ในจานนี้มียาพิษร้ายแรง เมื่อกินเข้าไป แม้แต่เทพเจ้าลงมายังโลกก็ช่วยอะไรไม่ได้“อะไรกัน พ่อแค่ขอให้ลูกช่วยชิมอาหารแค่นั้นเอง เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ทำให้พ่อไม่ได้หรือไง?” หานลี่พูดสีหน้าของหานเหยียนดูแทบไม่ได้ เธอพูดว่า "พ่อคะ วันนี้หนูรู้สึกไม่ค่อยสบาย เหมือนจะเป็นลำไส้อักเสบเลยกินอะไรไม่ค่อยได้ค่ะ""อ่อ อย่างงั้นเองเหรอ" หานลี่ยิ้ม และในขณะที่หานเหยียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก หานหลงก็คว้าบริกรของโรงแรมเข้ามา“ลองชิมให้ฉันหน่อยสิ” หานลี่พูดกับบริกรด้วยรอยยิ้มแม้ว่าบริกรจะรู้สึกงงงวย แต่เขาจะกล้าปฏิเสธคำขอของคนใหญ่คนโตเช่นนี้ได้อย่างไรขณะที่บริกรหยิบชามและตะเกียบขึ้นมา หานเหยียนก็ลุกลี้ลุกลนรีบพูดขึ้นมาว่า "เอาจานไปเททิ้ง ให้พ่อครัวออกมาดูว่าเขาทำอาหารอะไร ทำไมกลิ่นเหม็นขนาดนี้ เขาไม่รู้หรือไงว่านี่เป็นอาหารจานโปรดของพ่อฉัน ทำไมถึงได้ทำออกมาชุ่ย ๆ แบบนี้”บริกรหดหัวด้วยความตกใจ เขาเคยเห็นผู้หญิงคนนี้ระเบิดอารมณ์รุนแรงหลายครั้งแล้ว แถมเธอยังตีคนที่กล้าขัดคำสั่งของเธอด้วย ในขณะที่เขากำลังจะวางชามและตะเกียบ และไปตามหาพ่อครัว หานลี่ก็พูดว่า "อย่าไปฟังเธอ ฉันบอกให้กิน นายก็กิน""พ่อ
ไม่ว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับหานซานเฉียนหรือไม่ แต่หานลี่รู้ดีว่าหากมีตี้หยางคอยคุ้มกัน หานเหยียนก็ไม่มีทางถูกหานซานเฉียนข่มขู่ได้ความจริงคือเธอฆ่าหานเฟิงเพื่อตำแหน่งผู้นำตระกูล ไม่ว่าเธอจะโต้แย้งอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์"ตำแหน่งผู้นำตระกูลมันสำคัญกับแกมากขนาดนั้นเลยเหรอ? เขาคือครอบครัวที่เติบโตมากับแกนะ" หานลี่พูดด้วยสีหน้าเศร้าใจ หานเฟิงเสียชีวิต สิ่งที่เขาสูญเสียไปไม่ใช่แค่ลูกชาย แต่ยังรวมถึงลูกสาวด้วย เพราะหลังจากเหตุการณ์นี้ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะตามใจหานเหยียนในฐานะลูกสาวได้อีก และตระกูลหานในอเมริกาก็ไม่สามารถยอมรับเธอได้อีกต่อไปผมของหานเหยียนถูกกระชากอย่างเจ็บปวด เธออยากจะขอร้องอ้อนวอนให้หานลี่ให้อภัย แต่เธอรู้ดีว่าหานลี่ไม่มีทางยกโทษให้เธอแน่นอนในเมื่อถ่อมตัวไปก็เปล่าประโยชน์ แล้วทำไมจะต้องอ้อนวอนให้เสียเวลาด้วย!"หนูทุ่มเทไปตั้งมากมาย เขามีสิทธิ์อะไร แค่พูดคำเดียวพวกคุณก็ยกตระกูลหานให้กับเขา พ่อเคยคิดถึงความรู้สึกของหนูบ้างไหม?" หานเหยียนตะโกนใส่หานลี่อย่างบ้าคลั่ง"คุณค่าของแกอยู่ที่การช่วยให้ตระกูลหานเอาชนะกองกำลังท้องถิ่นที่แข็งแกร่งกว่าในอเมริกา ด้วยวิธีนี้ ตระ
