ฉี๋อีหยุนรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงการเต้นของหัวใจที่รุนแรงของตัวเอง หน้าอกของเธอกระเพื่อมอย่างรุนแรง และการหายใจของเธอหนักหน่วงขึ้นหานเหยียนยอมเป็นสุนัขของเขา นี่เป็นสิ่งที่ฉี๋อีหยุนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ เธอยังคงคิดว่าเขาล้อเล่นอยู่แต่สีหน้าของหานซานเฉียนไม่ได้แสดงออกว่าล้อเล่นเลยสักนิดฉี๋อีหยุนรู้ว่าหานซานเฉียนจะไม่แสดงออกด้วยการพูดแบบนี้อย่างไม่มีเหตุผล เขาไม่ใช่คนประเภทที่ชอบคุยโม้ ซึ่งนั่นหมายความว่าทุกสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริงแต่...แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร!หานซานเฉียนทำสำเร็จได้อย่างไรกัน?"แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องจริง คุณคิดว่าผมเป็นพวกชอบคุยโม้หรือไง?" หานซานเฉียนยิ้ม เขารู้ว่าข่าวนี้จะทำให้ฉี๋อีหยุนองตกใจขนาดไหน เพราะเธอรู้จักตระกูลหานอเมริกา และรู้ถึงความแข็งแกร่งของหานหลงเป็นอย่างดี ดังนั้นความตกใจของเธอจึงรุนแรงกว่าคนอื่น ๆ"คุณ คุณทำได้ยังไง แล้วหานหลงล่ะ? เขาไม่ได้จัดการคุณเหรอ?" ดวงตาของฉี๋อีหยุนเบิกกว้างเต็มไปด้วยความสงสัย รอให้หานซานเฉียนอธิบายให้เธอฟัง“หานหลงถูกผมชกตายด้วยหมัดเดียว” หานซานเชียนกล่าวการแสดงออกที่ประหลาดใจของฉี๋อีหยุนไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูด
“รับทราบครับ” ตงฮ้าวพยักหน้ารับคำ“จองตั๋วกลับอเมริกาด้วย รอนายจัดการซื้อที่นี่เรียบร้อยแล้ว เราจะกลับอเมริกากัน” ฉี๋อีหยุนพูดต่อ“สามใบใช่ไหมครับ?” ตงฮ้าวถาม ถึงเขาจะไม่อยากกลับอเมริกาพร้อมหานซานเฉียน แต่ปัญหาของตระกูลฉี๋ยังต้องพึ่งพาเขา ถึงตงฮ้าวจะไม่อยากยอมรับแต่ปฏิเสธไม่ได้“สองใบ”สองใบ!ความโกรธฉายวาบออกมาจากตัวตงฮ้าว คุณหนูทำเพื่อหานซานเฉียนตั้งมากมายขนาดนี้ แต่เขาไม่ยอมช่วยตระกูลฉี๋อย่างงั้นเหรอ?"คุณหนู หานซานเฉียนหลอกใช้คุณ คุณจะปล่อยเรื่องของตระกูลฉี๋ไปแบบนี้เหรอครับ? ถ้าเป็นแบบนั้น ผมจะไปฆ่าเขาเดี๋ยวนี้!" ตงฮ้าวพูดด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง"นายน่ะเหรอ?" ฉี๋อีหยุนมองไปที่ตงฮ้าวอย่างเฉยเมยและพูดว่า "เขาฆ่าหานหลงได้ แล้วนายมีสิทธิ์อะไรไปฆ่าเขา ตอนนี้ตระกูลหานเป็นเพียงสุนัขรับใช้เขาเท่านั้น และเขาไม่จำเป็นต้องออกหน้าก็สามารถจัดการปัญหาทั้งหมดของตระกูลฉี๋ได้”"อะไรนะครับ!" ตงฮ้าวเงยหน้าขึ้น และมองไปที่ฉี๋อีหยุนอย่างไม่อยากจะเชื่อหานซานเฉียนฆ่าหานหลง? เป็นไปได้อย่างไร หานหลงเป็นปรมาจารย์อันดับหนึ่งในเขตจีนของสหรัฐอเมริกา ตงฮ้าวเองก็เคยเห็นฝีมือของหานหลง มันทรงพลังมากจนตงฮ้า
