย ทำบ้าอะไรเนี่ย”“พี่คิดว่าจะสู้ผมได้จริงเหรอ” ถามอย่างท้ายทาย ตัวเท่านี้จะเอาอะไรมาสู้เขา“ทำแบบนี้ทำไม”“ขี้เกียจอธิบายแล้ว” โก๋ว่าอย่างมึนๆ พร้อมโน้มตัวลงทาบทับร่างเ
วันนี้เป็นอีกวันที่ไร่กลเกียรติมีการรวมตัวเพื่อจัดงานต้อนรับการออกจากโรงพยาบาลของนิค และเป็นการเริ่มชีวิตใหม่ของหลายๆคน บรรยากาศเป็นไปตามสไตล์บ้านไร่เสียงเพลงเพราะๆกับบรรยากาศเย็นสบายในตอนเย็นทำให้นิคระบายยิ้มออกมาขณะรับแก้วเครื่องดื่มจากพลพล“ทุกคนน่ารักมากนะ” นิคหันไปพูดกับแฟนหนุ่มก่อนยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบ“นิคอยากไปเต้นสักเพลงไหม” พลพลถามพลางยื่นมือออกไปหาคนรัก ซึ่งเอาแต่ส่ายหน้า“ไม่ดีกว่า พี่เห็นทุกคนสนุกก็พลอยสนุกไปด้วยแล้ว พลเข้าไปช่วยน้ำหวานในครัวก่อนก็ได้นะ”“พลไม่อยากทิ้งพี่นิคไว้คนเดียว”“คนเดียวที่ไหน คนเต็มงานเลย เดี๋ยวมีอะไรพี่เรียกพลเอง ไปเถอะ แล้วตักของอร่อยๆมาให้พี่ด้วย” นิค พยักหน้าอีกครั้งเพื่อยืนยันคำพูด เขาอยู่คนเดียวได้จริงๆ ตอนนี้ทั้งงานเต็มไปด้วยผู้คนในไร่ที่มาร่วมงาน ขณะที่รออาหารจากในครัวมาเสิร์ฟ ขาแดนซ์จึงเริ่มออกลวดลาย“พี่โก๋ก็ไม่อยู่ ไม่รู้หายไปไหนของเขา พี่นิคกลับมาทั้งทีกลับหายตัว ไม่ห่วงเพื่อนเลยหรือไง” พลพลบ่นไปตามประสา เพราะวันนี้เป็นวันแรกที่เขาและนิคเข้ามาที่ไร่แห่งนี้ ด้วยคำขอของกลกันต์ที่อยากให้นิคพักฟื้นที่ไร่ ตั้งแต่ที่กลับเข้ามาที่ไร่เมื่อ
เป็นเวลาเกือบสองเดือนแล้วที่โก๋ย้ายมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไร่เกียรติอรุณแห่งนี้ จากช่วงแรกที่เข้ามาขอเริ่มงานในไร่ที่ต้องใช้แรงพละกำลังตามแบบถนัด จนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาเขาได้ขอกลกันต์ย้ายเข้ามาช่วยงานศูนย์อาหารด้านหน้า ให้เหตุผลว่าอยากดูแลแม่ของเขาซึ่งอยู่เฉยๆไม่ได้จึงต้องออกมาช่วยงานที่นี่อยู่เรื่อยไปกลกันต์นั้นแสนจะยินดี เพราะภาระงานอันมากมายที่ต้องรับผิดชอบและอยากแบ่งเบา โดยเฉพาะกับผู้มีพระคุณของครอบครัว ครั้นเขาจะเอ่ยปากแต่แรกก็เกรงว่าจะทำให้โก๋ลำบากใจ จนกระทั่งโก๋เข้ามาขอทำงานในร้านอาหารเขาจึงอนุมัติทันที ผ่านมาเกือบเดือนที่โก๋ย้ายมาดูแลร้านอาหาร ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายที่บุคลิกดูโผงผางแบบโก๋จะทำให้ลูกค้าติดหนึบจนยอดขายเพิ่มขึ้นมาก แถมยังมีสาวๆเข้ามาติดพัน สงสัยจะได้สละโสดก็คราวนี้“พี่กันต์คิดอะไรอยู่คะ” น้ำหวานที่เดินเข้ามาใกล้ตัวกลกันต์ที่ยืนเท้าแขนอยู่ระเบียงห้อง“ก็คิดว่าคืนนี้จะให้หวานช่วยพี่ยังไงดี ท่าไหนดี” กระซิบริมใบหูของน้ำหวานเบาๆท้ายประโยค และเธอเข้าใจดีกับคำว่าช่วยของเขาจนดวงหน้าเริ่มแดงซ่าน แม้จะแนบชิดกันมาหลายครั้ง แต่เธอยังคงไม่ชินและเขินอายเสมอเมื่อโดนเขากลั่นแกล
สามวันต่อมา วันนี้เป็นวันที่โก๋และแม่เดินทางเข้ามาที่ไร่เป็นวันแรก จากที่ควรจะมาตั้งแต่เมื่อวานแต่เพราะยังจัดการข้าวของจากบ้านเก่าไม่แล้วเสร็จการเดินทางจึงถูกเลื่อนออกไปหนึ่งวันรถเก๋งคันเก่าคู่ใจเคลื่อนที่เข้ามาในไร่ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์อยู่ตรงศีรษะอันร้อนระอุ ป้าน้อยทำหน้าที่ต้อนรับทั้งสองและพาเข้าไปแนะนำบ้านพักซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับหลังของป้าน้อยเนื่องจากวันนี้น้ำหวานต้องเดินทางเข้าไปยังมหาวิทยาลัยเพื่อทำการสอบในรายวิชาที่เหลือและตัดสินใจทำเรื่องพักการเรียนเอาไว้ก่อนด้วย กลกันต์ที่ไม่อยากให้น้ำหวานต้องอยู่ห่างตัวจึงตามเธอไปด้วยอีกคน ทำให้ต้องฝากป้าแก้วและป้าน้อยช่วยดูแลโก๋และคุณยายณีแม่ของเขาโก๋หยุดรถลงที่หน้าบ้านหลังสีขาวเป็นบ้านชั้นเดียว ดูร่มรื่นโอบล้อมไปด้วยทิวทิศน์ธรรมชาติเขียวขจี และด้านข้างยังมีบ้านอีกหลายหลังที่อยู่ใกล้เคียงกัน ด้วยอากาศที่ร้อนจัดโก๋จึงละสายตาจากความงามของบรรยากาศรอบตัว รีบเข้าไปช่วยพยุงแม่เข้าไปพักในตัวบ้านที่ทำความสะอาดไว้เป็นอย่างดีเดินทางการมาเหนื่อยป้าน้อยจึงปล่อยให้ทั้งสองได้นอนพักเอาแรง ทางด้านยายณีหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าในขณะที่โก๋ยังคงตื่นเต้นกับส