ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซูไห่เฉาติดต่อเธอ แถมยังแสดงท่าทางประจบประแจง และบอกว่าอยากร่วมมือกับเธอ นั่นทำให้ซูหยิงเซี่ยรู้สึกแปลกใจมากความบาดหมางระหว่างซูไห่เฉากับเธอมีมาตั้งแต่หลายปี จู่ ๆ ซูไห่เฉาจะแสดงความปรารถนาดีต่อเธอได้อย่างไร? ดังนั้นจากมุมมองของซูหยิงเซี่ย ที่ผู้ชายคนนี้เข้าหาเธอจะต้องมีจุดประสงค์บางอย่างแน่นอน"หยิงเซี่ย เธอพิจารณาดูหรือยัง หากบริษัทของเราร่วมมือกันจะต้องเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งแน่นอน และเรายังสามารถเปิดโลกใหม่ในหยุนเฉิงได้อีกด้วยนะ" ซูไห่เฉากล่าว“ซูไห่เฉานายต้องการอะไรกันแน่?” ซูหยิงเซี่ยถามอย่างช่วยไม่ได้ ในสิ่งที่ซูไห่เฉาพูดเธอไม่เชื่อแม้แต่คำเดียว"ฉันต้องการร่วมมือกับเธอจริง ๆ ฉันไม่ได้พยายามวางแผนต่อต้านเธอนะ ถ้าเธอไม่เชื่อ ฉันยินดีที่จะแสดงความจริงใจโดยการมอบหุ้นของบริษัทฉันให้เธอ 50% เลย” ซูไห่เฉากล่าว จะให้หุ้น 50% ฟรี ๆ อย่างนั้นเหรอ?สิ่งที่ได้มาโดยไม่ต้องออกแรงแบบนี้ ซูหยิงเซี่ยยิ่งไม่เชื่อเข้าไปใหญ่ “ฉันแค่ต้องการพัฒนาตระกูลซูให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อที่คุณย่าจะได้มีความสุขอยู่บนท้องฟ้า ไม่ได้มีความหมายอื่นแอบแฝงอย่างแน
ณ บ้านเช่าของหานซานเฉียนเมื่อฉี๋อีหยุนพบว่าหลังจากที่หานซานเฉียนวางสายโทรศัพท์ สีหน้าของเขาก็จริงจัง และมีแววตาที่โกรธจัด เธอก็รู้ได้ทันทีว่าฝั่งของหานเหยีนจะต้องเกิดเรื่องนอกเหนือความคาดหมายขึ้นอย่างแน่นอน เพราะตอนนี้มีเพียงเรื่องนี้เท่านั้นที่ทำให้หานซานเฉียนเคร่งเครียด “หานเหยียนทำไม่สำเร็จเหรอ?” ฉี๋อีหยุนถามหานซานเฉียนยืนขึ้น หายใจเข้าลึกและพูดว่า "หานลี่อยู่ที่คฤหาสน์ใจกลางภูเขา"เมื่อได้ยินแบบนั้น ฉี๋อีหยุนก็ลุกขึ้นด้วยความตื่นตระหนกและพูดว่า "เขาทำอะไรหยิงเซี่ย!"แม้ว่าฉี๋อีหยุนจะชอบหานซานเฉียน แต่สิ่งนี้ไม่ได้ขัดขวางความสัมพันธ์เพื่อนรักระหว่างเธอกับซูหยิงเซี่ย แม้ว่าเธอเคยคิดที่จะยอมเสียความสัมพันธ์นี้เพื่อหานซานเฉียน แต่เมื่อซูหยิงเซี่ยตกอยู่ในอันตราย เธอก็ไม่เคยมีความคิดที่จะฉวยโอกาสเอาเปรียบเลยหานซานเฉียนส่ายหัวและพูดว่า "ผมก็ไม่รู้ แต่เขาบอกให้ผมไปที่นั่นเดี๋ยวนี้""ฉันจะไปกับคุณ" หลังจากที่ฉี๋อีหยุนพูดจบ เธอก็กลับไปที่ห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า"ไม่ต้อง คุณอยู่ที่บ้านนี่แหละ" หานซานเฉียนพูดเสียงทุ้ม เขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างหากไปที่นั่น ถ้าเขาไม่สามารถมีลมห