หลังจากขึ้นรถ ซูหยิงเซี่ยเป็นคนขับ และเธอก็บังคับให้หานซานเฉียนปิดตาไว้ ซึ่งนั่นทำให้หานซานเฉียนสงสัยมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่ซูหยิงเซี่ยจะทำหลังจากผ่านเส้นทางถนนเรียบ รถก็เข้าสู่เส้นทางขรุขระ ที่บ่งชี้ว่าซูหยิงเซี่ยกำลังขับรถออกจากเขตเมืองขึ้นเรื่อย ๆ และเข้าไปอีกเขตเมืองหนึ่งใช้เวลาเดินทางทั้งหมดประมาณสองชั่วโมง ก่อนที่หานซานเฉียนจะรู้สึกว่ารถหยุดลง แต่เขาก็ยังไม่ได้รับคำสั่งให้ปลดผ้าปิดตาออกด้านหน้าของซูหยิงเซี่ยคือวิลล่าในสวนที่ดูอลังการเป็นพิเศษ นี่คือบ้านพักตากอากาศที่เฉินหลิงเหยา หาให้แน่นอนว่าสิ่งตรงหน้านี้แทบจะไม่เรียกว่าวิลล่าได้อีกต่อไป ซูหยิงเซี่ยพอใจกับสภาพแวดล้อมที่นี่มาก แม้ว่าจะมีผู้คนอาศัยอยู่รอบ ๆ แต่พื้นที่ของวิลล่าก็เพียงพอสำหรับทั้งสองคนที่จะทำอะไรก็ได้ตามต้องการโดยไม่มีใครได้ยินนอกจากนี้ในวิลล่ายังมีสระว่ายน้ำส่วนตัว ทำให้ทั้งสองสามารถว่ายน้ำกันได้ในช่วงปลายฤดูร้อน"มากับฉัน" ซูหยิงเซี่ยจับมือหานซานเฉียน แทบรอไม่ไหวที่จะเดินไปที่วิลล่าหานซานเฉียนยังคงมองไม่เห็นอะไรเลย แต่เขาพอจะเดาได้ว่าซูหยิงเซี่ยต้องการจะทำอะไรซูหยิงเซี่ยเดินนำหานซานเฉียนไปที่ด้านข้
สำหรับความลับของสร้อยคอนั้น หานซานเฉียนไม่ได้อธิบายอะไรมาก เป็นเวลานานมากแล้วที่ตี้สู่ไปที่เรือนจำตี้ซิน แต่อุปกรณ์สัญญาณไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ เลย ไม่ว่าเขาจะเสียชีวิตในเรือนจำตี้ซิน หรือว่าไม่มีช่องทางส่งสัญญาณ ล้วนแต่เป็นข่าวร้ายสำหรับหานซานเฉียนหากไม่มีตี้สู่ เขาจะไม่สามารถรู้สถานการณ์ในเรือนจำตี้ซินได้ แถมนั่นยังเป็นหนทางเดียที่จะตรวจสอบได้ว่าหานเทียนหยางอยู่ในเรือนจำตี้ซินไหรือไม่ในอดีตหานซานเฉียนไม่กล้าเสี่ยงชีวิตของเขา แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าเขามีความสามารถพอที่จะผ่านมันไปได้ ตราบใดที่เขาสามารถใช้พลังนี้ให้เกิดประโยชน์ แม้ว่าเรือนจำตี้ซินจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่หานซานเฉียนก็ยังมีโอกาสที่จะหลบหนีได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ"ของสิ่งนี้สำคัญมากสำหรับผม เพราะมันเกี่ยวข้องกับคุณปู่ของผม" หานซานเฉียนกล่าวนับตั้งแต่ที่ซูหยิงเซี่ยรู้จักตัวตนที่แท้จริงของหานซานเฉียน เธอก็รู้เรื่องตระกูลหานในเหยียนจิงไม่น้อย และยังรู้ว่าหานซานเฉียนได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมในตระกูลหานในเหยียนจิงอย่างไรบ้างแต่ปู่ของเขา หานเทียนหยาง ตายไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ?"นี่เป็นสมบัติที่คุณปู่ทิ้งไว้ให้คุณเหรอคะ?