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซูไห่เฉาติดต่อเธอ แถมยังแสดงท่าทางประจบประแจง และบอกว่าอยากร่วมมือกับเธอ นั่นทำให้ซูหยิงเซี่ยรู้สึกแปลกใจมากความบาดหมางระหว่างซูไห่เฉากับเธอมีมาตั้งแต่หลายปี จู่ ๆ ซูไห่เฉาจะแสดงความปรารถนาดีต่อเธอได้อย่างไร? ดังนั้นจากมุมมองของซูหยิงเซี่ย ที่ผู้ชายคนนี้เข้าหาเธอจะต้องมีจุดประสงค์บางอย่างแน่นอน"หยิงเซี่ย เธอพิจารณาดูหรือยัง หากบริษัทของเราร่วมมือกันจะต้องเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งแน่นอน และเรายังสามารถเปิดโลกใหม่ในหยุนเฉิงได้อีกด้วยนะ" ซูไห่เฉากล่าว“ซูไห่เฉานายต้องการอะไรกันแน่?” ซูหยิงเซี่ยถามอย่างช่วยไม่ได้ ในสิ่งที่ซูไห่เฉาพูดเธอไม่เชื่อแม้แต่คำเดียว"ฉันต้องการร่วมมือกับเธอจริง ๆ ฉันไม่ได้พยายามวางแผนต่อต้านเธอนะ ถ้าเธอไม่เชื่อ ฉันยินดีที่จะแสดงความจริงใจโดยการมอบหุ้นของบริษัทฉันให้เธอ 50% เลย” ซูไห่เฉากล่าว จะให้หุ้น 50% ฟรี ๆ อย่างนั้นเหรอ?สิ่งที่ได้มาโดยไม่ต้องออกแรงแบบนี้ ซูหยิงเซี่ยยิ่งไม่เชื่อเข้าไปใหญ่ “ฉันแค่ต้องการพัฒนาตระกูลซูให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อที่คุณย่าจะได้มีความสุขอยู่บนท้องฟ้า ไม่ได้มีความหมายอื่นแอบแฝงอย่างแน
ณ บ้านเช่าของหานซานเฉียนเมื่อฉี๋อีหยุนพบว่าหลังจากที่หานซานเฉียนวางสายโทรศัพท์ สีหน้าของเขาก็จริงจัง และมีแววตาที่โกรธจัด เธอก็รู้ได้ทันทีว่าฝั่งของหานเหยีนจะต้องเกิดเรื่องนอกเหนือความคาดหมายขึ้นอย่างแน่นอน เพราะตอนนี้มีเพียงเรื่องนี้เท่านั้นที่ทำให้หานซานเฉียนเคร่งเครียด “หานเหยียนทำไม่สำเร็จเหรอ?” ฉี๋อีหยุนถามหานซานเฉียนยืนขึ้น หายใจเข้าลึกและพูดว่า "หานลี่อยู่ที่คฤหาสน์ใจกลางภูเขา"เมื่อได้ยินแบบนั้น ฉี๋อีหยุนก็ลุกขึ้นด้วยความตื่นตระหนกและพูดว่า "เขาทำอะไรหยิงเซี่ย!"แม้ว่าฉี๋อีหยุนจะชอบหานซานเฉียน แต่สิ่งนี้ไม่ได้ขัดขวางความสัมพันธ์เพื่อนรักระหว่างเธอกับซูหยิงเซี่ย แม้ว่าเธอเคยคิดที่จะยอมเสียความสัมพันธ์นี้เพื่อหานซานเฉียน แต่เมื่อซูหยิงเซี่ยตกอยู่ในอันตราย เธอก็ไม่เคยมีความคิดที่จะฉวยโอกาสเอาเปรียบเลยหานซานเฉียนส่ายหัวและพูดว่า "ผมก็ไม่รู้ แต่เขาบอกให้ผมไปที่นั่นเดี๋ยวนี้""ฉันจะไปกับคุณ" หลังจากที่ฉี๋อีหยุนพูดจบ เธอก็กลับไปที่ห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า"ไม่ต้อง คุณอยู่ที่บ้านนี่แหละ" หานซานเฉียนพูดเสียงทุ้ม เขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างหากไปที่นั่น ถ้าเขาไม่สามารถมีลมห
ปาฏิหาริย์อย่างนั้นเหรอ?เทียนหงฮุยยิ้มอย่างขมขื่น โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นมันริบหรี่มาก"ในหยุนเฉิงไม่มีพื้นที่สำหรับตระกูลเทียนอีกต่อไปแล้ว ดูเหมือนว่าจะถึงเวลาที่ต้องออกไปจากที่นี่จริง ๆ ซะแล้ว" พลังของเทียนหงฮุยส่วนใหญ่นั้นน้อยลงไปมาก แม้ว่าตระกูลเทียนจะยังมีโอกาสพัฒนาหลังจากออกไปจากหยุนเฉิงก็จริง แต่ที่นี่เป็นบ้านเกิดของเขา เทียนหงฮุยยังคงรับไม่ได้กับการที่ต้องจากไปอย่างกะทันหันแบบนี้“รออีกหน่อย” เทียนฉางเฉิงกล่าวเทียนหงฮุยมองเทียนฉางเฉิงด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจและถามว่า "คุณพ่อยังเชื่อในตัวหานซานเฉียนอยู่อีกเหรอครับ? มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีปาฏิหาริย์"“หนูเชื่อเขาค่ะ” ตอนนั้นเองเสียงของเทียนหลิงเอ๋อร์ดังมาจากบันไดเมื่อเทียนหลิงเอ๋อร์เดินไปข้างหน้าทั้งสองคนด้วยสีหน้าแน่วแน่ เทียนหงฮุยก็พูดว่า "ทำไมลูกยังไม่ไปนอนอีก"เทียนหลิงเอ๋อร์เพิกเฉยต่อคำถามของเทียนหงฮุยและพูดว่า "หนูเชื่อในตัวพี่ชายของหนู เขาจะต้องอาชนะหานลี่ได้อย่างแน่นอนค่ะ"เทียนหงฮุยยิ้มเบา ๆ เมื่อก่อนเขาคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่เทียนหลิงเอ๋อร์เรียกหานซานเฉียนว่าพี่ชาย เพราะหานซานเฉียนสามารถนำผลประโย
ณ คฤหาสใจกลางภูเขาเมื่อหานซานเฉียนปรากฏตัว สิ่งแรกที่หานลี่สั่งให้เขาทำคือคุกเข่าลง"ในโลกนี้ นอกจากคุณปู่และอาจารย์ของผมแล้ว ไม่มีใครมีคุณสมบัติพอที่จะทำให้ผมคุกเข่าลงได้" หานซานเฉียนมองหานลี่อย่างไม่ถ่อมตัวและไม่แข็งกร้าว เขารู้ว่าหานลี่จงใจเหยียดหยามเขา แต่การเหยียดหยามเช่นนี้ หานซานเฉียนไม่ยอมรับหานลี่ยิ้มเบา ๆ และพูดว่า "ทำไมต้องทำเป็นแข็งแกร่งขนาดนั้น? นี่ไม่ใช่ข้อสอบที่มีตัวเลือก ในเมื่อฉันสั่งให้ทำ ก็ต้องทำเขา"พอหานลี่พูดจบ หานหลงก็เดินไปหาซูหยิงเซี่ยทันที เขาบีบคอซูหยิงเซี่ยด้วยมือข้างเดียว ก่อนจะยกเธอขึ้นไปในอากาศเมื่อเห็นฉากนี้ หานซานเฉียนก็กำหมัดแน่นทันที“นายมีเวลาคิดสามสิบวินาที และนี่จะเป็นสามสิบวินาทีที่ยาวนานที่สุดในชีวิตของนาย” หานลี่กล่าวซูหยิงเซี่ยจับมือหานหลงด้วยมือทั้งสองข้าง และพยายามดิ้นรน แต่เธอไม่มองไปที่หานซานเฉียนเพื่อขอความช่วยเหลือ แววตาที่ไม่กลัวตายของเธอแสดงให้เห็นว่าเธอไม่ต้องการให้หานซานเฉียนคุกเข่าลงเพื่อเธอ"ปล่อยเธอ" หานซานเชียนกัดฟันและพูดว่า "คุณยังเป็นผู้ชายอยู่ไหม ทำไมถึงกล้าทำร้ายผู้หญิง"“เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ทำไมต้องสนใจวิธีการ
"แกรู้ไหมว่าไอ้พวกขยะอย่างพวกแก การมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าการทำให้คำว่าหานเสื่อมเสีย แกควรจะตายไปคนเดียว ไม่ใช่มาเอาชีวิตลูกชายของฉันแบบนี้" หานลี่ยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห เขาเดินไปข้างหน้าหานซานเฉียนและคว้าคอเสื้อเขาขึ้นมา พลางก้มลงพูดว่า "ทำไมแกถึงไม่รู้จักยอมรับความห่วยของตัวเอง ทำไมต้องทำให้ลูกชายของฉันซวยไปด้วย"หานซานเฉียนยิ้มอย่างดูถูกกับการกล่าวหานี้ และพูดว่า "หานลี่ คนที่ฆ่าหานเฟิงคือคุณ และผมก็ไม่ได้ห่วย"“คนใกล้ชิดฉันที่สุดตายไปแล้ว แกรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันต้องเจ็บปวดแค่ไหน!” หานลี่คำรามหานซานเฉียนมองตรงไปที่หานลี่และพูดว่า "เมื่อคิดว่าลูกชายต้องมาตายเพราะตัวเอง คุณคงจะเจ็บปวดไม่น้อยเลยสินะ"ทันใดนั้น หานลี่ก็เงยหน้าขึ้นหัวเราะและพูดว่า "อีกเดี๋ยวแกก็จะเข้าใจความเจ็บปวดของฉันเอง ฉันจะทำให้ซูหยิงเซี่ยตายต่อหน้าต่อตาแก ฉันจะค่อย ๆ ทรมานเธอจนตาย แกจะได้เห็นฉากทั้งหมดนี้แต่ไม่สามารถทำอะไรได้”"หานหลง ฉันไม่เห็นวิธีการฆ่าของนายมานานแล้ว ฉันอยากจะดูว่าคน ๆ หนึ่งจะมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหนถ้ากระดูกหัก" หานลี่พูดกับหานหลง"ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าเสียงกระดูกหักของผู้หญิงมันจ