ปาฏิหาริย์อย่างนั้นเหรอ?เทียนหงฮุยยิ้มอย่างขมขื่น โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นมันริบหรี่มาก"ในหยุนเฉิงไม่มีพื้นที่สำหรับตระกูลเทียนอีกต่อไปแล้ว ดูเหมือนว่าจะถึงเวลาที่ต้องออกไปจากที่นี่จริง ๆ ซะแล้ว" พลังของเทียนหงฮุยส่วนใหญ่นั้นน้อยลงไปมาก แม้ว่าตระกูลเทียนจะยังมีโอกาสพัฒนาหลังจากออกไปจากหยุนเฉิงก็จริง แต่ที่นี่เป็นบ้านเกิดของเขา เทียนหงฮุยยังคงรับไม่ได้กับการที่ต้องจากไปอย่างกะทันหันแบบนี้“รออีกหน่อย” เทียนฉางเฉิงกล่าวเทียนหงฮุยมองเทียนฉางเฉิงด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจและถามว่า "คุณพ่อยังเชื่อในตัวหานซานเฉียนอยู่อีกเหรอครับ? มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีปาฏิหาริย์"“หนูเชื่อเขาค่ะ” ตอนนั้นเองเสียงของเทียนหลิงเอ๋อร์ดังมาจากบันไดเมื่อเทียนหลิงเอ๋อร์เดินไปข้างหน้าทั้งสองคนด้วยสีหน้าแน่วแน่ เทียนหงฮุยก็พูดว่า "ทำไมลูกยังไม่ไปนอนอีก"เทียนหลิงเอ๋อร์เพิกเฉยต่อคำถามของเทียนหงฮุยและพูดว่า "หนูเชื่อในตัวพี่ชายของหนู เขาจะต้องอาชนะหานลี่ได้อย่างแน่นอนค่ะ"เทียนหงฮุยยิ้มเบา ๆ เมื่อก่อนเขาคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่เทียนหลิงเอ๋อร์เรียกหานซานเฉียนว่าพี่ชาย เพราะหานซานเฉียนสามารถนำผลประโย
ณ คฤหาสใจกลางภูเขาเมื่อหานซานเฉียนปรากฏตัว สิ่งแรกที่หานลี่สั่งให้เขาทำคือคุกเข่าลง"ในโลกนี้ นอกจากคุณปู่และอาจารย์ของผมแล้ว ไม่มีใครมีคุณสมบัติพอที่จะทำให้ผมคุกเข่าลงได้" หานซานเฉียนมองหานลี่อย่างไม่ถ่อมตัวและไม่แข็งกร้าว เขารู้ว่าหานลี่จงใจเหยียดหยามเขา แต่การเหยียดหยามเช่นนี้ หานซานเฉียนไม่ยอมรับหานลี่ยิ้มเบา ๆ และพูดว่า "ทำไมต้องทำเป็นแข็งแกร่งขนาดนั้น? นี่ไม่ใช่ข้อสอบที่มีตัวเลือก ในเมื่อฉันสั่งให้ทำ ก็ต้องทำเขา"พอหานลี่พูดจบ หานหลงก็เดินไปหาซูหยิงเซี่ยทันที เขาบีบคอซูหยิงเซี่ยด้วยมือข้างเดียว ก่อนจะยกเธอขึ้นไปในอากาศเมื่อเห็นฉากนี้ หานซานเฉียนก็กำหมัดแน่นทันที“นายมีเวลาคิดสามสิบวินาที และนี่จะเป็นสามสิบวินาทีที่ยาวนานที่สุดในชีวิตของนาย” หานลี่กล่าวซูหยิงเซี่ยจับมือหานหลงด้วยมือทั้งสองข้าง และพยายามดิ้นรน แต่เธอไม่มองไปที่หานซานเฉียนเพื่อขอความช่วยเหลือ แววตาที่ไม่กลัวตายของเธอแสดงให้เห็นว่าเธอไม่ต้องการให้หานซานเฉียนคุกเข่าลงเพื่อเธอ"ปล่อยเธอ" หานซานเชียนกัดฟันและพูดว่า "คุณยังเป็นผู้ชายอยู่ไหม ทำไมถึงกล้าทำร้ายผู้หญิง"“เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ทำไมต้องสนใจวิธีการ