ก่อนที่จะถามคำถามนี้ เหยียนจุนก็ได้เดาคำตอบไว้แล้ว เพราะเขาเฝ้าดูหานซานเฉียนเติบโต และเขาก็รู้จักหานซานเฉียนดีกว่าใครในตระกูลหานเสียอีก"คุณรู้จักเรือนจำตี้ซินแค่ด้านเดียว ที่นั่นเป็นสถานที่อันตรายที่คุณไม่สามารถจินตนาการได้ ถ้าไปที่นั่น โอกาสที่จะกลับมานั้นมีน้อยกว่าหนึ่งเปอร์เซ็นต์" เหยียนจุนพูดด้วยใบหน้าเคร่งขรึม"คุณปู่เหยียน ก่อนที่ผมจะฆ่าหานหลง คุณคิดว่าผมมีโอกาสเท่าไหร่?" หานซานเฉียนถามด้วยรอยยิ้ม"ไม่มีโอกาส" เหยียนจุนกล่าวหานซานเฉียนผายมือและพูดว่า "นั่นแสดงว่าหนึ่งเปอร์เซ็นต์ เป็นเรื่องที่ดีสำหรับผมแล้ว อย่างน้อยผมก็ยังมองเห็นโอกาส"ประโยคนี้ทำให้เหยียนจุนยิ้มอย่างขมขื่น หากเป็นคนอื่น ถ้าต้องเผชิญกับโอกาสเพียงเล็กน้อย พวกเขาอาจเลือกล่าถอย แต่หานซานเฉียนกลับมองว่าเป็นเรื่องที่ดี นี่คือจุดเริ่มต้นของความแตกต่าง ที่เขาสามารถมาได้ไกลขนาดนี้ก็เพราะนิสัยนี้และความแข็งแกร่งของตัวเขาเอง"แล้วเธอล่ะ? ถ้ากลับมาไม่ได้ คุณเคยคิดบ้างไหมว่าเธอจะเป็นอย่างไร" เหยียนจุนมองไปที่ซูหยิงเซี่ยที่ไม่รู้อะไรเลยในสวนผักแล้วพูดขึ้นนี่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดที่หานซานเฉียนเผชิญ แต่วันนี้เขาได้คิดแล
"หรือเราจะซื้อที่นี่ดี เมื่อมีเวลาก็มาพักผ่อนที่นี่กัน ดีไหม?" หานซานเฉียนเสนอ"ดีค่ะ แต่คุณแน่ใจเหรอว่าเจ้าของจะขายมันให้เรา?" ซูหยิงเซี่ยกล่าว"ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวผมให้ม่อหยางไปจัดการเรื่องนี้ เขาต้องมีวิธีแน่" หานซานเฉียนกล่าวเมื่อกลับมาที่หยุนเฉิง หลังจากผ่านไปครึ่งเดือน ในที่สุดทั้งสองก็กลับมาพักผ่อนที่บ้านในคืนนั้น เพราะเหอถิงและซูกั๋วเย่ายังคงอยู่ที่บ้าน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าส่งเสียงดังมากเกินไปวันรุ่งขึ้น หลังจากที่หานซานเฉียนส่งซูหยิงเซี่ยไปทำงานเรียบร้อยแล้ว เขาก็ไปที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ลั่วเฉวหานซานเฉียนไม่ได้สั่งให้จงเหลียงไล่มี่เฟยเอ๋อร์ออก แต่มี่เฟยเอ๋อร์ก็ชดใช้ไม่น้อยกับความผิดในการทำงานของเธอเมื่อมี่เฟยเอ๋อร์เห็นหานซานเฉียน ดวงตาของเธอก็ดูซับซ้อนอย่างมากนับตั้งแต่ที่เธอรู้จักตัวตนที่แท้จริงของหานซานเฉียน เธอก็รู้ว่าตัวเองนั้นโง่เง่ามากแค่ไหน เมื่อนึกถึงสิ่งที่เธอเคยดูถูกเขาเธอเคยเพ้อฝันว่าจะได้คบกับเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ลั่วเฉวนับครั้งไม่ถ้วน แต่เธอก็ดูถูกและเยาะเย้ยเจ้านายตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า พฤติกรรมโง่ ๆ แบบนี้ไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้อี