ไพ่ตายและความหวังของหานซานเฉียนคือพลังที่อยู่ในร่างกายของเขา เขาเชื่อว่าขอแค่เขาได้รับโอกาส แม้แต่หานหลงก็ไม่สามารถต้านทานได้แต่มันยากที่จะหาโอกาสนั้นกับคนอย่างหานหลงหลังจากการโจมตี หานซานเฉียนก็ล้มลงกระแทกกับพื้นไม่ขยับเขยื้อน เขาไม่ต้องการเสียแรงใด ๆ เนื่องจากนี่เป็นโอกาสเดียว เขาต้องการโจมตีหานหลงให้ถึงตาย“แค่หมัดเดียว แกก็ล้มลงกับพื้นลุกไม่ขึ้นซะแล้วเหรอ?” หานหลงเดินไปข้างหน้าหานซานเฉียนด้วยสีหน้าเหยียดหยาม“แกกำลังจั๊กจี้ฉันรึไง” หานซานเฉียนกัดฟันและยืนขึ้นอย่างไม่มั่นคงทันทีที่เขายืนอย่างมั่นคง หานหลงก็เตะออกไปอีกครั้งตำแหน่งเดิม แรงเท่าเดิม และตอนจบก็เหมือนเดิม หานซานเฉียนบินออกไปอีกครั้ง คราวนี้กระแทกกำแพงอย่างแรง ทำให้เกิดภาพลวงตาว่าทั้งคฤหาสน์กำลังสั่นเมื่อเห็นฉากนี้ ซูหยิงเซี่ยที่กำลังร้องไห้ก็เดินเข้าไปหาหานลี่และคุกเข่าลงบนพื้น "ได้โปรดปล่อยเราไปเถอะ อย่าทำร้ายเขาอีกเลยนะคะ"หานลี่ยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า "ขยะแบบนี้มีค่าให้เธอสงสารหรือไง?"ซูหยิงเซี่ยส่ายหัวน้ำตาไหลพรากและพูดว่า "เขาไม่ใช่ขยะ เขาเป็นสามีของฉัน ได้โปรด ถ้าคุณต้องการฆ่าฉัน ก็ฆ่าฉันเลยตอนนี้ ขอแค่
เมื่อเผชิญกับทัศนคติเช่นนี้ของเฟยหลิงเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไรขอทานตัวน้อยคนนี้จงใจปกปิดตัวตน การเก็บนางไว้จะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันนะ?แต่นางรู้ข่าวเกี่ยวของเจียงหยิงหยิงและรู้ตัวตนของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ด้วย ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่สามารถขับไล่นางไปได้แต่ถ้าอยากรู้ตัวตนของนาง นางก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าต้องเก็บนางเอาไว้ถึงจะรู้ได้ว่านางเป็นใคร“เจ้ามาหาข้าเพราะเหตุใด” หานซานเฉียนถาม และหลังจากถามคำถามนี้ เขาก็เตือนอีกว่า “ข้าจำเป็นต้องรู้ หากเจ้าไม่เต็มใจที่จะตอบข้าอย่างตรงไปตรงมา ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ด้วย”“ข้าคิดว่าท่านมีพลังมาก เหตุผลนี้เพียงพอหรือไม่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวนี่...หานซานเฉียนพูดไม่ออก และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคำถามของเขาไม่จำเป็นเลย และเขาก็ไม่สามารถได้รับคำตอบที่ลึกกว่านี้ได้แต่สิ่งหนึ่งที่หานซานเฉียนแน่ใจก็คือ เฟยหลิงเอ๋อร์ต้องซ่อนความลับบางอย่างไว้ สำหรับสิ่งที่นางต้องการนั้น บางทีอาจต้องรู้จักกันสักพักถึงจะสามารถรู้ได้“ท่านคงไม่คิดที่จะเก็บนางไว้จริง ๆ หรอกใช่หรือไม่?” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์มองหานซานเฉียนด้วยท่าทางเป็นกังวล นาง
“เจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าไม่คิดว่าเจ้าเป็นขอทาน” หานซานเฉียนถามเฟยหลิงเอ๋อร์อย่างตรงไปตรงมาเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ถ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใคร ก็เก็บข้าไว้ แล้วท่านจะได้รู้ในภายหลัง"หานซานเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งที่เด็กหญิงตัวน้อยพูดมันชัดเจนมาก นางยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ขอทาน แต่ถ้าหานซานเฉียนอยากรู้ เขาก็ต้องเก็บนางไว้ข้างกาย“นี่เป็นข้อตกลงอย่างนั้นหรือ?” หานซานเฉียนถามพลางขมวดคิ้วเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มและพยักหน้า“หากข้าไม่สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเจ้า ข้าก็ไล่เจ้าไปได้ใช่หรือไม่?” หานซานเฉียนกล่าวต่อราวกับว่านางไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะพูดแบบนั้น เฟยหลิงเอ๋อร์ย่นจมูกและดูครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้หานซานเฉียน“เราไม่อยากรู้เกี่ยวกับเจ้า รีบออกไปซะ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น“ไม่ ท่านต้องสงสัยเกี่ยวกับตัวข้าแน่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวหานซานเฉียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าสาวน้อยคนนี้จะผยองเช่นนี้ แต่เขาได้รับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์เอาไว้แล้วหนึ่งคน และตัวตนของนางก็พิเศษมากด้วย เขาจะยอมให้เฟยหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วยได้อย่างไร?หานซานเฉีย
เมื่อหานซานเฉียนกลับมาที่ลานบ้าน ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่บนบันไดศาลาลานด้วยความงุนงงราวกับว่านางเสียสติไปแล้ว“เป็นอะไรไป?” หานซานเฉียนเดินเข้ามาก่อนจะถามขึ้นไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ชี้ไปข้างหน้าและไม่พูดอะไรเมื่อมองไปทางนิ้วของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็พบแผ่นหลังของหญิงสาวผมหางม้า นางดูตัวเล็กมาก แต่เมื่อมองจากด้านหลังก็เดาได้ว่านางเป็นคนที่สวยงาม“นางเป็นใคร?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัยไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ได้สติ นางเงยหน้าขึ้นมองหานซานเฉียนแล้วพูดว่า “นางคือขอทานตัวน้อยคนนั้นไงเจ้าคะ”ขอทานตัวน้อย!หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้าและตะโกนเรียกขอทานตัวน้อย “หันกลับมาให้ข้าดูหน่อยสิ”ขอทานตัวน้อยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับมาอย่างเขินอาย ใบหน้าของนางแดงราวกับแอปเปิลประณีต ไร้ที่ติ นี่เป็นคำจำกัดความที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่หานซานเฉียนนึกถึงได้เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับตุ๊กตา ไม่เพียงแต่ผิวพันของนางจะเนียนสวยไร้ที่ติเท่านั้น แต่หน้าตาของนางก็ปราณีตมาก ในชีวิตของหานซานเฉียน ไม่มีใครเทียบความงามของฉี๋อีหยุนได้ แต่ด้วยการปรากฏตัวของขอทานตัวน้อยคนนี้ ดูเห