"แกรู้ไหมว่าไอ้พวกขยะอย่างพวกแก การมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าการทำให้คำว่าหานเสื่อมเสีย แกควรจะตายไปคนเดียว ไม่ใช่มาเอาชีวิตลูกชายของฉันแบบนี้" หานลี่ยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห เขาเดินไปข้างหน้าหานซานเฉียนและคว้าคอเสื้อเขาขึ้นมา พลางก้มลงพูดว่า "ทำไมแกถึงไม่รู้จักยอมรับความห่วยของตัวเอง ทำไมต้องทำให้ลูกชายของฉันซวยไปด้วย"หานซานเฉียนยิ้มอย่างดูถูกกับการกล่าวหานี้ และพูดว่า "หานลี่ คนที่ฆ่าหานเฟิงคือคุณ และผมก็ไม่ได้ห่วย"“คนใกล้ชิดฉันที่สุดตายไปแล้ว แกรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันต้องเจ็บปวดแค่ไหน!” หานลี่คำรามหานซานเฉียนมองตรงไปที่หานลี่และพูดว่า "เมื่อคิดว่าลูกชายต้องมาตายเพราะตัวเอง คุณคงจะเจ็บปวดไม่น้อยเลยสินะ"ทันใดนั้น หานลี่ก็เงยหน้าขึ้นหัวเราะและพูดว่า "อีกเดี๋ยวแกก็จะเข้าใจความเจ็บปวดของฉันเอง ฉันจะทำให้ซูหยิงเซี่ยตายต่อหน้าต่อตาแก ฉันจะค่อย ๆ ทรมานเธอจนตาย แกจะได้เห็นฉากทั้งหมดนี้แต่ไม่สามารถทำอะไรได้”"หานหลง ฉันไม่เห็นวิธีการฆ่าของนายมานานแล้ว ฉันอยากจะดูว่าคน ๆ หนึ่งจะมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหนถ้ากระดูกหัก" หานลี่พูดกับหานหลง"ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าเสียงกระดูกหักของผู้หญิงมันจ
ไพ่ตายและความหวังของหานซานเฉียนคือพลังที่อยู่ในร่างกายของเขา เขาเชื่อว่าขอแค่เขาได้รับโอกาส แม้แต่หานหลงก็ไม่สามารถต้านทานได้แต่มันยากที่จะหาโอกาสนั้นกับคนอย่างหานหลงหลังจากการโจมตี หานซานเฉียนก็ล้มลงกระแทกกับพื้นไม่ขยับเขยื้อน เขาไม่ต้องการเสียแรงใด ๆ เนื่องจากนี่เป็นโอกาสเดียว เขาต้องการโจมตีหานหลงให้ถึงตาย“แค่หมัดเดียว แกก็ล้มลงกับพื้นลุกไม่ขึ้นซะแล้วเหรอ?” หานหลงเดินไปข้างหน้าหานซานเฉียนด้วยสีหน้าเหยียดหยาม“แกกำลังจั๊กจี้ฉันรึไง” หานซานเฉียนกัดฟันและยืนขึ้นอย่างไม่มั่นคงทันทีที่เขายืนอย่างมั่นคง หานหลงก็เตะออกไปอีกครั้งตำแหน่งเดิม แรงเท่าเดิม และตอนจบก็เหมือนเดิม หานซานเฉียนบินออกไปอีกครั้ง คราวนี้กระแทกกำแพงอย่างแรง ทำให้เกิดภาพลวงตาว่าทั้งคฤหาสน์กำลังสั่นเมื่อเห็นฉากนี้ ซูหยิงเซี่ยที่กำลังร้องไห้ก็เดินเข้าไปหาหานลี่และคุกเข่าลงบนพื้น "ได้โปรดปล่อยเราไปเถอะ อย่าทำร้ายเขาอีกเลยนะคะ"หานลี่ยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า "ขยะแบบนี้มีค่าให้เธอสงสารหรือไง?"ซูหยิงเซี่ยส่ายหัวน้ำตาไหลพรากและพูดว่า "เขาไม่ใช่ขยะ เขาเป็นสามีของฉัน ได้โปรด ถ้าคุณต้องการฆ่าฉัน ก็ฆ่าฉันเลยตอนนี้ ขอแค่