หลังจากที่หานซานเฉียนออกจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ลั่วเฉว จงเหลียงก็หายใจถี่และนั่งลงบนโต๊ะทำงานอยู่ในตระกูลหานมานานหลายปี จงเหลียงไม่เคยได้รับมอบหมายหน้าที่ที่สำคัญอะไร แต่เขารู้ว่าตอนนี้โอกาสอยู่ตรงหน้าเขาแล้วตระกูลหานในเหยียนจิง อนาคตจะต้องถูกควบคุมโดยนายน้อยหานซานเฉียนคนนี้แน่นอน และเขาได้รับมอบหมายหน้าที่ที่สำคัญจากหานซานเฉียน ก็เท่ากับเขาเป็นกระดูกสันหลังของตระกูลหาน สิ่งนี้ไม่เพียงนำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่อนาคตของเขาเท่านั้น แต่ตระกูลจงรุ่นต่อไปก็จะได้รับเกียรตินี้เช่นกันด้วยความสามารถของหานซานเฉียน ในอนาคตเขาจะสามารถพัฒนาตระกูลหานไปถึงระดับที่สูงขึ้นได้อย่างแน่นอนและตระกูลหานในอเมริกาอาจรวมอยู่ในกระเป๋าของหานซานเฉียนด้วย สิ่งเหล่านี้ถือเป็นข่าวดีสำหรับจงเหลียง“นายน้อย ขอบคุณที่ให้โอกาสผมนะครับ ผมจะคว้ามันไว้อย่างดีเลยครับ”ณ จัตุรัสเหรินหมินครั้งหนึ่งหานซานเฉียนเคยประสบความสำเร็จในการพลิกกลับที่นี่ซึ่งทำให้ผู้คนในหยุนเฉิงประหลาดใจ เจียงฟู่สั่งให้เขาคุกเข่าลง แต่ตอนนี้ตระกูลเจียงได้หายตัวไปจากหยุนเฉิงแล้ว หลายคนในหยุนเฉิงที่ปฏิบัติต่อหานซานเฉียนเหมือนขยะในอดีตก็เ
ในเวลานี้ ชิงอวิ๋นก็ล้มลงกับพื้น มีกองเลือดที่น่าตกใจจำนวนมากคนที่สัญจรไปมาต่างก็มองไปที่ชิงอวิ๋นด้วยความสยดสยอง"ลูกพี่ ผมขอเหลือมือไว้กินข้าวแค่ข้างเดียว" ชิงอวิ๋นกล่าวกับหานซานเฉียนด้วยสีหน้าเจ็บปวดหานซานเฉียนพยักหน้า หันหลังและจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ เขาไม่ได้คาดหวังว่าชิงอวิ๋นจะโหดเหี้ยมขนาดนี้ แต่เนื่องในเมื่อเขาทำถึงขนาดนี้ หานซานเฉียนก็ไม่จำเป็นที่จะต้องฆ่าเขาขยะที่เหลือมือเพียงข้างเดียวจะสามารถทำอะไรเขาได้กันล่ะ?ชิงอวิ๋นล้มลงในจัตุรัสเหรินหมิน มีคนใจดีเรียกรถพยาบาลให้เขา แต่หลังจากมาถึงโรงพยาบาล ชิงอวิ๋นก็รักษาเพียงแค่ห้ามเลือดเท่านั้น เขาไม่ได้ขอให้แพทย์ช่วยรักษาในเชิงลึก และเมื่อมีคนเข้าไปใกล้ ชิงอวิ๋นก็ดูเหมือนจะบ้าคลั่งขึ้นมา ซึ่งนั่นทำให้ทีมแพทย์งงงวยกันมากเขาอยากจะให้ตัวเองพิการเหรอ?คนอื่น ๆ ไม่สามารถเข้าใจสภาพจิตใจของชิงอวิ๋นได้ แต่เขารู้ว่าถ้าหากอาการบาดเจ็บพวกนี้หายดีเขาก็จะต้องตายทางรอดเดียวคือต้องนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิตแบบนี้คลับเมจิกซิตี้เมื่อหานซานเฉียนบอกม่อหยางและคนอื่น ๆ ว่าเขาจะไปเรือนจำตี้ซิน เขาพบกับการต่อต้านที่รุนแรง และไม่ใช่แค่ม่อหยางคนเดี
เมื่อเผชิญกับทัศนคติเช่นนี้ของเฟยหลิงเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไรขอทานตัวน้อยคนนี้จงใจปกปิดตัวตน การเก็บนางไว้จะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันนะ?แต่นางรู้ข่าวเกี่ยวของเจียงหยิงหยิงและรู้ตัวตนของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ด้วย ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่สามารถขับไล่นางไปได้แต่ถ้าอยากรู้ตัวตนของนาง นางก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าต้องเก็บนางเอาไว้ถึงจะรู้ได้ว่านางเป็นใคร“เจ้ามาหาข้าเพราะเหตุใด” หานซานเฉียนถาม และหลังจากถามคำถามนี้ เขาก็เตือนอีกว่า “ข้าจำเป็นต้องรู้ หากเจ้าไม่เต็มใจที่จะตอบข้าอย่างตรงไปตรงมา ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ด้วย”“ข้าคิดว่าท่านมีพลังมาก เหตุผลนี้เพียงพอหรือไม่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวนี่...หานซานเฉียนพูดไม่ออก และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคำถามของเขาไม่จำเป็นเลย และเขาก็ไม่สามารถได้รับคำตอบที่ลึกกว่านี้ได้แต่สิ่งหนึ่งที่หานซานเฉียนแน่ใจก็คือ เฟยหลิงเอ๋อร์ต้องซ่อนความลับบางอย่างไว้ สำหรับสิ่งที่นางต้องการนั้น บางทีอาจต้องรู้จักกันสักพักถึงจะสามารถรู้ได้“ท่านคงไม่คิดที่จะเก็บนางไว้จริง ๆ หรอกใช่หรือไม่?” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์มองหานซานเฉียนด้วยท่าทางเป็นกังวล นาง
“เจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าไม่คิดว่าเจ้าเป็นขอทาน” หานซานเฉียนถามเฟยหลิงเอ๋อร์อย่างตรงไปตรงมาเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ถ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใคร ก็เก็บข้าไว้ แล้วท่านจะได้รู้ในภายหลัง"หานซานเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งที่เด็กหญิงตัวน้อยพูดมันชัดเจนมาก นางยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ขอทาน แต่ถ้าหานซานเฉียนอยากรู้ เขาก็ต้องเก็บนางไว้ข้างกาย“นี่เป็นข้อตกลงอย่างนั้นหรือ?” หานซานเฉียนถามพลางขมวดคิ้วเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มและพยักหน้า“หากข้าไม่สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเจ้า ข้าก็ไล่เจ้าไปได้ใช่หรือไม่?” หานซานเฉียนกล่าวต่อราวกับว่านางไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะพูดแบบนั้น เฟยหลิงเอ๋อร์ย่นจมูกและดูครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้หานซานเฉียน“เราไม่อยากรู้เกี่ยวกับเจ้า รีบออกไปซะ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น“ไม่ ท่านต้องสงสัยเกี่ยวกับตัวข้าแน่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวหานซานเฉียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าสาวน้อยคนนี้จะผยองเช่นนี้ แต่เขาได้รับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์เอาไว้แล้วหนึ่งคน และตัวตนของนางก็พิเศษมากด้วย เขาจะยอมให้เฟยหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วยได้อย่างไร?หานซานเฉีย
เมื่อหานซานเฉียนกลับมาที่ลานบ้าน ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่บนบันไดศาลาลานด้วยความงุนงงราวกับว่านางเสียสติไปแล้ว“เป็นอะไรไป?” หานซานเฉียนเดินเข้ามาก่อนจะถามขึ้นไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ชี้ไปข้างหน้าและไม่พูดอะไรเมื่อมองไปทางนิ้วของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็พบแผ่นหลังของหญิงสาวผมหางม้า นางดูตัวเล็กมาก แต่เมื่อมองจากด้านหลังก็เดาได้ว่านางเป็นคนที่สวยงาม“นางเป็นใคร?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัยไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ได้สติ นางเงยหน้าขึ้นมองหานซานเฉียนแล้วพูดว่า “นางคือขอทานตัวน้อยคนนั้นไงเจ้าคะ”ขอทานตัวน้อย!หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้าและตะโกนเรียกขอทานตัวน้อย “หันกลับมาให้ข้าดูหน่อยสิ”ขอทานตัวน้อยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับมาอย่างเขินอาย ใบหน้าของนางแดงราวกับแอปเปิลประณีต ไร้ที่ติ นี่เป็นคำจำกัดความที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่หานซานเฉียนนึกถึงได้เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับตุ๊กตา ไม่เพียงแต่ผิวพันของนางจะเนียนสวยไร้ที่ติเท่านั้น แต่หน้าตาของนางก็ปราณีตมาก ในชีวิตของหานซานเฉียน ไม่มีใครเทียบความงามของฉี๋อีหยุนได้ แต่ด้วยการปรากฏตัวของขอทานตัวน้อยคนนี้ ดูเห
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฮวงเซียวหย่งก็รู้สึกเป็นกังวล ท่านอาจารย์มาหาเขาที่จวนของเจ้าเมืองเป็นครั้งแรก แต่ถูกขัดขวางโดยคนโง่เหล่านี้!“เจ้าพวกโง่ กล้าดียังไงมาขวางอาจารย์ของข้า!” ฮวงเซียวหย่งตะโกนยามดูเสียใจและพูดว่า “คุณชายฮวง พวกเราแค่กลัวว่าเขาจะโกหกน่ะขอรับ”ฮวงเซียวหย่งตบหัวยามคนนั้นแล้วพูดว่า “เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริง ๆ ใครจะกล้ามาแสร้งทำเป็นอาจารย์ของข้าที่จวนเจ้าเมืองอีก เว้นเสียแต่ต้องการตาย”เมื่อยามได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันสมเหตุสมผลฮวงเซียวหย่งคือใคร เขาเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองเชียวนะ!จะมีใครกล้ามาแกล้งทำเป็นอาจารย์ของเขาได้อย่างไร?ซึ่งหมายความว่าชายหนุ่มที่อยู่นอกประตูนั้นเป็นปรมาจารย์สามอันดับหลังจริง ๆ ทันใดนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลลงมาที่หลังของยาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับหานซานเฉียนไปเมื่อครู่ เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ผ่านประตูนรกไปแล้ว!ถ้าหานซานเฉียนมีนิสัยดุร้าย เกรงว่าพวกเขาคงตายไปนานแล้วฮวงเซียวหย่งวิ่งไปจนสุดทางของจวนเจ้าเมือง ไม่กล้าแม้แต่จะพักหายใจ เมื่อเขาเห็นหานซานเฉียนถูกพวกโง่เขลาขวางไว้ เขาก็โกรธมาก“พวกเจ้ากำลังทำอะไร กล้าดียังไงมา
“เจ้ากำลังทำอะไร รู้หรือไม่ว่านี่คือที่ไหน นี่คือจวนของเจ้าเมือง เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้!”จวนของเจ้าเมืองหานซานเฉียนถูกยามขวางเอาไว้ยามในชุดเกราะหลายคนดูมีพลังราวกับสายรุ้ง โดยมีออร่าที่แม้แต่ราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้หานซานเฉียนรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้มาก และทันใดนั้นเขาก็อดหัวเราะไม่ได้นี่มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูของคลับระดับไฮเอนด์ หรือโรงแรมบนโลกปัจจุบันที่พยายามขวางเขาไม่ให้เข้าประตูเลยไม่ใช่เหรอเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าหานซานเฉียนเคยพบกับสิ่งต่าง ๆ มากมายบนโลกมาก่อนแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเขาในโลกเชวียนหยวนด้วย ดูเหมือนว่าธรรมชาติของมนุษย์จะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าโลกไหน ๆ ก็มักจะมีคนที่ดูถูกคนอื่นอยู่เสมอ“ข้ามาหาฮวงเซียวหย่ง ไปบอกเขา แล้วเขาจะมาพบข้าเอง” หานซานเฉียนกล่าวพวกยามดูไม่พอใจ ตอนนี้ฮวงเซียวหย่งคือความภาคภูมิใจของจวนเจ้าเมือง ฮวงเซียวหย่งมีความแข็งแกร่งระดับโคมห้า แม้แต่ยามเหล่านี้ก็ดูเหมือนด้พึ่งบารมีของเขาไปด้วยเมื่อเอ่ยถึงและผู้ชายที่อยู่ข้างหน้ากลับพูดอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการพบฮวงเซียวหย