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฮวงเซียวหย่งก็รู้สึกเป็นกังวล ท่านอาจารย์มาหาเขาที่จวนของเจ้าเมืองเป็นครั้งแรก แต่ถูกขัดขวางโดยคนโง่เหล่านี้!“เจ้าพวกโง่ กล้าดียังไงมาขวางอาจารย์ของข้า!” ฮวงเซียวหย่งตะโกนยามดูเสียใจและพูดว่า “คุณชายฮวง พวกเราแค่กลัวว่าเขาจะโกหกน่ะขอรับ”ฮวงเซียวหย่งตบหัวยามคนนั้นแล้วพูดว่า “เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริง ๆ ใครจะกล้ามาแสร้งทำเป็นอาจารย์ของข้าที่จวนเจ้าเมืองอีก เว้นเสียแต่ต้องการตาย”เมื่อยามได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันสมเหตุสมผลฮวงเซียวหย่งคือใคร เขาเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองเชียวนะ!จะมีใครกล้ามาแกล้งทำเป็นอาจารย์ของเขาได้อย่างไร?ซึ่งหมายความว่าชายหนุ่มที่อยู่นอกประตูนั้นเป็นปรมาจารย์สามอันดับหลังจริง ๆ ทันใดนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลลงมาที่หลังของยาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับหานซานเฉียนไปเมื่อครู่ เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ผ่านประตูนรกไปแล้ว!ถ้าหานซานเฉียนมีนิสัยดุร้าย เกรงว่าพวกเขาคงตายไปนานแล้วฮวงเซียวหย่งวิ่งไปจนสุดทางของจวนเจ้าเมือง ไม่กล้าแม้แต่จะพักหายใจ เมื่อเขาเห็นหานซานเฉียนถูกพวกโง่เขลาขวางไว้ เขาก็โกรธมาก“พวกเจ้ากำลังทำอะไร กล้าดียังไงมา
“เจ้ากำลังทำอะไร รู้หรือไม่ว่านี่คือที่ไหน นี่คือจวนของเจ้าเมือง เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้!”จวนของเจ้าเมืองหานซานเฉียนถูกยามขวางเอาไว้ยามในชุดเกราะหลายคนดูมีพลังราวกับสายรุ้ง โดยมีออร่าที่แม้แต่ราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้หานซานเฉียนรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้มาก และทันใดนั้นเขาก็อดหัวเราะไม่ได้นี่มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูของคลับระดับไฮเอนด์ หรือโรงแรมบนโลกปัจจุบันที่พยายามขวางเขาไม่ให้เข้าประตูเลยไม่ใช่เหรอเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าหานซานเฉียนเคยพบกับสิ่งต่าง ๆ มากมายบนโลกมาก่อนแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเขาในโลกเชวียนหยวนด้วย ดูเหมือนว่าธรรมชาติของมนุษย์จะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าโลกไหน ๆ ก็มักจะมีคนที่ดูถูกคนอื่นอยู่เสมอ“ข้ามาหาฮวงเซียวหย่ง ไปบอกเขา แล้วเขาจะมาพบข้าเอง” หานซานเฉียนกล่าวพวกยามดูไม่พอใจ ตอนนี้ฮวงเซียวหย่งคือความภาคภูมิใจของจวนเจ้าเมือง ฮวงเซียวหย่งมีความแข็งแกร่งระดับโคมห้า แม้แต่ยามเหล่านี้ก็ดูเหมือนด้พึ่งบารมีของเขาไปด้วยเมื่อเอ่ยถึงและผู้ชายที่อยู่ข้างหน้ากลับพูดอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการพบฮวงเซียวหย
ตระกูลเฉินเคยรุ่งโรจน์อย่างยิ่งในเมืองหลงหยุน และเฉินเถี่ยซินซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากจุดจบเช่นนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาเอง แต่ก็ยังทำให้หลายคนถอนหายใจด้วยความเสียดาย“แค่มีเงินก็เปล่าประโยชน์ โลกเชวียนหยวนความแข็งแกร่งคือการรับประกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”“เฉินเถี่ยซิน โอ้อวดมากเกินไป ถึงกับบอกว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ราชสำนักได้อย่างแน่นอน แต่กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดตั้งแต่ยังเยาว์วัย”“เขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อตามหาอาจารย์ แต่อาจารย์ที่แท้จริงก็อยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับทำลายโอกาสนี้เสียเอง ไม่มีที่สำหรับความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ”“ใครจะคิดว่าคนไร้ค่าที่ถูกตระกูลเฉินขับไล่ออกไปจะเป็นคนที่มีอำนาจได้ขนาดนี้ ฮวงเซียวหย่งเลื่อนขึ้นสู่ระดับโคมห้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องอยู่ในสามลำดับหลังอย่างแน่นอน”ประโยคนี้ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ คน ไม่มีใครคาดคิดถึงความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนจริง ๆ เพราะการแสดงของเขาในตระกูลเฉินนั้นดูไร้ค่าโดยไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ เลยแต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้
ในการรับรู้ของทุกคน หานซานเฉียนเป็นคนไร้ค่าที่ถูกไล่ออกจากตระกูลเฉิน ตอนนั้นเขาถูกคนนับไม่ถ้วนหัวเราะเยาะแต่ตอนนี้ จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนไป และกลายเป็นอาจารย์ของฮวงเซียวหย่ง!ความสามารถในการทำให้ฮวงเซียวหย่งเลื่อนจากระดับโคมสองทะลวงไปสู่ระดับโคมห้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ปรมาจารย์คนนี้จะต้องทรงพลังมากเพียงใดแล้วชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะกลายเป็นคนไร้ค่าในตระกูลเฉินได้อย่างไร?“คุณ...คุณชายฮวง ล้อเล่นหรือไม่?”“หานซานเฉียน คุณชายกำลังพูดถึงหานซานเฉียนที่เรารู้จักหรือเปล่าขอรับ”“ถ้าเขาเป็นคนที่ทรงพลัง เหตุใด...เขาถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่ออกไปล่ะขอรับ?”ทุกคนถามฮวงเซียวหย่งด้วยความไม่เชื่อ เพราะเรื่องนี้อยู่นอกเหนือขอบเขตที่คนธรรมดาจะเข้าใจได้โดยสิ้นเชิงเขาเป็นคนทรงพลัง แต่ถูกเฉินเถี่ยซินที่อยู่เพียงระดับโคมสองรังแก มันช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย“พวกเจ้าได้ยินไม่ผิด และข้าก็ไม่ได้ล้อเล่น อาจารย์ของข้าคือหานซานเฉียนจริง ๆ สำหรับสาเหตุที่เขาอยู่ในตระกูลเฉิน และเหตุใดถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่นั้น เป็นเพราะว่าอาจารย์ของข้าขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงด้วย” ฮวงเซียวหย่งกล่าวเมื่อเห็นว่าทุกคนยังค