ครั้งหนึ่งเขาเคยกล่าวไว้ว่าเขาจะปกป้องซูหยิงเซี่ยอย่างดี และไม่ปล่อยให้เธอได้รับอันตรายใด ๆ หากเขาไม่สามารถแม้แต่จะรักษาสัญญานี้ได้ เขาจะมีคุณสมบัติเรียกตัวเองว่าผู้ชายได้อย่างไร!“ฉันยังแสดงพลังได้ไม่ถึงครึ่ง แกยังคิดว่าตัวเองยังจะมีโอกาสชนะอยู่ไหม?” หานหลงกล่าวกับหานซานเฉียน“แกยังไม่เห็นเหรอว่าฉันยังไม่ได้ออกแรง?” หานซานเฉียนยิ้มและพูด ความเจ็บปวดในร่างกายของเขาดูเหมือนจะถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ แต่เขารู้ว่าเขาไม่สามารถล้มลงได้ ไม่อย่างนั้นไม่ใช่แค่เขาที่จะต้องตาย แต่ซูหยิงเซี่ยก็จะตายด้วยเช่นกัน“แกไม่มีโอกาสแม้แต่จะเคลื่อนไหว หรือว่าฉันจะให้โอกาสแกได้ลองใช้ความสามารถของตัวเองดู?” หานหลงหัวเราะ ความแตกต่างของความแข็งแกร่งระหว่างทั้งสองนั้นห่างไกลกันมาก หานซานเฉียนอย่าได้คิดว่าจะได้สัมผัสแม้แต่เส้นผมของเขา"ฉันกลัวว่าแกจะถูกฉันต่อยจนตายน่ะสิ แกกล้าไหมล่ะ?" หานซานเฉียนจงใจยั่วยุเขา หากอาศัยความสามารถของเขาก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเข้าใกล้หานหลง และโจมตีอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นเขาจึงต้องการให้หานหลงยืนขึ้นและถูกทุบตี ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่เขาจะสามารถแสดงความแข็งแกร่งของตัวเองได้อย่
ความกังวลใจของฉีฮู่และซูหยิงเซี่ยตรงกันข้ามกับหานลี่อย่างสิ้นเชิงหานหลงยังคงเอามือไพล่หลัง เขาไม่ได้ใส่ใจหานซานเฉียนเลยสักนิด และเขาก็ไม่ต้องการแม้แต่จะยกเปลือกตาขึ้นเพื่อมองคนอ่อนแอเช่นนี้หานลี่นั่งอยู่บนโซฟาราวกับเป็นเทพเจ้า พร้อมกับรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า ในไม่ช้าซูหยิงเซี่ยก็จะหมดหวังและหานซานเฉียนก็จะได้รู้ว่าความแตกต่างระหว่างเขากับหานหลง อย่างไรก็ตาม ความดื้อรั้นของหานซานเฉียนยังคงทำให้หานลี่รู้สึกประหลาดใจเมื่อเขาอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบหานเฟิงกับหานซานเฉียน เขาต้องยอมรับว่าหานซานเฉียนดีกว่าหานเฟิงมาก ถ้าหานเฟิงมีความสามารถครึ่งหนึ่งของหานซานเฉียน และเมื่อให้เขาสืบทอดตำแหน่งผู้นำ เขาจะต้องทำให้ตระกูลหานพัฒนาขึ้นอย่างแข็งแกร่งแน่ “น่าเสียดายที่แกเป็นเพียงคนที่ถูกขับไล่เท่านั้น ถึงจะมีความสามารถ แต่ก็เกิดมาต้อยต่ำ และต้องเป็นข้ารับใช้ไปตลอดชีวิต นี่คือชะตากรรมของแกอย่างไม่มีทางเลือก” "หานลี่พูดเสียงเรียบ หัวใจของซูหยิงเซี่ยพองขึ้นจนจุกลำคอ เธอกำหมัดอย่างไม่รู้ตัว และให้กำลังใจหานซานเฉียนอยู่ในใจ“ไอ้หนู แกมีพลังแค่นี้เองเหรอ?” ก่อนที่กำปั้นจะมาถึงหานหลง เขาก็ถากถางหานซาน