ตระกูลเฉินเคยรุ่งโรจน์อย่างยิ่งในเมืองหลงหยุน และเฉินเถี่ยซินซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากจุดจบเช่นนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาเอง แต่ก็ยังทำให้หลายคนถอนหายใจด้วยความเสียดาย“แค่มีเงินก็เปล่าประโยชน์ โลกเชวียนหยวนความแข็งแกร่งคือการรับประกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”“เฉินเถี่ยซิน โอ้อวดมากเกินไป ถึงกับบอกว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ราชสำนักได้อย่างแน่นอน แต่กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดตั้งแต่ยังเยาว์วัย”“เขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อตามหาอาจารย์ แต่อาจารย์ที่แท้จริงก็อยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับทำลายโอกาสนี้เสียเอง ไม่มีที่สำหรับความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ”“ใครจะคิดว่าคนไร้ค่าที่ถูกตระกูลเฉินขับไล่ออกไปจะเป็นคนที่มีอำนาจได้ขนาดนี้ ฮวงเซียวหย่งเลื่อนขึ้นสู่ระดับโคมห้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องอยู่ในสามลำดับหลังอย่างแน่นอน”ประโยคนี้ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ คน ไม่มีใครคาดคิดถึงความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนจริง ๆ เพราะการแสดงของเขาในตระกูลเฉินนั้นดูไร้ค่าโดยไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ เลยแต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้
ในการรับรู้ของทุกคน หานซานเฉียนเป็นคนไร้ค่าที่ถูกไล่ออกจากตระกูลเฉิน ตอนนั้นเขาถูกคนนับไม่ถ้วนหัวเราะเยาะแต่ตอนนี้ จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนไป และกลายเป็นอาจารย์ของฮวงเซียวหย่ง!ความสามารถในการทำให้ฮวงเซียวหย่งเลื่อนจากระดับโคมสองทะลวงไปสู่ระดับโคมห้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ปรมาจารย์คนนี้จะต้องทรงพลังมากเพียงใดแล้วชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะกลายเป็นคนไร้ค่าในตระกูลเฉินได้อย่างไร?“คุณ...คุณชายฮวง ล้อเล่นหรือไม่?”“หานซานเฉียน คุณชายกำลังพูดถึงหานซานเฉียนที่เรารู้จักหรือเปล่าขอรับ”“ถ้าเขาเป็นคนที่ทรงพลัง เหตุใด...เขาถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่ออกไปล่ะขอรับ?”ทุกคนถามฮวงเซียวหย่งด้วยความไม่เชื่อ เพราะเรื่องนี้อยู่นอกเหนือขอบเขตที่คนธรรมดาจะเข้าใจได้โดยสิ้นเชิงเขาเป็นคนทรงพลัง แต่ถูกเฉินเถี่ยซินที่อยู่เพียงระดับโคมสองรังแก มันช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย“พวกเจ้าได้ยินไม่ผิด และข้าก็ไม่ได้ล้อเล่น อาจารย์ของข้าคือหานซานเฉียนจริง ๆ สำหรับสาเหตุที่เขาอยู่ในตระกูลเฉิน และเหตุใดถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่นั้น เป็นเพราะว่าอาจารย์ของข้าขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงด้วย” ฮวงเซียวหย่งกล่าวเมื่อเห็นว่าทุกคนยังค