หานซานเฉียนยิ้มและไม่พูดอะไร ทำไมเขาต้องจำเฉินเหยียนหรันด้วยล่ะ? ผู้หญิงคนนี้ไม่คู่ควรที่จะมาครอบครองพื้นที่ใดในใจของเขาเลย“ไม่กล้าตอบข้ามาตรง ๆ ท่านกลัวงั้นหรือ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ถามอย่างไม่เต็มใจ“อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่เจ้า ข้าก็จะลืมไปในไม่ช้า คำตอบนี้พอใจแล้วหรือไม่” หานซานเฉียนหัวเราะเบา ๆจู่ ๆ ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ก็โกรธ นางถามเกี่ยวกับความคิดของหานซานเฉียนที่มีต่อเฉินเหยียนหรัน แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับนาง แถมยังพูดจาทำร้ายจิตใจคนฟังเช่นนี้อีก“ข้าจะทำให้มันเป็นที่น่าจดจำสำหรับท่านอย่างแน่นอน และทำให้ท่านไม่มีวันลืมข้าไปตลอดชีวิต” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์พูดผ่านไรฟันหานซานเฉียนขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ จึงกลับไปที่ห้องของเขาตอนนี้ราชสำนักตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเขา และแม้แต่จักรพรรดิซุนก็ยังต้องการเอาใจเขา ในสายตาของคนอื่น ๆ นี่เป็นสิ่งที่ดี แต่หานซานเฉียนคิดว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังพัฒนาเร็วเกินไป และกำลังจะอยู่เหนือการควบคุมของเขา ราชสำนักเป็นหนึ่งในสามแกนหลักของโลกเชวียนหยวน หานซานเฉียนยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับ โลกเชวียนหยวนมากนัก การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระด
“ท่านเป็นอะไรไป?”"เกิดอะไรขึ้น!"การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของโหยวไห่ทำให้ปี่ยางและฝูซานสับสน เพราะพวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย“ข้า...ข้าไม่รู้” เหงื่อเย็นหยดลงมาราวกับหยดลงมาราวกับเม็ดฝนบนหน้าผากของโหยวไห่ แรงกดเมื่อครู่นี้แทบจะทำให้เขาระเบิดตาย“เมื่อครู่...เมื่อครู่ ข้ารู้สึกถึงแรงกดอย่างรุนแรงจนเกือบจะบดขยี้ข้าได้” โหยวไห่อธิบายให้ทั้งสองคนฟังหลังจากสูดลมหายใจเข้าแรงกด?ทันใดนั้นสีหน้างุนงงของปี่ยางก็แปลเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก ก่อนจะพูดกับทั้งสองคน “รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า”เมื่อเผชิญกับความตื่นตระหนกของปี่ยาง แม้ว่าฝูซานและโหยวไห่จะสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยู่ที่นี่นานลานบ้านของหานซานเฉียนเฉินเถี่ยซินยังคงตัวสั่นเทาคุกเข่าอยู่บนพื้นเขาไม่เคยคิดฝันว่าแผนการที่สมบูรณ์แบบของเขาจะจบลงเช่นนี้แม้ว่าศพจะถูกพบแล้ว แต่ปี่ยางก็ยังไม่ตัดสินโทษ แถมยังเป็นความเห็นชอบจากจักรพรรดิซุนอีกด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าหานซานเฉียนจะยังไม่ได้ไปที่ราชสำนัก แต่เขาก็ได้รับความสนใจจากจักรพรรดิซุนเป็นอย่างมากแล้วและเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปต่อกรกับบุคคลดังกล่าวตอนนี้เมื่อเขาทำให้หานซานเฉ