หานซานเฉียนยิ้มและไม่พูดอะไร ทำไมเขาต้องจำเฉินเหยียนหรันด้วยล่ะ? ผู้หญิงคนนี้ไม่คู่ควรที่จะมาครอบครองพื้นที่ใดในใจของเขาเลย“ไม่กล้าตอบข้ามาตรง ๆ ท่านกลัวงั้นหรือ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ถามอย่างไม่เต็มใจ“อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่เจ้า ข้าก็จะลืมไปในไม่ช้า คำตอบนี้พอใจแล้วหรือไม่” หานซานเฉียนหัวเราะเบา ๆจู่ ๆ ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ก็โกรธ นางถามเกี่ยวกับความคิดของหานซานเฉียนที่มีต่อเฉินเหยียนหรัน แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับนาง แถมยังพูดจาทำร้ายจิตใจคนฟังเช่นนี้อีก“ข้าจะทำให้มันเป็นที่น่าจดจำสำหรับท่านอย่างแน่นอน และทำให้ท่านไม่มีวันลืมข้าไปตลอดชีวิต” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์พูดผ่านไรฟันหานซานเฉียนขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ จึงกลับไปที่ห้องของเขาตอนนี้ราชสำนักตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเขา และแม้แต่จักรพรรดิซุนก็ยังต้องการเอาใจเขา ในสายตาของคนอื่น ๆ นี่เป็นสิ่งที่ดี แต่หานซานเฉียนคิดว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังพัฒนาเร็วเกินไป และกำลังจะอยู่เหนือการควบคุมของเขา ราชสำนักเป็นหนึ่งในสามแกนหลักของโลกเชวียนหยวน หานซานเฉียนยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับ โลกเชวียนหยวนมากนัก การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระด
“ท่านเป็นอะไรไป?”"เกิดอะไรขึ้น!"การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของโหยวไห่ทำให้ปี่ยางและฝูซานสับสน เพราะพวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย“ข้า...ข้าไม่รู้” เหงื่อเย็นหยดลงมาราวกับหยดลงมาราวกับเม็ดฝนบนหน้าผากของโหยวไห่ แรงกดเมื่อครู่นี้แทบจะทำให้เขาระเบิดตาย“เมื่อครู่...เมื่อครู่ ข้ารู้สึกถึงแรงกดอย่างรุนแรงจนเกือบจะบดขยี้ข้าได้” โหยวไห่อธิบายให้ทั้งสองคนฟังหลังจากสูดลมหายใจเข้าแรงกด?ทันใดนั้นสีหน้างุนงงของปี่ยางก็แปลเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก ก่อนจะพูดกับทั้งสองคน “รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า”เมื่อเผชิญกับความตื่นตระหนกของปี่ยาง แม้ว่าฝูซานและโหยวไห่จะสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยู่ที่นี่นานลานบ้านของหานซานเฉียนเฉินเถี่ยซินยังคงตัวสั่นเทาคุกเข่าอยู่บนพื้นเขาไม่เคยคิดฝันว่าแผนการที่สมบูรณ์แบบของเขาจะจบลงเช่นนี้แม้ว่าศพจะถูกพบแล้ว แต่ปี่ยางก็ยังไม่ตัดสินโทษ แถมยังเป็นความเห็นชอบจากจักรพรรดิซุนอีกด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าหานซานเฉียนจะยังไม่ได้ไปที่ราชสำนัก แต่เขาก็ได้รับความสนใจจากจักรพรรดิซุนเป็นอย่างมากแล้วและเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปต่อกรกับบุคคลดังกล่าวตอนนี้เมื่อเขาทำให้หานซานเฉ